เนื่องจากมาร์เก็ตเพลสทั่วโลกยังคงขยายตัวต่อไป ธุรกิจต่างๆ จึงใช้ประโยชน์จากโอกาสในการค้าข้ามพรมแดนมากขึ้น ในปี 2022 ลูกค้าจ่ายเงินให้กับธุรกิจต่างๆ ประมาณ $2.8 ล้านล้านในรูปแบบการชำระเงินข้ามพรมแดน ในขณะเดียวกัน มีการชำระเงินข้ามพรมแดนแบบ B2B มูลค่ามากกว่า $150 ล้านล้านในปีนั้น อย่างไรก็ตาม การส่งและรับการชำระเงินข้ามพรมแดนอาจเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและท้าทาย เนื่องจากมีข้อกำหนดด้านกฎระเบียบ ค่าธรรมเนียม และความเสี่ยงต่างๆ ที่ต้องรับมือ
แต่แม้จะมีความท้าทายเหล่านี้ การชำระเงินข้ามพรมแดนก็ยังคงมีความสำคัญสำหรับธุรกิจที่ต้องการขยายเข้าสู่ตลาดใหม่ เข้าถึงลูกค้าใหม่ และกระจายแหล่งรายได้ของตน และความท้าทายเหล่านี้ล้วนมีทางออก เมื่อใช้วิธีการและกลยุทธ์การชำระเงินที่ถูกต้อง ธุรกิจต่างๆ จะสามารถลดต้นทุน ปรับปรุงกระแสเงินสด และเร่งการเติบโตได้
ด้านล่างนี้ เราจะสำรวจประเภทต่างๆ ของการชำระเงินข้ามพรมแดนที่มีให้บริการ ประโยชน์และข้อเสียของการชำระเงินข้ามพรมแดนสำหรับธุรกิจ และกระบวนการในการส่งและรับการชำระเงินข้ามพรมแดน ไม่ว่าคุณจะเป็นองค์กรที่มั่นคงแล้วหรือเป็นสตาร์ทอัพที่กำลังเติบโต การทำความเข้าใจและการวางแผนสำหรับการชำระเงินข้ามพรมแดนถือเป็นสิ่งสำคัญในการแข่งขันและทำให้การดำเนินการทางการเงินของคุณมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากที่สุด
บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง
- การชําระเงินข้ามพรมแดนคืออะไร
- วิธีการชําระเงินข้ามพรมแดน
- การชําระเงินข้ามพรมแดนใช้สําหรับอะไร
- ประโยชน์และข้อเสียของการชําระเงินข้ามพรมแดน
- วิธีการส่งการชําระเงินข้ามพรมแดน
- การเบิกจ่ายข้ามพรมแดนด้วย Stripe
การชําระเงินข้ามพรมแดนคืออะไร
การชำระเงินข้ามพรมแดนคือธุรกรรมทางการเงินที่เกิดขึ้นระหว่างผู้ที่อยู่ในประเทศต่างกัน การชำระเงินเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการโอนเงินหรือสินทรัพย์จากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่ง โดยทั่วไปผ่านทางธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่นๆ ธุรกรรมเหล่านี้สามารถเริ่มต้นโดยบุคคลหรือธุรกิจ ซึ่งมักต้องมีการแปลงสกุลเงิน และสามารถทำได้โดยใช้ช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย
วิธีการชําระเงินข้ามพรมแดน
การชําระเงินจะถือว่าเป็นการชําระเงินข้ามพรมแดนเมื่อผู้ชําระเงินและผู้รับเงินอยู่ในประเทศที่ต่างกัน ไม่ว่าการชําระเงินนั้นจะใช้กลไกใดก็ตาม ในการทำธุรกรรมใดๆ การเลือกวิธีการชำระเงินที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น จำนวนเงินที่โอน ความรวดเร็วของธุรกรรม สกุลเงินที่เกี่ยวข้อง และค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับแต่ละวิธี ธุรกิจและบุคคลที่จำเป็นต้องเริ่มต้นการชำระเงินข้ามพรมแดนควรพิจารณาตัวเลือกวิธีการชำระเงินข้ามพรมแดนต่างๆ ที่พร้อมให้บริการ และเลือกวิธีการที่เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของตนที่สุด
การชําระเงินข้ามพรมแดนมีหลายวิธี ซึ่งประกอบด้วยวิธีดังต่อไปนี้
การโอนเงินระหว่างธนาคาร: การโอนเงินระหว่างธนาคาร คือการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างธนาคารหรือสถาบันการเงินที่แตกต่างกันสองแห่ง ในส่วนต่างๆ ของโลก การโอนเงินระหว่างธนาคารจะถูกส่งโดยใช้เครือข่ายต่างๆ ที่ให้บริการในพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่แตกต่างกัน การชำระเงินประเภทนี้มักใช้สำหรับธุรกรรมขนาดใหญ่ ซึ่งมีขีดจำกัดจำนวนเงินที่แตกต่างกันไปตามสถานที่และเครือข่าย และสามารถส่งเป็นสกุลเงินอื่นได้
ธุรกรรมผ่านบัตรเครดิต: บัตรเครดิตได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั่วโลก และธุรกิจต่างๆ สามารถรับชำระเงินจากลูกค้าในสกุลเงินต่างๆ ได้ การทำธุรกรรมบัตรเครดิตอาจต้องเสียค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินและค่าใช้จ่ายอื่นๆ
การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (EFT): การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ มักถูกเรียกว่าการโอนเงินทางธนาคาร เช็คอิเล็กทรอนิกส์ หรือการชําระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ การโอนเงินเหล่านี้ช่วยให้บุคคลทั่วไปและธุรกิจส่งและรับเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย การชําระเงินประเภทนี้รวดเร็วและสะดวกกว่าการชําระเงินข้ามพรมแดนรูปแบบอื่นๆ
ธนาณัติระหว่างประเทศ: ธนาณัติะหว่างประเทศเป็นวิธีการชำระเงินแบบกระดาษที่สามารถส่งทางไปรษณีย์หรือส่งทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านผู้ให้บริการบุคคลที่สาม โดยสามารถซื้อได้ที่ธนาคารและสถาบันทางการเงินอื่นๆ และมักจะใช้สําหรับธุรกรรมยอดเล็กๆ
แพลตฟอร์มการชําระเงินออนไลน์: แพลตฟอร์มการชําระเงินออนไลน์ช่วยให้บุคคลทั่วไปและธุรกิจส่งและรับเงินในต่างประเทศได้โดยใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่หรือคอมพิวเตอร์ของตน แพลตฟอร์มเหล่านี้มักจะนําเสนออัตราแลกเปลี่ยนที่ดึงดูดและมีค่าธรรมเนียมต่ํา นอกจากนี้ เครือข่ายบัตรเครดิตหลายแห่งยังให้บริการชําระเงินข้ามพรมแดนทางออนไลน์ด้วย
คริปโตเคอเรนซี: คริปโตเคอเรนซี เช่น บิตคอยน์และอีเธอเรียมเป็นสกุลเงินดิจิทัลแบบกระจายศูนย์ที่สามารถใช้ชําระเงินข้ามพรมแดนได้ การศึกษาหนึ่งพบว่า 75% ของผู้ค้าปลีกวางแผนที่จะรับคริปโตเคอร์เรนซีเป็นวิธีการชําระเงินภายในปี 2024 การชําระเงินเหล่านี้สามารถดําเนินการได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย แต่คริปโตก็มาพร้อมกับข้อเสียบางประการเนื่องจากความผันผวนในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี
การชําระเงินข้ามพรมแดนใช้สําหรับอะไร
การชําระเงินข้ามพรมแดนเป็นองค์ประกอบสําคัญของเศรษฐกิจโลก ซึ่งช่วยให้การเคลื่อนย้ายเงินระหว่างประเทศที่มีวัตถุประสงค์หลากหลายเกิดขึ้นได้ การชำระเงินข้ามพรมแดนถูกใช้เพื่อจุดประสงค์ที่หลากหลาย ทั้งในบริบทด้านการประกอบอาชีพและส่วนตัว โดยรวมถึงการดำเนินการดังต่อไปนี้
การค้าระหว่างประเทศ
การชําระเงินข้ามพรมแดนเป็นสิ่งสําคัญสําหรับธุรกิจที่นําเข้าหรือส่งออกสินค้าและบริการระหว่างประเทศต่างๆ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถชําระค่าสินค้าและบริการจากซัพพลายเออร์ และรับการชําระเงินจากลูกค้าในประเทศอื่นๆ ได้การท่องเที่ยวและการเดินทาง
การชําระเงินข้ามพรมแดนช่วยให้ผู้เดินทางสามารถซื้อสินค้าและชําระค่าบริการต่างๆ เช่น เที่ยวบิน โรงแรม และทัวร์เมื่อเดินทางไปยังต่างประเทศได้การส่งเงิน
การชำระเงินข้ามพรมแดนช่วยให้บุคคลสามารถส่งเงินให้กับสมาชิกในครอบครัวและเพื่อนที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญในการสนับสนุนครอบครัวและชุมชนในประเทศกำลังพัฒนาการลงทุน
การชําระเงินข้ามพรมแดนช่วยให้นักลงทุนซื้อสินทรัพย์ เช่น หุ้น พันธบัตร และอสังหาริมทรัพย์ในประเทศอื่นๆ ได้ อีกทั้งยังรับรายรับและผลกําไรจากการลงทุนเหล่านั้นด้วยเงินบริจาคเพื่อการกุศลระหว่างประเทศ
การชําระเงินข้ามพรมแดนช่วยให้บุคคลทั่วไปและองค์กรต่างๆ บริจาคเงินให้กับองค์กรการกุศลและองค์กรไม่แสวงผลกําไรที่ดําเนินงานในประเทศอื่นๆ ได้ โดยสนับสนุนแนวคิดและโครงการอันหลากหลายทั่วโลก
ประโยชน์และข้อเสียของการชําระเงินข้ามพรมแดน
การชำระเงินข้ามพรมแดนสามารถสร้างโอกาสที่สำคัญให้กับธุรกิจในการขยายเข้าสู่ตลาดใหม่และเพิ่มรายได้ โดยทั้งหมดนี้ทำได้ง่ายดาย มีประสิทธิภาพ และรวดเร็วมากขึ้น อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงและความท้าทายต่างๆ มากมายที่ต้องจัดการอย่างรอบคอบเพื่อให้มั่นใจถึงการประสบความสำเร็จ
ต่อไปนี้คือข้อดีและข้อเสียหลักๆ
ประโยชน์
- การเข้าถึงตลาดทั่วโลก: การชําระเงินข้ามพรมแดนช่วยให้ธุรกิจขยายเข้าสู่ตลาดระดับสากลและเข้าถึงลูกค้า ซัพพลายเออร์ และพาร์ทเนอร์ใหม่ๆ ได้
- โอกาสในการเพิ่มรายรับและการเติบโต: การขายสินค้าและบริการในระดับสากลช่วยให้ธุรกิจสามารถเพิ่มรายรับและเข้าถึงโอกาสใหม่ๆ ในการเติบโต
- การกระจายความเสี่ยง: การชำระเงินข้ามพรมแดนช่วยให้ธุรกิจสามารถกระจายฐานลูกค้า ฐานซัพพลายเออร์ และพอร์ตการลงทุนได้ จึงลดการพึ่งพาตลาดในประเทศ
- การประหยัดค่าใช้จ่าย: วิธีการชำระเงินข้ามพรมแดนบางวิธีอาจคุ้มต้นทุนมากกว่าวิธีอื่นๆ จึงช่วยให้ธุรกิจประหยัดเงินจากค่าธรรมเนียมธุรกรรม อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา และต้นทุนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างประเทศ
- ความยืดหยุ่น: การชําระเงินข้ามพรมแดนช่วยให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นในด้านวิธีการชําระเงิน ทําให้ธุรกิจเลือกวิธีที่สะดวกและคุ้มค่าที่สุดเพื่อตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของตนได้
ข้อเสีย
- ข้อกําหนดด้านการปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับ: การชำระเงินข้ามพรมแดนอยู่ภายใต้ข้อกำหนดด้านกฎระเบียบและภาระผูกพันในการปฏิบัติตามกฎต่างๆ ซึ่งอาจมีความซับซ้อนและใช้เวลานานในการดำเนินการ
- ความเสี่ยงด้านสกุลเงิน: การชําระเงินข้ามพรมแดนขึ้นอยู่กับความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อมูลค่าของธุรกรรมและส่งผลกระทบต่อกระแสเงินสดของธุรกิจ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย: วิธีการชําระเงินข้ามพรมแดนบางวิธีอาจมีราคาแพง และค่าธรรมเนียมและการเรียกเก็บเงินจะแตกต่างกันไปตามแต่ละประเทศและวิธีการชําระเงิน
- ความเสี่ยงด้านการฉ้อโกงและการรักษาความปลอดภัย: การชําระเงินข้ามพรมแดนอาจมีความเสี่ยงต่อการฉ้อโกงและความปลอดภัย เช่น การโจมตีทางไซเบอร์ การขโมยข้อมูลระบุตัวตน และการฉ้อโกงด้านการชําระเงิน
- การดําเนินงานที่ซับซ้อน: การชําระเงินข้ามพรมแดนอาจมีความซับซ้อนและใช้เวลานานในการดําเนินการมากกว่าการชําระเงินภายในประเทศ ทําให้ธุรกิจต่างๆ จําเป็นต้องใช้ทรัพยากรที่จําเป็นและความเชี่ยวชาญในการจัดการโซลูชันอย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีการส่งการชําระเงินข้ามพรมแดน
การส่งการชําระเงินข้ามพรมแดนต้องมีการวางแผนอย่างระมัดระวังและให้ความสนใจกับรายละเอียด กระบวนการจะดำเนินไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้นด้วยผู้ให้บริการชำระเงินที่คุ้นเคยกับธุรกิจของคุณ บัญชีทางการเงินของคุณ และฝ่ายต่างประเทศที่คุณทำธุรกรรมบ่อยครั้ง นอกจากนี้ คุณควรเลือกวิธีการชำระเงินที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณและตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดอย่างรอบคอบเพื่อให้แน่ใจว่าการชำระเงินจะได้รับการดำเนินการอย่างรวดเร็ว ถูกต้องแม่นยำ และปลอดภัย
ขั้นตอนการส่งการชําระเงินข้ามพรมแดนอาจแตกต่างกันไป โดยขึ้นอยู่กับว่าคุณส่งเงินทุนไปยังและจากที่ใด รวมถึงวิธีการโอนเงินที่คุณเลือกใช้ แต่ด้านล่างนี้จะเป็นขั้นตอนพื้นฐาน
1. เลือกวิธีการชําระเงิน
คุณสามารถส่งเงินข้ามพรมแดนได้หลายวิธี เช่น การโอนเงินระหว่างธนาคาร การทำธุรกรรมบัตรเครดิต การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ธนาณัติระหว่างประเทศ แพลตฟอร์มการชำระเงินออนไลน์ และสกุลเงินดิจิทัล แต่ละวิธีมีข้อดีและข้อเสียเป็นของตัวเอง ดังนั้นโปรดเลือกวิธีที่เหมาะกับความต้องการของคุณมากที่สุด
2. ตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยน
หากส่งการชำระเงินข้ามพรมแดนในสกุลเงินอื่น คุณจะต้องตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจทั้งค่าธรรมเนียมการโอนและจำนวนเงินที่จะได้รับในสกุลเงินอื่น อัตราแลกเปลี่ยนจะแตกต่างกันไป โดยขึ้นอยู่กับประเทศและวิธีการชําระเงิน
3. ระบุรายละเอียดของผู้รับ
หากต้องการส่งการชําระเงินข้ามพรมแดน คุณจะต้องระบุรายละเอียดของผู้รับ ซึ่งรวมถึงชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัญชี และ Routing Number นอกจากนี้ คุณยังอาจต้องให้ข้อมูลเพิ่มเติม เช่น วัตถุประสงค์ของการชําระเงินและหมายเลขอ้างอิงที่เกี่ยวข้อง สถาบันทางการเงินและเครือข่ายการโอนเงินต่างๆ อาจต้องใช้ข้อมูลที่แตกต่างกันในการประมวลผลการโอนเงินนี้
4. ยืนยันการชําระเงิน
ก่อนส่งการชําระเงินข้ามพรมแดน คุณควรตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดอีกครั้งเพื่อให้มั่นใจว่าถูกต้อง วิธีนี้จะช่วยหลีกเลี่ยงความล่าช้าหรือข้อผิดพลาดในกระบวนการชําระเงิน ซึ่งสําคัญอย่างยิ่งสําหรับวิธีการชําระเงินที่เปลี่ยนกลับไม่ได้ เช่น ธนาณัติ
5. ส่งการชําระเงิน
เมื่อยืนยันการชําระเงินแล้ว คุณสามารถส่งการชําระเงินโดยใช้วิธีการชําระเงินที่คุณเลือกได้ เวลาที่ใช้ในการรับการชําระเงินอาจแตกต่างกันไป โดยขึ้นอยู่กับวิธีการใช้งานและประเทศที่เกี่ยวข้อง
6. ติดตามการชําระเงิน
คุณควรติดตามการชําระเงินข้ามพรมแดนเพื่อให้แน่ใจว่าผู้รับจะได้รับการชําระเงินข้ามพรมแดนรายการดังกล่าว ซึ่งทําได้โดยใช้หมายเลขติดตามหรือหมายเลขอ้างอิงที่ผู้ให้บริการชําระเงินระบุไว้
การเบิกจ่ายข้ามพรมแดนด้วย Stripe
บริการเบิกจ่ายข้ามพรมแดนของ Stripe ออกแบบมาเพื่อช่วยให้กระบวนการส่งเงินให้บุคคลทั่วไปหรือธุรกิจที่อยู่ในประเทศต่างๆ เป็นเรื่องง่าย เมื่อใช้แพลตฟอร์มของ Stripe ธุรกิจจะสามารถจัดการเงินหลายสกุล วิธีการชําระเงิน และข้อบังคับในการปฏิบัติตามข้อกําหนด โดยทั้งหมดนี้ทําได้จากการผสานการทํางานครั้งเดียว นอกจากนี้ บริการของ Stripe ยังช่วยลดต้นทุน พร้อมทั้งปรับปรุงความเร็วและประสิทธิผลของการชําระเงินข้ามพรมแดนด้วย
การเบิกจ่ายข้ามพรมแดนช่วยให้ผู้ใช้ Stripe ชําระเงินให้กับผู้ขาย ผู้ทํางานอิสระ ผู้สร้างเนื้อหา และผู้ให้บริการรายต่างๆ ในสกุลเงินท้องถิ่นของตนได้ โปรดดูรายการสกุลเงินของการเบิกจ่ายทั้งหมดที่พร้อมให้บริการโดย Stripe ที่นี่ ธุรกิจที่ใช้ Stripe สามารถโอนเงินไปยังบัญชีที่เชื่อมโยงในประเทศอื่นๆ โดยใช้บัญชีแพลตฟอร์มและการกําหนดค่าการเรียกเก็บเงินที่มีอยู่ได้ หากต้องการทราบรายชื่อประเทศที่รองรับทั้งหมด โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่นี่
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ