Recurring revenue models explained: What businesses need to know

Billing
Billing

Stripe Billing ช่วยให้คุณเรียกเก็บเงินและจัดการลูกค้าได้ในทุกแบบที่ต้องการ ตั้งแต่การเรียกเก็บเงินแบบตามรอบไปจนถึงการเรียกเก็บเงินตามการใช้งาน และสัญญาการเจรจาการขาย

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. โมเดลรายรับตามแบบแผนล่วงหน้าคืออะไร
  3. ประเภทของโมเดลรายรับตามแบบแผนล่วงหน้า
  4. ประโยชน์ของการใช้โมเดลรายรับตามแบบแผนล่วงหน้า
  5. ความท้าทายในการใช้โมเดลรายรับตามแบบแผนล่วงหน้า
  6. วิธีที่ Stripe ช่วยขับเคลื่อนโมเดลรายรับตามแบบแผนล่วงหน้า

โมเดลรายรับตามแบบแผนล่วงหน้า ซึ่งระบบจะเรียกเก็บเงินจากลูกค้าตามรอบเวลาเป็นประจําเพื่อเข้าถึงผลิตภัณฑ์หรือบริการ เคยเป็นตัวเลือกที่ใช้ในหมู่ภาคธุรกิจเฉพาะกลุ่ม แต่ในปัจจุบัน ธุรกิจต่างๆ จำนวนมากได้นำโมเดลรายรับตามแบบแผนล่วงหน้ามาใช้ โดยปรับแนวคิดเกี่ยวกับวิธีสร้างรายได้และสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับลูกค้า การเปลี่ยนมาใช้โมเดลรายรับตามแบบแผนล่วงหน้าจะช่วยเพิ่มมูลค่าตลอดอายุการใช้งานของลูกค้าและช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนมากขึ้น

การใช้โมเดลรายรับตามแบบแผนล่วงหน้าต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบ ในบทความนี้ เราจะอธิบายรายรับตามแบบแผนล่วงหน้าประเภทต่างๆ พูดคุยเกี่ยวกับประโยชน์และความท้าทายของโมเดลนี้ และให้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อช่วยในกระบวนการตัดสินใจเมื่อคุณสํารวจการเปลี่ยนแปลงนี้ในกลยุทธ์ทางธุรกิจ ไม่ว่าคุณจะเพิ่งเริ่มใช้งานหรือปรับแต่งโมเดลรายรับที่มีอยู่ ต่อไปนี้คือภาพรวมของสิ่งที่คุณควรทราบ

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

  • โมเดลรายรับตามแบบแผนล่วงหน้าคืออะไร
  • ประเภทของโมเดลรายรับตามแบบแผนล่วงหน้า
  • ประโยชน์ของการใช้โมเดลรายรับตามแบบแผนล่วงหน้า
  • ความท้าทายในการใช้โมเดลรายรับตามแบบแผนล่วงหน้า
  • วิธีที่ Stripe ช่วยขับเคลื่อนโมเดลรายรับตามแบบแผนล่วงหน้า

โมเดลรายรับตามแบบแผนล่วงหน้าคืออะไร

รายรับตามแบบแผนล่วงหน้าคือโมเดลธุรกิจที่สร้างกระแสรายรับที่สม่ำเสมอและคาดการณ์ได้ด้วยการเรียกเก็บเงินจากลูกค้าอย่างต่อเนื่องสําหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการ แทนที่จะมุ่งเน้นไปที่ธุรกรรมแบบครั้งเดียว ธุรกิจที่ใช้โมเดลนี้สามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืนด้วยการมอบคุณค่าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งลูกค้าชำระเงินเป็นช่วงๆ โดยมักจะผ่านการชำระเงินตามรอบบิล หรือการเป็นสมาชิก

ต่อไปนี้คือตัวอย่างของแง่มุมหลักในโมเดลรายรับตามแบบแผนล่วงหน้า

  • ความสม่ำเสมอและความสามารถในการคาดการณ์
    โมเดลรายรับตามแบบแผนล่วงหน้านี้ออกแบบมาเพื่อสร้างกระแสรายรับที่คาดการณ์ได้และสม่ำเสมอสําหรับธุรกิจ ธุรกิจต่างๆ จะเรียกเก็บเงินจากลูกค้าเป็นระยะๆ (รายเดือน รายไตรมาส รายปี เป็นต้น) ซึ่งช่วยให้คาดการณ์รายได้ได้แม่นยำยิ่งขึ้นกว่าการขายแบบไม่ต่อเนื่องหรือครั้งเดียว

  • การชําระเงินเป็นระยะ
    โมเดลนี้กําหนดให้ลูกค้าต้องชําระเงินเป็นประจําสําหรับการเข้าถึงผลิตภัณฑ์หรือบริการอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจสามารถเรียกเก็บเงินสำหรับการเข้าถึงนี้ได้หลายวิธี เช่น การสมัครสมาชิกแบบราคาคงที่สำหรับการใช้งานแบบไม่จำกัดหรือตามที่กำหนดไว้ หรือการชำระเงินแบบแปรผันตามเมตริกการใช้งาน (เรียกอีกอย่างว่าแบบจ่ายตามการใช้งานหรือแบบวัดการใช้งาน)

  • การส่งมูลค่าอย่างต่อเนื่อง
    โมเดลนี้จำเป็นต้องมอบคุณค่าอย่างต่อเนื่องเพื่อรับการชำระเงินตามแบบแผนล่วงหน้าจากลูกค้า โดยอาจเป็นการเข้าถึงซอฟต์แวร์ (ซอฟต์แวร์ในฐานะบริการ หรือ SaaS) เนื้อหาดิจิทัล (ข่าวสาร เพลง ภาพยนตร์) สินค้าที่จับต้องได้ (กล่องสมัครรับสินค้า) หรือบริการ (สมาชิกฟิตเนสและสัญญาบำรุงรักษา)

  • การรักษาลูกค้า
    โมเดลรายรับตามแบบแผนล่วงหน้าเน้นการรักษาลูกค้ามากกว่าการหาลูกค้าใหม่ เนื่องจากการสร้างรายได้ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องกับลูกค้า ธุรกิจที่มีรายรับตามแบบแผนล่วงหน้าจึงมุ่งเน้นความพยายามในการรักษาความพึงพอใจของลูกค้า โดยรักษาอัตราการเลิกใช้บริการให้ต่ำ และเพิ่มมูลค่าตลอดอายุการใช้งานของลูกค้า (CLV)

  • ต่ออายุอัตโนมัติ
    โดยทั่วไปแล้ว การชําระเงินตามแบบแผนล่วงหน้าจะต่ออายุอัตโนมัติ แต่ลูกค้ามักจะมีตัวเลือกในการยกเลิก หยุดชั่วคราว หรือแก้ไขการชําระเงินตามรอบบิลได้ทุกเมื่อ การต่ออายุอัตโนมัติช่วยลดความยุ่งยากให้กับกระบวนการชําระเงินและเพิ่มความแน่นอนให้ธุรกิจ

ประเภทของโมเดลรายรับตามแบบแผนล่วงหน้า

โมเดลตามแบบแผนล่วงหน้าช่วยให้ธุรกิจทั่วโลกสร้างความสัมพันธ์แบบยั่งยืนในระยะยาวกับลูกค้าได้ ด้วยรูปแบบและฟังก์ชันที่หลากหลาย โมเดลเหล่านี้สามารถตอบสนองความต้องการและพฤติกรรมการบริโภคที่หลากหลายของลูกค้าได้ ขณะเดียวกันก็ยังมอบกระแสรายรับที่คาดเดาได้มากขึ้นให้กับธุรกิจอีกด้วย ตัวอย่างของโมเดลรายรับตามแบบแผนล่วงหน้าที่พบบ่อยที่สุดมีดังนี้

  • โมเดลการชําระเงินตามรอบบิล
    ในโมเดลนี้ ลูกค้าจะจ่ายค่าธรรมเนียมตามแบบแผนล่วงหน้าเพื่อรับสิทธิ์เข้าถึงผลิตภัณฑ์หรือบริการ โดยปกติแล้ว ค่าธรรมเนียมจะคงที่และเรียกเก็บเป็นประจํา เช่น รายเดือน หรือรายปี ตัวอย่างโมเดลนี้ประกอบไปด้วย Netflix ซึ่งผู้ใช้จ่ายค่าบริการรายเดือนเพื่อเข้าถึงรายการและภาพยนตร์หลากหลายประเภท หรือ Adobe Creative Cloud ที่ลูกค้าสามารถชําระเพื่อรับสิทธิ์ใช้งานเครื่องมือซอฟต์แวร์สร้างสรรค์

  • โมเดลการชําระเงินตามการใช้งานหรือแบบชําระเงินเมื่อใช้งาน
    ในโมเดลนี้ ธุรกิจจะเรียกเก็บเงินจากลูกค้าตามปริมาณการใช้งานผลิตภัณฑ์หรือบริการ ซึ่งมีประโยชน์สําหรับลูกค้าที่ไม่ได้ใช้บริการในปริมาณสูง ตัวอย่างอาจเป็นบริการประมวลผลผ่านระบบคลาวด์อย่าง Amazon Web Services (AWS) ซึ่งระบบจะเรียกเก็บเงินลูกค้าตามทรัพยากรด้านการคํานวณที่ใช้

  • โมเดลฟรีเมียม
    โมเดลนี้เกี่ยวข้องกับการเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการฟรี ในขณะที่เรียกเก็บเงินสำหรับฟีเจอร์พรีเมียมหรือการเพิ่มประสิทธิภาพ แนวคิดคือการสร้างฐานผู้ใช้จำนวนมากด้วยผลิตภัณฑ์ฟรี จากนั้นจึงเปลี่ยนผู้ใช้ส่วนหนึ่งให้กลายเป็นลูกค้าที่ชำระเงิน ตัวอย่างได้แก่ Spotify ที่ให้บริการสตรีมเพลงฟรีแบบมีโฆษณา แต่คิดค่าบริการสำหรับบริการแบบพรีเมียมที่ไม่มีโฆษณาและมีฟีเจอร์มากมาย

  • โมเดลการเป็นสมาชิก
    โมเดลการเป็นสมาชิกคล้ายกับโมเดลการชำระเงินตามรอบบิล คือลูกค้าที่จ่ายค่าธรรมเนียมตามแบบแผนล่วงหน้าเพื่อรับสิทธิประโยชน์ บริการ หรือผลิตภัณฑ์เฉพาะ โดยมักใช้ในธุรกิจที่มีลักษณะเป็นชุมชนเฉพาะ ตัวอย่างคือ Costco ที่ลูกค้าจ่ายค่าธรรมเนียมการเป็นสมาชิกรายปีเพื่อเข้าไปจับจ่ายที่คลังสินค้า

  • โมเดลค่าจ้าง
    โมเดลนี้ ลูกค้าจะจ่ายค่าธรรมเนียมตามแบบแผนล่วงหน้าเพื่อเข้าถึงบริการอย่างต่อเนื่อง โดยมักใช้ในบริการเฉพาะทาง เช่น บริการด้านกฎหมายหรือการให้คําปรึกษา ตัวอย่างเช่น บริษัทอาจว่าจ้างสำนักงานกฎหมายเพื่อขอคำแนะนำทางกฎหมายอย่างต่อเนื่องและจ่ายค่าธรรมเนียมรายเดือนคงที่ให้กับสำนักงานกฎหมาย

  • โมเดลใบอนุญาต
    ในโมเดลนี้ ลูกค้าจะจ่ายค่าธรรมเนียมตามแบบแผนล่วงหน้าเพื่อสิทธิ์ในการใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการ นี่เป็นวิธีที่พบได้ทั่วไปโดยเฉพาะในซอฟต์แวร์ ที่ลูกค้าชำระเงินค่าสิทธิในการใช้ซอฟต์แวร์ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ตัวอย่างเช่น ธุรกิจจำนวนมากอนุญาตให้ใช้ชุดซอฟต์แวร์เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ Microsoft แบบต่อผู้ใช้ต่อเดือน

ประโยชน์ของการใช้โมเดลรายรับตามแบบแผนล่วงหน้า

โมเดลรายรับตามแบบแผนล่วงหน้ามีประโยชน์ต่อธุรกิจมากมาย โดยเฉพาะในเศรษฐกิจดิจิทัล ที่ซึ่งความสัมพันธ์อันยั่งยืนกับลูกค้าและกระแสรายรับที่คาดการณ์ได้นั้นมีคุณค่า เรามาดูรายละเอียดเกี่ยวกับประโยชน์เหล่านี้กัน

  • ความสามารถในการคาดการณ์รายรับ
    ธุรกิจคาดการณ์รายรับของตนได้แม่นยํามากขึ้น สิ่งนี้ช่วยปรับปรุงการวางแผนทางการเงินและการจัดทำงบประมาณ และสร้างความมั่นคงที่คุ้มค่าเมื่อวางแผนการเติบโตหรือรับมือกับความไม่แน่นอนของตลาด

  • การรักษาลูกค้า
    โมเดลรายรับตามแบบแผนล่วงหน้าจูงใจให้ธุรกิจรักษาลูกค้าไว้ ซึ่งเปลี่ยนจุดเน้นในการสร้างธุรกรรมแบบครั้งเดียวไปส่งเสริมความสัมพันธ์ระยะยาว ความสําคัญในการรักษาลูกค้ามักจะเพิ่มมูลค่าตลอดอายุการใช้งานของลูกค้า

  • กระแสเงินสดเพิ่มขึ้น
    ธุรกิจที่มีการชําระเงินเป็นประจําจะได้รับประโยชน์จากกระแสเงินสดที่สม่ําเสมอ สิ่งนี้สามารถปรับปรุงสถานะทางการเงินของบริษัทได้อย่างมีนัยสําคัญและมอบเงินทุนสําหรับโครงการฟื้นฟูกิจการหรือโครงการริเริ่มการเติบโต

  • ความสามารถในการปรับขนาด
    โมเดลรายรับตามแบบแผนล่วงหน้า โดยเฉพาะในธุรกิจดิจิทัลหรือธุรกิจแบบบริการมักจะปรับขนาดได้อย่างดี เมื่อฐานลูกค้าเติบโตขึ้น ธุรกิจจะสามารถเพิ่มรายรับได้โดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มทรัพยากรหรือต้นทุนตามสัดส่วน

  • ความยืดหยุ่นสําหรับลูกค้า
    โมเดลเหล่านี้สามารถเพิ่มความยืดหยุ่นและความสามารถในการซื้อให้กับลูกค้าได้ โดยเฉพาะโมเดลการชำระเงินตามรอบบิลหรือการสมัครสมาชิก ด้วยค่าธรรมเนียมที่คาดเดาได้ ลูกค้าจะสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการหลากหลายที่อาจมีราคาแพงจนไม่อาจซื้อได้ในคราวเดียว

  • โอกาสในการขายต่อยอดและการขายที่ต่อเนื่อง
    ธุรกิจมีโอกาสในการเสนอบริการพรีเมียมเพิ่มเติมหรือผลิตภัณฑ์เสริมเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายรับต่อลูกค้าแต่ละคน

  • การประเมินมูลค่าธุรกิจที่เพิ่มขึ้น
    ธุรกิจที่มีรายรับตามแบบแผนล่วงหน้ามักจะมีมูลค่าสูงกว่าธุรกิจที่มีโมเดลรายได้จากธุรกรรม รายรับที่คาดการณ์ได้สามารถทำให้ธุรกิจน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนหรือผู้ซื้อมากขึ้น

ผลประโยชน์เหล่านี้ทำให้มีเหตุผลเพียงพอที่จะนำเอารูปแบบรายรับตามแบบแผนล่วงหน้ามาใช้ แต่โปรดทราบว่าความสําเร็จของโมเดลนี้จะขึ้นอยู่กับความสามารถของธุรกิจในการมอบคุณค่าอย่างต่อเนื่อง

ความท้าทายในการใช้โมเดลรายรับตามแบบแผนล่วงหน้า

แม้การใช้โมเดลรายรับตามแบบแผนล่วงหน้าจะมีข้อดีหลายประการ แต่ธุรกิจก็ยังควรตระหนักถึงความท้าทายที่อาจเกิดขึ้น

  • ความต้องการด้านการบริการลูกค้าระดับสูง
    ด้วยความสัมพันธ์กับลูกค้าที่ดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง ความต้องการการสนับสนุนลูกค้าอย่างต่อเนื่องจึงมีมากขึ้น การจัดหาบริการที่มีคุณภาพสูงและตอบสนองฉับไวอาจต้องอาศัยทรัพยากรเพิ่มเติม แต่ที่สําคัญคือการรักษาลูกค้าไว้และลดอัตราการเลิกใช้บริการ

  • การดําเนินการรักษาลูกค้า
    การรักษาลูกค้าในระยะยาวต้องใช้ความพยายามอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจต่างๆ จึงต้องพิสูจน์คุณค่าอยู่เสมอเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกค้าเลิกใช้บริการ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการอัปเดตผลิตภัณฑ์เป็นประจําหรือกลยุทธ์เพื่อสร้างการส่วนร่วมอีกครั้ง

  • ความอ่อนไหวต่อราคา
    ลูกค้าที่จ่ายค่าธรรมเนียมเป็นประจำมักจะไวต่อการเปลี่ยนแปลงของราคามากกว่า การเพิ่มขึ้นของราคา แม้ว่าจะเพียงเล็กน้อย ก็สามารถเพิ่มอัตราการเลิกใช้บริการได้หากจัดการไม่เหมาะสม

  • การปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับ
    ธุรกิจต่างๆ อาจต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงินตามรอบบิลและการชำระเงินตามแบบแผนล่วงหน้า ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับภาคส่วน เช่น การทำให้ลูกค้ายกเลิกการสมัครสมาชิกได้ง่ายขึ้น หรือการเปิดเผยข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมตามแบบแผนล่วงหน้า

  • การเรียกเก็บเงินที่ซับซ้อน
    การจัดการการชําระเงินตามแบบแผนล่วงหน้าอาจเป็นเรื่องที่ซับซ้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องจัดการกับการอัปเกรด การดาวน์เกรด การแบ่งชําระตามสัดส่วน การคืนเงิน หรือการยกเลิก ความซับซ้อนนี้ต้องอาศัยระบบและกระบวนการเรียกเก็บเงินที่มีประสิทธิภาพ

  • การรับรู้รายรับ
    สำหรับโมเดลรายรับตามแบบแผนล่วงหน้าจำนวนมาก การกำหนดเวลาการรับรู้รายรับอาจมีความซับซ้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจแบบชำระเงินตามรอบบิลที่เรียกเก็บเงินล่วงหน้าแต่มอบคุณค่าในระยะยาว สิ่งนี้อาจส่งผลต่อการรายงานและการเก็บภาษีทางการเงิน

  • การเติบโตของรายรับที่ช้ากว่าในเริ่มแรก
    เมื่อเปรียบเทียบกับโมเดลธุรกรรมแบบครั้งเดียว โมเดลรายรับตามแบบแผนล่วงหน้าอาจเพิ่มรายรับได้ช้าในตอนแรก ธุรกิจต่างๆ จำเป็นต้องเตรียมพร้อมสำหรับการเติบโตขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปนี้ และวางแผนการเงินให้เหมาะสม

แม้ความท้าทายเหล่านี้อาจดูน่ากลัว แต่ปัญหาเหล่านี้อาจได้รับการแก้ไขอย่างมีประสิทธิภาพด้วยการวางแผนอย่างระมัดระวัง ทรัพยากรที่เหมาะสม และการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ การทําความเข้าใจอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นจะช่วยให้ธุรกิจต่างๆ เปลี่ยนมาใช้โมเดลรายรับตามแบบแผนล่วงหน้าหรือปรับกลยุทธ์รายรับตามแบบแผนล่วงหน้าที่มีอยู่ได้

วิธีที่ Stripe ช่วยขับเคลื่อนโมเดลรายรับตามแบบแผนล่วงหน้า

Stripe Billing คือแพลตฟอร์มแบบไดนามิกที่มีชุดเครื่องมือที่ครอบคลุมซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับข้อกําหนดเฉพาะของโมเดลรายรับตามแบบแผนล่วงหน้า เครื่องมือนี้ช่วยแก้ปัญหาความท้าทายต่างๆ มากมายในการจัดตั้งและจัดการการสมัครสมาชิกหรือการเรียกเก็บเงินตามแบบแผนล่วงหน้า ต่อไปนี้คือวิธีที่ Stripe Billing ปรับปรุงโมเดลรายรับตามแบบแผนล่วงหน้าในแง่มุมต่างๆ

  • รอบการเรียกเก็บเงินที่ยืดหยุ่น
    Stripe ช่วยให้ธุรกิจปรับแต่งรอบการเรียกเก็บเงิน ความถี่ และช่วงเวลาต่างๆ ได้ โดยจะแสดงโครงสร้างค่าบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของธุรกิจและลูกค้า

  • การเรียกเก็บเงินตามการใช้งาน
    Stripe รองรับการเรียกเก็บเงินตามปริการใช้งานสำหรับธุรกิจที่คิดค่าบริการตามการใช้งานหรือจ่ายตามการใช้งาน ซึ่งทำให้สามารถเรียกเก็บเงินจากลูกค้าตามการใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการได้

  • การออกใบแจ้งหนี้อัตโนมัติ
    Stripe ทําให้การออกใบแจ้งหนี้ง่ายขึ้นด้วยการใช้กระบวนการที่เป็นอัตโนมัติ วิธีเหล่านี้ประกอบด้วยการจัดการการปรับยอดการเรียกเก็บเงิน การแบ่งชําระตามสัดส่วน และการติดตามหนี้ (การเก็บเงินที่เลยกําหนด) การลดภาระในการดูแลระบบ และการลดข้อผิดพลาดให้น้อยที่สุด

  • การเปลี่ยนแปลงการชําระเงินตามรอบบิล
    เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการชําระเงินตามรอบบิลกลางรอบ เช่น การอัปเกรด การดาวน์เกรด หรือการยกเลิก Stripe Billing จะปรับการเรียกเก็บเงินโดยอัตโนมัติตามการเปลี่ยนแปลงนั้น

  • ช่วงทดลองใช้และส่วนลด
    เมื่อใช้ Stripe ธุรกิจต่างๆ สามารถเสนอการทดลองใช้งานฟรี คูปองส่วนลด หรือข้อเสนอส่งเสริมการขาย เพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ ให้เข้ามาใช้โมเดลการชำระเงินตามรอบบิล Stripe จัดการการติดตามและใช้ส่วนลดเหล่านี้

  • การชําระเงินหลายสกุลเงินและการชําระเงินระหว่างประเทศ
    สำหรับธุรกิจที่มีการดำเนินงานทั่วโลก Stripe รองรับสกุลเงินมากกว่า 135 สกุลเงิน และวิธีการชำระเงินที่หลากหลาย ทำให้กระบวนการในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศง่ายขึ้น

  • การรับรู้รายรับและการรายงาน
    Stripe มอบเครื่องมืออันทรงคุณค่าสำหรับการรับรู้รายรับ และสร้างรายงานทางการเงิน ซึ่งช่วยให้ธุรกิจปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชี

  • ความสามารถในการปรับขนาด
    ไม่ว่าจะเป็นฐานลูกค้าขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ Stripe Billing ก็ได้รับการออกแบบมาให้ปรับขนาดได้ตามการเติบโตของธุรกิจ

หากต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Stripe เพิ่มประสิทธิภาพให้กับโมเดลรายรับตามแบบแผนล่วงหน้าสําหรับธุรกิจ โปรดไปที่นี่

เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Billing

Billing

เรียกเก็บและรักษารายรับได้มากขึ้น ใช้วิธีอัตโนมัติกับขั้นตอนการจัดการรายรับ ตลอดจนรับการชำระเงินได้ทั่วโลก

Stripe Docs เกี่ยวกับ Billing

สร้างและจัดการการชำระเงินตามรอบบิล ติดตามการใช้งาน และออกใบแจ้งหนี้