ในแคนาดา การหักบัญชีแบบอนุมัติล่วงหน้า (PAD) เป็นวิธีการจัดการที่คล่องตัวสำหรับการชำระเงินตามแบบแผนล่วงหน้า โดยธุรกิจจะหักเงินจากบัญชีธนาคารของลูกค้าโดยอัตโนมัติตามข้อตกลงที่กำหนดไว้ล่วงหน้า PAD มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับธุรกรรมตามแบบแผนล่วงหน้า เช่น บริการสมัครสมาชิกหรือค่าสมาชิก

PAD ทำให้กระบวนการชำระเงินง่ายขึ้นโดยลดงานเรียกเก็บเงินด้วยตนเองสำหรับธุรกิจ และลดจำนวนการชำระเงินล่าช้าหรือพลาด สำหรับลูกค้า PAD เป็นวิธีการชำระเงินที่สะดวกและปราศจากความเครียด ซึ่งช่วยลดความยุ่งยากในการติดตามการชำระเงินตามแบบแผนล่วงหน้า

ความพึงพอใจของผู้บริโภคที่มีต่อวิธีการชำระเงินดิจิทัลกำลังเติบโตในแคนาดา ในปี 2023 ยอดรวมมูลค่าของธุรกรรมการชำระเงินค้าปลีกในแคนาดาสูงถึง 11.9 ล้านล้านดอลลาร์แคนาดา และ 13% ของชาวแคนาดาไร้เงินสดโดยสิ้นเชิง PAD ในแคนาดาเสนอตัวเลือกการชำระเงินที่มีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้แก่ธุรกิจ ซึ่งก้าวทันกระแสการมุ่งไปสู่ดิจิทัลและโซลูชันการชำระเงินอัตโนมัติ

ธุรกิจที่ต้องการเพิ่ม PAD เป็นตัวเลือกการชำระเงินจะต้องเข้าใจฟีเจอร์หลัก ลูกค้าหลัก และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องที่กำหนดโดย Payments Canada และ Canadian Payments Act ด้านล่างนี้ เราจะอธิบายสิ่งที่ธุรกิจควรรู้เกี่ยวกับการยอมรับวิธีการชำระเงินนี้

เนื้อหาหลักในบทความ

• PAD ทำงานอย่างไรในแคนาดา
  
• มีการใช้ PAD ในแคนาดาเพื่อจุดประสงค์ใด
  
• ประโยชน์ของการยอมรับ PAD ในแคนาดา
  
• มาตรการรักษาความปลอดภัยของ PAD ในแคนาดา
  
• ข้อกำหนดสำหรับธุรกิจที่จะยอมรับ PAD ในแคนาดา
  
• ตัวเลือกอื่นๆ นอกเหนือจาก PAD ในแคนาดา
  
• Stripe Payments ช่วยอะไรได้บ้าง
  

PAD ทำงานอย่างไรในแคนาดา

การหักบัญชีแบบอนุมัติล่วงหน้าในแคนาดาจะถอนเงินจากบัญชีธนาคารของลูกค้าโดยอัตโนมัติเพื่อชำระให้กับธุรกิจหรือองค์กร วิธีการชำระเงินนี้สะดวกสำหรับการชำระเงินตามแบบแผนล่วงหน้าต่อเดือน แต่ก็ใช้ได้กับการทำธุรกรรมแบบครั้งเดียวหรือที่ไม่บ่อยนัก PAD ช่วยให้ลูกค้ามีวิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้มั่นใจว่าจะชำระบิลได้ตรงเวลา ในขณะที่ฝั่งธุรกิจเองก็จะได้รับประโยชน์จากกระแสเงินสดที่มั่นคงและคาดการณ์ได้ ต่อไปนี้คือวิธีการทำงานของ PAD ในแคนาดา

ข้อตกลงของ PAD

หากต้องการตั้งค่า PAD ลูกค้าต้องกรอกแบบฟอร์มข้อตกลง PAD กับธุรกิจ (ผู้เรียกเก็บเงิน) ซึ่งข้อตกลงนี้อนุญาตให้ผู้เรียกเก็บเงินถอนเงินจากบัญชีธนาคารของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นตามช่วงเวลาปกติหรือแบบครั้งเดียว และรวมถึงข้อกำหนดและเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เช่น จำนวนเงินที่จะถอน (ซึ่งคงที่หรือผันแปรได้) ความถี่ในการถอนเงิน และวิธีการยกเลิก PAD

ข้อตกลงจะประกอบไปด้วยรายละเอียดบัญชีธนาคารของลูกค้าและวัตถุประสงค์ของการหักบัญชี ธุรกิจต้องได้รับความยินยอมอย่างชัดแจ้งจากลูกค้าหลังจากที่ลูกค้าได้รับข้อมูลครบถ้วนเพื่อตั้งค่า PAD และความยินยอมนี้ควรจัดทำเป็นเอกสารและเก็บรักษาไว้เป็นหลักฐานการอนุญาต

ข้อกำหนดการแจ้งเตือน

หากเป็นจำนวนเงินที่ไม่แน่นอน (เช่น บิลค่าสาธารณูปโภค ซึ่งจำนวนเงินเปลี่ยนแปลงทุกเดือน) ผู้เรียกเก็บเงินจะต้องแจ้งให้ลูกค้าทราบอย่างน้อย 10 วันก่อนถอนเงินเพื่อแจ้งจำนวนเงินและวันที่หักบัญชี ไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบสำหรับยอดเงินคงที่

การประมวลผลการชำระเงินผ่าน PAD

ธุรกิจและสถาบันการเงินหรือผู้ประมวลผลบุคคลที่สามจะร่วมกันกำหนดและจัดการธุรกรรม PAD โดยผู้ประมวลผลบุคคลที่สามจะจัดการการโอนเงินจากบัญชีของลูกค้าไปยังบัญชีธุรกิจในวันที่ตกลงกันไว้

ในกรณีส่วนใหญ่ จะใช้เวลา 3-5 วันทำการในการประมวลผลธุรกรรม PAD และปรากฏในรายการเดินบัญชีของลูกค้า ธุรกิจควรเก็บบันทึกข้อตกลงและธุรกรรม PAD ทั้งหมดอย่างถูกต้อง และมีระบบติดตามธุรกรรมแต่ละรายการ รวมถึงวันที่ จำนวนเงิน และรายละเอียดลูกค้า

การยกเลิก PAD

ลูกค้าสามารถยกเลิกข้อตกลง PAD ได้ทุกเมื่อโดยทำตามขั้นตอนการยกเลิกที่ระบุไว้ในข้อตกลง ซึ่งโดยปกติจะต้องแจ้งผู้เรียกเก็บเงินเป็นลายลักษณ์อักษร การยกเลิก PAD นั้นไม่ได้เป็นการยกเลิกข้อตกลงการให้บริการหรือสัญญาหลักใดๆ ที่ลูกค้าอาจมีกับผู้เรียกเก็บเงิน และลูกค้าอาจต้องจัดการชำระเงินด้วยวิธีอื่น

ธุรกิจควรเตรียมพร้อมที่จะดำเนินการยกเลิกหรือแก้ไขข้อตกลง PAD ที่ลูกค้าร้องขอ และควรแจ้งธนาคารหรือผู้ประมวลผลการชำระเงินทันทีเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในข้อตกลง PAD

การโต้แย้งการชำระเงินผ่าน PAD

หากพบปัญหาเกี่ยวกับ PAD เช่น หากถอนเงินในจำนวนที่ไม่ถูกต้องหรือมีการถอนเงินหลังจากยกเลิก ลูกค้าสามารถติดต่อธนาคารของตนเพื่อโต้แย้งธุรกรรมนั้นได้ โดยทางธนาคารมีกรอบเวลาที่กำหนดไว้ให้ลูกค้าโต้แย้ง PAD ได้ ซึ่งโดยปกติคือ 90 วันนับจากวันที่ทำธุรกรรม ธุรกิจควรมีขั้นตอนที่ชัดเจนสำหรับจัดการการโต้แย้งการชำระเงินหรือการหักบัญชีที่ไม่ได้รับอนุญาต

การกระทบยอดและการทำบัญชี

ธุรกิจควรรวมธุรกรรม PAD เข้ากับระบบบัญชีของตนเพื่อการรายงานทางการเงินที่ถูกต้องและการกระทบยอด ตลอดจนตรวจสอบธุรกรรม PAD อย่างสม่ำเสมอกับข้อตกลงของลูกค้าเพื่อให้มั่นใจในความถูกต้อง

มีการใช้ PAD ในแคนาดาเพื่อจุดประสงค์ใด

ในแคนาดา มีการใช้ PAD ในหลายอุตสาหกรรมเพื่อความสะดวกและความยืดหยุ่น PAD เป็นที่นิยมสำหรับการชำระบิลปกติและธุรกรรมอัตโนมัติ และมักใช้สำหรับการเรียกเก็บเงินตามแบบแผนล่วงหน้า เช่น ค่าเช่า ค่าเล่าเรียน ค่าสมาชิก การชำระเงินตามรอบบิล หรือจำนวนเงินที่ไม่แน่นอน เช่น บิลค่าสาธารณูปโภคตามการใช้งาน และยังมีประสิทธิภาพสำหรับการชำระเงินตามใบแจ้งหนี้และสำหรับการขายแบบครั้งเดียว โดยเฉพาะสินค้าราคาแพง

ธุรกิจที่ใช้ PAD รวมถึงธุรกิจในภาคส่วนต่างๆ เช่น องค์กรไม่แสวงผลกำไร อีคอมเมิร์ซ ค้าปลีก เทคโนโลยี บริการเฉพาะทาง อาหารและเครื่องดื่ม โรงยิมและฟิตเนส และการดูแลสุขภาพ อุตสาหกรรมที่หลากหลายนี้สะท้อนให้เห็นว่า PAD มีประโยชน์เพียงใดในโมเดลธุรกิจและขนาดการดำเนินงานที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจขนาดเล็กจะได้รับประโยชน์จากความปลอดภัยที่ PAD มอบให้: Payments Canada และเครือข่ายธนาคารของแคนาดาจะกำกับดูแลธุรกรรมเหล่านี้และป้องกันการฉ้อโกง

ลูกค้าในแคนาดาชื่นชมความสะดวกและความน่าเชื่อถือของ PAD โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับค่าใช้จ่ายปกติ เช่น การชำระค่าจำนอง เบี้ยประกัน ค่าสาธารณูปโภค เงินสมทบแผนการออมเพื่อการเกษียณอายุที่ลงทะเบียน (RRSP) และค่าธรรมเนียมสมาชิก PAD ช่วยให้ลูกค้าชำระเงินได้ทันท่วงทีโดยไม่จำเป็นต้องจำวันครบกำหนดหรือผ่านขั้นตอนการชำระเงินด้วยตนเองในแต่ละครั้ง และธุรกิจต่างก็ชื่นชมรายรับตามแบบแผนล่วงหน้าที่เชื่อถือได้และทันเวลาซึ่งมาจากการโอนเงินอัตโนมัติของ PAD

PAD มักจะใช้บ่อยที่สุดสำหรับการชำระเงินต่อไปนี้

• บริการดิจิทัลแบบสมัครสมาชิก
  แพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง นิตยสารออนไลน์ และบริษัทผู้ให้ให้บริการระบบซอฟต์แวร์ (SaaS) ใช้ PAD เพื่อจัดการกับค่าธรรมเนียมบัญชีตามแบบแผนล่วงหน้า

• การเป็นสมาชิกรายเดือน
  ยิม สตูดิโอโยคะ และศูนย์ดูแลสุขภาพจัดการค่าธรรมเนียมการเป็นสมาชิกรายเดือนด้วย PAD

• โปรแกรมดูแลเด็ก
  ศูนย์ดูแลเด็กและหลักสูตรหลังเลิกเรียนหลายแห่งใช้ PAD เพื่อเก็บค่าธรรมเนียมและค่าเทอม

• ค่าธรรมเนียมที่พักอาศัย
  สมาคมและฝ่ายบริหารคอนโดใช้ PAD ในการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมรายเดือนหรือรายปีสำหรับบริการบำรุงรักษาและบริการชุมชน ผู้คนจำนวนมากชำระเงินจำนองและค่าเช่าผ่าน PAD

• การชำระเงินค่ารถยนต์
  ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์และสถาบันการเงินใช้ PAD สำหรับจัดการการชำระเงินตามสัญญาเช่าหรือการชำระคืนเงินกู้รายเดือน

• บริการแบบธุรกิจถึงธุรกิจ (B2B)
  บริษัทที่ให้บริการ B2B เช่น ผู้ขายในซัพพลายเชนหรือที่ปรึกษามืออาชีพ ใช้ PAD เพื่อปรับปรุงกระบวนการของเจ้าหนี้การค้าให้คล่องตัวขึ้น PAD ช่วยให้กระบวนการ Invoicing และการเรียกเก็บเงินจากธุรกิจอื่นเป็นไปโดยอัตโนมัติ

• บริการโทรคมนาคมและอินเทอร์เน็ต
  ผู้ให้บริการโทรคมนาคมและอินเทอร์เน็ตใช้ PAD สำหรับการเรียกเก็บเงินค่าบริการรายเดือน

• บริการของรัฐบาล
  รัฐบาลท้องถิ่นและบริการเทศบาล เช่น น้ำประปาหรือการจัดการของเสีย มักจะใช้ PAD สำหรับการเรียกเก็บเงิน

ประโยชน์ของการยอมรับ PAD ในแคนาดา

ธุรกิจที่ยอมรับ PAD เป็นวิธีการชำระเงินจะได้รับประโยชน์ดังต่อไปนี้

• ความสามารถในการคาดการณ์กระแสเงินสดที่ดียิ่งขึ้น: ธุรกิจขนาดเล็กมักประสบปัญหาในการรักษากระแสเงินสดให้สม่ำเสมอ PAD ช่วยให้มั่นใจถึงการชำระเงินที่ตรงเวลาและสม่ำเสมอ รวมถึงแหล่งรายได้ที่เชื่อถือได้

• ธุรกรรมที่คุ้มค่า: โดยทั่วไป PAD จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมประมาณ 1% ของมูลค่าธุรกรรม ขึ้นอยู่กับผู้ประมวลผลการชำระเงิน ในทางตรงกันข้าม ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลบัตรเครดิตโดยทั่วไปจะอยู่ที่ 2% ถึง 4% ของมูลค่าธุรกรรม ทำให้ PAD เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับธุรกิจจำนวนมาก ค่าธรรมเนียมต่อธุรกรรมที่ต่ำนี้หมายความว่า PAD เป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับธุรกิจที่จัดการธุรกรรมที่มีมูลค่าน้อยในปริมาณมาก

• กระบวนการด้านการดูแลระบบที่คล่องตัวขึ้น: ระบบอัตโนมัติสำหรับการชำระเงินของ PAD จะลดเวลาและทรัพยากรที่ใช้ในการเรียกเก็บเงินด้วยตนเองและการติดตามผลได้อย่างมาก

• ความไว้วางใจของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น: PAD เป็นวิธีการชำระเงินที่ได้รับการยอมรับและน่าเชื่อถืออย่างสูงในแคนาดา ธุรกิจที่ยอมรับ PAD ก็สามารถใช้ความไว้วางใจของลูกค้านี้เพื่อช่วยสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าโดยใช้โมเดลการเรียกเก็บเงินตามแบบแผนล่วงหน้า

• ความยืดหยุ่นในการชำระเงิน: PAD ใช้เพื่อจัดการจำนวนเงินที่ชำระคงที่และผันแปร นี่เป็นข้อได้เปรียบสำหรับธุรกิจต่างๆ เช่น สาธารณูปโภคหรือโทรคมนาคม ซึ่งการเรียกเก็บเงินของลูกค้าจะแตกต่างกันไปตามการใช้งานรายเดือน

• ลดความเสี่ยงในการดึงเงินคืน: กระบวนการอนุมัติโดยตรงที่มีอยู่ในระบบ PAD นำไปสู่การกลับรายการหรือการดึงเงินคืนที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต

• การผสานการทำงานกับระบบบัญชีของแคนาดา: ธุรกรรม PAD ผสานการทำงานกับซอฟต์แวร์บัญชีเฉพาะของแคนาดาได้สะดวก ทำให้การกระทบยอดและการรายงานทางการเงินง่ายขึ้น

มาตรการรักษาความปลอดภัยของ PAD ในแคนาดา

PAD ในแคนาดามีมาตรการรักษาความปลอดภัยหลายอย่างที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องธุรกิจและลูกค้า มาตรการเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของกรอบข้อบังคับที่ช่วยให้มั่นใจว่าธุรกรรมจะปลอดภัยและเชื่อถือได้ มาตรการด้านความปลอดภัยที่สำคัญมีดังนี้:

• การเข้ารหัสและการส่งที่ปลอดภัย
  สถาบันการเงินในแคนาดาเข้ารหัสข้อมูล PAD ในลักษณะเดียวกับที่เข้ารหัสข้อมูลการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ข้อมูลทางการเงินที่ละเอียดอ่อนจะแปลงเป็นรหัสที่ปลอดภัยระหว่างการส่ง เพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต PAD จะประมวลผลผ่านระบบการชำระบัญชีอัตโนมัติ (ACSS) ของแคนาดาและปฏิบัติตามแนวทางความปลอดภัยที่เข้มงวด

• การปฏิบัติตามกฎ H1
  ตามกฎ H1 จำเป็นต้องมีการอนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษรและมีการลงนามจากผู้ชำระเงินก่อนเริ่ม PAD เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ชำระเงินได้ตกลงอย่างชัดเจนตามเงื่อนไขของการหักบัญชี การเปลี่ยนแปลงล่าสุดในกฎ H1 ได้ลบความแตกต่างระหว่างข้อตกลง PAD อิเล็กทรอนิกส์และกระดาษ ซึ่งสร้างกระบวนการที่เป็นมาตรฐานเดียวกันสำหรับข้อตกลง PAD ทั้งหมด

• การยืนยันผู้ชำระเงิน
  ผู้รับเงินต้องมีขั้นตอนที่ "สมเหตุสมผลในเชิงพาณิชย์" เพื่อยืนยันตัวตนของผู้ชำระเงิน คำจำกัดความของ "สมเหตุสมผลในเชิงพาณิชย์" ได้รับการแก้ไขเพื่อให้ผู้รับเงินใช้วิธีการตรวจสอบที่ปรับให้เหมาะกับธุรกิจและการจัดการ PAD ของตน

• การยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษร
  ผู้รับเงินต้องยืนยันรายละเอียด PAD เป็นลายลักษณ์อักษรแก่ผู้ชำระเงินล่วงหน้าอย่างน้อย 10 วันก่อนจะดำเนินการหักบัญชีครั้งแรกเพื่อให้ธุรกรรมดำเนินการได้ การยืนยันนี้อาจเป็นข้อตกลง PAD เองหรือข้อมูลสรุปของข้อกำหนดหลักก็ได้ มาตรการนี้ช่วยให้ผู้ชำระเงินทราบข้อกำหนดของข้อตกลงได้เป็นอย่างดีก่อนที่จะหักเงิน

• มาตรการด้านความโปร่งใส
  หากผู้รับเงินเรียกเก็บเงินในนามของนิติบุคคลอื่น ข้อตกลง PAD จะต้องมีคำชี้แจงที่อธิบายข้อตกลงระหว่างผู้รับเงินกับนิติบุคคลที่จัดหาสินค้าหรือบริการให้แก่ผู้ชำระเงิน ซึ่งเป็นการสร้างความโปร่งใสในธุรกรรมที่ผู้รับเงินและผู้ให้บริการสินค้าหรือบริการไม่ใช่นิติบุคคลเดียวกัน

• การสิ้นสุดอัตโนมัติ
  ข้อตกลง PAD แบบครั้งเดียวจะสิ้นสุดลงโดยอัตโนมัติเมื่อชำระเงินเสร็จสิ้นแล้ว เพื่อป้องกันการหักบัญชีซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาตและยืนยันว่าธุรกรรมแต่ละรายการได้รับการอนุมัติอย่างชัดเจน ธุรกรรม PAD ที่เกิดขึ้นหลังจากนี้ต้องมีข้อตกลง PAD ใหม่

ข้อกำหนดสำหรับธุรกิจที่จะยอมรับ PAD ในแคนาดา

ธุรกิจในแคนาดาที่ต้องการรับ PAD ต้องปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติบางประการเพื่อให้สอดคล้องกับกรอบข้อบังคับที่กำหนดโดย Payments Canada ข้อกำหนดในการปฏิบัติงานมีดังนี้

ข้อตกลงของ PAD

ขั้นแรก ธุรกิจจำเป็นต้องสร้างข้อตกลง PAD ที่อนุญาตให้ถอนเงินจากบัญชีของผู้ชำระเงิน ข้อตกลง PAD ต้องระบุจำนวนเงินที่จะหักบัญชี ซึ่งเป็นจำนวนเงินคงที่หรือไม่แน่นอนได้ ตลอดจนความถี่ของการหักบัญชี ซึ่งคงที่ (เช่น รายสัปดาห์หรือรายเดือน) หรือผันแปรได้

ธุรกิจต้องให้ข้อมูลธนาคารของตนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงนี้ และสถาบันการเงินบางแห่งอาจขอเช็คเปล่าเพื่อยืนยืนรายละเอียดบัญชี ในกรณีเช่นนี้ การเขียน "VOID" บนเช็คโดยไม่ลงนามถือเป็นแนวทางปฏิบัติมาตรฐานสำหรับการป้องกันการฉ้อโกง

ข้อตกลงเหล่านี้ยังต้องมีวันที่และลายเซ็น ข้อความที่อนุมัติให้บริษัทหักเงินตามจำนวนที่กำหนด หมวดหมู่ของ PAD (ส่วนบุคคลหรือธุรกิจ) คำชี้แจงเกี่ยวกับสิทธิ์ในการยกเลิกข้อตกลง (ด้วยวิธียกเลิกที่ระบุไว้อย่างชัดเจน) และข้อมูลติดต่อของบริษัทผู้เรียกเก็บเงิน

การยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษร

ข้อตกลง PAD สร้างได้ทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นลายลักษณ์อักษร หรือทางโทรศัพท์ หากข้อตกลงดังกล่าวทำผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์หรือทางโทรศัพท์ ธนาคารจะต้องส่งเอกสารยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งระบุรายละเอียดเกี่ยวกับข้อตกลงอย่างน้อย 3 วันก่อนการถอนเงินครั้งแรก

การแจ้งเตือนการชำระเงิน

สำหรับธุรกรรม PAD ที่มีจำนวนเงินผันแปร ผู้เรียกเก็บเงินต้องแจ้งผู้ชำระเงินเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าอย่างน้อย 10 วันก่อนการถอนเงิน เว้นแต่จะได้รับการยกเว้นหรือลดระยะเวลานี้ลง

การอนุมัติการชำระเงิน

หากข้อตกลง PAD ไม่ได้กำหนดความถี่ของการชำระเงิน หรือหากความถี่ผันแปร ผู้เรียกเก็บเงินจะต้องได้รับการอนุมัติสำหรับธุรกรรม PAD แต่ละรายการ ซึ่งอาจรวมถึงการใช้รหัสผ่านหรือรหัสเพื่อการอนุมัติ

การปฏิบัติตามกฎ H1

ธุรกิจต้องปฏิบัติตามกฎ H1 ของ Payments Canada ซึ่งสรุปความรับผิดชอบและภาระผูกพันเกี่ยวกับ PAD ซึ่งรวมถึงการลงนามในข้อตกลงการลงทะเบียน ซึ่งมีรายละเอียดข้อกำหนดและเงื่อนไขของบริการ PAD และการจัดเตรียมและนำข้อตกลง PAD ของผู้ชำระเงิน (Payor’s PAD Agreement) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าการอนุมัติการถอนเงินโดยตรง (Direct Withdrawal Authorization) ไปใช้สำหรับลูกค้า

ข้อตกลงนี้ควรมีบทบัญญัติบังคับทั้งหมดตามที่กำหนดภายใต้กฎ H1 ในกรณีที่มีการใช้ผู้ให้บริการบริษัทอื่นในการประมวลผลการหักบัญชี ข้อตกลง PAD จะต้องระบุชื่อของผู้ให้บริการว่าเป็นผู้รับผลประโยชน์ที่ทำหน้าที่ในนามของผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง

ผู้ประมวลผลการชำระเงินจะมีข้อกำหนดของตนเองเพื่อใช้งานการชำระเงิน PAD ข้อกำหนดของ Stripe สำหรับธุรกิจที่รับ PAD ในแคนาดามีรายละเอียดด้านล่างเป็นตัวอย่าง

• การเรียกเก็บหนังสือมอบอำนาจ: ก่อนหักเงินจากบัญชีธนาคารของลูกค้า ธุรกิจจะต้องรวบรวมหนังสือมอบอำนาจของลูกค้าที่สอดคล้องกับกฎ H1 พร้อมรายละเอียดต่างๆ เช่น หมายเลขสถาบัน, Transit Number, หมายเลขบัญชี, กำหนดการชำระเงิน ชื่อ และอีเมล หนังสือมอบอำนาจนี้อนุญาตให้ธุรกิจหักเงินจากบัญชีของลูกค้า Stripe มีเครื่องมืออย่าง Stripe.js ที่ช่วยในระหว่างขั้นตอนการชำระเงินในการรวบรวมหนังสือมอบอำนาจและรายละเอียดบัญชีธนาคารเหล่านี้ นอกจากนี้ Stripe ยังมีการยืนยันธนาคารแบบทันทีอีกด้วย

• การแจ้งเตือนลูกค้า: Stripe กำหนดให้ธุรกิจต้องแจ้งลูกค้าเมื่อมีหนังสือมอบอำนาจและมีการหักบัญชีแต่ละครั้งจากบัญชีของตน Stripe ส่งการแจ้งเตือนเหล่านี้ได้โดยอัตโนมัติ หรือธุรกิจจะเลือกส่งการแจ้งเตือนที่กำหนดเองก็ได้ หากเลือกใช้การแจ้งเตือนที่กำหนดเอง ธุรกิจต่างๆ จะต้องรองรับการแจ้งเตือนทางอีเมลที่จำเป็นทั้งหมด รวมถึงการยืนยันการมอบอำนาจและการแจ้งเตือนการหักยอด

• ขั้นตอนการโต้แย้งการชำระเงิน: ภายใต้กฎของ Stripe ลูกค้าโต้แย้งการชำระเงินแบบ PAD ผ่านธนาคารได้สูงสุด 90 วันหลังจากหักบัญชีส่วนตัว หรือสูงสุด 10 วันทำการหลังจากหักเงินจากบัญชีธุรกิจ Stripe จัดการการแจ้งเตือนและหักเงินสำหรับจำนวนเงินที่โต้แย้ง

• การคืนเงินและการเบิกจ่าย: การขอคืนเงินสำหรับ PAD ที่ Stripe ประมวลผลต้องส่งภายใน 180 วันนับจากการชำระเงินแรกเริ่ม และปกติแล้วจะใช้เวลา 3 วันทำการจึงจะเสร็จสมบูรณ์ ธุรกิจควรแจ้งให้ลูกค้าทราบเกี่ยวกับกำหนดเวลาการคืนเงินเพื่อหลีกเลี่ยงความสับสน

• ชื่อผู้ค้าในรายการเดินบัญชี: ธุรกิจต้องระบุชื่อธุรกิจที่จะปรากฏในรายการเดินบัญชีของลูกค้าสำหรับการชำระเงิน PAD แต่ละรายการ ธุรกิจปรับแต่งชื่อผู้ค้าในรายการเดินบัญชีนี้สำหรับธุรกรรมแต่ละรายการได้โดยการอัปเดตชื่อผู้ค้าในรายการเดินบัญชีของบัญชี Stripe

ตัวเลือกอื่นๆ นอกเหนือจาก PAD ในแคนาดา

ธุรกิจในแคนาดามีตัวเลือกอื่นหลายแบบนอกเหนือจาก PAD เพื่อจัดการธุรกรรม แม้ PAD จะเป็นที่นิยมเนื่องจากสะดวกสำหรับการชำระเงินตามแบบแผนล่วงหน้า แต่วิธีการชำระเงินอื่นๆ ก็มีผู้ใช้งานในตลาดที่แตกต่างกันออกไป ตัวเลือกการชำระเงินหลักที่ใช้แทน PAD ได้มีดังนี้

• บัตรเครดิตและบัตรเดบิต: บัตรเป็นวิธีที่พบบ่อยที่สุดในการซื้อสินค้าในแคนาดา และใช้สำหรับ 64% ของธุรกรรมอีคอมเมิร์ซทั้งหมดในปี 2023 บัตรเหล่านี้คิดเป็นส่วนสำคัญของยอดขายประจำปีและเป็นวิธีการชำระเงินหลักในตลาดแคนาดา

• การโอนเงินออนไลน์: การโอนเงินออนไลน์ซึ่งเกี่ยวข้องกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ที่เริ่มต้นผ่านบริการออนไลน์ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีปริมาณแซงหน้าการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (EFT) ส่วนบุคคล รวมถึงการฝากเงินโดยตรงและ PAD

• การชำระด้วยเงินสด: เงินสดยังคงเป็นตัวเลือกการชำระเงินในแคนาดา และใช้สำหรับ 11% ของธุรกรรมในปี 2023 บริการต่างๆ เช่น การเก็บเงินปลายทาง (COD) ของไปรษณีย์แคนาดา เหมาะกับบุคคลทั่วไปที่ต้องการใช้เงินสดทำธุรกรรม โดยให้ลูกค้าชำระเงินสดเมื่อได้รับสินค้าแล้ว

Stripe Payments ช่วยอะไรได้บ้าง

Stripe Payments มอบโซลูชันการชำระเงินระดับโลกแบบครบวงจรที่ช่วยให้ธุรกิจทุกขนาด ตั้งแต่บริษัทสตาร์ทอัพที่กำลังเติบโตไปจนถึงองค์กรระดับโลกรับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกได้

Stripe Payments ช่วยคุณทำสิ่งต่อไปนี้

• เพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์การชำระเงิน: สร้างประสบการณ์ลูกค้าที่ราบรื่นและประหยัดเวลาด้านวิศวกรรมได้หลายพันชั่วโมงด้วย UI การชำระเงินที่สร้างไว้ล่วงหน้า เข้าถึงวิธีการชำระเงินกว่า 125 วิธี รวมถึง PAD และ Link ซึ่งเป็นกระเป๋าเงินดิจิทัลของ Stripe
  
• ขยายไปสู่ตลาดใหม่ๆ ได้เร็วขึ้น: เข้าถึงลูกค้าทั่วโลกรวมทั้งลดความซับซ้อนและค่าใช้จ่ายในการจัดการหลายสกุลเงินด้วยตัวเลือกการชำระเงินข้ามพรมแดนที่มีให้บริการใน 195 ประเทศและกว่า 135 สกุลเงิน
  
• รวมการชำระเงินที่จุดขายและทางออนไลน์ไว้ด้วยกัน: สร้างประสบการณ์การค้าแบบแพลตฟอร์มรวมในช่องทางออนไลน์และที่จุดขายเพื่อปรับแต่งการโต้ตอบ ตอบแทนลูกค้าประจำ และเพิ่มรายรับ
  
• ปรับปรุงประสิทธิภาพการชำระเงิน: เพิ่มรายรับด้วยเครื่องมือการชำระเงินที่กำหนดเองได้และปรับแต่งได้ง่ายๆ ซึ่งรวมถึงระบบป้องกันการฉ้อโกงแบบไม่ต้องเขียนโค้ดและความสามารถขั้นสูงเพื่อเพิ่มอัตราการอนุมัติ
  
• เดินหน้าได้เร็วขึ้นด้วยแพลตฟอร์มที่ยืดหยุ่นและเชื่อถือได้เพื่อการเติบโต: สร้างบนแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อขยับขยายไปพร้อมกับคุณ โดยมีระยะเวลาให้บริการ 99.999% โดยแทบจะไม่หยุดทำงานเลย และมีความน่าเชื่อถือระดับแนวหน้าของวงการ
  

ดูข้อมูลเพิ่มเติมว่า Stripe Payments ช่วยให้คุณรับการชำระเงินออนไลน์และการชำระเงินที่จุดขายได้อย่างไร หรือ เริ่มใช้งาน เลยวันนี้