BPAY คือระบบการชําระเงินตามใบเรียกเก็บเงินอิเล็กทรอนิกส์ในออสเตรเลีย ช่วยให้บุคคลทั่วไปและธุรกิจต่างๆ ชําระเงินผ่านระบบธนาคารออนไลน์ของสถาบันการเงิน อุปกรณ์เคลื่อนที่ หรือโทรศัพท์ให้กับองค์กรที่จดทะเบียนในฐานะผู้เรียกเก็บเงิน BPAY ได้ BPAY ก่อตั้งขึ้นเพื่อให้บริการชำระบิลแบบรวมศูนย์ที่เชื่อมโยงผู้เรียกเก็บเงินและลูกค้าผ่านธนาคารที่เกี่ยวข้อง ทำให้กระบวนการโอนเงินง่ายขึ้น ชาวออสเตรเลียเกือบ 44% ใช้ BPAY ในปีที่สิ้นสุดในเดือนกันยายน 2022
BPAY เป็นที่รู้จักกันดีว่ามีความสะดวกสบาย และช่วยให้ผู้ใช้ชําระเงินได้จากทุกที่ตลอด 24 ชม. โดยใช้แพลตฟอร์มธนาคารที่ลูกค้าต้องการ ลูกค้าสามารถใช้ BPAY สําหรับการชําระเงินแบบครั้งเดียวหรือตั้งค่าการชําระเงินตามแบบแผนล่วงหน้าได้ ลูกค้าจะได้รับรหัส BPAY และรหัสผู้เรียกเก็บเงินสําหรับธุรกรรมแต่ละรายการ ซึ่งรับประกันว่าจะสามารถติดตามและจัดการการชําระเงินได้อย่างง่ายดาย
ด้านล่างนี้ เราจะอธิบายเกี่ยวกับสิ่งที่ธุรกิจต่างๆ ต้องทราบเกี่ยวกับ BPAY ไม่ว่าจะเป็นที่ตั้งอยู่ในออสเตรเลียหรือที่อื่นๆ เราจะอธิบายวิธีการทำงาน ใครบ้างที่ใช้ ค่าใช้จ่ายเท่าไร และจะเริ่มต้นใช้งานในฐานะธุรกิจได้อย่างไร
บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง
- BPAY ใช้ทําอะไร
- ธุรกิจประเภทใดบ้างที่ใช้ BPAY ได้
- ธุรกิจที่ไม่ได้อยู่ในออสเตรเลียสามารถใช้งาน BPAY ได้หรือไม่
- BPAY ทํางานอย่างไร
- BPAY มีค่าบริการเท่าใด
- BPAY ใช้เวลานานแค่ไหนในการส่งการชําระเงิน
- ประโยชน์ของ BPAY สําหรับธุรกิจ
BPAY ใช้ทําอะไร
BPAY ใช้ในออสเตรเลียสำหรับสถานการณ์การชำระเงินที่หลากหลาย ธุรกิจมากกว่า 60,000 แห่งรับชำระเงินผ่าน BPAY และธนาคารและสถาบันการเงินมากกว่า 150 แห่งก็ให้บริการนี้เป็นวิธีการชำระเงิน BPAY ใช้สําหรับธุรกรรมหลายประเภท เช่น
การชำระภาษี: BPAY ใช้สําหรับการชําระภาษีประเภทต่างๆ ให้กับสํานักงานภาษีออสเตรเลีย (ATO) เช่น ภาษีเงินได้และภาษีอื่นๆ ที่รายงานในรายการเดินบัญชีกิจกรรมทางธุรกิจ
การเรียกเก็บเงินสําหรับธุรกิจ: ธุรกิจสามารถใช้ BPAY เพื่อออกใบเรียกเก็บเงินอิเล็กทรอนิกส์ให้แก่ลูกค้า โดยเสนอเป็นวิธีการชําระเงินทางเลือก
การชําระเงินตามใบเรียกเก็บเงินส่วนบุคคล: บุคคลทั่วไปใช้ BPAY เพื่อชําระบิลส่วนบุคคลต่างๆ เช่น ค่าสาธารณูปโภค บัตรเครดิต และภาษีท้องถิ่น
การชําระเงินเป็นกลุ่มสําหรับธุรกิจ: BPAY จัดการกับการชําระเงินเป็นกลุ่มได้ ซึ่งมีประโยชน์สําหรับธุรกิจที่ดําเนินการธุรกรรมหลายรายการพร้อมกัน
การผสานการทํางาน API สําหรับธุรกิจ: BPAY รองรับการผสานการทำงานอินเทอร์เฟซการเขียนโปรแกรมแอปพลิเคชัน (API) ทํางานร่วมกับระบบธุรกิจอื่นๆ ได้อย่างง่ายดายสำหรับการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติ และกระบวนการชําระเงิน
ธุรกิจประเภทใดบ้างที่ใช้ BPAY ได้
BPAY มีประโยชน์ในสถานการณ์ต่างๆ และมีการใช้งานอย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมต่างๆ ต่อไปนี้คือรายละเอียดของธุรกิจหลักๆ บางประเภทที่ใช้ BPAY
ผู้ให้บริการ
สาธารณูปโภค: บริษัทที่ดำเนินการด้านไฟฟ้า แก๊ส น้ำ และขยะต่างใช้ BPAY กันอย่างแพร่หลายสำหรับการชำระเงินตามใบเรียกเก็บเงิน โดยมอบตัวเลือกที่คุ้นเคยและปลอดภัยให้กับลูกค้า
โทรคมนาคม: ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ อินเทอร์เน็ต และโทรทัศน์แบบชำระเงินใช้ BPAY เพื่อการชำระเงินตามใบเรียกเก็บเงินที่สะดวก ซึ่งช่วยปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าและกระแสเงินสด
บริการเฉพาะทาง: บริษัทด้านบัญชี ทนายความ และที่ปรึกษารับการชําระเงินผ่าน BPAY สําหรับใบแจ้งหนี้ ทําให้กระบวนการชําระเงินสําหรับตัวเองและลูกค้าง่ายขึ้น
สถาบันการเงิน
ธนาคารและสหภาพเครดิต: ลูกค้าของสถาบันการเงินใช้ BPAY เพื่อชำระเงินกู้ ชำระใบเรียกเก็บเงินสำหรับบัตรเครดิต และปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางการเงินอื่นๆ ได้อย่างง่ายดายผ่านทางระบบธนาคารออนไลน์
บริษัทประกันภัย: ผู้ให้บริการประกันภัยรับการชําระเงินแบบ BPAY เพื่อรับเบี้ยประกันภัย โดยมอบทางเลือกที่ปราศจากความยุ่งยากให้เจ้าของกรมธรรม์
การค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซ
ร้านค้าปลีก: ผู้ค้าปลีกรายใหญ่และขนาดเล็กใช้ BPAY สําหรับการชําระเงินแบบครบวงจร แผนการผ่อนชําระ และการซื้อบัตรของขวัญ
แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ: ร้านค้าออนไลน์เสนอ BPAY เป็นทางเลือกในการชําระเงิน ควบคู่กับบัตรเครดิตและวิธีการชําระเงินอื่นๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถชําระเงินออนไลน์ได้อย่างปลอดภัยและในวิธีที่ตนเองคุ้นเคย
ภาครัฐและองค์กรไม่แสวงผลกําไร
หน่วยงานราชการ: สภาท้องถิ่นและหน่วยงานของรัฐและรัฐบาลกลางใช้ BPAY ในการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมและการเรียกเก็บเงินต่างๆ เช่น ค่าปรับที่จอดรถ ใบอนุญาต และภาษี
สถาบันการศึกษา: นักศึกษาใช้ BPAY สำหรับชำระค่าเล่าเรียน เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา และค่าธรรมเนียมการศึกษาอื่นๆ
องค์กรไม่แสวงผลกําไร: องค์กรการกุศลและ NGOs รับเงินบริจาคผ่าน BPAY ซึ่งช่วยลดความซับซ้อนของกระบวนการสนับสนุนและอํานวยความสะดวกให้กับการระดมทุน
อื่นๆ
บริการสมัครสมาชิก: แพลตฟอร์มสตรีมมิง การเป็นสมาชิกยิม และธุรกิจแบบสมัครใช้บริการใช้ BPAY สําหรับการชําระเงินตามแบบแผนล่วงหน้า ช่วยให้รอบการเรียกเก็บเงินรายเดือนหรือรายปีดําเนินไปอย่างราบรื่น
บริการเฉพาะทาง: ช่างประปา ช่างไฟฟ้า และธุรกิจการค้าอื่นๆ รับการชําระเงินแบบ BPAY มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและลดความซับซ้อนของกระบวนการออกใบแจ้งหนี้
ธุรกิจที่ไม่ได้ตั้งอยู่ในออสเตรเลียสามารถใช้ BPAY ได้หรือไม่
ธุรกิจที่ไม่ได้ตั้งอยู่ในออสเตรเลียไม่สามารถรับการชําระเงินได้โดยตรงเนื่องจาก BPAY เป็นเครือข่ายการชําระเงินเฉพาะออสเตรเลีย โดยที่ดําเนินธุรกิจภายในระบบการเงินของออสเตรเลีย และอาศัยการเป็นพาร์ทเนอร์กับธนาคารและสถาบันการเงินออสเตรเลีย ธุรกิจที่อยู่นอกออสเตรเลียไม่มีสิทธิ์เป็นพาร์มเนอร์หรือเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้
ข้อจํากัดด้านระเบียบข้อบังคับ: BPAY ดำเนินการภายใต้กฎระเบียบและข้อกำหนดการปฏิบัติตามที่เฉพาะเจาะจงที่กำหนดโดย Australian Payments Network (APN). ธุรกิจที่ไม่ได้จดทะเบียนในออสเตรเลียจะไม่มีคุณสมบัติตามข้อกำหนดเหล่านี้และไม่สามารถเข้าร่วมในเครือข่ายได้
ข้อจํากัดทางเทคนิค: ระบบ BPAY ออกแบบมาสําหรับระบบสกุลเงินและธนาคารของออสเตรเลีย การผสานการทำงานกับธุรกิจต่างประเทศจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนทางเทคนิคที่ซับซ้อนและอาจไม่สามารถทำได้
อย่างไรก็ตาม มีตัวเลือกอื่นอีกสําหรับธุรกิจในต่างประเทศในการรับการชําระเงินจากลูกค้าในออสเตรเลียดังนี้
การประมวลผลบัตรเครดิตต่างประเทศ: การรับชําระเงินด้วยบัตรเครดิตต่างประเทศผ่านเกตเวย์การชําระเงินสามารถดําเนินการได้อย่างตรงไปตรงมา
การโอนเงินผ่านธนาคารโดยตรง: ธุรกิจบางแห่งจะให้รายละเอียดบัญชีธนาคารเพื่อให้ลูกค้าต่างประเทศชําระเงินด้วยการโอนเงินผ่านธนาคารโดยตรง
แพลตฟอร์มการชําระเงินระดับโลก: แพลตฟอร์มการชําระเงินระหว่างประเทศ เช่น Stripe ช่วยให้ธุรกิจรับชําระเงินจากหลายๆ ประเทศได้ รวมถึงออสเตรเลีย
BPAY ทํางานอย่างไร
โดยปกติฟังก์ชันของ BPAY จะผสานการทํางานกับระบบการชําระเงินที่มีอยู่ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งช่วยให้การเรียกเก็บเงินสําหรับธุรกิจและลูกค้าเป็นเรื่องง่าย วิธีการทํางานมีดังนี้
สําหรับธุรกิจ
การจดทะเบียนผู้เรียกเก็บเงิน: ธุรกิจต่างๆ จับมือเป็นพาร์ทเนอร์กับสถาบันการเงินเพื่อจดทะเบียนเป็นผู้เรียกเก็บเงินผ่าน BPAY การดําเนินการนี้เกี่ยวข้องกับการยอมรับข้อกําหนดและค่าธรรมเนียม และการตั้งค่าด้านการดูแลระบบให้เสร็จสมบูรณ์
ข้อมูลประจําตัวผู้เรียกเก็บเงิน: เมื่อจดทะเบียน ธุรกิจจะได้รับรหัสผู้เรียกเก็บเงินเฉพาะ ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวระบุดิจิทัลภายในเครือข่าย BPAY
การออกแบบใบเรียกเก็บเงิน: ใบแจ้งหนี้ และใบเรียกเก็บเงินอิเล็กทรอนิกส์จะนํารหัสผู้เรียกเก็บเงิน (Biller Code) และหมายเลขอ้างอิงลูกค้า (CRN) มาใช้กับการติดตามการชําระเงิน
สกุลเงินของธุรกรรมในใบเรียกเก็บเงิน: การผสานการทํางานแบบเลือกได้กับ BPAY View ช่วยให้ธุรกิจสามารถส่งบิลไปยังแพลตฟอร์มธนาคารออนไลน์ของลูกค้าได้โดยตรง
การกระทบยอดการชําระเงิน: ธุรกิจจะได้รับรายงานธุรกรรมโดยละเอียดจากธนาคารของตน รวมถึง CRN สําหรับการกระทบยอดที่มีใบแจ้งหนี้ที่ค้างชําระ
การจัดการการชําระเงินของลูกค้า ธนาคารให้ข้อมูลการชําระเงินแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจตรวจสอบบัญชีลูกหนี้และจัดการความล่าช้าที่อาจเกิดขึ้นได้
สําหรับลูกค้า
สิทธิ์เข้าถึงการชําระเงิน: ลูกค้าเข้าถึงฟีเจอร์ BPAY ผ่านอินเทอร์เฟซออนไลน์ของธนาคาร อุปกรณ์เคลื่อนที่ หรือโทรศัพท์
การเริ่มต้นการชําระเงิน: ลูกค้าใช้ Biller Code และ CRN จากใบเรียกเก็บเงินเพื่อเริ่มการชําระเงิน
การประมวลผลธุรกรรม: เมื่อยืนยันแล้ว แพลตฟอร์มจะประมวลผลการชําระเงินและแสดงการรับทราบโดยทันที
การผสานการทํางาน BPAY View: ลูกค้าของธุรกิจที่ใช้ BPAY View จะได้รับใบเรียกเก็บเงินโดยตรงภายในแพลตฟอร์มธนาคารออนไลน์ของพวกเขา
การกําหนดเวลาการชําระเงิน: ลูกค้าสามารถกําหนดเวลาการชําระเงินในอนาคตหรือตั้งค่าการชําระเงินตามแบบแผนล่วงหน้าสําหรับใบเรียกเก็บเงินปกติ
การติดตามการชําระเงิน: บริการธนาคารออนไลน์มีประวัติธุรกรรมโดยละเอียดสําหรับการอ้างอิงลูกค้าและการจัดการการชําระเงินตามใบเรียกเก็บเงิน
ตัวเลือกการชําระเงินที่ยืดหยุ่น: ลูกค้าเลือกวิธีการชําระเงินที่ต้องการจากบัญชีธนาคารที่เชื่อมโยง

BPAY มีค่าบริการเท่าใด
ค่าใช้จ่ายของ BPAY แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับว่าคุณใช้ BPAY เพื่อธุรกิจหรือเป็นลูกค้า และคุณทำธุรกรรมประเภทใดโดยเฉพาะ ต่อไปนี้คือภาพรวม
สําหรับธุรกิจ
ค่าจัดตั้ง: ธนาคารบางแห่งเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการจัดตั้งครั้งเดียวสำหรับการจดทะเบียนเป็นผู้เรียกเก็บเงิน BPAY
ค่าธรรมเนียมธุรกรรม: ธนาคารส่วนใหญ่จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมต่อธุรกรรมสำหรับการชำระเงิน BPAY ที่ได้รับ ธนาคารบางแห่งอาจมีค่าธรรมเนียมสําหรับธุรกรรมหลายรายการหรือผู้เรียกเก็บเงินจํานวนมาก
ค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม: ธุรกรรมบางประเภทภายใน BPAY เช่น การหักบัญชีอัตโนมัติแบบ BPAY หรือการผสานการทํางาน API อาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
สําหรับลูกค้า
โดยทั่วไปแล้วจะไม่มีค่าธรรมเนียม: ในกรณีส่วนใหญ่ ลูกค้าไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใดๆ ในการชำระเงิน BPAY อย่างไรก็ตาม ธนาคารบางแห่งอาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเล็กน้อยจากธุรกรรมประเภทต่างๆ เช่น การชําระเงินผ่านบัตรเครดิต
ค่าใช้จ่ายทางอ้อม: ธุรกิจบางแห่งอาจเลือกที่จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมธุรกรรมที่มีต่อลูกค้า โดยอาจกําหนดค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมในยอดใบเรียกเก็บเงินหรือมอบส่วนลดสําหรับวิธีการชําระเงินอื่นๆ
BPAY ใช้เวลานานแค่ไหนในการส่งการชําระเงิน
BPAY ไม่ได้ส่งการชําระเงินโดยตรง แต่ทําหน้าที่เป็นผู้ให้บริการสนับสนุนภายในระบบการชําระเงินของออสเตรเลีย ความเร็วในการโอนเงินจริงขึ้นอยู่กับปัจจัยสําคัญสองข้อ ดังนี้
การประมวลผลการเรียกเก็บเงิน: เมื่อลูกค้าเริ่มต้นการชําระเงินแบบ BPAY ระบบจะส่งข้อมูลไปยังสํานักหักบัญชี BPAY จากนั้นผู้เรียกเก็บเงินจะต้องรับและประมวลผลข้อมูลการชําระเงิน ซึ่งอาจใช้เวลานานถึง 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระบบและกระบวนการภายในของผู้เรียกเก็บเงิน
การชําระเงินทางธนาคาร: หลังจากผู้เรียกเก็บเงินประมวลผลการชําระเงิน ระบบจะโอนเงินทุนจากธนาคารของลูกค้าผ่านระบบการชําระเงินของธนาคารออสเตรเลีย การชําระเงินนี้มักจะเกิดขึ้นภายในวันทําการถัดไปหลังจากผู้เรียกเก็บเงินประมวลผลการชําระเงิน
เวลาที่การชำระเงิน BPAY จะปรากฏในบัญชีของผู้รับอาจแตกต่างกันไป ดังนี้
วันเดียวกัน: หากลูกค้าชำระเงินในช่วงเช้า และผู้เรียกเก็บเงินดำเนินการอย่างรวดเร็ว เงินอาจพร้อมใช้งานได้ภายในสิ้นวันทำการเดียวกัน
1-2 วันทําการ: นี่เป็นกรอบเวลาที่พบบ่อยที่สุด โดยผู้เรียกเก็บเงินจะใช้เวลาสูงสุด 24 ชั่วโมงในการประมวลผลและการชำระเงินทางธนาคารจะเกิดขึ้นในวันทำการถัดไป
ความล่าช้า: ในบางกรณี หากเกิดปัญหาทางเทคนิคหรือสถานการณ์เฉพาะกับผู้เรียกเก็บเงินหรือธนาคารอาจทำให้เกิดความล่าช้ามากขึ้น
วันหยุดนักขัตฤกษ์ ซึ่งเป็นเวลาที่ธนาคารและธุรกิจบางแห่งเปิดให้บริการในเวลาที่ลดลง อาจส่งผลกระทบต่อเวลาในการประมวลผล โดยทั่วไปคุณสามารถตรวจสอบกรอบเวลาที่คาดว่าจะได้รับการชำระเงินรายการที่เฉพาะเจาะจงได้ภายในแพลตฟอร์มธนาคารออนไลน์หรือโดยติดต่อธนาคารของคุณ
ประโยชน์ของ BPAY สําหรับธุรกิจ
BPAY คือโซลูชันการชําระเงินที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อลูกค้าสําหรับธุรกิจในออสเตรเลีย โดยมอบข้อดีในการจัดการกระแสเงินสด การลดต้นทุน ความพึงพอใจของลูกค้า และประสิทธิภาพภายใน ประโยชน์หลักๆ ในการใช้ BPAY ในการทําธุรกิจมีดังนี้
การจัดการกระแสเงินสดที่ราบรื่นขึ้น: หนึ่งในสิทธิประโยชน์หลักของ BPAY สําหรับธุรกิจก็คือการเร่งกระแสเงินสด BPAY ช่วยให้ดําเนินการชําระเงินได้เร็วขึ้น โดยปกติแล้วระบบจะโอนเงินทุนเข้าบัญชีของธุรกิจภายใน 1 วันทําการ การช่วยลดระยะเวลาในการดําเนินการออกใบแจ้งหนี้และใบเสร็จรับเงินจะช่วยเพิ่มสภาพคล่อง ให้ธุรกิจต่างๆ เข้าถึงเงินทุนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น จัดการภาระหน้าที่ทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ และคว้าโอกาสการเติบโตไว้ได้
ลดงานด้านการดูแลระบบลง: BPAY ลดความยุ่งยากในขั้นตอนการเรียกเก็บเงินด้วยการรวบรวมบัญชีลูกหนี้ การมุ่งเน้นไปที่วิธีการชําระเงินวิธีเดียวจะช่วยลดความซับซ้อนในการบริหาร ประหยัดเวลาและทรัพยากร
ประสบการณ์ของลูกค้าที่ดีขึ้น: การให้บริการ BPAY จะช่วยเพิ่มความพึงพอใจและความภักดีของลูกค้า ลูกค้าให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายและความยืดหยุ่นของวิธีการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ สร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นกับลูกค้าและกระตุ้นให้เกิดการชำระเงินที่ตรงเวลา วิธีนี้สามารถสร้างกระแสรายรับที่เสถียรและคาดการณ์ได้มากขึ้น
การกระทบยอดอัตโนมัติและการลดข้อผิดพลาด: การชําระเงินแบบ BPAY ประกอบด้วยหมายเลขอ้างอิงลูกค้า (CRN) ที่ไม่ซ้ำกัน ซึ่งจะช่วยอํานวยความสะดวกในการการกระทบยอด ระบบอัตโนมัตินี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถจับคู่การชําระเงินกับบัญชีลูกค้าและใบแจ้งหนี้ได้อย่างถูกต้อง จึงลดข้อผิดพลาดและความล่าช้าในการประมวลผลที่ต้องดําเนินการด้วยตนเอง ซึ่งในท้ายที่สุดแล้วสิ่งนี้ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับการจัดการกระแสเงินสด
การรักษาความปลอดภัยและการลดการฉ้อโกง: แพลตฟอร์มที่ปลอดภัยของ BPAY จะช่วยลดความเสี่ยงในการฉ้อโกงได้ รหัสผู้ชำระเงิน BPAY เพิ่มความมั่นใจว่าบัญชีรับเงินเป็นธุรกิจถูกกฎหมาย ลดโอกาสในการส่งเงินไปยังบัญชีธนาคารที่มีข้อมูลเท็จ
ความยืดหยุ่นในการชําระเงินของลูกค้า: เมื่อใช้ BPAY ลูกค้าสามารถเลือกวิธีการชําระเงินได้ เช่น บัญชีเดบิตหรือบัตรเครดิต การมอบความยืดหยุ่นนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสการชําระเงินที่ตรงเวลาและเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าโดยรวมได้
มุมมอง BPAY เพื่อการส่งใบเรียกเก็บเงินที่มีประสิทธิภาพ: BPAY View ช่วยให้ธุรกิจส่งใบเรียกเก็บเงินและใบแจ้งยอดไปยังแอปธนาคารออนไลน์ของลูกค้าได้โดยตรง ฟีเจอร์นี้ช่วยประหยัดเวลา จัดการค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยให้ดำเนินการชําระเงินได้ทันทีผ่านการแจ้งเตือนทางอิเล็กทรอนิกส์
การขยายบริการ: BPAY มีฟีเจอร์สําหรับการขยายบริการ เช่น ความสามารถในการเป็น Master Biller หรือ Sub Biller ซึ่งช่วยให้ธุรกิจต่างๆ รับการชําระเงินในนามของบริษัทอื่นๆ หรือรับการสนับสนุนเกี่ยวกับการเรียกเก็บเงินได้ ฟีเจอร์เหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ขยายบริการและสร้างความร่วมมือ รวมทั้งปรับปรุงการปฏิบัติงานด้านการเงินให้ดียิ่งขึ้นได้
ประหยัดค่าใช้จ่าย: การชําระเงินแบบ BPAY มีแนวโน้มที่จะคุ้มค่ามากกว่าเมื่อเทียบกับวิธีการชําระเงินและธนาคารแบบเดิมๆ ระบบมีค่าธรรมเนียมต่ำและทํางานร่วมกับบริการของธุรกิจอื่น ๆ มีส่วนช่วยให้ธุรกิจประหยัดค่าใช้จ่ายโดยรวมได้
ตัวเลือกการปรับแต่ง: BPAY มอบตัวเลือกต่างๆ เช่น CRN อัจฉริยะ (iCRN) ซึ่งช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ควบคุมข้อกําหนดการชําระเงิน จํานวนเงิน และวันที่ครบกําหนดชําระได้มากขึ้น การปรับแต่งนี้ช่วยในการวางแผนทางการเงินและการจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ