ในปี 2022 หนึ่งในสี่ของการชําระเงินจากลูกค้าทั้งหมดในออสเตรเลียใช้บัตรเครดิต ส่วนบัตรเดบิตและเงินสดคิดเป็น 50% และ 13% ของธุรกรรมทั้งหมดตามลําดับ เนื่องจากการค้าดิจิทัลขยายกิจการในวงกว้าง ธุรกิจต่างๆ กําลังปรับตัวโดยการผสานการทํางานวิธีการชําระเงินเข้ากับโมเดลธุรกิจของตนเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า แน่นอนว่าบัตรเครดิตอยู่อันดับต้นๆ ของรายการนั้น

ด้านล่างนี้ เราจะอธิบายเกี่ยวกับข้อมูลสําคัญที่ธุรกิจต่างๆ ควรทราบหากวางแผนที่จะรับชําระเงินด้วยบัตรเครดิตในออสเตรเลีย รวมถึงวิธีการทำงานของเกตเวย์การชําระเงินและการปฏิบัติตามข้อกําหนดในประเทศนั้นๆ นี่คือสิ่งที่คุณควรรู้

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

• สิ่งที่ธุรกิจต้องรู้เกี่ยวกับบัตรเครดิตในออสเตรเลีย
  
• ปัจจัยที่ควรพิจารณาเมื่อรับชําระเงินด้วยบัตรเครดิตในออสเตรเลีย
  
• รับชําระเงินด้วยบัตรเครดิตออนไลน์ในออสเตรเลีย
  
• ความท้าทายและข้อควรพิจารณาเกี่ยวกับการชําระเงินด้วยบัตรเครดิตในออสเตรเลีย
  
• วิธีที่ Stripe รองรับการชําระเงินด้วยบัตรเครดิตในออสเตรเลีย
  

สิ่งที่ธุรกิจต้องรู้เกี่ยวกับบัตรเครดิตในออสเตรเลีย

ในออสเตรเลีย การใช้บัตรเครดิตได้รับการสนับสนุนจากภาคบริการทางการเงินที่มีความทันสมัยและมีเครือข่ายสถาบันที่จัดตั้งขึ้นอย่างมั่นคง ออสเตรเลียใช้บัตรเครดิตมาตั้งแต่ปี 1974 และวิธีการชําระเงินดังกล่าวได้แทรกซึมลึกเข้าไปในระบบการเงินของออสเตรเลีย โดยบัตรเครดิตในออสเตรเลียอยู่ภายใต้มาตรฐานข้อบังคับที่เข้มงวดเพื่อปกป้องทั้งลูกค้าและธุรกิจ ซึ่งได้แก่

• ค่าธรรมเนียมธุรกรรมผ่านบัตรระหว่างธนาคารสูงสุด
  ธนาคารจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมธุรกรรมผ่านบัตรระหว่างธนาคารอื่นๆ สําหรับการประมวลผลธุรกรรมบัตรเครดิต ค่าธรรมเนียมเหล่านี้จํากัดอยู่เพียงเฉลี่ย 0.5% ต่อธุรกรรม ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้ธรรมเนียมเหล่านี้สูงเกินไป

• ค่าธรรมเนียมอนุญาต
  ธุรกิจมีตัวเลือกในการเพิ่มค่าธรรมเนียมพิเศษเล็กน้อยในธุรกรรมบัตรเครดิต ซึ่งจะครอบคลุมต้นทุนการประมวลผลที่เรียกเก็บโดยเครือข่ายบัตร

• ไม่บังคับให้ยอมรับ
  ก่อนหน้านี้ หากธุรกิจยอมรับบัตรเครดิต ธุรกิจก็ต้องรับบัตรเดบิตด้วย ตอนนี้ธุรกิจสามารถเลือกรับบัตรประเภทเดียวและไม่รับบัตรประเภทอื่นได้

• สิทธิ์เข้าถึงแบบขยาย
  กฎใหม่ช่วยให้ผู้เล่นเข้าร่วมตลาดระบบการชำระเงินได้ง่ายขึ้น ซึ่งส่งเสริมให้เกิดสภาพแวดล้อมที่มีการแข่งขันมากขึ้น

การแพร่หลายของการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตส่งผลต่อระบบการชำระเงินแบบดิจิทัลที่กว้างขึ้น ในออสเตรเลีย ด้วยการเติบโตของอีคอมเมิร์ซและธุรกรรมบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ บัตรเครดิตจึงกลายมาเป็นส่วนสําคัญของการซื้อออนไลน์เพื่ออํานวยความสะดวกในการชําระเงินแบบเรียลไทม์ที่รวดเร็วและ (บ่อยครั้ง) ผ่านแพลตฟอร์มและบริการที่หลากหลาย

สําหรับธุรกิจ การรับชําระเงินด้วยบัตรเครดิตหมายถึงการมอบวิธีการชําระเงินที่ลูกค้าคุ้นเคยและเชื่อถือได้ ซึ่งรวมถึงธุรกรรมผ่านบัตรใบจริง นอกเหนือจากภาคส่วนที่ครอบคลุมทั้งด้านอุปกรณ์เคลื่อนที่และกระเป๋าเงินดิจิทัล ซึ่งมักเชื่อมโยงกับบัตรเครดิต

แต่การรับบัตรเครดิตไม่ได้หมายความว่าไม่มีความท้าทาย ธุรกิจต้องรับมือกับค่าธรรมเนียมธุรกรรม ความเสี่ยงการดึงเงินคืน และมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยข้อมูลที่เข้มงวดซึ่งปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของลูกค้า ทั้งนี้ เราต้องใช้กลยุทธ์ที่คิดอย่างรอบคอบเพื่อรักษาความสะดวกของลูกค้าด้วยความระมัดระวังด้านการปฏิบัติงานและด้านการเงิน

ขณะที่ออสเตรเลียหันเหออกจากเศรษฐกิจที่ต้องพึ่งเงินสด บทบาทของบัตรเครดิตก็มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนวัตกรรมในเทคโนโลยีการชำระเงินยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ปัจจัยที่ควรพิจารณาเมื่อรับชําระเงินด้วยบัตรเครดิตในออสเตรเลีย

การตั้งค่าการประมวลผลบัตรเครดิตในออสเตรเลียหมายถึงการส่งเสริมพฤติกรรมการชําระเงินของผู้ที่อาจเป็นลูกค้า ขณะเดียวกันก็ตอบสนองต่อความต้องการของธุรกิจของคุณ ต่อไปนี้คือขั้นตอนสําหรับธุรกิจในการตั้งค่าการประมวลผลบัตรเครดิตในออสเตรเลีย

ประเมินช่องทางธุรกรรม

• กําหนดว่าการขายจะเกิดขึ้นที่จุดขาย ทางออนไลน์ บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ หรือผ่านช่องทางเหล่านี้ร่วมกันหรือไม่
  

ตัดสินใจเลือกใช้บริการที่ต้องใช้

• ประเมินบริการเพิ่มเติม เช่น การจัดการสินค้าคงคลัง โปรแกรมความภักดี และเครื่องมือการรายงานที่อาจทํางานสอดคล้องกับระบบการชําระเงินของคุณ
  

ค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับผู้ให้บริการชําระเงิน

• สํารวจผู้ให้บริการผู้ค้าต่างๆ ซึ่งรวมถึงธนาคารและผู้ประมวลผลการชําระเงินอิสระ
  
• พิจารณาผู้ให้บริการชำระเงินแบบหลายช่องทาง เช่น Stripe ที่นำเสนอโซลูชันการชำระเงินแบบครบวงจรสำหรับหลายช่องทาง
  

การเปรียบเทียบและความแตกต่าง

• เปรียบเทียบค่าธรรมเนียม ฟีเจอร์ความปลอดภัย ระยะเวลาการชําระเงิน และการสนับสนุนฝ่ายบริการลูกค้าสําหรับผู้ให้บริการหลายๆ ราย
  
• ตรวจสอบความเข้ากันได้กับระบบธุรกิจของคุณที่คุณมีอยู่
  

เลือกผู้ให้บริการ

• เลือกผู้ให้บริการที่ตรงกับความต้องการเฉพาะของคุณ ไม่ว่าจะเป็นช่องทางเดียวหรือแบบหลายช่องทาง
  
• พิจารณาประวัติของผู้ให้บริการในด้านความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ รวมถึงการสนับสนุนเทคโนโลยีการชำระเงินที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง
  

• หลังจากเลือกผู้ให้บริการแล้ว ให้ดําเนินการตั้งค่าสําหรับการชําระเงินแต่ละประเภทดังต่อไปนี้

  • ที่จุดขาย: ติดตั้งเทอร์มินัล EFTPOS สําหรับร้านค้าจริง
    
  • ออนไลน์: ผสานการทํางานเกตเวย์การชําระเงินกับ[แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ]https://stripe.com/resources/more/ecommerce-payment-methods "Stripe | Ecommerce payment methods")ของคุณ ](https://stripe.com/resources/more/ecommerce-payment-methods "Stripe | Ecommerce payment methods")
    
  • อุปกรณ์เคลื่อนที่: ตรวจสอบว่าระบบการชำระเงินได้รับการปรับให้เหมาะสมสำหรับธุรกรรมบนมือถือ
    
  • แบบตามแผนล่วงหน้า: ตั้งค่าระบบการหักบัญชีอัตโนมัติสําหรับโมเดลการชําระเงินตามรอบบิล
    

การเลือกผู้ให้บริการแบบหลายช่องทางช่วยให้คุณจัดการช่องทางการชำระเงินทั้งหมดได้อย่างสอดประสานและมีประสิทธิภาพ ถือเป็นข้อได้เปรียบเชิงกลยุทธ์สำหรับธุรกิจส่วนใหญ่

การรับชําระเงินด้วยบัตรเครดิตออนไลน์ในออสเตรเลีย

การรับชำระเงินด้วยบัตรเครดิตออนไลน์ในออสเตรเลียเกี่ยวข้องกับขั้นตอนหลายขั้นตอน รวมถึงข้อควรพิจารณาที่จะช่วยให้คุณปฏิบัติตามกฎระเบียบในท้องถิ่นและตอบสนองความคาดหวังของลูกค้า คุณจะต้องสร้างเกตเวย์การชําระเงินที่เหมาะสม ต้องแน่ใจว่าคุณปฏิบัติตามมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยด้านการชําระเงิน และทําความเข้าใจโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง รายละเอียดเพิ่มเติมมีดังนี้

การตั้งค่าเกตเวย์การชําระเงิน

• เลือกผู้ให้บริการเกตเวย์การชําระเงิน
  ตัวเลือกสําหรับ[ผู้ให้บริการเกตเวย์การชําระเงิน]https://stripe.com/resources/more/how-to-choose-a-payment-gateway "Stripe | How to choose a payment gateway")รวมถึงผู้ให้บริการจากต่างประเทศยอดนิยมอย่าง Stripe รวมถึงผู้ให้บริการที่ท้องถิ่นในออสเตรเลียใช้ เช่น Eway หรือ Afterpay พิจารณาจากปัจจัยต่างๆ อย่างค่าธรรมเนียมธุรกรรม วิธีการชําระเงินที่รองรับ และความสะดวกในการใช้งานกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่มีอยู่แล้วของคุณ

• ผสานการทํางานเกตเวย์การชําระเงินกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของคุณ
  ควรผสานการทํางานวิธีการชำระเงินที่เลือกกับเว็บไซต์ของคุณได้อย่างง่ายดาย แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซส่วนใหญ่ เช่น Shopify, WooCommerce หรือ Magento มีปลั๊กอินหรือการรองรับเกตเวย์การชําระเงินรายใหญ่ในตัว

• ข้อควรพิจารณาสําหรับบัญชีผู้ค้า
  เกตเวย์การชําระเงินบางรายการต้องมีบัญชีผู้ค้า ซึ่งเป็นบัญชีธนาคารประเภทหนึ่งที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณรับชําระเงินด้วยบัตรเครดิตได้ ในบางกรณี ผู้ให้บริการเกตเวย์การชําระเงินอาจจะเสนอบริการบัญชีผู้ค้าของตัวเอง

การปฏิบัติตามข้อกําหนดและการรักษาความปลอดภัย

• การปฏิบัติตามข้อกําหนดของ PCI DSS
  ตรวจสอบว่าระบบของคุณเป็นไปตามมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยข้อมูลสําหรับอุตสาหกรรมบัตรชําระเงิน (PCI DSS) นี่เป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยระดับโลกที่บังคับใช้เพื่อปกป้องข้อมูลของผู้ถือบัตร การไม่ปฏิบัติตามอาจส่งผลให้ต้องเสียค่าปรับเป็นจำนวนมาก

• ใบรับรอง SSL
  รักษาความปลอดภัยให้เว็บไซต์ของคุณด้วยใบรับรอง Secure Sockets Layer (SSL) วิธีนี้จะช่วยปกป้องข้อมูลบัตรเครดิตที่ละเอียดอ่อนด้วยการเข้ารหัสข้อมูลที่ส่งไปมาระหว่างเว็บไซต์ของคุณกับลูกค้า

• การป้องกันการฉ้อโกง
  นําเครื่องมือการตรวจจับและการป้องกันการฉ้อโกงมาใช้ เกตเวย์การชําระเงินจํานวนมากนําเสนอบริการต่างๆ เช่น การยืนยันที่อยู่และการตรวจสอบ CVV เพื่อลดความเสี่ยงของธุรกรรมที่เป็นการฉ้อโกง

การทําความเข้าใจเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมและการเรียกเก็บเงิน

• ค่าธรรมเนียมธุรกรรม
  โดยทั่วไปค่าธรรมเนียมเหล่านี้จะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดขายแต่ละครั้ง บวกกับค่าธรรมเนียมคงที่ และอัตราจะแตกต่างกันไปตามผู้ให้บริการประมวลผลการชำระเงิน ปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลต่อค่าธรรมเนียมธุรกรรมได้แก่ ประเภทธุรกิจ ปริมาณธุรกรรม และปัจจัยความเสี่ยงที่คุณมี (สำหรับการฉ้อโกงและการดึงเงินคืน ฯลฯ)

• ค่าธรรมเนียมการดึงเงินคืน
  เมื่อลูกค้าโต้แย้งธุรกรรมและมีการดึงเงินคืนเกิดขึ้น ธุรกิจมักจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียม ดังนั้นคุณจึงควรทำเข้าใจค่าธรรมเนียมเหล่านี้และขั้นตอนการจัดการการโต้แย้งการชําระเงิน

• รอบระยะเวลาการชำระเงิน
  ทำความเข้าใจเวลาที่ต้องใช้ในการโอนเงินจากเกตเวย์การชำระเงินไปยังบัญชีธนาคารของคุณ ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามผู้ให้บริการและอาจส่งผลกระทบต่อกระแสเงินสดของคุณ

ข้อควรพิจารณาในท้องถิ่น

• การปฏิบัติตามข้อกําหนด GST และภาษี
  ยืนยันว่าระบบการชำระเงินออนไลน์ของคุณได้รับการตั้งค่าให้จัดการกับภาษีสินค้าและบริการ (GST) อย่างเหมาะสม ในออสเตรเลีย GST คือภาษี 10% สําหรับการขายสินค้าและบริการส่วนใหญ่ และมักรวมอยู่ในราคาที่ลูกค้าเห็น

• การปฏิบัติตามกฎหมายผู้บริโภคของออสเตรเลีย
  ทําความคุ้นเคยกับกฎหมายผู้บริโภคของออสเตรเลีย เพื่อให้แน่ใจว่าแนวทางปฏิบัติด้านการขายออนไลน์ของคุณเป็นไปตามข้อกําหนด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการคืนเงิน การคืนสินค้า และสิทธิ์ของลูกค้า

• รองรับหลายสกุลเงิน
  หากคุณให้บริการลูกค้าต่างประเทศ ให้พิจารณาเกตเวย์การชําระเงินที่รองรับหลายสกุลเงินและจัดการการแปลงสกุลเงินโดยอัตโนมัติ

การจัดการต่อเนื่อง

• การจัดการต่อเนื่อง
  ตรวจสอบและอัปเดตระบบการชําระเงินของคุณเป็นประจํา รวมถึงการปรับปรุงผู้ให้บริการเกตเวย์การชําระเงินโดยอิงตามความต้องการทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป และการติดตามตรวจสอบค่าธรรมเนียมธุรกรรมเพื่อความสามารถในการแข่งขัน

• ฝ่ายสนับสนุนลูกค้า
  ให้การสนับสนุนลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพสําหรับการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการชําระเงิน โดยอาจรวมถึงการมีส่วนเฉพาะบนเว็บไซต์ของคุณสำหรับคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการชำระเงิน หรือการให้ช่องทางการสนับสนุนโดยตรงผ่านอีเมลหรือโทรศัพท์

• การรายงานและการกระทบยอด
  ใช้เครื่องมือรายงานที่เกตเวย์การชำระเงินของคุณมีให้ การรายงานเป็นประจําจะช่วยในการกระทบยอดธุรกรรม การทําความเข้าใจรูปแบบการขาย และการวางแผนทางการเงิน

• การวิเคราะห์ข้อมูล
  วิเคราะห์ข้อมูลธุรกรรมเพื่อรับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกค้า ผลิตภัณฑ์ยอดนิยม และช่วงเวลาที่มียอดขายสูงสุด ข้อมูลนี้จะช่วยให้คุณทราบถึงกลยุทธ์การตลาดและการตัดสินใจทางธุรกิจได้

• การตลาดและโปรโมชัน
  พิจารณาว่าคุณสามารถใช้ตัวเลือกการชำระเงินของคุณเพื่อดึงดูดใจลูกค้าได้อย่างไร เช่น โดยการเน้นย้ำถึงความปลอดภัยของธุรกรรมของคุณ

ความท้าทายและข้อควรพิจารณาสําหรับการชําระเงินด้วยบัตรเครดิตในออสเตรเลีย

ในออสเตรเลีย สภาพแวดล้อมการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตเกี่ยวข้องกับความท้าทายและการพิจารณาที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งมีลักษณะเฉพาะของตลาดและกรอบการกำกับดูแลของประเทศ ซึ่งรวมถึงสิ่งต่อไปนี้

สภาพแวดล้อมตามระเบียบข้อบังคับ

• ระเบียบข้อบังคับธนาคาร
  ธนาคารในออสเตรเลียอยู่ภายใต้ข้อบังคับที่เข้มงวด ซึ่งอาจส่งผลต่อวิธีการประมวลผลและชําระธุรกรรมบัตรเครดิต วิธีนี้อาจนําไปสู่ความล่าช้าหรือการตรวจสอบอย่างละเอียดเพิ่มเติมสําหรับธุรกิจ โดยเฉพาะผู้ให้บริการรายใหม่หรือบริษัทขนาดเล็ก

• มาตรฐานข้อมูลลูกค้า
  Consumer Data Right (CDR) ในออสเตรเลียกําหนดว่าคุณจะรวบรวมและใช้งานข้อมูลลูกค้าได้อย่างไร ธุรกิจต่างๆ ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าวิธีการประมวลผลบัตรเครดิตสอดคล้องกับมาตรฐานเหล่านี้ ซึ่งอาจต้องมีการลงทุนเพิ่มเติมในด้านความปลอดภัยและโครงสร้างพื้นฐานด้านการปฏิบัติตามข้อกําหนดของข้อมูล

• การปฏิบัติตามข้อกําหนด GST
  สําหรับธุรกิจที่ดําเนินธุรกิจในออสเตรเลีย การใช้และส่ง GST อย่างถูกต้องคือกุญแจสําคัญ ซึ่งต้องใช้ระบบการทําบัญชีที่ซับซ้อนเพื่อการปฏิบัติตามข้อกําหนดและการติดตามสถานะ

ลักษณะของตลาด

• ความต้องการในการชำระเงินแบบไร้สัมผัส
  ชาวออสเตรเลียมีความต้องการด้านการชําระเงินแบบไร้สัมผัส รวมถึงธุรกรรมด้วยบัตรเครดิตแบบ Tap to Pay ซึ่งหมายความว่าธุรกิจจะต้องดูแลให้เทคโนโลยีล่าสุดสามารถจัดการธุรกรรมดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

• มีการใช้งานบัตรเครดิตสูง
  จํานวนบัตรเครดิตที่ใช้ในออสเตรเลียคาดว่าจะถึง 24 ล้านikpภายในปี 2028 ดังนั้นธุรกิจจึงควรเตรียมพร้อมรองรับแบรนด์และประเภทบัตรเครดิตหลากหลายประเภท ซึ่งธุรกิจแต่ละแห่งจะมีโครงสร้างค่าธรรมเนียมและข้อกําหนดการประมวลผลบัตรเครดิตเป็นของตนเอง

• การแปลงสกุลเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ
  สำหรับธุรกิจที่ต้องติดต่อกับลูกค้าต่างประเทศ การจัดการการแปลงสกุลเงินและค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนถือเป็นสิ่งสำคัญ ตลาดออสเตรเลียมีความอ่อนไหวต่อปัญหาเหล่านี้เป็นพิเศษเนื่องจากที่ตั้งทางภูมิศาสตร์และความสัมพันธ์ทางการค้าโลกที่แข็งแกร่ง

ด้านเทคนิคและโครงสร้างทางเทคโนโลยี

• การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
  แม้ว่าออสเตรเลียจะมีอินเทอร์เน็ตครอบคลุมอย่างกว้างขวาง แต่ก็ยังมีบางพื้นที่ที่ยังมีการเชื่อมต่อที่จำกัด ธุรกิจในพื้นที่ห่างไกลอาจเผชิญกับความท้าทายในการประมวลผลการชำระเงินบัตรเครดิตออนไลน์อยู่เป็นประจำ

• การผสานการทํางานด้านอีคอมเมิร์ซ
  การสร้างระบบการชำระเงินของคุณไว้ในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซถือเป็นกุญแจสำคัญ อย่างไรก็ตาม ธุรกิจในออสเตรเลียมักต้องเผชิญกับความท้าทายในการหาโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ

ความไว้วางใจและความคาดหวังของลูกค้า

• ข้อกังวลเกี่ยวกับการฉ้อโกงและการรักษาความปลอดภัย
  การใช้บัตรเครดิตเป็นจํานวนมากทําให้ความเสี่ยงของการฉ้อโกงเพิ่มขึ้น ธุรกิจต่างๆ จึงต้องลงทุนในมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ดีเยี่ยมเพื่อสร้างความเชื่อมั่นของลูกค้า

• ความคาดหวังของการบริการลูกค้า
  ลูกค้าในออสเตรเลียอาจคาดหวังถึงบริการลูกค้าในระดับสูง ซึ่งรวมถึงด้านที่เกี่ยวข้องกับการชําระเงินด้วยบัตรเครดิต เช่น การคืนเงิน การโต้แย้งการชําระเงิน และความช่วยเหลือด้านธุรกรรม

สภาพแวดล้อมในการแข่งขัน

• การครองตลาดของธนาคารหลักๆ
  ธนาคารรายใหญ่บางแห่งครองตลาดออสเตรเลีย ซึ่งอาจจํากัดตัวเลือกที่มีให้บริการสําหรับธุรกิจต่างๆ สําหรับบริการของผู้ค้า ซึ่งอาจส่งผลต่อค่าธรรมเนียมและข้อกําหนดการให้บริการ
  

วิธีการที่ Stripe รองรับการชําระเงินด้วยบัตรเครดิตในออสเตรเลีย

แพลตฟอร์ม Stripe, a global online payment processing ให้การสนับสนุนแบบครอบคลุมสําหรับธุรกิจที่รับชําระเงินด้วยบัตรเครดิตจากลูกค้าในออสเตรเลีย ระบบของ Stripe ออกแบบมาเพื่อสร้างประสบการณ์การชําระเงินที่ง่ายดายและปลอดภัยสําหรับธุรกิจและลูกค้า ต่อไปนี้คือวิธีการที่ Stripe ใช้เพื่ออํานวยความสะดวกในการชําระเงินด้วยบัตรเครดิตในออสเตรเลีย

• วิธีการชําระเงินที่หลากหลาย
  Stripe อนุญาตให้ธุรกิจในออสเตรเลียรับบัตรเครดิตรายใหญ่ทั้งหมด รวมถึง Visa, Mastercard, American Express และอีกมากมาย ธุรกิจหลากหลายประเภทนี้สามารถตอบสนองฐานลูกค้าในวงกว้างได้

• การชําระเงินทั้งในและต่างประเทศ
  แพลตฟอร์มของ Stripe มีระบบจัดการธุรกรรมบัตรเครดิตทั้งในและต่างประเทศ ทําให้แพลตฟอร์มนี้เหมาะอย่างยิ่งสําหรับธุรกิจที่ดําเนินธุรกิจทั้งในประเทศและทั่วโลก

• การแปลงสกุลเงิน
  สําหรับธุรกรรมต่างประเทศ Stripe รองรับการแปลงสกุลเงิน โดยให้ลูกค้าชำระเงินเป็นสกุลเงินท้องถิ่นของตน ขณะที่ธุรกิจได้รับการชำระเงินเป็นดอลลาร์ออสเตรเลีย (หรือสกุลเงินที่ต้องการอื่นๆ)

• การรักษาความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกําหนด
  Stripe ปฏิบัติตามมาตรฐานระดับสูงสุดในแวดวงธุรกิจ ซึ่งรวมถึง PCI DSS เพื่อรับประกันการทําธุรกรรมที่ปลอดภัย การปฏิบัติตามข้อกําหนดนี้มีความสําคัญในการปกป้องทั้งข้อมูลธุรกิจและข้อมูลลูกค้า

• ระบบตรวจจับและป้องกันการฉ้อโกง
  Stripe ใช้อัลกอริทึมขั้นสูงและเทคนิคแมชชีนเลิร์นนิงในการตรวจจับและป้องกันธุรกรรมที่เป็นการฉ้อโกง ฟีเจอร์นี้เป็นกุญแจสําคัญในการลดความเสี่ยงการดึงเงินคืนและการชําระเงินที่ไม่ได้รับอนุญาต

• การผสานการทํางานที่ง่ายดาย
  Stripe มอบตัวเลือกการผสานการทํางานหลากหลายแบบสําหรับธุรกิจ ซึ่งรวมถึงหน้าชําระเงินสําเร็จรูปและอินเทอร์เฟซการเขียนโปรแกรมแอปพลิเคชัน (API) ความยืดหยุ่นนี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างประสบการณ์การชําระเงินที่มีประสิทธิภาพซึ่งสอดคล้องกับการออกแบบเว็บไซต์หรือแอปของตน

• การรายงานและการวิเคราะห์แบบเรียลไทม์
  Stripe ให้บริการข้อมูลและการวิเคราะห์แบบเรียลไทม์ โดยนําเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มการชําระเงิน รวมถึงธุรกรรมที่ไม่สําเร็จ และพฤติกรรมของลูกค้า ซึ่งเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจทางธุรกิจอย่างมีข้อมูล

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรับชําระเงินด้วยบัตรเครดิตผ่าน Stripe ในออสเตรเลีย