ที่ผ่านมาคุณทำงานด้านการตลาดและผลิตภัณฑ์ที่บริษัทอย่าง Microsoft, Facebook และ Porch มาเป็นเวลานาน คุณช่วยอธิบายการเปลี่ยนเส้นทางการทำงานจากสายงานนั้นมาเป็น COO ของ Instacart ได้ไหม

ที่ Microsoft งานของฉันเน้นหนักไปที่การทำการตลาดผลิตภัณฑ์ ซึ่งช่วยให้ฉันค้นพบพลังของการแก้ไขปัญหาให้ผู้ใช้ด้วยเทคโนโลยีซึ่งช่วยขับเคลื่อนการเติบโตได้ด้วย งานนี้คล้ายกับบทบาทของฉันในฐานะประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดและตามด้วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการที่ Porch เป็นอย่างมาก ที่นี่ฉันเน้นการใช้เทคโนโลยีเพื่อนำตลาดสินค้าปรับปรุงบ้านมาสู่โลกออนไลน์และช่วยให้การดูแลบ้านเป็นเรื่องง่ายขึ้น จากนั้นฉันก็ย้ายมาทำงานที่ Facebook แม้ว่าความสัมพันธ์และพาร์ทเนอร์ที่ร่วมงานด้วยในด้านผลิตภัณฑ์จะแตกต่างจากด้านการตลาดเป็นอย่างมาก แต่สุดท้ายฉันก็ได้เรียนรู้ว่า ไม่ว่าจะในสายงานใดๆ การเติบโตและความสำเร็จเริ่มจากลูกค้าและภารกิจของคุณเสมอ

ตอนนี้ที่ Instacart ฉันมีโอกาสได้มุ่งเน้นไปที่การใช้เทคโนโลยีเพื่อดำเนินการให้มั่นใจว่าอนาคตของการจับจ่ายของกินของใช้ในบ้านจะอยู่ในมือของร้านค้าปลีกที่เป็นผู้สร้างขึ้นมา และจากการทำเช่นนี้ เราก็ได้รับผลลัพธ์ทางธุรกิจที่น่าประทับใจและยังคงสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อบรรลุภารกิจของเราอย่างต่อเนื่อง

Instacart มีการเติบโตด้วยความเร็วเป็นประวัติการณ์ในช่วงการแพร่ระบาดทั่วโลก ประสบการณ์นี้ส่งผลต่อวิธีที่คุณตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างไร

การแพร่ระบาดทั่วโลกก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงในการซื้อของกินของใช้ในบ้านทางออนไลน์ มีคนจำนวนมากเริ่มใช้เป็นครั้งแรกเนื่องจากความจำเป็น จากนั้นก็เลือกที่จะใช้ต่อไปเพราะเป็นวิธีการซื้อของที่เหมาะกับตนมากกว่า เหตุการณ์นี้เกิดเป็นมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรม โดยการหันมาจับจ่ายของกินของใช้ทางออนไลน์ก้าวกระโดดจาก 3% ก่อนโควิด-19 เป็น 10% ในปี 2021 แนวโน้มระยะยาวของการเปลี่ยนมาใช้วิธีนี้ยังคงเดินหน้าต่อไป และเราคาดว่าภายในปี 2026 อาจมีธุรกรรมการจับจ่ายของกินของใช้ทางออนไลน์มากถึง 35%

แต่เดิมนั้น Instacart มีแผนจะเป็นบริการจัดส่งคำสั่งซื้อสินค้าประเภทของกินของใช้ภายในวันเดียวกันจากผู้ค้าปลีกรายเดียว แต่เมื่อมีการจับจ่ายออนไลน์เพิ่มมากขึ้น เราก็เห็นว่าผู้คนหันมาใช้ Instacart เพื่อตอบสนองความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคในทุกด้าน เราจึงเปลี่ยนโครงสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่หมดเพื่อให้บริการกรณีการใช้งานที่หลากหลาย เช่น การจัดส่งภายในไม่กี่นาที ในช่วงกลางดึก ในวันถัดไป และยังเพิ่มบริการอื่นๆ เช่น การไปรับของ แอลกอฮอล์ ข้อเสนอ อาหาร และร้านค้าปลีกอื่นๆ นอกเหนือจากของกินของใช้ เช่น สินค้าปรับปรุงบ้าน ของใช้สัตว์เลี้ยง ผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม และเครื่องใช้สำนักงาน

แม้การซื้อของกินของใช้ทางออนไลน์จะเติบโตไปเรื่อยๆ แต่ผู้คนยังคงต้องการไปซื้อของที่ร้านค้าด้วยตัวเอง พวกเขาต้องการความสะดวกสบายและการปรับให้เฉพาะตัวแบบเดียวกันไม่ว่าจะเลือกที่จะจับจ่ายที่ไหนและด้วยวิธีใดก็ตาม นี่เป็นเหตุผลที่เราร่วมมือกับร้านค้าปลีกเพื่อสร้างเทคโนโลยีที่เชื่อมต่อโลกออนไลน์กับในร้านค้า และช่วยให้ครัวเรือนทั่วทั้งสหรัฐอเมริกาและแคนาดาประหยัดและเข้าถึงได้มากขึ้น

คุณช่วยบอกเราคร่าวๆ เกี่ยวกับสิ่งสำคัญที่ทีมของคุณกำลังพัฒนาอยู่ในปัจจุบันได้ไหม

เกือบทุกคนต้องซื้อของกินของใช้ในบ้าน ซึ่งหมายความว่าเรามีโอกาสและความรับผิดชอบในการให้บริการลูกค้าที่หลากหลาย ซึ่งประกอบด้วยคนจากทุกระดับรายได้ เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับเราที่จะไม่เพียงให้บริการแก่คนร่ำรวยเท่านั้น และเราก็ภาคภูมิใจที่ลูกค้าของเราสะท้อนถึงประชากรสหรัฐฯ โดยรวมได้อย่างใกล้เคียงมาก

เราให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการหาวิธีที่จะช่วยให้ผู้คนประหยัดเงินและเวลามากขึ้นไปอีก เมื่อใช้ Instacart ลูกค้าก็สามารถจับจ่ายจากร้านค้าปลีกได้หลากหลายมากมาย รวมถึงร้านค้าราคาประหยัดกว่า 4,500 สาขาและร้านค้าปลีกกว่า 325 รายการที่มีราคาเท่ากับที่ซื้อในร้านค้า เราช่วยให้ลูกค้าหาข้อเสนอและดีลจากร้านค้าปลีกและแบรนด์ได้ง่ายๆ นำเสนอตัวเลือกการชำระเงินที่ยืดหยุ่น และลูกค้าสามารถประหยัดด้วยการเลือกตัวเลือกการจัดการคำสั่งซื้ออย่างการจัดส่งแบบ “ไม่รีบ” หรือการมารับของเองที่จุดรับ นอกจากนี้ สมาชิก Instacart+ ยังจะได้รับสิทธิประโยชน์อย่างการจัดส่งฟรีไม่จำกัด ส่วนลดค่าธรรมเนียมบริการ และสิทธิประโยชน์สุดพิเศษอื่นๆ และเราเป็นผู้บุกเบิกกระบวนการเริ่มต้นใช้งาน EBT SNAP สำหรับร้านค้าปลีกเพื่อขยายโอกาสการเข้าถึงสินค้าของกินของใช้ในบ้านด้วยการให้ผู้คนนำสวัสดิการช่วยเหลือมาใช้ทางออนไลน์ได้

ในส่วนเบื้องหลังนั้น เราทำงานกับร้านค้าปลีกและแบรนด์เพื่อหาวิธีการปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิผลโดยใช้เทคโนโลยีอย่างปัญญาประดิษฐ์ เราซื้อ Eversight เมื่อไม่กี่เดือนก่อนเพื่อจุดประสงค์นี้ แพลตฟอร์มโปรโมชันและการกำหนดราคาด้วย AI ของ Eversight ช่วยให้ลูกค้าได้ประหยัดเงินและสร้างการเติบโตด้านรายได้ให้กับร้านค้าปลีกและแบรนด์ผ่านการทดสอบราคาและข้อเสนอใหม่อย่างต่อเนื่องในวงกว้างที่ทำงานโดยอัตโนมัติทั้งแบบออนไลน์และในร้านค้า ซึ่งส่งผลดีต่อทั้งร้านค้าปลีกและลูกค้า

คุณคาดหวังว่า Instacart จะบรรลุเป้าหมายอะไรบ้างในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า

ฉันได้พูดถึงวิธีที่เราช่วยให้การจับจ่ายซื้อของใช้ในบ้านเป็นเรื่องง่ายและประหยัดมากขึ้นไปแล้ว รวมถึงการที่เราทำงานร่วมกับผู้ค้าปลีกเพื่อให้บริการลูกค้าให้ดีที่สุด ซึ่งงานนั้นเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจที่ใหญ่กว่าที่เป็นแรงกระตุ้นให้กับเราและมีผลกับทุกสิ่งที่เราทำ

อาหารเป็นศูนย์กลางของชีวิตในหลากหลายแง่มุม เรามอบสารอาหารให้กับร่างกายผ่านอาหารและแสดงความรักด้วยอาหาร ความทรงจำที่มีคุณค่าที่สุดบางส่วนของฉันเกิดขึ้นในระหว่างที่ฉันร่วมรับประทานอาหารกับคนอื่นๆ อาหารเป็นสิ่งสำคัญต่อชุมชนและสุขภาพของเรา ดังนั้นในฐานะบริษัทซึ่งเป็นตัวกลางความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนกับสิ่งที่พวกเขารับประทาน เราจึงมีความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะสร้างผลลัพธ์ในเชิงบวก

เราได้ทำงานเพื่อขยายโอกาสในการเข้าถึงอาหารสุขภาพมาอย่างยาวนาน และกำลังต่อเติมรากฐานนั้นผ่าน Instacart Health ซึ่งเป็นความคิดริเริ่มซึ่งประกอบด้วยนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ การร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ๆ งานวิจัยที่ล้ำหน้า และการสนับสนุนนโยบาย Instacart Health มุ่งเน้น 3 ธีมหลักที่เราเชื่อว่าจะสร้างความแตกต่างได้มากที่สุด ได้แก่ ความมั่นคงด้านสารอาหาร การทำให้ทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพเป็นสิ่งที่ง่ายขึ้น และอาหารเป็นยา

ตัวอย่างเช่น Fresh Funds ช่วยให้องค์กรต่างๆ เช่น องค์กรไม่แสวงผลกำไร นายจ้าง บริษัทประกันภัย หรือระบบสุขภาพ มอบเงินทุนให้แก่ผู้คนเพื่อซื้ออาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายจากร้านค้าปลีกอาหารสดบนแพลตฟอร์มของเราเพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงสารอาหารและสร้างแรงจูงใจให้ผู้คนมีนิสัยที่ดีต่อสุขภาพ มีองค์กรมากมายทั้งในภาครัฐและเอกชนกำลังทดลองใช้ Fresh Funds รวมถึงองค์กรที่ให้ผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพเขียนคำแนะนำด้านอาหารสำหรับผู้ป่วยแต่ละคนโดยเฉพาะ และ Partnership for a Healthier America ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรชั้นนำที่พยายามปรับเปลี่ยนวงการอาหารเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมด้านสุขภาพ

อีกตัวอย่างหนึ่งคือ Care Carts ซึ่งช่วยให้คุณสั่งซื้ออาหารสดแทนผู้อื่นได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ทำงานในคลินิกดูแลสุขภาพที่ต้องจัดส่งอาหารให้กับผู้ป่วยที่ใช้แผนอาหารตามคำสั่งแพทย์ หรือผู้ดูแลที่ต้องการส่งอาหารสดให้เพื่อนหรือสมาชิกครอบครัวที่อยู่ไกลกัน

นอกจากนี้เรายังนำหลายๆ วิธีมาใช้เพื่อให้ข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้องซึ่งได้รับการรองรับโดยผู้เชี่ยวชาญและแรงบันดาลใจในแอป Instacart หรือแอปหรือเว็บไซต์ของผู้ค้าปลีก หรือแม้กระทั่งในร้านค้า เพื่อช่วยให้ผู้คนสามารถเลือกซื้อของที่เหมาะกับความต้องการด้านสุขภาพส่วนบุคคลของตัวเอง

นี่เป็นสิ่งที่เรามุ่งเน้นในระยะยาว และฉันหวังว่า Instacart จะมีส่วนผลักดันให้อุตสาหกรรมทำให้ผู้คนมีสุขภาพที่ดีขึ้น

ผู้จับจ่ายใน Instacart มีความสำคัญอย่างไร และคุณคิดว่าจะสนับสนุนพวกเขาอย่างไร

ชุมชนผู้จับจ่ายมีความสำคัญกับเราเป็นอย่างมาก ผู้จับจ่ายใน Instacart ช่วยเชื่อมโยงครอบครัวต่างๆ กับสิ่งที่จำเป็นต่อการมีชีวิตที่ดีของพวกเขา

การเลือกซื้อของสำหรับ Instacart ค่อนข้างต่างจากการส่งอาหารจากร้านหรือการขับรถไปส่งที่สนามบิน เวลาทำงานให้ Instacart เกือบครึ่งหนึ่งหมดไปกับการเลือกซื้อสินค้าจากร้านค้าอย่างรอบคอบให้แก่ลูกค้า และเราก็พยายามหาทางที่จะปรับปรุงประสบการณ์ของนักช้อปหลายแสนคนของเราอยู่เสมอ

เมื่อช่วงต้นปี เราได้ให้คำมั่นสัญญาแก่ผู้จับจ่ายของเรา ได้แก่ การสนับสนุนทั้งขณะเลือกซื้อของและหลังจากนั้น องค์ประกอบที่ช่วยให้พวกเขาสร้างรายได้ในแบบของตัวเอง ชุมชนที่ก่อตั้งขึ้นด้วยเจตนาที่ดี รวมถึงการชมเชยและมอบรางวัลให้ผู้จับจ่ายที่ดีที่สุด

เราได้เปิดตัวการสนับสนุนทางโทรศัพท์และการบอกเส้นทางในร้านค้าเพื่อช่วยให้เลือกหาสินค้าได้ง่ายขึ้น วันที่มีโอกาสสร้างรายได้สูงสุด การปกป้องทิป และการเข้าถึงรายได้ที่รวดเร็วขึ้นเพื่อเพิ่มโอกาสสร้างรายได้ที่ยืดหยุ่น ระบบให้คะแนนที่ออกแบบใหม่ วิธีการสำหรับให้นักช้อปส่งความคิดเห็นเกี่ยวกับประสบการณ์การเลือกซื้อสินค้าของตน และเปิดให้เข้าถึงข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้องได้มากขึ้นเพื่อสร้างชุมชนที่แข็งแกร่งระหว่างนักช้อปกับลูกค้า นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมให้รางวัล Cart Star ที่มอบรางวัลแก่ผู้จับจ่ายที่ให้บริการอันยอดเยี่ยมอย่างสม่ำเสมอ

การสนับสนุนผู้จับจ่ายเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเราจะเปิดตัวการอัปเดตและการปรับปรุงต่อไปเรื่อยๆ ที่ Instacart เรามีทีมเฉพาะเพื่อสร้างเครื่องมือและโปรแกรมที่เป็นประโยชน์กับผู้จับจ่ายของเรา

Instacart มีวิธีอื่นๆ ในการปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าอย่างไรบ้าง

Instacart ช่วยผู้คนทั่วทั้งสหรัฐอเมริกาและแคนาดาหาสินค้าจากร้านค้าปลีกหลายพันรายการในร้านค้าหลายหมื่นแห่ง และเชื่อมต่อผู้บริโภคเหล่านี้กับผู้จับจ่ายหลายแสนคนที่จะช่วยเลือกซื้อสินค้าแทนให้ได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยประสบการณ์ในการให้บริการลูกค้าจำนวนมากเป็นเวลากว่าสิบปี เราจึงมีมุมมองที่ไม่เหมือนใครเกี่ยวกับวิธีการเลือกซื้อของผู้คนและโอกาสที่จะสร้างประสบการณ์การเลือกซื้อสินค้าที่มอบแรงบันดาลใจและเป็นส่วนตัวโดยร่วมมือกับร้านค้าปลีกและแบรนด์ต่างๆ

การปรับให้เป็นส่วนตัวครอบคลุมทุกอย่างตั้งแต่การจดจำร้านค้าและสินค้าโปรดของคุณ การช่วยให้คุณและสมาชิกครอบครัวได้ร่วมกันหยิบของเข้าตะกร้าสินค้าตลอดสัปดาห์ การให้คำแนะนำ ชั้นวางของ และตัวเลือกที่ดีต่อสุขภาพที่ปรับให้เหมาะกับบุคคลโดยอิงจากการซื้อที่ผ่านมา หรือการให้ข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้องมากที่สุดตามความชอบของคุณ

เรากำลังพยายามสร้างประสบการณ์ที่เป็นแรงบันดาลใจได้มากขึ้นด้วยการเชื่อมต่อระบบที่ให้คุณได้ซื้อส่วนผสมสำหรับสูตรอาหารที่พบบนเว็บหรือโซเชียล (เช่น เทรนด์ล่าสุดใน TikTok) ได้ง่ายๆ แค่ใช้นิ้วแตะ นำเสนอชุดสินค้าที่เป็นประโยชน์ เช่น สิ่งจำเป็นสำหรับกล่องอาหารกลางวันหรือของกินเล่นในวันเชียร์กีฬา รวมถึงการแสดงข้อเสนอพิเศษสำหรับสินค้าโปรดของคุณ

เราทำสิ่งเหล่านี้ในแอป Instacart และช่วยให้ผู้ค้าปลีกสามารถมอบประสบการณ์ที่สร้างแรงบันดาลใจและเป็นส่วนตัวมากขึ้นผ่านเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซหรือแอปของตนด้วยแพลตฟอร์ม Instacartนอกจากนี้เราเชื่อว่าแรงบันดาลใจและการปรับให้เหมาะกับบุคคลไม่ควรจำกัดอยู่แค่ในการซื้อของออนไลน์ โดยเราจะนำสิ่งเหล่านี้มาสู่ร้านค้าที่มีหน้าร้านจริงผ่านบริการ Connected Stores

Instacart ใช้วิธีใดในการช่วยให้ทุกคนเข้าถึงบริการได้อย่างทั่วถึง แม้แต่คนที่ไม่เข้าใจเทคโนโลยีมากนัก

วิธีการของเราแตกต่างกันไปตามกลุ่มลูกค้า ตัวอย่างเช่น ในช่วงการระบาดทั่วโลก มีผู้สูงอายุจำนวนมากที่ต้องการใช้ Instacart แต่ไม่คุ้นเคยกับการใช้คอมพิวเตอร์ เราจึงเปิดตัวสายให้บริการสนับสนุนผู้สูงอายุในการสร้างบัญชี สร้างคำสั่งซื้อแรก และอื่นๆ

ฉันได้พูดถึงงานของเราที่ช่วยให้ใช้ EBT SNAP ทั้งทางออนไลน์และในร้านค้าได้ง่ายขึ้นไปบ้างเล็กน้อย เราช่วยให้ร้านค้าปลีกกว่า 70 แห่งจากกว่า 8,000 แห่งสามารถรับการชำระเงินด้วย EBT SNAP ออนไลน์ได้ โดยเข้าถึงคนส่วนใหญ่กว่า 30 ล้านคนที่ประสบปัญหาความไม่มั่นคงทางโภชนาการในสหรัฐอเมริกา เรายินดีที่จะประกาศคำมั่นสัญญาของเราที่จะทำงานกับ USDA เพื่อเพิ่มการเข้าถึง EBT SNAP ให้มากขึ้นไปอีก โดยมีเป้าหมายที่จะขยายการเข้าถึงการชำระเงินแบบ EBT SNAP ไปสู่พาร์ทเนอร์ร้านค้าปลีกของ Instacart ทุกแห่งภายในปี 2030

การเติบโตและการเพิ่มความหลากหลายในฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ หมายความว่าเรากำลังสร้างบริการที่ตอบสนองต่อผู้คนจากภูมิหลังที่แตกต่างกันทั่วประเทศ แต่งานในการขยายการเข้าถึงแพลตฟอร์มของเราจะไม่มีวันสิ้นสุด เพราะนี่เป็นภารกิจหลักของเรา

คุณคิดว่า Stripe และ Instacart มีความสอดคล้องกันเป็นพิเศษอย่างไรในแง่ของคุณค่าและจุดมุ่งเน้นในตลาด

Stripe กำลังสร้างโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินให้กับอินเทอร์เน็ต และ Instacart ก็กำลังสร้างโครงสร้างพื้นฐานการจับจ่ายของกินของใช้ให้กับโลก เป้าหมายของเรามีความทับซ้อนกันในหลายจุด ท้ายที่สุดแล้ว ทั้งสองบริษัทต่างก็ต้องการมอบบริการและประสบการณ์ที่จำเป็นในโลกที่เชื่อมต่อกัน สำหรับเรานั่นหมายถึงการสนับสนุนร้านค้าปลีกและแบรนด์ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ Stripe ช่วยให้เราสามารถให้บริการแก่พาร์ทเนอร์ที่เป็นร้านค้าปลีกและแบรนด์ซึ่งมีความต้องการที่แตกต่างกันไป โดยมีเป้าหมายสูงสุดเพื่อมอบประสบการณ์ที่ราบรื่นให้แก่ลูกค้าปลายทาง

Stripe ช่วย Instacart ในการสนับสนุนเป้าหมายโดยรวมอย่างไร

มีเหตุผลหลักๆ 2-3 ข้อที่ทำให้ฉันคิดว่าความร่วมมือของเราไปได้ดี อย่างแรกก็คือความเชื่อถือได้ของ Stripe ในหลายๆ กรณี ลูกค้าพึ่งพาบริการของเราในการจัดหาอาหารให้ครอบครัว เราไม่สามารถที่จะเผื่อเวลาที่ระบบไม่พร้อมทำงาน รวมไปถึงร้านค้าปลีกและพาร์ทเนอร์ของเราก็ด้วยเช่นกัน ดังนั้นความเชื่อถือได้จึงเป็นสิ่งสำคัญ

นอกจากนี้ Stripe ยังเติบโตไปพร้อมกับเรา การระบาดทั่วโลกทำให้บริการของเราเป็นที่ต้องการเป็นอย่างมากภายในเวลาอันสั้น Stripe ช่วยให้เราสามารถให้บริการแก่ผู้ค้าปลีกและลูกค้าได้ขณะที่เราทำงานไปด้วยกันเพื่อรับมือกับเหตุการณ์นี้

สุดท้ายคือเรื่องของการปฏิบัติตามข้อกำหนด ยกตัวอย่างเช่น การจัดส่งแอลกอฮอล์เป็นสิ่งสำคัญมากในธุรกิจของเรา Stripe ช่วยให้เราขยายธุรกิจส่วนนี้ได้โดยที่ยังคงปฏิบัติตามกฎระเบียบและใส่ใจต่อลูกค้า ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ฉันสามารถพูดต่อไปได้เรื่อยๆ แต่สรุปก็คือ Stripe ช่วยให้เราเติบโตและเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ และเราพึงพอใจเป็นอย่างมากกับการทำงานร่วมกันนี้ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้เติบโตไปด้วยกัน