การชําระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่เป็นวิธีที่ไม่มีวันล้าสมัย คาดว่าผู้คนประมาณ 1.18 พันล้านคนทั่วโลกใช้ระบบชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่แบบไร้สัมผัสในปี 2020 ซึ่งเพิ่มขึ้น 22% จากปีก่อนหน้า ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าภายในปี 2025 จะมีผู้ใช้ระบบชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่แบบไร้สัมผัสทั่วโลกราว 1.5 พันล้านคน ซึ่งคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของผู้ใช้สมาร์ทโฟนทั้งหมด

การเปลี่ยนผ่านนี้จึงเป็นการเพิ่มโอกาสให้ธุรกิจต่างๆ ได้มีส่วนร่วมกับลูกค้าและปรับตัวตามความต้องการด้านธุรกรรม ผู้เชี่ยวชาญในภาคธุรกิจต่างๆ เช่น ธุรกิจอิสระ ที่ปรึกษาอิสระ โค้ชออกกําลังกาย และผู้ให้บริการเกี่ยวกับบ้าน ต่างก็หันมาใช้การชําระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่เพื่อมอบประสบการณ์ทางธุรกรรมที่สะดวกและง่ายดายยิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้า และสําหรับธุรกิจแพลตฟอร์มที่รองรับการชําระเงินที่จุดขายในระดับที่ใหญ่ขึ้น การรับชําระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่อาจให้ประโยชน์แบบทวีคูณได้ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน

การเข้าใจวิธีการรับชำระเงินบนโทรศัพท์ของคุณและการเริ่มต้นใช้งานทันทีถือเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งนี้เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในสภาพแวดล้อมดิจิทัลที่รวดเร็วในปัจจุบัน ตั้งแต่การใช้ฮาร์ดแวร์ เช่น Stripe Reader ไปจนถึงวิธีดิจิทัล เช่น Payment Links และ Tap to Pay ธุรกิจมีตัวเลือกหลายๆ ตัวเลือกในการรองรับธุรกรรมบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ต่อไปนี้เป็นคําแนะนําสั้นๆ เพื่อช่วยคุณประเมินตัวเลือกต่างๆ และเริ่มใช้งาน

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

• รับการชําระเงินด้วยบัตรเครดิตโดยใช้โทรศัพท์ได้หรือไม่
  
• ธุรกิจประเภทใดบ้างที่ต้องรับการชําระเงินทางโทรศัพท์
  
• การรับการชําระเงินทางโทรศัพท์มีค่าใช้จ่ายเท่าใด
  
• ประโยชน์ของการรับชําระเงินทางโทรศัพท์
  
• วิธีรับชําระเงินจากลูกค้าทางโทรศัพท์
  

รับการชําระเงินด้วยััตรเครดิตโดยใช้โทรศัพท์ได้หรือไม่

ได้ คุณสามารถรับชําระเงินด้วยบัตรเครดิตโดยใช้โทรศัพท์ได้ บริการชําระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ เช่น Stripe ให้บริการฟังก์ชันนี้แก่ธุรกิจต่างๆ โดยทั่วไปแล้ว แพลตฟอร์มเหล่านี้จะมีแอปอเนกประสงค์ที่ช่วยจัดการกระบวนการธุรกรรม และช่วยดําเนินการต่างๆ เช่น ออกใบเสร็จของลูกค้าและติดตามยอดขาย

ส่วนสําคัญของระบบนี้คือเครื่องอ่านบัตร ที่จับคู่กับโทรศัพท์และช่วยให้คุณยอมรับธุรกรรมได้ เครื่องอ่านบัตรยังสามารถทํางานร่วมกันหรือเป็นส่วนประกอบของเทอร์มินัลระบบบันทึกการขาย (POS) ที่หน้าร้านได้อีกด้วย เครื่องอ่านบัตรเครื่องนี้ช่วยให้คุณมีความยืดหยุ่นในการประมวลผลการชําระเงินด้วยวิธีต่างๆ กล่าวคือ คุณสามารถรูดบัตร เสียบบัตร หรือแตะบัตร (หากระบบรองรับวิธีการชําระเงินนี้เพื่อการชําระเงินแบบไร้สัมผัส) เมื่อคุณไม่ได้ใช้เครื่องอ่านบัตรตัวจริงที่ต่ออยู่กับโทรศัพท์ แอปเหล่านี้ส่วนใหญ่จะใช้เทคโนโลยี NFC ของโทรศัพท์ของคุณ ช่วยให้คุณรับชําระเงินแบบไร้สัมผัสจากบัตรและกระเป๋าเงินดิจิทัลได้

ธุรกิจประเภทใดบ้างที่ต้องรับการชําระเงินทางโทรศัพท์

การรับชําระเงินทางโทรศัพท์ช่วยให้ธุรกิจและผู้เชี่ยวชาญในหลายๆ สาขาอาชีพมีความยืดหยุ่นและคล่องตัว ต่อไปนี้เป็นกรณีการใช้งานทั่วไปที่การชําระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่มีข้อดีเด่นๆ ดังนี้

• ร้านค้าป๊อปอัปและผู้ให้บริการในตลาดมีกรณีที่น่าสนใจเป็นพิเศษสําหรับการเปิดรับเอาโซลูชันอุปกรณ์เคลื่อนที่หรับการชําระเงินที่จุดขายมาใช้ ธุรกิจเหล่านี้มักจะดําเนินงานในสถานที่ชั่วคราวหรือไม่เป็นทางการ เช่น ตลาดกลางแจ้งและพื้นที่จัดงาน ที่ซึ่งการใช้อุปกรณ์ประมวลผลการชำระเงินแบบดั้งเดิมอาจไม่สะดวก การรับชําระเงินทางโทรศัพท์ช่วยให้ธุรกิจเหล่านี้ประมวลผลธุรกรรมได้ทุกที่ที่ดําเนินธุรกิจ
  
• รถขายอาหารและผู้ขายข้างทางเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่สามารถเติบโตได้ด้วยการชําระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ เมื่อพิจารณาจากพื้นที่ทางกายภาพขนาดเล็กและสถานที่ตั้งที่เคลื่อนที่ได้ จึงไม่สมเหตุสมผลที่ธุรกิจเหล่านี้จะใช้เครื่องบันทึกเงินสดขนาดใหญ่ ระบบ POS หรือเครื่องอ่านบัตรแบบดั้งเดิม ระบบการชําระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ช่วยลดความยุ่งยากในขั้นตอนการชําระเงิน และช่วยให้ธุรกิจเหล่านี้รับการชําระเงินด้วยบัตรหรือกระเป๋าเงินดิจิทัลได้ในทุกที่
  
• ที่ปรึกษาและผู้ทำงานอิสระมักจะทํางานจากทางไกลหรือพบลูกค้าในสถานที่ต่างๆ ทําให้วิธีการชําระเงินแบบเดิมๆ ดําเนินงานไม่สะดวกเหมือนที่เคย ความสามารถในการรับชําระเงินทางโทรศัพท์ช่วยให้บุคคลเหล่านี้สามารถควบคุมการเรียกเก็บเงินและรับการชําระเงินสำหรับบริการของตนได้ทันที โดยไม่ต้องออกใบแจ้งหนี้และการโอนเงินผ่านธนาคาร
  
• ผู้ให้บริการเกี่ยวกับบ้าน เช่น ช่างประปา ช่างไฟฟ้า และครูฝึกส่วนบุคคล ให้บริการของตนที่บ้านของลูกค้าหรือนอกสถานที่ การรับชําระเงินทางโทรศัพท์ช่วยให้ผู้ให้บริการเกี่ยวกับบ้านทําธุรกรรมได้รวดเร็ว ซึ่งช่วยลดเวลาที่ใช้ในการเรียกเก็บเงินได้
  
• บริการด้านการคมนาคม เช่น แอปเรียกรถรับส่งและแท็กซี่ส่วนตัว สามารถสร้างประสบการณ์แบบไร้เงินสดที่เรียบง่ายสําหรับทั้งผู้ขับและผู้โดยสารได้ โดยการผสานการชําระเงินทางโทรศัพท์เข้ากับระบบของตน วิธีนี้ช่วยให้พวกเขาสามารถก้าวทันกับความต้องการของลูกค้าสำหรับการชำระเงินแบบไร้สัมผัสได้
  

การรับการชําระเงินทางโทรศัพท์มีค่าใช้จ่ายเท่าใด

ค่าใช้จ่ายในการรับชําระเงินโดยใช้โทรศัพท์อาจแตกต่างกันไปตามผู้ให้บริการที่คุณเลือก ปริมาณธุรกรรมที่คุณประมวลผล และประเภทของธุรกรรม (ที่จุดขาย ออนไลน์ หรือทางโทรศัพท์) ต่อไปนี้คือค่าใช้จ่ายทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับผู้ให้บริการชําระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ยอดนิยม

• ค่าธรรมเนียมเตรียมการ
  ผู้ให้บริการชําระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่หลายรายจะไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมล่วงหน้าสําหรับการตั้งค่าบัญชีหรือการให้บริการเครื่องอ่านบัตรที่เชื่อมต่อกับโทรศัพท์ของคุณ แต่ผู้ให้บริการบางรายอาจเสนออุปกรณ์ขั้นสูงเพิ่มเติมโดยเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

• ค่าธรรมเนียมธุรกรรม
  ค่าธรรมเนียมธุรกรรมจะคิดตามเปอร์เซ็นต์ของยอดขายแต่ละรายการ Stripe เรียกเก็บ2.9% + 30¢ ต่อการเรียกเก็บเงินจากบัตรที่สําเร็จสําหรับธุรกรรมออนไลน์ ส่วนการชําระเงินที่จุดขายด้วย Terminal Stripe จะต้องเสียค่าบริการ 2.7% + 5¢ ต่อธุรกรรม

• ค่าธรรมเนียมธุรกรรมที่ไม่ได้แสดงบัตรจริง (CNP)
  ธุรกรรมที่ไม่ได้แสดงบัตรจริงหรือที่เรียกว่า "ธุรกรรมที่ป้อนข้อมูล" นั้นดําเนินการจากทางไกลโดยไม่ต้องประมวลผลบัตรใบจริงผ่านเครื่องอ่านบัตรหรือเทอร์มินัล หากคุณต้องพิมพ์หมายเลขบัตรด้วยตนเองแทนการรูด แตะ หรือใช้วิธีการชำระเงินแบบไร้สัมผัส ค่าธรรมเนียมมักจะสูงขึ้นเนื่องจากความเสี่ยงในการฉ้อโกงที่เพิ่มขึ้น ตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน 2022 เป็นต้นไป ค่าธรรมเนียมของ Stripe สำหรับข้อมูลบัตรที่ป้อนด้วยตนเองในแดชบอร์ด Stripe เพิ่มขึ้น 0.5% ตั้งแต่ 2.9% + 30¢ ถึง 3.4% + 30¢ สําหรับธุรกิจในสหรัฐอเมริกาที่ใช้แพ็กเกจค่าบริการมาตรฐาน

• ค่าธรรมเนียมรายเดือน
  แม้ผู้ให้บริการหลายรายจะเรียกเก็บเงินต่อธุรกรรม แต่บางรายก็อาจใช้โมเดลค่าธรรมเนียมรายเดือน ซึ่งค่าใช้จ่ายอาจอยู่ที่ 20–100 ดอลลาร์ต่อเดือนหรือมากกว่านั้น ผู้ให้บริการที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมรายเดือนมักจะนําเสนอฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น การวิเคราะห์ขั้นสูง การจัดการสินค้าคงคลัง และโปรแกรมความภักดีของลูกค้า Stripe ไม่เก็บค่าธรรมเนียมรายเดือน

• ค่าธรรมเนียมการดึงเงินคืน
  หากลูกค้าโต้แย้งการเรียกเก็บเงินและส่งผลให้มี[การดึงเงินคืน]chargeback ผู้ให้บริการอาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมธุรกิจ ซึ่งโดยปกติแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 15–25 ดอลลาร์สหรัฐต่อเหตุการณ์

• ค่าธรรมเนียมสําหรับบริการเพิ่มเติม
  หากคุณเลือกใช้ส่วนเสริมต่างๆ เช่น บริการบัญชีเงินเดือน อีคอมเมิร์ซ การผสานการทํางาน การกําหนดเวลาการนัดหมาย หรือการจัดการการสมัครใช้บริการอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

โครงสร้างค่าบริการของผู้ให้บริการแต่ละรายจะแตกต่างกัน และค่าธรรมเนียมอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ โปรดตรวจสอบรายละเอียดค่าบริการอย่างละเอียดก่อนเลือกผู้ให้บริการ และในขณะเดียวกัน การเจรจากับผู้ให้บริการชําระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่อาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธุรกิจที่มีปริมาณการชําระเงินสูงอาจมีด้านในการเจรจามากขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ

ประโยชน์ของการรับชําระเงินทางโทรศัพท์

การรับชําระเงินทางโทรศัพท์มีข้อดีหลายประการสําหรับธุรกิจที่ต้องการลดความซับซ้อนของธุรกรรมและสร้างการตั้งค่าการชําระเงินที่ยืดหยุ่น ต่อไปนี้คือเหตุผลบางประการว่าเหตุใดการรับการชำระเงินทางมือถือจึงเป็นประโยชน์

• สถานภาพตำแหน่งที่ต้ง
  ระบบการชําระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ รับการชําระเงินได้ทุกที่ทุกเวลา ความยืดหยุ่นนี้สร้างคุณค่าให้กับธุรกิจที่ไม่มีที่ตั้งถาวร เช่น ร้านค้าริมทาง ผู้ทํางานอิสระ และผู้ให้บริการเกี่ยวกับบ้าน

• กระแสเงินสดที่เพิ่มขึ้น
  โดยปกติการชําระเงินที่ดําเนินการผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่จะชําระอย่างรวดเร็ว บางครั้งจะชําระภายใน 1 วันทําการ วิธีนี้อาจช่วยเพิ่มกระแสเงินสดของธุรกิจได้ โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการแบบเดิมๆ อย่างเช่น เช็ค ซึ่งอาจใช้เวลาหลายวันจึงจะชำระเข้าบัญชี

• ปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าให้ดีขึ้น
  ลูกค้าหลายรายพึงพอใจกับการชําระเงินด้วยบัตรหรือกระเป๋าเงินดิจิทัลแทนการใช้เงินสด การนําเสนอวิธีการชําระเงินที่หลากหลาย รวมถึงการชําระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่จะช่วยสร้างประสบการณ์การชําระเงินที่ลูกค้าต้องการ และทำให้กลับมาใช้บริการซ้ำอีก

• ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น
  การผสานการทำงานของระบบการชําระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่เข้ากับระบบและโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ของธุรกิจจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดําเนินงานได้ นอกจากนี้ยังอาจอัปเดตบันทึกสินค้าคงคลังและการขายโดยอัตโนมัติ ซึ่งช่วยลดการป้อนข้อมูลด้วยตัวเองที่อาจเกิดข้อผิดพลาดได้

• การรักษาความปลอดภัย
  แม้ว่าจะไม่มีระบบใดปลอดภัยจากภัยคุกคามด้านความปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ผู้ให้บริการการชำระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่มักเสนอมาตรการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งเพื่อปกป้องข้อมูลบัตร ซึ่งรวมถึง การเข้ารหัสและการสร้างโทเค็น

• ลดค่าใช้จ่ายด้านฮาร์ดแวร์
  ระบบการชําระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่มักต้องใช้ฮาร์ดแวร์ที่ราคาถูกกว่าระบบ POS แบบเดิมๆ ผู้ให้บริการบางรายยังเสนอเครื่องอ่านบัตรฟรีให้กับลูกค้าใหม่ด้วย

• ธุรกรรมแบบไร้สัมผัส
  การรับชําระเงินทางโทรศัพท์ยังหมายถึงการสามารถรับการชำระเงิน NFC แบบไร้สัมผัสได้โดยใช้บัตรที่เปิดใช้งานและกระเป๋าเงินดิจิทัล ซอฟต์แวร์อย่าง Tap to Pay on iPhone ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ใช้เพียงแต่โทรศัพท์ของตนได้ โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์อย่างอื่นเพิ่มเติม เพื่อรับและประมวลผลการชําระเงินของลูกค้าที่จุดขาย

• การเก็บรวบรวมและการวิเคราะห์ข้อมูล
  ระบบการชําระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่จํานวนมากมีการวิเคราะห์ข้อมูลในตัว ธุรกิจต่างๆ สามารถใช้ข้อมูลนี้ในการติดตามแนวโน้มการขาย ระบุผลิตภัณฑ์ขายดี และทําความเข้าใจลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นเพื่อทราบถึงกลยุทธ์ทางธุรกิจ

การนำเอาการชําระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนมาใช้มีข้อดีหลายประการสําหรับธุรกิจและลูกค้า อย่างไรก็ตาม ธุรกิจควรประเมินความต้องการเฉพาะของตน ความต้องการของลูกค้า และผลตอบแทนจากการลงทุนที่อาจเกิดขึ้นเมื่อเลือกระบบการชําระเงิน

วิธีรับชําระเงินจากลูกค้าทางโทรศัพท์

การรับชําระเงินจากลูกค้าทางโทรศัพท์อาจทำได้หลายวิธี ต่อไปนี้เราจะอธิบายวิธีรับชําระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่จากลูกค้า โดยแบ่งออกเป็น 2 หมวดหมู่การชําระเงิน ได้แก่ การชําระเงินที่จุดขายและการชำระเงินจากทางไกล

วิธีการชําระเงินที่จุดขายโดยใช้โทรศัพท์

เครื่องอ่านบัตร Stripe

เครื่องอ่านบัตร Stripe คือเครื่องอ่านบัตรที่เป็นเอกลักษณ์ของ Stripe โดยคุณสามารถต่อเข้ากับโทรศัพท์ได้โดยตรง ช่วยให้คุณรับชําระเงินด้วยบัตรโดยการรูดแถบแม่เหล็ก สอดบัตรที่มีชิป หรือแตะบัตรหรืออุปกรณ์เพื่อชําระเงินแบบไร้สัมผัส วิธีการทํางานมีดังนี้

1. สั่งซื้อเครื่องอ่านบัตร Stripe จากเว็บไซต์ Stripe
   
2. หลังจากได้รับเครื่องอ่านบัตรแล้ว ให้เชื่อมต่อเครื่องอ่านบัตรเข้ากับโทรศัพท์ของคุณผ่านบลูทูธ
   
3. เปิดแอป Stripe แล้วทําตามคําแนะนําเพื่อตั้งค่าเครื่องอ่านบัตร
   
4. เมื่อลูกค้าพร้อมชําระเงินแล้ว ให้ป้อนจํานวนเงินที่ต้องชําระลงในแอป จากนั้นรูด เสียบ หรือแตะบัตรของลูกค้าบนเครื่องอ่านบัตร
   
5. ระบบจะประมวลผลการชําระเงินผ่าน Stripe และโดยปกติแล้วระบบจะโอนเงินทุนเข้าสู่บัญชีธนาคารของคุณภายใน 2-3 วันทําการ
   

หากต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีเริ่มใช้งานเครื่องอ่านบัตร Stripe เพื่อเปิดใช้การชําระเงินที่จุดขายทางโทรศัพท์ ให้ไปที่ที่นี่

Tap to Pay on iPhone

Tap to Pay on iPhone ของ Stripe ช่วยให้ธุรกิจรับการชําระเงินแบบไร้สัมผัสบน iPhone ได้โดยตรงโดยไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์เพิ่มเติม วิธีใช้งานมีดังนี้

1. ตรวจสอบว่าอุปกรณ์ของคุณใช้ได้กับฟีเจอร์ Tap to Pay ของ Apple
   
2. ลูกค้าสามารถชําระเงินได้โดยถือบัตรหรืออุปกรณ์ที่เปิดใช้ Apple Pay ใกล้ด้านบนของ iPhone ของคุณ
   
3. Tap to Pay on iPhone จะประมวลผลการชําระเงินโดยอัตโนมัติ
   

หากต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Tap to Pay on iPhone โดยใช้ Stripe ให้ไปที่นี่

วิธีการชําระเงินจากทางไกลโดยใช้โทรศัพท์

Payment Links

Payment Links เป็นตัวเลือกที่สะดวกสําหรับธุรกิจที่ต้องการรับชําระเงินจากทางไกล ช่วยให้ธุรกิจสร้างหน้าการชําระเงินที่สมบูรณ์ภายในไม่กี่นาทีโดยไม่ต้องเขียนโค้ด ธุรกิจสามารถส่งลิงก์ชําระเงินไปให้ลูกค้าได้โดยตรงและทําธุรกรรมให้เสร็จสิ้นได้ด้วยการคลิกเพียงไม่กี่ครั้ง กระบวนการทํางานมีดังนี้

1. คุณสามารถสร้างลิงก์ชําระเงินสําหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เจาะจงได้จากแดชบอร์ด Stripe
   
2. คุณจะได้รับ URL สําหรับส่งให้ลูกค้าทาง SMS หรืออีเมล
   
3. ลูกค้าจะคลิกลิงก์แล้วชําระเงินจากโทรศัพท์หรืออุปกรณ์อื่นๆ ได้โดยตรง ลูกค้าสามารถป้อนรายละเอียดบัตรหรือใช้กระเป๋าเงินดิจิทัล เช่น Apple Pay หรือ Google Pay
   

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Payment Links ของ Stripe ให้ไปที่นี่

เว็บไซต์หรือแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่

ลูกค้ายังสามารถใช้โทรศัพท์ของตนเอง—หรือโทรศัพท์ของคุณเอง หากคุณอยู่ในสถานที่เดียวกัน—เพื่อชำระเงินโดยตรงบนเว็บไซต์ที่ปรับให้เหมาะกับมือถือของคุณหรือผ่านแอปของธุรกิจของคุณ ด้านล่างนี้เป็นภาพรวมสั้น ๆ ของขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง:

1. ตรวจสอบว่ามีการตั้งค่าเว็บไซต์หรือแอปเพื่อรับชําระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ หากคุณทำงานกับ Stripe เพื่อรับชําระเงินทางออนไลน์ แสดงว่าคุณมีสิ่งที่ต้องการอยู่แล้ว หากเพิ่งเริ่มต้น Stripe ให้บริการ API และ SDK ที่ใช้งานง่าย ซึ่งนักพัฒนาของคุณจะใช้เพื่อผสานการทํางานฟังก์ชันประมวลผลการชําระเงินของ Stripe เข้ากับเว็บไซต์หรือแอปของคุณได้
   
2. ลูกค้าเลือกผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ต้องการ แล้วเพิ่มลงในรถเข็น จากนั้นลูกค้าจะดําเนินการชําระเงิน
   
3. เมื่อชําระเงิน ลูกค้าสามารถป้อนรายละเอียดบัตรหรือเลือกตัวเลือกกระเป๋าเงินดิจิทัลเพื่อดําเนินการซื้อให้เสร็จสมบูรณ์ได้
   

แต่ละวิธีมีข้อดีเป็นของตัวเองและเหมาะสําหรับโมเดลธุรกิจและความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกัน พิจารณาความต้องการเฉพาะของคุณเมื่อเลือกวิธีการที่เหมาะสมกับคุณที่สุด สำหรับธุรกิจหลายๆ แห่ง การตอบสนองทุกกรณีการใช้งาน ช่องทางการขาย และกลุ่มเป้าหมาย ต้องใช้ชุดโซลูชันการชำระเงินที่ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างระบบการชำระเงินที่มีฟังก์ชันหลากหลาย

ไม่ว่าคุณต้องการเปิดใช้งานการชำระเงินบนโทรศัพท์ของคุณเพื่อลดความซับซ้อนในการทำธุรกรรมของลูกค้าหรือเพิ่มฟังก์ชันการชำระเงินผ่านมือถือเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการชำระเงินทั่วโลกที่ครอบคลุม ชุดโซลูชันการชำระเงินที่ปรับแต่งได้ของ Stripe ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี หากต้องการเริ่มสร้างแนวทางที่เหมาะสมที่สุดโดยพิจารณาจากความต้องการปัจจุบันและอนาคตของธุรกิจของคุณ โปรดติดต่อเราที่นี่