Canva เปิดตัวในปี 2013 ที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย และเติบโตจากเครื่องมือลากและวางที่เรียบง่ายจนกลายมาเป็นแพลตฟอร์มการออกแบบภาพระดับโลกที่ผู้คนกว่า 240 ล้านคนใช้ในการออกแบบทุกอย่างตั้งแต่โพสต์และงานนำเสนอบนโซเชียลมีเดียไปจนถึงเว็บไซต์และวิดีโอเต็มรูปแบบ และด้วยการเปิดตัว Canva AI ใหม่ล่าสุด ผู้คนสามารถเปลี่ยนความคิดของตนให้กลายเป็นงานออกแบบอันน่าทึ่งได้โดยใช้เพียงแค่การสนทนาได้แล้ว
ตั้งแต่แรกเริ่ม Stripe ได้ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของ Canva ในการขยายเข้าสู่ตลาดใหม่ เปิดตัวสายธุรกิจใหม่ และปรับบริการให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของผู้ใช้ในแต่ละพื้นที่ ด้วยการมอบระบบการรับชำระเงินที่ยืดหยุ่น ปรับขนาดได้ และเป็นมิตรต่อนักพัฒนา Stripe รองรับระบบการเรียกเก็บเงินภายในของ Canva พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ปรับแต่งประสบการณ์การชำระเงินให้กับผู้ใช้ทั่วโลกได้
"Stripe เป็นหนึ่งในพาร์ทเนอร์รายแรกๆ ของเรา และอยู่กับเรามาตั้งแต่เราทั้งคู่ยังเป็นสตาร์ทอัพ" Emily MacDonald ผู้จัดการผลิตภัณฑ์กลุ่มและแพลตฟอร์มรายรับที่ Canva กล่าว "มันน่าทึ่งมากที่ได้เห็นว่า Stripe ช่วยให้เราขยายธุรกิจได้อย่างมหาศาลในขณะที่ยังเติบโตไปสู่ความร่วมมืออย่างลึกซึ้งที่เราช่วยกันสร้างแผนงานในอนาคต เรามีผู้ให้บริการหลายราย แต่ Stripe คือมาตรฐานทองคำในสิ่งที่เราอยากเห็นในผู้ที่เป็นพาร์ทเนอร์"
การเข้าถึงระดับโลกด้วยประสบการณ์ในท้องถิ่น
เนื่องจาก Canva มีการใช้งานทั่วโลก จึงจำเป็นต้องมีระบบการชำระเงินที่ใช้งานง่ายและปรับแต่งได้เช่นเดียวกับแพลตฟอร์มการออกแบบ Canva และ Stripe ได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อสร้างประสบการณ์การชำระเงินเฉพาะพื้นที่สำหรับ 40 ตลาดหลักของบริษัท
"สิ่งที่โดดเด่นที่สุดอย่างหนึ่งสำหรับทีมของเราคือการเข้าถึงทีมผลิตภัณฑ์ วิศวกรรม และฝ่ายสนับสนุนของ Stripe" MacDonald กล่าว "เมื่อเรานำปัญหามาหารือ Stripe ไม่เพียงแต่ฟังอย่างเดียว พวกเขายังลงทุนและให้ความช่วยเหลืออย่างจริงจังด้วย"
ความร่วมมือนี้ก่อให้เกิดผลลัพธ์อย่างมีนัยสำคัญในตลาดเชิงกลยุทธ์ 2 แห่ง ในอินเดีย การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบในปี 2021 ได้ส่งผลกระทบต่อความสามารถของธุรกิจทั่วโลกในการประมวลผลการชำระเงินตามแบบแผนล่วงหน้า
Stripe ได้สร้างโซลูชันที่จัดการการจดทะเบียนการมอบอำนาจและส่งการแจ้งเตือนก่อนหักบัญชีโดยอัตโนมัติก่อนเรียกเก็บเงินจากลูกค้า ความก้าวหน้าทางเทคนิคนี้ช่วยให้ Canva สามารถสำรวจความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในการชำระเงินตามแบบแผนล่วงหน้าควบคู่ไปกับการปฏิบัติตามข้อกำหนด e-mandate ของอินเดีย
"เราพึ่งพา Stripe เป็นอย่างมากในการพัฒนาโซลูชันให้เราเพื่อจะได้นำการชำระเงินตามแบบแผนล่วงหน้ามาเสนออีกครั้ง" MacDonald กล่าว "โซลูชันนี้ได้เปิดโอกาสที่น่าตื่นเต้นให้เราทดลองกับโมเดลต่างๆ โดยเราได้เห็นผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจในขณะที่เรายังคงขัดเกลาแนวทางของเราในตลาดสำคัญนี้ต่อไป"
ในเกาหลีใต้ ที่ซึ่งกระเป๋าเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่เป็นที่แพร่หลายและเครือข่ายบัตรท้องถิ่นให้อัตราการอนุมัติที่สูงกว่า Canva ต้องเผชิญกับความท้าทายเนื่องจากระบบนิเวศการชำระเงินที่กระจัดกระจาย ก่อนหน้านี้ Canva พึ่งพาการทำธุรกรรมบัตรข้ามพรมแดน แต่ได้ร่วมมือกับ Stripe เพื่อนำระบบการรับชำระเงินภายในประเทศมาปรับใช้เพื่อสนับสนุนบัตรท้องถิ่นและกระเป๋าเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ท้องถิ่นอย่าง KakaoPay และ Naver Pay ตั้งแต่เริ่มใช้งานจริงในปี 2024 Canva สามารถขยายการเข้าถึงการชำระเงินของตนไปยังผู้ใช้มากกว่า 9.5 ล้านคน
MacDonald กล่าวว่า "การนำระบบรับชำระเงินภายในประเทศและวิธีการชำระเงินท้องถิ่นทั้งหมดมารวมไว้ในโครงการเดียวเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการที่ Stripe ช่วยให้เราก้าวเข้าสู่ตลาดสำคัญได้อย่างประสบความสำเร็จ ซึ่งถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่สำหรับเรา"
พร้อมใช้งานเสมอ ปรับปรุงอยู่เสมอ
Canva ยังคงทำงานอย่างใกล้ชิดกับ Stripe เพื่อค้นหาวิธีใหม่ๆ ในการปรับปรุงประสบการณ์การชำระเงินของตนด้วย Payments Intelligence Suite ซึ่งเป็นชุดเครื่องมือจาก Stripe ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งประกอบด้วยการปรับแต่งการชำระเงิน การป้องกันการฉ้อโกง และผลิตภัณฑ์ด้านข้อมูลธุรกิจ
ตัวอย่างเช่น Canva ใช้ Authorization Boost ของ Stripe ซึ่งใช้ประโยชน์จากโทเค็นเครือข่าย ระบบอัปเดตข้อมูลบัตรอัตโนมัติ และ Adaptive Acceptance ที่ใช้ AI ในการลองทำธุรกรรมซ้ำอย่างชาญฉลาดแบบเรียลไทม์ การปรับแต่งการชำระเงินเหล่านี้ช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จในการชำระเงินของ Canva ขึ้น 2.1% และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับเครือข่ายได้มากกว่า 1.5%
นอกจากนี้ Stripe ยังช่วย Canva ประเมินกฎการป้องกันการฉ้อโกงของตนใน Radar for Fraud Teams เพื่อให้สามารถสร้างสมดุลที่เหมาะสมระหว่างการจัดการความเสี่ยงและการเพิ่มอัตราการทำธุรกรรมสำเร็จตามโมเดลธุรกิจและผู้ใช้ของตนได้ ผู้จัดการบัญชีด้านเทคนิคของ Stripe ทำงานร่วมกับบริการเฉพาะทางของ Stripe และทีมต่อต้านการฉ้อโกงการชำระเงินที่เพิ่งก่อตั้งของ Canva เพื่อตรวจสอบและปรับแต่งกฎแต่ละข้ออย่างละเอียดเพื่อให้ Canva สามารถลดความเสี่ยงได้โดยไม่สร้างผลบวกลวงมากเกินไป การตรวจสอบนี้ช่วยให้ Canva สามารถมุ่งเน้นกฎไปที่ธุรกรรมแรกของลูกค้าใหม่ ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่สุดได้
"การฉ้อโกงไม่ใช่ปัญหาเฉพาะจากมุมมองของรายรับเท่านั้น แต่ยังเป็นปัญหาในมุมมองของแบรนด์ด้วย" MacDonald กล่าว "เราไม่อยากให้ลูกค้าประสบปัญหาเพราะบัตรของตนถูกนำไปใช้โดยมิจฉาชีพ หรือไม่สามารถทำการชำระเงินได้เพราะถูกรายงานโดยไม่ได้ตั้งใจ ทีมต่อต้านการฉ้อโกงของเราได้รับความช่วยเหลือจาก Stripe ในการทำความเข้าใจกฎที่สอดคล้องกับระดับการยอมรับความเสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราขยายธุรกิจ"
โซลูชันด้านข้อมูลของ Stripe ช่วยให้ Canva ได้รับข้อมูลเชิงลึกอย่างรวดเร็วและตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลประกอบมากขึ้น ด้วยการวิเคราะห์การชำระเงิน Canva จะได้รับข้อมูลเชิงลึกที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ ช่วยให้เข้าใจและปรับปรุงประสิทธิภาพการชำระเงิน รวมถึงปัจจัยที่ส่งผลต่ออัตราการยอมรับบัตรและผลกระทบทางการเงินของการโต้แย้งการชำระเงิน Canva ใช้ Stripe Sigma เพื่อรันคำขอ SQL ภายในแดชบอร์ด ทำให้สามารถสำรวจข้อมูลของ Stripe ได้อย่างรวดเร็ว ตั้งแต่การวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายสำหรับเครือข่ายไปจนถึงการค้นหาแนวโน้มของลูกค้า และด้วย Data Pipeline Canva ส่งข้อมูลจาก Stripe ไปยังคลังข้อมูล Snowflake ของตน เพื่อนำมารวมกับข้อมูลธุรกิจอื่นๆ ซึ่งทำให้สามารถวิเคราะห์ได้ลึกขึ้นและเห็นภาพรวมของประสิทธิภาพของธุรกิจได้อย่างครบถ้วนมากยิ่งขึ้น
Canva ยังให้ความเชื่อมั่นสูงต่อ Stripe ในการรองรับการเติบโตของปริมาณธุรกรรม ด้วยการที่ Stripe ขับเคลื่อนการชำระเงินในหลายตลาดสำคัญ Canva จึงมั่นใจว่าจะพร้อมให้บริการลูกค้าเสมอ โดยเฉพาะในช่วงที่มีผู้ใช้งานหนาแน่น เช่น ช่วงเทศกาล การทำการตลาด และงาน Canva Create
เมื่อ Canva มองไปข้างหน้า MacDonald เชื่อว่ามืออนาคตของบริษัทจะเกี่ยวพันกับกลุ่มพาร์ทเนอร์ที่ไว้ใจได้และร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด เช่น Stripe หนึ่งในด้านที่ Canva ตื่นเต้นมากที่สุดคือการใช้ AI ในการจัดการการชำระเงินและการตรวจจับการฉ้อโกงในสภาพแวดล้อมหลายเกตเวย์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกำหนดเส้นทางในระดับประเทศ หมายเลขประจำตัวธนาคาร (BIN) และระดับผลิตภัณฑ์
MacDonald กล่าวว่า "ด้วยความรวดเร็วของการพัฒนาระบบการชำระเงิน รู้สึกเหมือนว่าเรากำลังอยู่ในช่วงเวลาพิเศษตอนนี้ที่เราสามารถร่วมกันสร้างอนาคตของการชำระเงินไปด้วยกัน"
Stripe เป็นหนึ่งในพาร์ทเนอร์รายแรกๆ ของเรา และอยู่กับเรามาตั้งแต่เราทั้งคู่ยังเป็นสตาร์ทอัพ มันน่าทึ่งมากที่ได้เห็นว่า Stripe ช่วยให้เราขยายธุรกิจได้อย่างมหาศาลในขณะที่ยังเติบโตไปสู่ความร่วมมืออย่างลึกซึ้งที่เราช่วยกันสร้างแผนงานในอนาคต เรามีผู้ให้บริการหลายราย แต่ Stripe คือมาตรฐานทองคำในสิ่งที่เราอยากเห็นในผู้ที่เป็นพาร์ทเนอร์