เศรษฐกิจดิจิทัลได้ทําให้ธุรกิจระหว่างประเทศขยายกิจการไปทั่วโลก โดยธุรกิจในสเปนที่เลือกนําเสนอผลิตภัณฑ์และบริการของตนในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ข่าวดีสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซก็คือการดำเนินธุรกิจข้ามพรมแดนเหล่านี้ (กล่าวคือธุรกรรมข้ามพรมแดนระหว่างประเทศสมาชิก 2 ประเทศ) ไม่จำเป็นต้องเสียภาษี อีกทั้งยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มเติม

แต่ไม่ใช่ว่าธุรกิจทุกแห่งในสเปนจะทําธุรกรรมข้ามพรมแดนได้ทั่วสหภาพยุโรปและได้รับสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้อง และเพื่อเป็นการป้องกันการฉ้อโกง ธุรกิจที่ทำธุรกรรมข้ามพรมแดนภายในสหภาพยุโรปจะต้องมีข้อมูลประจำตัว โดยมีเพียงบุคคลทั่วไปที่ประกอบอาชีพอิสระและบริษัทในสเปนที่มีหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)ภายในชุมชนเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ทําธุรกรรมดังกล่าว

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

• หมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มภายในชุมชนคืออะไร
  
• หมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มภายในชุมชนใช้ทำอะไรในประเทศสเปน
  
• ใครบ้างที่ต้องมีหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มภายในชุมชนในสเปน
  
• วิธีขอรับหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มภายในชุมชนในสเปน
  
• วิธีการตรวจสอบหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มภายในชุมชนในสเปน
  

หมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มภายในชุมชนคืออะไร

หมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มภายในชุมชนคือหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีสําหรับผู้ประกอบอาชีพที่ดำเนินธุรกิจหรือมีความตั้งใจที่จะดำเนินธุรกิจข้ามพรมแดนภายในตลาดยุโรป ระบบจะรายงานธุรกรรมเหล่านี้โดยใช้แบบฟอร์ม 349 ในเวลาต่อมา

หมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มภายในชุมชนยังสามารถเรียกว่าหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มของยุโรป หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มของสหภาพยุโรป หรือเรียกตามตัวย่อในภาษาสเปนว่า NIF-IVA ถึงแม้ว่าชื่อเรียกจะแตกต่างกันไป แต่ก็หมายถึงหมายเลขประจําตัวเดียวกันในทุกกรณี ในสเปน หมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มภายในชุมชนจะขึ้นต้นด้วยตัวอักษร "ES" ตามด้วยหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษี (NIF) และอยู่ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งจาก 3 รูปแบบต่อไปนี้

• ESX12345678
  
• ES12345678X
  
• ESX1234567X
  

ดังที่แสดงด้านบน หมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มภายในชุมชนของสเปนจะขึ้นด้วยตัวอักษร ซึ่งใช้แทนประเทศ ตามด้วยอักขระอีก 9 หลักเสมอ หลักแรก หลักสุดท้าย หรือทั้งคู่อาจเป็นตัวอักษร ส่วนที่เหลือเป็นตัวเลข

หมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มภายในชุมชนใช้ทำอะไรในประเทศสเปน

การมีหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มภายในชุมชนนั้นเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานภาษีและธุรกิจในสเปนดังนี้

• ดูข้อมูลภาษีของผู้ประกอบธุรกิจทั้งหมดในสหภาพยุโรป
  
• อํานวยความสะดวกให้กับการดําเนินงานด้านศุลกากรและกระบวนการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
  
• หลีกเลี่ยงการจ่ายค่าปรับหรือค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจำนวนมากกรณีทําธุรกรรมข้ามพรมแดนภายในสหภาพยุโรปโดยไม่มีข้อมูลประจําตัวที่เหมาะสม
  
• ดำเนินงานภายในสหภาพยุโรปโดยไม่เสียอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มในสเปน ธุรกิจจะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้แทน
  
  • ชําระภาษีมูลค่าเพิ่มในประเทศปลายทาง: ภาษีมูลค่าเพิ่มของประเทศที่มีการขายสินค้าหรือบริการ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นเมื่อฝ่ายที่ซื้อไม่ได้จดทะเบียนหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มภายในชุมชน
    
  • ไม่ต้องชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม: กรณีนี้พบได้ค่อนข้างบ่อยในการทำธุรกรรมระหว่างธุรกิจ (เช่น ซัพพลายเออร์ที่จัดหาวัตถุดิบให้กับบริษัทการค้าที่ผลิตสินค้าเพื่อจําหน่ายให้ลูกค้า)
    

โปรดทราบว่าหากต้องการรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเหล่านี้ ธุรกิจในสเปนจะต้องระบุหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มภายในชุมชนของตนไว้ในใบแจ้งหนี้ที่ออกให้เมื่อจําหน่ายผลิตภัณฑ์ให้ธุรกิจอื่นๆ นอกจากนี้ยังต้องขอหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ซื้อเหล่านั้นด้วย ไม่เพียงเท่านั้น ธุรกิจต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าใบแจ้งหนี้ที่ตนได้รับมานั้นระบุหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มของตัวเองและของซัพพลายเออร์อย่างถูกต้อง

ใครบ้างที่ต้องมีหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มภายในชุมชนในสเปน

บุคคลทั่วไปที่ประกอบอาชีพอิสระหรือบริษัทที่เข้าข่ายตามเงื่อนไขบางประการ (ซึ่งจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับภูมิลําเนาด้านภาษีของบุคคลทั่วไปที่ประกอบอาชีพอิสระหรือธุรกิจ) ต่างก็จำเป็นต้องต้องระบุหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มภายในชุมชนในประเทศสเปน

คาบสมุทรไอบีเรียของสเปนหรือหมู่เกาะแบลีแอริก

• รับบริการจากธุรกิจที่ไม่มีสํานักงานใหญ่ในดินแดนสเปน ซึ่งต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
  
• เป็นผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (กล่าวคือเป็นธุรกิจและบุคคลทั่วไปที่ประกอบอาชีพอิสระที่เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ซื้อ) ด้วยใบรับรองที่เกี่ยวข้อง
  

คาบสมุทรไอบีเรียของสเปน หมู่เกาะแบลีแอริก หรือดินแดนของสเปนที่ไม่เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (เช่น หมู่เกาะคานารี เซวตา และเมลียา)

• จําหน่ายหรือซื้อสินค้าหรือบริการที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มในดินแดนอื่นๆ ของสหภาพยุโรป โปรดทราบว่าจำเป็นต้องระบุหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ไม่ว่าจะสินค้าหรือบริการที่ซื้อนั้นจะใช้ดําเนินกิจกรรมทางการค้าในประเทศอื่นหรือไม่ก็ตาม
  

คาบสมุทรไอบีเรียของสเปนหรือหมู่เกาะแบลีแอริก

• จำหน่ายบริการที่ตามกฎพิเศษของ Agencia Tributaria (AEAT) ถือเป็นการมอบบริการในประเทศสมาชิกของสภาพยุโรปอีกประเทศหนึ่ง
  
• ผู้ซื้อบริการจะเป็นผู้เสียภาษีในการดําเนินการต่างๆ (กล่าวคือเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มของประเทศปลายทาง)
  

วิธีขอรับหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มภายในชุมชนในสเปน

หากต้องการขอรับหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มภายในชุมชนในสเปน คุณต้องปฏิบัติตามขั้นตอนการสมัครโดยทําตามขั้นตอนด้านล่างนี้

• ดาวน์โหลด แบบฟอร์ม 036 ซึ่งเป็นเอกสารชี้แจงในรูปแบบ PDF นอกจากนี้คุณยังสามารถกรอกแบบฟอร์มทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ทางเว็บไซต์ทางการของ AEAT
  
• ในส่วน "Reasons for filing" ให้เลือกเหตุผลสำหรับการอัปเดตข้อมูลในสำนักทะเบียนนักธุรกิจ ผู้เชี่ยวชาญ และเจ้าของธุรกิจเป็น เพื่อดำเนินการจดทะเบียนในสํานักทะเบียนผู้ให้บริการภายในชุมชน (ROI)
  
• ไปที่ส่วน "Value Added Tax" เพื่อระบุว่าคุณต้องการเป็นส่วนหนึ่งของ ROI และป้อนวันที่ที่คุณคาดว่าจะทําธุรกรรมรายการแรกกับบริษัทอื่นในสหภาพยุโรป
  
• หลังจากยื่นแบบฟอร์ม 036 แล้ว AEAT จะมีเวลา 3 เดือนในการอนุมัติใบสมัคร หลังจากได้รับอนุมัติ คุณจะได้รับหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มภายในชุมชนและเข้าไปอยู่ในระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT Information Exchange System (VIES) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่พัฒนาโดยคณะกรรมาธิการยุโรปสำหรับใช้ค้นหาข้อมูลภาษีของบริษัทต่างๆ ในยุโรป
  

วิธีการตรวจสอบหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มภายในชุมชนในสเปน

หากต้องการยืนยันว่าหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มภายในชุมชนนั้นถูกต้อง คุณต้องใช้ระบบ VIES ที่กล่าวถึงข้างต้น ต่อไปนี้คือวิธีการตรวจสอบระบบ VIES

• ผ่าน AEAT: ไม่ว่าคุณจะต้องการตรวจสอบหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มภายในชุมชนของสเปนหรือจากประเทศอื่นโปรดป้อนหมายเลขที่คุณต้องการตรวจสอบความถูกต้องในช่องข้อความที่กําหนดบน AEAT เว็บไซต์ หลังจากคลิก "Submit" คุณจะได้รับผลการยืนยัน
  
• ผ่านคณะกรรมาธิการยุโรป: กระบวนการนี้ง่ายมาก แต่จะมีขั้นตอนเพิ่มเข้ามาเล็กน้อย
  
  • คลิกเมนูแบบเลื่อนลงรายการแรกและเลือกประเทศสมาชิกบนเว็บไซต์คณะกรรมาธิการยุโรป ตัวอย่างเช่น หากเป็นดินแดนสเปน ให้เลือก "ES-Spain"
    
  • ป้อนหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มที่จะตรวจสอบในช่องข้อความ "VAT number"
    
  • ไม่บังคับ: นอกจากนี้ คุณยังสามารถเลือกประเทศสมาชิกและป้อนหมายเลขภาษีมูลค่าเพิ่มของบุคคลทั่วไปที่ดําเนินการยืนยันเพื่อใช้เป็นหลักฐานได้ด้วย
    
  • คลิกที่ปุ่ม "Check" เพื่อรับผล
    
• ผ่าน Stripe Tax: หากคุณใช้ Stripe Tax เพื่อทําให้การเรียกเก็บและการคํานวณภาษีมูลค่าเพิ่มในการขายเป็นเรื่องง่าย เครื่องมือนี้จะช่วยให้คุณยืนยันหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มภายในชุมชนของลูกค้าได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยให้คุณใช้ประโยชน์จากข้อยกเว้นภาษีที่ถูกต้องหรือการเรียกเก็บเงินภาษีแบบย้อนกลับ นอกจากนี้ Tax ยังได้รับการอัปเดตเป็นประจําโดยจะเปลี่ยนมาใช้อัตราภาษีล่าสุดของมากกว่า 50 ประเทศที่รองรับ (ดูรายชื่อเขตแดนที่ไม่รองรับ)
  

แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกวิธีใดในการยืนยันหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มภายในชุมชน จะมีผลลัพธ์ได้เพียง 2 แบบเท่านั้น ได้แก่

• ถูกต้อง: หมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มภายในชุมชนถูกต้อง ข้อมูลภาษีมีอยู่ในระบบและจะแสดงบนหน้าจอ
  
• ไม่ถูกต้อง: หมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มภายในชุมชนไม่ถูกต้อง ข้อมูลภาษีไม่อยู่ในฐานข้อมูลของประเทศนั้น สาเหตุได้แก่
  
  • หมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มภายในชุมชนไม่ถูกต้อง
    
  • ไม่ได้จดทะเบียนหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มภายในชุมชนในการทําธุรกรรมภายในสหภาพยุโรป
    
  • การจดทะเบียน AEAT ยังไม่เสร็จสิ้น
    

โปรดทราบว่าแม้คุณจะจดทะเบียน ROI เสร็จสิ้นแล้ว อาจต้องใช้เวลาสักพักกว่าที่การจดทะเบียนบริษัทของคุณจะปรากฏในฐานข้อมูล VIES เพื่อความชัดเจนเกี่ยวกับความถูกต้องของหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มภายในชุมชน เราขอแนะนําให้คุณปรึกษาหน่วยงานด้านภาษีของประเทศที่บริษัทจดทะเบียน ตัวอย่างเช่น หากเป็นหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มภายในชุมชนของบริษัทในสเปน คุณจะต้องติดต่อ AEAT หลังจากนั้น หน่วยงานจะตรวจสอบว่าหมายเลขนั้นถูกต้องหรือไม่ และจะให้ข้อมูลชื่อและที่อยู่บริษัท รวมทั้งแจ้งว่าเป็นบุคคลทั่วไปที่ประกอบอาชีพอิสระหรือบริษัท