Payment processors vs. ISOs: How they’re different and how they’re similar

Payments
Payments

รับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกด้วยโซลูชันการชำระเงินที่สร้างมาสำหรับธุรกิจทุกขนาด ตั้งแต่ธุรกิจสตาร์ทอัพไปจนถึงองค์กรใหญ่ระดับโลก

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. ผู้ประมวลผลการชําระเงินคืออะไร
  3. ISO คืออะไร
  4. ผู้ประมวลผลการชําระเงินเทียบกับ ISO: ความแตกต่างและความคล้ายคลึงกัน
    1. ความคล้ายคลึงกัน
    2. ข้อแตกต่าง
  5. ISO และผู้ประมวลผลการชําระเงินทํางานร่วมกันหรือไม่
  6. ผู้ประมวลผลการชําระเงินเทียบกับ ISO: ข้อดีข้อเสียสําหรับธุรกิจ
    1. ISO
    2. ผู้ประมวลผลการชําระเงิน

เศรษฐกิจดิจิทัลมีการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยลูกค้า 70% ระบุว่าต้องการใช้การชําระเงินแบบดิจิทัล ธุรกิจต่างๆ จึงจําเป็นต้องมั่นใจว่าระบบการชําระเงินของตนมีประสิทธิภาพและปลอดภัยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ องค์กรหลายประเภท รวมถึงองค์กรการขายอิสระ (ISO) และผู้ประมวลผลการชําระเงินมีบทบาทสําคัญในการสร้างและดำเนินงานระบบการชําระเงินสมัยใหม่

พันธมิตรผู้ประมวลผลการชําระเงินที่เหมาะสมสามารถอํานวยความสะดวกในการทําธุรกรรมได้อย่างราบรื่นและลดข้อผิดพลาดที่มีค่าใช้จ่ายสูง ผู้ประมวลผลการชําระเงินมีผลต่อความเร็วในการประมวลผลธุรกรรม ความหลากหลายของตัวเลือกการชําระเงินที่ให้บริการแก่ลูกค้า และแม้แต่ระดับการสนับสนุนลูกค้า และการทำงานร่วมกับ ISO หรือผู้ประมวลผลการชําระเงินไม่ได้เป็นแค่เรื่องของการประมวลผลการชําระเงินเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความปลอดภัยให้เข้มแข็ง ปรับปรุงประสิทธิภาพในการดําเนินงาน และยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นได้ เราจะเปรียบเทียบสองตัวเลือกไว้ด้านล่างนี้ เพื่อให้ธุรกิจสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

  • ผู้ประมวลผลการชําระเงินคืออะไร
  • ISO คืออะไร
  • ผู้ประมวลผลการชำระเงินเทียบกับ ISO ความแตกต่างและความคล้ายคลึงกัน
  • ISO และผู้ประมวลผลการชําระเงินทํางานร่วมกันหรือไม่
  • ผู้ประมวลผลการชำระเงินเทียบกับ ISO ข้อดีข้อเสียสําหรับธุรกิจ

ผู้ประมวลผลการชําระเงินคืออะไร

ผู้ประมวลผลการชําระเงินคือบริษัทบุคคลที่สามที่ทําหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างธุรกิจกับสถาบันทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรม โดยอํานวยความสะดวกเรื่องการอนุมัติธุรกรรมและการโอนเงินจากบัญชีของลูกค้าไปยังบัญชีของธุรกิจ กระบวนการนี้มักประกอบด้วยการสื่อสารกับธนาคารผู้ออกบัตรของผู้ถือบัตรเพื่อให้แน่ใจว่าการชําระเงินนั้นถูกต้อง

ISO คืออะไร

ISO คือบริษัทบุคคลที่สามได้รับอนุญาตให้จําหน่ายหรือให้เช่าบริการประมวลผลการชําระเงินแก่ธุรกิจ โดย ISO คือตัวกลางระหว่างธุรกิจและสถาบันการเงินที่ให้บริการประมวลผลการชําระเงิน ISO ให้บริการหลากหลายอย่าง รวมถึงการจัดตั้งบัญชีผู้ค้า การจัดหาอุปกรณ์และซอฟต์แวร์การประมวลผลการชําระเงินโดยทํางานร่วมกับผู้ประมวลผลการชําระเงินอย่างใกล้ชิด รวมทั้งการนําเสนอโซลูชันแบบกําหนดเองได้ให้แก่ธุรกิจต่างๆ ตามความต้องการเฉพาะของธุรกิจเหล่านั้น โดยปกติ ISO จะมีรายรับจากค่าคอมมิชชั่นหรือโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่เก็บจากลูกค้าที่ตนชักนำมาใช้บริการผู้ประมวลผลการชําระเงินหรือจากธนาคาร

ผู้ประมวลผลการชําระเงินเทียบกับ ISO: ความแตกต่างและความคล้ายคลึงกัน

ผู้ประมวลผลการชําระเงินและ ISO มักจะทํางานร่วมกันเพื่อจัดการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ แต่จะมีบทบาทที่แตกต่างกัน ซึ่งคุณควรทำความเข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างผู้ให้บริการทั้งสองแบบเพื่อที่จะเลือกพันธมิตรธุรกิจที่เหมาะสม

ทั้งผู้ประมวลผลการชําระเงินและ ISO ต่างมีบทบาทสําคัญในการอํานวยความสะดวกด้านการชําระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์และบริการของผู้ให้บริการเหล่านี้มักจะเป็นส่วนเสริมซึ่งกันและกัน ผู้ให้บริการทั้งสองประเภทต่างมีเป้าหมายให้การทำธุรกรรมระหว่างธุรกิจกับลูกค้าราบรื่นและต่อต้านการฉ้อโกง และองค์กรทั้งสองประเภทจะต้องปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับที่กำหนดโดยเครือข่ายบัตรเครดิตรายใหญ่และสถาบันการเงิน

บทบาทหลักของทั้งสองแตกต่างกัน โดยขณะที่ผู้ประมวลผลการชําระเงินให้บริการโอนและอนุมัติการชําระเงินในเชิงเทคนิค แต่ ISO จะเน้นงานส่วนหน้ากับลูกค้ามากกว่า โดยทํางานร่วมกับธุรกิจต่างๆ โดยตรงเพื่อจัดตั้งและจัดการบริการที่ผู้ประมวลผลประมวลผลให้บริการ

ผู้ประมวลผลการชําระเงินเป็นตัวกลางด้านเทคนิคระหว่างธุรกิจ บริษัทผู้ออกบัตรของลูกค้า และธนาคารของธุรกิจ โดยดูแลขั้นตอนการทําธุรกรรม รวมถึงการโอนข้อมูลการชําระเงินและการอนุมัติเงิน เพื่อให้แน่ใจว่ารายการชำระเงินมีการประมวลผลอย่างปลอดภัยและรวดเร็ว โดยทำงานอยู่เบื้องหลังเพื่อโอนข้อมูลและเงินระหว่างธนาคารของลูกค้ากับธนาคารของธุรกิจ

กล่าวอีกอย่างหนึ่งคือ ISO เป็นหน่วยงานขายของอุตสาหกรรมการชําระเงิน ซึ่งได้รับอนุญาตให้ขายหรือให้เช่าบริการประมวลผลการชําระเงินของผู้ประมวลแก่ธุรกิจต่างๆ ISO มีความสัมพันธ์กับธุรกิจโดยตรงและมักให้บริการหลายอย่าง เช่น การจัดต้ั้งบัญชีผู้ค้า จัดหาอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ประมวลผลการชําระเงิน และให้บริการลูกค้า

ต่อไปนี้เป็นข้อมูลสรุปความคล้ายคลึงและความแตกต่างที่สําคัญๆ

ความคล้ายคลึงกัน

ทั้ง ISO และผู้ประมวลผลการชําระเงิน

  • มีบทบาทสําคัญในการอํานวยความสะดวกด้านการชําระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์สําหรับธุรกิจ
  • มุ่งมั่นสร้างธุรกรรมที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพระหว่างธุรกิจกับลูกค้า
  • ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เครือข่ายบัตรเครดิตและสถาบันทางการเงินรายใหญ่กําหนด
  • ทํางานร่วมกันเพื่อให้บริการโซลูชันที่ครบวงจร ตอบสนองความต้องการด้านการประมวลผลการชําระเงินของธุรกิจ

ข้อแตกต่าง

ผู้ประมวลผลการชําระเงิน:

  • ตัวกลางด้านเทคนิคในขั้นตอนการทําธุรกรรม
  • ดูแลการโอนข้อมูลการชำระเงินและอนุมัติเงินระหว่างธนาคารของลูกค้ากับธนาคารของธุรกิจ
  • มีบทบาทในงานส่วนหลังเป็นหลัก โดยมุ่งเน้นการโอนและอนุมัติการชําระเงินในเชิงเทคนิค

ISO:

  • ทําหน้าที่เป็นหน่วยงานขายในอุตสาหกรรมการชําระเงิน
  • เป็นบริษัทบุคคลที่สามที่ขายหรือให้เช่าบริการประมวลผลการชําระเงินของผู้ประมวลผลให้แก่ธุรกิจ
  • ทำงานกับธุรกิจโดยตรง โดยให้บริการต่างๆ เช่น การจัดตั้งบัญชีผู้ค้า จัดหาอุปกรณ์และซอฟต์แวร์สําหรับประมวลผลการชําระเงิน และให้บริการลูกค้า
  • มีบทบาทในส่วนที่ติดต่อกับลูกค้ามากกว่า โดยเป็นผู้จัดตั้งและจัดการบริการให้กับธุรกิจต่างๆ

ISO และผู้ประมวลผลการชําระเงินทํางานร่วมกันหรือไม่

ใช่ ISO และผู้ประมวลผลการชําระเงินมักจะทํางานร่วมกันอย่างใกล้ชิด แม้ว่าจะมีบทบาทที่แตกต่างกันก็ตาม

โดยปกติแล้ว IS จะมีหน้าที่หาลูกค้าธุรกิจรายใหม่ จัดเตรียมระบบและอุปกรณ์ที่จําเป็นเพื่อรับการชําระเงินผ่านบัตรเครดิตและเดบิต และให้บริการลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

เมื่อ ISO จัดเตรียมบริการให้กับธุรกิจแล้ว ผู้ประมวลผลการชําระเงินจะจัดการงานด้านเทคนิคของการประมวลผลธุรกรรม ซึ่งรวมถึงการโอนข้อมูลการชําระเงิน การขออนุมัติธุรกรรม และการตรวจสอบว่ามีการโอนเงินจากบัญชีของลูกค้าไปยังบัญชีของธุรกิจอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

ในหลายๆ กรณี ผู้ประมวลผลการชําระเงินและ ISO จะมีความสัมพันธ์ทางสัญญา โดย ISO ทําหน้าที่เป็นผู้จําหน่ายบริการของผู้ประมวลผลและอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นหรือค่าธรรมเนียมจากลูกค้าธุรกิจที่หามาได้

ผู้ประมวลผลการชําระเงินเทียบกับ ISO: ข้อดีข้อเสียสําหรับธุรกิจ

ขณะที่ตัดสินใจเลือกระหว่าง ISO กับผู้ประมวลผลการชําระเงินสําหรับธุรกิจ คุณควรทําความเข้าใจข้อดีข้อเสียของแต่ละตัวเลือกก่อน ต่อไปนี้คือภาพรวมเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้ให้บริการแต่ละแบบนำเสนอ

ISO

ข้อดี

  • บริการเฉพาะบุคคล
    เป็นที่่ทราบกันดีว่า ISO ให้บริการและสนับสนุนลูกค้าแบบเฉพาะบุคคลมากกว่า พวกเขาจะทำงานโดยตรงกับธุรกิจและมักจะสามารถนำเสนอโซลูชันที่จัดให้ตามความต้องการเฉพาะของแต่ละธุรกิจ

  • ความอเนกประสงค์
    เนื่องจาก ISO มักจะรักษาความสัมพันธ์กับผู้ประมวลผลการชําระเงินหลายราย จึงสามารถนําเสนอโซลูชันที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะได้มากกว่า

ข้อเสีย

  • ค่าใช้จ่าย
    บางครั้งการร่วมงานกับ ISO อาจมีราคาแพงกว่าการทํางานกับผู้ประมวลผลการชําระเงินโดยตรง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อตกลง ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมมักเป็นค่าบริการเสริมที่มีให้ เช่น การสนับสนุนลูกค้า

  • การพึ่งพาผู้ประมวลผล
    แม้จะมีความอเนกประสงค์ แต่ ISO ก็ยังต้องพึ่งพาผู้ประมวลผลการชําระเงินในการจัดการธุรกรรม หากมีปัญหาในระดับการประมวลผล ISO อาจมีขัอจำกัดในการให้ความช่วยเหลือ

ผู้ประมวลผลการชําระเงิน

ข้อดี

  • ประหยัดค่าใช้จ่าย
    ในบางกรณี การทํางานโดยตรงกับผู้ประมวลผลการชําระเงินอาจมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าเนื่องจากตัดตัวกลางออกไป คุณอาจมีอํานาจเจรจาต่อรองค่าบริการมากขึ้น

  • การควบคุมโดยตรง
    การทำงานกับผู้ประมวลผลการชําระเงินโดยตรงช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถควบคุมการประมวลผลการชําระเงินได้มากขึ้น วิธีนี้อาจทําให้แก้ไขปัญหาทางเทคนิคได้เร็วขึ้น เนื่องจากคุณทํางานร่วมกับผู้ให้บริการต้นทาง

ข้อเสีย

  • บริการลูกค้า
    ผู้ประมวลผลการชำระเงินมักเป็นบริษัทขนาดใหญ่ และอาจไม่สามารถให้บริการลูกค้าแต่ละรายในระดับเดียวกับที่ ISO สามารถทําได้

  • ตัวเลือกที่จํากัด
    ผู้ประมวลผลการชําระเงินอาจไม่มีบริการหรือตัวเลือกการปรับแต่งในแบบเดียวกับที่ ISO เสนอ ซึ่งอาจทำให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นที่จำกัดในการปรับกลยุทธ์การประมวลผลการชําระเงินให้ตอบโจทย์ความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป

การตัดสินใจว่าจะทํางานร่วมกับ ISO หรือผู้ประมวลผลการชําระเงินควรพิจารณาจากความต้องการและสถานการณ์เฉพาะของธุรกิจ โดยพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ขนาดธุรกิจ ประเภทธุรกิจ ปริมาณธุรกรรม ความจําเป็นในการใช้บริการลูกค้าเฉพาะบุคคล และข้อจํากัดด้านงบประมาณ ธุรกิจต่างๆ อาจชอบ ISO มากกว่าในแง่บริการเฉพาะบุคคลและความคล่องตัว โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องการโซลูชันการชําระเงินที่ปรับแต่งเฉพาะ ในทางกลับกัน ผู้ประมวลผลการชําระเงินอาจน่าสนใจกว่าในแง่ที่สามารถควบคุมได้โดยตรงและค่าใช้จ่ายที่อาจจะต่ำกว่า ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่เลือกควรสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของธุรกิจ ความต้องการด้านการปฏิบัติงาน และความคาดหวังของลูกค้า

เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Payments

Payments

รับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกด้วยโซลูชันการชำระเงินที่สร้างมาสำหรับธุรกิจทุกขนาด

Stripe Docs เกี่ยวกับ Payments

ค้นหาคู่มือเกี่ยวกับการเชื่อมต่อ Payments API ของ Stripe