ระบบการชำระเงินของโครเอเชียแสดงให้เห็นถึงมรดกทางวัฒนธรรมอันรุ่มรวยของประเทศและความพร้อมที่จะนำเทคโนโลยีการชำระเงินสมัยใหม่มาใช้ โดยคาดการณ์ว่าตลาดการชำระเงินดิจิทัลของประเทศจะมีมูลค่าธุรกรรมรวมแล้วสูงกว่า 7 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025 และธุรกิจที่วางแผนจะขยายธุรกิจไปสู่โครเอเชียจะได้รับประโยชน์จากแนวโน้มการเติบโตนี้
ข้อมูลด้านล่างนี้คือสิ่งที่เราจะช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ได้ไอเดียเกี่ยวกับกลยุทธ์สำหรับตลาดโครเอเชีย โดยดูจากองค์ประกอบเพื่อความสำเร็จที่สำคัญดังต่อไปนี้
- การรวมวิธีการชําระเงินต่างๆ
- การสร้างความเชื่อมั่นของลูกค้า
- การเสริมสร้างระบบป้องกันการฉ้อโกง
สถานะของตลาด
พฤติกรรมลูกค้าในโครเอเชียนั้นผสมผสานกันระหว่างประเพณีและความต้องการที่มีการเปลี่ยนแปลง แสดงให้เห็นแนวโน้มของยุโรปที่กว้างขึ้นอย่างการที่ชาวโครเอเชียหันมาใช้วิธีการชำระเงินดิจิทัลมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ถึงแม้การทำธุรกรรมด้วยเงินสดจะยังคงเป็นที่นิยม แต่การชำระเงินผ่านบัตร โดยเฉพาะบัตรเดบิตนั้นกลับได้รับความนิยมมากขึ้น การชำระเงินผ่านมือถือและธนาคารออนไลน์ก็ได้รับการยอมรับมากขึ้นด้วยเช่นกัน เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศนั้นมีการพัฒนา และความเชื่อมั่นในการทำธุรกรรมดิจิทัลก็เพิ่มมากขึ้นด้วย
การที่โครเอเชียเข้าร่วมสหภาพยุโรปในปี 2013 และการใช้สกุลเงินยูโรในปี 2023 ได้ช่วยผลักดันประเทศให้ก้าวไปสู่มาตรฐานของสหภาพยุโรป ซึ่งรวมถึงกฎระเบียบที่ให้ความสำคัญกับความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบธุรกรรมได้ โครเอเชียยึดมั่นในกรอบการกำกับดูแลการชำระเงินของสหภาพยุโรป ซึ่งรวมถึงคำสั่งสำหรับบริการชำระเงินฉบับปรับปรุง (PSD2) ที่ช่วยคงไว้ซึ่งสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเป็นมาตรฐานสำหรับผู้ให้บริการชำระเงิน และส่งเสริมการพัฒนาและการแข่งขัน
ธนาคารแห่งชาติโครเอเชีย (HNB) มีบทบาทสำคัญในนโยบายการเงินและเสถียรภาพทางการเงินของประเทศ โดยสำนักงานกำกับดูแลบริการทางการเงินโครเอเชีย (HANFA) มีหน้าที่กำกับดูแลภาคการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร ซึ่งรวมถึงตลาดทุน ประกันภัย และกองทุนบำเหน็จบำนาญ ทั้ง HNB และ HANFA ต่างก็มีบทบาทสำคัญในการทำให้ตลาดการเงินของโครเอเชียเป็นไปตามมาตรฐานของสหภาพยุโรป
วิธีการชําระเงิน
โครเอเชียเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ ณ จุดตัดระหว่างยุโรปกลางและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีระบบการชำระเงินมากมาย โดยมีรายละเอียดเพิ่มเติมดังต่อไปนี้
การใช้งานในปัจจุบัน
ถึงแม้การชำระด้วยเงินสดจะยังคงเป็นวิธีที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งคิดเป็นประมาณ 64.5% ของปริมาณธุรกรรมการชำระเงินทั้งหมดในปี 2022 แต่วิธีการแบบดิจิทัลกำลังได้รับความนิยมมากขึ้น โดยสภาการชำระเงินแห่งยุโรป (European Payments Council) ระบุว่า จำนวนการชำระเงินผ่านบัตรทั้งหมดเพิ่มขึ้นเกือบ 15% ในปี 2021 ซึ่งคิดเป็นครึ่งหนึ่งของธุรกรรมแบบไร้เงินสดทั้งหมด โดยที่บัตรเดบิตยังคงได้รับความนิยมมากกว่าบัตรเครดิต โดยประชากรที่มีบัตรเครดิตนั้นมีเพียง 30% ในขณะที่ผู้มีบัตรเดบิตนั้นสูงถึง 88% ในปี 2021 โดยภายในสิ้นปีดังกล่าว บัตรชำระเงินส่วนใหญ่ที่มีการออกให้นั้นสามารถใช้ชำระเงินแบบไร้สัมผัสได้
ในขณะที่วิธีการชำระเงินแบบดิจิทัลยังคงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในโครเอเชีย การชำระเงินผ่านมือถือจึงมีบทบาทสำคัญ คาดกันว่ามูลค่าธุรกรรม ณ จุดขาย (POS) บนมือถือจะเติบโตขึ้นประมาณปีละ 20% ในระหว่างปี 2025 ถึงปี 2030 จนกระทั่งมีมูลค่ารวมประมาณ 11,150,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าจะมีแพลตฟอร์มระดับนานาชาติอย่าง Apple Pay และ Google Pay อยู่ในโครเอเชีย แต่ผู้ให้บริการในประเทศก็กำลังขยายฐานลูกค้าเฉพาะกลุ่มเช่นกัน ตัวอย่างเช่น Aircash ซึ่งเป็นกระเป๋าเงินดิจิทัลที่อำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมต่างๆ ตั้งแต่การโอนเงินแบบ Peer-to-peer, การชำระเงินออนไลน์ ไปจนถึงการถอนเงินสดจากตู้ ATM
วิธีการชําระเงินแบบ B2C ที่ได้รับความนิยมในโครเอเชีย
- บัตรเครดิตและบัตรเดบิต (เช่น Zaba)
- กระเป๋าเงินดิจิทัล (เช่น Aircash)
- การโอนเงินผ่านธนาคาร
วิธีการชําระเงินแบบ B2B ที่ได้รับความนิยมในโครเอเชีย
- บัตรเครดิต
- การโอนเงินผ่านธนาคาร (เช่น SEPA)
- การโอนเงินระหว่างธนาคาร
แนวโน้มที่กําลังเกิดขึ้น
บริการซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง (BNPL) กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นทั่วยุโรป โดยคาดว่าการชำระเงินผ่าน BNPL จะสูงถึง 191,300,000,000 ดอลลาร์ในปี 2025 ถึงแม้บริการ BNPL จะได้รับความนิยมในประเทศต่างๆ เช่น สหราชอาณาจักรและสวีเดนอยู่แล้ว แต่บริการเหล่านี้ก็ยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในโครเอเชียด้วย
ความง่ายและความยากในการเข้าสู่ตลาด
การเข้าสู่ตลาดโครเอเชียนั้นเป็นเรื่องของกระบวนการเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับภาษี การชำระเงินระหว่างประเทศ และความปลอดภัยในการชำระเงิน โดยมีปัจจัยบางประการที่ควรพิจารณาดังต่อไปนี้
ภาษี
โครเอเชียจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในอัตรามาตรฐาน 25% สำหรับสินค้าและบริการส่วนใหญ่ ซึ่งถือเป็นอัตราที่สูงที่สุดในสหภาพยุโรป ถึงแม้ลูกค้าจะชำระภาษีนี้โดยตรง ณ จุดซื้อ แต่ธุรกิจต่างๆ จะต้องจัดเก็บและนำส่งภาษีนี้ให้แก่รัฐบาล ทำให้จำเป็นต้องมีการจัดการภาษีมูลค่าเพิ่มอย่างเหมาะสม เนื่องจากความคลาดเคลื่อนในการจัดเก็บและนำส่งภาษีอาจก่อให้เกิดปัญหาทางกฎหมายได้
การดึงเงินคืนและการโต้แย้งการชําระเงิน
โครเอเชียปฏิบัติตามกฎระเบียบของสหภาพยุโรปที่เอื้อต่อการคุ้มครองผู้บริโภค โดย PSD2 ถือเป็นรากฐานสำคัญของกฎระเบียบการชำระเงินของสหภาพยุโรป ซึ่งกำหนดให้มีการตรวจสอบสิทธิ์ลูกค้าแบบรัดกุม (Strong Customer Authentication: SCA) สำหรับธุรกรรมการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่ ข้อกำหนดสำหรับการยืนยันตัวตนที่เข้มงวดยิ่งขึ้นนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการดึงเงินคืนและการระงับการโต้แย้งการชำระเงิน เนื่องจากการแสดงให้เห็นว่ามีการยืนยันตัวตนที่เข้มงวดสามารถส่งผลต่อผลลัพธ์ของการเรียกร้องได้
นอกจากนี้ โครเอเชียยังบังคับใช้มาตรการคุ้มครองผู้บริโภคอย่างเข้มงวด ซึ่งทำให้ธุรกิจต้องรับภาระในการพิสูจน์ความถูกต้องของธุรกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ธุรกรรมไม่ได้รับอนุญาตหรือมีการโต้แย้งการชำระเงิน ซึ่งหมายความว่าธุรกิจในโครเอเชียต้องเตรียมพร้อมที่จะแสดงหลักฐานที่มีน้ำหนักพอเพื่อเป็นหลักฐานประกอบข้อเรียกร้องในข้อพิพาทเกี่ยวกับการดึงคืนเงิน
การชำระเงินระหว่างประเทศ
สถานะของโครเอเชียในฐานะจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวนั้นทำให้ธุรกิจต่างๆ จะได้รับประโยชน์จากการชำระเงินระหว่างประเทศถึงแม้จะเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ก็ตาม นี่คือสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการรับชำระเงินเหล่านี้
การแปลงสกุลเงิน
ธุรกิจหลายแห่งในโครเอเชียสามารถเข้าถึงฟีเจอร์หลายสกุลเงินผ่านบัญชีผู้ค้าของตนได้ โดยอัตราการแปลงสกุลเงินจะถูกกำหนดที่จุดขาย (POS) และโดยทั่วไปค่าธรรมเนียมจะอยู่ระหว่าง 1-3% ของยอดธุรกรรม ซึ่งค่าธรรมเนียมเหล่านี้สามารถส่งต่อให้ลูกค้า หรือธุรกิจจะเป็นผู้รับผิดชอบก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรูปแบบธุรกิจการโอนเงินในเขตพื้นที่การชําระเงินที่ใช้สกุลเงินยูโร (SEPA)
ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของเขต SEPA ลูกค้าและธุรกิจในโครเอเชียสามารถโอนเงินระหว่างประเทศสมาชิก 41 ประเทศได้อย่างคุ้มค่า เขต SEPA ช่วยให้การส่งเงินโอนและการหักบัญชีอัตโนมัติภายในยุโรปรวดเร็วและง่ายดายยิ่งขึ้นวิธีการชําระเงินจากตลาดใกล้เคียง
การยอมรับวิธีการชำระเงินจากภูมิภาคใกล้เคียง เช่น บัตร Bancomat ของอิตาลี สามารถช่วยให้ธุรกิจต่างๆ เพิ่มยอดขายในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติได้
การรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
แนวทางของโครเอเชียเกี่ยวกับความปลอดภัยในการชำระเงิน การปฏิบัติตามข้อกำหนด และกฎระเบียบต่างๆ สอดคล้องกับข้อกำหนดของสหภาพยุโรป โดยโครเอเชียรักษาความปลอดภัยในการชำระเงินโดยมุ่งเน้นที่การปกป้องข้อมูล การยืนยันตัวตนของลูกค้า และมาตรการป้องกันการฟอกเงิน (AML)
กฎหมายคุ้มครองข้อมูล
โครเอเชียปฏิบัติตามกฎระเบียบว่าด้วยการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคล (GDPR) เช่นเดียวกับประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปทุกประเทศ โดย GDPR กำหนดมาตรฐานที่เข้มงวดในการปกป้องข้อมูลของลูกค้า รวมถึงการขอความยินยอมสำหรับการรวบรวมข้อมูลอย่างชัดแจ้ง การแสดงความโปร่งใสในการจัดการข้อมูล และการอนุญาตให้บุคคลสามารถร้องขอให้ลบข้อมูลของตนออกจากฐานข้อมูลขององค์กรได้ พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภคของโครเอเชียยังห้ามมิให้ธุรกิจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเพื่อการโทรหรือส่งข้อความที่ไม่พึงประสงค์บทบาทของ PSD2
PSD2 เป็นกฎหมายสำคัญด้านการชำระเงินของโครเอเชีย โดยกฎหมายนี้บังคับใช้ SCA ซึ่งกำหนดให้ต้องมีการตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2 ปัจจัยสำหรับธุรกรรมส่วนใหญ่ การเพิ่มระดับความปลอดภัยนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อลดการฉ้อโกงและทำให้การชำระเงินปลอดภัยยิ่งขึ้นโครงการริเริ่ม AML
โครเอเชียมีกฎระเบียบที่เข้มงวดเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (AML) และการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย (CFT) ซึ่งสอดคล้องกับคำสั่งของสหภาพยุโรป สถาบันการเงินในโครเอเชียมีพันธะผูกพันที่จะต้องดำเนินมาตรการ AML และ CFT ซึ่งรวมถึงการติดตามและรายงานกิจกรรมทางการเงินที่น่าสงสัย การไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบเหล่านี้อาจส่งผลให้ได้รับโทษร้ายแรงได้การกํากับดูแลของรัฐบาล
HANFA เป็นหน่วยงานกำกับดูแลระดับชาติที่กำกับดูแลตลาดการเงินและสถาบันการเงิน มีบทบาทสำคัญในการรับประกันการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในการชำระเงินและ AML หน่วยข่าวกรองทางการเงินของโครเอเชียมีหน้าที่รับผิดชอบในการสืบสวนกิจกรรมทางการเงินที่น่าสงสัยเครือข่ายบัตรในประเทศ
Zaba เป็นเครือข่ายบัตรในประเทศโครเอเชีย ดำเนินการโดยธนาคาร Zagrebačka banka เครือข่ายนี้จะทำงานร่วมกับระบบการชำระเงินระหว่างประเทศ เช่น Visa และ Mastercard เพื่อความปลอดภัยในการทำธุรกรรมที่มากขึ้น และมีฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น รหัสความปลอดภัยแบบไดนามิก
ปัจจัยหลักที่ช่วยให้ประสบความสําเร็จ
โครเอเชียต้องเผชิญกับความเฉื่อยชาทางเทคโนโลยีและความเสี่ยงด้านความปลอดภัย รวมถึงอุปสรรคอื่นๆ อันเนื่องมาจากโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินดิจิทัลที่ยังไม่พัฒนาเท่าบางประเทศในยุโรป ทำให้ธุรกิจในโครเอเชียต้องมุ่งมั่นรับมือกับความท้าทายเหล่านี้เพื่อปกป้องการดำเนินงานด้านการชำระเงินภายในประเทศและการชำระเงินข้ามพรมแดน และนี่คือวิธีที่จะประสบความสำเร็จในตลาดนี้
ตัวเลือกการชําระเงินที่หลากหลาย
ชาวโครเอเชียกำลังค่อยๆ หันมาใช้เทคโนโลยีการชำระเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการชำระเงินผ่านมือถือ โดยชาวโครเอเชียประมาณ 44% ใช้โทรศัพท์มือถือหรืออินเทอร์เน็ตเพื่อซื้อสินค้าออนไลน์ในปี 2021 เทียบกับประมาณ 30% ในปี 2017 ซึ่งหมายความว่าธุรกิจต่างๆ ควรรองรับวิธีการชำระเงินหลายวิธีเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึงบัตรเครดิตและบัตรเดบิตแบบดั้งเดิม และบัตรแบบไร้สัมผัสความแตกต่างเฉพาะในท้องถิ่น
ออกแบบเว็บไซต์และอินเทอร์เฟซการชำระเงินของคุณให้ตอบรับกับชุมชนท้องถิ่นด้วยการแปลเป็นภาษาโครเอเชีย ยอมรับวิธีการชำระเงินท้องถิ่น เช่น บัตร Aircash และ Zaba เพื่อสร้างความไว้วางใจและเพิ่มอัตราการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชำระเงินระเบียบการโต้แย้งการชำระเงินผ่านบัตร
เนื่องจากมีการชำระเงินผ่านระบบดิจิทัลมากขึ้น การโต้แย้งและธุรกรรมฉ้อโกงผ่านเครื่องมือต่างๆ เช่น การตรวจสอบสิทธิ์แบบ 3D Secure สามารถช่วยป้องกันความเสียหายทางการเงินและชื่อเสียงต่อธุรกิจได้ โดยคุณต้องมีระบบการระงับข้อพิพาทที่มีประสิทธิภาพเตรียมพร้อมไว้อยู่เสมอธุรกรรมระหว่างประเทศที่ดำเนินการง่าย
การทำธุรกรรมนอกเขต SEPA มาพร้อมกับความท้าทายหลายประการ ซึ่งรวมถึงความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและกฎระเบียบที่ทับซ้อนกัน ซึ่งอาจทำให้การทำธุรกรรมข้ามพรมแดนมีความซับซ้อนทั้งสำหรับธุรกิจและลูกค้า
ประเด็นสำคัญ
ธุรกิจที่ดำเนินงานในโครเอเชียสามารถปรับปรุงประสบการณ์การชำระเงินได้ด้วยการใช้กลยุทธ์ที่คำนึงถึงความต้องการในท้องถิ่น กฎระเบียบ และพลวัตของตลาด นี่คือบทสรุปพร้อมแนวทางเฉพาะเพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จในประเทศนี้
กำหนดให้มีวิธีการชําระเงินที่หลากหลาย
รองรับวิธีการชำระเงินในท้องถิ่น
ถึงแม้การชำระเงินด้วยบัตรจะเป็นวิธีที่แพร่หลาย แต่ธุรกิจต่างๆ ก็ควรพิจารณาตัวเลือกในท้องถิ่น เช่น Aircash เพื่อแสดงให้เห็นถึงความรู้เกี่ยวกับตลาดในประเทศและทำให้ธุรกรรมสะดวกยิ่งขึ้นปรับเปลี่ยนตามความต้องการชําระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
เนื่องจากการชำระเงินผ่านมือถือกำลังได้รับความนิยมในโครเอเชีย ธุรกิจต่างๆ ควรปรับระบบการชำระเงินให้สอดคล้องกับความต้องการเหล่านี้ โดยตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีกระบวนการชำระเงินที่รองรับการใช้งานบนมือถือ เพื่อมอบประสบการณ์การชำระเงินที่สะดวกและง่ายดายให้กับลูกค้าผ่านสมาร์ตโฟนใช้ SEPA สําหรับการหักบัญชีอัตโนมัติ
ธุรกิจที่มีรูปแบบการชำระเงินตามรอบบิลหรือมีรายได้ประจำจะได้รับประโยชน์จากการใช้เกตเวย์การชำระเงินที่สอดคล้องกับ SEPA
สร้างความไว้วางใจจากลูกค้า
การสนับสนุนแบบเรียลไทม์
นำเสนอวิธีการสนับสนุนลูกค้าที่เข้าถึงได้ทันที เช่น การแชทสด เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาการชำระเงินได้อย่างรวดเร็วทําให้ขั้นตอนการคืนเงินเป็นเรื่องง่าย
การกำหนดกระบวนการคืนเงินที่โปร่งใส นโยบายที่ชัดเจน และการตอบสนองต่อคำขอคืนเงินอย่างรวดเร็วจะช่วยสร้างความภักดีของลูกค้ารองรับตัวเลือกภาษา
เนื่องจากประชากรส่วนใหญ่พูดภาษาโครเอเชีย การแปลอินเทอร์เฟซการชำระเงินเป็นภาษาท้องถิ่นจึงเป็นสิ่งจำเป็น และไม่ใช่แค่การแปลภาษาเท่านั้น แต่ควรปรับให้เข้ากับท้องถิ่นเพื่อสร้างประสบการณ์ที่เข้าถึงได้และใช้งานง่ายยิ่งขึ้น
เสริมสร้างระบบป้องกันการฉ้อโกง
ปกป้องข้อมูลลูกค้า
ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามาตรฐานการปกป้องข้อมูลของคุณสอดคล้องกับระเบียบข้อบังคับ GDPR และแจ้งให้ทราบถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับข้อมูลอย่างชัดเจนป้องกันการฉ้อโกงในการชำระเงิน
ใช้เครื่องมือตรวจจับการฉ้อโกงด้วยแมชชีนเลิร์นนิง ใช้การตรวจสอบสิทธิ์แบบ 3D Secure สำหรับธุรกรรมออนไลน์ และใช้การตรวจสอบสิทธิ์แบบหลายปัจจัยสำหรับบัญชีลูกค้าเฝ้าระวังอยู่เสมอ
คอยติดตามความก้าวหน้าล่าสุดในด้านความปลอดภัยในการชำระเงิน และตรวจสอบความปลอดภัยของระบบการชำระเงินเป็นประจำเพื่อตรวจหาช่องโหว่ต่างๆ
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ