การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-paymentได้กลายเป็นมาตรฐานใหม่ในการประกอบธุรกิจในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล โดยเป็นตัวเลือกที่นักช้อปชาวไทยเลือกใช้เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการซื้อสินค้าหรือบริการ โดยการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ไม่เพียงช่วยประหยัดเวลา แต่ยังปลอดภัย และช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้างขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผล และตอบโจทย์ความต้องการในการทำธุรกรรมทั้งในและต่างประเทศ
ในบทความนี้ เราจะสำรวจการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย รวมถึงวิธีการชำระเงินต่างๆ ที่ได้รับความนิยม และธุรกิจใดที่ควรพิจารณานำวิธีการชำระเงินนี้ไปใช้ นอกจากนี้ เราจะมาพูดถึงวิธีการเลือกวิธีที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณด้วย
เนื้อหาหลักในบทความ
- การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์คืออะไร
- ช่องทางการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ยอดนิยมในไทย
- ธุรกิจใดบ้างที่ต้องใช้ระบบ การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
- การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างไร
- วิธีเลือกช่องทางการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
- Stripe Payments ช่วยอะไรได้บ้าง
e-payment คืออะไร
การชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-payment หรือ Electronic payment) คือ กระบวนการทำธุรกรรมการเงินที่สามารถทำได้ผ่านระบบดิจิทัลโดยไม่ต้องใช้เงินสดหรือเช็ค กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศไทยเนื่องจากเป็นช่องทางชำระเงินที่สะดวกและปลอดภัย ทั้งสำหรับผู้บริโภคและธุรกิจต่างๆ ที่เริ่มหันมาใช้ e-payment เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า เช่น การชำระเงินผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ, QR code, พร้อมเพย์, เว็บไซต์ หรือกระเป๋าเงินดิจิทัล
นอกจากนี้รัฐบาลยังมีการสนับสนุนระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ด้วยแผนยุทธศาสตร์ National e-payment เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ โดยมีโครงการสำคัญ เช่น พร้อมเพย์ (PromptPay), Thai QR code และดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาลในการส่งเสริมให้ประชาชนและธุรกิจสามารถใช้บริการเทคโนโลยีทางการเงินได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
ช่องทางการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ยอดนิยมในไทย
ในประเทศไทย มีช่องทางการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์หลายวิธีที่ใช้งานกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งประกอบด้วยช่องทางต่อไปนี้
โมบายแบงก์กิ้ง
แอปพลิเคชันธนาคารอุปกรณ์เคลื่อนที่ช่วยให้ผู้ใช้โอนเงินและชำระค่าสินค้าหรือบริการได้ทันที ซึ่งช่วยลดความจำเป็นในการใช้เงินสดและลดความซับซ้อนของกระบวนการ ซึ่งวิธีนี้มีปลอดภัยและมีการตรวจสอบ PIN หรือการยืนยันข้อมูลไบโอเมตริก เช่น ลายนิ้วมือหรือการสแกนใบหน้า
พร้อมเพย์ (PromptPay)
PromptPay เป็นเครื่องมือโอนเงินภายในประเทศ ผู้ใช้สามารถเชื่อมโยงบัญชีธนาคารของตนกับหมายเลขโทรศัพท์หรือหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อรับและโอนเงินได้อย่างสะดวกโดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยที่ธุรกรรมนั้นต้องอยู่ภายในขีดจำกัดที่ระบุไว้ ขั้นตอนของ PromptPay นั้นสั้นกว่าและถูกกว่าเมื่อเทียบกับการโอนเงินรูปแบบอื่นๆ
กระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital Wallet)
บัญชีเงินออนไลน์ที่ผู้ใช้สามารถเติมเงินด้วยการโอนเงินผ่านธนาคาร การฝากเงินผ่านเอทีเอ็ม บริการผ่านเคาน์เตอร์ หรือการเชื่อมโยงบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต เพื่อใช้จ่ายเป็นค่าสินค้าหรือข้อเสนอได้อย่างสะดวก ปลอดภัย และรวดเร็ว แอปกระเป๋าเงินยอดนิยมในประเทศ ได้แก่ LINE Pay, ShopeePay และ TrueMoney
รหัส QR
หากต้องการชำระเงินผ่านการสแกนรหัส QR ด้วยแอปโมบายแบงก์กิ้งหรือกระเป๋าเงินเคลื่อนที่ ผู้ชำระเงินเพียงแค่เข้าสู่ระบบและเลือกเมนู "สแกนรหัส QR" จากนั้นคุณจะทำการซื้อได้ทันทีโดยไม่ต้องพกเงินสดหรือบัตร ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการเปิดเผยหมายเลขบัตรได้ ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็ว เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและการช้อปปิ้งทางอินเทอร์เน็ต
ลิงก์ชำระเงิน (Payment Link)
ธุรกิจสามารถสร้างและส่งลิงก์ชำระเงินไปยังลูกค้าผ่านโซเชียลมีเดีย อีเมล หรือข้อความ SMS ซึ่งระบบจะนำลูกค้าไปยังหน้าชำระเงินที่ปลอดภัยเมื่อคลิกที่ URL ลิงก์เดียวสามารถนำเสนอวิธีการชำระเงินได้หลายวิธี เช่น บัตรเครดิต, PromptPay และกระเป๋าเงินดิจิทัล ซึ่งช่วยให้คุณยอมรับการชำระเงินออนไลน์ได้โดยไม่ต้องใช้เว็บไซต์ แอป หรือ API (อินเทอร์เฟซโปรแกรมของแอปพลิเคชัน) ดังนั้น ขั้นตอนทั้งหมดจึงตรงไปตรงมาและรวดเร็ว
บัตรเครดิตและบัตรเดบิต
การซื้อทางอินเทอร์เน็ตหรือผ่านเครื่องรูดบัตรจะต้องอาศัยข้อมูลบนบัตร ซึ่งรวมถึงหมายเลข วันหมดอายุ และรหัส CVV (รหัสยืนยันบัตร) บัตรเครดิตเป็นรูปแบบการกู้ยืมที่จัดหาโดยสถาบันการเงิน ซึ่งช่วยให้เจ้าของบัตรใช้จ่ายได้ทันทีและชำระคืนทีหลัง ในทางกลับกัน บัตรเดบิตจะหักเงินจากยอดคงเหลือในบัญชีทันทีเมื่อธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์ ทำให้ชำระเงินได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย คุณต้องเลือกผู้ให้บริการที่มีมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยและระบบป้องกันการฉ้อโกง เช่น PCI DSS, 3D Secure และการยืนยันตัวตนโดยใช้รหัสผ่านครั้งเดียว (OTP)
ซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง
ซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง หรือ BNPL เป็นตัวเลือกทางการเงินที่ช่วยให้ผู้ซื้อชำระเงินด้วยการผ่อนชำระตั้งแต่ 3 ถึง 12 เดือน (ขึ้นอยู่กับข้อตกลงและผู้ให้บริการ) โดยปกติแล้วจะไม่มีดอกเบี้ยหรือไม่ต้องวางเงินดาวน์ อัตราดอกเบี้ยต่ำ หากชำระตรงเวลา ซึ่งช่วยลดภาระในการใช้จ่ายและช่วยเพิ่มความสะดวกในการซื้อในชีวิตประจำวัน แพลตฟอร์ม BNPL ชั้นนำในไทย ได้แก่ Atome, Lazada PayLater, PayLater by Grab, Pay Next by TrueMoney และ SPayLater by Shopee
บัตรเติมเงิน
ตัวเลือกการชำระเงินล่วงหน้าที่ช่วยให้ผู้ใช้ซื้อบัตรที่มีมูลค่าที่เติมไว้ล่วงหน้าได้ เมื่อชำระค่าสินค้าหรือบริการทางออนไลน์ ระบบจะหักเงินที่จัดเก็บไว้จากบัตรโดยตรง จึงไม่จำเป็นต้องเชื่อมโยงบัญชีธนาคารหรือ บัตรชำระเงินเพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัย หากบัตรสูญหายหรือถูกขโมย ความเสียหายจะจำกัดอยู่เฉพาะยอดคงเหลือในบัตร เช่น บัตรสำหรับใช้บริการขนส่งมวลชนหรือ บัตรเติมเงินสำหรับเกมออนไลน์
เกตเวย์การชำระเงิน
เกตเวย์การชำระเงินคือแพลตฟอร์มกลางที่จัดการการตรวจสอบและส่งรายละเอียดการชำระเงินที่ปลอดภัยระหว่างผู้ขายกับเครือข่ายบัตรหรือธนาคาร เช่น ในระหว่างการชำระเงินบนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซหรือแอป เมื่อผู้ซื้อทำการซื้อ เกตเวย์จะเข้ารหัสข้อมูลและยืนยันความถูกต้องของข้อมูลก่อนที่จะส่งข้อมูลไปยังบริษัทผู้ออกบัตรเพื่อขออนุมัติ โดยใช้มาตรฐานระดับสากลและระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูง ซึ่งรวมถึง PCI DSS ซึ่งมีฟีเจอร์การป้องกันการฉ้อโกงที่หลากหลาย สามารถรับเงินได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยโดยไม่ต้องเก็บข้อมูลบัตรไว้เอง
เทคโนโลยี NFC (Near Field Communication)
เทคโนโลยีการสื่อสารแบบไร้สายในระยะใกล้ (NFC) ใช้สำหรับการชำระเงินแบบไร้สัมผัส เช่น การแตะบัตรเครดิต/บัตรเดบิต หรือระบบบันทึกการขาย (POS) ที่รองรับระบบ NFC หรือเครื่องอ่านบัตร SoftPOS ช่วยให้คุณทำการซื้อได้โดยไม่ยุ่งยาก การแตะเพียงครั้งเดียวจะทำให้ขั้นตอนเสร็จสิ้นได้โดยไม่ต้องเสียบบัตรหรือป้อน PIN (ในบางกรณี)
ธุรกิจใดบ้างที่ต้องใช้ระบบ การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
ระบบ การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์เหมาะกับธุรกิจหลายประเภทในหลากหลายอุตสาหกรรมเพื่อตอบสนองความคาดหวังในความสะดวก ความเร็ว และความปลอดภัยในการทำธุรกรรม เช่น
อีคอมเมิร์ซ: เว็บไซต์และแพลตฟอร์มออนไลน์ได้รับประโยชน์จากการตั้งค่าการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้ลูกค้าสามารถชำระเงินได้อย่างสะดวกและรวดเร็วผ่านหลากหลายวิธี เช่น โมบายแบงก์กิ้ง, PromptPay หรือลิงก์ชำระเงิน ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ซื้อสินค้าได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย
บริการ: ธุรกิจบริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจที่ต้องมีการจอง เช่น การเดินทาง โรงแรม และสายการบิน ช่วยให้ผู้ใช้ชำระเงินล่วงหน้าได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจองตั๋วล่วงหน้าและเพิ่มโอกาสในการปิดการขาย
ธุรกิจค้าปลีก: รับชำระเงินด้วยรหัส QR, แอปพลิเคชันบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ หรือเทคโนโลยี NFC ในร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร และคาเฟ่ เพื่อรองรับการทำงานของแคชเชียร์ที่ราบรื่นและบริการลูกค้าที่รวดเร็ว
องค์กรขนาดเล็กและขนาดกลาง (SME): SME ใช้ระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและดึงดูดนักช้อปรายใหม่ๆ ด้วยการทำให้การชำระเงินเป็นเรื่องง่าย เช่น การขายอาหาร ขนม หรือผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่จำหน่ายหน้าร้านหรือผ่านทางบริการจัดส่ง
ธุรกรรมข้ามพรมแดน: การดำเนินการเหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจข้ามพรมแดนได้รับเงินจากผู้ซื้อในต่างประเทศได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสามารถจัดการหลายสกุลเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การเงิน: การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ยังเหมาะกับธุรกิจหรือองค์กรที่ต้องการแพลตฟอร์มที่สามารถจัดการเงินและธุรกรรมจำนวนมากได้อย่างปลอดภัย
พลังงานและสาธารณูปโภค: การชำระเงินตามใบเรียกเก็บเงินค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ต หรือค่าแก๊สบนเว็บ โดยเฉพาะการไฟฟ้าหรือการประปา ได้เริ่มใช้ระบบลิงก์ชำระเงินเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและความรวดเร็วให้กับลูกค้า และลดเวลาทำงานของพนักงาน
การขนส่งและโลจิสติกส์: ผู้ใช้สามารถชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ ซึ่งช่วยลดการจัดการเงินสดและลดเวลาในการรับเงินเมื่อใช้บริการ Grab, LINE MAN, แท็กซี่, รถเมล์, การส่งพัสดุ และโลจิสติกส์ภายในประเทศ
อสังหาริมทรัพย์: การจองบ้านหรือคอนโด โดยชำระค่าเช่าหรือค่าส่วนกลางผ่านระบบ การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ช่วยลดขั้นตอนในการโอนเงินและทำให้ติดตามเส้นทางการนำส่งเงินง่ายขึ้น
การศึกษา: สถาบันการศึกษาที่ให้บริการชำระค่าเล่าเรียนทางออนไลน์หรือการลงทะเบียนทางออนไลน์สามารถใช้แพลตฟอร์มการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักเรียนหรือผู้ปกครอง
สุขภาพและความงาม: เครื่องมือไร้เงินสดช่วยรองรับการชำระเงินที่รวดเร็วในโรงพยาบาล ร้านขายยา คลินิกความงาม สปา ร้านเสริมความงาม หรือร้านนวด
ความบันเทิงและสันทนาการ: การใช้การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ช่วยให้จองตั๋วล่วงหน้าและชำระค่าบริการต่างๆ ได้ง่ายขึ้น เช่น โรงหนัง สวนสนุก สวนน้ำ สวนสัตว์ พิพิธภัณฑ์ หรือคอนเสิร์ต
e-payment มีประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างไร
ระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์เป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้บริโภคและธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งประโยชน์ของ e-payment นั้นมีมากมายหลายข้อ ดังนี้
ความสะดวกสบายและรวดเร็ว
การใช้ e-payment ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถชำระเงินหรือโอนเงินได้ทันที สามารถทำธุรกรรมได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพิ่มความพึงพอใจและความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภค ตอบโจทย์ความต้องการของคนยุคใหม่ที่มักคาดหวังบริการที่ทันสมัยและรวดเร็ว
บริหารจัดการการเงินได้ง่าย
ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบข้อมูลทางการเงินและประวัติการทำธุรกรรมย้อนหลังได้ทันที ติดตามและจัดการการเงินได้ง่าย ทั้งการโอนเงิน จ่ายบิล หรือชำระค่าสินค้า ทำให้การบริหารจัดการการเงินเป็นไปอย่างมีระบบ
เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน
ธุรกรรมแบบเรียลไทม์ทำให้ธุรกิจสามารถมอบบริการที่เหนือกว่าและมีประสิทธิภาพสูงกว่าคู่แข่ง ธุรกิจที่สามารถปรับใช้ระบบ e-payment ได้เร็วจะมีความได้เปรียบในการแข่งขัน ช่วยขยายฐานลูกค้า ดึงดูดลูกค้าใหม่ และรักษาลูกค้าเก่าได้ดียิ่งขึ้น
มาตรการความปลอดภัย
เทคโนโลยีที่รองรับธุรกรรมแบบเรียลไทม์มีความสามารถในการระบุหาและตรวจจับธุรกรรมที่ผิดปกติด้วย AI ช่วยป้องกันการฉ้อโกงและทุจริตพร้อมระบบความปลอดภัยขั้นสูงสุด มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยหลายชั้น เช่น การยืนยันตัวตนด้วย OTP, ไบโอเมตริก หรือการใช้โทเค็น (Tokenization)
ส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล
การใช้ e-payment เป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจไทยสู่สังคมไร้เงินสด (Cashless society) ร้านค้าสามารถรับชำระเงินได้ง่ายขึ้นและลดค่าใช้จ่ายจากการเก็บเงินสด นอกจากนี้ e-payment ยังมักมีโปรโมชันหรือส่วนลดต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคจับจ่ายใช้สอย เพิ่มความคุ้มค่าและช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย
วิธีเลือกช่องทางการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
การเลือกเส้นทางที่เหมาะสมเป็นองค์ประกอบสำคัญในการดำเนินงานที่ประสบความสำเร็จ ผู้ประกอบการต้องพิจารณาปัจจัยเหล่านี้เมื่อตัดสินใจใช้การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
ตอบโจทย์ความต้องการทางธุรกิจ
ผู้ให้บริการประเภทต่างๆ มีความต้องการที่แตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่น ธุรกิจขนาดเล็กอาจต้องการลงทะเบียนบริการที่มีค่าธรรมเนียมธุรกรรมต่ำ ในทางตรงกันข้าม ธุรกิจขนาดใหญ่อาจเลือกการตั้งค่าที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการโอนเงินที่รวดเร็วและปลอดภัย โดยราคาเป็นข้อพิจารณารองลงไป หรือร้านค้าที่มีหน้าร้านจะได้ประโยชน์จากการชำระเงินด้วยรหัส QR หรือเทอร์มินัล POS
ความสะดวกในการใช้งาน
เลือกเส้นทางที่ตรงไปตรงมาและเป็นมิตรต่อนักช้อป การตั้งค่าต้องมีความยืดหยุ่น มีการคุ้มครองเป็นอย่างดี และเชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เครื่องมือการทำบัญชี หรือระบบบริหารจัดการทางการเงินของผู้ขายได้อย่างราบรื่น เช่น การรองรับการทำธุรกรรมบนอุปกรณ์เคลื่อนที่หรือบนเว็บไซต์ ควรใช้ข้อมูลการตลาดเพื่อพิจารณาตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะนำเสนอ โดยทำความเข้าใจว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณต้องการอะไรบ้างในการซื้อสินค้าหรือบริการ จากนั้นจึงเลือกวิธีการชำระเงินที่เหมาะสมที่สุด
ระบบรักษาความปลอดภัยและการป้องกันการฉ้อโกง
คุณต้องเลือกระบบที่มีการปกป้องความเป็นส่วนตัวสูงและมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด ผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซมีตัวเลือกการชำระเงินที่มีระดับการปกป้องสูงซึ่งคุ้มครองทั้งลูกค้าและธุรกิจจากการฉ้อโกง เช่น การตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2 ปัจจัย (2FA) และการเข้ารหัสข้อมูล ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจในทุกขั้นตอนของการชำระเงิน นอกจากนี้ ธนาคารและผู้ให้บริการชำระเงินยังต้องปฏิบัติตามมาตรฐาน PCI DSS และพัฒนาฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับการป้องกันอีกด้วย
ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม
การทำความเข้าใจรายละเอียด ตั้งแต่การประมวลผลการเรียกเก็บเงินไปจนถึงค่าใช้จ่ายแอบแฝง จะช่วยหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่ไม่จำเป็นได้ โดยปกติแพลตฟอร์มส่วนใหญ่จะเรียกเก็บค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมถึงการโอนเงิน บัตรเครดิต และค่าธรรมเนียมการชำระเงินตามรอบบิลรายเดือน เจ้าของธุรกิจควรเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายเหล่านี้และเลือกรูปแบบที่ตรงกับความต้องการและเหมาะกับงบประมาณของตน
รองรับการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน
สำหรับองค์กรที่ให้บริการผู้ซื้อจากต่างประเทศจำนวนมากหรือผู้ที่จัดการธุรกรรมข้ามพรมแดนจำนวนมาก การศึกษาค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินและอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจะช่วยจัดการการดำเนินงาน รับมือกับความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน จำกัดความเสี่ยง และช่วยให้รายรับจากการขายมีความมั่นคงขึ้น
การบริการลูกค้า
คุณควรเลือกผู้ให้บริการเกตเวย์การชำระเงินที่ให้บริการลูกค้าด้วยความเชี่ยวชาญและพร้อมให้บริการตลอดเวลา โดยเฉพาะบริการหลังการขาย หากมีปัญหาเกิดขึ้นระหว่างใช้งาน ทีมสนับสนุนที่ไว้วางใจจะช่วยลดความตึงเครียดและช่วยให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปอย่างราบรื่น
Stripe Payments ช่วยเหลือคุณได้อย่างไร
Stripe Payments มอบโซลูชันการชำระเงินระดับโลกแบบครบวงจรที่ช่วยให้ธุรกิจใดๆ ตั้งแต่สตาร์ทอัพที่กำลังเติบโตไปจนถึงองค์กรระดับโลกรับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกได้
Stripe Payments สามารถช่วยคุณทำสิ่งต่อไปนี้
- เพิ่มประสิทธิภาพให้ประสบการณ์การชำระเงินของคุณ: สร้างประสบการณ์ที่ราบรื่นให้กับลูกค้าและประหยัดเวลาในการทำงานวิศวกรรมได้หลายพันชั่วโมงด้วย UI การชำระเงินที่สร้างไว้ให้แล้ว, สิทธิ์เข้าถึงวิธีการชำระเงินมากกว่า 125 วิธี และ Link ซึ่งเป็นกระเป๋าเงินที่สร้างโดย Stripe
- ขยายไปสู่ตลาดใหม่ๆ ได้เร็วขึ้น: เข้าถึงลูกค้าทั่วโลกและลดความซับซ้อนและค่าใช้จ่ายในการจัดการหลายสกุลเงินด้วยตัวเลือกการชำระเงินข้ามพรมแดนที่มีให้บริการใน 195 ประเทศในมากกว่า 135 สกุลเงิน
- รวมการชำระเงินที่จุดขายและทางออนไลน์ไว้ด้วยกัน: สร้างประสบการณ์การค้าแบบแพลตฟอร์มรวมในช่องทางออนไลน์และที่จุดขายเพื่อปรับแต่งการโต้ตอบ ตอบแทนความภักดี และเพิ่มรายรับ
- ปรับปรุงประสิทธิภาพการชำระเงิน: เพิ่มรายรับด้วยเครื่องมือการชำระเงินที่กำหนดเองได้และปรับแต่งได้ง่ายๆ ซึ่งรวมถึงระบบป้องกันการฉ้อโกงแบบไม่ต้องเขียนโค้ดและฟังก์ชันขั้นสูงเพื่อเพิ่มอัตราการอนุมัติ
- เดินหน้าได้เร็วขึ้นด้วยแพลตฟอร์มที่ยืดหยุ่นและเชื่อถือได้เพื่อการเติบโต: สร้างบนแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อขยับขยายไปพร้อมกับคุณ โดยมีระยะเวลาให้บริการที่แทบจะไม่หยุดทำงานเลย และมีความน่าเชื่อถือระดับแนวหน้าของวงการ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมว่า Stripe Payments ช่วยให้คุณสามารถรับการชำระเงินออนไลน์และการชำระเงินที่จุดขายได้อย่างไร หรือเริ่มใช้งานเลยวันนี้
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ