บริษัทที่ให้บริการระบบซอฟต์แวร์ (SaaS) ได้ยึดถือระบบเรียกเก็บเงินตามรอบบิลเป็นหลักสำคัญของโมเดลธุรกิจมานานแล้ว และระบบเรียกเก็บเงินตามรอบบิลกำลังกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับธุรกิจที่มุ่งเป้าผู้บริโภคทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน บริษัทสาธารณูปโภค หรือสโมสรออกกำลังกาย ภายในปี 2023 คาดการณ์ว่ากว่า 75% ของแบรนด์ส่งตรงถึงผู้บริโภค (DTC) จะเสนอบริการเรียกเก็บเงินตามรอบบิลบางประเภทให้กับลูกค้า ตลาดการเรียกเก็บและการจัดการการชําระเงินตามรอบบิลนั้นใหญ่โตมากแล้ว: ในปี 2020 เพียงปีเดียว อุตสาหกรรมนี้มีมูลค่ามากกว่า $6 พันล้าน ตามข้อมูลจาก Zion Market Research

การที่บริษัทต่างๆ มากมายในหลากหลายอุตสาหกรรมใช้ระบบเรียกเก็บเงินตามรอบบิลบ่งบอกถึงประโยชน์หลักประการหนึ่งของโครงสร้างการชำระเงินรูปแบบนี้ นั่นก็คือ ความยืดหยุ่น รูปแบบนี้ไม่ใช่วิธีการเรียกเก็บเงินที่ครอบจักรวาล แต่ก็ช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับแต่งตัวเลือกเพื่อให้เหมาะกับข้อเสนอและกลุ่มเป้าหมายของตนได้

คุณจะตัดสินใจได้อย่างไรว่าโมเดลการเรียกเก็บเงินตามรอบบิลประเภทใดเหมาะกับธุรกิจของคุณ และจะเริ่มใช้งานอย่างไร ต่อไปนี้คือทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับการเรียกเก็บเงินตามรอบบิลและประโยชน์ที่ธุรกิจจะได้รับ

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

• การเรียกเก็บเงินตามรอบบิลคืออะไร
  
• การเรียกเก็บเงินตามรอบบิลมีวิธีการทํางานอย่างไร
  
• ประเภทของการเรียกเก็บเงินตามรอบบิล
  
  • โมเดลค่าบริการ
    
  • ฟีเจอร์ทั่วไป
    
• ประโยชน์การเรียกเก็บเงินตามรอบบิลสําหรับธุรกิจ
  
• วิธีตั้งค่าการเรียกเก็บเงินตามรอบบิลสําหรับธุรกิจของคุณ
  

การเรียกเก็บเงินตามรอบบิลคืออะไร

การเรียกเก็บเงินตามรอบบิลเป็นรูปแบบการชําระเงินที่ให้ธุรกิจเรียกเก็บเงินจากลูกค้าสําหรับสินค้าหรือบริการ โดยดำเนินการตามรอบในช่วงเวลาที่กําหนดไว้ล่วงหน้า รอบการชําระเงินตามแบบแผนล่วงหน้าอาจเป็นรายสัปดาห์ รายเดือน หรือรายปี หรือในกรอบเวลาที่กําหนดเอง

การเรียกเก็บเงินตามรอบบิลมีวิธีการทํางานอย่างไร

การเรียกเก็บเงินตามรอบบิลทํางานโดยการใช้ 1 ใน 2 วิธีต่อไปนี้

• ลูกค้าจะได้รับใบแจ้งหนี้ตามรอบเวลาเป็นประจํา (รายสัปดาห์ รายเดือน รายปี ฯลฯ) และจะส่งการชําระเงินรายการใหม่สําหรับใบแจ้งหนี้แต่ละฉบับด้วยตัวเอง
  
• ลูกค้าส่งวิธีการชําระเงินเพื่อให้ธุรกิจเก็บข้อมูลในระบบ พร้อมทั้งการตรวจสอบสิทธิ์ล่วงหน้าสําหรับวิธีการชําระเงินที่จะเรียกเก็บเงินตามแบบแผนล่วงหน้า ตามพารามิเตอร์ที่กําหนดไว้ล่วงหน้า (ความถี่ จํานวนเงิน ฯลฯ)
  

ประเภทของการเรียกเก็บเงินตามรอบบิล

ความยืดหยุ่นของการเรียกเก็บเงินตามรอบบิลทําให้วิธีนี้ได้รับความนิยมในหมู่ธุรกิจหลากหลายประเภท เพราะทั้งอำนวยความสะดวกและปรับแต่งได้ คุณสามารถจัดโครงสร้างรูปแบบการเรียกเก็บเงินตามรอบบิลได้หลายวิธี ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์และบริการที่คุณเสนอและกลุ่มลูกค้าที่คุณมุ่งเน้น ต่อไปนี้เป็นภาพรวมเกี่ยวกับประเภทและฟีเจอร์ทั่วไปของการเรียกเก็บเงิน

โมเดลค่าบริการ

• คงที่

  • ค่าบริการคงที่แบบมาตรฐาน
    ด้วยโมเดลการเรียกเก็บเงินนี้ ลูกค้าจะจ่ายเงินจำนวนเท่ากันในทุกรอบการเรียกเก็บเงินเพื่อเข้าถึงผลิตภัณฑ์หรือบริการเดียวกัน โดยปกติจะเป็นปริมาณเท่ากัน ตัวอย่างเช่น การสมัครสมาชิกนิตยสารอาจเรียกเก็บเงิน $19.99 ต่อเดือนสําหรับนิตยสารฉบับพิมพ์หนึ่งฉบับและสิทธิ์เข้าถึงเนื้อหาดิจิทัลแบบไม่จํากัด
    

• แปรผัน

  • ค่าบริการตามการใช้งาน
    โมเดลนี้จะเรียกเก็บเงินลูกค้าตามจํานวนผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ใช้ในระหว่างรอบการเรียกเก็บเงินแต่ละรอบ เช่น บริษัทสาธารณูปโภค ที่โดยปกติแล้วจะดําเนินงานในลักษณะนี้
    
  • ค่าบริการแบบไฮบริดหรือการกำหนดราคาส่วนเกิน
    รูปแบบการเรียกเก็บเงินนี้ใช้ค่าธรรมเนียมพื้นฐานคงที่พร้อมกับค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมที่จะเรียกเก็บหากการใช้งานเกินเกณฑ์ที่กำหนดภายในรอบการเรียกเก็บเงิน ตัวอย่างเช่น โมเดลการเรียกเก็บเงินค่าโทรศัพท์มือถือแบบเก่าบางแบบจะคิดค่าบริการในอัตราคงที่สำหรับเวลาสูงสุด 1,000 นาทีต่อเดือน และสำหรับเวลาที่เกินกว่านั้นจะมีการคิดอัตราต่อนาทีแยกต่างหาก
    
  • ค่าบริการแบบชําระเงินตามการใช้งาน
    ระบบจะเรียกเก็บเงินจากลูกค้าในหน่วยราคาหนึ่ง และจะเรียกเก็บเงินตามปริมาณที่ใช้
    

• ค่าบริการแบบฟรีเมียม
  เมื่อใช้ค่าบริการแบบฟรีเมียม ลูกค้าจะมีสิทธิ์ใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ฟรี โดยมีตัวเลือกให้อัปเกรดเป็นระดับแบบชําระเงินซึ่งมีฟังก์ชัน การเข้าถึง หรือบริการเพิ่มเติม

ฟีเจอร์ทั่วไป

มีวิธีมากมายในการปรับแต่งข้อเสนอการสมัครสมาชิกของคุณ และในอดีต สิ่งจูงใจบางประเภทได้รับการพิสูจน์แล้วว่าน่าดึงดูดใจสำหรับผู้บริโภคส่วนใหญ่ ต่อไปนี้เป็นฟีเจอร์ที่พบได้บ่อยที่สุดที่ธุรกิจต่างๆ ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสมัครสมาชิกของตน

• โปรโมชันช่วงแนะนํา
  การสมัครสมาชิกมักเสนอราคาพิเศษในช่วงแนะนำเพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่ให้สมัครใช้บริการหรือสมัครสมาชิก ตัวอย่างเช่น การเป็นสมาชิกยิมอาจเสนอโปรโมชันที่ยกเว้นค่าธรรมเนียมการสมัครสมาชิก หรือเสนอเซสชั่นฝึกสอนส่วนตัวฟรีให้กับสมาชิกใหม่

• คูปองส่วนลด
  คูปองส่วนลดเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมและโครงสร้างการเรียกเก็บเงินแบบต่างๆ รวมถึงธุรกิจที่ใช้การเรียกเก็บเงินตามรอบบิล

• การทดลองใช้ฟรี
  การทดลองใช้ฟรีเป็นเครื่องมือที่พบได้ทั่วไปอีกรายการสําหรับธุรกิจที่เรียกเก็บเงินตามรอบบิล การทดลองใช้ฟรีบางแบบจะกำหนดให้ลูกค้าต้องส่งข้อมูลการชำระเงินเมื่อสมัครทดลองใช้งาน โดยระบุให้เข้าใจว่าลูกค้าจะถูกเรียกเก็บเงินค่าสมัครสมาชิกแบบปกติโดยอัตโนมัติเมื่อสิ้นสุดช่วงทดลองใช้งาน ขณะที่ธุรกิจแห่งอื่นๆ มอบโอกาสให้ลูกค้าเลือกสมัครเป็นสมาชิกแบบปกติล่วงหน้าก่อนจะสิ้นสุดการทดลองใช้ฟรี แทนที่จะเรียกเก็บเงินจากพวกเขาโดยอัตโนมัติ

ประโยชน์การเรียกเก็บเงินตามรอบบิลสําหรับธุรกิจ

มีหลายเหตุผลว่าทำไมธุรกิจจำนวนมากในอุตสาหกรรมและตลาดต่างๆ จึงนำระบบเรียกเก็บเงินตามรอบบิลรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งมาใช้ ต่อไปนี้เป็นข้อดีที่สำคัญที่สุดบางประการในการใช้รูปแบบการเรียกเก็บเงินตามรอบบิล

• ความคล่องตัวในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจและตลาด
  ระบบการเรียกเก็บเงินตามรอบบิลมีความยืดหยุ่นสูงและมอบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการใช้งานแบบละเอียดให้แก่ธุรกิจ ซึ่งจำเป็นต่อการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ มีรูปแบบการเรียกเก็บเงินมากมายที่คุณสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ เช่น ข้อเสนอแบบหลายระดับ สิ่งจูงใจในจุดสัมผัสต่างๆ ในเส้นทางของลูกค้า และเกณฑ์สำหรับราคาส่วนเกินและอัตราการใช้งาน บางทีคุณอาจจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ หรือขยายไปสู่ตลาดใหม่ บางทีข้อมูลประสิทธิภาพปัจจุบันของคุณอาจบ่งชี้ว่าควรมุ่งมั่นต่อไปกับบางสิ่งบางอย่างที่กำลังดำเนินไปด้วยดี หรือให้เปลี่ยนทิศทาง ไม่ว่าธุรกิจของคุณจะพัฒนาไปอย่างไร นี่คือโมเดลการเรียกเก็บเงินที่รองรับการเปลี่ยนแปลง พร้อมทั้งช่วยให้คุณมีอิสระในการปรับตัวและเติบโต

• ประสบการณ์ของลูกค้าที่ราบรื่นขึ้น
  เนื่องจากการชําระเงินตามรอบบิลมักจะเป็นระบบอัตโนมัติ ลูกค้าจึงไม่ต้องดําเนินการใดๆ เพื่อใช้สินค้าหรือบริการของบริษัทอย่างต่อเนื่อง ประสบการณ์ของลูกค้าที่สะดวกสบายมากขึ้นทําให้ความพึงพอใจของลูกค้าสูงขึ้นตามไปด้วย

• การรักษาลูกค้าที่ดีขึ้น
  การเรียกเก็บเงินตามรอบบิลจะประสบความสำเร็จหากมีการสื่อสารที่ชัดเจนและการกำหนดความคาดหวัง เมื่อลูกค้าทราบชัดเจนว่าจะต้องชำระเงินค่าอะไรและเมื่อใด พวกเขาก็จะเห็นได้ชัดว่าเงินที่จ่ายไปนั้นมีประโยชน์กับตนเองอย่างไร และจะเห็นคุณค่าของการสมัครสมาชิก แต่นอกเหนือจากการปลูกฝังประสบการณ์ลูกค้าที่ง่ายดาย การเรียกเก็บเงินตามรอบบิลยังช่วยลดอัตราการเลิกใช้บริการและเพิ่มการรักษาลูกค้าให้สูงสุดด้วยการให้ข้อมูลเชิงลึกที่ธุรกิจต้องการเพื่อระบุแนวโน้มและจุดที่มีปัญหา เมื่อมีการติดตาการเรียกเก็บเงินตามรอบบิลอย่างละเอียด ก็จะได้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้ใช้ที่ธุรกิจนำไปดำเนินการได้ ซึ่งสามารถลดการสูญเสียลูกค้าและสร้างโอกาสในการดึงดูดลูกค้าที่มีความเสี่ยงให้กลับมาใช้บริการอีกครั้ง

• กระแสเงินสดที่คาดการณ์ได้
  เนื่องจากตัวแปรต่างๆ เช่น การยกเลิกและการชําระเงินที่ไม่สําเร็จ คุณจึงคาดการณ์ไม่ได้อย่างสมบูรณ์ว่าการชำระเงินตามรอบบิลของคุณจะมีรายรับเท่าใดในแต่ละเดือน แต่โมเดลการเรียกเก็บเงินตามรอบบิลจะช่วยให้ธุรกิจมีความสามารถในการคาดการณ์รายได้มากขึ้นและเห็นภาพชัดขึ้นว่าจะมีเงินสดมากน้อยเพียงใด นอกจากนี้ คุณจะสามารถปรับปรุงความสามารถในการสร้างโมเดลรายได้เชิงคาดการณ์ เมื่อใช้การเรียกเก็บเงินตามรอบบิลเป็นเวลาหลายปี และเริ่มทราบแนวโน้มตามฤดูกาล

• ประหยัดเวลา
  การเรียกเก็บเงินตามรอบบิลช่วยประหยัดเวลาให้กับลูกค้าและธุรกิจ หากคุณทำให้ทุกส่วนของการชำระเงินตามรอบบิลเป็นระบบอัตโนมัติ (เช่น การชำระเงินตามแบบแผนล่วงหน้า การแจ้งให้ลูกค้าทราบเมื่อวิธีการชำระเงินใกล้จะหมดอายุ ฯลฯ) และสร้างแนวทางที่คล่องตัวในการจัดการงานที่ไม่สามารถทำอัตโนมัติได้ คุณจะสามารถลดการใช้เวลาและทรัพยากรโดยรวมที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงินตามรอบบิลได้ สำหรับลูกค้า โมเดลนี้จะช่วยประหยัดเวลาได้อย่างชัดเจนดังนี้ ลูกค้าไม่ต้องเริ่มต้นการชําระเงินด้วยตัวเองทุกรอบ แต่ระบบจะเรียกเก็บเงินโดยอัตโนมัติและส่งใบแจ้งหนี้หรือเอกสารอื่นๆ เพื่อแจ้งว่าได้เรียกเก็บเงินสำหรับอะไร โดยที่ลูกค้าไม่ต้องดําเนินการใดๆ เลย

• การชําระเงินที่ไม่สําเร็จน้อยลง
  การเรียกเก็บเงินตามรอบบิลช่วยลดจำนวนการชำระเงินที่ไม่สำเร็จได้ 2 วิธี นั่นคือ การใช้วิธีการชำระเงินที่บันทึกไว้เพื่อการชำระเงินอัตโนมัติ และด้วยการระบุบัตรที่กำลังจะหมดอายุล่วงหน้าก่อนถึงวันหมดอายุ ซึ่งช่วยให้ลูกค้ามีโอกาสเปลี่ยนบัตรก่อนที่การชำระเงินจะไม่สำเร็จ ในปี 2021 Stripe Billing ช่วยให้ธุรกิจกู้คืนการชําระเงินที่ไม่สําเร็จได้ 38% โดยเฉลี่ย

วิธีตั้งค่าการเรียกเก็บเงินตามรอบบิลสําหรับธุรกิจของคุณ

หากต้องการเริ่มใช้การเรียกเก็บเงินตามรอบบิลสําหรับธุรกิจของคุณ คุณต้องมีผู้ให้บริการประมวลผลการชําระเงิน หากคุณรับชําระเงินจากลูกค้าด้วยวิธีอื่นๆ อยู่แล้ว ก็น่าจะหมดห่วงกับเรื่องนี้ ผู้ใช้ Stripe มีครบทุกอย่างที่จําเป็นสําหรับการสร้างแพ็กเกจการเรียกเก็บเงินตามรอบบิล Stripe Billing เป็นโซลูชันการเรียกเก็บเงินครบวงจร สําหรับธุรกิจที่ต้องการรับชําระเงินตามแบบแผนล่วงหน้าทั่วโลก Stripe Billing ผสานการทํางานกับการตั้งค่าการชําระเงินปัจจุบันได้อย่างง่ายดาย และเข้าถึงทุกอย่างได้ผ่านแดชบอร์ด

การทํางานกับ Stripe จะช่วยให้คุณสามารถปรับใช้โมเดลการเรียกเก็บเงินตามรอบบิลเป็นกลยุทธ์การชำระเงินหลัก หรือจะรวมการเรียกเก็บเงินตามรอบบิลไว้ในกลยุทธ์การชำระเงินที่ซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งรวมธุรกรรมครั้งเดียวที่ทำ ณ จุดขายและทางออนไลน์ เมื่อเริ่มต้นใช้งาน Stripe แล้ว คุณยังมีบางสิ่งที่ต้องตัดสินใจเกี่ยวกับวิธีที่ธุรกิจของคุณจะจัดการการเรียกเก็บเงินตามรอบบิล คําถามบางส่วนที่ควรพิจารณา

• คุณจะเสนอการสมัครใช้บริการระดับเดียวหรือหลายระดับ สิ่งที่จะรวมอยู่ในแต่ละระดับมีอะไรบ้าง
  
• จะเรียกเก็บค่าบริการแบบคงที่หรืออัตราแปรผัน ถ้าแปรผัน อะไรเป็นตัวกําหนดความแปรผันนั้น "หน่วย" ที่จําเป็นสําหรับการใช้บริการธุรกิจของคุณคืออะไร
  
  • ตัวอย่างเช่น หากเป็นบริษัท SaaS คุณอาจเรียกเก็บเงินจากลูกค้าสำหรับผู้ใช้แต่ละรายที่มีสิทธิ์เข้าถึงซอฟต์แวร์ของคุณ หากคุณเป็นสตาร์ทอัพที่ให้บริการพื้นที่ทำงาน คุณอาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการเป็นสมาชิกตามจํานวนชั่วโมงหรือวันต่อเดือนที่ใครบางคนสามารถเข้าถึงพื้นที่ดังกล่าวได้
    
• คุณจะใช้สิ่งจูงใจอะไรบ้าง
  
  • รูปแบบการเรียกเก็บเงินตามรอบบิลมีการทับซ้อนทางโครงสร้างที่มีความหมายกับแผนการตลาดที่รองรับรูปแบบดังกล่าว ตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังจะเสนอสิ่งจูงใจ เช่น การทดลองใช้ฟรีหรือรหัสคูปองที่เกี่ยวข้องกับการตลาดแบบพันธมิตรหรือใช้อินฟลูเอนเซอร์ สิ่งเหล่านี้คือข้อควรพิจารณาที่คุณสามารถรวมไว้ในการเรียกเก็บเงินตามรอบบิลได้ตั้งแต่วันแรก