ในไตรมาสแรกของปี 2024 บริษัทต่างๆ ในสเปนส่งออกสินค้ามูลค่า 93.43 พันล้านยูโร ตามข้อมูลจาก ICEX ซึ่งเป็นหน่วยงานสาธารณะในสเปนที่สนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจในระดับนานาชาติ ตัวเลขนี้รวมการขายไปยังประเทศต่างๆ นอกสหภาพยุโรป (EU) และธุรกรรมในชุมชนภายในสหภาพยุโรป

นี่เป็นตัวเลขสูงสุดเป็นอันดับสองที่ ICEX เคยบันทึกไว้ และข้อมูลขององค์กรแสดงให้เห็นว่าการส่งออกในเดือนกันยายน 2024 เติบโตขึ้น 2% เมื่อเทียบปีต่อปี ยอดขายระหว่างประเทศของธุรกิจในสเปนกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่มีปัจจัยในท้องถิ่นที่ต้องพิจารณาหากคุณวางแผนที่จะขยายธุรกิจของคุณเองไปยังต่างประเทศ บทความนี้จะสํารวจแง่มุมที่สําคัญของการขยายธุรกิจไปยังประเทศอื่นๆ ที่คุณต้องพิจารณา

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

• ข้อดีของการขยายธุรกิจนอกประเทศสเปน
  
• วิธีการขยายธุรกิจสู่ระดับนานาชาติจากสเปน
  
• คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการขยายธุรกิจนอกประเทศสเปน
  

ข้อดีของการขยายธุรกิจนอกประเทศสเปน

การสังเกตการณ์ความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจด้านสากลของหอการค้าสเปนระบุว่าบริษัทในสเปนที่ขายสินค้าไปยังต่างประเทศจะได้รับประโยชน์สำคัญหลายประการ ในรายงานเดือนกรกฎาคม 2024 นี้ซึ่งอิงจากการสำรวจบริษัทกว่า 400 แห่งในสเปนที่ทำธุรกิจการขายระหว่างประเทศ หอการค้าได้ตรวจสอบผลประโยชน์หลักที่ผู้ตอบแบบสอบถามระบุไว้ ต่อไปนี้คือประโยชน์สามประการซึ่งบริษัทที่ทำการสำรวจมักกล่าวถึงบ่อยที่สุด

• การเติบโตของธุรกิจ: ธุรกิจมีรายรับต่อปีเพิ่มขึ้น
  
• ความสามารถในการทํากําไรของธุรกิจที่เพิ่มขึ้น: บริษัทมีความสามารถในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนของตนได้ดีขึ้น
  
• การสร้างโอกาสใหม่ๆ ในตลาด: ธุรกิจได้รับยอดขายสุทธิเพิ่มเติมซึ่งจะไม่สามารถทำได้หากไม่มีการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ
  

นอกเหนือจากผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจเหล่านี้แล้ว ยังมีข้อดีอื่นๆ ที่ไม่ชัดเจนนักแต่ก็มีความสำคัญเท่าเทียมกัน ดังที่บริษัทที่ทำการสำรวจระบุไว้ดังนี้

• การกระจายรายได้: ธุรกิจที่ขายสินค้าในต่างประเทศได้รับผลกระทบโดยตรงจากความท้าทายทางเศรษฐกิจในสเปนน้อยกว่า ตัวอย่างเช่น ระหว่างปี 2008 ถึง 2013 ในช่วงภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ที่สุดของสเปน บริษัทที่ดำเนินธุรกิจในเยอรมนีด้วยเช่นกันต่างประสบปัญหาน้อยกว่า ทั้งนี้เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศเยอรมนีฟื้นตัวเร็วขึ้น โดยเติบโตอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปี 2010 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศประจำปี (GDP) เพิ่มขึ้น 4.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
  
• ชื่อเสียง: การขยายธุรกิจในต่างประเทศช่วยเพิ่มการรับรู้แบรนด์ นอกจากนี้ ผู้บริโภคโดยทั่วไปมองว่าบริษัทที่ดําเนินธุรกิจข้ามพรมแดนมีเสถียรภาพมากขึ้น ซึ่งช่วยยกระดับชื่อเสียงของตนและสร้างความไว้วางใจในหมู่ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศได้มากขึ้น
  
• GDP ที่เพิ่มขึ้น: ผลกำไรทางธุรกิจที่สูงขึ้นไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อบริษัทเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอีกด้วย ตัวอย่างเช่น Business Competitiveness Observatory on Internationalization รายงานว่าในปี 2022 การเติบโตของ GDP ของสเปนเกือบครึ่งหนึ่งมาจากการดำเนินงานในต่างประเทศ ใน 1975, การดําเนินงานเหล่านี้คิดเป็นเพียง 11% ของ GDP ในสเปน ในขณะที่ปี 2024 ตัวเลขนี้ได้เพิ่มขึ้นเป็นถึง 42%
  

เมื่อคำนึงถึงผลประโยชน์เหล่านี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่บริษัทในสเปนจำนวนเพิ่มมากขึ้นเลือกที่จะขยายธุรกิจไปต่างประเทศ ในเดือนเมษายน 2024 การส่งออกโดยบริษัทในสเปนเพิ่มขึ้น 15.8% ต่อปี ซึ่งเป็นสถิติใหม่ในเดือนนั้น

วิธีการขยายธุรกิจสู่ระดับนานาชาติจากสเปน

ก่อนที่จะขยายไปสู่ระดับสากล สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจกฎระเบียบที่มีผลใช้บังคับอยู่ในสเปนในปัจจุบัน พระราชกฤษฎีกา 1816/1991 กำหนดบทบัญญัติทางกฎหมายและข้อบังคับสำหรับธุรกรรมทางเศรษฐกิจกับต่างประเทศ ไม่ว่าจะอยู่ภายในหรืออยู่นอกสหภาพยุโรป ต่อไปนี้คือภาพรวมคร่าวๆ ของมาตราที่สําคัญที่สุด::

• มาตรา 1: บริษัทในสเปนมีอิสระในการส่งออกไปยังประเทศอื่น
  
• มาตรา 3: การส่งออกบางรายการอาจมีข้อจำกัดหรือข้อห้ามหากก่อให้เกิดความเสียหายต่อผลประโยชน์ของสเปนอย่างมีนัยสำคัญ ในบางกรณี การได้รับอนุมัติจากฝ่ายบริหารที่จำเป็นก็เพียงพอที่จะดำเนินการข้ามพรมแดนได้
  
• มาตรา 7: บริษัทในสเปนสามารถรับการชำระเงินเป็นสกุลเงินต่างประเทศได้ หากปฏิบัติตามภาระผูกพันด้านภาษี
  

นอกเหนือจากบทบัญญัติทั่วไปของพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้แล้ว ระเบียบที่บังคับใช้ในประเทศสเปนยังมีความแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าธุรกิจดำเนินการจัดหาภายในชุมชน (กล่าวคือ ภายในสหภาพยุโรป) หรือส่งออก (กล่าวคือ นอกสหภาพยุโรป)

การจัดหาสินค้าและบริการภายในชุมชน

แม้ว่าหลายคนมักใช้คำว่า "การส่งออก" สำหรับการขายระหว่างประเทศ แต่บางคนอ้างถึงธุรกรรมภายในสหภาพยุโรปว่าเป็น "การจัดหาภายในชุมชน" และการซื้อที่เกิดขึ้นภายในสหภาพยุโรปเรียกว่า "การซื้อภายในชุมชน" ข้อกำหนดเพียงข้อเดียวในการดำเนินการธุรกรรมเหล่านี้จากสเปนคือการจดทะเบียนในทะเบียนผู้ดำเนินการภายในชุมชน (ROI) ในการดำเนินการนี้ คุณต้องส่งแบบฟอร์ม 036 และขอหมายเลขภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ภายในชุมชน (เรียกอีกอย่างว่าหมายเลขภาษีมูลค่าเพิ่มของยุโรป หรือ NIF-IVA) เพื่อให้มีคุณสมบัติสำหรับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายต้องมีหมายเลขภาษีมูลค่าเพิ่มภายในชุมชนที่ถูกต้อง และทั้งสองหมายเลขต้องอยู่ในใบแจ้งหนี้สำหรับธุรกรรม

คุณต้องรายงานธุรกรรมภายในชุมชนทั้งหมด รวมถึงทั้งการจัดหาและการซื้อไปยังหน่วยงานภาษีของสเปน (AEAT) โดยใช้แบบฟอร์ม 349

การส่งออก

สินค้าส่งออกจากสเปนได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่ยังคงมีขั้นตอนการดำเนินงานบางประการที่คุณต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นเมื่อดำเนินการดังกล่าว ตัวอย่างเช่น จำเป็นต้องส่ง Single Administrative Document (SAD) ซึ่งไม่เพียงแต่ทำหน้าที่ทางศุลกากรเท่านั้น แต่ยังกำหนดภาษีและอากรที่เกี่ยวข้องอีกด้วย

แม้ว่าแบบฟอร์ม 349 จะใช้ได้เฉพาะกับธุรกรรมภายในสหภาพยุโรป แต่แบบฟอร์มภาษีบางรายการจะต้องใช้ในการรายงานทั้งการส่งออกและการจัดหาภายในชุมชน โดยเอกสารที่เกี่ยวข้องมีดังนี้

• แบบฟอร์ม 303
  
• แบบฟอร์ม 390
  
• แบบฟอร์ม 200
  

นอกเหนือจากการปฏิบัติตามกฎระเบียบการค้าระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว คุณยังต้องนำแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณยอมรับการชำระเงินจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกมาใช้ด้วย หากต้องการเพิ่มลูกค้าต่างประเทศให้สูงสุด การเลือกเกตเวย์การชำระเงินระหว่างประเทศ ที่รองรับหลายสกุลเงิน และวิธีการชำระเงินที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในแต่ละประเทศ เช่น Stripe Payments ถือเป็นสิ่งสำคัญ

การขยายธุรกิจไปทั่วโลกจากสเปน ความสําเร็จของ Playtomic ที่ใช้ Stripe

Playtomic แพลตฟอร์มการจองสนามพาเดลและเทนนิสจากสเปน ประสบความสำเร็จในการขยายการดำเนินงานโดยร่วมมือกับสโมสรกีฬาในกว่า 50 ประเทศ นับตั้งแต่จับมือเป็นพาร์ทเนอร์กับ Stripe แล้ว Playtomic มีผู้ใช้งานมากกว่าหนึ่งล้านคนต่อเดือน มีอัตราการอนุมัติการชำระเงินถึง 99% และมีรายได้ต่อเดือนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 14.5 ล้านยูโร Pedro Clavería ผู้ก่อตั้งร่วมและหัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ของ Playtomic กล่าวว่า "นี่คือการอำนวยความสะดวกให้กับผู้เล่นทุกคนทั่วโลก Stripe ช่วยให้สโมสรสามารถเรียกเก็บเงินจากผู้เล่นต่างชาติได้อย่างง่ายดาย [...] Stripe เป็นตัวเปลี่ยนเกมสำหรับธุรกิจของเรา โดยช่วยให้เราเร่งการเติบโตได้ Stripe คือพาร์ทเนอร์ที่น่าเชื่อถือสําหรับการขยายธุรกิจไปทั่วโลก"

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการขยายธุรกิจนอกประเทศสเปน

ตลาดใดดีที่สุดสำหรับธุรกิจในสเปนที่ต้องการขยายไปยังต่างประเทศ

โดยทั่วไป สหภาพยุโรปและละตินอเมริกานั้นเหมาะที่สุดสำหรับธุรกิจในสเปนที่ต้องการขยายไปสู่ระดับนานาชาติ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และโปรตุเกส เป็นจุดหมายปลายทาง 4 อันดับแรกสำหรับยอดขายระหว่างประเทศของสเปน เนื่องมาจากธุรกรรมภายในชุมชนนั้นง่ายกว่าและคล่องตัวกว่าการส่งออก แม้ว่าการจัดการกับลูกค้าในละตินอเมริกาอาจมีความซับซ้อนมากกว่าในแง่ของภาษี แต่การไม่มีอุปสรรคด้านภาษาทำให้การส่งออกบริการและผลิตภัณฑ์ดิจิทัลเป็นเรื่องง่ายกว่าเมื่อเทียบกับตลาดอื่นๆ

ภาคธุรกิจใดทํากําไรได้มากที่สุดเมื่อจําหน่ายสินค้าทั่วโลกจากสเปน

อุตสาหกรรมอาหาร สินค้าทุน (เช่น เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต) ยานยนต์ ยาสูบ และเครื่องดื่มมีส่วนแบ่งการส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของสเปน ตามรายงานรายเดือนจากกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และวิสาหกิจ

มีการสนับสนุนทางการเงินสำหรับการขยายธุรกิจนอกสเปนหรือไม่

มีการสนับสนุนทางการเงินสําหรับธุรกิจที่ต้องการขยายกิจการไปนอกสเปน ตัวอย่างเช่น มีโปรแกรมสนับสนุน ICEX ซึ่งรวมถึงเงินช่วยเหลือการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ นอกจากนี้ ธุรกิจต่างๆ ยังสามารถได้รับประโยชน์จาก Digital Kit ซึ่งมอบเงินช่วยเหลือเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของธุรกิจ เช่น การพัฒนาแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ

การขยายธุรกิจอีคอมเมิร์ซไปยังต่างประเทศมีประโยชน์อย่างไร

การเข้าถึงฐานลูกค้าใหม่และการกระจายรายได้ตามที่กล่าวไว้ในบทความนี้ ถือเป็นข้อได้เปรียบหลักสองประการของการขยายธุรกิจอีคอมเมิร์ซในระดับนานาชาติ สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าลักษณะทางดิจิทัลของรูปแบบธุรกิจนี้ช่วยลดความท้าทายบางประการที่เกี่ยวข้องกับการขยายตัวในระดับนานาชาติได้อย่างมาก ตัวอย่างเช่น การใช้ผู้ประมวลผลการชําระเงินที่มีฟังก์ชันการให้บริการภายในประเทศจะช่วยปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าและลดค่าใช้จ่ายเมื่อเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ