กระเป๋าเงินดิจิทัลกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในการใช้งาน ทั้งในการซื้อออนไลน์และการซื้อที่จุดขาย จากรายงานของ Juniper Research คาดว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลจะใช้ในมากกว่า 50% ของมูลค่าธุรกรรมอีคอมเมิร์ซทั่วโลกภายในปี 2025 เพิ่มขึ้นจากประมาณ 40% ในปี 2021
ในคู่มือนี้ เราจะแชร์สิ่งที่ธุรกิจควรทราบเกี่ยวกับการชำระเงินด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นวิธีการใช้งาน แอปกระเป๋าเงินดิจิทัลยอดนิยม และวิธีนำการชำระเงินดังกล่าวไปรวมไว้ในกลยุทธ์การประมวลผลการชำระเงิน
บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง
- กระเป๋าเงินดิจิทัลคืออะไร
- ประเภทของกระเป๋าเงินดิจิทัล
- กระเป๋าเงินดิจิทัลเก็บอะไรไว้บ้าง
- กระเป๋าเงินดิจิทัลทำงานอย่างไร
- กระเป๋าเงินดิจิทัลปลอดภัยหรือไม่
- วิธีรับชำระเงินด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัล
- ประโยชน์ที่ธุรกิจจะได้รับจากการชำระเงินด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัล
- ธุรกิจประเภทใดบ้างที่ต้องรับชำระเงินด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัล
- ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงินด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัล
- ประโยชน์ของ Stripe Payments
กระเป๋าเงินดิจิทัลคืออะไร
กระเป๋าเงินดิจิทัลคือแอปพลิเคชันที่ทำงานบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ เช่น สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต โดยทำหน้าที่เก็บข้อมูลการชำระเงิน ช่วยให้ผู้ใช้สามารถชำระเงินสำหรับการซื้อโดยตรงจากอุปกรณ์นั้นๆ แทนที่จะใช้บัตรจริง กระเป๋าเงินดิจิทัลมีวิธีการชำระเงินหลากหลายรูปแบบให้ลูกค้าใช้ที่ระบบบันทึกการขาย เช่น บัตรเครดิต บัตรเดบิต และหมายเลขบัญชีธนาคาร เช่นเดียวกับกระเป๋าเงินจริง
เมื่อมีกระเป๋าเงินดิจิทัล ลูกค้าจะไม่จำเป็นต้องป้อนข้อมูลบัตรและข้อมูลการเรียกเก็บเงินเองอีกต่อไป กระเป๋าเงินดิจิทัลส่วนใหญ่ช่วยให้อุปกรณ์เคลื่อนที่สามารถชำระเงินที่ระบบบันทึกการขายใดก็ได้ที่เปิดรับการทำธุรกรรมแบบไม่ต้องสัมผัส กระเป๋าเงินดิจิทัลบางเจ้ายังเปิดให้ลูกค้าใช้รางวัล แลกคะแนนสะสม หรือเก็บตั๋วคอนเสิร์ตและภาพยนตร์ บัตรประจำตัว บอร์ดดิ้งพาส หรือคริปโตเคอร์เรนซีด้วย
ประเภทของกระเป๋าเงินดิจิทัล
วงการกระเป๋าเงินดิจิทัลมีการแข่งขันสูงและกำลังเติบโต บริษัทอย่าง PayPal, Venmo และ Cash App ต่างก็เสนอผลิตภัณฑ์กระเป๋าเงินดิจิทัลที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถชำระค่าสินค้าหรือบริการทางออนไลน์หรือที่จุดขายได้โดยใช้แอปที่เกี่ยวข้อง ธนาคารและบริษัทบัตรเครดิตหลายแห่งมีฟังก์ชันกระเป๋าเงินดิจิทัลเป็นของตนเองในแอปพลิเคชันบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
ต่อไปนี้คือตัวอย่างกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมสูงสุด
Apple Pay
Apple Pay เป็นผู้นำในกลุ่มกระเป๋าเงินดิจิทัล ซึ่งประมวลผลเม็ดเงินประมาณ 10 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี โดยมีผู้ใช้มากกว่า 60 ล้านคนในสหรัฐอเมริกาในปี 2025 แอปกระเป๋าเงินของ Apple สามารถใช้งานได้บนอุปกรณ์ Apple เช่น iPhone, iPad และ Apple Watch การผสานการทำงานกับระบบนิเวศของ Apple ทำให้ Apple Pay สะดวกสำหรับผู้ใช้หลายล้านคนGoogle Pay
Google Pay มีผู้ใช้มากกว่า 100 ล้านคน เพราะรองรับทั้งการชำระเงินออนไลน์และในร้านค้าและผสานการทำงานกับอุปกรณ์ Android และบริการของ Google ทำให้เข้าถึงได้อย่างกว้างขวางAmazon Pay
ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซอย่าง Amazon ก็มีกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมอย่างมากเช่นกัน Amazon Pay ช่วยให้ผู้ใช้สามารถชำระเงินได้อย่างรวดเร็วในเว็บไซต์ของบุคคลที่สามโดยใช้วิธีการชำระเงินที่จัดเก็บไว้ในบัญชี Amazon ของตนPayPal
PayPal เสนอหนึ่งในกระเป๋าเงินดิจิทัลที่เชื่อถือได้และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางที่สุด โดยรองรับทุกอย่างตั้งแต่การซื้อสินค้าผ่านอีคอมเมิร์ซไปจนถึงการโอนเงินระหว่างบุคคลClick to Pay
Visa, American Express, Mastercard และ Discover ร่วมกันเปิดตัว Click to Pay ซึ่งเป็นระบบการชำระเงินออนไลน์แบบครบวงจรที่ทำงานร่วมกับบัตรเครดิตรายใหญ่ที่สุด โดยมอบประสบการณ์การชำระเงินที่สม่ำเสมอและไม่ต้องใช้รหัสผ่านในผู้ค้าและอุปกรณ์ต่างๆ ที่เข้าร่วมAlipay
Alipay เป็นแพลตฟอร์มการชำระเงินดิจิทัลชั้นนำของจีน โดยมีผู้ใช้ถึง 1.43 พันล้านคนภายในกลางปี 2024 ได้รับความนิยมในตลาดจีนและมีบทบาทสำคัญในด้านการซื้อขายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ การชำระเงินตามใบเรียกเก็บเงิน และการทำธุรกรรมระหว่างประเทศWeChat Pay
กระเป๋าเงินดิจิทัลยอดนิยมอีกเจ้าหนึ่งของจีนคือ WeChat Pay มีผู้ใช้กว่า 900 ล้านคน โดยผสานการทำงานกับแอปพลิเคชันการส่งข้อความ WeChat จึงช่วยผู้ใช้สามารถชำระเงิน โอนเงิน และทำการซื้อในแอปบนบริการที่หลากหลาย
กระเป๋าเงินดิจิทัลเก็บอะไรไว้บ้าง
กระเป๋าเงินดิจิทัลยังสามารถเก็บรายการดิจิทัลที่หลากหลาย ตัวอย่างเช่น
- ข้อมูลบัตรเครดิตและบัตรเดบิต
- บัตรของขวัญและเครดิตร้านค้า
- ใบขับขี่และบัตรประจำตัวดิจิทัล
- คริปโตเคอเรนซี (ในกระเป๋าเงินคริปโตโดยเฉพาะ)
- บอร์ดดิ้งพาสและเอกสารการเดินทาง
- บัตรผ่านในการขนส่งสาธารณะและตั๋วเข้าร่วมงานกิจกรรม
- บัตรสมาชิก
- บัตรประกัน
- บัตรสะสมคะแนนและรางวัล
- การจองโรงแรมและร้านอาหาร
- ข้อมูลการเรียกเก็บเงินและการจัดส่ง
- รายละเอียดบัญชีธนาคารสำหรับ ACH หรือการโอนโดยตรง
กระเป๋าเงินดิจิทัลได้พัฒนาจากเครื่องมือชำระเงินง่ายๆ จนกลายเป็นศูนย์กลางทางการเงินแบบครบวงจร นอกจากการเก็บบัตรเครดิตและบัตรเดบิตแล้ว ยังสามารถเก็บคริปโตเคอเรนซี รายละเอียดบัญชีธนาคาร บัตรประจำตัวดิจิทัล และบันทึกสุขภาพได้อีกด้วย แอปพลิเคชันระหว่างบุคคลและแอปเงินสด เช่น Venmo, Cash App และ Zelle ได้เพิ่มฟีเจอร์คล้ายกระเป๋าเงิน ทำให้ผู้ใช้สามารถเก็บยอดเงิน ลงทุน หรือชำระเงินโดยตรงจากแอปได้
เมื่อกระเป๋าเงินดิจิทัลมีฟังก์ชันการทำงานเพิ่มขึ้น ผู้ใช้จึงหันมาพึ่งพากระเป๋าเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่เพียงอย่างเดียวมากขึ้น ในปี 2024 48% ของผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาที่ร่วมตอบแบบสำรวจใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลในช่วง 90 วันที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 12 จุดเปอร์เซ็นต์จากปี 2023 ผู้ให้บริการกระเป๋าเงินดิจิทัลกำลังพยายามที่ก้าวเข้ามาเป็นศูนย์กลางหลักในการจัดการ โอนย้าย และเข้าถึงเงิน
กระเป๋าเงินดิจิทัลทำงานอย่างไร
ในการใช้กระเป๋าเงินดิจิทัล ผู้ใช้จะต้องปลดล็อกแอปกระเป๋าเงินโดยใช้การจดจำใบหน้า การระบุลายนิ้วมือ หรือรหัส PIN จากนั้นจึงเลือกวิธีการชำระเงินที่จัดเก็บไว้ซึ่งต้องการใช้
สำหรับการซื้อสินค้าทางออนไลน์ เมื่อลูกค้าเลือกกระเป๋าเงินดิจิทัลและเลือกวิธีการชำระเงินที่จัดเก็บไว้ในกระเป๋าเงินซึ่งต้องการใช้สำหรับการซื้อครั้งนั้นแล้ว ลูกค้าจะดำเนินการต่อตามขั้นตอนการชำระเงินของธุรกิจ
สำหรับการซื้อที่จุดขาย กระเป๋าเงินดิจิทัลจะใช้ฟังก์ชันไร้สาย, Bluetooth และแม่เหล็กเพื่อส่งข้อมูลการชำระเงินจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ของลูกค้าไปยังเครื่องอ่านบัตรหรือเทอร์มินัลการชำระเงินที่เปิดใช้งาน ในการทำธุรกรรม ผู้ใช้จะปลดล็อกอุปกรณ์ เลือกวิธีการชำระเงิน จากนั้นถืออุปกรณ์ไว้ใกล้เครื่องอ่านบัตร โดยปกติแล้วการชำระเงินแบบไร้สัมผัสด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัลจะใช้เวลาเพียง 2-3 วินาทีก็เสร็จสิ้นและใช้เทคโนโลยีต่อไปนี้
เทคโนโลยีการสื่อสารในระยะใกล้ (NFC)
เทคโนโลยีการสื่อสารในระยะใกล้ (NFC) เป็นเทคโนโลยีที่นิยมใช้กันมากที่สุดในการขับเคลื่อนระบบการชำระเงินแบบไร้สัมผัส NFC ช่วยให้อุปกรณ์ต่างๆ เช่น สมาร์ทโฟน สมาร์ทวอทช์ และบัตรเครดิตบางประเภท สามารถส่งข้อมูลการชำระเงินไปยังเครื่องอ่านบัตรและเทอร์มินัลการชำระเงินได้อย่างปลอดภัยโดยไม่จำเป็นต้องสัมผัสกันทางกายภาพ
การส่งข้อมูลที่ปลอดภัยด้วยแม่เหล็ก (MST)
การส่งข้อมูลที่ปลอดภัยด้วยแม่เหล็ก (MST) ทำให้สมาร์ทโฟนสามารถส่งสัญญาณเข้ารหัสที่ทำหน้าที่เหมือนแถบแม่เหล็กบนบัตรเครดิตและบัตรเดบิตได้ กระเป๋าเงินดิจิทัลที่ใช้ MST จะส่งข้อมูลการชำระเงินที่เข้ารหัสไปยังเครื่องอ่านบัตรเมื่อลูกค้าถืออุปกรณ์ในระยะใกล้ (โดยปกติจะประมาณไม่กี่เซนติเมตร) หรือแตะที่เครื่อง
รหัส QR
รหัส Quick Response (QR) เป็นบาร์โค้ดเมทริกซ์ที่กล้องบนอุปกรณ์เคลื่อนที่สามารถสแกนเพื่อเริ่มการส่งข้อมูลได้ โดยสามารถใช้เพื่อชำระเงินด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัลได้
หลังจากที่ลูกค้าส่งข้อมูลการชำระเงินจากกระเป๋าเงินดิจิทัลแล้ว เทอร์มินัลหรือเครื่องอ่านบัตรที่ POS จะส่งข้อมูลธุรกรรมไปยังผู้ประมวลผลการชำระเงิน จากนั้นผู้ประมวลผลการชำระเงินจะสื่อสารกับธนาคารผู้ออกบัตรและธนาคารผู้รับบัตรเพื่อประมวลผลการซื้อ
กระเป๋าเงินดิจิทัลปลอดภัยหรือไม่
กระเป๋าเงินดิจิทัลมีความปลอดภัยมาก และใช้การแปลงเป็นโทเค็นเพื่อส่งข้อมูลที่ระบบบันทึกการขาย กระเป๋าเงินดิจิทัลจะสร้างรหัสแบบใช้ครั้งเดียวซึ่งเรียกว่าโทเค็น ซึ่งประกอบด้วยตัวเลขแบบสุ่มและส่งไปให้เครื่องอ่านบัตร แทนที่จะส่งหมายเลขบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตจริงของลูกค้า หากเกิดการละเมิดข้อมูลกับธุรกิจหรือผู้ประมวลผลการชำระเงิน การชำระเงินใดๆ ที่ประมวลผลด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัลจะปลอดภัยกว่าการชำระเงินด้วยบัตรอื่นๆ เนื่องจากไม่มีการใช้หมายเลขบัตร
แอปกระเป๋าเงินดิจิทัลมักจะต้องใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม เช่น การจดจำใบหน้าหรือ PIN ก่อนที่จะเริ่มการชำระเงิน ปัจจุบันกระเป๋าเงินดิจิทัลเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดในการชำระเงินเมื่อเปรียบเทียบกับธุรกรรมผ่านบัตรที่ใช้แถบแม่เหล็กหรือชิป EMV
วิธีรับชำระเงินด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัล
ธุรกิจต่างๆ ต้องตั้งค่าระบบการชำระเงินทั้งทางออนไลน์และที่จุดขายเพื่อรับชำระเงินด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัล ผู้ให้บริการประมวลผลการชำระเงินส่วนใหญ่ ซึ่งรวมถึง Stripe มีฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์สำหรับธุรกิจที่เปิดใช้การรับชำระเงินด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัลอยู่แล้ว
หากคุณเพิ่งเริ่มรับชำระเงินจากลูกค้า คุณอาจยังต้องเลือกผู้ให้บริการผู้ค้าและเปิดบัญชีผู้ค้า ผู้ให้บริการเหล่านี้สามารถช่วยคุณรับและประมวลผลการชำระเงินจากลูกค้าผ่านวิธีการชำระเงินต่างๆ เช่น บัตรเครดิตและบัตรเดบิต เช็ค และการโอนผ่าน ACH รวมถึงกระเป๋าเงินดิจิทัลด้วย นอกจากนี้ ยังมักจำหน่ายซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ระบบบันทึกการขาย (POS) ที่จำเป็นในการรับชำระเงินที่หน้าร้านค้าปลีกจริงและช่องทางออนไลน์ ผู้ให้บริการผู้ค้าบางรายอาจเสนอการสนับสนุนด้านอีคอมเมิร์ซ การตลาด หรือการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยเช่นกัน
ด้านล่างนี้แสดงภาพรวมการรับชำระเงินด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัลแบบออนไลน์ ที่จุดขาย และแอปพลิเคชันบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
รับการชำระเงินด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัลที่จุดขาย
ธุรกิจจะต้องมีเทอร์มินัล POS หรือเครื่องอ่านบัตรที่มีเทคโนโลยี NFC เพื่อรับชำระเงินด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัลแบบไร้สัมผัสสำหรับธุรกรรมที่จุดขาย เทอร์มินัลการชำระเงินรุ่นใหม่ๆ ส่วนใหญ่มีความสามารถในการรองรับกระเป๋าเงินดิจิทัลในตัวรับชำระเงินด้วยกระเป๋าเงินบนเว็บ
หากธุรกิจของคุณรับการชำระเงินบนเว็บไซต์อยู่แล้ว นั่นหมายความว่าคุณใช้เกตเวย์การชำระเงินจากผู้ประมวลผลข้อมูลอย่าง Stripe อยู่แล้ว และอาจรองรับการชำระเงินด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัล Stripe เสนอการผสานการทำงานเดียวที่พร้อมรองรับกระเป๋าเงินทั้งหมดซึ่งใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ของ Stripe ได้ Apple Pay และ Google Pay จะใช้ Stripe Checkout โดยอัตโนมัติ ลูกค้าสามารถสแกนรหัส QR ด้วยโทรศัพท์มือถือเพื่อทำธุรกรรมให้เสร็จสมบูรณ์ได้การรับชำระเงินด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัลบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
Stripe Checkout รองรับการใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลเป็นวิธีการชำระเงินบนมือถือด้วยเช่นกัน ลูกค้าสามารถยืนยันธุรกรรมได้โดยการตรวจสอบข้อมูลประจำตัวกระเป๋าเงินของตนในขั้นตอนการชำระเงินโดยใช้ลายนิ้วมือหรือการจดจำใบหน้า รหัสผ่านมือถือ หรือโดยการเข้าสู่ระบบแอปกระเป๋าเงินของตน

ประโยชน์ที่ธุรกิจจะได้รับจากการชำระเงินด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัล
ธุรกิจหลายแห่งยินดีรับชำระเงินด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัลมากกว่า เหตุผลส่วนหนึ่งที่เป็นเช่นนั้น ได้แก่
สะดวกและง่ายดาย
กระเป๋าเงินดิจิทัลทำให้การชำระเงินง่ายสำหรับทั้งธุรกิจและลูกค้า ที่จุดขาย กระเป๋าเงินดิจิทัลจะช่วยลัดขั้นตอนการชำระเงินและลดเวลารอคอย ไม่ว่าคุณจะรับการชำระเงินด้วยวิธีใด ประสบการณ์ที่รวดเร็วและง่ายดายจะสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้ายอดขายเพิ่มขึ้น
กระเป๋าเงินดิจิทัลทำให้การชำระเงินง่ายขึ้น จึงกระตุ้นให้ผู้ที่อาจเป็นลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการจริงและจูงใจให้ลูกค้าเดิมกลับมาซื้อซ้ำอัตราการเปลี่ยนเป็นลูกค้าบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ดีที่
ลูกค้าหลายคนไม่ต้องการป้อนข้อมูลบัตรเครดิตลงในอุปกรณ์เคลื่อนที่ด้วยตนเองเพื่อทำการซื้อ ส่งผลให้มีรถเข็นที่ถูกละทิ้งมากขึ้นและอัตราการเปลี่ยนเป็นลูกค้าต่ำลง กระเป๋าเงินดิจิทัลสามารถทำให้ประสบการณ์การซื้อบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ง่ายขึ้นความปลอดภัยสูง
การแปลงเป็นโทเค็นทำให้การชำระเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลปลอดภัยและลดความเสี่ยงที่จะเกิดการฉ้อโกงบัตรเครดิต ชั้นความปลอดภัยนี้ช่วยให้ธุรกิจลดต้นทุนการดำเนินงานและลดการเคลมเนื่องจากการฉ้อโกงและการดึงเงินคืน ซึ่งทำให้ธุรกิจสูญเสียเงินผู้บริโภคเปิดรับอย่างรวดเร็ว
ด้วยผู้ใช้มากกว่า 3.4 พันล้านคนทั่วโลก กระเป๋าเงินดิจิทัลกำลังเข้ามาแทนที่กระเป๋าเงินแบบดั้งเดิมอย่างรวดเร็ว ในสหรัฐอเมริกา กระเป๋าเงินดิจิทัลคิดเป็น 30% ของธุรกรรมที่ระบบบันทึกการขายและ 50% ของการซื้อออนไลน์ทั่วโลกในปี 2023 ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงกว่าวิธีการชำระเงินอื่นๆ ทั้งหมด
ธุรกิจประเภทใดบ้างที่ต้องรับชำระเงินด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัล
เพื่อที่จะรับการชำระเงินด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัลสำหรับการซื้อของลูกค้าที่จุดขาย ธุรกิจต้องมีเครื่องอ่านบัตรที่รองรับ NFC และซอฟต์แวร์ POS ที่รองรับกระเป๋าเงินดิจิทัล
หากคุณทำธุรกิจผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์หรือมาร์เก็ตเพลส ช่องทางเหล่านี้มักจะรับกระเป๋าเงินดิจิทัลหลากหลายประเภท โดยที่คุณอาจไม่จำเป็นต้องดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อเปิดใช้งานสำหรับธุรกิจของคุณ สำหรับขั้นตอนการชำระเงินบนเว็บไซต์ คุณต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้ให้บริการชำระเงินรองรับการชำระเงินด้วยกระเป๋าเงินและมีประเภทการชำระเงินเป็นของตัวเอง
ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงินด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัล
ลูกค้าของ Stripe ไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมใดๆ ในการประมวลผลการชำระเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลและค่าบริการต่อธุรกรรมจะเหมือนกับธุรกรรมผ่านบัตรอื่นๆ สำหรับธุรกิจส่วนใหญ่ ค่าใช้จ่ายในการรับการชำระเงินด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัลจะเท่ากับการทำธุรกรรมบัตรเครดิตอื่นๆ อย่างมากที่สุด คุณอาจต้องอัปเกรดฮาร์ดแวร์ของคุณเพื่อให้สามารถรับชำระเงินด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัลได้
ประโยชน์ของ Stripe Payments
Stripe Payments มอบโซลูชันการชำระเงินระดับโลกแบบครบวงจรที่ช่วยให้ธุรกิจใดๆ สามารถรับชำระเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลแบบออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกได้
Stripe Payments สามารถช่วยคุณทำสิ่งต่อไปนี้ได้
- เพิ่มประสิทธิภาพให้ประสบการณ์การชำระเงินของคุณ: สร้างประสบการณ์ที่ราบรื่นให้กับลูกค้าและประหยัดเวลาด้านวิศวกรรมหลายพันชั่วโมงด้วย UI การชำระเงินที่สร้างไว้ล่วงหน้า การเข้าถึงวิธีการชำระเงินมากกว่า 100 วิธี รวมถึงวิธีการชำระเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลมากกว่า 10 ช่องทาง และ Link ซึ่งเป็นกระเป๋าเงินของ Stripe
- ขยายไปสู่ตลาดใหม่ๆ ได้เร็วขึ้น: เข้าถึงลูกค้าทั่วโลกและลดความซับซ้อนและค่าใช้จ่ายในการจัดการหลายสกุลเงินด้วยตัวเลือกการชำระเงินข้ามพรมแดนที่มีให้บริการใน 195 ประเทศและกว่า 135 สกุลเงิน
- รวมการชำระเงินทั้งที่จุดขายและออนไลน์: ติดตามและกระทบยอดการชำระเงินด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัลได้อย่างง่ายดาย ทั้งที่ชำระผ่านช่องทางออนไลน์และที่จุดขาย
- ปรับปรุงประสิทธิภาพการชำระเงิน: เพิ่มรายรับด้วยเครื่องมือการชำระเงินที่กำหนดเองได้และปรับแต่งได้ง่ายๆ ซึ่งรวมถึงระบบป้องกันการฉ้อโกงแบบไม่ต้องเขียนโค้ดและความสามารถขั้นสูงเพื่อเพิ่มอัตราการอนุมัติ
- เดินหน้าได้เร็วขึ้นด้วยแพลตฟอร์มที่ยืดหยุ่นและเชื่อถือได้เพื่อการเติบโต: สร้างบนแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อขยับขยายไปพร้อมกับคุณ โดยมีระยะเวลาให้บริการ 99.999% และความน่าเชื่อถือระดับแนวหน้าของวงการ
เรียนรู้เพิ่มเติมว่า Stripe Payments ช่วยให้คุณสามารถรับชำระเงินออนไลน์และที่จุดขายได้อย่างไร หรือเริ่มใช้งานวันนี้
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ