Cartes Bancaires หรือที่เรียกว่า CB หรือ "บัตรธนาคาร" คือเครือข่ายบัตรในประเทศของฝรั่งเศสซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1984 และทำหน้าที่ประมวลผลธุรกรรมผ่านบัตร รวมทั้งดูแลให้การชําระเงินระหว่างเจ้าของบัตรกับธุรกิจมีความปลอดภัย โดยปี 2022 Cartes Bancaires มีบัตรหมุนเวียนในระบบถึง 76 ล้านใบ และกว่า 95% ของบัตร CB เป็นการร่วมแบรนด์กับเครือข่าย Visa และ Mastercard ซึ่งเป็นส่วนสําคัญของการชําระเงินในฝรั่งเศส
CB ประกอบธุรกิจในฐานะสหกรณ์และเป็นเจ้าของโดยธนาคารสมาชิก ซึ่งรวมถึงธนาคารของฝรั่งเศสอย่าง BNP Paribas, Crédit Agricole และ Société Générale ตลอดจนสถาบันขนาดเล็กอื่นๆ CB เป็นองค์กรไม่แสวงผลกําไร ซึ่งแตกต่างจาก Visa หรือ Mastercard นั่นหมายความว่าจุดมุ่งหมายหลักของบริษัทคือการให้บริการแก่ระบบการเงินของฝรั่งเศสและผู้พํานักอาศัยในประเทศ ไม่ใช่การสร้างผลกําไรสูงสุดให้กับผู้ถือหุ้น
CB ทําหน้าที่เป็นเครือข่ายกลางสําหรับการประมวลผลธุรกรรมผ่านบัตรในฝรั่งเศส โดยมอบโครงสร้างพื้นฐานที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือสำหรับการชําระเงินด้วยบัตรเครดิตและบัตรเดบิต รวมถึงธุรกรรมทางออนไลน์และแบบไร้สัมผัส CB บริหารจัดการเอทีเอ็ม 50,000 ตู้ ในปี 2022 และนำเสนอบัตรเครดิตและบัตรเดบิตหลากหลายแบบ รวมถึงบัตรแบบดั้งเดิม บัตรแบบไร้สัมผัส และบัตรพรีเมียม CB ใช้เทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยขั้นสูงเพื่อปกป้องข้อมูลเจ้าของบัตรและป้องกันการฉ้อโกง รวมทั้งรองรับกระเป๋าเงินดิจิทัล เช่น Apple Pay เพื่อให้สามารถทำการชําระเงินแบบไร้สัมผัสได้อย่างสะดวกและปลอดภัยผ่านสมาร์ทโฟน
ต่อไปนี้ เราจะอธิบายเกี่ยวกับสิ่งที่ธุรกิจในฝรั่งเศสและสถานที่อื่นๆ จำเป็นต้องทราบเกี่ยวกับ Cartes Bancaires รวมถึงวิธีการใช้งาน วิธีการยอมรับ Cartes Bancaires เป็นวิธีการชําระเงิน และทางเลือกอื่นๆ
บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง
- มีการใช้งาน Cartes Bancaires ในพื้นที่ใดบ้าง
- ใครคือผู้ที่ใช้ Cartes Bancaires
- Cartes Bancaires ทํางานอย่างไร
- ประโยชน์ของการรับชําระเงินด้วย Cartes Bancaires
- มาตรการรักษาความปลอดภัยของ Cartes Bancaires
- การยอมรับ Cartes Bancaires เป็นวิธีการชําระเงิน
- ตัวเลือกอื่นๆ นอกเหนือจาก Cartes Bancaires
มีการใช้งาน Cartes Bancaires ในพื้นที่ใดบ้าง
สถานะของ Cartes Bancaires ในฝรั่งเศสและอิทธิพลต่อการรับชําระเงินในยุโรปนั้นมีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับการเติบโตของการชําระเงินแบบดิจิทัลและการชําระเงินผ่านบัตร รวมถึงสภาพแวดล้อมทางกฎหมายที่เอื้อต่อความก้าวหน้าดังกล่าว การใช้งานระบบอย่างแพร่หลายในฝรั่งเศส รวมถึงการใช้งานบัตรเพิ่มขึ้นในยุโรป สร้างรากฐานที่มั่นคงให้กับความเชื่อมโยงดังกล่าว ตลอดจนการเติบโตที่อาจเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมการชําระเงิน
ฝรั่งเศส
ด้วยธุรกรรม 15,000 ล้านรายการรวมกันเป็นมูลค่า 685 พันล้านยูโร ในปี 2022 แสดงให้เห็นว่า Cartes Bancaires หลอมรวมกับฝรั่งเศสอย่างมั่นคง ความนิยมในวงกว้าง รวมมั้งอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย ตอบสนองความต้องการการชําระเงินแบบดิจิทัลและการชําระเงินด้วยบัตรแทนเงินสดที่กำลังเติบโตยุโรป
การขยายธุรกิจของ Cartes Bancaires ไปยังยุโรปยังสะท้อนให้เห็นว่าภูมิภาคนี้กำลังการเปลี่ยนไปใช้การชําระเงินแบบดิจิทัล การชําระเงินด้วยบัตรคิดเป็นสัดส่วน 46% ของมูลค่าธุรกรรมที่จุดขายทั้งหมดในยูโรโซนในปี 2022 และในปี 2021 ธุรกรรมการชําระเงินผ่านบัตรเพิ่มขึ้น 17.3% ในยูโรโซน รวมทั้งหมด 56,300 ล้านรายการ บริบททางกฎหมาย โดยเฉพาะระเบียบข้อบังคับอย่างคําสั่งว่าด้วยบริการชําระเงินฉบับปรับปรุง (PSD2) สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงนี้โดยส่งเสริมการสร้างตลาดที่ปลอดภัยและครอบคลุมให้กับการชําระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ในสหภาพยุโรป
แนวโน้มตลาดและความต้องการของลูกค้า
แนวโน้มการชําระเงินแบบดิจิทัลในฝรั่งเศสและยุโรปสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทั่วโลกที่เลิกพึ่งพาการชําระเงินด้วยเงินสด การออกแบบและฟังก์ชันของ Cartes Bancaires ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปเหล่านี้ โดยมอบทั้งความสะดวกสบายและความปลอดภัย ระบบของ Cartes Bancaires ทำงานร่วมกับเครือข่ายบัตรต่างๆ เช่น Visa และ Mastercard ได้เป็นอย่างดี เห็นได้จากสัดส่วนการร่วมแบรนด์ของบัตร CB ซึ่งสูงถึง 95% ซึ่งช่วยอํานวยความสะดวกให้กับการใช้งานทั้งในประเทศและต่างประเทศ
บริบททางกฎหมาย
กรอบกฎหมายในฝรั่งเศสและสหภาพยุโรปกำหนดทิศทางให้กับการชําระเงินแบบดิจิทัล ระเบียบข้อบังคับอย่างเช่นกฎระเบียบว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (GDPR) และ PSD2 มีบทบาทสําคัญในการปกป้องข้อมูลและส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีทางการเงิน ความสําเร็จและการเติบโตของ Cartes Bancaires ภายในกรอบกฎหมายเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าบริษัทปฏิบัติตามข้อกําหนดและมีความสามารถในการปรับตัวตามบริบททางกฎหมายและทางการเงินที่เปลี่ยนแปลงไป
ใครคือผู้ที่ใช้ Cartes Bancaires
ถึงแม้ว่า Cartes Bancaires จะนิยมใช้ในฝรั่งเศสเป็นหลัก แต่ก็ให้บริการในประเทศอื่นๆ ด้วยเช่นกัน ต่อไปนี้เป็นรายละเอียดการใช้งานในภาคธุรกิจต่างๆ
ประเภทธุรกิจ
ร้านค้าปลีก: Cartes Bancaires ครองส่วนแบ่งตลาดในภาคธุรกิจค้าปลีกของฝรั่งเศส โดย 65% ของการซื้อสินค้าในครัวเรือนจะชำระด้วยบัตร CB ซึ่งรวมถึงร้านขายของชํา ร้านเสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า และอีกมากมาย
อีคอมเมิร์ซ: ธุรกิจออนไลน์ที่ต้องการเจาะกลุ่มลูกค้าในฝรั่งเศสจำเป็นต้องเสนอ Cartes Bancaires เป็นวิธีการชําระเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นการชําระเงินตามรอบบิล การชําระเงินตามแบบแผนล่วงหน้า และธุรกรรมที่มีมูลค่าสูงด้วยแล้ว
สถานบริการ: โรงแรม ร้านอาหาร และตัวแทนการเดินทางในฝรั่งเศสต่างก็ใช้ Cartes Bancaires เป็นวิธีการชําระเงินของผู้ใช้ที่ไม่ได้เข้าสู่ระบบบัญชี นอกจากนี้ ความคุ้นเคยและระบบรักษาความปลอดภัยก็ทําให้ Cartes Bancaires เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน
บริการสาธารณะ: ธุรกิจสาธารณูปโภคและหน่วยงานราชการมักจะรับชําระเงินจาก Cartes Bancaires สําหรับการชําระเงินตามใบเรียกเก็บและค่าธรรมเนียมการจัดการอื่นๆ ความสะดวกและความปลอดภัยทำให้การชําระเงินออนไลน์เป็นตัวเลือกยอดนิยม
ธุรกิจขนาดเล็ก: Cartes Bancaires มีค่าธรรมเนียมการประมวลผลที่ย่อมเยา จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสําหรับธุรกิจขนาดเล็กในฝรั่งเศส ไม่เพียงเท่านั้นยังนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย จึงตอบสนองความต้องการของลูกค้าในวงกว้างขึ้นด้วย
กลุ่มลูกค้า
ผู้พำนักอาศัยในฝรั่งเศส: Cartes Bancaires เป็นวิธีการชําระเงิน หลักสําหรับพลเมืองฝรั่งเศสส่วนใหญ่ โดยเหตุผลที่ทำให้ Cartes Bancaires เป็นวิธีการชำระเงินสำหรับการซื้อสินค้าและบริการในชีวิตประจําวัน ได้แก่ ความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และความพร้อมให้บริการ
นักท่องเที่ยวต่างประเทศ: นักท่องเที่ยวที่มาเยือนฝรั่งเศสจะพบว่าธุรกิจส่วนใหญ่ยอมรับการชำระเงินผ่าน Cartes Bancaires และการร่วมแบรนด์กับ Visa และ Mastercard ก็ทำให้ Cartes Bancaires สามารถนำไปใช้ในวงกว้างมากขึ้น แม้ว่านักท่องเที่ยวเหล่านี้จะไม่มีบัญชีธนาคารในฝรั่งเศสก็ตาม
คนยุคมิลเลนเนียลและคนเจน Z: คนรุ่นใหม่ในฝรั่งเศสที่ชื่นชอบความสะดวกสบายและโซลูชันดิจิทัลหันมาใช้การชําระเงินแบบไร้สัมผัส กันมากขึ้น ซึ่ง Cartes Bancaires มีทั้งบัตรเดบิตและบัตรเดรดิตสำหรับฟีเจอร์นี้
บุคคลทั่วไปที่มีรายได้สูง: Cartes Bancaires เป็นวิธีการชําระเงินที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือ บุคคลที่มีรายได้สูงจึงนิยมใช้ทำธุรกรรมและซื้อสินค้าและบริการทางออนไลน์ที่มีมูลค่าสูง
กรณีการใช้งานเฉพาะ
การซื้อในแต่ละวัน: Cartes Bancaires ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายสำหรับการใช้จ่ายในชีวิตประจําวันในฝรั่งเศส ตั้งแต่การซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคและเสื้อผ้า ไปจนถึงอาหารและความบันเทิง
การชําระเงินตามแบบแผนล่วงหน้า: ใบเรียกเก็บเงิน การชําระเงินตามรอบบิล และการชําระเงินตามแบบแผนล่วงหน้าแบบอื่นๆ สามารถจัดการได้อย่างราบรื่นผ่าน Cartes Bancaires โดยบริการออนไลน์จํานวนมากให้บริการชําระเงินอัตโนมัติผ่านเครือข่ายนี้
ช็อปปิ้งออนไลน์: อีคอมเมิร์ซเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง Cartes Bancaires จึงกลายมาเป็นวิธีการชําระเงินที่ได้รับความนิยมสําหรับการซื้อสินค้าออนไลน์ในฝรั่งเศส โดยได้รับความไว้วางใจในหมู่ลูกค้าเป็นอย่างดีเนื่องจากระบบการชําระเงินออนไลน์มีความปลอดภัยและเป็นที่คุ้นเคย
การเดินทางและการจอง: นักท่องเที่ยวสามารถจองโรงแรม เที่ยวบิน และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการเดินทางประเภทอื่นๆ ได้โดยใช้ Cartes Bancaires ซึ่งจะช่วยให้ทำธุรกรรมได้อย่างราบรื่นในต่างประเทศเนื่องจาก Cartes Bancaires ได้รับการยอมรับในต่างประเทศด้วยเช่นกัน
การชําระเงินแบบไร้สัมผัส: Cartes Bancaires ให้บริการชําระเงินแบบไร้สัมผัสผ่านเทคโนโลยี Tap to Pay ซึ่งช่วยให้ทำธุรกรรมได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่คนรุ่นใหม่และประชากรในเมืองใหญ่
หมายเหตุเพิ่มเติม
การร่วมแบรนด์: บัตร Cartes Bancaires กว่า 95% เป็นบัตรที่ร่วมแบรนด์กับ Visa หรือ Mastercard บัตรเหล่านี้จึงสามารถประมวลผลบนทั้งสองเครือข่าย รวมทั้งได้รับการยอมรับและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
การรักษาความปลอดภัย: Cartes Bancaires ใช้ฟีเจอร์การรักษาความปลอดภัยขั้นสูงเพื่อป้องกันการฉ้อโกง และการรั่วไหลของข้อมูล ซึ่งเป็นปัจจัยสําคัญในการสร้างความไว้วางใจและการนําไปใช้ในวงกว้าง
การชําระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่: กระเป๋าเงินดิจิทัล หลายเจ้าในฝรั่งเศสรองรับ Cartes Bancaires ซึ่งช่วยให้ชําระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย
Cartes Bancaires มีบทบาทสําคัญในการชําระเงินของฝรั่งเศสโดยสามารถรองรับธุรกิจและกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ความสะดวกสบาย ความปลอดภัย ตลอดความนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายเกือบทุกหนทุกแห่ง ทําให้ Cartes Bancaires เป็นทางเลือกที่เหมาะสําหรับการทําธุรกรรมในชีวิตประจําวัน การซื้อสินค้าและบริการทางออนไลน์ หรือแม้แต่การจองการเดินทาง ยิ่งไปกว่านั้น Cartes Bancaires ปรับตัวอย่างต่อเนื่องตามเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ โดยนําเสนอฟีเจอร์ล้ำสมัย เช่น การชําระเงินแบบไร้สัมผัสและกระเป๋าเงินดิจิทัล เพื่อให้ยังเป็นวิธีการชําระเงินชั้นนําในฝรั่งเศส
Cartes Bancaires ทํางานอย่างไร
Cartes Bancaires เป็นเครือข่ายการชําระเงินผ่านบัตรรายใหญ่ในฝรั่งเศสที่มีการผสานรวมฟังก์ชันบัตรเดบิตและบัตรเครดิต ซึ่งนอกจากจะเป็นผู้ให้บริการรายใหญ่ในตลาดฝรั่งเศสแล้ว ยังเป็นข้อพิจารณาที่สําคัญสําหรับธุรกิจที่ประกอบกิจการในฝรั่งเศสหรือกับฝรั่งเศสด้วย ต่อไปเราจะกล่าวถึงการดำเนินงานของ Cartes Bancaires โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากมุมมองของธุรกิจ
การออกบัตรและเครือข่าย
บัตร CB ออกโดยธนาคารสมาชิกของ Groupement des Cartes Bancaires CB ซึ่งเป็นสมาคมที่กําหนดมาตรฐานและกฎสําหรับบัตรเหล่านี้ เครือข่าย CB ดําเนินงานร่วมกับเครือข่ายบัตรต่างประเทศเช่น Visa และ Mastercard ซึ่งหมายความว่าบัตร CB มักจะมีแบรนด์ร่วมนั่นเอง ซึ่งฟังก์ชันทั้งสองอย่าางนี้ช่วยให้บัตรสามารถใช้งานในประเทศอื่นๆ นอกเหนือจากฝรั่งเศสด้วย
ขั้นตอนการทำธุรกรรม
การอนุมัติโดยเจ้าของบัตร: เมื่อลูกค้าใช้บัตร CB ทำธุรกรรม ลูกค้าจะสามารถตรวจสอบสิทธิ์โดยใช้หมายเลขประจําตัว (PIN) โดยเฉพาะกับธุรกรรมในร้านค้าจริง สําหรับธุรกรรมออนไลน์ การตรวจสอบสิทธิ์จะใช้โปรโตคอล 3D Secure ซึ่งเป็นการเพิ่มการรักษาความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่ง
การส่งข้อมูล: เทอร์มินัลการชําระเงิน (หรือเกตเวย์การชําระเงินออนไลน์) จะบันทึกรายละเอียดของบัตรและยอดธุรกรรม จากนั้นจึงเข้ารหัสและส่งข้อมูลนี้ให้กับธนาคารผู้ได้รับบัตรของธุรกิจ
การประมวลผลโดยสถาบันผู้รับบัตร: สถาบันผู้รับบัตรจะส่งต่อคําขอธุรกรรมนี้ไปยังบริษัทผู้ออกบัตรผ่านเครือข่าย CB หลังจากนั้น บริษัทผู้ออกบัตรจะตรวจสอบรายละเอียดธุรกรรม รวมถึงความถูกต้องของบัตรและความเพียงพอของเงินทุนหรือความพร้อมให้บริการของบัตรเครดิต
ผลการอนุมัติ บริษัทผู้ออกบัตรจะส่งการอนุมัติ (หรือการปฏิเสธ) ผ่านเครือข่ายไปยังสถาบันผู้รับบัตร และสถาบันผู้รับบัตรจะส่งต่อไปให้เทอร์มินัลหรือระบบออนไลน์ของธุรกิจ
การชําระเงินและค่าธรรมเนียม
การชําระเงินให้กับธุรกรรม: หลังจากอนุมัติ ระบบจะโอนเงินจากบริษัทผู้ออกบัตรไปให้สถาบันผู้รับบัตร ตามด้วยบัญชีของธุรกิจ ปกติแล้วกระบวนการชําระเงินนี้จะเกิดขึ้นภายใน 2-3 วัน
ค่าธรรมเนียมธุรกรรมผ่านบัตรระหว่างธนาคาร: ธุรกิจจะจ่ายค่าธรรมเนียมสําหรับธุรกรรมแต่ละรายการ ค่าธรรมเนียมเหล่านี้รวมค่าธรรมเนียมธุรกรรมผ่านบัตรระหว่างธนาคาร (ที่จ่ายให้กับธนาคารที่ออกบัตร) และค่าธรรมเนียมบริการของสถาบันผู้รับบัตรและผู้ประมวลผลการชําระเงิน ปัจจัยต่างๆ เช่น ประเภทธุรกรรมและหมวดหมู่ธุรกิจ จะมีผลต่อโครงสร้างค่าธรรมเนียมของ CB ด้วย
เราจะอธิบายเกี่ยวกับความปลอดภัยและการผสานการทํางานโดยละเอียดในภายหลัง แต่ด้านล่างนี้เป็นประเด็นสำคัญบางส่วนที่ธุรกิจควรทราบ
เทอร์มินัลการชําระเงินและเกตเวย์ออนไลน์: ธุรกิจต่างๆ ต้องผสานการทํางานกับเทอร์มินัลที่ใช้กับ CB ได้สำหรับการทำธุรกรรมที่จุดขาย หรือเกตเวย์การชําระเงินสำหรับการขายทางออนไลน์ ซึ่งมักจะต้องทํางานร่วมกับผู้ให้บริการชําระเงิน (PSP) ที่รองรับธุรกรรม CB
การปฏิบัติตามข้อกําหนดและการรักษาความปลอดภัย: การปฏิบัติตามมาตรฐาน เช่น มาตรฐานการรักษาความปลอดภัยข้อมูลสําหรับอุตสาหกรรมบัตรชําระเงิน (PCI DSS) เป็นสิ่งสําคัญ สําหรับธุรกรรมแบบ CB คุณจะต้องปฏิบัติตามข้อบังคับด้านการชําระเงินของฝรั่งเศสและยุโรป รวมถึงระเบียบการรักษาความปลอดภัยสําหรับการคุ้มครองข้อมูลของเจ้าของบัตรด้วย
การยอมรับอย่างแพร่หลายในฝรั่งเศส: บัตร CB นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในฝรั่งเศส ธุรกิจที่ประกอบกิจการในประเทศจึงจำเป็นต้องยอมรับวิธีการชำระเงินนี้ เนื่องจากจะช่วยให้ลูกค้าทําธุรกรรมได้อย่างราบรื่นและไร้อุปสรรค
การผสานการทํางานกับบัตรต่างประเทศ: การร่วมแบรนด์กับ Visa และ Mastercard ช่วยขยายฐานลูกค้าของ Cartes Bancaires ซึ่งมีความสําคัญกับธุรกิจที่ขายสินค้าหรือให้บริการลูกค้าในต่างประเทศ
ประโยชน์ของการรับชําระเงินด้วย Cartes Bancaires
การรับชําระเงินด้วย Cartes Bancaires มีประโยชน์หลายประการสําหรับธุรกิจ โดยเฉพาะผู้ที่ดําเนินธุรกิจในฝรั่งเศสหรือต้องการเจาะฐานลูกค้าในฝรั่งเศส ตัวอย่างข้อดี ได้แก่
การเข้าถึงตลาดและการหาลูกค้าใหม่
ความเป็นเจ้าตลาด: ในปี 2021 CB ครองส่วนแบ่ง 85% ของธุรกรรมผ่านบัตรทั้งหมดในฝรั่งเศส ซึ่งมีสัดส่วนสูงกว่า Visa (3%) และ Mastercard (5%)
ยอดขายเพิ่มขึ้น: ธุรกิจที่ยอมรับ CB จะมียอดขายเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับธุรกิจที่ไม่ได้เสนอวิธีการชำระเงินนี้ เนื่องจาก CB ได้รับความนิยมอย่างมาก
อัตราการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชําระเงินเพิ่มขึ้น: แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ผสานการทํางานกับ CB จะมีอัตราการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชําระเงินสูงขึ้นเนื่องจากลูกค้าในฝรั่งเศสได้รับความสะดวกสบายและคุ้นเคยกับวิธีการชำระเงินนี้อยู่แล้ว
ประสิทธิภาพในการดําเนินงานและการเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุน
ทําธุรกรรมได้รวดเร็วขึ้น: โดยเฉลี่ยแล้ว ระบบประมวลผลของ CB ใช้เวลาทำธุรกรรมเพียงไม่กี่วินาที ซึ่งรวดเร็วกว่าเครือข่ายอื่นๆ มาก จึงลดระยะเวลารอคอยของลูกค้าและเพิ่มประสิทธิภาพในการชําระเงิน
ค่าธรรมเนียมธุรกรรมผ่านบัตรระหว่างธนาคารที่ได้เปรียบในการแข่งขัน: ค่าธรรมเนียมการทําธุรกรรมผ่านบัตรระหว่างธนาคารของ CB เริ่มตั้งแต่ 0.20% ถึง 0.90% ตามข้อบังคับของสหภาพยุโรปสําหรับธุรกรรมบัตรเครดิตและเดบิต
ลดการสูญเสียจากการฉ้อโกง: ฟีเจอร์การรักษาความปลอดภัยขั้นสูงของ CB ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีชิปและ PIN และ EMV 3D Secure มีส่วนทําให้อัตราการฉ้อโกงลดลง
ข้อมูลเชิงลึกและการมีส่วนร่วมของลูกค้า
ข้อมูลลูกค้าโดยละเอียด: CB มอบข้อมูลประชากรของลูกค้า ประวัติการซื้อ และรูปแบบการใช้จ่ายโดยละเอียดแก่ธุรกิจต่างๆ ซึ่งคุณสามารถนำข้อมูลนี้ไปปรับแต่งแคมเปญการตลาด จัดโปรโมชันตามเป้าหมาย และแนะนําผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
รายรับตามแบบแผนล่วงหน้าเพิ่มขึ้น: ตัวเลือกการชําระเงินตามแบบแผนล่วงหน้าที่อํานวยความสะดวกโดย CB ช่วยให้ธุรกิจมีช่องทางสร้างรายรับที่คาดการณ์ได้แน่นอนและส่งเสริมความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาว
เพิ่มระดับความพึงพอใจของลูกค้า: ตัวเลือกการชําระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่แสนสะดวก เช่น Apple Pay และเชื่อมต่อกับ CB จะช่วยยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าและเพิ่มอัตราความพึงพอใจ ยิ่งไปกว่านั้น ตัวเลือกการชําระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ยังอาจช่วยให้ลูกค้าภักดีต่อแบรนด์มากขึ้นด้วย
การเติบโตเชิงกลยุทธ์และข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน
ชื่อเสียงของแบรนด์เพิ่มขึ้น: การยอมรับ CB เป็นวิธีการชำระเงินแสดงให้เห็นว่าธุรกิจมีความตั้งใจที่จะให้บริการลูกค้าในฝรั่งเศส ซึ่งช่วยส่งเสริมความไว้วางใจและความภักดีในหมู่ลูกค้า ทั้งยังช่วยให้ถูกพูดถึงในแง่บวกและแนะนำกันปากต่อปาก
นวัตกรรมและการเตรียมตัวสำหรับอนาคต: CB ลงทุนในงานวิจัยและพัฒนาร่วมกับธุรกิจสตาร์ทอัพด้านฟินเทคเพื่อสํารวจโซลูชันการชําระเงินขั้นสูง เช่น เทคโนโลยีบล็อกเชนและการตรวจสอบสิทธิ์ด้วยข้อมูลไบโอเมตริก ส่งผลให้ธุรกิจยังคงอยู่ในแนวหน้าของนวัตกรรมการชําระเงินและปรับตัวตามความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป
ศักยภาพในการขยายธุรกิจไปทั่วโลก: ความร่วมมือระหว่างประเทศของ CB ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ใช้ประโยชน์จากเครือข่ายของบริษัทในการทําธุรกรรมข้ามพรมแดนและอํานวยความสะดวกให้กับการขยายธุรกิจสู่ตลาดใหม่ๆ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มลูกค้าและโอกาสใหม่ๆ ในการสร้างรายรับ
มาตรการรักษาความปลอดภัยของ Cartes Bancaires
เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ Cartes Bancaires ปกป้องทั้งธุรกิจและลูกค้าด้วยแนวทางที่มีการใช้มาตรการหลายชั้น ด้านล่างคือรายละเอียดเกี่ยวกับฟีเจอร์ เทคโนโลยี และระเบียบข้อบังคับต่างๆ ในบริบทด้านการรักษาความปลอดภัยของ CB
เทคโนโลยีชิปและ PIN: บัตร CB แต่ละใบจะฝังชิปเอาไว้ โดยภายในชิปจัดเก็บข้อมูลเข้ารหัส รวมถึงข้อมูลบัญชีของเจ้าของบัตรและคีย์การเข้ารหัส ชิปนี้เป็นไปตามมาตรฐาน EMV ระหว่างประเทศ ทำใหใช้งานร่วมกับระบบการชําระเงินอื่นๆ ที่ใช้ชิปทั่วโลก ในการทำธุรกรรม เจ้าของบัตรต้องใช้ PIN ในการตรวจสอบสิทธิ์ PIN นี้จะไม่เก็บไว้ในบัตรเพื่อเพิ่มการป้องกันการใช้งานที่ไม่ได้รับอนุญาตอีกชั้นหนึ่ง
EMV 3D Secure: สําหรับธุรกรรมออนไลน์ CB จะใช้โปรโตคอล EMV 3D Secureที่เป็นมาตรฐานสากลมารักษาความปลอดภัยให้กับการชําระเงินออนไลน์ เมื่อเจ้าของบัตรเริ่มชําระเงินออนไลน์ ระบบจะนําเจ้าของบัตรไปที่เว็บไซต์ของธนาคารเพื่อทําการยืนยันเพิ่มเติม ซึ่งเจ้าของบัตรอาจจะต้องป้อนรหัสความปลอดภัยที่ระบบส่งให้ทาง SMS (ยืนยันโดย Visa) หรือแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ (Mastercard SecureCode) หรือใช้ฟีเจอร์การตรวจสอบสิทธิ์ด้วยข้อมูลไบโอเมตริกของอุปกรณ์เคลื่อนที่ เช่น ลายนิ้วมือหรือการจดจําใบหน้า
การแปลงเป็นโทเค็น: สําหรับการชําระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ CB จะใช้เทคโนโลยีการแปลงเป็นโทเค็นเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ระบบจะสร้างโทเค็นที่ไม่ซ้ำกันขึ้นมาแทนที่จะส่งข้อมูลบัตรจริงให้กับธุรกรรมแต่ละรายการ โทเค็นเหล่านี้เป็นแบบชั่วคราวและใช้ได้กับธุรกรรมดังกล่าวเท่านั้น จึงแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการฉ้อโกง นอกจากนี้แล้ว CB ยังใช้เทคโนโลยีอย่าง GlobalPlatform (GP) และ Secure Element (SE) ในกระเป๋าเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ เช่น Apple Pay เพื่อจัดเก็บและจัดการโทเค็นเหล่านี้อย่างปลอดภัย
การเข้ารหัสข้อมูล: ข้อมูลทั้งหมดที่ธุรกิจ ธนาคารผู้รับบัตร และเครือข่าย CB ส่งให้กันจะได้รับการเข้ารหัสโดยใช้อัลกอริทึมมาตรฐานอุตสาหกรรม เช่น AES-256 ทั้งนี้ก็เพื่อให้ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น ข้อมูลเจ้าของบัตรและรายละเอียดธุรกรรม ยังคงเป็นความลับและป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต CB ปฏิบัติตาม PCI DSS ซึ่งเป็นข้อกําหนดด้านความปลอดภัยที่เข้มงวดที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องข้อมูลเจ้าของบัตร ในการปฏิบัติตามข้อกําหนดนี้ ธุรกิจจะต้องดำเนินการตรวจสอบ ประเมินความเสี่ยง และใช้มาตรการควบคุมบางอย่างเพื่อดูแลให้ระบบมีความปลอดภัย
การติดตามตรวจสอบและการตรวจจับการฉ้อโกง: CB ใช้ระบบติดตามตรวจสอบการฉ้อโกงอันซับซ้อนมาวิเคราะห์รูปแบบธุรกรรมแบบเรียลไทม์ ระบบเหล่านี้ใช้อัลกอริทึมขั้นสูงและเทคนิคแมชชีนเลิร์นนิงเพื่อตรวจจับความผิดปกติและกิจกรรมน่าสงสัยที่อาจบ่งบอกถึงการพยายามฉ้อโกง จากนั้นจึงรายงานธุรกรรมที่น่าสงสัยเพื่อให้มีการสืบสวนเพิ่มเติมและทําการแทรกแซงอย่างทันท่วงที ซึ่งจะช่วยลดการสูญเสียได้
การทํางานร่วมกัน: CB ทํางานร่วมกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย สถาบันทางการเงิน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่นๆ อย่างเต็มที่เพื่อรับมือกับการฉ้อโกง และปรับปรุงความปลอดภัยโดยรวมของระบบการชําระเงิน ความร่วมมือดังกล่าวประกอบด้วยการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับภัยคุกคามที่กําลังเกิดขึ้น การพัฒนากลยุทธ์ใหม่ๆ เพื่อป้องกันการฉ้อโกง และการทํางานร่วมกันเพื่อนําผู้กระทําผิดมาเข้าสู่กระบวนยุติธรรม
การปฏิบัติตามข้อกําหนด
CB ปฏิบัติตามกรอบกฎหมายที่เข้มงวดซึ่งรวมถึงกฎข้อบังคับต่อไปนี้
GDPR ของสหภาพยุโรปซึ่งกํากับดูแลการเก็บรวบรวม การใช้ และการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
กฎหมายคุ้มครองข้อมูลแห่งฝรั่งเศส (Loi Informatique et Libertés) ซึ่งมอบความปลอดภัยเพิ่มเติมเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล
PSD2 ที่กํากับดูแลสภาพแวดล้อมการชําระเงินในยุโรปและออกข้อกําหนดด้านความปลอดภัยใหม่ๆ สำหรับการชําระเงินออนไลน์
การยอมรับ Cartes Bancaires เป็นวิธีการชําระเงิน
แม้ข้อกําหนดเฉพาะสําหรับการยอมรับ CB จะแตกต่างกันไปสําหรับธุรกิจในฝรั่งเศสและในต่างประเทศ แต่โดยรวมแล้วจะต้องร่วมมือกับผู้ให้บริการที่เหมาะสม สมัครใช้บัญชีผู้ค้า ผสานการทํางานกับเกตเวย์การชําระเงิน และปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ต่อไปนี้คือรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่คุณต้องรู้
สําหรับธุรกิจในฝรั่งเศส
เลือกธนาคารผู้รับบัตร: เป็นพาร์ทเนอร์กับธนาคารผู้รับบัตรในฝรั่งเศสที่ได้รับอนุญาตให้ประมวลผลธุรกรรม CB ตัวเลือกที่มี ได้แก่ ธนาคารแบบดั้งเดิม ผู้ให้บริการชําระเงินออนไลน์ และธุรกิจฟินเทค เราแนะนำให้คุณศึกษาและเปรียบเทียบค่าธรรมเนียม บริการ และตัวเลือกการผสานการทํางานของผู้ให้บริการแต่ละประเภท แล้วเลือกผู้ให้บริการที่เหมาะกับธุรกิจของคุณที่สุด
สมัครใช้บัญชีผู้ค้า: ส่งใบสมัครใช้งานบัญชีผู้ค้าให้กับธนาคารผู้รับบัตรที่คุณเลือก ซึ่งปกติแล้วจะต้องให้รายละเอียดของธุรกิจ งบการเงิน และเอกสารทางกฎหมาย นอกจากนี้ยังอาจจําเป็นต้องใช้เอกสารประกอบหรือการอนุมัติเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับธนาคารและประเภทธุรกิจของคุณ
ติดตั้งเทอร์มินัลหรือการผสานการทํางาน: ร้านค้าจริงจะต้องซื้อหรือเช่าเทอร์มินัลการชําระเงินที่รองรับ CB และตรวจสอบว่าเทอร์มินัลกล่าวรองรับเทคโนโลยีชิปและ PIN และการชําระเงินแบบไร้สัมผัส ธุรกิจอีคอมเมิร์ซต้องผสานการทํางานของเกตเวย์การชําระเงิน CB กับแพลตฟอร์มออนไลน์ของตน ผู้ให้บริการชําระเงินมักนําเสนอโซลูชันสําเร็จรูปสําหรับการผสานการทํางานแบบไม่ต้องดำเนินการด้วยตัวเอง
รับการอนุมัติจากธนาคารผู้รับบัตร: ธนาคารผู้รับบัตรจะตรวจสอบใบสมัคร รวมทั้งตรวจสอบข้อมูลของคุณ โดยอาจจะตรวจสอบเครดิตและยืนยันข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ เมื่อได้รับอนุมัติ คุณจะได้รับอุปกรณ์ที่จําเป็นและสิทธิ์เข้าถึงพอร์ทัลผู้ค้าสําหรับจัดการธุรกรรมและการชําระเงิน
ลงนามในสัญญาและชำระค่าธรรมเนียม: ตรวจสอบและลงนามในข้อตกลงของผู้ค้ากับธนาคารผู้รับบัตรที่คุณเลือก จากนั้นชําระค่าธรรมเนียมการเตรียมใช้งานและตกลงยอมรับค่าธรรมเนียมการดําเนินการและค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรม
สําหรับธุรกิจที่อยู่นอกฝรั่งเศส
ค้นหาพาร์ทเนอร์: ร่วมมือกับผู้ให้บริการชําระเงินที่มีความเชี่ยวชาญด้านการชําระเงินระหว่างประเทศ ซึ่งประมวลผลและรองรับการชําระเงินแบบ CB ผู้ให้บริการเหล่านี้สามารถจัดการการแปลงสกุลเงิน ธุรกรรมข้ามพรมแดน และการปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของฝรั่งเศส ธุรกิจควรศึกษาและเปรียบเทียบโดยพิจารณาจากค่าธรรมเนียม บริการ และประสบการณ์ในต่างประเทศของผู้ให้บริการชําระเงินแต่ละราย
สมัครใช้บัญชีผู้ค้า: สมัครใช้บัญชีผู้ค้ากับผู้ให้บริการชําระเงินที่คุณเลือก โดยทั่วไปแล้ว ธุรกิจจะต้องส่งเอกสารประกอบที่คล้ายคลึงกันกับธุรกิจในฝรั่งเศส แต่ผู้ให้บริการชําระเงินอาจมีข้อกําหนดเพิ่มเติมสําหรับธุรกิจในต่างประเทศโดยเฉพาะ เช่น การตรวจสอบเครดิตระหว่างประเทศ
ผสานการทํางานกับเกตเวย์การชําระเงิน: ผสานการทํางานเกตเวย์การชําระเงิน CB ของผู้ให้บริการชําระเงิน ที่คุณเลือกเข้ากับแพลตฟอร์มออนไลน์หรือร้านค้าอีคอมเมิร์ซของคุณ เกตเวย์นี้ควรรองรับวิธีการชําระเงินที่หลากหลาย รวมถึงบัตรที่มีชิปและ PIN และกระเป๋าเงินดิจิทัล เช่น Apple Pay
เปิดใช้งานบัญชีผู้ค้า: เมื่อใบสมัครได้รับอนุมัติ ผู้ให้บริการชำระเงินจะเปิดใช้งานบัญชีผู้ค้าของคุณและให้สิทธิ์เข้าถึงพอร์ทัลผู้ค้าเพื่อจัดการธุรกรรมและการชําระเงิน
ตรวจสอบอัตราและค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงิน: ทําความเข้าใจและยอมรับอัตราและค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินของผู้ให้บริการชำระเงินสําหรับการประมวลผลธุรกรรมระหว่างประเทศ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจอย่างชัดเจนเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องและเตรียมพร้อมสําหรับความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่อาจเกิดขึ้น
ข้อควรพิจารณาเพิ่มเติม
ปฏิบัติตามข้อกําหนดในฝรั่งเศส: ธุรกิจนอกฝรั่งเศสจะต้องปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของฝรั่งเศส รวมถึง PCI DSS และกฎหมายคุ้มครองข้อมูล
ทราบผลกระทบทางภาษี: ทําความเข้าใจว่าการรับชําระเงินด้วย CB อาจส่งผลต่อภาระหน้าที่ทางภาษีทั้งในประเทศบ้านเกิดของคุณและในฝรั่งเศสอย่างไร
ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการสนับสนุนลูกค้า: เลือกผู้ให้บริการชำระเงินที่ให้การสนับสนุนลูกค้าหลายภาษาเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้รับความช่วยเหลือเมื่อจําเป็น
ความแตกต่างของกฎการโต้แย้งการชําระเงิน: คุณควรทราบว่ากฎการโต้แย้งการชําระเงินของ CB, Visa และ Mastercard มีข้อแตกต่างหลักๆ 3 ประการ ที่แตกต่างจาก Visa และ Mastercard ก็คือ (1) เครือข่าย CB ไม่รองรับการโต้แย้งการชําระเงินทางการค้า (เช่น สินค้าที่ไม่ได้จัดส่ง) ดังนั้นผู้ซื้อจึงต้องแก้ไขปัญหานี้กับธุรกิจโดยตรง (2) CB ไม่ได้มอบทางเลือกให้ธุรกิจโต้แย้งการชําระเงินอันเนื่องมาจากเหตุผลด้านการฉ้อโกง และ (3) CB ไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการโต้แย้งการชําระเงิน
แพลตฟอร์มการประมวลผลการชําระเงิน ทางออนไลน์ระดับโลกอย่าง Stripe ช่วยให้ธุรกิจทั่วโลกรับชําระเงินจากต่างประเทศ รวมถึง Cartes Bancaires ได้ง่ายขึ้น
ต่อไปนี้คือวิธีที่ Stripe ช่วยอํานวยความสะดวกให้กับการยอมรับ CB และสิ่งที่ธุรกิจต้องทําเพื่อเริ่มใช้งาน
การรับชำระเงินด้วย CB ผ่าน Stripe
การเข้าถึงทั่วโลก: ธุรกิจทุกหนทุกแห่งบนโลกนี้สามารถใช้ Stripe รับชําระเงินผ่าน CB ได้ นี่คือข้อได้เปรียบสําหรับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซหรือธุรกิจที่มีฐานลูกค้าในต่างประเทศ
การเชื่อมต่อการทํางานกับระบบที่มีอยู่: แพลตฟอร์มของ Stripe ออกแบบมาเพื่อผสานการทํางานกับเว็บไซต์หรือระบบอีคอมเมิร์ซที่ธุรกิจมีอยู่ โดยเสนออินเทอร์เฟซการเขียนโปรแกรมแอปพลิเคชัน (API) และปลั๊กอินสําเร็จรูปให้กับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยม ทําให้เพิ่ม CB เป็นตัวเลือกการชําระเงินได้อย่างง่ายดาย
แพลตฟอร์มแบบครบวงจร: Stripe ให้บริการแพลตฟอร์มแบบครบวงจรสำหรับจัดการวิธีการชําระเงินที่หลากหลาย รวมถึง CB ซึ่งหมายความว่าธุรกิจจะจัดการธุรกรรม การคืนเงิน และข้อมูลลูกค้าในการชําระเงินทุกประเภทได้ในที่เดียว
วิธีเริ่มรับการชําระเงินด้วย CB ผ่าน Stripe
ตั้งค่าบัญชี Stripe ขั้นตอนแรกคือการสร้างบัญชี Stripe โดยการให้รายละเอียดของธุรกิจและดําเนินการยืนยันให้เสร็จสิ้น
ตั้งค่าการชําระเงิน: หลังจากสร้างบัญชี Stripe ให้ไปที่แดชบอร์ดเพื่อตั้งค่าการชำระเงิน โดยคุณจะสามารถเปิดใช้วิธีการชําระเงินต่างๆ รวมถึง Cartes Bancaires ด้วย แดชบอร์ดของ Stripe ใช้งานง่าย คุณจึงเลือกและเปิดใช้งานตัวเลือกการชําระเงินที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย
เชื่อมต่อกับเว็บไซต์หรือแอปของคุณ: ต่อไปให้ผสานการทํางาน Stripe กับเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของคุณ Stripe มีตัวเลือกการผสานการทํางานหลากหลายรูปแบบ ดังนี้
Stripe Checkout: Checkout เป็นหน้าการชําระเงินสําเร็จรูปในระบบของ Stripe ที่ผสานการทํางานและปรับแต่งได้อย่างง่ายดาย วิธีที่รวดเร็วในการเริ่มรับชําระเงิน เช่น CB
Stripe Elements: Stripe Elements มีคอมโพเนนต์ UI แบบปรับแต่งได้ที่ช่วยให้คุณสามารถสร้างประสบการณ์การชําระเงินของตัวเอง แต่หากคุณต้องการแนวทางที่ปรับแต่งได้มากกว่านี้ โปรดใช้ Elements เพื่อสร้างแบบฟอร์มการชําระเงินที่เหมาะกับรูปแบบเว็บไซต์ของคุณ
การผสานการทํางาน API: API ของ Stripe ช่วยให้ธุรกิจที่มีความต้องการเฉพาะเจาะจงหรือมีระบบของตัวเองอยู่แล้วสามารถผสานการทํางานที่ปรับแต่งได้มากขึ้น การใช้วิธีนี้จำเป็นต้องทำงานพัฒนาบางอย่าง แต่ก็มีความยืดหยุ่นมากที่สุด
ทดสอบการเชื่อมต่อการทํางาน: ก่อนจะเริ่มใช้งานจริง ให้ใช้โหมดทดสอบของ Stripeเพื่อตรวจสอบอีกครั้งว่าทุกอย่างเกี่ยวกับกระบวนการชําระเงินของคุณทํางานได้ตามที่คาดไว้ รวมทั้งทดสอบขั้นตอนการชําระเงินด้วย CB เพื่อยืนยันว่าธุรกรรมประมวลผลอย่างราบรื่น
ใช้งานจริง: หลังจากทดสอบอย่างละเอียดแล้ว ให้เปลี่ยนจากโหมดทดสอบเป็นโหมดใช้งานจริงในแดชบอร์ด Stripe เพียงเท่านี้เว็บไซต์หรือแอปของคุณก็รับชําระเงินผ่าน CB ได้แล้ว
ตัวเลือกอื่นๆ นอกเหนือจาก Cartes Bancaires
แม้ว่า Cartes Bancaires เป็นผู้นําในฝรั่งเศส แต่เราแนะนำให้คุณเสนอตัวเลือกการชําระเงินที่หลากหลายให้แก่ลูกค้า ต่อไปนี้คือตัวอย่างตัวเลือกหลักๆ ในฝรั่งเศสนอกเหนือจาก CB ข้อดีและข้อเสียของตัวเลือกต่างๆ ตลอดจนแนวทางการเปรียบเทียบ และผู้ที่อาจได้รับประโยชน์จากการใช้ตัวเลือกเหล่านี้
เครือข่ายการชําระเงินระหว่างประเทศ
วีซ่าและ Mastercard: เครือข่ายระดับโลกเหล่านี้เข้าถึงลูกค้าจำนวนมากและเป็นที่คุ้นเคย จึงเหมาะกับธุรกิจที่ให้บริการลูกค้าทั่วโลก นอกจากนี้เครือข่ายยังมีขนาดใหญ่ จึงช่วยให้ทำธุรกรรมข้ามพรมแดนได้อย่างราบรื่นและเข้าถึงฐานลูกค้าได้อย่างกว้างขวาง
ข้อดี: ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง เป็นที่คุ้นเคยของลูกค้าต่างประเทศ มีความปลอดภัย และสะดวกสบาย
ข้อเสีย: ค่าธรรมเนียมการประมวลผลสูงกว่า CB และอาจไม่ตอบโจทย์ลูกค้าในประเทศ
American Express: เครือข่ายระดับพรีเมียมนี้ให้บริการแก่ลูกค้าที่มีมูลค่าการใช้จ่ายสูงโดยมีชื่อเสียงของแบรนด์เป็นที่ประจักษ์ จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับธุรกิจที่จัดหาสินค้าหรูหราหรือบริการที่มีมูลค่าสูงอื่นๆ
ข้อดี: แบรนด์สื่อถึงความเอ็กซ์คลูซีฟและสิทธิพิเศษ จึงดึงดูดลูกค้าที่มีมูลค่าใช้จ่ายสูง
ข้อเสีย: อัตราการยอมรับกว่า Visa และ Mastercard ทั้งยังมีค่าธรรมเนียมการประมวลผลและค่าธรรมเนียมรายปีสูงกว่า
JCB: ถึงแม้ว่า JCB จะไม่แพร่หลายเท่าเครือข่ายอื่นๆ แต่ก็กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในฝรั่งเศส โดยเฉพาะในหมู่นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นและนักเดินทางที่มาทำธุรกิจ การยอมรับการชำระเงินผ่านบัตร JCB แสดงให้เห็นว่าธุรกิจมีความตั้งใจที่จะให้บริการแก่ตลาดในประเทศ พร้อมทั้งตอบสนองความต้องการของกลุ่มประชากรที่มีมูลค่าการใช้จ่ายสูง
ข้อดี: ตอบโจทย์ลูกค้าชาวญี่ปุ่นที่มีกำลังซื้อสูงและกำลังมีอัตราการยอมรับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ข้อเสีย: ได้รับการยอมรับในวงจำกัดเมื่อเทียบกับเครือข่ายขนาดใหญ่อื่นๆ
กระเป๋าเงินดิจิทัล
Apple Pay: Apple Pay เป็นกระเป๋าเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่มอบประสบการณ์การชําระเงินที่สะดวกและไร้สัมผัส ทําให้ได้รับความนิยมในกลุ่มลูกค้าที่มีความชํานาญด้านเทคโนโลยี คนรุ่นใหม่ และผู้อยู่อาศัยในเมือง
ข้อดี: สะดวก ปลอดภัย ไร้สัมผัส และกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ
ข้อเสีย: อาจต้องใช้สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ และมีการใช้งานอย่างจำกัดในกลุ่มประชากรอายุมากและอาศัยอยู่นอกเมือง
PayPal: PayPal คือแพลตฟอร์มการชําระเงินออนไลน์ระดับโลกที่มีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ในฝรั่งเศสและทั่วโลก จึงเป็นตัวเลือกที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งสําหรับธุรกิจที่ประกอบกิจการทางออนไลน์
ข้อดี: ปลอดภัย ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย และเป็นที่คุ้นเคยในหมู่ผู้ซื้อออนไลน์
ข้อเสีย: อาจเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจากธุรกิจและไม่เหมาะกับธุรกรรมที่หน้าร้าน
Lydia และ Paylib: กระเป๋าเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่เหล่านี้พัฒนาขึ้นในฝรั่งเศสและให้บริการชําระเงินจากบุคคลถึงบุคคลแบบฉับไว รวมถึงธุรกรรมที่หน้าร้าน ทำให้ได้รับความสนใจจากลูกค้าชาวฝรั่งเศสที่เชี่ยวชาญเทคโนโลยี
ข้อดี: ได้รับความนิยมในประเทศ สะดวกสบาย และฐานลูกค้ากำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
ข้อเสีย: ได้รับการยอมรับอย่างจำกัดในต่างประเทศเนื่องจากไม่เป็นที่คุ้นเคยในหมู่ลูกค้านอกฝรั่งเศส
วิธีการชําระเงินอื่นๆ
การหักบัญชีอัตโนมัติ: วิธีนี้ช่วยให้การชําระเงินตามแบบแผนล่วงหน้าสำหรับการชำระเงินตามรอบบิลและการเป็นสมาชิกเป็นไปอย่างราบรื่น จึงเหมาะสําหรับธุรกิจที่มีกระแสรายรับที่คาดการณ์ได้
ข้อดี: การชําระเงินได้รับการรับประกัน ลดค่าใช้จ่ายในการดูแลระบบ และเหมาะสําหรับการชําระเงินตามรอบบิล
ข้อเสีย: ต้องได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าและไม่เหมาะกับการซื้อแบบครั้งเดียว
กระเป๋าเงินดิจิทัลแบบเติมเงิน: กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์แบบเติมเงิน เช่น PCS Mastercard และ TransCash ได้รับความนิยมในหมู่คนรุ่นใหม่และผู้ที่ไม่มีบัญชีธนาคาร โดยเป็นทางเลือกทดแทนการใช้บัญชีธนาคารแบบดั้งเดิม
ข้อดี: สะดวก ผู้ที่ไม่มีบัญชีธนาคารสามารถเข้าถึงได้ และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง
ข้อเสีย: วงเงินน้อยกว่าและอาจสร้างข้อกังวลด้านความปลอดภัยได้
ทําความเข้าใจว่าใครเลือกวิธีการชําระเงินแบบไหน
นักท่องเที่ยวต่างชาติ: มีแนวโน้มที่จะใช้เครือข่ายระหว่างประเทศ เช่น Visa, Mastercard หรือ JCB
ลูกค้าที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี: นิยมการชำระเงินแบบไร้สัมผัส เช่น กระเป๋าเงินดิจิทัล (เช่น Apple Pay) หรือกระเป๋าเงินในประเทศ (เช่น Lydia, Paylib)
ผู้ซื้อออนไลน์: มีแนวโน้มที่จะเลือกใช้แพลตฟอร์มที่คุ้นเคย เช่น PayPal
ธุรกิจแบบชำระเงินตามรอบบิล: ได้รับประโยชน์จากการหักบัญชีอัตโนมัติเพื่อชําระเงินตามแบบแผนล่วงหน้า
ธุรกิจในอุตสาหกรรมต่างๆ: กระเป๋าเงินดิจิทัลหรือบริการเก็บเงินปลายทางน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี
การเปลี่ยนแปลงในตลาด
CB ยังคงเป็นเจ้าตลาดในฝรั่งเศส แต่ตัวเลือกอื่นๆ ก็กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เครือข่ายระหว่างประเทศเข้าถึงลูกค้าได้ทั่วโลก ส่วนกระเป๋าเงินดิจิทัลก็ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่เชี่ยวชาญเทคโนโลยีได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีทางเลือกที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะด้านและประชากรกลุ่มต่างๆ ดังนั้น ธุรกิจต้องคํานึงถึงกลุ่มเป้าหมาย ประเภทธุรกรรม ฐานลูกค้า ตําแหน่งที่ตั้ง และข้อควรพิจารณาอื่นๆ เพื่อเลือกใช้วิธีการชําระเงินที่เหมาะสมที่สุด
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ