ความท้าทาย

BASE FOOD พัฒนาและทำการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน* และมุ่งมั่นทำตามพันธกิจในการ "นำนวัตกรรมมาสู่อาหารจานหลัก และช่วยให้การกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพเป็นเรื่องง่าย" บริษัทนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 2016 และเติบโตอย่างรวดเร็ว รวมถึงยังเป็นหนึ่งในบริษัทที่เติบโตสูงของตลาดหลักทรัพย์โตเกียวในปี 2022 อีกด้วย

ปัจจุบัน ยอดขายกว่า 60% มาจากเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ ด้วยเหตุนี้ BASE FOOD จึงทุ่มเทให้กับการทำการตลาดออนไลน์เป็นอย่างมาก และเพื่อดำเนินการทางด้านนี้อย่างต่อเนื่อง บริษัทจึงได้ตัดสินใจขยายช่องทางรายรับผ่านการปรับระบบอีคอมเมิร์ซใหม่ในปี 2018 และต้องการโซลูชันที่มีประสิทธิภาพสูงสุดที่ตอบโจทย์ข้อกำหนดด้านการชำระเงินเพื่อให้สามารถขยายระบบที่อัปเดตแล้วได้ ทำให้บริษัทเลือกใช้ Stripe Payments เป็นแพลตฟอร์มการชำระเงินสำหรับเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซเวอร์ชันปรับปรุง

โซลูชัน

ในช่วงแรกๆ ที่ก่อตั้งบริษัท คุณสมบัติของ Stripe อย่างการติดตั้งใช้งานที่รวดเร็ว แดชบอร์ดที่ใช้ง่าย และความสามารถในการขยายระบบ ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับ BASE FOOD

"ณ ตอนนั้น บริษัทมีพนักงานไม่เยอะ และเราไม่สามารถทุ่มเททรัพยากรไปกับการติดตั้งใช้งานหรือการจัดการระบบการชำระเงินได้" Yosuke Yamamoto ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ BASE FOOD กล่าว "เอกสารที่ครอบคลุมของ Stripe ช่วยให้เราติดตั้งใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ส่วนแดชบอร์ดก็ช่วยให้เราตรวจสอบข้อมูลได้ง่ายดาย นอกจากนี้ บริษัทขนาดใหญ่ระดับโลกยังใช้ Stripe เนื่องจากเชื่อมั่นในฐานะที่เป็นแพลตฟอร์มการชำระเงินซึ่งสร้างการเติบโตที่ชัดเจน ด้วยเหตุนี้ เราจึงตึดสินใจได้ว่า Stripe คือโซลูชันที่น่าจะใช้ประสิทธิภาพสูงสุด"

เนื่องจาก BASE FOOD เป็นธุรกิจที่ต้องซื้อวัตถุดิบและจัดเตรียมสต็อกไว้ล่วงหน้า จึงจำเป็นต้องทราบและคำนึงถึงรอบการชำระเงินที่ยาวนาน

"บริการชำระเงินที่เราเคยใช้ก่อนหน้านี้จัดการการชำระเงินเดือนละรอบ เราจึงอุ่นใจที่ Stripe จัดการการชำระเงินเป็นรอบสัปดาห์" Yamamoto กล่าว โดยการเปลี่ยนมาชำระเงินเป็นรายสัปดาห์ทำให้บริษัทมีสภาพคล่องทางการเงินมากขึ้น

ผลลัพธ์

หลังจากที่เปิดตัว Stripe Payments แล้ว BASE FOOD ก็เห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอย่างชัดเจนเกี่ยวกับอัตราการชำระเงินสำเร็จ

"ระบบการชำระเงินที่เราเคยใช้มักจะล่มบ่อยๆ ทำให้เราต้องป้อนยอดขายเอง แต่หลังจากที่เปลี่ยนมาใช้ Stripe จำนวนครั้งที่ดำเนินการชำระเงินไม่สำเร็จก็ลดลง" Yamamoto กล่าว "บางครั้งสื่อต่างๆ ก็นำข้อมูลผลิตภัณฑ์ของเราไปลง ทำให้มีผู้ใช้เข้าเว็บไซต์มากขึ้นถึง 40 เท่า และได้รับยอดสั่งซื้อเพิ่มขึ้น และถึงแม้ว่าจะมีจำนวนผู้ใช้มากขึ้นขนาดนี้ แต่ระบบของ Stripe ก็ไม่เคยล่มเลย"

โซลูชันของ Stripe ยังช่วยลดจำนวนชั่วโมงที่ใช้ในการจัดการด้านการขายอีกด้วย แดชบอร์ดของ Stripe ช่วยให้ทีมงานของ BASE FOOD ที่เคยใช้เวลาวิเคราะห์ยอดขายทั้งวันให้ทำงานเสร็จภายในครึ่งวัน นอกจากนี้ Stripe Radar ยังช่วยให้ทีมงานของ BASE FOOD รับมือกับธุรกรรมที่เป็นการฉ้อโกงได้อย่างทันท่วงที

"ทีมงานสามารถตรวจสอบธุรกรรมที่ทำผ่านบัตรเครดิตที่ไม่ได้รับอนุญาตและปัญหาอื่นๆ ได้ในแดชบอร์ดและรับมือได้ทันที และก่อนที่จะเป็นบริษัทมหาชน เราก็ต้องผ่านกระบวนการที่เข้มงวดเพื่อประเมินการจัดการข้อมูลยอดขาย ข้อมูลการจัดส่ง และข้อมูลคำสั่งซื้อ ทำให้จำเป็นต้องใช้บริการการชำระเงินที่เสถียรอย่าง Stripe มากยิ่งขึ้น" Yamamoto กล่าว

บริษัทวางแผนที่จะขยายไปยังประเทศอื่นๆ ในอนาคตผ่านการใช้ Stripe ในฐานะแพลตฟอร์มการชำระเงินที่มีประสิทธิภาพและเสถียรเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ