ความท้าทายใหญ่อย่างหนึ่งที่ธุรกิจต้องเผชิญขณะเติบโตไปทั่วโลกและขยายตลาดก็คือการเพิ่มอัตราการยอมรับการชําระเงิน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการขายอย่างเต็มศักยภาพ ธุรกรรมที่ไม่สําเร็จเป็นปัญหาสําคัญในการค้าออนไลน์ และธุรกิจควรหาทางลดจํานวนธุรกรรมเหล่านั้นเพื่อปกป้องรายรับ

การใช้บริการในท้องถิ่นเป็นโซลูชันแบบใหม่ที่ช่วยให้ธุรกิจทั่วโลกเพิ่มประสิทธิภาพให้กับกระบวนการชําระเงินและปรับปรุงอัตราความสําเร็จของธุรกรรมได้ สําหรับธุรกิจที่ดําเนินกิจการในหลายประเทศหรือหลายภูมิภาค การทําความเข้าใจและนํากลยุทธ์การใช้บริการในท้องถิ่นมาใช้ถือเป็นสิ่งสำคัญในการปรับปรุงผลกําไรและประสบการณ์ของลูกค้า

อย่างไรก็ตามธุรกิจจํานวนมากกลับไม่คุ้นเคยกับการใช้บริการในท้องถิ่น ต่อไปนี้เป็นคู่มือเพื่อช่วยให้คุณเข้าใจว่าการให้บริการในท้องถิ่นนั้นคืออะไร ประโยชน์และความท้าทายของธุรกิจประเภทต่างๆ ตลอดจนวิธีที่ธุรกิจต่างๆ นําสิ่งนี้ไปใช้ผ่านแพลตฟอร์มประมวลผลการชําระเงิน เช่น Stripe เพื่อช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ทําการตัดสินใจที่สําคัญเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานด้านการรับชําระเงินของตนได้

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

• การใช้บริการในท้องถิ่นคืออะไร
  
• การใช้บริการในท้องถิ่นมีวิธีการทำงานอย่างไร
  
• ประโยชน์ของการใช้บริการในท้องถิ่น
  
• ความท้าทายและอุปสรรคที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการในท้องถิ่น
  
• ธุรกิจประเภทใดบ้างที่ใช้บริการในท้องถิ่น
  
• Stripe นำเสนอการใช้บริการในท้องถิ่นหรือไม่
  

การใช้บริการในท้องถิ่นคืออะไร

การใช้บริการในท้องถิ่นคือวิธีการประมวลผลการชําระเงินที่สถาบันผู้รับบัตร ซึ่งก็คือสถาบันการเงินที่ประมวลผลการชําระเงินในนามของธุรกิจ ตั้งอยู่ในประเทศที่มีการดำเนินการชำระเงิน กระบวนการนี้ตรงกันข้ามกับการใช้บริการข้ามพรมแดน ซึ่งสถาบันผู้รับบัตรอยู่ในประเทศอื่นที่ต่างจากต้นทางการชําระเงิน

การใช้บริการในท้องถิ่นนําเสนอข้อได้เปรียบภายในพื้นที่สําหรับการชําระเงิน เนื่องจากธุรกรรมเกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมที่ธนาคารผู้ออกบัตร ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสําเร็จ การใช้บริการในท้องถิ่นนั้นมีประโยชน์หลายประการ ซึ่งเราจะอธิบายไว้ด้านล่างนี้

การใช้บริการในท้องถิ่นมีหลักการทํางานอย่างไร

ต่อไปนี้คือรายละเอียดอย่างง่ายเกี่ยวกับวิธีการทำงานของการใช้บริการในท้องถิ่น

• การเริ่มต้น: ขั้นตอนจะเริ่มต้นเมื่อลูกค้าตัดสินใจทําการซื้อและเริ่มการชําระเงินโดยป้อนรายละเอียดของบัตรบนเว็บไซต์ของธุรกิจหรือแอป

• เกตเวย์การชําระเงินในท้องถิ่น: รายละเอียดการชําระเงินจะถูกส่งผ่านการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยและมีการเข้ารหัสกับเกตเวย์การชําระเงินในประเทศของลูกค้า จากนั้นเกตเวย์จะทําหน้าที่เป็นตัวกลางที่ส่งข้อมูลบัตรอย่างปลอดภัยจากธุรกิจไปยังสถาบันผู้รับบัตร

• สถาบันผู้รับบัตรในท้องถิ่น: สถาบันผู้รับบัตรในท้องถิ่นหรือที่เรียกว่าธนาคารผู้ค้า (ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศเดียวกันกับลูกค้า) จะได้รับรายละเอียดการชําระเงินจากเกตเวย์

• ส่งคําขอให้บริษัทสถาบันผู้ออกบัตร: สถาบันผู้รับบัตรจะส่งคําขอธุรกรรมไปที่ธนาคารผู้ออกบัตรของลูกค้าเพื่อขออนุมัติ

• การอนุมัติหรือปฏิเสธ: ธนาคารผู้ออกบัตรยืนยันรายละเอียดแล้วอนุมัติหรือปฏิเสธธุรกรรมตามเงินทุนที่พร้อมใช้งาน ความถูกต้องของบัตร และมาตรการรักษาความปลอดภัยอื่นๆ เนื่องจากธุรกรรมเป็นธุรกรรมท้องถิ่น โอกาสในการอนุมัติมักจะสูงกว่าธุรกรรมต่างประเทศ

• การยืนยัน: หากธุรกรรมได้รับการอนุมัติ สถาบันผู้รับบัตรจะส่งการยืนยันกลับไปผ่านเกตเวย์การชําระเงินของธุรกิจ ซึ่งจะเป็นผู้ดําเนินการขายให้เสร็จสมบูรณ์ สถาบันผู้รับบัตรจะโอนยอดธุรกรรมที่ได้รับการอนุมัติเข้าบัญชีของธุรกิจ โดยหักค่าธรรมเนียมธุรกรรมที่ตกลงกันไว้

กระบวนการทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในไม่กี่วินาทีและลูกค้ามักจะไม่สามารถมองเห็นได้ การทําธุรกรรมภายในประเทศเดียวกันจะช่วยให้ธุรกิจที่ใช้บริการในท้องถิ่นสามารถเพิ่มโอกาสที่การชําระเงินจะสําเร็จและมอบประสบการณ์ที่ราบรื่นยิ่งขึ้นให้กับลูกค้าได้

ประโยชน์ของการใช้บริการในท้องถิ่น

การใช้บริการในท้องถิ่นมีประโยชน์หลายอย่างสําหรับธุรกิจที่ต้องการปรับปรุงประสิทธิภาพและความสามารถในการทํากําไรในตลาดทั่วโลก ต่อไปนี้คือข้อดีหลักๆ ของการใช้บริการในท้องถิ่น

• อัตราการอนุมัติที่เพิ่มขึ้น
  การอนุมัติ คือเปอร์เซ็นต์ของธุรกรรมที่พยายามดําเนินการซึ่งได้รับการอนุมัติจากธนาคารเจ้าของบัตร เมื่อใช้บริการในท้องถิ่น อัตราเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะสูงกว่า เนื่องจากคําขอให้ชําระเงินยังคงอยู่ในประเทศต้นทาง จึงช่วยลดโอกาสที่จะเกิดการปฏิเสธการชําระเงินอันเนื่องมาจากปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการข้ามพรมแดน ตัวอย่างเช่น หากบริษัทในสหรัฐอเมริกาขายผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าในสหรัฐอเมริกา การใช้สถาบันผู้รับบัตรที่จัดตั้งขึ้นในสหรัฐอเมริกาอาจส่งผลให้มีการปฏิเสธการชําระเงินน้อยลง (เนื่องจากธนาคารที่ออกบัตรระบุว่าธุรกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นในท้องถิ่น)

• ต้นทุนที่ลดลง
  การใช้บริการในท้องถิ่นสามารถช่วยให้ธุรกิจลดภาระด้านการเงินที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลการชําระเงินระหว่างประเทศ โดยทั่วไปธุรกิจที่ใช้บริการข้ามเขตแดนจะต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมเนื่องจากธุรกรรมนั้นเป็นธุรกรรมระหว่างประเทศ ในทางตรงกันข้าม เมื่อใช้สถาบันผู้รับบัตรในท้องถิ่น ธุรกิจสามารถหลีกเลี่ยงการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมข้ามพรมแดนเหล่านี้ได้ นอกจากนี้ ค่าธรรมเนียมธุรกรรมผ่านบัตรระหว่างธนาคาร ซึ่งเป็นค่าธรรมเนียมที่สถาบันผู้รับบัตรชําระให้กับธนาคารเจ้าของบัตร ก็มักจะต่ํากว่าสําหรับธุรกรรมภายในประเทศ ตัวอย่างเช่น ธนาคารในฝรั่งเศสอาจลดค่าใช้จ่ายในการทําธุรกรรมได้เมื่อใช้สถาบันผู้รับบัตรในฝรั่งเศสสําหรับการชําระเงินจากลูกค้าในฝรั่งเศส

• ประสบการณ์ของลูกค้าที่ดีขึ้น
  การใช้บริการในท้องถิ่นสามารถมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า โดยลดจํานวนการชําระเงินไม่สําเร็จและช่วยให้การทําธุรกรรมดําเนินไปอย่างราบรื่นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เมื่อเกิดการหยุดชะงักในการชําระเงินและการปฏิเสธการชําระเงินน้อยลง ลูกค้าก็จะซื้อสินค้าและบริการได้ง่ายดายยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น บริการสมัครสมาชิกแบบออนไลน์ที่มีลูกค้าในประเทศเยอรมนีสามารถใช้สถาบันผู้รับบัตรในเยอรมนีเพื่อเพิ่มความสำเร็จของการชำระเงินตามแบบแผนล่วงหน้า ซึ่งจะช่วยปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าด้วยการหลีกเลี่ยงการหยุดชะงักของบริการอันเนื่องมาจากการชำระเงินไม่สำเร็จ

• การปฏิบัติตามข้อกําหนดในท้องถิ่น
  การใช้บริการในท้องถิ่นสามารถลดความซับซ้อนของกฎระเบียบและกระบวนการปฏิบัติตามข้อกำหนดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาสำหรับธุรกิจได้ เนื่องจากแต่ละประเทศมีกฎเกณฑ์เฉพาะตัวเกี่ยวกับการประมวลผลการชำระเงิน การดำเนินการธุรกรรมภายในกรอบการกำกับดูแลในท้องถิ่นจึงสามารถรับประกันได้ว่าธุรกิจต่างๆ จะปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่จำเป็นทั้งหมด และหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นจากธุรกรรมระหว่างประเทศได้ ตัวอย่างเช่น บริษัทอีคอมเมิร์ซในบราซิลที่ใช้สถาบันผู้รับบัตรในท้องถิ่นจะดําเนินงานภายใต้กฎหมายและระเบียบข้อบังคับของบราซิลอยู่แล้ว จึงช่วยให้การปฏิบัติตามข้อกําหนดเป็นเรื่องง่าย

เมื่อหันมาใช้บริการในท้องถิ่น ธุรกิจจะสามารถกำหนดตำแหน่งตัวเองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลการชำระเงิน เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า ลดต้นทุน และรับมือกับสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบ

ความท้าทายและอุปสรรคที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการในท้องถิ่น

ในขณะที่การใช้บริการในท้องถิ่นนั้นมีข้อดีที่สําคัญ แต่ก็ยังความท้าทายเฉพาะตัว นี่คืออุปสรรคบางประการที่ควรพิจารณา

• การตั้งค่าที่ซับซ้อนและใช้เวลานาน
  กระบวนการตั้งค่าการใช้บริการในท้องถิ่นต้องใช้ทรัพยากรและความพยายามเป็นจํานวนมาก ธุรกิจต่างๆ จำเป็นต้องสร้างความสัมพันธ์กับธนาคารในทุกประเทศที่ดำเนินการ และความสัมพันธ์แต่ละอย่างก็จะมีข้อกำหนดและข้อเจรจาของตัวเอง ตัวอย่างเช่น บริษัทในสหรัฐอเมริกาที่ต้องการขยายไปยังญี่ปุ่นจะต้องสร้างความสัมพันธ์กับธนาคารในญี่ปุ่น และสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อประมวลผลธุรกรรมในพื้นที่นั้น สิ่งนี้ไม่เพียงเกี่ยวข้องกับการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจใหม่ แต่ยังรวมถึงทําความเข้าใจและปฏิบัติตามแนวทางการธนาคารและกฎระเบียบของประเทศอื่นด้วย

• การบํารุงรักษา
  หลังจากธุรกิจตั้งค่าระบบการใช้บริการในท้องถิ่นแล้ว ระบบจะต้องได้รับการบํารุงรักษาและการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง โดยจะต้องทำการอัปเดตเพื่อให้มั่นใจว่าทํางานได้ดีและเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับที่เปลี่ยนแปลงไป ตัวอย่างเช่น หากสหภาพยุโรปประกาศใช้ข้อบังคับใหม่ด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล ธุรกิจที่ใช้บริการในท้องถิ่นของสหภาพยุโรปจะต้องปรับระบบของตนเพื่อให้ปฏิบัติตามข้อกําหนด

• การแปลงสกุลเงิน
  ธุรกิจที่ดําเนินกิจการในประเทศที่มีสกุลเงินแตกต่างกันจะต้องเผชิญกับความท้าทายเพิ่มเติม แม้จะใช้บริการในท้องถิ่น แต่ก็อาจต้องแปลงสกุลเงินสําหรับการรายงานทางการเงินหรือส่งรายรับกลับคืนมา การแปลงสกุลเงินมีทั้งค่าใช้จ่ายและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ตัวอย่างเช่น บริษัทอีคอมเมิร์ซในออสเตรเลียที่ขายผลิตภัณฑ์ในฝรั่งเศสจะได้รับการชําระเงินในสกุลเงินยูโร แต่หากต้องการเปลี่ยนรายรับกลับเป็นเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย ก็จะต้องจัดการกับอัตราแลกเปลี่ยนและค่าใช้จ่ายในการแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจเพิ่มค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานได้

• การจัดการสถาบันผู้รับบัตรหลายราย
  ธุรกิจอาจจําเป็นต้องจัดการความสัมพันธ์กับสถาบันผู้รับบัตรหลายราย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจํานวนประเทศที่ดําเนินธุรกิจ สถาบันผู้รับบัตรแต่ละรายอาจมีค่าธรรมเนียม เครื่องมือรายงาน และระดับการสนับสนุนลูกค้าแตกต่างกันไป ความซับซ้อนนี้จะเพิ่มขึ้นเมื่อธุรกิจให้บริการแก่ตลาดจำนวนมากขึ้น ตัวอย่างเช่น มาร์เก็ตเพลสระดับโลกที่มีผู้ขายในสหรัฐอเมริกา แคนาดา สหราชอาณาจักร และออสเตรเลียจะต้องจัดการความสัมพันธ์กับสถาบันผู้รับบัตรที่แตกต่างกันสี่แห่ง โดยแต่ละแห่งก็มีข้อกําหนดเป็นของตนเอง

ด้วยการวางแผนอย่างรอบคอบ ความร่วมมือทางกลยุทธ์ และแพลตฟอร์มการประมวลผลการชำระเงินที่เหมาะสม ธุรกิจต่างๆ จะสามารถฟันฝ่าอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นเหล่านี้ได้อย่างประสบความสำเร็จ และสัมผัสถึงผลประโยชน์จากการใช้บริการในท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพวกเขาทำงานร่วมกับผู้ให้บริการที่เหมาะสม

ธุรกิจประเภทใดบ้างที่ใช้บริการในท้องถิ่น

การใช้บริการในท้องถิ่นเป็นโซลูชันที่ครอบคลุมซึ่งเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจทุกประเภท โดยเฉพาะธุรกิจที่มีที่ตั้งอยู่ในทั่วโลกหรือมีจุดประสงค์ที่จะขยายธุรกิจไปทั่วโลก การนำโมเดลนี้ไปใช้อย่างกว้างขวางมีสาเหตุมาจากเป้าหมายพื้นฐาน นั่นคือ การปรับปรุงอัตราการยอมรับการชำระเงินและปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า ต่อไปนี้คือธุรกิจหลายประเภทที่จะได้รับประโยชน์จากการใช้บริการในท้องถิ่นเป็นอย่างมาก

• ผู้ค้าปลีกออนไลน์
  ธุรกิจประเภทที่นิยมใช้บริการในท้องถิ่นมากที่สุดคือธุรกิจที่ให้บริการในด้านการค้าปลีกออนไลน์ ธุรกิจเหล่านี้มักตอบสนองฐานลูกค้าในต่างประเทศ โดยการประมวลผลการชําระเงินถือเป็นส่วนสําคัญในการดําเนินงาน เมื่อใช้บริการในท้องถิ่น ผู้ค้าปลีกออนไลน์จะสามารถเพิ่มอัตราการอนุมัติได้ เนื่องจากการชำระเงินที่ประมวลผลในประเทศเดียวกับลูกค้าที่ชำระเงินนั้นมีแนวโน้มที่จะถูกปฏิเสธน้อยลง สมมติว่าผู้ค้าปลีกด้านแฟชั่นออนไลน์ที่ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกามีฐานลูกค้าจํานวนหนึ่งในสหราชอาณาจักร การใช้บริการในท้องถิ่นกับธุรกรรมในสหราชอาณาจักรจะทําให้ผู้ค้าปลีกเพิ่มโอกาสในการชําระเงินสําเร็จ และช่วยลดการสูญเสียยอดขายที่เกิดจากธุรกรรมถูกปฏิเสธได้

• บริการแบบชำระเงินตามรอบบิล
  ธุรกิจที่มีโมเดลการชำระเงินตามรอบบิลจะได้รับประโยชน์อย่างมากจากการใช้บริการในท้องถิ่น ธุรกิจเหล่านี้ต้องพึ่งพารายรับตามแบบแผนล่วงหน้า ซึ่งหมายความว่าการชําระเงินที่สม่ำเสมอและประสบความสําเร็จเป็นสิ่งสําคัญต่อความมั่นคงด้านการเงิน การใช้บริการในท้องถิ่นอาจเพิ่มอัตราความสําเร็จของการชําระเงินตามแบบแผนล่วงหน้า ซึ่งเป็นการลดอัตราการเลิกใช้บริการเนื่องจากการชําระเงินไม่สําเร็จ ตัวอย่างเช่น บริการสตรีมเพลงในสวีเดนที่มีผู้สมัครใช้บริการในสเปนสามารถใช้บริการในท้องถิ่นเพื่อทําธุรกรรมในสเปนได้ วิธีนี้จะช่วยให้มั่นใจว่าการชําระเงินของผู้สมัครใช้บริการจะไม่ถูกปฏิเสธเนื่องจากปัญหาด้านการประมวลผลข้ามพรมแดน ทําให้การยกเลิกการสมัครใช้บริการ เนื่องจากการชําระเงินไม่สําเร็จ

• แพลตฟอร์มดิจิทัล
  แพลตฟอร์มดิจิทัล ซึ่งรวมถึงแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย แพลตฟอร์มเกม และบริการสตรีมมิงเนื้อหา มักจะมีหรือมีเป้าหมายที่จะมีฐานผู้ใช้ในต่างประเทศในวงกว้าง ธุรกิจเหล่านี้สามารถใช้บริการในท้องถิ่นเพื่อมอบประสบการณ์การชําระเงินที่ราบรื่นให้แก่ผู้ใช้ของตน ซึ่งอาจเพิ่มความพึงพอใจและการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ได้เป็นอย่างมาก ตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์มเกมที่มีผู้ใช้จากทั่วโลกสามารถใใช้บริการในท้องถิ่นเพื่อประมวลผลการซื้อสินค้าในเกมได้ กลยุทธ์นี้ไม่เพียงเพิ่มโอกาสที่จะทําธุรกรรมได้สําเร็จเท่านั้น แต่ยังช่วยยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้โดยรวมด้วยการลดการหยุดชะงักในการชําระเงิน

• แพลตฟอร์มการจองและการท่องเที่ยว
  บริษัทในภาคการท่องเที่ยวและการบริการ เช่น บริษัทตัวแทนท่องเที่ยวออนไลน์และแพลตฟอร์มการจอง ต้องจัดการกับธุรกรรมระหว่างประเทศจํานวนมาก ธุรกิจเหล่านี้สามารถใช้การให้บริการในท้องถิ่นเพื่อปรับปรุงอัตราการชําระเงินสําเร็จซึ่งมีความสําคัญอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมที่การยืนยันการชําระเงินแบบทันทีมีความสําคัญอย่างยิ่ง ตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์มการจองในสิงคโปร์ที่ให้บริการลูกค้าทั่วโลกสามารถใช้บริการในท้องถิ่นเพื่อประมวลผลการชําระเงินได้ วิธีนี้อาจช่วยลดจํานวนธุรกรรมที่ถูกปฏิเสธ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าทำการจองได้ง่าย

• บริษัทการให้บริการระบบซอฟต์แวร์ (SaaS)
  ธุรกิจ SaaS มักตอบสนองฐานลูกค้าทั่วโลกและต้องพึ่งพาการชําระเงินตามแบบแผนล่วงหน้าเป็นอย่างมาก เช่นเดียวกับบริการชำระเงินตามรอบบิล การใช้บริการในท้องถิ่นอาจเป็นประโยชน์ต่อบริษัทเหล่านี้โดยการลดอัตราการชําระเงินไม่สําเร็จและสร้างกระแสรายรับที่มั่นคง ตัวอย่างเช่น บริษัท SaaS ในสหรัฐอเมริกาที่ให้บริการแก่ธุรกิจในเยอรมนีสามารถใช้สถาบันผู้รับบัตรท้องถิ่นในเยอรมนีได้ กลยุทธ์นี้สามารถปรับปรุงอัตราความสำเร็จของค่าธรรมเนียมการสมัครสมาชิกแบบรายเดือนได้ จึงมั่นใจได้ว่าจะมีรายได้คงที่และลดอัตราการเลิกใช้บริการของลูกค้าโดยไม่สมัครใจจากปัญหาด้านการชำระเงินให้เหลือน้อยที่สุด

ธุรกิจใดๆ ที่มีปริมาณ ธุรกรรมออนไลน์และลูกค้าต่างประเทศสามารถใช้บริการในท้องถิ่น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการชำระเงินและปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าได้

Stripe นำเสนอการใช้บริการในท้องถิ่นหรือไม่

ใช่ Stripe รองรับการใช้บริการในท้องถิ่นผ่านระบบการรับชําระเงินทั่วโลกที่ครอบคลุม ด้วยชุด API ของ Stripe และเครือข่ายธนาคารพาร์ทเนอร์ที่กว้างขวาง ธุรกิจต่างๆ จึงสามารถสร้างและจัดการการใช้บริการในท้องถิ่นได้อย่างง่ายดายในหลายประเทศทั่วโลก

ฟังก์ชันการใช้บริการในท้องถิ่นของ Stripe มีประโยชน์หลักๆ มากมาย ประการแรก ธุรกิจสามารถเพลิดเพลินไปกับอัตราการอนุมัติที่ดีขึ้น ส่งผลให้ธุรกรรมประสบความสำเร็จมากขึ้น และมีรายได้เพิ่มขึ้น ประการที่สอง ธุรกิจสามารถหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมธุรกรรมข้ามพรมแดนและอาจได้รับประโยชน์จากค่าธรรมเนียมธุรกรรมผ่านบัตรระหว่างธนาคารที่ต่ําลง นอกจากนี้ เมื่อใช้ Stripe ธุรกิจก็สามารถรับประโยชน์จากแพลตฟอร์มที่มีประสิทธิภาพซึ่งครบครันด้วยฟีเจอร์ที่ช่วยลดความยุ่งยากในขั้นตอนการตั้งค่าและดูแลรักษาการใช้บริการในท้องถิ่น

ต่อไปนี้คือวิธีที่ Stripe สนับสนุนธุรกิจต่างๆ ในการใช้บริการในท้องถิ่น

• การปฏิบัติงานทั่วโลก
  Stripe ดําเนินงานในกว่า 40 ประเทศทั่วโลก ความครอบคลุมนี้ช่วยให้ธุรกิจใช้ Stripe เป็นผู้รับบัตรท้องถิ่นในตลาดต่างๆ จำนวนมากได้โดยไม่ต้องสร้างความสัมพันธ์กับธนาคารในแต่ละประเทศ

• แพลตฟอร์มครบวงจร
  Stripe ให้บริการแพลตฟอร์มที่ครบวงจร ซึ่งหมายความว่าธุรกิจสามารถจัดการธุรกรรมทั้งหมดทั้งในและต่างประเทศได้โดยใช้อินเทอร์เฟซเดียว วิธีนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดําเนินงานและลดความซับซ้อนในการจัดการกับสถาบันผู้รับบัตรหรือผู้ประมวลผลการชําระเงินหลายราย

• การกําหนดเส้นทางแบบไดนามิก
  Stripe กําหนดเส้นทางธุรกรรมอย่างชาญฉลาดจากปัจจัยจํานวนมาก รวมถึงประเทศที่ออกบัตรและประเภทของบัตร อีกทั้งยังเพิ่มอัตราการอนุมัติและปรับปรุงประสิทธิภาพการชําระเงินได้ด้วย ตัวอย่างเช่น เราจะส่งการชําระเงินในฝรั่งเศสไปยัง Cartes Bancaires, Visa หรือ Mastercard อย่างชาญฉลาด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าเราเห็นอัตราความสําเร็จสูงสุดที่ไหน

• การปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับ
  Stripe ยังติดตามการเปลี่ยนแปลงด้านข้อบังคับในประเทศที่ดําเนินธุรกิจ ซึ่งจะแบ่งเบาภาระให้ธุรกิจ ซึ่งมักมีข้อกังวลเกี่ยวกับปัญหาด้านการปฏิบัติตามข้อกําหนดในตลาดแต่ละแห่ง

• การแปลงสกุลเงิน
  Stripe รองรับการประมวลผลในกว่า 135 สกุลเงิน ทําให้กระบวนการแปลงสกุลเงินสําหรับธุรกิจที่ดําเนินกิจการในหลายตลาดเป็นเรื่องง่าย แม้ธุรกิจจะยังต้องตระหนักถึงความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยน แต่การจัดการสกุลเงินของ Stripe ก็สามารถบรรเทาความซับซ้อนบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมระหว่างประเทศได้

• การสนับสนุนตลอด 24 ชม.
  Stripe ให้การสนับสนุนลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง สิ่งนี้มีคุณค่าอย่างไม่น่าเชื่อสําหรับธุรกิจซึ่งต้องจัดการการชําระเงินระหว่างประเทศและการใช้บริการในท้องถิ่น

ในขณะที่ตั้งค่าการใช้บริการในท้องถิ่นนอาจเป็นงานที่ซับซ้อนซึ่งต้องใช้ทรัพยากรจํานวนมาก แต่ผู้ให้บริการอย่าง Stripe จะช่วยลดความซับซ้อนของกระบวนการ เมื่อเลือกผู้ให้บริการชําระเงินที่รองรับการใช้บริการในท้องถิ่น ธุรกิจต่างๆ จะรับมือกับความท้าทายและเก็บเกี่ยวประโยชน์จากแนวทางเชิงกลยุทธ์ในการประมวลผลการชําระเงินนี้ได้ หากต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการใช้บริการในท้องถิ่นของ Stripe ในขอบเขตอันกว้างขวางของโซลูชันที่ปรับแต่งให้เหมาะกับธุรกิจทั่วโลก โปรดเริ่มต้นที่นี่