ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการประมวลผลการชําระเงินออนไลน์: สิ่งที่ธุรกิจต้องรู้

Payments
Payments

รับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกด้วยโซลูชันการชำระเงินที่สร้างมาสำหรับธุรกิจทุกขนาด ตั้งแต่ธุรกิจสตาร์ทอัพไปจนถึงองค์กรใหญ่ระดับโลก

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. การชำระเงินออนไลน์มีวิธีการทำงานอย่างไร
  3. องค์ประกอบของการชำระเงินออนไลน์
  4. การประมวลผลการชำระเงินออนไลน์มีการทำงานอย่างไร
  5. วิธีการชำระเงินออนไลน์
  6. วิธีเลือกผู้ให้บริการประมวลผลการชำระเงินออนไลน์

ธุรกิจต่างหันมาใช้การประมวลผลการชำระเงินออนไลน์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ งานวิจัยหนึ่งพบว่ารายรับจากการช้อปปิ้งออนไลน์ทั่วโลกคาดว่าจะสูงกว่า 8.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2030 เมื่อโอกาสในการสร้างรายรับจากการชำระเงินออนไลน์มีมากขึ้น ความคาดหวังของลูกค้าเกี่ยวกับรูปแบบการชำระเงินออนไลน์ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ดังนั้นการประมวลผลการชำระเงินออนไลน์จึงเป็นข้อกังวลที่ซับซ้อนและมีความสำคัญสูงสำหรับธุรกิจ

นอกเหนือจากการเสนอวิธีการชำระเงินที่สะดวกแก่ลูกค้าแล้ว การประมวลผลการชำระเงินออนไลน์ยังมอบประโยชน์สำคัญมากมายแก่ธุรกิจด้วย ตัวอย่างเช่น ปรับปรุงขั้นตอนการทำบัญชีและการรายงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมลดความเสี่ยงจากการฉ้อโกงและการดึงคืนเงิน การเลือกผู้ให้บริการประมวลผลการชำระเงินออนไลน์ที่เหมาะสมจะช่วยให้ธุรกิจต่างๆ มีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่ต่ำลงและเข้าถึงเงินทุนได้เร็วขึ้น

ด้านล่างนี้เป็นคำแนะนำที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการชำระเงินออนไลน์ รวมถึงองค์ประกอบและฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง วิธีการชำระเงินทั่วไป วิธีการทำงานของการชำระเงินออนไลน์ และเคล็ดลับที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับวิธีที่ธุรกิจต่างๆ สามารถเลือกผู้ให้บริการประมวลผลการชำระเงินออนไลน์ที่ดีที่สุดสำหรับความต้องการของตนได้

เนื้อหาหลักในบทความ

  • การชำระเงินออนไลน์มีวิธีการทำงานอย่างไร
  • องค์ประกอบของการชำระเงินออนไลน์
  • การประมวลผลการชำระเงินออนไลน์มีการทำงานอย่างไร
  • วิธีการชำระเงินออนไลน์
  • วิธีเลือกผู้ให้บริการประมวลผลการชำระเงินออนไลน์

การชำระเงินออนไลน์มีวิธีการทำงานอย่างไร

การชำระเงินออนไลน์หมายถึงการที่ธุรกิจรับการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์สำหรับสินค้าหรือบริการที่ซื้อผ่านอินเทอร์เน็ต เมื่อลูกค้าเริ่มต้นการชำระเงินบนเว็บไซต์หรือแอป ลูกค้าจะป้อนรายละเอียดการชำระเงิน และระบบการชำระเงินของธุรกิจจะเริ่มดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ เพื่อโอนเงินทุนจากบัญชีธนาคารของลูกค้าไปยังบัญชีธนาคารของธุรกิจ

การชำระเงินออนไลน์มีหลายประเภท เช่น การชำระเงินด้วยบัตรเดบิตและบัตรเครดิต การโอนเงินผ่านธนาคาร และกระเป๋าเงินดิจิทัล โดยทั่วไปแล้ว การชำระเงินจะได้รับการประมวลผลผ่านเกตเวย์การชำระเงินและผู้ประมวลผลการชำระเงิน ซึ่งจะอนุมัติการชำระเงินออนไลน์ด้วยการเข้ารหัสและการโอนข้อมูลการชำระเงินอย่างปลอดภัย การชำระเงินออนไลน์ช่วยให้ลูกค้าซื้อสินค้าและบริการจากทุกที่ในโลกได้ทุกเมื่อ ซึ่งธุรกิจต่างๆ สามารถรับการชำระเงินออนไลน์ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย

องค์ประกอบของการชำระเงินออนไลน์

การชำระเงินออนไลน์เกี่ยวข้องกับองค์ประกอบหลายอย่างที่ทำงานร่วมกันเพื่อรับชำระเงินจากลูกค้าผ่านอินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย โครงสร้างที่แน่นอนของระบบประมวลผลการชำระเงินอาจแตกต่างกันไปโดยขึ้นอยู่กับว่าธุรกิจจัดการการชำระเงินอย่างไรและธุรกิจนั้นทำงานร่วมกับผู้ให้บริการประมวลผลการชำระเงินบุคคลที่สาม เช่น Stripe หรือไม่ การทำความเข้าใจว่าองค์ประกอบเหล่านี้ทำงานร่วมกันอย่างไรเป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจที่ต้องการรวมการประมวลผลการชำระเงินออนไลน์เข้ากับการดำเนินงานของตน องค์ประกอบของการชำระเงินออนไลน์โดยทั่วไปประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้

  • เกตเวย์การชำระเงิน: เกตเวย์การชำระเงินคือบริการที่อนุมัติการชำระเงินออนไลน์โดยการเข้ารหัสและโอนข้อมูลการชำระเงินอย่างปลอดภัยระหว่างเว็บไซต์ของธุรกิจกับธนาคารหรือบริษัทผู้ออกบัตรของลูกค้า

  • บัญชีผู้ค้า: บัญชีผู้ค้าคือบัญชีธนาคารที่ใช้เก็บเงินจากธุรกรรมของลูกค้าโดยเฉพาะก่อนที่จะฝากเงินเข้าบัญชีธนาคารของธุรกิจ บัญชีผู้ค้าคือที่แรกที่เงินจะเข้าบัญชีหลังจากที่ธุรกรรมได้รับการประมวลผล

  • ผู้ประมวลผลการชำระเงิน: ผู้ประมวลผลการชำระเงินคือบริษัทที่จัดการธุรกรรมระหว่างธนาคารหรือบริษัทผู้ออกบัตรของลูกค้า ธนาคารผู้รับเงินสำหรับธุรกิจ (ธนาคารที่ดูแลบัญชีผู้ค้า) และบัญชีธนาคารหลักของธุรกิจ

  • ข้อมูลลูกค้า: ข้อมูลดังกล่าวประกอบด้วยข้อมูลการชำระเงินของลูกค้า เช่น รายละเอียดของบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต ข้อมูลบัญชีธนาคาร และข้อมูลกระเป๋าเงินดิจิทัล

  • การตรวจจับและการป้องกันการฉ้อโกง: เครื่องมือตรวจจับและป้องกันการฉ้อโกงช่วยป้องกันธุรกรรมที่เป็นการฉ้อโกงและปกป้องธุรกิจและลูกค้าจากการสูญเสียทางการเงิน

  • การชำระเงินและการให้เงินทุน: การชำระเงินเกี่ยวข้องกับการโอนเงินทุนจากบัญชีของลูกค้าไปยังบัญชีผู้ค้า ส่วนการให้เงินทุนเกี่ยวข้องกับการโอนเงินทุนจากบัญชีผู้ค้าไปยังบัญชีธนาคารของธุรกิจ ขั้นตอนดังกล่าวอาจใช้เวลาหลายวัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการประมวลผลการชำระเงิน

การประมวลผลการชำระเงินออนไลน์มีการทำงานอย่างไร

แม้ว่าขั้นตอนบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับการรับและการประมวลผลการชำระเงินออนไลน์อาจแตกต่างกันไปตามวิธีการชำระเงินและระบบการรับชำระเงินของธุรกิจ แต่การประมวลผลการชำระเงินออนไลน์ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับฝ่ายต่อไปนี้

  • ลูกค้า
    ลูกค้าเริ่มต้นการชำระเงินโดยเลือกผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ต้องการบนเว็บไซต์ของธุรกิจ แล้วป้อนรายละเอียดการชำระเงิน บางครั้ง ระบบจะขอให้ลูกค้ายืนยันตัวตน

  • ธุรกิจ
    ธุรกิจจะได้รับข้อมูลการชำระเงินของลูกค้าแล้วส่งไปให้เกตเวย์การชำระเงินอย่างปลอดภัยเพื่อประมวลผล

  • เกตเวย์การชำระเงิน
    เกตเวย์การชำระเงินจะส่งข้อมูลการชำระเงินไปยังผู้ประมวลผลการชำระเงินเพื่อขออนุมัติ

  • ผู้ประมวลผลการชำระเงิน
    ผู้ประมวลผลการชำระเงินจะติดต่อธนาคารหรือบริษัทผู้ออกบัตรของลูกค้า เพื่อยืนยันว่าข้อมูลการชำระเงินนั้นถูกต้องและลูกค้ามีเงินทุนเพียงพอที่จะครอบคลุมธุรกรรมดังกล่าว

  • ธนาคารที่ออกบัตรหรือเครือข่ายบัตร
    ธนาคารที่ออกบัตรหรือเครือข่ายบัตรอนุมัติหรือปฏิเสธธุรกรรมแล้วส่งการตอบกลับไปยังผู้ประมวลผลการชำระเงิน

  • ผู้ประมวลผลการชำระเงิน
    ผู้ประมวลผลการชำระเงินจะได้รับการตอบกลับจากธนาคารที่ออกบัตรหรือเครือข่ายบัตร และส่งกลับไปที่เกตเวย์การชำระเงิน

  • เกตเวย์การชำระเงิน
    เกตเวย์การชำระเงินจะได้รับการตอบกลับจากผู้ประมวลผลการชำระเงินและส่งกลับไปที่เว็บไซต์ของธุรกิจเพื่อแจ้งให้ธุรกิจทราบว่าการชำระเงินสำเร็จหรือไม่

  • การชำระเงินและการให้เงินทุน
    ขั้นตอนการชำระเงินคือการโอนเงินจากบัญชีของลูกค้าไปยังบัญชีผู้ค้า ส่วนขั้นตอนการส่งเงินทุนคือการโอนเงินจากบัญชีผู้ค้าไปยังบัญชีธนาคารของธุรกิจ

สำหรับการชำระเงินออนไลน์ส่วนใหญ่ กระบวนการทั้งหมดนี้ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที

วิธีการชำระเงินออนไลน์

วิธีการชำระเงินออนไลน์มีหลายประเภท และบางประเภทก็เหมาะกับธุรกิจและธุรกรรมบางประเภทมากกว่า วิธีการชำระเงินออนไลน์ที่พบบ่อยที่สุดมีดังนี้

  • บัตรเครดิตและบัตรเดบิต
    การชำระเงินด้วยบัตรเครดิตและบัตรเดบิตเป็นรูปแบบการประมวลผลการชำระเงินออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เมื่อต้องชำระเงิน ลูกค้าจะป้อนข้อมูลบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตในเกตเวย์การชำระเงิน

  • การโอนเงินผ่านธนาคาร
    วิธีการนี้เกี่ยวข้องกับการโอนเงินโดยตรงจากบัญชีธนาคารของลูกค้าไปยังบัญชีธนาคารของธุรกิจ การโอนเงินผ่านธนาคารสามารถดำเนินการได้โดยใช้บริการธนาคารออนไลน์หรือแอปธนาคารบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ หรือสามารถเริ่มต้นและอนุมัติผ่านฟังก์ชันการชำระเงินของผู้ค้าปลีกบนเว็บไซต์หรือแอปของตน

  • กระเป๋าเงินดิจิทัล
    กระเป๋าเงินดิจิทัลที่ช่วยให้ลูกค้าจัดเก็บข้อมูลการชำระเงินได้อย่างปลอดภัยและดำเนินการชำระเงินออนไลน์ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ได้กลายเป็นรูปแบบการประมวลผลการชำระเงินออนไลน์ที่ได้รับความนิยมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กระเป๋าเงินดิจิทัลยอดนิยม ได้แก่ PayPal, Apple Pay และ Google Wallet

  • การหักบัญชีอัตโนมัติ
    นี่เป็นวิธีการชำระเงินตามแบบแผนล่วงหน้า โดยที่ลูกค้าอนุญาตให้ธุรกิจถอนเงินจำนวนหนึ่งจากบัญชีธนาคารของตนตามรอบเวลาเป็นประจำ

  • บัตรเติมเงิน
    นี่เป็นวิธีการชำระเงินที่ลูกค้าซื้อบัตรเติมเงินที่มีมูลค่าเงินจำนวนหนึ่ง ซึ่งใช้ซื้อสินค้าหรือบริการทางออนไลน์ได้

  • คริปโตเคอร์เรนซี
    คริปโตเคอร์เรนซี เช่น บิตคอยน์ เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่สามารถใช้ชำระเงินออนไลน์ได้ โดยทำงานในระบบแบบกระจายศูนย์และนำเสนอธุรกรรมที่รวดเร็วและปลอดภัย โดยระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซีกำลังพัฒนาและอาจแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ

วิธีเลือกผู้ให้บริการประมวลผลการชำระเงินออนไลน์

ต่อไปนี้คือปัจจัยบางส่วนที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกผู้ให้บริการประมวลผลการชำระเงินออนไลน์

  • ความปลอดภัย
    มองหาผู้ให้บริการที่มีฟีเจอร์การรักษาความปลอดภัยขั้นสูง เช่น การตรวจจับและการป้องกันการฉ้อโกง การเข้ารหัสข้อมูล และการปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของ PCI DSS (มาตรฐานการรักษาความปลอดภัยข้อมูลสำหรับอุตสาหกรรมบัตรชำระเงิน)

  • โซลูชันในหลายช่องทาง
    กลยุทธ์การค้าแบบแพลตฟอร์มรวมเหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการปรับปรุงประสิทธิภาพการประมวลผลการชำระเงินออนไลน์ ควบคู่ไปกับการปรับจุดข้อมูลลูกค้าและการชำระเงินทุกจุดให้สอดคล้องกันเพื่อสร้างข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้ได้จริง มองหาผู้ให้บริการประมวลผลการชำระเงินอย่าง Stripe ที่ให้การสนับสนุนการชำระเงินที่ครอบคลุมในทุกช่องทาง

  • ค่าใช้จ่าย
    พิจารณาค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับผู้ให้บริการประมวลผลการชำระเงิน ซึ่งรวมถึงค่าธรรมเนียมธุรกรรม ค่าธรรมเนียมการตั้งค่า ค่าธรรมเนียมรายเดือน และค่าธรรมเนียมการดึงเงินคืน เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายของผู้ให้บริการแต่ละรายเพื่อค้นหาตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ

  • วิธีการชำระเงิน
    พิจารณาวิธีการชำระเงินที่ผู้ให้บริการรองรับ ซึ่งรวมถึงการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตและเดบิต การโอนเงินผ่านธนาคาร กระเป๋าเงินดิจิทัล และตัวเลือกการชำระเงินอื่นๆ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้ให้บริการรองรับวิธีการชำระเงินที่ลูกค้าของคุณต้องการใช้

  • การผสานการทำงาน
    ตรวจสอบว่าผู้ให้บริการประมวลผลการชำระเงินสามารถผสานการทำงานกับเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซได้อย่างง่ายดายหรือไม่ มองหาผู้ให้บริการที่มีตัวเลือกการผสานการทำงานที่เรียบง่าย เช่น API (อินเทอร์เฟซการเขียนโปรแกรมแอปพลิเคชัน) หรือหน้าชำระเงินที่มีการโฮสต์ ตัวอย่างเช่น Stripe Checkout เสนอการผสานการทำงานที่เรียบง่ายซึ่งปรับให้เข้ากับอุปกรณ์และตำแหน่งที่ตั้งของลูกค้าเพื่อเพิ่มอัตราการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชำระเงิน ขณะเดียวกันก็รองรับคูปอง อัตราภาษี และอื่นๆ อีกมากมาย

  • การสนับสนุนลูกค้า
    พิจารณาระดับการสนับสนุนลูกค้าที่ผู้ให้บริการประมวลผลการชำระเงินนำเสนอ ค้นหาผู้ให้บริการที่ให้บริการสนับสนุนลูกค้าตลอด 24 ชม. และช่องทางการสนับสนุนหลายช่องทาง เช่น โทรศัพท์ อีเมล และแชทสด

  • รองรับผู้ใช้ทั่วโลก
    หากธุรกิจของคุณดำเนินธุรกิจในระดับนานาชาติ ลองพิจารณาผู้ให้บริการประมวลผลการชำระเงินที่รองรับหลายสกุลเงินและหลายภาษา ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้ให้บริการรายนั้นประมวลผลการชำระเงินจากลูกค้าในประเทศและภูมิภาคต่างๆ ได้ ตัวอย่างเช่น Stripe รองรับกว่า 135 สกุลเงิน และรองรับวิธีการชำระเงินหลายสิบแบบ ซึ่งหมายความว่าธุรกิจต่างๆ สามารถเปิดตัวในตลาดใหม่ๆ และเพิ่มอัตราการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชำระเงินในหมู่ลูกค้าต่างประเทศได้อย่างง่ายดาย

สำหรับธุรกิจ การเลือกผู้ให้บริการประมวลผลการชำระเงินออนไลน์ที่เหมาะสมถือเป็นกุญแจสำคัญในการรับชำระเงินออนไลน์ การประเมินปัจจัยเหล่านี้และเลือกผู้ให้บริการที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะของธุรกิจจะช่วยให้ธุรกิจสามารถมอบประสบการณ์การชำระเงินที่ปลอดภัยและราบรื่นให้แก่ลูกค้าได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Stripe สามารถสนับสนุนเป้าหมายเหล่านี้ได้

เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Payments

Payments

รับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกด้วยโซลูชันการชำระเงินที่สร้างมาสำหรับธุรกิจทุกขนาด

Stripe Docs เกี่ยวกับ Payments

ค้นหาคู่มือเกี่ยวกับการเชื่อมต่อ Payments API ของ Stripe