ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2024 ผลประกอบการด้านอีคอมเมิร์ซในสเปนรวมทั้งหมดอยู่ที่ 21.793 พันล้านยูโร จากคณะกรรมาธิการแห่งชาติสําหรับตลาดและการแข่งขัน ตัวเลขนี้มีการเติบโตปีต่อปีอยู่ที่ 13.7% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า การเพิ่มขึ้นนี้แสดงให้เห็นว่าความสนใจในการขายออนไลน์กําลังเติบโตขึ้นในหมู่บริษัทในสเปน

ในความเป็นจริง ตามที่แสดงใน Digitalization Observatory 2023 ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดย GoDaddy ซึ่งเป็นบริษัทขายเว็บโฮสติ้งและโดเมนชั้นนําของโลก 65% ของบริษัทสเปนขนาดเล็กใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เป็นช่องทางการขายหลัก หากคุณได้พิจารณาที่จะร่วมเทรนด์นี้เพื่อขายออนไลน์ บทความนี้จะแสดงการวิเคราะห์แง่มุมที่คุณควรคํานึงถึงเพื่อที่จะดําเนินธุรกิจนี้จากสเปน

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

• ข้อกําหนดในการเริ่มขายสินค้าออนไลน์จากสเปน
  
• ภาระผูกพันเมื่อขายสินค้าออนไลน์จากสเปน
  
• วิธีต่างๆ ในการขายสินค้าออนไลน์จากสเปน
  
• คําถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการขายสินค้าออนไลน์จากสเปน
  

ข้อกําหนดในการเริ่มขายสินค้าออนไลน์จากสเปน

หากคุณต้องการเริ่มขายสินค้าออนไลน์จากสเปน คุณต้องปฏิบัติตามข้อกําหนดเหล่านี้

• ประมวลผลการจดทะเบียน CENSUS ในฐานะผู้ประกอบอาชีพอิสระโดยกรอกแบบฟอร์ม 036 จากหน่วยงานภาษีของสเปน (AEAT)
  
• ระบุประเภทกิจกรรมการทำงานที่คุณจะดําเนินการพร้อมรหัสภาษีจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจ (IAE) ที่เกี่ยวข้อง
  
• จดทะเบียนเป็นผู้ประกอบอาชีพอิสระ โดยกรอกแบบฟอร์มประกันสังคมนี้
  
• รับใบอนุญาตที่จําเป็นในบางกรณี เช่น การจดทะเบียนล่วงหน้าเพื่อจําหน่ายอาหารออนไลน์
  

ภาระผูกพันเมื่อขายสินค้าออนไลน์จากสเปน

หากคุณตัดสินใจที่จะขายสินค้าออนไลน์จากสเปน คุณต้องปฏิบัติตามภาระหน้าที่หลายประการ ด้านล่างนี้เป็นรายการที่สําคัญที่สุด

• ตามกฎหมาย 34/2002 หรือรู้จักกันในชื่อ "กฎหมายเกี่ยวกับบริการสังคมสารสนเทศและการค้าอิเล็กทรอนิกส์" ต่อไปนี้คือหน้าที่บางส่วนของข้อบังคับนี้
  
  • ระบุว่าราคาของผลิตภัณฑ์แต่ละรายการรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT), ค่าจัดส่ง หรือค่าอื่นๆ เพิ่มเติมหรือไม่
    
  • แสดงข้อมูลอย่างชัดเจนเกี่ยวกับบริษัทหรือพนักงานที่ประกอบอาชีพอิสระซึ่งทำการขาย เช่น หมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษี (NIF) หรือข้อมูลการติดต่อ
    
  • ใช้กฎระเบียบของคุกกี้บนเว็บไซต์ของคุณตามรายละเอียดใน "คู่มือการใช้คุกกี้" จากหน่วยงานคุ้มครองข้อมูลแห่งสเปน
    
• ประมวลผลข้อมูลลูกค้าตามกฎระเบียบว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (GDPR)
  
• ระบุเงื่อนไขการใช้งานหรือการขายอย่างชัดเจน และแจ้งให้ลูกค้ายอมรับการชําระเงินอย่างชัดเจนก่อนสรุปการซื้อ
  
• ปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางภาษีที่ระบุไว้ในส่วนถัดไป
  

ภาระหน้าที่ด้านภาษีเมื่อขายสินค้าออนไลน์จากสเปน

ภาษีมูลค่าเพิ่ม

ภาษีมูลค่าเพิ่มสําหรับการค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ คือภาษีทางอ้อมที่คุณต้องเรียกเก็บจากบุคคลทั้งหมดที่ซื้อสินค้าทางออนไลน์โดยคิดจากอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มที่สอดคล้องกับสินค้าหรือบริการที่คุณจําหน่าย หากไม่เรียกเก็บ คุณอาจได้รับบทลงโทษภาษีมูลค่าเพิ่มในสเปน

โปรดทราบว่าในบางกรณีอาจมีการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ตัวอย่างเช่น หากคุณขายสินค้าออนไลน์จากสเปนไปยังประเทศอื่นๆ คุณอาจมีสิทธิ์ได้รับการยกเว้นตามตําแหน่งที่ตั้งของลูกค้าดังนี้

• หากลูกค้าของคุณอาศัยอยู่ในประเทศอื่นในสหภาพยุโรป: การดําเนินงานเหล่านี้เรียกว่า "การจัดส่งภายในชุมชน" หากทั้งคุณและลูกค้ามีหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มภายในชุมชน (หรือเรียกอีกอย่างว่า "NIF-IVA" "หมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มในสหภาพยุโรป" หรือ "หมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มของยุโรป") คุณจะได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม
  
• หากลูกค้าของคุณอาศัยอยู่ในประเทศนอกสหภาพยุโรป: การดําเนินงานเหล่านี้จะถือว่าเป็น "การส่งออก" และจะได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม อย่างไรก็ตาม การส่งออกจากสเปนมีภาระหน้าที่ทางภาษีของตน (เช่น ภาษีศุลกากรที่เป็นไปได้หรือหน้าที่ในการรวมไว้ในแบบแสดงรายการภาษีของคุณ)
  

โปรดทราบว่าหลังจากเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการขายของคุณแล้ว คุณจะต้องแจ้งภาษีดังกล่าวและชําระเงินไปยัง AEAT โดยการแสดงการประกาศภาษีมูลค่าเพิ่มรายไตรมาส (ด้วยแบบฟอร์ม 303) และหลังจากนั้นจึงตรวจสอบข้อมูลโดยสรุปภาษีมูลค่าเพิ่มรายปี (โดยใช้แบบฟอร์ม 390)

นอกจากการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว ยังมีข้อดีอื่นๆ ในการขายออนไลน์จากสเปนให้กับลูกค้าในต่างประเทศ ตัวอย่างเช่น ในปี 2023 ที่มีการส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ องค์กรขนาดเล็กและกลาง (SME) ในสเปนที่ทําการตลาดสินค้าของตนใน Amazon ได้ออกใบแจ้งหนี้มากกว่า 1 พันล้านยูโร ในบรรดา SME ทั้งหมดเกือบ 17,000 รายในไตรมาสที่สามของปี 2024 75% ขายสินค้านอกสเปน

ภาษีเงินได้ (IRPF)

IRPF คือภาษีโดยตรงที่คุณต้องชําระให้แก่ AEAT ตามสิทธิประโยชน์ที่คุณได้รับตลอดปีบัญชี ภาษีนี้จะชำระเป็นรายปีในการแสดงรายการภาษีเงินได้ (เรียกในสเปนว่า "declaración de la renta") แต่คุณสามารถชําระเงินในบัญชีได้โดยกรอกแบบฟอร์ม 130 หากคุณใช้การหักภาษี ณ ที่จ่ายสำหรับภาษีเงินได้ส่วนบุคคลกับพนักงานที่ว่าจ้างหรือผู้ทํางานร่วมกันที่ประกอบอาชีพอิสระเพื่อขายสินค้าออนไลน์จากสเปน คุณจะต้องกรอกแบบฟอร์ม 111

ภาษีเงินได้นิติบุคคล (IS)

IS เป็นอีกหนึ่งภาษีโดยตรงซึ่งในกรณีนี้จะต้องชําระให้แก่ AEAT หากคุณจัดตั้งบริษัทเพื่อขายสินค้าออนไลน์จากสเปนเท่านั้น โดยคุณจะต้องป้อนภาษีเป็นรายปีผ่านแบบฟอร์ม 200 ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างของ IRPF และคุณสามารถชําระ IS บางส่วนได้ด้วย โดยกรอกแบบฟอร์ม 202

วิธีต่างๆ ในการขายสินค้าออนไลน์จากสเปน

หากคุณปฏิบัติตามข้อกําหนดและภาระหน้าที่ที่เราระบุไว้ในส่วนก่อนหน้า คุณก็สามารถเริ่มขายออนไลน์จากสเปนได้ วิธีที่นิยมใช้มากที่สุดคือการขายจากเว็บไซต์ของคุณเองหรือผ่านแพลตฟอร์มภายนอก

ขายสินค้าออนไลน์จากสเปนด้วยเว็บไซต์ของคุณเอง

หากคุณเลือกเส้นทางนี้ นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ที่เป็นส่วนหนึ่งของแคตตาล็อก คุณจะสามารถควบคุมเนื้อหาทั้งหมดของร้านค้าออนไลน์ของคุณ (เช่นการปรับแต่งรายละเอียดของรูปภาพแบรนด์) แม้ว่าขั้นตอนนี้มักจะมีความซับซ้อนมากกว่าและต้องมีการลงทุนขั้นต้นในทรัพยากรทางวิศวกรรม แต่ก็มีแพลตฟอร์มสําหรับอีคอมเมิร์ซที่ให้คุณสร้างหน้าเว็บได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ดของคุณเอง ได้แก่

• Shopify: แพลตฟอร์มครบวงจรนี้ช่วยให้คุณสามารถสร้างร้านค้าออนไลน์และขายให้กับลูกค้าทั่วโลกโดยไม่ต้องมีความรู้เกี่ยวกับการเขียนโปรแกรม ร้านค้าออนไลน์เกือบ 40,000 แห่งในสเปนใช้ Shopify ซึ่งคิดเป็นมากกว่าสองเท่าของร้านค้าเมื่อต้นปี 2021
  
• Prestashop: แม้ว่าการเรียนรู้ที่จะใช้ Prestashop อาจซับซ้อนกว่าทางเลือกอื่นๆ เล็กน้อย แต่แพลตฟอร์มนี้มีตัวเลือกการปรับแต่งที่ไม่เหมือนใครในฐานะแพลตฟอร์มโอเพนซอร์ส
  
• WooCommerce: WordPress ซึ่งเป็นระบบการจัดการเนื้อหายอดนิยมสําหรับการสร้างหน้าเว็บมีส่วนขยายที่ได้รับความนิยมอย่าง WooCommerce ปลั๊กอินนี้ให้คุณสร้างร้านค้าออนไลน์โดยมีการปรับแต่งในระดับสูง แต่ต้องมีความรู้ขั้นสูงเล็กน้อย
  

รับชําระเงินออนไลน์ได้อย่างปลอดภัยด้วย Stripe Payments

ไม่ว่าระบบไหนก็ตามที่คุณใช้ขายสินค้าออนไลน์จากสเปน สิ่งสําคัญก็คือคุณต้องมีเกตเวย์การชําระเงินที่เป็นไปตามข้อบังคับปัจจุบันและส่งต่อความเชื่อมั่นและความปลอดภัยให้กับลูกค้า เช่น Stripe Payments เครื่องมือนี้ช่วยให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การช้อปปิ้งที่มีประสิทธิภาพ โดยช่วยให้คุณสามารถรับการชําระเงินด้วยวิธีการชําระเงินอีคอมเมิร์ซที่ลูกค้าชื่นชอบ

ขายสินค้าออนไลน์จากสเปนผ่านแพลตฟอร์มภายนอก

หากคุณตัดสินใจที่จะขายผลิตภัณฑ์จากแพลตฟอร์มภายนอก กระบวนการจะง่ายกว่ามาก แต่คุณจะขาดตัวเลือกการปรับแต่งที่ได้จากการจัดการเว็บไซต์ของคุณเอง ในหลายๆ กรณี คุณจะต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นในการขายที่ค่อนข้างสูงด้วย ตัวเลือกที่ใช้บ่อยที่สุดมีดังต่อไปนี้

• มาร์เก็ตเพลส: นี่คือแพลตฟอร์มการขายออนไลน์ที่ให้บริษัทอื่นๆ ลงทะเบียนและขายผลิตภัณฑ์จากเว็บไซต์ของตน มาร์เก็ตเพลสที่ประสบความสําเร็จสูงสุดในสเปนคือ Amazon
  
• เครือข่ายโซเชียลมีเดีย: คุณสามารถเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการจากโปรไฟล์โซเชียลมีเดียได้โดยใช้หน้าการชําระเงินที่โฮสต์ไว้ เช่น จาก Stripe Payment Links
  
• แอปพลิเคชันการซื้อและขาย: แพลตฟอร์มเหล่านี้ เช่น Wallapop รองรับบุคคลทั่วไปหรือผู้เชี่ยวชาญที่ต้องการจําหน่ายสินค้า
  

คําถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการขายสินค้าออนไลน์จากสเปน

จําเป็นต้องมีเว็บไซต์สําหรับจําหน่ายสินค้าออนไลน์จากสเปนหรือไม่

ไม่จำเป็น คุณสามารถใช้แพลตฟอร์มภายนอกเพื่อขายผลิตภัณฑ์ (เช่น มาร์เก็ตเพลส เช่น Amazon) หรือใส่ลิงก์ชําระเงินในช่องทางการสื่อสารของคุณ เช่น เครือข่ายโซเชียลมีเดียหรือรายชื่ออีเมลก็ได้

จําเป็นต้องมีบัญชีธนาคารเฉพาะสําหรับร้านค้าออนไลน์หรือไม่

ไม่จำเป็น แต่เราแนะนําให้คุณมีไว้ หากคุณมีบัญชีส่วนตัวและบัญชีธนาคารของธุรกิจ คุณจะจัดการด้านการเงินและหน้าที่ทางภาษีได้ง่ายขึ้นด้วยการแยกแยะอย่างชัดเจนว่าเงินทุนรายการใดเป็นของธุรกิจออนไลน์และรายการใดที่ไม่ใช่

คุณต้องจดทะเบียนเป็นผู้ประกอบอาชีพอิสระเพื่อขายสินค้าออนไลน์จากสเปนหรือไม่

ใช่ มักจะระบุไว้ว่าการจดทะเบียนในฐานะผู้ประกอบอาชีพอิสระนั้นจําเป็นก็ต่อเมื่อการขายเป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นเป็นประจำที่สร้างรายรับสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำของสเปน (SMI) อย่างไรก็ตาม ประกันสังคมสามารถสั่งให้ชำระเงินสมทบที่ขาดชำระย้อนหลังตลอดช่วงเวลาที่มีการขายได้