ความท้าทาย
Classlist เป็นแพลตฟอร์มการจัดการชุมชนสำหรับโรงเรียนที่ให้บริการในกว่า 30 ประเทศและช่วยสนับสนุนผู้ปกครองของนักเรียนกว่าครึ่งล้านคน โดยนำเสนอวิธีที่ปลอดภัยและเป็นไปตามกฎหมาย GDPR เพื่อให้ผู้ปกครองและโรงเรียนสามารถติดต่อ ประสานงาน กำหนดวันทำกิจกรรมกลุ่ม และแลกเปลี่ยนสินค้าสำหรับการเรียนบนมาร์เก็ตเพลสได้ นอกจากนี้ Classlist ยังช่วยให้ผู้ปกครองซื้อตั๋วเข้างานอีเวนต์ บริจาคเงินให้โรงเรียน และซื้อบัตรชิงโชคเพื่อสนับสนุนโครงการระดมทุนของโรงเรียนได้อีกด้วย
ก่อนที่จะเริ่มใช้ Classlist ตัวแทนผู้ปกครองและครูมักจะต้องเก็บเงินสำหรับโครงการระดมทุนและอีเวนต์ต่างๆ ในรูปแบบของเงินสดและเช็ค ซึ่งเป็นขั้นตอนที่เสียเวลาและเกิดข้อผิดพลาดได้ง่าย ทำให้ชำระเงินและสรุปยอดได้ล่าช้า
ด้วยเหตุนี้ Classlist จึงต้องการมอบระบบการชำระเงินที่ติดตั้งและใช้งานง่ายสำหรับลูกค้า พร้อมทั้งให้บริการสนับสนุนในตัวสำหรับวิธีการชำระเงินที่หลากหลาย โดยเริ่มแรก Classlist ได้สร้างฟีเจอร์การประมวลผลการชำระเงินโดยใช้แพลตฟอร์มจากภายนอกที่ลูกค้าและ Classlist เองจัดการได้ยาก ทำให้เกิดการส่งคำขอช่วยเหลือจำนวนมากตามมา และทำให้ลูกค้าของ Classlist ประสบปัญหาติดขัดในการเริ่มต้นใช้งาน
Classlist ยังต้องการโซลูชันซึ่งนำเสนอประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมโดยการช่วยให้ผู้ปกครองชำระเงินได้รวดเร็ว ง่ายดาย ผ่านระบบที่เสถียร ไปพร้อมๆ กับการเพิ่มรายรับสำหรับสมาคมครู-ผู้ปกครองและโรงเรียน แต่โซลูชันของ Classlist ก็ไม่สามารถนำเสนอประสบการณ์ได้ตรงตามที่ลูกค้าคาดหวังได้ในบางครั้ง เช่น ผู้ใช้ต้องเปลี่ยนไปที่เว็บไซต์ของบริษัทภายนอกเพื่อทำการชำระเงิน
นอกจากนี้ Classlist ยังจำเป็นต้องใช้โซลูชันที่สามารถสนับสนุนการขยายธุรกิจในสหราชอาณาจักรและทั่วทวีปยุโรป เอเชีย และอเมริกาเหนือได้ ซึ่งทำให้บริษัทต้องนำเสนอบริการแก่ลูกค้าในประเทศดังกล่าวด้วยวิธีการชำระเงินที่หลากหลายของแต่ละท้องถิ่น
โซลูชัน
Classlist ใช้ Stripe แทนโซลูชันการชำระเงินเดิม เนื่องจาก Stripe มีอัตราค่าบริการที่เหมาะสมสำหรับโรงเรียนต่างๆ และสามารถติดตั้งใช้งานได้รวดเร็ว รวมถึงรองรับการชำระเงิน การคืนเงิน แดชบอร์ด และฟีเจอร์หลักอื่นๆ ได้ โดยที่ Classlist ไม่ต้องสร้างและจัดการฟีเจอร์ดังกล่าวเองภายใน
"เราไม่จำเป็นต้องจ้างเจ้าหน้าที่เทคนิคเพิ่มหรือพัฒนาความเชี่ยวชาญอื่นๆ เพื่อที่จะใช้งาน Stripe" Yalçin Yavaş ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ Classlist กล่าว "Stripe ใช้ระบบอัตโนมัติกับกระบวนการทำงานที่เราใช้จัดการภายใน และยังทำให้การชำระเงินง่ายขึ้นและมีอัตราการชำระเงินสำเร็จมากขึ้นด้วย"
Classlist ใช้องค์ประกอบ UI ของ Stripe ซึ่งก็คือ Payment Element เพื่อรองรับวิธีการชำระเงินต่างๆ ตรวจสอบข้อมูลที่ป้อนเข้า และจัดการข้อผิดพลาด ซึ่งทำให้ผู้ปกครองและโรงเรียนได้รับประโยชน์มากขึ้นโดยที่ไม่จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีขั้นสูง ตัวอย่างเช่น Classlist ใช้ Payment Element เพื่อเชื่อมต่อการทำงานของ Apple Pay, Google Pay รวมถึงบัตรเครดิตและบัตรเดบิตกับแพลตฟอร์มเพื่อมอบตัวเลือกการชำระเงินที่หลากหลายให้ผู้ปกครอง นอกจากนี้ บริษัทยังใช้ Stripe Mobile Elements เพื่อขยายการบริการฟังก์ชันเหล่านี้ให้แก่ผู้ใช้ผ่านแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ของ Classlist ด้วย
Classlist ใช้ Stripe Connect ซึ่งเป็นโซลูชันการชำระเงินและการเบิกจ่ายสำหรับหลายฝ่ายเพิ่มเติม ทำให้ตอนนี้สามารถเชื่อมต่อระบบเทคโนโลยีการชำระเงินที่ทรงพลังของ Stripe เข้ากับแพลตฟอร์มของตนและควบคุมกระบวนการจัดการเงินทุนได้ และนอกจากจะช่วยเพิ่มคุณค่าของแพลตฟอร์มให้โรงเรียนและผู้ปกครองได้แล้ว Classlist ก็สามารถสร้างช่องทางเพิ่มเติมโดยหารายได้จากการชำระเงินผ่านแพลตฟอร์มได้ด้วย
Classlist ใช้ 15 สกุลเงินจากกว่า 135 สกุลเงินที่ Stripe รองรับ เพื่อให้โรงเรียนทั่วโลกสามารถใช้ Classlist เพื่อจัดการการชำระเงินและเพิ่มวิธีการชำระเงินใหม่ๆ ได้โดยคลิกเพียงไม่กี่ครั้ง
ผลลัพธ์
การชำระเงินที่รวดเร็วและง่ายดายขึ้นช่วยให้โรงเรียนประหยัดเวลาได้กว่า 70 ชั่วโมงต่อปี
หลังจากที่ใช้งาน Stripe แล้ว Classlist ก็สร้างแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ให้โรงเรียนและผู้ปกครองจัดการการชำระเงินได้รวดเร็วโดยที่ไม่จำเป็นต้องมีความรู้เฉพาะทางด้าน IT โดย Connect ช่วยให้บัญชีได้รับอนุมัติและเชื่อมโยงเข้ากันได้อย่างเหมาะสม ทำให้โรงเรียนประหยัดเวลาในการเรียกเก็บเงินสดด้วยตัวเองลงไปได้ถึง 90%
ประสบการณ์การชำระเงินที่ดีขึ้นทำให้โรงเรียนมีอัตราการเติบโตของเงินระดมทุนแบบทบต้นต่อปี (CAGR) กว่า 197%
Stripe ช่วยให้ Classlist ให้บริการการชำระเงินที่รวดเร็วขึ้นและน่าเชื่อถือมากขึ้นสำหรับผู้ปกครอง โดยช่วยลดจำนวนขั้นตอนในการซื้อ และออกบัตรชิงโชคแบบดิจิทัล ที่ช่วยให้ประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน Classlist ปรับกระบวนการชำระเงินให้ง่ายขึ้นโดยใช้ Payment Element และเพิ่มวิธีการชำระเงินอื่นๆ โดยกระบวนการที่มีประสิทธิภาพของ Stripe ช่วยให้ผู้ปกครองชำระเงินบนเว็บไซต์ของ Classlist ได้โดยตรง แทนการเปลี่ยนเส้นทางไปยังเว็บไซต์การชำระเงินของบริษัท ทำให้ผู้ปกครองเหล่านี้ได้รับประสบการณ์ที่ดีและน่าพึงพอใจมากขึ้น
"ผู้ปกครองทุกคนชอบ Stripe" Susan Burton ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารและผู้ร่วมก่อตั้งของ Classlist กล่าว "พวกเขาสามารถชำระเงินได้โดยไม่ต้องคิดอะไรเลย และโรงเรียนต่างๆ ก็สามารถเพิ่มยอดเงินได้สองเท่าโดยที่ลงแรงเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น"
Classlist ใช้ Stripe เพื่อช่วยให้โรงเรียนระดมทุนได้กว่า 5 ล้านปอนด์ โดยมีอัตรา CAGR กว่า 197% สำหรับรายได้จากงานอีเวนต์และการชิงโชคตลอด 3 ปี ซึ่งมีจำนวนอีเวนต์เพิ่มขึ้นกว่า 55% (CAGR) มีจำนวนตั๋วที่ขายได้มากขึ้น 154% (CAGR) และจำนวนบัตรชิงโชคที่ขายได้มากขึ้น 3 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
รายรับที่เพิ่มขึ้น 124% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และการเข้าถึงทางภูมิศาสตร์ที่กว้างขึ้น
การเร่งกระบวนการเริ่มต้นใช้งานของโรงเรียนด้วย Connect และการรองรับวิธีการชำระเงินมากขึ้นทำให้ Classlist เพิ่มประสิทธิภาพและกระตุ้นการเติบโตได้ โดยดึงดูดผู้ใช้ได้มากขึ้นผ่านการลดค่าใช้จ่ายในการประมวลผลค่าตั๋วอีเวนต์ด้วย Stripe เนื่องจากโรงเรียนต่างๆ มีรายรับมากขึ้นจากการจัดอีเวนต์
Classlist เป็นลูกค้าที่แนะนำบริการของ Stripe แก่โรงเรียนกว่า 800 แห่งใน 35 ประเทศ ทำให้บริษัทเติบโตได้อย่างต่อเนื่องตามไปด้วย โดยในปีที่ผ่านมา บริษัทสามารถเพิ่มรายรับได้ถึง 124%
"การรวบรวมเงินเป็นสิ่งที่ยากที่สุดที่โรงเรียนต้องทำ" Burton กล่าว "เหตุผลหนึ่งที่เราพยายามเข้าสู่ประเทศใหม่ๆ ก็เพราะว่าเราใช้ Stripe เพื่อแก้ไขปัญหาด้านการชำระเงินให้โรงเรียนเหล่านั้นได้"
ผู้ปกครองและโรงเรียนสามารถใช้ Stripe เพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วมและเพิ่มรายรับจากการระดมทุนได้ง่ายๆ อีกทั้งเรายังใช้ Stripe เพื่อขยายตลาดและเพิ่มรายรับได้อีกทาง