ในเศรษฐกิจโลกที่เชื่อมโยงกันมากขึ้น ธุรกิจที่เปิดรับการค้าข้ามพรมแดนจะมีโอกาสเติบโตอย่างไม่เคยมีมาก่อน ในปี 2022 เพียงอย่างเดียว การชําระเงินระหว่างประเทศมีมูลค่าเกือบ $156 ล้านล้าน อย่างไรก็ตาม ธุรกรรมข้ามพรมแดนอาจมีความซับซ้อนในการดำเนินการ ธุรกิจจะต้องรับมือกับข้อกังวลต่างๆ เช่น การแปลงสกุลเงิน วิธีการชําระเงินที่ต้องการ การปฏิบัติตามข้อกําหนดทางกฎหมาย และการป้องกันการฉ้อโกง ตลอดจนข้อพิจารณาด้านการปฏิบัติงานและกลยุทธ์เพื่อสนับสนุนความพยายามทั้งหมดนี้

สําหรับธุรกิจจํานวนมาก งานที่จําเป็นต้องทำเพื่อรับชําระเงินระหว่างประเทศนั้นเป็นสิ่งที่คุ้มค่า ธุรกิจไม่เพียงแต่สามารถลดความซับซ้อนของกระบวนการยอมรับการชำระเงินระหว่างประเทศได้เท่านั้น แต่ยังปรับปรุงความน่าเชื่อถือและความพึงพอใจของลูกค้า รวมทั้งขับเคลื่อนความสำเร็จในระยะยาวในตลาดโลกอีกด้วย

ด้านล่างนี้ เราจะสำรวจประเด็นสำคัญของการชำระเงินระหว่างประเทศ พร้อมเสนอข้อมูลเชิงลึกและคำแนะนำเชิงปฏิบัติเพื่อช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถสร้างระบบที่มีประสิทธิภาพและใช้งานง่ายสำหรับการประมวลผลธุรกรรมข้ามพรมแดน นี่คือสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับวิธีรับชําระเงินจากต่างประเทศและปัจจัยที่คุณต้องพิจารณาเพื่อเริ่มใช้งาน

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

• การชําระเงินระหว่างประเทศคืออะไร
  
• วิธีการชําระเงินประเภทใดบ้างที่ใช้สําหรับการชําระเงินระหว่างประเทศ
  
• ธุรกิจประเภทใดบ้างที่ต้องรับการชําระเงินจากต่างประเทศ
  
• ประโยชน์ของการรับชําระเงินจากต่างประเทศ
  
• วิธีเริ่มรับชําระเงินจากต่างประเทศ
  
• เกตเวย์การชําระเงินเกี่ยวข้องกับการชําระเงินระหว่างประเทศอย่างไร
  

การชําระเงินระหว่างประเทศคืออะไร

การชําระเงินระหว่างประเทศ หรือที่เรียกว่าการชําระเงินข้ามพรมแดน หรือธุรกรรมต่างประเทศ หมายถึงการโอนเงินระหว่างบุคคลทั่วไป ธุรกิจ หรือสถาบันการเงินที่ตั้งอยู่ในประเทศที่แตกต่างกัน โดยปกติแล้ว ธุรกรรมเหล่านี้จะมีการแลกเปลี่ยนสกุลเงินเป็นอีกสกุลเงินหนึ่ง ทั้งนี้ อาจต้องมีการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ค่าธรรมเนียม และระยะเวลาในการดำเนินการที่แตกต่างกันออกไป โดยขึ้นอยู่กับประเทศที่เกี่ยวข้อง วิธีการที่ใช้ และสถาบันการเงินที่อำนวยความสะดวกในการโอน

วิธีการชําระเงินประเภทใดบ้างที่ใช้สําหรับการชําระเงินระหว่างประเทศ

ธุรกิจต่างๆ เข้าสู่ตลาดโลก โดยนําเสนอตัวเลือกการชําระเงินที่หลากหลาย ซึ่งไม่เพียงช่วยปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า แต่ยังช่วยเพิ่มโอกาสที่ธุรกรรมจะสําเร็จด้วย ธุรกิจจะต้องคํานึงถึงประโยชน์และข้อเสียของวิธีการชําระเงินแต่ละแบบอย่างถี่ถ้วน โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น ต้นทุน ความเร็ว ความสะดวกสบาย และการรักษาความปลอดภัย

วิธีการชําระเงินที่ใช้กันทั่วไปสําหรับการชําระเงินระหว่างประเทศมีดังนี้

• การโอนเงินระหว่างธนาคาร
  การโอนเงินระหว่างธนาคารเป็นวิธีการโอนเงินระหว่างธนาคารในประเทศต่างๆ ที่ใช้กันอย่างกว้างขวาง โดยทั่วไปแล้วจะปลอดภัยและเชื่อถือได้ แต่ก็อาจมีค่าใช้จ่ายสูงเนื่องจากค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บโดยทั้งธนาคารของผู้ส่งและผู้รับ รวมถึงธนาคารตัวกลางที่เกี่ยวข้อง เวลาในการประมวลผลอาจแตกต่างกันไป โดยอาจใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงไปจนถึงหลายวัน

• บัตรเครดิตและบัตรเดบิต
  การชำระเงินระหว่างประเทศสามารถดำเนินการได้โดยใช้บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต ไม่ว่าจะเป็นการซื้อสินค้าทางออนไลน์หรือที่เครื่องชำระเงิน ณ จุดขาย (POS) ที่หน้าร้าน วิธีนี้อาจสะดวก แต่ก็อาจมีค่าธรรมเนียมที่สูงกว่าและอัตราแลกเปลี่ยนที่แย่กว่าตัวเลือกอื่นๆ รวมทั้งยังอาจมีค่าธรรมเนียมธุรกรรมต่างประเทศที่สถาบันผู้ออกบัตรเรียกเก็บ

• เช็คระหว่างประเทศและธนาณัติ
  สามารถใช้เช็คระหว่างประเทศและธนาณัติกับการชําระเงินระหว่างประเทศ แต่เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมน้อยลงเนื่องจากระยะเวลาการดําเนินการที่ช้ากว่าและค่าธรรมเนียมสูงกว่า นอกจากนี้ ยังกําหนดให้ผู้รับฝากเช็คหรือธนาณัติที่ธนาคารท้องถิ่น ซึ่งอาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม

• คริปโตเคอเรนซี
  ปัจจุบันมีการใช้สกุลเงินดิจิทัลกับการชําระเงินระหว่างประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ คริปโตเคอเรนซีมอบเวลาในการประมวลผลที่รวดเร็วขึ้น ค่าธรรมเนียมที่ต่ําลง และความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวิธีการแบบดั้งเดิม อย่างไรก็ตาม อัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวนและความไม่แน่นอนทางการกํากับดูแลอาจเป็นข้อกังวลสําหรับผู้ใช้บางคน

• แอปพลิเคชันการชําระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
  แอปชําระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่บางรายการ เช่น Alipay และ WeChat Pay ได้ขยายบริการเพื่อรองรับการชําระเงินระหว่างประเทศ แอปเหล่านี้เสนอวิธีการโอนเงินที่สะดวกและรวดเร็ว แต่ก็อาจมีข้อจํากัดในแง่ของประเทศและสกุลเงินที่รองรับ รวมทั้งอาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมด้วย

ธุรกิจประเภทใดบ้างที่ต้องรับการชําระเงินจากต่างประเทศ

ธุรกิจที่ดําเนินธุรกิจข้ามพรมแดนสามารถเข้าถึงตลาดที่หลากหลายและเข้าถึงลูกค้าได้ทั่วโลก ทว่าวิธีนี้ต้องอาศัยความสามารถในการรับการชําระเงินจากต่างประเทศ รวมถึงการรองรับสกุลเงินและวิธีการชําระเงินที่ลูกค้าต้องการ

ธุรกิจบางประเภทที่มักต้องรับชําระเงินจากต่างประเทศมีดังนี้

• ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
  ร้านค้าออนไลน์ที่ขายสินค้าหรือบริการให้กับลูกค้าทั่วโลกจะต้องยอมรับการชําระเงินระหว่างประเทศเพื่ออํานวยความสะดวกในการทําธุรกรรมกับลูกค้าจากประเทศต่างๆ

• ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและการบริการ
  โรงแรม สายการบิน ตัวแทนการท่องเที่ยว และบริษัทจัดนําเที่ยวมักจะให้บริการแก่ลูกค้าจากหลายประเทศและจําเป็นต้องรับการชําระเงินในหลายสกุลเงิน

• ผู้ให้บริการต่างประเทศ
  ธุรกิจที่ให้บริการต่างๆ เช่น การให้คําปรึกษา การพัฒนาซอฟต์แวร์ หรือประกอบอาชีพอิสระให้กับลูกค้าทั่วโลกอาจต้องรับการชําระเงินระหว่างประเทศสําหรับบริการของตน

• ผู้ส่งออกและผู้นําเข้า
  บริษัทที่ทำการค้าระหว่างประเทศ รวมถึงผู้ผลิต ผู้ค้าส่ง และผู้จัดจําหน่ายอาจต้องรับการชําระเงินข้ามพรมแดนสําหรับสินค้าที่ขายหรือซื้อ

• สถาบันการศึกษา
  มหาวิทยาลัยและโรงเรียนที่ยอมรับนักเรียนต่างชาติอาจต้องรับการชําระเงินจากนักเรียนหรือครอบครัวในประเทศและสกุลเงินที่ต่างกัน

• องค์กรไม่แสวงผลกําไร
  องค์กรการกุศลและองค์กรไม่แสวงผลกําไรที่มีที่ตั้งหรือฐานผู้บริจาคทั่วโลกอาจต้องรับชําระเงินระหว่างประเทศสําหรับเงินบริจาคและการระดมทุน

• ธุรกิจแบบชำระเงินตามรอบบิล
  บริษัทที่ให้บริการชําระเงินตามรอบบิล เช่น แพลตฟอร์มสตรีมมิง การให้บริการซอฟต์แวร์ (SaaS) หรือสิ่งตีพิมพ์ทางออนไลน์ อาจมีลูกค้าจากหลายประเทศและจําเป็นต้องรับชําระเงินจากต่างประเทศ

แน่นอนว่านี่ไม่ใช่รายการที่ครอบคลุมสมบูรณ์ ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา การแพร่ของหลายเทคโนโลยีการชําระเงิน และการขยายตัวของเครือข่ายการชําระเงินแบบดิจิทัลได้เปิดโลกการดําเนินงานในต่างประเทศให้แก่ธุรกิจและอุตสาหกรรมอื่นๆ ทั่วโลก

ประโยชน์ของการรับชําระเงินจากต่างประเทศ

การรับชําระเงินจากต่างประเทศอาจมีประโยชน์อย่างมาก โดยเฉพาะสําหรับธุรกิจที่ต้องการขยายการเข้าถึงและดําเนินธุรกิจในตลาดทั่วโลก ข้อดีที่สําคัญบางประการมีดังนี้

• การเข้าถึงฐานลูกค้าขนาดใหญ่
  การรับชําระเงินจากต่างประเทศช่วยให้ธุรกิจสามารถเปิดรับลูกค้าจากประเทศต่างๆ ได้มากขึ้นและขยายตลาดที่มีศักยภาพและเพิ่มโอกาสด้านการขายได้เป็นอย่างมาก

• การเติบโตของรายรับที่เพิ่มขึ้น
  การเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ และให้บริการแก่ฐานลูกค้าที่หลากหลายสามารถเพิ่มรายได้ เนื่องจากธุรกิจต่างๆ สามารถขายสินค้าหรือบริการของตนให้กับกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น รวมทั้งรับประโยชน์จากความชอบและความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกัน

• ข้อได้เปรียบในการแข่งขัน
  การผสานการค้าข้ามพรมแดนและการนําเสนอตัวเลือกการชําระเงินที่หลากหลายอาจทําให้ธุรกิจนำหน้าคู่แข่งที่ยอมรับเฉพาะวิธีการชําระเงินไม่กี่แบบ สิ่งนี้สามารถช่วยดึงดูดและรักษาลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์การจับจ่ายที่ครอบคลุม ตอบโจทย์ และสะดวกสบาย

• การโปรโมตแบรนด์และการรับรู้
  การยอมรับการชำระเงินระหว่างประเทศและให้บริการลูกค้าทั่วโลกสามารถช่วยให้ธุรกิจสร้างการรับรู้และการจดจำแบรนด์ในระดับที่กว้างขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่โอกาสในการเติบโตและความร่วมมือเพิ่มเติม

• การสร้างความหลากหลายให้กระแสรายรับ
  การขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดต่างๆ ช่วยให้ธุรกิจมีกระแสรายได้ที่หลากหลาย ลดการพึ่งพาตลาดเดียว และลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความผันผวนทางเศรษฐกิจหรือเศรษฐกิจขาลงในท้องถิ่นต่างๆ

• มีความเข้าใจเกี่ยวกับความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
  การให้บริการฐานลูกค้าในต่างประเทศสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความต้องการ พฤติกรรม และแนวโน้มของลูกค้าที่หลากหลาย ความรู้นี้สามารถช่วยให้ธุรกิจปรับแต่งผลิตภัณฑ์และกลยุทธ์การตลาดของตนได้ ซึ่งนําไปสู่ความพึงพอใจและความภักดีของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น

• นวัตกรรมและการปรับตัวที่เพิ่มขึ้น
  การขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดทั่วโลกและการรับชําระเงินจากต่างประเทศจะช่วยกระตุ้นให้ธุรกิจสร้างนวัตกรรมและปรับตัวตามความท้าทายและโอกาสใหม่ๆ สิ่งนี้สามารถนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่และการเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการภายใน

วิธีเริ่มรับชําระเงินจากต่างประเทศ

ขณะที่ธุรกิจขยายการเข้าถึงเพื่อให้บริการลูกค้าฐานลูกค้าทั่วโลกที่เพิ่มมากขึ้น สิ่งสำคัญคือการพัฒนากระบวนการดำเนินงานภายในที่มีประสิทธิภาพสำหรับการยอมรับการชำระเงินระหว่างประเทศ และดำเนินการเพื่อสร้างประสบการณ์เชิงบวกให้กับลูกค้า

ธุรกิจจะต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น การแปลงสกุลเงิน วิธีการชําระเงินที่ได้รับความนิยมในตลาดเป้าหมาย การปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับ หน้าที่ทางภาษี และการป้องกันการฉ้อโกง ต่อไปนี้คือขั้นตอนสําคัญที่ธุรกิจต่างๆ ใช้เพื่อสร้างระบบที่มีประสิทธิภาพและใช้งานง่ายสําหรับการประมวลผลธุรกรรมข้ามพรมแดน

1. ศึกษาตลาดเป้าหมายของคุณ

แนวทางสําหรับการชําระเงินระหว่างประเทศของคุณอาจแตกต่างกันออกไปตามวิธีการที่คุณพยายามทําธุรกิจ คุณควรเริ่มต้นโดยการสำรวจความต้องการและความชอบของกลุ่มเป้าหมายในประเทศต่างๆ โดยรวมถึงการระบุวิธีการชําระเงินยอดนิยม ความต้องการในด้านสกุลเงิน รวมถึงข้อบังคับหรือข้อกําหนดเฉพาะที่มีผลบังคับใช้กับประเทศที่คุณวางแผนจะให้บริการ

2. เลือกเกตเวย์การชําระเงินหรือผู้ประมวลผล

เลือกเกตเวย์การชําระเงินหรือผู้ประมวลผลที่รองรับหลายสกุลเงินและวิธีการชําระเงินที่ได้รับความนิยมในตลาดเป้าหมายของคุณ ตัวอย่างเช่น Stripe ให้บริการประมวลผลการชําระเงินระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงการรองรับมากกว่า 135 สกุลเงิน โปรดเปรียบเทียบค่าธรรมเนียม อัตราแลกเปลี่ยน และฟีเจอร์ของผู้ให้บริการแต่ละรายเพื่อค้นหาตัวเลือกที่เหมาะกับธุรกิจของคุณที่สุด

3. ตั้งค่าบัญชีหลายสกุลเงิน

หากคุณร่วมงานกับผู้ให้บริการชําระเงินอย่าง Stripe ที่รองรับการชําระเงินระหว่างประเทศซึ่งได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพและแบบไดนามิก คุณจะไม่จําเป็นต้องดําเนินการขั้นตอนเพิ่มเติมนี้ ไม่เช่นนั้นคุณจะต้องเปิดบัญชีหลายสกุลเงินหรือใช้บริการของบริษัทอื่นที่จะช่วยให้คุณจัดการหลายสกุลเงิน ลดค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยน และทําให้กระบวนการรับชําระเงินจากลูกค้าในประเทศต่างๆ ได้ง่ายขึ้น

4. แสดงราคาในสกุลเงินท้องถิ่น

หากเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของคุณจัดทําขึ้นเพื่อให้บริการแก่กลุ่มเป้าหมายในหลายประเทศ โปรดตรวจสอบว่าคุณได้สร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ที่แสดงราคาผลิตภัณฑ์และบริการในสกุลเงินท้องถิ่นของลูกค้า การทำเช่นนี้จะช่วยให้ลูกค้าทราบค่าใช้จ่ายโดยไม่ต้องทำการแปลงด้วยตนเอง คุณสามารถแสดงราคาโดยใช้เครื่องมือการแปลงสกุลเงินหรือปลั๊กอินที่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซส่วนใหญ่มีให้บริการ

5. โปรดระมัดระวังภาษีและระเบียบข้อบังคับ

บริษัทที่ดําเนินธุรกิจระหว่างประเทศจะต้องเข้าใจและปฏิบัติตามข้อกําหนดด้านภาษีท้องถิ่นและระเบียบข้อบังคับ ซึ่งรวมถึงภาษีการขาย ภาษีมูลค่าเพิ่ม และข้อบังคับด้านการนําเข้าหรือส่งออกในทุกประเทศที่ดําเนินธุรกิจ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าธุรกิจของคุณปฏิบัติตามข้อกําหนดเหล่านี้เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาด้านกฎหมายหรือทางการเงิน

6. ใช้มาตรการป้องกันการฉ้อโกง

ธุรกรรมข้ามพรมแดนอาจเสี่ยงต่อการฉ้อโกงมากขึ้น ดังนั้นจึงควรใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพเพื่อปกป้องทั้งธุรกิจและลูกค้าของคุณ

7. เพิ่มประสิทธิภาพให้ประสบการณ์ของลูกค้า

การแปลงสกุลเงินเป็นเพียงแง่มุมเดียวในการตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่มีความหลากหลายในระดับสากล ดังนั้น โปรดพิจารณาเส้นทางของลูกค้าที่คุณกําลังสร้างอย่างรอบคอบ ลูกค้ากลุ่มต่างๆ ของคุณแตกต่างกันอย่างไร การสร้างประสบการณ์ที่ใช้ง่ายและรองรับลูกค้าแต่ละกลุ่มนั้นเป็นอย่างไร เริ่มต้นด้วยการทําให้เว็บไซต์และขั้นตอนการชําระเงินของคุณใช้งานง่ายและมีให้บริการในหลายภาษา หากจําเป็น การให้ข้อมูลที่ชัดเจน กระชับ เกี่ยวกับการจัดส่ง การคืนสินค้า และการสนับสนุนลูกค้าจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าในต่างประเทศได้

8. ตรวจสอบประสิทธิภาพและทําการปรับเปลี่ยน

ตรวจสอบการตั้งค่าการชําระเงินระหว่างประเทศของคุณเป็นประจํา วิเคราะห์ความคิดเห็นของลูกค้า และติดตามแนวโน้มในอุตสาหกรรมของคุณ เตรียมพร้อมสําหรับการปรับเปลี่ยนตามความจําเป็นเพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับ รวมทั้งปรับค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการรับชําระเงินระหว่างประเทศให้มีประสิทธิภาพ

เกตเวย์การชําระเงินเกี่ยวข้องกับการชําระเงินระหว่างประเทศอย่างไร

เกตเวย์การชําระเงินมีบทบาทสําคัญในการอํานวยความสะดวกด้านการชําระเงินระหว่างประเทศสําหรับธุรกิจที่ดําเนินงานข้ามพรมแดนหรือให้บริการแก่ลูกค้าในประเทศต่างๆ โดยทําหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างธุรกิจ ลูกค้า และสถาบันการเงิน ประมวลผลธุรกรรมอย่างปลอดภัยและอนุมัติธุรกรรมได้แบบเรียลไทม์

ต่อไปนี้คือข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับวิธีที่เกตเวย์การชําระเงินเกี่ยวข้องกับการชําระเงินระหว่างประเทศ

• รองรับหลายสกุลเงิน
  เกตเวย์การชําระเงินที่รองรับหลายสกุลเงินช่วยให้ธุรกิจต่างๆ รับการชําระเงินในสกุลเงินต่างๆ จากลูกค้าทั่วโลกได้ บริษัทจัดการกระบวนการแปลงสกุลเงินโดยให้อัตราแลกเปลี่ยนที่ดึงดูดและตรวจสอบให้มั่นใจว่าเงินจะโอนเข้าบัญชีของธุรกิจตามสกุลเงินที่ต้องการ

• วิธีการชําระเงินที่หลากหลาย
  เกตเวย์การชําระเงินระหว่างประเทศรองรับวิธีการชําระเงินที่หลากหลาย รวมถึงบัตรเครดิตและบัตรเดบิต กระเป๋าเงินดิจิทัล และการโอนเงินผ่านธนาคารซึ่งลูกค้าในประเทศต่างๆ ต่างเลือกใช้ ธุรกิจที่นําเสนอตัวเลือกการชําระเงินในท้องถิ่นที่ได้รับความนิยมจะช่วยปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าและเพิ่มโอกาสที่ธุรกรรมจะสําเร็จ

• การป้องกันการฉ้อโกงและความปลอดภัย
  เกตเวย์การชําระเงินใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูง เช่น การเข้ารหัส การแปลงเป็นโทเค็น และการตรวจสอบสิทธิ์ลูกค้าที่ปลอดภัย เพื่อปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อนระหว่างธุรกรรม และยังมีเครื่องมือป้องกันการฉ้อโกง เช่น บริการยืนยันที่อยู่ (AVS) และการตรวจสอบค่าการยืนยันบัตร (CVV) เพื่อลดความเสี่ยงของธุรกรรมที่เป็นการฉ้อโกงในการชําระเงินข้ามพรมแดน

• ปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับ
  เกตเวย์การชําระเงินช่วยให้คุณปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับด้านการชําระเงินระหว่างประเทศ เช่น มาตรฐานการรักษาความปลอดภัยข้อมูลสําหรับอุตสาหกรรมบัตรชําระเงิน (PCI DSS) และข้อบังคับท้องถิ่นของธุรกิจในประเทศที่ดําเนินธุรกิจ วิธีนี้ช่วยให้ธุรกิจปฏิบัติตามข้อกฎหมายที่ซับซ้อนและรักษาความไว้วางใจของลูกค้าได้

• การผสานการทํางานอย่างราบรื่น
  เกตเวย์การชําระเงินสามารถเชื่อมต่อการทํางานกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซและเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดาย เพื่อมอบประสบการณ์การชําระเงินที่ใช้งานง่ายและเป็นมิตรกับลูกค้า เกตเวย์ส่วนใหญ่มี API, ปลั๊กอิน หรือเครื่องมืออื่นๆ ที่อํานวยความสะดวกในการผสานการทํางานกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยม

• เข้าถึงการรายงานและการวิเคราะห์ขั้นสูง
  เกตเวย์การชําระเงินจํานวนมากมีเครื่องมือการรายงานและการวิเคราะห์ที่ครอบคลุมสําหรับธุรกิจ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจตรวจสอบและวิเคราะห์ธุรกรรมระหว่างประเทศ ติดตามประสิทธิภาพการขาย และรับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกค้าในตลาดต่างๆ ได้

เมื่อใช้เกตเวย์การชำระเงิน ธุรกิจต่างๆ จะสามารถปรับกระบวนการยอมรับการชำระเงินระหว่างประเทศให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รับประกันว่าธุรกรรมจะมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันก็ตอบสนองความต้องการและความชอบที่หลากหลายของลูกค้าทั่วโลก ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ธุรกิจได้รับประโยชน์มากมาย ซึ่งรวมถึงรายได้ที่เพิ่มขึ้น การเข้าถึงตลาดที่กว้างขึ้น และความสามารถในการแข่งขันที่ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ธุรกิจกําหนดจุดยืนให้กับการเติบโตในระยะยาวและความสําเร็จในตลาดโลกได้