Bounce ช่วยให้นักเดินทางทั่วโลกฝากสัมภาระได้ด้วย Stripe Connect

Bounce ช่วยให้นักเดินทางสามารถค้นหาสถานที่ใกล้เคียงที่สามารถฝากสัมภาระชั่วคราวได้อย่างปลอดภัยในทันที นับตั้งแต่เปิดตัวแพลตฟอร์มออนไลน์และแพลตฟอร์มบนอุปกรณ์เคลื่อนที่บน Stripe Connect ในปี 2019 Bounce ก็ได้เติบโตจนกลายเป็นเครือข่ายบริการรับฝากสัมภาระที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ผลิตภัณฑ์ที่ใช้

    Connect
    Payments
    Link
    Radar
    Sigma
สหรัฐอเมริกา
แพลตฟอร์ม

ความท้าทาย

ในฐานะนักเดินทางทั่วโลกที่เดินทางบ่อยครั้ง ผู้ก่อตั้ง Bounce ต่างคุ้นเคยกับความหงุดหงิดที่ต้องแบกสัมภาระติดตัวแทนที่จะได้สำรวจเมืองใหม่ๆ อย่างอิสระ พวกเขาจึงตั้งเป้าหมายที่จะสร้างเครือข่ายจุดรับฝากสัมภาระที่ปลอดภัยทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าปลีก ร้านสะดวกซื้อ คลังสินค้า และอื่นๆ อีกมากมาย Cody Candee ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ Bounce กล่าวว่าบริษัทร่วมมือกับ "ธุรกิจทุกประเภทที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดี มีพื้นที่เพียงพอ มีเวลาเปิดทำการที่เหมาะสม และให้ความสำคัญกับการบริการลูกค้า"

ในช่วงทดลองก่อนเปิดตัวในนิวยอร์กซิตี้ ซึ่งเป็นตลาดแห่งแรกของบริษัท Bounce ก็รวบรวมรายรับจากผู้ใช้ แต่ไม่มีช่องทางที่จะโอนเงินไปยังพาร์ทเนอร์ด้วยวิธีการทางดิจิทัล “เมื่อเรามีร้านค้าเพียงไม่กี่แห่งและมีรายรับเพียงเล็กน้อยในช่วงหนึ่งหรือสองเดือนแรก ผมจะไปที่ตู้เอทีเอ็ม ถอนเงินสด แล้วนำเงินไปให้ร้านค้าด้วยตนเอง” Candee กล่าว

ธุรกิจสตาร์ทอัพต้องการแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้สำหรับการรับชำระเงินจากลูกค้าและเบิกจ่ายเงินให้กับพาร์ทเนอร์อย่างปลอดภัย ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของโมเดลธุรกิจ ผู้ให้บริการชำระเงินของ Bounce จำเป็นต้องประมวลผลยอดการชำระเงินที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่บริษัทขยายธุรกิจไปทั่วประเทศและขยายไปยังเมืองต่างๆ ทั่วโลก เช่น ลอนดอน ปารีส และโตเกียว โดยมีการรองรับวิธีการชำระเงินหลากหลายวิธีและหลายสกุลเงิน

โซลูชัน

เนื่องจากทีมมีสมาชิกเพียง 2 คน ผู้ก่อตั้ง Bounce จึงไม่มีทรัพยากรเพียงพอที่จะค้นหาผู้ให้บริการชำระเงินในวงกว้าง พวกเขามีเป้าหมายที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ใช้งานจริงได้โดยเร็วที่สุด "เราเลือก Stripe เพราะผสานการทำงานได้ง่าย และเป็นแพลตฟอร์มที่เป็นมิตรกับนักพัฒนามากที่สุด" Candee กล่าว "นอกจากนี้ยังปรับขนาดได้ดีมากอีกด้วย"

Bounce ใช้ Stripe Connect ซึ่งเป็นโซลูชันสำหรับการเคลื่อนย้ายเงินระหว่างหลายฝ่าย Connect ช่วยให้ Bounce พัฒนาขั้นตอนสำหรับกระบวนการเริ่มต้นใช้งานและการเบิกจ่ายที่รวดเร็วและง่ายดายสำหรับจุดบริการแห่งใหม่ของพาร์ทเนอร์ที่ให้บริการรับฝากสัมภาระ ซึ่งช่วยให้เครือข่ายพาร์ทเนอร์เติบโตอย่างง่ายดาย

กระบวนการเริ่มต้นใช้งานที่โฮสต์โดย Stripe ทำให้ Bounce สามารถลดภาระในการจัดการข้อกำหนดกระบวนการทำความรู้จักกับลูกค้า (KYC) และการต่อต้านการฟอกเงิน (AML) ได้ ซึ่งช่วยให้ Bounce ลดทรัพยากรด้านวิศวกรรมและการดำเนินงานที่ต้องใช้ไปกับการปฏิบัติตามข้อกำหนดทั่วโลก จากนั้น Stripe Radar จะให้การป้องกันการฉ้อโกงในตัวโดยใช้ AI ที่ได้รับการฝึกฝนจากจุดข้อมูลหลายแสนล้านจุดทั่วโลก แนวทางดังกล่าวทำให้ธุรกรรมที่ชอบด้วยกฎหมายถูกปิดกั้นน้อยลง มีอัตราการยอมรับที่ดีขึ้นมีรายรับมากขึ้น และ Bounce มีภาระงานน้อยลงในการรักษาความปลอดภัยธุรกรรม จึงทำให้ทีมเล็กๆ ของบริษัทมีเวลาที่จะมุ่งเน้นไปที่การสร้างผลิตภัณฑ์หลัก

เพื่อให้บริการกลุ่มผู้ใช้ที่คุ้นคุยกับดิจิทัลซึ่งฝากสัมภาระด้วยการจองเป็นรายครั้ง และเพื่อเปลี่ยนลูกค้าใหม่ที่มองหาความยืดหยุ่นในการใช้วิธีการชำระเงินที่ต้องการ Bounce จึงยอมรับบัตรเครดิต, Apple Pay และ Google Pay โดยใช้ Stripe Payments Bounce ยังใช้ Link ซึ่งเป็นกระเป๋าเงินดิจิทัลจาก Stripe ที่ช่วยเพิ่มคอนเวอร์ชันโดยรับประกันการชำระเงินที่รวดเร็ว ง่ายดาย และปลอดภัย

ผลลัพธ์

Bounce เติบโตแบบก้าวกระโดดตั้งแต่เปิดตัวกับ Stripe

หลังจากเปิดตัวบน Connect ทีมของ Bounce สามารถขยายธุรกิจได้อย่างมั่นใจ และไม่ต้องไปที่ตู้เอทีเอ็มอีกต่อไป เมื่อใช้ Stripe เป็นแกนหลักของโครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน Bounce จึงขยายเครือข่ายบริการรับฝากสัมภาระโดยมีจุดบริการมากกว่า 20,000 แห่งใน 100 ประเทศหลังจากผ่านไป 6 ปี ซึ่งทั้งหมดนี้ได้รับการสนับสนุนด้วยโฟลว์การเบิกจ่ายที่ช่วยขจัดความจำเป็นในการจัดตั้งนิติบุคคลในแต่ละพื้นที่หรือสร้างความร่วมมือด้านการธนาคาร

นับตั้งแต่เปิดตัว รายรับของ Bounce ก็เพิ่มขึ้น 6,613 เท่าและเพิ่มขึ้น 661,200% อันเป็นผลมาจากการขยายธุรกิจไปยังยุโรปและสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นภูมิภาคที่สร้างรายได้คิดรวมกันเป็นครึ่งหนึ่งในปัจจุบัน

Bounce ประหยัดเวลาในงานด้านวิศวกรรมได้เกือบ 2 เดือนในการขยายธุรกิจในยุโรปด้วย Stripe

เมื่อ Bounce เริ่มพิจารณาขยายธุรกิจไปยังยุโรปเป็นครั้งแรกในปี 2020 บริษัทประเมินว่าจะมีภาระงานด้านวิศวกรรมประมาณ 2 เดือนกว่าจะเริ่มต้นใช้งานในประเทศต่างๆ ของยุโรปได้ ซึ่งในขณะนั้นยังไม่มี Connect ให้บริการ ต่อมา Stripe ได้เปิดตัว Connect ในหลายประเทศในยุโรป จึงทำให้ Bounce สามารถเข้าถึงตลาดเหล่านั้นได้ภายในเวลาเพียงสองสัปดาห์ และช่วยประหยัดเวลาในงานด้านวิศวกรรมของบริษัทได้เกือบ 2 เดือน

ลูกค้าสามารถจองและชำระเงินผ่าน Bounce ได้ในเวลาไม่ถึงนาที

Bounce เรียกเก็บเงินด้วยการยอมรับวิธีการชำระเงิน 4 วิธีเมื่อใช้ Payments โดยสามารถเข้าถึงมากกว่า 135 สกุลเงิน ผู้เดินทางสามารถค้นหาที่เก็บสัมภาระ ค้นหาสถานที่ใกล้เคียงบน Bounce แล้วจองและชำระเงินสำหรับการจองได้ภายในเวลาไม่เกิน 1 นาที ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นไปได้ด้วย Stripe

Bounce คว้าลูกค้าองค์กรรายใหม่ด้วยความช่วยเหลือจากความสามารถในการปฏิบัติตามข้อกำหนดและการป้องกันการฉ้อโกงของ Stripe

ชุดผลิตภัณฑ์ทรงประสิทธิภาพที่มีการผสานการทำงานของ Stripe ทำให้ Bounce ไม่จำเป็นต้องจัดสรรทรัพยากรให้กับการรายงานส่วนต่างกำไร การตรวจจับการฉ้อโกง หรือการปฏิบัติตามข้อกำหนดในการเริ่มต้นใช้งาน ทั้งนี้เป็นผลมาจากการใช้รายงานส่วนต่างกำไรของ Connect, Radar และกระบวนการเริ่มต้นใช้งาน Connect ตามลำดับ โดยบริษัทได้ลงนามในข้อตกลงสำคัญกับบริษัทต่างๆ รวมถึง Virgin Voyages, ร้านค้า UPS และเครือโรงแรมชั้นนำระดับโลกอย่าง Accor โดยรู้ดีว่า Stripe จะดูแลเรื่องการป้องกันการฉ้อโกงและการติดตามกำกับดูแลให้

"ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านการรักษาความปลอดภัย เราจึงสามารถลงนามความร่วมมือกับบริษัทที่ใหญ่กว่าเราได้อย่างมั่นใจ" Candee กล่าว

เมื่อโมเดลธุรกิจของ Bounce พัฒนาขึ้น บริษัทคาดว่าจะนำผลิตภัณฑ์ Stripe มาใช้มากขึ้นเพื่อให้ก้าวล้ำนำหน้าคู่แข่ง "เราจะพยายามเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน Stripe ของเราด้วยฟีเจอร์ต่างๆ ที่จะช่วยให้เราเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น ซึ่งเราคงจะทำเช่นนั้นไม่ได้หากไม่ใช้วิธีนี้" Candee กล่าว

รู้เสมอว่าคุณต้องจ่ายเท่าไร

ค่าบริการต่อธุรกรรมที่รวมไว้หมดแล้วโดยไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง

เริ่มต้นผสานการทำงาน

เริ่มใช้งาน Stripe ได้ภายใน 10 นาที