PayPal ได้รับความนิยมอย่างมากในอุตสาหกรรมการชำระเงิน และปรับตัวให้เข้ากับตลาดต่างๆ ด้วยฟีเจอร์ที่ให้ความสำคัญกับผู้ใช้และความเข้ากันได้กับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ PayPal พลิกโฉมวิธีการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนสำหรับบุคคลทั่วไปและธุรกิจ ลูกค้าจึงสามารถชำระเงินในสกุลเงินท้องถิ่นและธุรกิจต่างๆ สามารถรับการชำระเงิน จากฐานลูกค้าที่หลากหลายได้
แม้การดำเนินงานในหลายภูมิภาคจะมีความซับซ้อน แต่ PayPal ยังคงให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง จุดมุ่งเน้นที่อินเทอร์เฟซลูกค้า การรักษาความปลอดภัย และความไว้วางใจมีส่วนช่วยให้เกิดการใช้งานอย่างแพร่หลาย โดยบริษัทได้แสดงออกถึงความมุ่งมั่นต่อหลักการเหล่านี้ในนโยบายการสนับสนุนลูกค้าและการป้องกันการฉ้อโกง ซึ่งได้กลายเป็นเกณฑ์มาตรฐานสำหรับอุตสาหกรรม
PayPal มีอิทธิพลอย่างมากในทั่วโลก โดยเปิดโอกาสให้ธุรกิจและผู้ประกอบการขนาดเล็กได้เข้าถึงตลาดระหว่างประเทศ รวมถึงสร้างผลลัพธ์ทางการค้าและการไหลเวียนของเงินทั่วโลก ในบทความนี้เราจะอธิบายว่า PayPal ทำงานอย่างไรและธุรกิจของคุณสามารถใช้ PayPal เพื่อรับชำระเงินได้อย่างไร
บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง
- PayPal คืออะไร
- วิธีรับชำระเงินบน PayPal
- ข้อกำหนดสำหรับธุรกิจเพื่อเริ่มรับชำระเงินผ่าน PayPal
- ค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมของ PayPal
- สิทธิประโยชน์ทางธุรกิจจากการยอมรับ PayPal
- มาตรการรักษาความปลอดภัยของ PayPal
- วิธีการทำงานของ PayPal
- มีการใช้งาน PayPal ในพื้นที่ใดบ้าง
- ใครคือผู้ที่ใช้ PayPal
- ตัวเลือกอื่นๆ นอกเหนือจาก PayPal
PayPal คืออะไร
PayPal เป็นแพลตฟอร์มการชำระเงินดิจิทัลที่ช่วยให้ผู้ใช้ส่งและรับเงินออนไลน์ โดยรองรับธุรกรรมสำหรับการซื้อของออนไลน์ การโอนเงินระหว่างบุคคล และการชำระเงินสำหรับธุรกิจ
PayPal ทำหน้าที่เป็นกระเป๋าเงินดิจิทัล ซึ่งช่วยให้ลูกค้าซื้อสินค้าออนไลน์ได้โดยไม่ต้องแชร์รายละเอียดบัตรเครดิตกับธุรกิจหลายแห่ง ลูกค้าสามารถเชื่อมโยงบัญชีธนาคาร บัตรเครดิต หรือบัตรเดบิตของตนเข้ากับบัญชี PayPal ได้ จึงทำให้ส่งและรับเงินหรือชำระค่าสินค้าและบริการได้อย่างง่ายดาย
วิธีรับชำระเงินบน PayPal
เมื่อมีคนส่งเงินไปยังที่อยู่อีเมลหรือหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่เชื่อมโยงกับ PayPal เจ้าของบัญชีจะได้รับการแจ้งเตือนให้ทราบว่าเงินทุนพร้อมใช้งาน ในการเข้าถึงเงินนั้น พวกเขาจะต้องมีบัญชี PayPal และยืนยันที่อยู่อีเมลของตน
คุณสามารถฝังปุ่มชำระเงินผ่าน PayPal และลิงก์ต่างๆ ได้บนเว็บไซต์ธุรกิจของคุณหรือแชร์โดยตรงกับลูกค้า เมื่อธุรกิจของคุณได้รับการชำระเงิน เงินทุนจะปรากฏบนหน้าแรกของบัญชี PayPal ของธุรกิจ จากที่นั่น คุณสามารถโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารหรือเก็บไว้เป็นยอดคงเหลือใน PayPal เพื่อทำการซื้อหรือส่งเงินได้
การชำระเงินผ่าน PayPal ส่วนใหญ่จะเป็นการชำระเงินทันที และผู้ใช้จะได้รับเงินในบัญชีของตนไม่นานหลังจากที่ผู้ส่งทำธุรกรรมเสร็จสิ้น การชำระเงินระหว่างประเทศมักจะปรากฏในบัญชี PayPal ของผู้ใช้ภายในไม่กี่นาที แม้ว่าบางกรณีอาจใช้เวลาหลายชั่วโมงโดยขึ้นอยู่กับวิธีการชำระเงินและสกุลเงิน
ข้อกำหนดสำหรับธุรกิจเพื่อเริ่มรับชำระเงินผ่าน PayPal
1. ตั้งค่าบัญชีธุรกิจ PayPal
หากต้องการเริ่มใช้ PayPal ธุรกิจจะต้องสร้างบัญชีธุรกิจ PayPal ป้อนข้อมูลทางกฎหมาย เช่น ชื่อธุรกิจ ที่อยู่ธุรกิจ และรายละเอียดส่วนบุคคลของเจ้าของธุรกิจ PayPal จะยืนยันรายละเอียดเหล่านี้เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการป้องกันการฟอกเงิน (AML) และเพื่อให้แน่ใจว่าธุรกิจที่ได้รับการยืนยันจะใช้บริการของตนสำหรับธุรกรรมที่ดำเนินการอย่างถูกต้องเท่านั้น
2. เชื่อมโยงบัญชีธนาคาร
จากนั้น ธุรกิจจะต้องเชื่อมโยง บัญชีธนาคาร กับบัญชีธุรกิจ PayPal เพื่อความสะดวกในการโอนเงิน PayPal จะยืนยันบัญชีที่เชื่อมโยงโดยการฝากเงินจำนวนเล็กน้อยและขอให้ธุรกิจยืนยันจำนวนเงินเหล่านี้เพื่อยืนยันการเชื่อมโยง
3. ยอมรับข้อตกลงผู้ใช้
หากต้องการใช้ PayPal ธุรกิจต้องยอมรับข้อตกลงผู้ใช้และนโยบายการใช้งานที่ยอมรับได้ของ PayPal โดยเอกสารเหล่านี้ระบุกรณีการใช้งานที่ได้รับอนุญาตของบริการ PayPal และกิจกรรมต้องห้าม
4. ส่งข้อมูลภาษี
ธุรกิจที่ใช้ PayPal ทุกแห่งจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านภาษี โดยธุรกิจจะต้องส่งหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของตน (เช่น หมายเลขประจำตัวนายจ้างหรือ EIN ของสหรัฐอเมริกา) ให้กับ PayPal และปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านภาษีท้องถิ่น
5. ยืนยันอีเมลของคุณ
ธุรกิจต้องระบุอีเมลที่ใช้งานได้สำหรับการจัดการบัญชี PayPal และเพื่อให้ PayPal ใช้ในการสื่อสารกับธุรกิจ ซึ่งอีเมลนี้จะต้องได้รับการยืนยันก่อนจึงจะใช้งานได้ ซึ่งเป็นขั้นตอนการรักษาความปลอดภัยมาตรฐานสำหรับการชำระเงินดิจิทัล
6. เลือกสกุลเงินสำหรับธุรกรรมของคุณ
ธุรกิจจะต้องกำหนดสกุลเงินที่จะทำธุรกรรมและแจ้ง PayPal ก่อนประมวลผลการชำระเงินผ่านแพลตฟอร์ม
7. ผสานการชำระเงินผ่านมือถือ
ธุรกิจที่เลือกใช้ธุรกรรมบนอุปกรณ์เคลื่อนที่จะต้องเชื่อมต่อทำงานกับโซลูชันการชำระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ของ PayPal ด้วย เพื่อให้ระบบใช้งานร่วมกันได้และมอบประสบการณ์ที่สะดวกสำหรับลูกค้า
ค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมของ PayPal
สำหรับธุรกิจ
ค่าธรรมเนียมธุรกิจ: ธุรกิจที่ใช้ PayPal อาจต้องเสียค่าธรรมเนียมธุรกรรม ซึ่งรวมถึงค่าธรรมเนียมคงที่สำหรับธุรกรรมแต่ละรายการที่ประมวลผล บวกค่าธรรมเนียมที่คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดธุรกรรมนั้น
ค่าธรรมเนียมการดึงเงินคืนและการโต้แย้ง: เมื่อลูกค้ายื่นการโต้แย้งการชำระเงินหรือการดึงเงินคืน ธุรกิจต่างๆ ต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม PayPal เรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากธุรกิจเพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการประมวลผลการดึงเงินคืน โดยจำนวนนี้จะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ
ค่าธรรมเนียมการโอนเงินระหว่างประเทศและการแปลงสกุลเงิน: สำหรับธุรกรรมการค้าข้ามพรมแดน PayPal เรียกเก็บค่าธรรมเนียมเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดธุรกรรมเพื่อชดเชยกระบวนการแปลงสกุลเงิน นอกจากนี้ยังมีค่าธรรมเนียมคงที่ซึ่งผันผวนตามสกุลเงินที่เกี่ยวข้องและประเทศที่บัญชี PayPal ตั้งอยู่ด้วย
ค่าธรรมเนียมการถอนเงินและการรับเงิน: การรับเงินในบัญชี PayPal จากธุรกรรมส่วนบุคคลภายในประเทศมักจะไม่มีค่าใช้จ่าย แต่จะมีค่าธรรมเนียมสำหรับธุรกรรมทางการค้าและการโอนเงินระหว่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีค่าธรรมเนียมการถอนเงินหากธุรกิจเลือกที่จะโอนเงินจากบัญชี PayPal ไปยังบัญชีธนาคารทันทีแทนที่จะใช้ฟังก์ชันการโอนเงินมาตรฐาน
สำหรับลูกค้าและบุคคลทั่วไป
ค่าธรรมเนียมระหว่างประเทศ: สำหรับบุคคลทั่วไป การส่งเงินให้เพื่อนและครอบครัวภายในประเทศเดียวกันมักเป็นบริการฟรี หากได้รับเงินจากยอดคงเหลือ PayPal หรือบัญชีธนาคารที่เชื่อมโยงกับบัญชี PayPal การส่งเงินระหว่างประเทศจากยอดคงเหลือ PayPal หรือบัญชีธนาคารจะมีค่าธรรมเนียม
ค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงิน: เมื่อธุรกรรมต้องแปลงสกุลเงิน PayPal จะเพิ่มอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้ลูกค้าต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ค่าธรรมเนียมดังกล่าวจะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดธุรกรรมและแตกต่างกันไปตามประเภทของธุรกรรม
ค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตและบัตรเดบิต: การรับการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตจะมีค่าธรรมเนียมที่ PayPal เรียกเก็บเพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายจากเครือข่ายบัตร
ค่าธรรมเนียมการถอนเงินจากตู้ ATM: สำหรับลูกค้าที่ใช้บัตรเดบิต PayPal การถอนเงินสดจากตู้ ATM จะมีค่าธรรมเนียมคงที่ต่อธุรกรรม
สิทธิประโยชน์ทางธุรกิจจากการยอมรับ PayPal
การใช้ PayPal มีประโยชน์มากมายสำหรับธุรกิจของคุณ:
- เข้าถึงตลาดใหม่และลูกค้าที่เน้นเทคโนโลยี
- การทำธุรกรรมที่คล่องตัว
- ความเร็วและความสะดวกในการทำธุรกรรมที่มากขึ้นสำหรับลูกค้า
- ความพึงพอใจของลูกค้าเพิ่มขึ้น
- มาตรฐานความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกำหนดในระดับสูง
- ธุรกรรมข้ามพรมแดนที่ง่ายดาย
- คุ้มครองลูกค้าได้มากขึ้น
- ความไว้วางใจของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นและความน่าเชื่อถือของแบรนด์ที่สูงขึ้น
- ขยายการคุ้มครองให้กับธุรกิจ
- การปรับปรุงการสนับสนุนลูกค้าสำหรับทั้งธุรกิจและลูกค้า
มาตรการรักษาความปลอดภัยของ PayPal
PayPal ผสมผสานเทคโนโลยีใหม่ การปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับ และการให้ความรู้แก่ผู้ใช้เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำธุรกรรมที่ปลอดภัย ต่อไปนี้เป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยบางส่วนที่ PayPal นำมาใช้:
ใช้เทคนิคการเข้ารหัส: PayPal รักษาความปลอดภัยให้ข้อมูลลูกค้าและธุรกรรมที่อยู่ระหว่างการส่ง โดยใช้โปรโตคอลการเข้ารหัสที่เข้มงวด เช่น Secure Sockets Layer (SSL) และ Transport Layer Security (TLS)
ใช้การป้องกันการฉ้อโกงขั้นสูง: PayPal ตรวจสอบธุรกรรมแบบเรียลไทม์เพื่อหากิจกรรมที่น่าสงสัย ซึ่งขับเคลื่อนโดยอัลกอริทึมของแมชชีนเลิร์นนิงที่วิเคราะห์ชุดข้อมูลจำนวนมากเพื่อระบุรูปแบบที่บ่งชี้ถึงการฉ้อโกง
รักษาการตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2 ปัจจัย: PayPal รองรับการตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2 ปัจจัย (2FA) ซึ่งกำหนดให้ลูกค้าต้องส่งข้อมูลประจำตัว 2 รูปแบบก่อน จึงจะได้รับสิทธิ์เข้าถึงเพื่อยกระดับความปลอดภัยของบัญชี
ดำเนินการยืนยันด้วยข้อมูลไบโอเมตริก: แอปพลิเคชัน PayPal บนอุปกรณ์เคลื่อนที่สามารถยืนยันตัวตนของลูกค้าผ่านลายนิ้วมือและการจดจำใบหน้า แม้ว่ารหัสผ่านของพวกเขาจะถูกละเมิดความปลอดภัยก็ตาม
รักษามาตรฐานความปลอดภัยข้อมูล: PayPal ปฏิบัติตามข้อกำหนดของ PCI DSS เพื่อปกป้องข้อมูลของเจ้าของบัตร โดยใช้การควบคุมที่เข้มงวดและดำเนินการตรวจสอบเป็นประจำเพื่อให้มั่นใจถึงการปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างต่อเนื่อง
ปฏิบัติตามข้อบังคับด้านความปลอดภัย: PayPal ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับท้องถิ่นที่กำกับดูแลความปลอดภัยด้านการชำระเงิน เช่น แพลตฟอร์มได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบการคุ้มครองข้อมูลทั่วไป (GDPR) ในยุโรป
วิธีการทำงานของ PayPal
ผู้ใช้ทั่วโลกหลากหลายรายเลือกใช้ PayPal ทั้งลูกค้าประเภทบุคคลทั่วไป ธุรกิจ องค์กรขนาดใหญ่ และองค์กรไม่แสวงผลกำไร วิธีทำงานของการชำระเงิน PayPal มีดังนี้
การสร้างบัญชีและการยืนยันผู้ใช้
ผู้ใช้เริ่มต้นด้วยการสร้างบัญชี PayPal และเชื่อมโยงวิธีการชำระเงิน เช่น บัญชีธนาคารหรือบัตรเครดิต PayPal จะยืนยันตัวตนของผู้ใช้ก่อนประมวลผลการชำระเงิน ซึ่งเป็นข้อกำหนดด้านกฎระเบียบเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ผู้ใช้สามารถรับเงินได้ทั้งจากบัญชี PayPal ส่วนบุคคลหรือธุรกิจ ตราบใดที่ที่อยู่อีเมลหรือหมายเลขโทรศัพท์มือถือได้รับการยืนยันแล้วการเริ่มต้นธุรกรรม
ผู้ซื้อเริ่มต้นการชำระเงินโดยเลือก PayPal เป็นวิธีการชำระเงินระหว่างดำเนินการชำระเงิน ทั้งในเว็บไซต์ของธุรกิจหรือผ่านการโอนเงินระหว่างบุคคล ผู้ซื้อจะป้อนข้อมูลประจำตัว PayPal จากนั้นแพลตฟอร์มจะแจ้งให้ผู้ซื้อเลือกวิธีการชำระเงินที่ต้องการ เช่น บัญชีธนาคาร บัตรเครดิต หรือยอดคงเหลือ PayPalการส่งเงินที่ชำระ
หลังจากยืนยันแหล่งที่มาของเงินทุนแล้ว PayPal จะส่งคำขอเงินจากต้นทางดังกล่าว หากวิธีการชำระเงินเป็นยอดคงเหลือ PayPal ธุรกรรมจะเสร็จสมบูรณ์เกือบจะในทันที สำหรับการโอนเงินผ่านธนาคาร หรือการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต PayPal จะติดต่อสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้องผ่านช่องทางที่ปลอดภัยความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
PayPal ใช้มาตรฐานการเข้ารหัสขั้นสูงเพื่อรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลตลอดกระบวนการทำธุรกรรม PayPal จะไม่เปิดเผยข้อมูลทางการเงินทั้งหมดกับผู้ขาย ซึ่งจะช่วยลดโอกาสในการละเมิดข้อมูลที่ละเอียดอ่อนโครงสร้างค่าธรรมเนียม
PayPal เรียกเก็บค่าธรรมเนียมลูกค้าจากธุรกรรมบางรายการ รวมถึงการแปลงสกุลเงินและการชำระเงินข้ามเขตแดนด้วย นอกจากนี้ยังเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากธุรกิจซึ่งคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดธุรกรรมบวกยอดเงินคงที่การจัดการความเสี่ยงและการป้องกันการฉ้อโกง
PayPal ตรวจสอบธุรกรรมเพื่อหากิจกรรมที่น่าสงสัยโดยใช้โมเดลความเสี่ยงและอัลกอริทึมที่เป็นกรรมสิทธิ์ มาตรการป้องกันการฉ้อโกงของแพลตฟอร์มประกอบด้วยการตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2 ปัจจัย การยืนยันอีเมลสำหรับธุรกรรม และการวิเคราะห์การฉ้อโกงแบบเรียลไทม์การแก้ไขการโต้แย้งการชำระเงินและการคุ้มครองผู้ซื้อ
PayPal ให้บริการแก้ไขการโต้แย้งการชำระเงิน ซึ่งช่วยให้ผู้ซื้อและผู้ขายยื่นคำร้องได้หากมีปัญหากับธุรกรรม นโยบายความคุ้มครองผู้ซื้อของ PayPal เสนอการคืนเงินสำหรับการซื้อสินค้าที่จัดส่งไม่ถึงผู้รับหรือไม่เป็นไปตามที่อธิบายไว้ เพื่อเสริมสร้างความไว้วางใจในแพลตฟอร์มการชำระเงินการสรุปยอดชำระและการชำระเงิน
หลังจากธุรกรรมได้รับอนุมัติและประมวลผลแล้ว PayPal จะดำเนินการชำระเงินและหักเงินจากบัญชีของผู้ซื้อ แล้วโอนเงินจำนวนดังกล่าวไปยังยอดคงเหลือ PayPal ของผู้ขาย จากนั้นผู้ขายจะโอนยอดคงเหลือ PayPal ไปยังบัญชีธนาคารของตัวเองหรือเก็บเงินไว้ใน PayPal เพื่อใช้สำหรับทำธุรกรรมในอนาคตได้การชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่
โซลูชันการชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ เช่น PayPal One Touch จะช่วยให้ลูกค้าชำระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ของตนได้โดยไม่ต้องป้อนรายละเอียดการเข้าสู่ระบบสำหรับธุรกรรมแต่ละรายการ บริการนี้ใช้การตรวจสอบสิทธิ์อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยที่มากยิ่งขึ้น
มีการใช้งาน PayPal ในพื้นที่ใดบ้าง
ฐานลูกค้าของ PayPal ครอบคลุมหลายทวีป ณ ปี 2024 PayPal มีบัญชีผู้บริโภคและผู้ค้า 434 ล้านบัญชีที่ใช้งานอยู่ ประมวลผลปริมาณการชำระเงินรวม 1.68 ล้านล้านดอลลาร์จากธุรกรรม 26 พันล้านรายการ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการใช้งานในวงกว้างและความไว้วางใจที่ลูกค้าและธุรกิจมีต่อบริษัท
อเมริกาเหนือ
ส่วนแบ่งของรายรับ PayPal ส่วนใหญ่มาจากลูกค้าในสหรัฐอเมริกา โดย 57% ของผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ ใช้ PayPal จากการสำรวจในปี 2022 PayPal ฝังรากลึกอยู่ในอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซในสหรัฐฯ โดยมอบวิธีที่น่าเชื่อถือและคุ้นเคยสำหรับการทำธุรกรรมดิจิทัล ความสะดวกในการชำระเงินในคลิกเดียวของ PayPal ถือเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับวัฒนธรรมการเลือกซื้อสินค้าที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว และนโยบายการคุ้มครองผู้ซื้อก็เป็นสิ่งที่ดึงดูดลูกค้าที่กังวลกับการฉ้อโกงทางออนไลน์ยุโรป
ความนิยมของแพลตฟอร์มในยุโรปจะแตกต่างกันไปตามภูมิภาค ประเทศในยุโรปตะวันตกมีการใช้งาน PayPal ในระดับสูง โดยมีการใช้ PayPal สำหรับการชำระเงินออนไลน์ในเยอรมนีและอิตาลี บ่อยกว่าในสหรัฐอเมริกาในปี 2023 ประเทศในยุโรปตะวันออกต่างก็หันมาใช้ PayPal มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับการเติบโตของอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคนี้ การปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับด้านการเงินของสหภาพยุโรปทำให้ PayPal เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยสำหรับธุรกรรมข้ามพรมแดนในยุโรปเอเชียแปซิฟิก
การใช้งาน PayPal ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ ในออสเตรเลียและญี่ปุ่น PayPal เป็นที่นิยมของทั้งธุรกรรมภายในประเทศและธุรกรรมต่างประเทศ ในอินเดีย แพลตฟอร์มนี้ใช้สำหรับการชำระเงินข้ามพรมแดนเป็นหลัก โดยจับกลุ่มตลาดหลักของผู้ทำงานอิสระและธุรกิจที่มีลูกค้าอยู่ทั่วโลกลาตินอเมริกา
PayPal ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในมาร์เก็ตเพลสออนไลน์ที่กำลังเติบโตของลาตินอเมริกา ในปี 2023 การใช้งาน PayPal สำหรับการชำระเงินที่จุดขายในเม็กซิโกเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดที่ 63% PayPal ยังทำงานร่วมกับสถาบันการเงินท้องถิ่นเพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการชำระเงินของลูกค้าลาตินอเมริกามากขึ้นตะวันออกกลาง
ในตะวันออกกลางมีอัตราการใช้งาน PayPal เพิ่มขึ้นในประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งหลักๆ มาจากการซื้อออนไลน์ระหว่างประเทศ ลูกค้าและธุรกิจในภูมิภาคนี้พบว่าฟังก์ชันการรองรับหลายสกุลเงินและมาตรการรักษาความปลอดภัยต่างๆ ของ PayPal นั้นเอื้อให้ทำการค้าระหว่างประเทศได้อย่างปลอดภัยและง่ายดาย
ใครคือผู้ที่ใช้ PayPal
PayPal ให้บริการแก่อุตสาหกรรมและลูกค้าหลากหลายกลุ่มทั่วโลก ความรอบด้านของวิธีการชำระเงินนี้ตอบสนองความต้องการของทั้งธุรกิจขนาดเล็ก บริษัทขนาดใหญ่ และบุคคลทั่วไป
ธุรกิจอีคอมเมิร์ซและผู้ค้าปลีกออนไลน์: ตั้งแต่ สตาร์ทอัพ เกิดใหม่ไปจนถึงมาร์เก็ตเพลสที่มีชื่อเสียง ธุรกิจออนไลน์เหล่านั้นต่างก็ใช้การชำระเงินผ่าน PayPal เนื่องจากมีชื่อเสียงที่ดีและใช้งานง่าย
ผู้ให้บริการและฟรีแลนซ์: ด้วยการเติบโตของระบบเศรษฐกิจแบบตลาดแรงงานเสรี ฟรีแลนซ์และผู้ให้บริการมากกว่า 100 ล้านคน ได้กลายเป็นผู้ใช้ประจำของ PayPal ซึ่ง PayPal มีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายสำหรับ การออกใบแจ้งหนี้ และการติดตามการชำระเงิน ซึ่งสำคัญสำหรับบุคคลที่จัดการด้านการเงินสำหรับธุรกิจของตน
องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร: ปุ่มบริจาคและส่วนลดสำหรับองค์กรไม่แสวงผลกำไรทำให้ PayPal เป็นโซลูชันการชำระเงินที่นิยมในองค์กรการกุศลและมูลนิธิต่างๆ นอกจากนี้ แพลตฟอร์มยังมีฟีเจอร์สำหรับการสร้างแคมเปญการบริจาค และการรายงานที่เรียบง่ายสำหรับการติดตามและปฏิบัติตามข้อกำหนดอีกด้วย
ครีเอเตอร์เนื้อหาดิจิทัล: ครีเอเตอร์เนื้อหาดิจิทัลที่ดำเนินงานบนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น YouTube, Twitch และ Patreon มักจะใช้ PayPal เพื่อรับการสนับสนุนทางการเงินจากชุมชนของตนเอง ความสามารถในการจัดการการชำระเงินจำนวนน้อยๆ ทำให้แพลตฟอร์มนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรับการสนับสนุนจากกลุ่มเป้าหมายที่กระจายอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ
ธุรกิจแบบสมัครใช้บริการ: บริษัทที่ให้บริการสมัครสมาชิก เช่น การสตรีมสื่อ ซอฟต์แวร์ หรือบริการส่งสินค้ารายเดือน มักจะผสานการทำงานกับ PayPal เพื่อรับการชำระเงินตามแบบแผนล่วงหน้า ลูกค้าสามารถตั้งค่าการชำระเงินอัตโนมัติเพื่อให้จัดการการชำระเงินตามรอบบิลได้ง่าย
ผู้ซื้อออนไลน์: PayPal ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในหมู่ลูกค้าที่ซื้อสินค้าออนไลน์ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าทำธุรกรรมที่ปลอดภัยและไม่เปิดเผยรายละเอียดของบัตรกับธุรกิจ นอกจากนี้ โปรแกรมความคุ้มครองผู้ซื้อก็ทำหน้าที่เป็นมาตรการความปลอดภัยสำหรับการซื้อสินค้าและบริการบนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซหลายแห่ง
พนักงานจากทั่วโลก: เนื่องจากการทำงานจากทางไกลมีความนิยมสูง บริษัทต่างประเทศก็ใช้ PayPal ชำระเงินให้กับพนักงานที่ทำงานจากทางไกลมากขึ้น ความสามารถในการจัดการการชำระเงินข้ามพรมแดนและการแปลงสกุลเงินถือว่ามีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับพนักงานในกลุ่มนี้
ธุรกิจขนาดเล็ก: ธุรกิจขนาดเล็ก รวมถึงผู้ขายท้องถิ่นและช่างฝีมือที่ขายสินค้าผ่านมาร์เก็ตเพลสออนไลน์มักจะรับการชำระเงินผ่าน PayPal โดยใช้ โปรแกรมความคุ้มครองผู้ขาย ของ PayPal
ครอบครัวและเพื่อนๆ : บุคคลทั่วไปใช้บริการโอนเงินส่วนบุคคลของ PayPal กันเป็นจำนวนมากในการส่งเงินให้ครอบครัวและเพื่อนๆ ความสะดวกในการใช้งาน PayPal ไม่ว่าจะเป็นการแยกจ่ายบิล การแบ่งปันของขวัญ หรือการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่คนที่ตนรัก ทำให้ PayPal เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการโอนเงินส่วนบุคคล

ตัวเลือกอื่นๆ นอกเหนือจาก PayPal
แม้ว่า PayPal จะเป็นวิธีการชำระเงินยอดนิยม แต่คู่แข่งหลายรายต่างก็ให้บริการที่ใกล้เคียงกัน ธุรกิจที่กำลังเลือกว่าจะยอมรับวิธีการชำระเงินใด ควรพิจารณาจากปัจจัยด้านความสะดวก ค่าธรรมเนียมธุรกรรม และความสามารถในการรองรับการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ
Venmo: Venmo เป็นของ PayPal และได้รับความนิยมในฐานะกระเป๋าเงินดิจิทัลที่มีฟีเจอร์การชำระเงินระหว่างบุคคล ธุรกิจต่างก็หันมาใช้ Venmo มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อรองรับการทำธุรกรรมของลูกค้า โดยเฉพาะประชากรในยุคมิลเลนเนียล
Google Pay: Google Pay รวมการชำระเงินผ่านเว็บและภายในแอปสำหรับผู้ใช้ Android Google Pay เชื่อมต่อการทำงานกับบริการอื่นๆ ของ Google ทำให้กระบวนการชำระเงินดำเนินไปอย่างราบรื่นภายในระบบของ Google
Apple Pay: Apple Pay ออกแบบมาสำหรับผู้ใช้ Apple ซึ่งช่วยให้ทำธุรกรรมผ่าน iPhone, iPad, Mac และ Apple Watch ได้ แพลตฟอร์มนี้เน้นความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว รวมถึงใช้การตรวจสอบสิทธิ์ด้วยไบโอเมตริกเพื่ออนุมัติธุรกรรม
Amazon Pay: Amazon Pay ใช้ประโยชน์จากฐานลูกค้าขนาดใหญ่ของ Amazon จึงช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้รายละเอียดบัญชี Amazon ของตนในการซื้อสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์ของบริษัทภายนอกได้ โซลูชันนี้ทำให้ กระบวนการชำระเงิน ง่ายขึ้นและเพิ่มอัตราการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชำระเงินได้
Wise: Wise (เดิมชื่อ TransferWise) เน้นการชำระเงินระหว่างประเทศ โดยเสนอบัญชีการชำระเงินแบบไร้พรมแดนเพื่อให้สามารถส่งเงินระหว่างประเทศได้อย่างง่ายดายและคุ้มค่า Wise มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับธุรกิจที่จัดการสกุลเงินต่างประเทศ
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Stripe Payments สามารถขับเคลื่อนการชำระเงินออนไลน์และการชำระเงินที่จุดขายของคุณ หรือเริ่มใช้งานวันนี้
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ