คำอธิบายเกี่ยวกับการประมวลผลการชําระเงิน: สิ่งนี้คืออะไรและและมีวิธีทํางานอย่างไร

Payments
Payments

รับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกด้วยโซลูชันการชำระเงินที่สร้างมาสำหรับธุรกิจทุกขนาด ตั้งแต่ธุรกิจสตาร์ทอัพไปจนถึงองค์กรใหญ่ระดับโลก

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. การประมวลผลการชําระเงินคืออะไร
  3. เหตุใดการประมวลผลการชําระเงินจึงสําคัญต่อธุรกิจ
  4. องค์ประกอบของการประมวลผลการชําระเงิน
  5. การประมวลผลการชําระเงินมีหลักการทํางานอย่างไร
    1. 1. การเริ่มต้นธุรกรรม
    2. 2. เกตเวย์การชําระเงิน
    3. 3. การอนุมัติธุรกรรม
    4. 4. การยืนยันโดยธนาคารผู้ออกบัตร
    5. 5. การตอบกลับการอนุมัติ
    6. 6. ธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์
    7. 7. การชําระค่าธุรกรรม
    8. 8. การกระทบยอดและการรายงาน
  6. แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดด้านการประมวลผลการชําระเงินสําหรับธุรกิจ

คาดการณ์กันว่าการชำระเงินแบบดิจิทัลจะมีมูลค่าถึง 9.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2023 ธุรกิจทุกขนาดจะต้องเข้าใจพื้นฐานที่ซับซ้อนของการประมวลผลการชําระเงินเพื่อให้แข่งขันกับคู่แข่งได้ และนำเสนอวิธีการชําระเงินที่ง่าย ปลอดภัย และสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า

สำหรับธุรกิจที่รับชำระเงินจากลูกค้า การประมวลผลการชำระเงินมีบทบาทสําคัญในการจัดการกระแสเงินสด เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า และบรรเทาความเสี่ยงด้านการฉ้อโกง ขณะที่อุตสาหกรรมการชําระเงินพัฒนาไปพร้อมกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วและพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป ธุรกิจต่างๆ จึงต้องเท่าทันข่าวสารเกี่ยวกับแนวโน้มอุตสาหกรรม ระเบียบข้อบังคับ และมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยเพื่อให้มั่นใจว่าจะปรับตัวได้

ด้านล่างนี้ เราจะสำรวจการประมวลผลการชําระเงินในด้านต่างๆ รวมถึงองค์ประกอบ การทำงานของการประมวลผลการชําระเงิน แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสําหรับธุรกิจ และความสําคัญของการเลือกผู้ให้บริการที่เหมาะสมเพื่อช่วยให้คุณสร้างและดูแลระบบประมวลผลการชําระเงินอย่างมีประสิทธิภาพ การเข้าใจแนวคิดเหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับกลยุทธ์และโซลูชันการประมวลผลการชําระเงินของตนได้อย่างมีข้อมูล และส่งมอบประสบการณ์การชําระเงินที่กระตุ้นการเติบโตได้

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

  • การประมวลผลการชําระเงินคืออะไร
  • เหตุใดการประมวลผลการชําระเงินจึงสําคัญต่อธุรกิจ
  • องค์ประกอบของการประมวลผลการชําระเงิน
  • การประมวลผลการชําระเงินมีหลักการทํางานอย่างไร
  • แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดด้านการประมวลผลการชําระเงินสําหรับธุรกิจ

การประมวลผลการชําระเงินคืออะไร

การประมวลผลการชําระเงินคือลําดับของการดําเนินการที่โอนเงินทุนระหว่างผู้ชําระเงินกับผู้รับเงินอย่างปลอดภัย โดยปกติแล้วจะประกอบด้วยการอนุมัติ การยืนยัน และการชําระเงินของรายการธุรกรรมผ่านระบบการชําระเงินอิเล็กทรอนิกส์

ระบบประมวลผลการชําระเงินรองรับธุรกรรมหลายประเภท เช่น บัตรเครดิตและบัตรเดบิต การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (EFT) การโอนผ่านสํานักหักบัญชีอัตโนมัติ (ACH) การชําระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ กระเป๋าเงินดิจิทัล และคริปโตเคอร์เรนซี โดยผู้มีส่วนเกี่ยวข้องหลากหลายกลุ่ม เช่น ธนาคาร สถาบันการเงิน ผู้ประมวลผลการชําระเงิน ผู้ให้บริการเทคโนโลยี ธุรกิจ และหน่วยงานกํากับดูแล เป็นผู้พัฒนาและจัดการระบบเหล่านี้

เหตุใดการประมวลผลการชําระเงินจึงสําคัญต่อธุรกิจ

เทคโนโลยี บริการ และเครื่องมือทางการเงินที่หลากหลาย (เครื่องมือทางการเงินหรือเครื่องมือดิจิทัลใดๆ ที่ใช้ทําธุรกรรมแบบไม่ใช้เงินสด เช่น บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต) ทํางานร่วมกันเพื่อให้การโอนเงินระหว่างคู่สัญญาทําได้รวดเร็วและปลอดภัย ระบบประมวลผลการชําระเงินช่วยอํานวยความสะดวกด้านการค้า สนับสนุนอีคอมเมิร์ซ และส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ โซลูชันการประมวลผลการชําระเงินที่ธุรกิจเลือกใช้เป็นเครื่องกําหนดว่าธุรกิจนั้นจะสามารถโต้ตอบกับลูกค้าและธุรกิจการค้าในวงกว้างได้ดีเพียงใด

นอกจากนี้ ธุรกิจทุกขนาดต่างก็ต้องพึ่งพาการประมวลผลการชําระเงินที่มีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้ซึ่งจะช่วยจัดการกระแสเงินสด ความพึงพอใจของลูกค้า และการปฏิบัติงานทางธุรกิจโดยรวมด้วย การนำเสนอทางเลือกการชําระเงินที่หลากหลายช่วยให้ธุรกิจสามารถรองรับความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและเสริมสร้างความเชื่อมั่นของลูกค้า อีกทั้งระบบประมวลผลการชําระเงินที่ทํางานได้ดียังช่วยลดความเสี่ยงจากการฉ้อโกง เพิ่มความปลอดภัยให้ข้อมูล และช่วยในการปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับและมาตรฐานอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องอีกด้วย

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สภาพการณ์ด้านการประมวลผลการชําระเงินเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากจากขับเคลื่อนด้วยความก้าวหน้าในเทคโนโลยี พฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป และการเติบโตของผู้ให้บริการรายใหม่ๆ ในตลาด การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทําให้เกิดโซลูชันการชําระเงินที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ การเข้าถึงบริการทางการเงินทำได้มากขึ้น และการแข่งขันในตลาดก็มากขึ้นด้วย ด้วยเหตุนี้ ปัจจุบันธุรกิจและลูกค้าจึงได้รับประโยชน์จากตัวเลือกการประมวลผลการชําระเงินที่รวดเร็ว ปลอดภัยมากขึ้น และสะดวกยิ่งขึ้น

องค์ประกอบของการประมวลผลการชําระเงิน

การประมวลผลการชําระเงินมีองค์ประกอบหลายรายการที่ทํางานร่วมกันเพื่อให้ธุรกรรมระหว่างลูกค้ากับธุรกิจทำได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ องค์ประกอบเหล่านี้ประกอบด้วย

  • ลูกค้า: บุคคลหรือหน่วยงานที่เริ่มต้นการชําระเงินค่าสินค้าหรือบริการ
  • ผู้ค้า: ธุรกิจหรือผู้ให้บริการที่รับการชําระเงินจากลูกค้า
  • วิธีการชําระเงิน: วิธีที่ลูกค้าใช้ชําระเงิน เช่น บัตรเครดิต บัตรเดบิต กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือคริปโตเคอร์เรนซี
  • ระบบระบบบันทึกการขาย (POS): แพลตฟอร์มจริงหรือดิจิทัลที่มีการทําธุรกรรม เช่น เทอร์มินัลร้านค้าปลีก เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ หรือแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
  • เกตเวย์การชําระเงิน: บริการที่บันทึกและส่งข้อมูลการชําระเงินจากระบบ POS ไปยังผู้ประมวลผลการชําระเงินหรือธนาคารผู้รับบัตรอย่างปลอดภัย ช่วยให้มั่นใจในการเข้ารหัสและความปลอดภัยของข้อมูลที่ละเอียดอ่อนระหว่างขั้นตอนการทําธุรกรรม
  • ผู้ประมวลผลการชําระเงิน: บริษัทบุคคลที่สามที่ดูแลธุรกรรมในด้านเทคนิค ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบข้อมูลการชําระเงิน การขออนุญาต และการจัดการการสื่อสารระหว่างธนาคารผู้รับบัตรและธนาคารผู้ออกบัตร
  • ธนาคารผู้รับบัตร หรือสถาบันผู้รับบัตร: สถาบันการเงินที่ถือบัญชีของผู้ค้า รับชําระเงินในนามของลูกค้า ประมวลผลธุรกรรม และชําระเงินในบัญชีของผู้ค้า
  • เครือข่ายบัตร: องค์กร (เช่น Visa, Mastercard และ American Express) ที่ก่อตั้งกฎระเบียบ มาตรฐาน และโครงสร้างพื้นฐานสําหรับการประมวลผลธุรกรรม โดยใช้เครื่องมือการชําระเงินในแบรนด์ของตนเอง
  • ธนาคารผู้ออกบัตรหรือสถาบันผู้ออกบัตร: สถาบันการเงินที่ออกเครื่องมือการชําระเงินให้กับลูกค้า และมีหน้าที่อนุมัติหรือปฏิเสธธุรกรรม โดยพิจารณาจากสถานะบัญชีของลูกค้า เงินทุนที่ใช้ได้ และปัจจัยอื่นๆ
  • ระบบการรักษาความปลอดภัยในการชําระเงิน: เทคโนโลยีและมาตรฐาน เช่น มาตรฐานการรักษาความปลอดภัยข้อมูลสําหรับอุตสาหกรรมบัตรชําระเงิน (PCI DSS) การแปลงเป็นโทเค็น หรือการเข้ารหัส ซึ่งทำให้เกิดความปลอดภัยและความถูกต้องสมบูรณ์ของข้อมูลการชําระเงินตลอดจนป้องกันการฉ้อโกงและการละเมิดข้อมูล
  • การชําระเงินและการกระทบยอด: ขั้นตอนการโอนเงินระหว่างธนาคารผู้ออกบัตรและธนาคารผู้รับบัตร ตามด้วยการอัปเดตบัญชีของผู้ค้าและการสร้างบันทึกรายการธุรกรมของลูกค้าและผู้ค้า

องค์ประกอบแต่ละส่วนมีบทบาทสําคัญในขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจว่าธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์อย่างปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับและมาตรฐานอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง

การประมวลผลการชําระเงินมีหลักการทํางานอย่างไร

ขั้นตอนนี้มีหลายขั้นตอนและหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ต่อไปนี้คือคําอธิบายการทํางานของการประมวลผลการชําระเงิน

Guide to payment processing - A flow chart visualizing how payment processing works.

1. การเริ่มต้นธุรกรรม

ลูกค้าเริ่มต้นการชําระเงินโดยแจ้งข้อมูลการชําระเงินของตน (เช่น บัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือวิธีการชําระเงินอื่น) ที่จุดขายในร้านค้าจริงหรือผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซหรือแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่

2. เกตเวย์การชําระเงิน

เมื่อลูกค้าส่งข้อมูลการชําระเงินแล้ว ระบบจะส่งข้อมูลดังกล่าวอย่างปลอดภัยไปยังเกตเวย์การชําระเงินซึ่งทําหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างลูกค้า ธุรกิจ และผู้ประมวลผลการชําระเงิน เกตเวย์การชําระเงินมีหน้าที่เข้ารหัสข้อมูลธุรกรรมและตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลนั้นถูกส่งอย่างปลอดภัยไปยังผู้ประมวลผลการชําระเงินหรือธนาคารผู้รับบัตร

3. การอนุมัติธุรกรรม

ผู้ประมวลผลการชําระเงินจะได้รับข้อมูลธุรกรรมจากเกตเวย์การชําระเงินและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล จากนั้นจะส่งต่อรายละเอียดธุรกรรมไปให้ธนาคารผู้รับบัตร ซึ่งจะส่งข้อมูลไปให้เครือข่ายบัตรเพื่อการตรวจสอบและอนุมัติ

4. การยืนยันโดยธนาคารผู้ออกบัตร

เครือข่ายบัตรส่งต่อรายละเอียดธุรกรรมไปยังธนาคารผู้ออกบัตร ธนาคารผู้ออกบัตรยืนยันสถานะบัญชีของลูกค้า ตรวจสอบยอดเงินหรือวงเงินที่ใช้ได้ แล้วประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ธนาคารที่ออกบัตรอาจอนุมัติหรือปฏิเสธธุรกรรมโดยอิงตามปัจจัยเหล่านี้

5. การตอบกลับการอนุมัติ

ธนาคารผู้ออกบัตรจะส่งคำตอบว่าอนุมัติหรือการปฏิเสธผ่านเครือข่ายบัตรไปยังธนาคารผู้รับบัตร ซึ่งจะส่งต่อคำตอบไปยังผู้ประมวลผลการชําระเงิน จากนั้นผู้ประมวลผลการชําระเงินจะส่งคำตอบไปยังเกตเวย์การชําระเงิน ซึ่งจะสื่อสารผลลัพธ์ไปยังระบบ POS หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ของธุรกิจ

6. ธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์

หากธุรกรรมได้รับการอนุมัติ ธุรกิจจะทำการขายให้เสร็จสมบูรณ์โดยมอบสินค้าหรือบริการแก่ลูกค้า หากธุรกรรมถูกปฏิเสธ ธุรกิจอาจขอให้ลูกค้าชำระเงินด้วยวิธีการอื่น

7. การชําระค่าธุรกรรม

เมื่อสิ้นสุดแต่ละวัน ธุรกิจจะส่งชุดธุรกรรมที่ได้รับการอนุมัติจํานวนหนึ่งไปยังผู้ประมวลผลการชําระเงินหรือธนาคารผู้รับบัตรเพื่อ่ชำระค่าธุรกรรม ธนาคารผู้รับบัตรจะส่งคําขอเงินจากธนาคารผู้ออกบัตรผ่านเครือข่ายบัตร ธนาคารผู้ออกบัตรจะโอนเงินไปยังธนาคารผู้รับบัตร ซึ่งจากนั้นจะฝากเงินเข้าบัญชีของธุรกิจ ซึ่งปกติแล้วจะดําเนินการภายใน 2-3 วันทําการ

8. การกระทบยอดและการรายงาน

ธุรกิจจะกระทบยอดธุรกรรมที่ชําระแล้วกับบันทึกการขายและค่าธรรมเนียมธุรกรรมที่เรียกเก็บโดยผู้ประมวลผลการชําระเงิน ธนาคารผู้รับบัตร หรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งธุรกิจและลูกค้าจะได้รับบันทึกรายการธุรกรรม เช่น ใบแจ้งหนี้ ใบเสร็จ รับเงิน หรือรายการเดินบัญชี

แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดด้านการประมวลผลการชําระเงินสําหรับธุรกิจ

การนําแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดด้านการประมวลผลการชําระเงินมาใช้จะช่วยยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า ลดความเสี่ยงจากการฉ้อโกง และช่วยให้การดำเนินงานสอดคล้องกับระเบียบข้อบังคับและมาตรฐานของอุตสาหกรรม นอกจากนี้ การส่งเสริมแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดเหล่านี้ยังเป็นวิธีที่ดีในการปลูกฝังให้มีชุดขั้นตอนภายในเกี่ยวกับการชำระเงินที่มีแบบแผนอย่างดี ซึ่งจะช่วยให้ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและลดข้อผิดพลาดได้

ต่อไปนี้คือแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดด้านการประมวลผลการชําระเงินข้อสำคัญสําหรับธุรกิจ

  • สร้างสภาพแวดล้อมการชําระเงินที่ปลอดภัย
    ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด เช่น การเข้ารหัส การแปลงเป็นโทเค็น และใบรับรอง Secure Sockets Layer (SSL) เพื่อปกป้องข้อมูลการชําระเงินที่ละเอียดอ่อนระหว่างการส่งและจัดเก็บข้อมูล ปฏิบัติตามข้อกําหนดของ PCI DSS และมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดสภาพแวดล้อมการชําระเงินที่ปลอดภัย

  • เสนอทางเลือกการชําระเงินที่หลากหลาย
    ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าและยกระดับประสบการณ์การซื้อของลูกค้าด้วยการมอบตัวเลือกการชําระเงินที่หลากหลาย เช่น บัตรเครดิตและบัตรเดบิต กระเป๋าเงินดิจิทัล และวิธีการชําระเงินทางเลือก

  • ใช้ผู้ประมวลผลการชําระเงินที่มีชื่อเสียง
    เลือกผู้ประมวลผลการชําระเงินที่เชื่อถือได้และมีชื่อเสียงซึ่งมีโซลูชันการประมวลผลการชําระเงินแบบครบวงจร มีเครื่องมือป้องกันการฉ้อโกงขั้นสูง ค่าธรรมเนียมใกล้เคียงกับผู้ให้บริการรายอื่น และให้การสนับสนุนลูกค้าที่ยอดเยี่ยม

  • อัปเดตซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์เป็นประจํา
    ตรวจสอบให้แน่ใจว่าซอฟต์แวร์ประมวลผลการชําระเงิน ฮาร์ดแวร์ และการผสานการทํางานของคุณเป็นปัจจุบันโดยลงแพตช์ความปลอดภัยและใช้เทคโนโลยีล่าสุด ซึ่งจะช่วยลดช่องโหว่และคงประสิทธิภาพและความปลอดภัยให้กับระบบประมวลผลการชําระเงินของคุณ

  • ฝึกอบรมพนักงาน
    ให้ความรู้พนักงานเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการประมวลผลการชําระเงิน ระเบียบการรักษาความปลอดภัย และมาตรการป้องกันการฉ้อโกง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพนักงานทราบนโยบายและขั้นตอนปฏิบัติในการประมวลผลการชําระเงินของบริษัทแล้ว และสามารถจดจําและรับมือกับภัยคุกคามด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นได้

  • นําเครื่องมือป้องกันการฉ้อโกงไปใช้งาน
    ใช้เครื่องมือป้องกันการฉ้อโกงขั้นสูง เช่น บริการยืนยันที่อยู่ (AVS) การตรวจสอบรหัสยืนยันบัตร (CVV) และการตรวจสอบสิทธิ์แบบ 3D Secure เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดธุรกรรมที่เป็นการฉ้อโกงและการดึงเงินคืน

  • ตรวจสอบธุรกรรม
    ติดตามตรวจสอบกิจกรรมการประมวลผลการชําระเงินของคุณเป็นประจํา เพื่อหารูปแบบที่ผิดปกติหรือสัญญาณการฉ้อโกง ตั้งค่าการแจ้งเตือนเพื่อรับข่าวสารเกี่ยวกับกิจกรรมที่น่าสงสัยแบบเรียลไทม์

  • จัดให้มีนโยบายการคืนเงินและการดึงเงินคืนที่ชัดเจน
    พัฒนาและสื่อสารนโยบายการคืนเงินและการดึงเงินคืนกับลูกค้าอย่างชัดเจน เพื่อลดการโต้แย้งการชําระเงินและความเข้าใจผิด ให้บริการลูกค้าที่ครอบคลุมเพื่อแก้ไขปัญหาทันที เพื่อลดความเสี่ยงที่จะถูกดึงเงินคืน

  • เพิ่มประสิทธิภาพการกระทบยอดและการรายงาน
    นำขั้นตอนการกระทบยอดและการรายงานที่มีประสิทธิภาพมาใช้เพื่อให้การทําบัญชีมีความถูกต้อง มีการชําระเงินที่ตรงเวลา และคอยติดตามดูกิจกรรมการประมวลผลการชําระเงินของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ

  • รับข่าวสารเกี่ยวกับแนวโน้มอุตสาหกรรมและระเบียบข้อบังคับ
    การประมวลผลการชําระเงินมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับพัฒนาการล่าสุดด้านเทคโนโลยีการประมวลผลการชําระเงิน แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม และการเปลี่ยนแปลงระเบียบข้อบังคับเพื่อให้มั่นใจว่าธุรกิจของคุณปฏิบัติตามข้อกําหนดและแข่งขันได้อยู่เสมอ

ผู้ให้บริการประมวลผลการชําระเงินเช่น Stripe สามารถปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดเหล่านี้ได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงระบบประมวลผลการชําระเงินที่มีประสิทธิภาพและใช้งานได้ดีโดยไม่ต้องมีภาระด้านทรัพยากร สําหรับข้อมูลเพิ่มเติมว่า Stripe สามารถตอบสนองความต้องการด้านการประมวลผลการชําระเงินที่ซับซ้อนของธุรกิจสมัยใหม่ได้อย่างไร โปรดเริ่มต้นที่นี่

เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Payments

Payments

รับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกด้วยโซลูชันการชำระเงินที่สร้างมาสำหรับธุรกิจทุกขนาด

Stripe Docs เกี่ยวกับ Payments

ค้นหาคู่มือเกี่ยวกับการเชื่อมต่อ Payments API ของ Stripe