ClickFunnels ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการพัฒนาได้อย่างมหาศาล และเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ด้วยการผสานการทำงาน Stripe อย่างครบวงจร

ในฐานะผู้บุกเบิกด้านเทคโนโลยีการขายและการตลาดออนไลน์ ClickFunnels ได้ช่วยสร้างผู้ประกอบการนับล้านรายผ่านชุดเครื่องมือธุรกิจดิจิทัล โดยต่อยอดจากแพลตฟอร์มเดิมที่ทำให้การสร้างช่องทางการขายง่ายขึ้น โดย ClickFunnels ได้ขยายธุรกิจร่วมกับ Stripe เพื่อเปิดตัว ClickFunnels 2.0 ซึ่งเป็นโซลูชันธุรกิจแบบครบวงจรสำหรับผู้ประกอบการที่มีประสบการณ์ และ OfferLab แพลตฟอร์มฟรีที่ช่วยให้เจ้าของธุรกิจใหม่สามารถทำงานร่วมกันและเติบโตได้

ผลิตภัณฑ์ที่ใช้

    Payments
    Invoicing
    Billing
    Connect
สหรัฐอเมริกา
แพลตฟอร์ม

ความท้าทาย

เมื่อ Todd Dickerson ช่วยเปิดตัว ClickFunnels ในปี 2014 ด้วยเป้าหมายง่ายๆ อย่างการช่วยผู้ประกอบการออนไลน์เพิ่มยอดขายผ่านช่องทางการตลาดที่ได้รับการปรับให้เหมาะสม ดิกเคอร์สันและทีมของเขาได้สร้าง ClickFunnels บนแพลตฟอร์ม Stripe โดยในตอนแรก ClickFunnels ใช้เทคโนโลยีของ Stripe เพื่อให้บริการชำระเงินแบบไวท์เลเบลแก่ลูกค้าผ่าน Stripe Connect และต่อมาเพื่อจัดการการเรียกเก็บเงินค่าสมัครสมาชิกของตนเองผ่าน Stripe Billing โดยใช้ประโยชน์จากการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องที่ Stripe ได้พัฒนาขึ้นในเทคโนโลยีเหล่านั้น

เมื่อธุรกิจเติบโตขึ้น ClickFunnels ก็ได้สร้างชื่อในฐานะผู้นำของวงการ จนกระทั่งคำว่า “Click Funnel” กลายเป็นคำย่อในวงการสำหรับช่องทางการขายทุกรูปแบบ ถึงแม้จะช่องทางที่สร้างบนแพลตฟอร์มอื่นๆ ก็ตาม โดยในปี 2023 บริษัท ClickFunnels พร้อมที่จะต่อยอดความสำเร็จนั้นด้วยการเปิดตัว 2 ธุรกิจใหม่ โดยธุรกิจแรกคือ ClickFunnels 2.0 ซึ่งจะเปลี่ยนแพลตฟอร์มเดิมให้เป็นโซลูชันธุรกิจออนไลน์แบบครบวงจร เพิ่มความสามารถต่างๆ เช่น ร้านค้า หลักสูตร การโฮสต์ชุมชน การจัดส่งสินค้าแบบดรอปชิปปิ้ง การจัดการคำสั่งซื้อ อีเมล การส่งข้อความโดยตรง พาร์ทเนอร์ ระบบอัตโนมัติ การนัดหมาย และการจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า

สำหรับการสร้างฟีเจอร์เหล่านี้ ClickFunnels จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีการชำระเงินและการเงินที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น พวกเขาต้องการเพิ่มจำนวนวิธีการชำระเงินที่มีอยู่บนแพลตฟอร์มและทำให้การชำระเงินง่ายขึ้น ในขณะเดียวกันก็รองรับการคำนวณภาษีและการออกใบแจ้งหนี้ของลูกค้าด้วย แต่ความพยายามในช่วงแรกในการนำเสนอฟีเจอร์เหล่านี้ด้วยการผสานการทำงานกับบุคคลที่สามนั้นมีค่าใช้จ่ายสูงและใช้เวลานาน โดย Dickerson ผู้ร่วมก่อตั้ง ClickFunnels กล่าวว่า "ตอนที่เราพัฒนาเวอร์ชัน 2.0 โดยพยายามทำงานด้วยตัวเองโดยที่ Stripe ไม่ได้เป็นโครงสร้างพื้นฐานหลัก เราใช้เงินไปปีละหลายล้านดอลลาร์"

บริษัทเผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้าต่างประเทศบางรายที่ต้องการใช้ฟีเจอร์ทั้งหมดของแพลตฟอร์ม ClickFunnels แต่ต้องการใช้ตัวประมวลผลการชำระเงินทางเลือก การตอบสนองความต้องการเหล่านั้นทำให้บริษัทต้องเสียค่าใช้จ่ายปีละหลายล้านดอลลาร์ ดังนั้นสำหรับ ClickFunnels 2.0 ทาง ClickFunnels จึงต้องการความยืดหยุ่นเพื่อรองรับการใช้ระบบประมวลผลหลายระบบ

ในขณะเดียวกัน ClickFunnels ก็กำลังสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ตัวที่สองชื่อ OfferLab ซึ่งเป็นคลังเทมเพลตหน้าขายและแพลตฟอร์มสร้างช่องทางการขายที่ช่วยให้ครีเอเตอร์สามารถทำการค้าแบบร่วมมือกันได้ โดย ClickFunnels ต้องการให้ OfferLab สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องสมัครสมาชิก เพื่อให้บรรลุพันธกิจในการสนับสนุนผู้ประกอบการให้ได้มากที่สุด ซึ่งหมายความว่าต้องหาวิธีสร้างรายได้แบบสร้างสรรค์อื่นๆ เพิ่มเติม

สุดท้ายนี้ ทั้ง ClickFunnels 2.0 และ OfferLab ต่างก็ต้องการเครื่องมือที่ล้ำสมัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการชำระเงิน ปรับปรุงประสบการณ์การชำระเงินให้ราบรื่น และรับมือกับการฉ้อโกงที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น สำหรับ ClickFunnels ทุกจุดที่ก่อให้เกิดความไม่สะดวกในกระบวนการชำระเงินอาจนำไปสู่การทิ้งตะกร้าสินค้าและสูญเสียรายได้ และเนื่องจาก ClickFunnels ให้บริการผู้ประกอบการที่จัดการการชำระเงินของลูกค้า การป้องกันการฉ้อโกงจึงมีความสำคัญต่อการปกป้องธุรกิจของผู้ใช้และรักษาความไว้วางใจในแพลตฟอร์ม

Solution

ClickFunnels ขยายความสัมพันธ์กับ Stripe โดยสร้างโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินขึ้นใหม่บน ClickFunnels 2.0 และสร้าง OfferLab ผ่านการผสานการทำงานโดยตรงกับผลิตภัณฑ์ของ Stripe เกือบทั้งหมด เนื่องจากบริษัทได้สร้างแพลตฟอร์มคลาสสิกบน Connect ด้วยกระบวนการเริ่มต้นใช้งานที่โฮสต์บน Stripe ในการจัดการการลงทะเบียนเพื่อดำเนินการตามข้อกำหนด KYC บริษัทจึงรู้ว่า Connect จะเป็นรากฐานสำหรับบริการใหม่ทั้งสองนี้

สำหรับ ClickFunnels 2.0 นั้น Stripe มีเครื่องมือครบครันที่จะช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สร้างรายได้จากช่องทางออนไลน์ของตน ผู้ใช้สามารถใช้ Billing สำหรับการจัดการการสมัครสมาชิก เพิ่มการเปลี่ยนเป็นลูกค้าด้วย Link สร้างและส่งใบแจ้งหนี้ผ่าน Stripe Invoicing ประมวลผลการชำระเงินผ่าน Stripe Payments จัดการการคำนวณภาษีและการรายงานด้วย Stripe Tax และเข้าถึงรายงานและการวิเคราะห์โดยละเอียด ทั้งหมดนี้ได้ภายในแพลตฟอร์มเดียว

เพื่อให้บริการลูกค้าต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ClickFunnels จึงใช้ประโยชน์จากระบบรองรับการชำระเงินแบบมีผู้ประมวลผลหลายรายของ Stripe ซึ่งความสามารถนี้ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถเข้าถึงผู้ให้บริการชำระเงินจากภายนอกได้ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ Andrew Culver หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ ClickFunnels เรียกว่า "ข้อโต้แย้งสุดท้าย" ที่ลูกค้าบางรายมีต่อการใช้แพลตฟอร์ม เขากล่าวว่า “ตอนนี้เราสามารถบอกกับลูกค้าทั้งหมดของเราได้ว่าเราได้แก้ปัญหาทุกอย่างแล้ว”

สำหรับ OfferLab นั้น ClickFunnels ใช้ฟีเจอร์ทางการเงินในตัวของ Stripe เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการรายใหม่ โดย OfferLab ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเก็บเงิน ชำระค่าใช้จ่าย และจัดการกระแสเงินสดได้โดยตรงในบัญชีที่เชื่อมโยงกับ Stripe ผ่าน Stripe Financial Accounts สำหรับแพลตฟอร์มต่างๆ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังใช้ Stripe Issuing เพื่อให้บริการบัตรค่าใช้จ่ายแก่ธุรกิจใน OfferLab ฟีเจอร์เหล่านี้ รวมกับความสามารถในการสร้างรายได้จากการชำระเงินบนแพลตฟอร์ม OfferLab ผ่าน Connect ทำให้ ClickFunnels สามารถให้บริการ OfferLab ฟรีแก่ผู้ใช้ได้

โดย Dickerson กล่าวว่า"ผลิตภัณฑ์นี้เกิดขึ้นได้จริงๆ ก็เพราะ Stripe และได้รับเงินสนับสนุนจาก Stripe อย่างแท้จริง เราเปิดตัวผลิตภัณฑ์นี้ได้ฟรี เพราะเราได้รับประโยชน์จากรายได้จากการประมวลผลการชำระเงินผ่านความร่วมมือกับ Stripe Connect"

ClickFunnels ได้นำชุดโซลูชัน Optimized Checkout Suite ของ Stripe มาใช้ในผลิตภัณฑ์ทั้งหมดเพื่อเพิ่มอัตราการมาเป็นลูกค้าและป้องกันการยกเลิกการใช้บริการโดยไม่ตั้งใจ ชุดโซลูชัน Optimized Checkout Suite ประกอบด้วยชุดส่วนประกอบ UI ที่สามารถฝังได้ผ่าน Stripe Elements การเข้าถึงวิธีการชำระเงินมากกว่า 100 วิธี รวมถึงบัตรเครดิต กระเป๋าเงินดิจิทัล เช่น Apple Pay และ Google Pay และตัวเลือกอย่าง "ซื้อตอนนี้จ่ายทีหลัง" เช่น Klarna; และ Link ซึ่งเป็นโซลูชันการชำระเงินที่รวดเร็วของ Stripe ที่กรอกรายละเอียดการชำระเงินของลูกค้าโดยอัตโนมัติเพื่อประสบการณ์การชำระเงินที่สะดวกรวดเร็ว

เพื่อรับมือกับการยกเลิกบัตรโดยไม่ตั้งใจอีกทางหนึ่ง ระบบการเรียกเก็บเงินของ Stripe ยังมีฟีเจอร์ Smart Retries ซึ่งใช้แมชชีนเลิร์นนิงในการเลือกเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการลองชำระเงินที่ผิดพลาดอีกครั้ง และ Card Account Updater ซึ่งจะพยายามอัปเดตรายละเอียดบัตรที่บันทึกไว้โดยอัตโนมัติเมื่อลูกค้าได้รับบัตรใหม่

และบริษัทยังใช้ Stripe Radar เพื่อป้องกันการฉ้อโกงด้วย ซึ่งมีประโยชน์มากเนื่องจาก Stripe ได้ขยายขีดความสามารถในการรองรับการประมวลผลหลายโปรเซสเซอร์ของ Radar แล้ว ทุกวันนี้ธุรกิจต่างๆ สามารถจัดการการชำระเงินตามรอบบิลและป้องกันการฉ้อโกงด้วย Stripe ได้ ถึงแม้ธุรกรรมจะได้รับการประมวลผลโดยผู้ให้บริการรายอื่นก็ตาม

ผลลัพธ์

Stripe ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายด้านวิศวกรรมและการผสานการทำงานให้กับ ClickFunnels

ด้วยการผสานการทำงาน Stripe เข้ากับผลิตภัณฑ์ใหม่ของ ClickFunnels ทำให้ ClickFunnels ลดค่าใช้จ่ายในการสร้างโซลูชันแบบกำหนดเองและการเชื่อมต่อหลายระบบ ตัวอย่างเช่น ระบบการเรียกเก็บเงินที่ครอบคลุมของ Stripe ทำให้ ClickFunnels สามารถนำเสนอระบบจัดการการชำระเงินตามรอบบิลที่ซับซ้อนและพร้อมใช้งานได้ทันที โดยไม่ต้องพัฒนาเพิ่มเติมเอง

การรองรับผู้ประมวลผลหลายรายช่วยขยายขอบเขตการใช้งานทั่วโลกและประหยัดค่าใช้จ่ายได้มหาศาล

ความสามารถของผู้ประมวลผลหลายรายของ Stripe ได้แก้ไขอุปสรรคที่ค้างคามานานสำหรับการขยายธุรกิจระหว่างประเทศของ ClickFunnels โดย Culver กล่าวว่าฟีเจอร์นี้ช่วยแก้ปัญหา "ความกังวลของลูกค้าเกือบทั้งหมด" เนื่องจากช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้บริการธนาคารที่ตนเองชื่นชอบได้เมื่อจำเป็น

Culver กล่าวว่า Stripe ช่วยประหยัดเงินให้บริษัทได้ปีละหลายล้านดอลลาร์ โดยกล่าวว่า "เราคงต้องสูญเงินก้อนนั้นถ้าเราอยู่ในยุคอินเทอร์เน็ตก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้เราไม่ต้องแล้ว"

การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีค่าธรรมเนียมต่ำและราคาลดพิเศษ ผ่านการสร้างรายได้จากการชำระเงิน

ด้วยการผสานการทำงานระบบบัญชีการเงินและการออกบัตรของ Stripe ทำให้ ClickFunnels สามารถนำ OfferLab มาบริการแก่ผู้ใช้ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายล่วงหน้า ในขณะที่ยังคงรักษารูปแบบธุรกิจที่ยั่งยืนไว้ได้ Dickerson กล่าวว่า "คู่แข่งเครือข่ายที่ใกล้เคียงที่สุดในตลาดนี้คิดค่าธรรมเนียมประมาณ 10% แต่เราคิดค่าธรรมเนียมเพียง 0.1% เท่านั้น"

สำหรับ ClickFunnels 2.0 ก็เช่นเดียวกัน โดยทุกวันนี้มีราคาขายที่ต่ำกว่าเมื่อก่อนที่ ClickFunnels มีฟังก์ชันการทำงานน้อยกว่า

การนำชุดเครื่องมือด้านการชำระเงินที่เพิ่มประสิทธิภาพมาใช้ทำให้มีวิธีการชำระเงินเพิ่มขึ้น 16 วิธี โดยอนาคตมีแผนที่จะเพิ่มเป็นมากกว่า 100 วิธี

ทุกวันนี้ ClickFunnels รองรับวิธีการชำระเงิน 16 วิธีบนแพลตฟอร์มต่างๆ รวมถึง Apple Pay, Google Pay และ Klarna โดยมีแผนชัดเจนที่จะเพิ่มวิธีการชำระเงินมากกว่า 100 วิธีผ่าน Stripe โดยการขยายตัวนี้ช่วยให้บริษัทสามารถให้บริการลูกค้าทั่วโลกด้วยวิธีการชำระเงินในท้องถิ่น พร้อมทั้งช่วยอัตราการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชำระเงินและลดความยุ่งยากในการชำระเงิน

รู้เสมอว่าคุณต้องจ่ายเท่าไร

ค่าบริการต่อธุรกรรมที่รวมไว้หมดแล้วโดยไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง

เริ่มต้นผสานการทำงาน

เริ่มใช้งาน Stripe ได้ภายใน 10 นาที