ความท้าทาย

Bloomerang เปิดตัวในปี 2012 เพื่อช่วยให้องค์กรไม่แสวงผลกำไรขนาดเล็กทั่วสหรัฐฯ ทำธุรกิจได้ด้วยระบบจัดการด้านลูกค้าสัมพันธ์ เครื่องมือการวิเคราะห์และการรายงาน รวมถึงการตลาด เมื่อ Bloomerang เริ่มให้บริการฟังก์ชันรับบริจาคเงิน บริษัทก็ใช้ Stripe และผู้ให้บริการชำระเงินจากภายนอกเพื่อช่วยให้องค์กรไม่แสวงผลกำไรรับชำระเงินได้ในเว็บไซต์ของตัวเอง แต่ทุกครั้งที่เกิดปัญหาด้านธุรกรรม Bloomerang ก็ต้องคอยติดต่อทีมสนับสนุนจากภายนอก ซึ่งทำให้ไม่สามารถตอบสนองได้รวดเร็ว

Bloomerang ภูมิใจที่ได้สนับสนุนองค์กรไม่แสวงผลกำไรและต้องการขยายบริการเพื่อให้รองรับการบริจาคด้วย บริษัทจึงต้องการวิธีที่เรียบง่ายในการประมวลผลเงินบริจาคผ่านแพลตฟอร์ม Bloomerang โดยตรง ในขณะเดียวกันก็ต้องแยกธุรกรรมแต่ละรายการระหว่าง Bloomerang และองค์กรไม่แสวงผลกำไรได้

"เราอยากสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไร" Evan DaSilva รองประธานอาวุโสฝ่ายระบบการชำระเงินของ Bloomerang กล่าว "เราต้องการทีมสนับสนุนที่ทำงานเป็นด่านหน้าซึ่งสามารถพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาด้วยได้โดยตรง และเป็นส่วนสำคัญของประสบการณ์ลูกค้า"

องค์กรไม่แสวงผลกำไรเสียเวลาไปกับการสลับใช้บัญชีการชำระเงินของตัวเองและบัญชีของ Bloomerang ทำให้บริษัทค้นหาผู้ให้บริการชำระเงินที่สามารถนำเสนอโซลูชันที่เชื่อมต่อระบบได้แบบสมบูรณ์ เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้า และช่วยประหยัดเวลารวมทั้งทรัพยากรให้แก่องค์กรไม่แสวงผลกำไร

ในขณะเดียวกัน Bloomerang ก็ต้องการมอบประสบการณ์การชำระเงินที่รวดเร็วและราบรื่นให้แก่ผู้บริจาคด้วย ทำให้ต้องใช้ผู้ให้บริการชำระเงินที่มีระบบเสถียรและสามารถจัดการธุรกรรมเงินบริจาคจำนวนมากในช่วงยอดนิยมอย่างวัน GivingTuesday และรอมฎอน รวมถึงต้องช่วยให้ผู้บริจาคสามารถโอนเงินได้ในไม่กี่คลิก

Bloomerang มีเป้าหมายในการลดความเสี่ยงต่อการฉ้อโกงของลูกค้า โดยเมื่อพิจารณาจากข้อมูลด้าน CRM ที่มีแล้ว บริษัทพบว่าลูกค้าที่เป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรบางส่วนที่ใช้ผู้ประมวลผลและเครื่องมือระดมทุนจากภายนอกต้องประสบกับปัญหาการฉ้อโกงผ่านการทดสอบบัตร ซึ่งผู้ไม่ประสงค์ดีพยายามทำธุรกรรมยอดเล็กๆ ด้วยบัตรเครดิตที่ขโมยมาเพื่อดูว่าสามารถใช้บัตรได้จริงหรือไม่ Bloomerang จึงต้องการช่วยแก้ไขปัญหานี้ให้แก่ลูกค้า แต่ก็ทราบดีว่าบริษัทเองต้องใช้วิธีการที่เน้นการป้องกันการฉ้อโกงเป็นหลัก และต้องใช้เครื่องมือที่ป้องกันไม่ให้ผู้ไม่ประสงค์ดีใช้แบบฟอร์มสำหรับลูกค้าได้ รวมถึงต้องปกป้องไม่ให้ผู้บริจาคขององค์กรเหล่านี้ได้รับผลกระทบไปด้วย

โซลูชัน

Bloomerang เชื่อมต่อระบบกับ Stripe Connect ในปี 2021 เมื่อเปิดตัวบริการ Bloomerang Payments สำหรับจัดการการชำระเงินและการเบิกจ่ายจากหลายฝ่าย เพื่อให้สามารถประมวลผลเงินบริจาคขององค์กรไม่แสวงผลกำไรโดยตรงบนแพลตฟอร์มของตนเอง และแยกธุรกรรมแต่ละรายการของ Bloomerang เอง และของลูกค้าออกจากกัน โดย Connect ช่วยให้ Bloomerang ติดต่อกับองค์กรเหล่านี้ได้โดยตรงเกี่ยวกับความต้องการด้านการชำระเงินต่างๆ

"การรักษาความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าส่วนหนึ่งนั้นมาจากการตอบสนองความต้องการด้านการระดมทุนและการบริจาค" DaSilva กล่าว "Stripe ช่วยให้เราปิดช่องว่างเพื่อให้ช่วยเหลือลูกค้าได้โดยตรง หากองค์กรพบปัญหาด้านการเริ่มต้นใช้งาน Bloomerang Payments หรือการหักยอดบริจาคออนไลน์ ทีมสนับสนุนของเราก็สามารถให้ความช่วยเหลือได้ทันที Stripe ช่วยให้เราประหยัดเวลาในการแก้ไขปัญหาต่างๆ และช่วยให้ลูกค้าประมวลผลเงินบริจาคได้อย่างราบรื่นผ่าน Bloomerang Payments

การที่ Stripe จัดการข้อกำหนด KYC นั้นทำให้องค์กรไม่แสวงผลกำไรสามารถเริ่มต้นใช้งาน Connect ได้ในไม่กี่คลิก ทำให้เริ่มรับเงินบริจาคบนแพลตฟอร์มของ Bloomerang ได้ในแทบจะทันที นอกจากนี้ Connect ยังช่วยให้องค์กรเหล่านี้ติดตามเงินบริจาคและจัดการงานด้านบัญชีและการรายงานได้ในที่เดียว ทำให้ไม่ต้องสลับไปมาระหว่างบัญชีการชำระเงินที่ใช้อยู่กับบัญชีของ Bloomerang อีกต่อไป

หลังจากที่ใช้ Stripe แล้ว Bloomerang ยังได้รับแพลตฟอร์มที่มีประสิทธิภาพ เสถียร และจัดการความต้องการใช้งานที่เพิ่มขึ้นได้ โดยบริษัทได้ใช้ Stripe Elements ซึ่งเป็นชุดองค์ประกอบ UI เพื่อเพิ่ม Google Pay และ Apple Pay เข้ามาในระบบได้อย่างง่ายดาย ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการบริจาคด้วยวิธีการชำระเงินยอดนิยมหลากหลายที่ช่วยให้การบริจาคราบรื่นมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

Bloomerang ลดความเสี่ยงต่อการฉ้อโกงและภาระงานที่จะตามมาของทีมภายในผ่านการติดตั้งใช้งาน Radar for Fraud Teams ซึ่งเป็นเครื่องมือแบบปรับแต่งได้ของ Stripe สำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการการฉ้อโกง และเริ่มใช้รายงานของ Stripe Sigma เพื่อทำความเข้าใจว่าบัญชีใดเสี่ยงต่อการถูกทดสอบบัตรมากที่สุด จากนั้นจึงเขียนกฎแบบกำหนดเองด้วย Radar for Fraud Teams เพื่อลดการโจมตีจากการฉ้อโกง นอกจากนี้ Bloomerang ยังสร้างตรรกะแบบกำหนดเองเพื่อพุ่งเป้าไปที่การฉ้อโกงโดยมีเจตนาไม่จ่ายค่าบัตรเครดิต แทนที่จะใช้กฎแบบรวมสำหรับทุกกรณี ซึ่ง Radar for Fraud Teams ช่วยให้ Bloomerang ลดจำนวนการตรวจพบที่ผิดพลาดในกระบวนการทำงานได้

ผลลัพธ์

ยอดบริจาคออนไลน์รายปีเพิ่มขึ้นกว่า 60% ตั้งแต่เปิดตัว Bloomerang Payments

ตั้งแต่ Bloomerang เปิดตัว Bloomerang Payments ด้วย Connect ทีมภายในและลูกค้าที่เป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรก็ได้รับประสบการณ์การชำระเงินที่ราบรื่นและเสถียร โดยไม่มีปัญหาด้านความพร้อมให้บริการใดๆ แม้ในช่วงที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก การเริ่มต้นใช้งาน Connect ที่ง่ายดายช่วยลดอัตราการปฏิเสธในกระบวนการเริ่มต้นใช้งานจาก 15% ก่อนติดตั้งใช้งาน จนเหลือ 0.25% ในปัจจุบัน ซึ่งประโยชน์ทั้งสองข้อนี้ช่วยให้ Bloomerang Payments มียอดบริจาคออนไลน์รายปีเพิ่มขึ้นกว่า 60%

ยอดบริจาคโดยรวมขององค์กรไม่แสวงผลกำไรเพิ่มขึ้น 20% แบบปีต่อปี

หลังจากช่วยให้องค์กรไม่แสวงผลกำไรรับเงินบริจาคบน Bloomerang Payments ด้วย Connect แล้ว Bloomerang ก็ช่วยเพิ่มยอดบริจาคทั้งหมดที่องค์กรไม่แสวงผลกำไรได้รับถึง 20% เมื่อเทียบแบบปีต่อปี

"องค์กรไม่แสวงผลกำไรบน Stripe ระดมเงินได้ประมาณ $75,000 ต่อปี” Katie Gaston ผู้จัดการฝ่ายการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์อาวุโสของ Bloomerang กล่าว "การที่องค์กรเหล่านี้สร้างผลลัพธ์ด้านรายได้เพิ่มขึ้น 20% ต่อปีนั้นถือเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก"

เกือบ 8% ของการชำระเงินขณะนี้ดำเนินการผ่าน Google Pay และ Apple Pay

การติดตั้งใช้งาน Google Pay และ Apple Pay ด้วย Elements ช่วยให้ Bloomerang ลดปัญหาติดขัดด้านกระบวนการบริจาคลงผ่านการช่วยให้ผู้บริจาคชำระเงินได้ในไม่กี่คลิก ผู้บริจาคมีผลตอบรับเชิงบวกเกี่ยวกับวิธีการชำระเงินที่หลากหลายขึ้น โดยขณะนี้ เกือบ 8% จากยอดบริจาคทั้งหมดดำเนินการผ่าน Google Pay และ Apple Pay

ปริมาณการดึงเงินคืนลดลงกว่า 200% ในปี 2023

Bloomerang ไม่คิดค่าธรรมเนียมการดึงเงินคืนจากลูกค้า ซึ่งถือเป็นการช่วยปรับให้ผลประโยชน์ทางการเงินของบริษัทเป็นไปในทางเดียวกับผลประโยชน์ของลูกค้า หลังจากที่ใช้ตรรกะของ Radar เพื่อเขียนกฎและจับคู่กับข้อมูลของ Sigma แล้ว Bloomerang ก็ลดจำนวนครั้งที่ดึงเงินคืนในปี 2023 ลงไปได้ถึง 226%

อัตราการโต้แย้งการดึงเงินคืนที่สำเร็จสูงกว่า 20%

การโต้แย้งการดึงเงินคืนแบบอัตโนมัติของ Stripe ช่วยให้ Bloomerang โต้แย้งการดึงเงินคืนได้สำเร็จมากกว่า 20% นำไปสู่รายรับโดยรวมที่สูงขึ้น โดยกระบวนการอัตโนมัตินี้ช่วยให้บริษัทไม่ต้องจ้างพนักงานประจำให้ประมวลผลการโต้แย้งการคืนเงินด้วยตัวเอง

จำนวนธุรกรรมที่ต้องตรวจสอบโดยพนักงานลดลงถึง 80%

การใช้ Radar for Fraud Teams ร่วมกับ Sigma ทำให้ Bloomerang ใช้วิธีการที่เน้นเป้าหมายด้านการจัดการการฉ้อโกงมากยิ่งขึ้น ถือเป็นการช่วยประหยัดเวลาของทีมจัดการการฉ้อโกง และช่วยให้บริษัทขยายกิจการได้โดยที่ไม่เพิ่มภาระงาน ตอนนี้ Bloomerang สามารถประเมินว่าบัญชีใดมีความเสี่ยงที่จะถูกโจมตีมากที่สุด ทำให้ลดจำนวนธุรกรรมขนาดใหญ่ที่ต้องตรวจสอบลงไปได้ถึง 80% และช่วยให้ทีมจัดการการฉ้อโกงคัดกรองบัญชีที่เพิ่งเชื่อมโยงได้อย่างละเอียดมากขึ้น ทั้งหมดนี้ส่งผลให้ Bloomerang ลดอัตราการฉ้อโกงจากการทดสอบบัตร และนี่ถือเป็นจุดเด่นที่เหนือคู่แข่ง

"องค์กรไม่แสวงผลกำไรที่ใช้ Bloomerang Payments มีจำนวนการทดสอบบัตรที่ลดลงอย่างมาก เมื่อเทียบกับองค์กรที่ใช้ผู้ประมวลผลจากภายนอก" DaSilva กล่าว "เราใช้โซลูชันนี้เป็นเครื่องมือที่แสดงให้องค์กรเหล่านี้เห็นว่าการฉ้อโกงนี้สร้างผลเสียอย่างไรบ้าง และโน้มน้าวให้หันมาใช้แพลตฟอร์มของเราแทน"