ตามข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศสเปน การใช้วิธีการชำระเงินในสเปนมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญระหว่างปี 2022–2024 ข้อมูลจาก Economic Bulletin 2025/Q2 ระบุว่า การชำระด้วยเงินสด สำหรับการซื้อสินค้าหน้าร้านลดลง 9% แต่การชำระเงินด้วยบัตรสำหรับการซื้อสินค้าหน้าร้านกลับเพิ่มขึ้น 4% ส่วนการซื้อผ่านทางออนไลน์ การชำระเงินด้วยบัตรลดลง 8% ในขณะที่วิธีชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ เช่น กระเป๋าเงินดิจิทัลเพิ่มขึ้น 5%
แนวโน้มเหล่านี้สะท้อนการเปลี่ยนแปลงในภาพรวมของการชำระเงิน ไม่ว่าจะเป็น ความชอบของลูกค้า การยอมรับของธุรกิจ ไปจนถึง การไหลเวียนของเงินในระบบการเงิน ทั้งนี้ การเข้าใจเทรนด์การชำระเงินในปัจจุบันและปรับตัวให้ทัน ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกธุรกิจ บทความนี้จะอธิบายสิ่งที่ควรพิจารณา เวลาเลือกวิธีการชำระเงินที่เหมาะสมที่สุดทั้งสำหรับธุรกิจและลูกค้าของคุณ
เนื้อหาหลักในบทความ
- วิธีการชำระเงินคืออะไร
- วิธีการชำระเงินที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในสเปน
- วิธีเลือกวิธีการชำระเงินที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ
- คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวิธีการชำระเงินในสเปน
- Stripe Payments จะช่วยให้คุณรับชำระด้วยวิธีการที่หลากหลายมากขึ้นได้อย่างไร
วิธีการชำระเงินคืออะไร
วิธีการชำระเงินคือระบบหรือเครื่องมือที่ใช้ในการโอนเงินไปยังบุคคลทั่วไป ผู้ประกอบวิชาชีพอิสระ ธุรกิจ หรือหน่วยงานราชการ เพื่อแลกเปลี่ยนกับสินค้าหรือบริการ
วิธีการชำระเงินมีความสำคัญต่อการทำธุรกรรมทางการเงิน ด้วยเหตุนี้ หน่วยงานในสเปนและยุโรปจึงได้กำหนดข้อบังคับต่างๆ จึงออกกฎระเบียบต่างๆ เพื่อกำกับดูแล อาทิ Payment Services Directive (PSD2) และพระราชกฤษฎีกากฎหมายหมายเลข 19/2018 ว่าด้วยบริการชำระเงิน
วิธีการชำระเงินที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในสเปน
เมื่อก่อน วิธีการชำระเงินที่ผู้คนนิยมใช้มากที่สุดในสเปนคือเงินสด แต่ในปี 1971 ระบบการชำระเงินของสเปนเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเมื่อธนาคารบิลเบา (ซึ่งต่อมากลายเป็น BBVA) เปิดตัวบัตรเครดิตใบแรกในสเปน ซึ่งนับแต่นั้นมาและด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของเทคโนโลยี วิธีชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ๆ ก็เกิดขึ้นตามมา ปัจจุบัน ธุรกิจในสเปนใช้ทั้งวิธีแบบดั้งเดิมและวิธีสมัยใหม่หลายรูปแบบ ด้านล่างนี้เราจะอธิบาย วิธีการชำระเงินที่พบได้บ่อยในสเปน
เงินสด
ตามข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศสเปน ในปี 2024 มีธุรกรรมที่หน้าร้าน 57% ที่ชำระด้วยเงินสด แม้สัดส่วนจะยังสูง แต่แนวโน้มการใช้เงินสดกำลังลดลง เช่นในปี 2023 การทำธุรกรรมด้วยเงินสดอยู่ที่ 65% ตามข้อมูลจาก Savings Banks Foundation (Funcas)
มีหลายเหตุผลที่ทำให้ลูกค้าใช้วิธีชำระเงินสดน้อยลงเรื่อยๆ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากสเปนมีการจำกัดวงเงินในการชำระด้วยเงินสด อีกทั้ง วิธีชำระเงินทางเลือกก็ได้รับความนิยมมาระยะหนึ่งแล้ว และให้ความสะดวกและความปลอดภัยสูงกว่าเงินสด โดยสัดส่วนชาวสเปนที่ระบุว่า "ไม่พกเงินสดเป็นประจำ" ในกระเป๋าเงินนั้นเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าระหว่างปี 2023–2024
ระบบเก็บเงินปลายทาง (Cash on Delivery หรือ COD)
การชำระเงินที่จุดขาย คือการให้ลูกค้าชำระเงินหลังจากได้รับสินค้า แทนการชำระเงินล่วงหน้าแม้ว่าเงินสดจะถูกใช้กับการซื้อที่จุดขายเป็นหลัก แต่ก็ยังเป็นวิธีการชำระเงินที่ใช้ได้กบร้านค้าอีคอมเมิร์ซที่รองรับการเก็บเงินปลายทางเช่นกัน
ตามข้อมูลของ National Observatory of Technology and Society (ONTSI) ในปี 2023 การเก็บเงินปลายทางเป็นวิธีการชำระเงินที่ถูกใช้บ่อยเป็นอันดับที่ 8 สำหรับการซื้อออนไลน์ในสเปน
บัตรธนาคาร
สำหรับธุรกรรมออนไลน์ บัตรเป็นวิธีการชำระเงินที่ถูกใช้มากที่สุดในหลายตลาด ตามข้อมูลจาก Stripe 48% ของการซื้อสินค้าผ่านร้านค้าออนไลน์ ในสเปนชำระด้วยบัตร ซึ่งสัดส่วนนี้ใกล้เคียงกับประเทศยุโรปอื่นๆ เช่น ฝรั่งเศส (53%) และอิตาลี (42%) ส่วนสหรัฐอเมริกามีตัวเลขสูงกว่าที่ 64%
สถิติจากธนาคารแห่งประเทศสเปนยืนยันว่า บัตรเป็นวิธีการชำระเงินที่ลูกค้ามักเลือกใช้ในร้านค้าอีคอมเมิร์ซ อย่างไรก็ตาม ในหน้าร้านจริง การใช้บัตรมีเพียง 32% แม้จะ เพิ่มขึ้น 4% แล้วในช่วงปี 2022–2024
การโอนเงินผ่านธนาคาร
การโอนเงินระหว่างประเทศภายใน Single Euro Payments Area (SEPA) ช่วยให้ลูกค้าสามารถโอนเงินจากบัญชีของตนไปยังบัญชีธนาคารของบริษัทได้ เดิมก่อนที่กฎระเบียบของสหภาพยุโรปหมายเลข 2024/886 จะมีผลบังคับใช้ ลูกค้าต้องชำระค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม หากต้องการเลี่ยงระยะเวลาดำเนินการที่ยืดเยื้อสำหรับการโอนผ่าน SEPA แต่ปัจจุบัน สามารถสั่งโอนผ่านธนาคารแบบทันทีในสเปนได้โดยไม่ต้องจ่ายเพิ่ม
การโอนเงินผ่านธนาคารเป็นวิธีที่นิยมใช้สำหรับการซื้อที่มีมูลค่าสูง เนื่องจาก ใช้เวลาประมวลผลสั้นกว่า และโดยทั่วไปจะมีค่าธรรมเนียมต่ำกว่าการชำระเงินด้วยบัตร ตัวอย่างเช่น ในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 มูลค่ารวมของการชำระเงินจากการโอนผ่านธนาคาร คิดเป็นมากกว่า 88% ของมูลค่ารวม ของการชำระเงินที่ดำเนินการด้วยวิธีอื่นที่ไม่ใช่เงินสด
นอกจากนี้ การโอนเงินผ่านธนาคารยังถูกใช้บ่อยในการทำธุรกรรมระหว่างบุคคลทั่วไป ตาม Economic Bulletin 2025/Q2 ของธนาคารแห่งประเทศสเปน วิธีการชำระเงินนี้เป็นตัวเลือกที่ลูกค้า 18% ระบุว่าชอบใช้มากที่สุด
การหักบัญชีอัตโนมัติ
วิธีนี้จะต่างจากการโอนเงิน เนื่องจากลูกค้าเป็นฝ่ายเริ่มโอนเงินให้ผู้รับ การหักบัญชีอัตโนมัติจะให้บริษัทตัดยอดการชำระเงินตามแบบแผนล่วงหน้าจากบัญชีธนาคารของลูกค้าโดยอัตโนมัติ โดยเงื่อนไขคือลูกค้าต้องอนุมัติให้บริษัทก่อน ผ่านการมอบอำนาจตาม SEPA ซึ่งอนุญาตให้บริษัทออกใบเรียกเก็บเงินผ่านธนาคาร ขั้นตอนนี้สามารถทำเพียงครั้งเดียว จากนั้นบริษัทสามารถตัดบัญชีโดยตรงได้ทุกงวดที่ถึงกำหนดชำระ ด้วยเหตุนี้ การหักบัญชีอัตโนมัติแบบ SEPA จึงเหมาะสำหรับบริษัทที่มีรายรับจากโมเดลแบบเรียกเก็บตามแบบแผนล่วงหน้า และต้องการใช้ระบบเรียกเก็บเงินตามรอบที่สอดคล้องกับกฎระเบียบของสเปน
วิธีชำระเงินนี้มีข้อดีหลายอย่างทั้งต่อลูกค้าและบริษัท สำหรับลูกค้า วิธีนี้จะให้ทั้งความสะดวกและความปลอดภัยในระดับสูง จึงเป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมมากในสเปน ตัวอย่างเช่น 77.5% ของการชำระเงินตามแบบแผนล่วงหน้าเลือกใช้การหักบัญชีอัตโนมัติ สำหรับบริษัท การคาดการณ์รายรับที่แม่นยำขึ้นและภาระงานด้านเอกสารที่ลดลง เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ธุรกิจนิยมใช้งานวิธีนี้
กระเป๋าเงินดิจิทัล
กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์หรือกระเป๋าเงินดิจิทัล ช่วยให้ลูกค้าสามารถชำระเงินได้อย่างสะดวกและง่ายดาย ลูกค้าสามารถใช้ชำระเงินออนไลน์โดยไม่ต้องกรอกรายละเอียดของบัตร และยังสามารถชำระเงินที่หน้าร้านผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่มีเทคโนโลยีสื่อสารระยะใกล้ (NFC) และเครื่องอ่านบัตรที่ร้านรองรับ
กระเป๋าเงินดิจิทัลส่วนใหญ่ เช่น Apple Pay, Google Pay และ PayPal จะ บันทึกยอดเงินดิจิทัลและรายละเอียดของบัตรลูกค้า ซึ่งสามารถใช้ทำธุรกรรมได้ด้วยการแตะหรือคลิกเพียงครั้งเดียว ในสเปน วิธีการชำระเงินนี้คิดเป็น 29% ของการชำระเงินออนไลน์ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ได้รับความนิยมมากกว่าในประเทศยุโรปบางประเทศ เช่น เยอรมนี โปแลนด์ และสวีเดน ซึ่งการใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลมีสัดส่วนสูงกว่าการใช้บัตร
Bizum
วิธีชำระเงินนี้ได้รวมอยู่ในแอปบริการธนาคารออนไลน์ ซึ่งช่วยให้เจ้าของบัญชีธนาคารในสเปนสามารถโอนและรับเงินได้ในทันที ตามข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศสเปน Bizum คิดเป็น 95% ของการโอนแบบทันที ที่เกิดขึ้นภายในประเทศ
ในช่วงแรก วิธีการนี้มุ่งเน้นไปที่การโอนเงินระหว่างบุคคลทั่วไปเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันได้ขยายเข้าสู่ภาคธุรกิจ ในปี 2024 มีร้านค้าอีคอมเมิร์ซมากกว่า 58,000 แห่งที่รองรับชำระเงินด้วย Bizum แม้ว่าจะมีข้อจำกัดบางประการ เช่น กำหนดวงเงินสูงสุดต่อธุรกรรม แต่จุดแข็งของ Bizum ที่ทำให้ประสบความสำเร็จคือการชำระเงินได้ทันที และทำธุรกรรมได้ง่ายผ่านหมายเลขโทรศัพท์
คริปโตเคอร์เรนซี
คริปโตเคอร์เรนซีเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถโอนเงินได้โดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง หลังจากซื้อผ่านแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน (เช่น Blockchain.com) สกุลเงินดิจิทัลจะถูกใช้เป็นหลักสำหรับการชำระเงินแบบกระจายศูนย์
ตามข้อมูลจาก Economic Bulletin 2025/Q2 ของธนาคารแห่งประเทศสเปน ในปี 2024 มีชาวสเปน 9% ที่ถือครองคริปโต และ 19% ใช้คริปโต เพื่อการชำระเงินอย่างเดียว แนวโน้มสัดส่วนเหล่านี้มีโอกาสเพิ่มขึ้นตามความก้าวหน้าต่างๆ รวมถึง สเตเบิลคอยน์ ซึ่งเป็นคริปโตประเภทที่ผันผวนน้อยกว่า เพราะมูลค่าตามกับสินทรัพย์ที่จับต้องได้ เช่น เงินตราทั่วไป ด้วยความสนใจที่เพิ่มขึ้นในวิธีชำระเงินนี้ ธุรกิจจำนวนมากขึ้นจึงเริ่มรับชำระเงินเป็นสเตเบิลคอยน์
ซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง (BNPL)
วิธีการแบบซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง เปิดให้ลูกค้าซื้อสินค้าและบริการโดย ไม่ต้องจ่ายเต็มจำนวน ณ ตอนซื้อ ในสเปน แพลตฟอร์ม BNPL ยอดนิยมได้แก่ Klarna, seQura และ Alma
บริการเหล่านี้จะเลื่อนการชำระเงินออกไปทันทีโดยไม่มีดอกเบี้ย ตัวอย่างเช่น ในสเปน ค่าธรรมเนียมมักจะถูกเรียกเก็บเฉพาะกรณีที่ลูกค้าชำระล่าช้า เงื่อนไขที่เอื้อต่อผู้บริโภคนี้ทำให้วิธีซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง ถูกใช้ใน 5% ของการซื้อสินค้าออนไลน์ในสเปน
การชำระเงินแบบผ่อนชำระ
การชำระเงินแบบผ่อนชำระ เปิดโอกาสให้ลูกค้าแบ่งยอดซื้อออกเป็นหลายงวดที่ชำระในภายหลัง แม้ว่ามักจะถูกเชื่อมโยงกับซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง แต่การผ่อนชำระยังรวมถึงทางเลือกอื่นๆ เช่น บัตรเครดิตแบบผ่อนชำระ, ข้อตกลงส่วนตัวกับซัพพลายเออร์ และวิธีที่ธุรกิจเสนอเอง เช่นตัวเลือกชำระรายเดือนของ Amazon
ค่าธรรมเนียมธุรกิจสำหรับวิธีการผ่อนชำระทางเลือกมักจะต่ำกว่าการใช้ซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง อย่างไรก็ตามการเสนอวิธีการภายในองค์กรอาจต้องมีการจัดทำข้อตกลงกับลูกค้า และในบางกรณี ลูกค้าอาจต้องจ่ายค่าธรรมเนียมสำหรับการแบ่งชำระเงิน (เช่น ในกรณีการผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิตบางประเภท)
วิธีเลือกวิธีการชำระเงินที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ
วิธีการชำระเงินส่งผลโดยตรงต่อประสบการณ์ของลูกค้า การเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณจึงเป็นสิ่งสำคัญ เกณฑ์ที่คุณใช้พิจารณาอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าคุณขายสินค้าออนไลน์จากสเปนหรือขายที่หน้าร้านจริง
วิธีการชำระเงินสำหรับธุรกิจออนไลน์
หากคุณขายบริการออนไลน์ สินค้าดิจิทัล หรือสินค้าอื่นๆ ผ่านอินเทอร์เน็ต คุณต้องแน่ใจว่าคุณรองรับวิธีชำระเงินที่ลูกค้าเป้าหมายนิยมใช้ เพื่อเพิ่มอัตราการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชำระเงิน โปรดพิจารณาปัจจัยและลักษณะต่อไปนี้เมื่อเลือกวิธีการชำระเงินที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของคุณ:
- การใช้งานที่เข้าใจง่าย
การใช้วิธีการชำระเงินออนไลน์ต้องมีความชัดเจน เรียบง่าย และรวดเร็ว เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนและความหงุดหงิด จากการศึกษาของ Stripe เกี่ยวกับขั้นตอนการซื้อสินค้าในยุโรป 62% ของลูกค้าระบุว่าจะละทิ้งการซื้อ หากไม่สามารถทำรายการเสร็จสิ้นภายใน 2 นาที - การปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับ
เมื่อคุณผสานวิธีการชำระเงินที่เลือกเข้ากับแพลตฟอร์มการชำระเงินของธุรกิจ จะต้องแน่ใจว่าวิธีเหล่านั้นปฏิบัติตามข้อบังคับปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น มาตรฐานความปลอดภัยข้อมูลอุตสาหกรรมบัตรชำระเงิน (PCI DSS) ซึ่งรับรองการคุ้มครองข้อมูลเจ้าของบัตรและความปลอดภัยของเครือข่ายการชำระเงิน นอกจากนี้ Law on Information Society Services and Electronic Commerce (LSSI) กำหนดให้ต้องมีการยืนยันการชำระเงินสำหรับลูกค้า รวมถึงข้อกำหนดอื่นๆ - การรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ธุรกรรมการชำระเงินต้องได้รับการดำเนินการอย่างปลอดภัยตามข้อมูลจาก Economic Bulletin 2025/Q2 ของธนาคารแห่งประเทศสเปน ความปลอดภัยเป็นเหตุผลอันดับ 2 ที่ทำให้ลูกค้าชาวสเปนเลือกใช้วิธีการชำระเงินแบบใหม่ เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นและสร้างประสบการณ์การชำระเงินที่ปลอดภัย คุณสามารถใส่โลโก้เครือข่ายบัตร (เช่น Mastercard หรือ Visa) และแสดงข้อความอธิบายข้างแบบฟอร์มชำระเงิน เพื่ออธิบายว่าเว็บไซต์ของคุณปกป้องข้อมูลทางการเงินของลูกค้าอย่างไร
ปัจจุบันมีวิธีการชำระเงินหลายวิธีที่ตรงตามคุณลักษณะข้างต้นและเหมาะกับธุรกิจออนไลน์ ได้แก่บัตรเครดิต/เดบิต และกระเป๋าเงินดิจิทัล Stripe Payments เปิดให้คุณรับวิธีเหล่านี้ในร้านค้าอีคอมเมิร์ซของคุณควบคู่กับวิธีการชำระเงินอีคอมเมิรซ์ที่ลูกค้านิยมใช้ โดย Payments รองรับวิธีชำระเงินมากกว่า 100 วิธี ทั้งแบบใช้บัตรและไม่ใช้บัตร อีกทั้งยังสอดคล้องกับข้อบังคับปัจจุบันทั้งหมด เพื่อให้คุณสามารถรับชำระเงินจากลูกค้าในกว่า 195 ประเทศ และมีใบรับรองความปลอดภัยที่เข้มงวดที่สุดในอุตสาหกรรม
วิธีการชำระเงินที่หน้าร้าน
หากคุณขายสินค้าและบริการแบบเปิดขายหน้าร้าน กลยุทธ์ที่เหมาะสมที่สุดในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าคือการผสมผสานวิธีการชำระเงินแบบเดิมและแบบอิเล็กทรอนิกส์ คำแนะนำต่อไปนี้จะช่วยให้คุณเลือกวิธีที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของคุณ:
- ความเร็ว
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าวิธีการชำระเงินช่วยให้ลูกค้าชำระเงินได้อย่างรวดเร็ว วิธีนี้จะช่วยลดปัญหาคิวยาวและยกระดับประสบการณ์ช้อปปิ้งของลูกค้า - ** การผสานการทำงานกับซอฟต์แวร์การเรียกเก็บเงิน**
เพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดการด้านการเงินและบัญชี คุณสามารถผสานการทำงานวิธีการชำระเงินเข้ากับซอฟต์แวร์ออกใบแจ้งหนี้ได้ โดยต้องมั่นใจว่าปฏิบัติตามข้อกำหนดของ Create and Grow (Crea y Crece) Law และ กฎหมายต่อต้านการฉ้อโกง
วิธีชำระเงินหนึ่งที่ตอบโจทย์ทั้ง 2 ข้อและเหมาะกับหน้าร้านคือการชำระเงินแบบไร้สัมผัสผ่านโทรศัพท์มือถือ Stripe Payments ช่วยให้คุณรับชำระด้วยวิธีเหล่านี้ และรองรับการใช้งานร่วมกับ Stripe Terminal ซึ่งเป็นโซลูชันสำหรับการชำระเงินแบบเห็นหน้ากัน เทอร์มินัลดังกล่าวเป็นเทอร์มินัลบัตรที่ไม่ได้ขึ้นตรงกับธนาคาร จึงไม่ต้องพึ่งพาข้อตกลงที่เข้มงวดกับธนาคาร และสามารถผสานการทำงานเข้ากับร้านค้าอีคอมเมิร์ซของคุณได้อย่างลงตัว วิธีนี้ช่วยให้คุณจัดการการชำระเงินทั้งหมดทั้งแบบพบหน้ากันและออนไลน์ได้จากแพลตฟอร์มเดียว พร้อมมอบประสบการณ์การค้าแบบแพลตฟอร์มรวมให้กับลูกค้า
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวิธีการชำระเงินในสเปน
วิธีการชำระเงินที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในสเปนสามารถใช้สำหรับการขายระหว่างประเทศได้หรือไม่
วิธีการชำระเงินบางวิธี เช่น บัตรและการโอนเงินผ่านธนาคาร สามารถใช้สำหรับการขายระหว่างประเทศได้ อย่างไรก็ตาม วิธีอื่นๆ เช่น การหักบัญชีอัตโนมัติ สามารถใช้ได้เฉพาะภายในเขต SEPA เท่านั้น ซึ่งครอบคลุมประเทศในสหภาพยุโรปและประเทศยุโรปอื่นๆ (เช่น อันดอร์รา สหราชอาณาจักร และสวิตเซอร์แลนด์) บางวิธีจำกัดการใช้งานเฉพาะบางประเทศ เช่น Bizum ซึ่งปัจจุบันใช้ได้เฉพาะในสเปน อันดอร์รา โปรตุเกส และอิตาลี ดังนั้นหากกำลังขยายธุรกิจออกนอกสเปน ควรคำนึงถึงจุดนี้ให้มาก
หากคุณตัดสินใจส่งออกจากสเปน โปรดจำไว้ว่าความนิยมของวิธีการชำระเงินจะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ตัวอย่างเช่น ใน เนเธอร์แลนด์ การรองรับ iDEAL จะช่วยลูกค้าได้มาก เนื่องจากเป็นวิธีการชำระเงินที่ได้รับความนิยมและใช้เฉพาะในประเทศ โดยคิดเป็น 69% ของการซื้อสินค้าดิจิทัลของลูกค้าชาวดัตช์ วิธีนี้คล้ายกับ BLIK ในโปแลนด์ ซึ่งเป็นวิธีการชำระเงินที่ใช้มากที่สุดผ่านอุปกรณ์มือถือ ส่วนในสวีเดน หนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ Swish ซึ่งเป็นเครื่องมือที่คล้ายกับ Bizum ที่พัฒนาโดยธนาคารเพื่ออำนวยความสะดวกในการโอนเงินทันที
วิธีการชำระเงินใดปลอดภัยที่สุด
หนึ่งในวัตถุประสงค์หลักของข้อบังคับปัจจุบันคือการรับรองความปลอดภัยของวิธีการชำระเงิน ส่งผลให้โดยรวมมีระดับการป้องกันสูง อย่างไรก็ตาม บางวิธีมีมาตรการที่ก้าวไปอีกขั้น ตัวอย่างเช่น Bizum มีมาตรการรักษาความปลอดภัยเช่นเดียวกับแอปธนาคาร และเป็นไปตามตาม European Directive 2015/2366 ทำให้เป็นหนึ่งในวิธีที่ปลอดภัยที่สุด เทคโนโลยีการชำระเงินผ่านมือถือ มักจะสร้างรหัสความปลอดภัยเฉพาะสำหรับแต่ละธุรกรรม ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากการฉ้อโกงและเพิ่มความเชื่อมั่นของลูกค้า สุดท้าย การชำระเงินด้วยบัตรก็มีความปลอดภัยสูงเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อแพลตฟอร์มการชำระเงินใช้มาตรการและโปรโตคอลเพิ่มเติม เช่น การแปลงเป็นโทเค็นเพื่อชำระเงิน
ตามข้อมูลจาก Economic Bulletin 2025/Q2 ของธนาคารแห่งประเทศสเปน ความปลอดภัยเป็นหนึ่งในฟีเจอร์หลักที่ลูกค้าให้ความสำคัญเมื่อใช้บัตรและทดลองวิธีการชำระเงินใหม่ แสดงให้เห็นถึงว่าเมื่อพิจารณาว่าธุรกิจของคุณควรใช้วิธีการชำระใด ควรให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับแรก
Stripe Payments จะช่วยให้คุณรับชำระด้วยวิธีการที่หลากหลายมากขึ้นได้อย่างไร
Stripe Payments เปิดให้ทั้งธุรกิจออนไลน์และร้านที่มีหน้าร้านรับชำระเงินได้หลากหลายวิธี และยังเหมาะกับธุรกิจที่ขายผ่านทั้ง 2 ช่องทาง
Stripe Payments มอบโซลูชันการชำระเงินระดับโลกแบบครบวงจรที่ช่วยให้ธุรกิจใดๆ ตั้งแต่สตาร์ทอัพที่กำลังเติบโตไปจนถึงองค์กรระดับโลก โดยรับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกได้
Stripe Payments ช่วยคุณทำสิ่งต่อไปนี้ได้
- เพิ่มประสิทธิภาพให้ประสบการณ์การชำระเงินของคุณ: สร้างประสบการณ์ที่ราบรื่นให้กับลูกค้าและประหยัดเวลาในการทำงานวิศวกรรมได้หลายพันชั่วโมงด้วย UI การชำระเงินที่สร้างไว้ให้แล้ว, สิทธิ์เข้าถึงวิธีการชำระเงินมากกว่า 125 วิธี และ Link ซึ่งเป็นกระเป๋าเงินที่สร้างโดย Stripe
- ขยายไปสู่ตลาดใหม่ๆ ได้เร็วขึ้น: เข้าถึงลูกค้าทั่วโลกและลดความซับซ้อนและค่าใช้จ่ายในการจัดการหลายสกุลเงินด้วยตัวเลือกการชำระเงินข้ามพรมแดนที่มีให้บริการใน 195 ประเทศและกว่า 135 สกุลเงิน
- รวมการชำระเงินที่จุดขายและทางออนไลน์ไว้ด้วยกัน: สร้างประสบการณ์การค้าแบบแพลตฟอร์มรวมในช่องทางออนไลน์และที่จุดขายเพื่อปรับแต่งการโต้ตอบให้ตรงกลุ่ม ตอบแทนความภักดี และเพิ่มรายได้
- ปรับปรุงประสิทธิภาพการชำระเงิน: เพิ่มรายรับด้วยเครื่องมือการชำระเงินที่กำหนดเองได้และปรับแต่งได้ง่ายๆ ซึ่งรวมถึงระบบป้องกันการฉ้อโกงแบบไม่ต้องเขียนโค้ดและความสามารถขั้นสูงเพื่อเพิ่มอัตราการอนุมัติ
- เดินหน้าได้เร็วขึ้นด้วยแพลตฟอร์มที่ยืดหยุ่นและเชื่อถือได้เพื่อการเติบโต: สร้างบนแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อขยับขยายไปพร้อมกับคุณ โดยมีระยะเวลาให้บริการ 99.999% โดยแทบจะไม่หยุดทำงานเลย และมีความน่าเชื่อถือสูงเป็นระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Stripe Payments สามารถขับเคลื่อนการชำระเงินออนไลน์และที่จุดขายได้ หรือเริ่มใช้งานเลยวันนี้
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ