เมื่อไม่นานมานี้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กับวิธีการชําระเงินยอดนิยม นั่นคือการมาถึงของเทคโนโลยีการแตะเพื่อชำระเงินแบบไร้สัมผัส ซึ่งกลายมาเป็นวิธีการชําระเงินที่ผู้บริโภคเลือกใช้ และยังให้ประโยชน์อย่างมากต่อร้านค้า การเสนอวิธีการชำระเงินแบบแตะเพื่อชำระเงินช่วยให้ธุรกิจประมวลผลธุรกรรมได้มากขึ้นในเวลาที่สั้นลงเมื่อเทียบกับวิธีการชําระเงินแบบเดิมๆ ซึ่งช่วยเพิ่มอัตราการหมุนเวียนและช่วยให้ลูกค้าทําการซื้อได้เร็วขึ้น ชาวอเมริกันกว่าครึ่งใช้วิธีการชำระเงินแบบไร้สัมผัสอย่างการแตะเพื่อชำระเงินอยู่แล้ว ซึ่งเป็นแนวโน้มที่เกิดขึ้นทั่วโลก อุตสาหกรรมการชําระเงินแบบไร้สัมผัสมูลค่า 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ คาดว่าจะโตขึ้นเกือบ 4 เท่าภายในปี 2026 ธุรกิจที่ไม่อัปเดตระบบนิเวศการชําระเงินให้รองรับการชําระเงินแบบไร้สัมผัสมีแนวโน้มว่ายอดขายจะลดลง ข่าวดีก็คือระบบการชําระเงินของคุณพร้อมสำหรับการรับการชําระเงินแบบแตะเพื่อชำระแล้ว
ในบทความนี้ เราจะอธิบายสิ่งที่คุณควรทราบเกี่ยวกับการแตะเพื่อชำระเงิน รวมถึงวิธีการนำมาใช้กับธุรกิจ
บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง
- แตะเพื่อชําระเงินคืออะไร
- แตะเพื่อชําระเงินมีวิธีการทํางานอย่างไร
- การชําระเงินแบบไร้สัมผัสประเภทต่างๆ
- แตะเพื่อชําระเงินปลอดภัยหรือไม่
- วิธีรับการชําระเงินแบบแตะเพื่อชำระเงินจากลูกค้า
- ประโยชน์ของการยอมรับแตะเพื่อชําระเงินเป็นวิธีการชําระเงิน
แตะบัตรเพื่อชําระเงินคืออะไร
แตะเพื่อชำระ หรือ Tap to Pay คือวิธีการชําระเงินแบบไร้สายที่ลูกค้าจะชําระเงินที่เทอร์มินัลระบบบันทึกการขาย (POS) หรือเครื่องอ่านบัตร that uses short-range wireless near-field communication (NFC) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีระบุตัวตนด้วยความถี่วิทยุเฉพาะทางประเภทหนึ่ง ปัจจุบัน แตะเพื่อชำระเงินกลายเป็นวิธีการชําระเงินที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในการทำธุรกรรมทุกรูปแบบ จึงมีความสำคัญอย่างมากต่อธุรกิจที่ต้องการมอบประสบการณ์การชําระเงินที่เหนือกว่าให้กับลูกค้า
แตะเพื่อชําระเงินมีวิธีการทํางานอย่างไร
แตะเพื่อชําระเงินต้องใช้งานกับเทอร์มินัล POS เช่น บัตรชําระเงินแบบมีชิป บัตรหรืออุปกรณ์จะส่งโทเค็นแบบใช้ครั้งเดียวที่มีความปลอดภัยไปยังเทอร์มินัลการชําระเงินสําหรับการซื้อนั้นๆ โดยเฉพาะโดยใช้เทคโนโลยี NFC เทคโนโลยีไร้สายนี้จะช่วยอํานวยความสะดวกให้กับการชําระเงินที่ปลอดภัยจากบัตรแบบไร้สัมผัส อุปกรณ์สําหรับสวมใส่ และแอปพลิเคชันบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่มีฟังก์ชันชําระเงินเมื่อลูกค้าแตะ กวาด หรือเคลื่อนบัตรหรืออุปกรณ์เหนือเทอร์มินัลการชําระเงิน
เนื่องจาก NFC มักใช้โดยเครื่องอ่านบัตรแบบมีชิป หากคุณตั้งค่าเครื่องให้รับการชําระเงินผ่านบัตรแบบมีชิปแล้ว คุณก็น่าจะรับการชําระเงินแบบแตะเพื่อชําระเงินได้โดยไม่ต้องดําเนินการใดๆ เพิ่มเติม
การชําระเงินแบบไร้สัมผัสประเภทต่างๆ
แม้ว่าการชําระเงินแบบไร้สัมผัสทั้งหมดจะทํางานในลักษณะเดียวกัน แต่ก็ยังมีอุปกรณ์หลากหลายแบบที่ ใช้เทคโนโลยีที่จําเป็นต่อการทําธุรกรรมด้วยการแตะเพื่อชําระเงิน ได้แก่
บัตรเดบิตและบัตรเครดิตที่รองรับ NFC
บัตรชําระเงินบางใบมีเทคโนโลยี NFC ในตัวและพร้อมใช้กับเครื่องอ่านบัตรที่รองรับเทคโนโลยีนี้ เช่น Stripe Reader ในการใช้บัตรที่รองรับ NFC สิ่งที่ลูกค้าต้องทําก็คือแตะ กวาด หรือเคลื่อนบัตรเข้าใกล้กับเครื่องอ่านบัตรแบบเคลื่อนที่ การชําระเงินประเภทนี้ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อผู้บริโภคสามารถใช้บัตรใหม่ได้กระเป๋าเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่หรือกระเป๋าเงินดิจิทัล
กระเป๋าเงินดิจิทัลเป็นเทคโนโลยีแอปที่บันทึกรายละเอียดบัตรเดบิตและบัตรเครดิตของผู้ใช้ไว้ในอุปกรณ์เคลื่อนที่เพื่อใช้ในการทําธุรกรรมแบบไร้สัมผัส หากต้องการชําระเงินด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัลหรืออุปกรณ์เคลื่อนที่ ลูกค้าจะต้องแตะ กวาด หรือเคลื่อนอุปกรณ์เคลื่อนที่เหนือเครื่องอ่านบัตรที่ใช้เทคโนโลยี NFC ในลักษณะเดียวกับที่ใช้บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตมี NFC ในตัว Apple Pay สําหรับผู้ใช้ iPhone Tap to Pay เป็นกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ส่วน Google Pay, PayPal, Android Pay และ Samsung Pay ก็เป็นตัวเลือกยอดนิยมเช่นกัน ผู้บริโภคชอบการชําระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่หรือแตะเพื่อชำระเงินเนื่องจากวิธีนี้ช่วยลดสัมภาระในกระเป๋า เพราะตราบใดที่มีโทรศัพท์ ผู้บริโภคก็สามารถทิ้งกระเป๋าสตางค์ไว้ที่บ้านได้อุปกรณ์สวมใส่
นาฬิกาอัจฉริยะและอุปกรณ์สวมใส่อื่นๆ ที่อยู่ในรูปของสร้อยข้อมือ กุญแจรีโมท และแหวนไม่ได้มีไว้เพื่อการนับก้าวและการติดตามอัตราการเต้นของหัวใจอย่างเดียวเท่านั้น เนื่องจากอุปกรณ์สวมใส่ (เช่น Fitbit และ Apple Watch) เป็นตัวเลือกใหม่ล่าสุดสําหรับการชําระเงินแบบไร้สัมผัส และเป็นทางเลือกที่สะดวกที่สุดสําหรับคนที่อยากวิ่งหรือแวะเข้าร้านสะดวกซื้อโดยไม่ต้องพกโทรศัพท์หรือกระเป๋าเงินติดตัวไปด้วยให้ยุ่งยาก
แตะเพื่อชําระเงินปลอดภัยหรือไม่
แตะเพื่อชำระเงินเป็นหนึ่งในวิธีการชําระเงินที่ปลอดภัยที่สุดในตลาดตอนนี้ ซึ่งลบล้างความเข้าใจผิดที่ว่าการชําระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ไม่ปลอดภัยเท่าวิธีการแบบเก่า สาเหตุเป็นเพราะธุรกรรมที่ชำระเงินด้วยวิธีการแตะเพื่อชำระเงินจะได้รับการประมวลผลโดยไม่ต้องใช้ข้อมูลส่วนตัวที่ละเอียดอ่อน เช่น ชื่อ หมายเลขบัตร รหัสความปลอดภัย และวันหมดอายุ
วิธีชําระเงินแบบแตะเพื่อชำระเงินยังไม่ต้องใช้การสัมผัส จึงปลอดภัยกว่าแถบแม่เหล็ก (Magstripe) หรือบัตรที่มีชิป ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกขโมยข้อมูลบัญชีและการฉ้อโกงได้มากกว่า
เมื่อลูกค้าใช้แตะเพื่อชำระเงิน ข้อมูลบัตรและข้อมูลส่วนตัวจะได้รับการปกป้องด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้
- การเข้ารหัส ซึ่งจะไม่ซ้ำกันในธุรกรรมแต่ละรายการ
- การแปลงเป็นโทเค็น ซึ่งใช้อักขระแบบสุ่มที่ไม่ซ้ำกันแทนข้อมูลธนาคารหรือบัตรเครดิต
- การตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2 ปัจจัยด้วย PIN หรือ Face ID แม้ว่าวิธีนี้จะไม่ได้ใช้กับการแตะเพื่อชําระเงินทุกแบบ แต่ส่วนใหญ่แล้วผู้ใช้ต้องต้องยืนยันตัวตนเพิ่มเติมแบบใดแบบหนึ่งก่อนที่ระบบจะอนุญาตให้ทําธุรกรรม
วิธีรับการชําระเงินแบบแตะเพื่อชำระเงินจากลูกค้า
เมื่อพูดถึงการยอมรับการชำระเงินด้วยการแตะเพื่อชําระเงินจากลูกค้า ธุรกิจมีบทบาทน้อยมากและวิธีการชําระเงินแบบแตะเพื่อชำระเงินแต่ละประเภทจะมีความแตกต่างเล็กน้อย
บัตรเดบิตและบัตรเครดิตที่รองรับ NFC
ตรวจสอบว่าบัตรของลูกค้าและเครื่อง POS ของคุณมีสัญลักษณ์การชำระเงินแบบไร้สัมผัส ซึ่งเป็นไอคอนสายรุ้งที่ประกอบด้วยเส้นโค้ง 4 เส้น เมื่อระบบแจ้งให้ชําระเงิน ลูกค้าควรแตะบัตรหรือเคลื่อนบัตรเข้าใกล้สัญลักษณ์จนอยู่ห่างจากเครื่องประมาณ 2-3 นิ้วกระเป๋าเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่หรือกระเป๋าเงินดิจิทัล
ลูกค้าที่เปิดใช้ฟีเจอร์แตะเพื่อชําระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่และเพิ่มข้อมูลธนาคารและข้อมูลบัตรชําระเงินไปยังแอปกระเป๋าเงินดิจิทัลเรียบร้อยแล้วจะใช้วิธีการชําระเงินนี้ได้เลย ซึ่งใช้เทคโนโลยี NFC เดียวกันกับบัตร เมื่อเทอร์มินัลแสดงข้อความแจ้ง ลูกค้าจะถือหรือกวาดอุปกรณ์ห่างจากสัญลักษณ์การชําระเงินแบบไร้สัมผัสประมาณ 2-3 นิ้ว เนื่องจากกระเป๋าเงินดิจิทัลหรืออุปกรณ์เคลื่อนที่มักจะใช้รหัสผ่านหรือการจดจําใบหน้าเพื่ออนุมัติธุรกรรม กระบวนการนี้อาจใช้เวลานานกว่าการแตะเพื่อชำระเงินเล็กน้อยอุปกรณ์สวมใส่
ลูกค้าที่มีอุปกรณ์สวมใส่แบบ NFC สามารถใช้อุปกรณ์ของตนซื้อสินค้าและบริการ แล้วแตะเพื่อชําระเงินได้ เมื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์แตะเพื่อชําระเงินบนอุปกรณ์และป้อนรายละเอียดธนาคารและบัตรชําระเงินแล้ว ลูกค้าก็พร้อมจะชําระเงินด้วยอุปกรณ์สวมใส่ได้
เมื่อเทอร์มินัลแจ้งให้ลูกค้าชําระเงิน ลูกค้าจะต้องถืออุปกรณ์สวมใส่เข้าใกล้สัญลักษณ์การชำระเงินแบบไร้สัมผัสในระยะ 2 นิ้ว ซึ่งเหมือนกับการชำระเงินด้วยบัตรและกระเป๋าเงินดิจิทัล
เนื่องจากเครื่องอ่านบัตรสมัยใหม่ส่วนใหญ่รองรับเทคโนโลยี NFC ดังนั้น หากคุณยอมรับการชําระเงินด้วยบัตรจากลูกค้าที่จุดขายอยู่ในขณะนี้ แสดงว่าคุณน่าจะยอมรับธุรกรรมแบบแตะเพื่อชำระเงินได้ หากคุณเพิ่งเริ่มทําธุรกิจหรือยังไม่ได้เริ่มรับการชําระเงินด้วยบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต คุณจะต้องเปิดบัญชีผู้ค้ากับผู้ให้บริการผู้ค้าเพื่อใช้ฮาร์ดแวร์ POS และประมวลผลการชําระเงิน Stripe Terminal และ Stripe Reader พร้อมให้คุณยอมรับการชำระเงินแบบไร้สัมผัสทั้งจากอุปกรณ์และบัตรที่ใช้เทคโนโลยี NFC หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านคู่มือของเราเกี่ยวกับการรับชําระเงินแบบไร้สัมผัสจากลูกค้า
หมายเหตุ: เมื่อทําธุรกรรมแบบแตะเพื่อชําระเงินสําเร็จ เครื่อง POS จะแสดงเครื่องหมายถูกหรือแสงสว่าง หรือส่งเสียงเตือน
ประโยชน์ของการยอมรับแตะเพื่อชําระเงินเป็นวิธีการชําระเงิน
นอกเหนือข้อดีที่สําคัญในการป้องกันการฉ้อโกงแล้ว ยังมีเหตุผลอีกหลายประการในการยอมรับการชําระเงินด้วยการแตะเพื่อชําระเงิน
ความเร็วและความสะดวก
เนื่องจากการชําระเงินแบบไร้สัมผัสเร็วกว่าวิธีอื่นๆ ถึง 10 เท่า จึงได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ และเข้ามาแทนที่วิธีการชำระเงินแบบดั้งเดิมอย่างรวดเร็ว การชําระเงินที่รวดเร็วขึ้นช่วยให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่นขึ้นและยอดขายของธุรกิจก็สูงขึ้นด้วย
ความน่าเชื่อถือและความทนทาน
นอกจากจะช่วยเพิ่มความเร็วและใช้งานง่ายแล้ว บัตรชนิดแตะเพื่อชำระเงินแบบไร้สัมผัสและกระเป๋าเงินดิจิทัลยังน่าเชื่อถือกว่าวิธีการชําระเงินอื่นๆ ด้วย กล่าวคือวิธีการเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะดำเนินการสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกเมื่อเทียบกับบัตรที่ใช้แถบแม่เหล็กหรือชิป EMV ซึ่งอาจต้องดำเนินการหลายครั้งจึงจะทำธุรกรรมได้สำเร็จ ทั้งยังมีส่วนประกอบที่อาจเสื่อมสภาพจากการใช้งานมากเกินไป บัตรแบบแตะเพื่อชำระเงิน รวมถึงสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์สวมใส่ที่มีกระเป๋าเงินดิจิทัล อาจประสบปัญหาขัดข้องและข้อบกพร่องทางกลไก แต่การสึกหรอน้อนกว่าบัตรเครดิตและบัตรเดบิตแบบเดิมๆ อย่างมาก
ความต้องการของผู้บริโภคในวงกว้าง
อุตสาหกรรมต่างๆ ที่ให้บริการแก่ผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจการแตะเพื่อชำระเงินมากขึ้น พร้อมกับความคาดหวังของลูกค้า ลูกค้าจำนวนมากชื่นชอบบัตรที่มีฟังก์ชันแตะเพื่อชำระเงินมากกว่าบัตรแบบเก่าที่ไม่มีฟังก์ชันนี้ แนวโน้มนี้มีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากธนาคารหันมาออกบัตรที่ใช้ NFC กันมากขึ้น และธุรกิจต่างก็อัปเกรดฮาร์ดแวร์ของตนให้รองรับเทคโนโลยี NFC สำหรับการแตะเพื่อชําระเงิน
ระหว่างการชําระเงินที่จุดขาย ผู้คนต้องการและคาดหวังมากขึ้นว่าจะสามารถเลือกชำระเงินแบบไร้สัมผัสได้ ซึ่งส่งผลให้ผู้บริโภคเลือกที่จะออกจากบ้านโดยไม่ต้องพกสิ่งใดนอกจากกระเป๋าเงินดิจิทัล งานวิจัยหนึ่งพบว่า 15% ของผู้ใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลมักจะทิ้งกระเป๋าสตางค์จริงไว้ที่บ้าน และ 11% คิดจะทิ้งกระเป๋าสตางค์ไว้ที่บ้านหากทราบว่าจะใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลได้ทุกที่ การให้ลูกค้าสามารถแตะเพื่อชําระเงินนั้นเป็นมาตรฐานใหม่สําหรับธุรกิจทุกขนาดที่ต้องการแข่งขันในตลาด อันที่จริงแล้ว ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางกว่า 65% ได้เปลี่ยนและลองทำอะไรใหม่ๆ เพื่อคงความสามารถในการแข่งขัน และประมาณ 20% เลือกที่จะเพิ่มการชําระเงินแบบไร้สัมผัสในการดำเนินธุรกิจของตน
สุขอนามัยที่ดีขึ้นสําหรับพนักงานและลูกค้า
วิธีการแตะเพื่อชำระเงินช่วยให้ลูกค้าไม่ต้องส่งบัตรให้พนักงานหรือสัมผัสเทอร์มินัลการชําระเงินหรือแป้นพิมพ์ จึงช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค จากการศึกษาของ American Express 80% ของธุรกิจ เชื่อว่าการชําระเงินแบบไร้สัมผัสช่วยให้พื้นที่ชําระเงินสะอาดขึ้นและทําให้พนักงานและลูกค้าปลอดภัยยิ่งขึ้น
มีค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย
บางครั้งธุรกิจที่ยังไม่ได้เปลี่ยนไปใช้การชําระเงินแบบไร้สัมผัส อาจจะคิดว่าตัวเลือกนี้มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าวิธีการชําระเงินด้วยบัตรเดบิตและเครดิตแบบเก่า แต่ก็ไม่เป็นเช่นนี้เสมอไป ขึ้นอยู่กับผู้ประมวลผลการชําระเงินที่คุณเลือกใช้งาน ตัวอย่างเช่น Stripe จะไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมใดๆ ในการรับชําระเงินแบบไร้สัมผัส เมื่อเทียบกับการชําระเงินด้วยบัตรอื่นๆ
หากต้องการศึกษาว่า Stripe รองรับ Tap to Pay on iPhone อย่างไร หรือหากต้องการเริ่มใช้งานทันที โปรดอ่านเพิ่มเติมที่นี่
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ