ในการทำธุรกิจในยุคดิจิทัล “ความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย” กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้บริโภคและทุกธุรกิจต่างมองหา เทคโนโลยี QR Code ในประเทศไทยมีจุดเริ่มต้นจากนโยบาย National e-Payment และการผลักดันของธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการชำระเงิน อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนและความเสี่ยงในการจัดการเงินสด แรงสนับสนุนทั้งจากทางภาครัฐและสถาบันการเงิน ทำให้เกิดกระแสการใช้ QR Code ซึ่งส่งผลให้การรับจ่ายเงินผ่านช่องทางดิจิทัลได้รับความเชื่อถือจากทั้งผู้ประกอบการรายย่อยและร้านค้า ช่วยให้ธุรกิจสามารถเพิ่มยอดขายได้อย่างง่ายๆ และลูกค้าทั่วไปเชื่อมั่นในความปลอดภัย จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจและชีวิตประจำวันในยุคดิจิทัล
เนื้อหาหลักในบทความ
- ทำความรู้จักการชำระเงินด้วย QR Code
- ประโยชน์ของการใช้ QR Code
- ธุรกิจที่เหมาะกับการใช้ QR Code
- ช่องทางชำระเงินใดบ้างที่รองรับการใช้ QR Code
- แนวทางการเลือกผู้ให้บริการ QR Code
- วิธีสร้าง QR Code เพื่อรับเงินกับ Stripe
- เพิ่มยอดขายได้ง่ายๆ ด้วย QR Code
ทำความรู้จักการชำระเงินด้วย QR Code
QR Code ย่อมาจาก Quick Response Code (หรือ รหัส QR) เป็นรหัสสองมิติที่สามารถเก็บข้อมูลได้มากกว่าบาร์โค้ดแบบดั้งเดิม สามารถสแกนผ่านสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์สแกนอื่นๆ เพื่อให้ลูกค้าสามารถชำระเงินหรือเข้าถึงข้อมูลสินค้าต่างๆ ได้ทันที
ในประเทศไทย QR Code เริ่มเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในช่วงปี 2016-2017 ที่ภาครัฐและสถาบันการเงินชั้นนำได้ร่วมมือกันผลักดันและสนับสนุนการใช้จ่ายผ่านระบบดิจิทัลกับโครงการ National e-Payment จึงทำให้ช่องทางการชำระเงินอย่างพร้อมเพย์ (PromptPay) และรหัส QR (QR Code) เริ่มมีบทบาทสำคัญในระบบชำระเงินในประเทศไทย
ผู้ใช้งานพร้อมเพย์สามารถสร้าง QR Code ของตนเองเพื่อรับเงิน โอนเงิน หรือชำระเงินได้อย่างสะดวก ทำให้เกิดการขยายตัวของธุรกรรมแบบไร้เงินสดไปยังผู้ค้าแผงลอย ร้านค้าทั่วไป และคนทั่วไปในวงกว้าง ร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-Eleven ที่มีกว่า 14,215 สาขาในประเทศไทย เริ่มเปิดให้ลูกค้าสามารถสแกนจ่ายด้วย QR Code ในช่วงเดือนกันยายนปี 2024 โดยนำร่องใน 232 สาขาทั่วประเทศ
แม้แต่วัดและมูลนิธิต่างๆ ในประเทศไทยก็เริ่มติดตั้ง QR Code เพื่อรับบริจาคผ่านระบบพร้อมเพย์ เป็นการช่วยเพิ่มยอดบริจาคและอำนวยความสะดวกให้ผู้บริจาคสามารถบันทึกข้อมูลการบริจาคในระบบของกรมสรรพากรเพื่อใช้ลดหย่อนภาษี
การชำระเงินผ่านการสแกน QR Code ด้วยแอปธนาคารหรือแอปกระเป๋าเงินดิจิทัลบนโทรศัพท์มือถือ ผู้ใช้เพียงเปิดแอป เลือกเมนูสแกนรหัส QR แล้วสามารถทำรายการชำระเงินได้ในทันทีโดยไม่ต้องพกเงินสดหรือบัตรเครดิต สะดวกและรวดเร็ว เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันและการค้าขายออนไลน์
ประโยชน์ของการใช้ QR Code
ผู้บริโภคในปัจจุบันมีความคุ้นเคยกับการชำระเงินแบบดิจิทัลมากขึ้นเรื่อยๆ หากธุรกิจรองรับการจ่ายด้วย QR Code ก็เท่ากับสามารถปรับตัวทันทันไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค จากรายงาน Digital 2023 Global Overview ของ We are social คนไทยมีการใช้ QR Code เพื่อสแกนจ่ายเงิน รับข่าวสาร และยืนยันตัวตน ติดเป็นอันดับท็อป 5 ของโลกในปี 2023 เพราะฉะนั้น การรับชำระเงินด้วย QR Code จึงเป็นหนึ่งในวิธีที่จะช่วยให้ทุกธุรกิจสามารถเพิ่มยอดขายได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังเป็นการสร้างโอกาสให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการได้ง่ายขึ้น เนื่องจากสามารถใช้งานได้ร่วมกับหลายแอปพลิเคชันของธนาคารและกระเป๋าเงินดิจิทัล ร้านค้าสามารถฝัง QR Code บนหน้าเว็บไซต์ ใช้แปะหน้าเคาน์เตอร์ร้านหรือตามโต๊ะในร้านอาหาร ลูกค้าเพียงใช้กล้องสมาร์ทโฟนสแกนรหัส QR ก็ชำระเงินได้ทันที
ประโยชน์ของการใช้ QR Code ในการดำเนินธุรกิจ มีดังนี้:
- เพิ่มยอดขาย: ธุรกิจที่ใช้การสแกนรหัส QR นั้นได้เปรียบในแง่การแข่งขัน เพราะการสแกนจ่ายเงินกลายเป็นเรื่องง่าย รวดเร็ว และปลอดภัย จึงช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ไวขึ้น เกิดความเชื่อมั่น และกลับมาซื้อซ้ำได้สูง
- สะดวกและง่ายต่อการใช้งาน: เพียงมีแอปพลิเคชันธนาคารหรือแอปชำระเงินอื่นๆ ลูกค้าก็สามารถสแกน QR Code เพื่อชำระเงินได้ทันทีโดยไม่ต้องพกเงินสด ประหยัดเวลาในการทำธุรกรรม
- อำนวยความสะดวกให้ผู้ขาย: ลดความซับซ้อนในการติดตั้งระบบ แค่ฝัง QR Code บนหน้าเว็บไซต์หรือหน้าชำระเงินออนไลน์ เพียงเท่านี้ก็พร้อมรับชำระเงิน
- ปลอดภัย: การชำระเงินผ่าน QR Code มีระบบรักษาความปลอดภัยของธนาคารและผู้ให้บริการต่างๆ รองรับ สามารถตรวจสอบประวัติย้อนหลังได้ ลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในการทำธุรกรรม
- ประหยัดต้นทุน: ลดความยุ่งยากในการติดตั้งระบบรับบัตรหรืออุปกรณ์ POS หรือเครื่องรูดบัตรเครดิตแบบเดิมๆ สำหรับร้านค้าที่มีหน้าร้าน
- ประหยัดเวลา: เพราะมีขั้นตอนการชำระเงินที่สะดวกและรวดเร็วแล้ว จึงช่วยลดเวลาการต่อคิวให้ธุรกิจที่มีหน้าร้าน โดยเฉพาะร้านสะดวกซื้อ
- เสริมสร้างภาพลักษณ์: การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการรับชำระเงิน ช่วยให้ร้านค้าหรือแบรนด์ดูทันสมัยและน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
- ช่วยลดความผิดพลาด: ไม่ต้องพิมพ์เลขบัญชี ลดความผิดพลาดหรือไม่สะดวกในการกรอกข้อมูล
- เก็บข้อมูลการขายได้ง่าย: เมื่อมีการสแกน QR Code เพื่อชำระเงิน การเก็บข้อมูลการซื้อขายจึงสามารถทำได้อย่างสะดวก ช่วยให้ร้านค้าติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลการขายได้อย่างแม่นยำ
ธุรกิจที่เหมาะกับการใช้ QR Code
ธุรกิจในทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก เช่น คาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ แม้แต่รถเข็นขายผลไม้ หรือธุรกิจขนาดใหญ่ เช่น ธุรกิจขนส่ง ท่องเที่ยว หรือสถาบันการศึกษา ต่างเล็งเห็นประโยชน์นี้และหันมาใช้รหัส QR เป็นช่องทางรับเงิน ตัวอย่างธุรกิจที่เหมาะกับการใช้ QR Code มีดังนี้
- ธุรกิจออนไลน์: สามารถอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า เพียงส่ง QR Code ให้ลูกค้าผ่านช่องทางสื่อสารออนไลน์ หรือฝัง QR Code ในหน้าการชำระเงิน ลูกค้าก็สามารถสแกนจ่ายได้ทันที รองรับทั้งลูกค้าที่ใช้โมบายแบงก์กิ้งและกระเป๋าเงินดิจิทัล
- ธุรกิจที่มีหน้าร้านทุกขนาด: การใช้ QR Code ช่วยอำนวยความสะดวกให้ธุรกิจทุกขนาด ตั้งแต่ร้านริมทางไปจนถึงร้านอาหารขนาดใหญ่ที่ต้องการลดการใช้จ่ายเงินสด เพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าและทำให้ลูกค้าอุ่นใจว่าไม่ต้องสัมผัสกับเงินสด
- ร้านค้าปลีกและร้านอาหาร: การติดสติกเกอร์ QR Code ที่หน้าเคาน์เตอร์หรือโต๊ะอาหารจะช่วยให้ลูกค้าสามารถสแกนและชำระได้ทันที สะดวกและลดการใช้เงินสด
- ธุรกิจขนาดเล็กหรือสตาร์ทอัพ: เนื่องจากติดตั้งและใช้งานได้ง่าย ไม่ซับซ้อน และมีค่าธรรมเนียมต่ำ จึงช่วยประหยัดงบประมาณได้เมื่อเทียบกับการติดตั้งระบบขายหน้าร้าน (POS) ที่มีต้นทุนค่อนข้างสูง
- บริษัทจัดงานอีเว้นท์: ลูกค้าสามารถสแกน QR Code เพื่อชำระค่าบัตรเข้างานหรือบริการต่างๆ เช่น งานคอนเสิร์ต งานสัมมนา ได้โดยตรง
- ธุรกิจท่องเที่ยว: นอกจากจะใช้เพื่อเพิ่มยอดขายได้แล้ว QR Code ยังเป็นเครื่องมือชั้นดีในการโปรโมท องค์กรระดับประเทศอย่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยติดตั้ง QR Code ตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เพื่อให้ข้อมูลส่งเสริมการท่องเที่ยวในหลากหลายภาษา
- ธุรกิจขนส่ง: สายการบินและบริษัทเดินรถ บขส.ให้บริการตั๋วดิจิทัลที่มี QR Code สำหรับสแกนเมื่อขึ้นรถหรือเข้าเกทเครื่องบิน นอกจากการปรินท์ตั๋วกระดาษที่มีรหัส QR ลูกค้ายังสามารถนำ QR Code ในแอปโทรศัพท์มือถือไปใช้สแกนได้เลย ลดการใช้กระดาษ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ช่องทางชำระเงินใดบ้างที่รองรับการใช้ QR Code
มีช่องทางชำระเงินหลากหลายที่รองรับการชำระเงินผ่าน QR Code ซึ่งเงื่อนไขขึ้นอยู่กับแต่ละผู้ให้บริการ เช่น:
- โมบายแบงก์กิ้ง: ธนาคารเกือบทุกแห่งในประเทศไทยรองรับการสแกนและสร้าง QR Code เพื่อโอนและรับเงิน เช่น K PLUS, SCB, Bangkok Bank, Krungsri
- กระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital Wallet): เช่น TrueMoney, LINE Pay, Shopee Pay, Apple Pay และ Google Pay ที่รองรับการสแกน QR Code
- พร้อมเพย์ (PromptPay): ทำรายการง่ายผ่านการสแกนเพื่อไปยังข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์หรือเลขบัตรประชาชนที่ผูกไว้กับบัญชีธนาคาร
- เกตเวย์การชําระเงิน (Payment Gateway): บริการทางการเงินที่สามารถสร้าง QR Code เพื่อรองรับการชำระเงินอย่างเป็นระบบในสกุลเงินหรือรูปแบบที่กำหนดได้
แนวทางการเลือกผู้ให้บริการรับชำระเงินด้วย QR Code
ควรมีการพิจารณาเลือกผู้ให้บริการรับชำระเงินตามปัจจัยหลักๆ ดังนี้
- มาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล มีระบบป้องกันการฉ้อโกง และเป็นไปตามมาตรฐาน PCI DSS มั่นใจได้ในความปลอดภัยของข้อมูลและการทำธุรกรรม สามารถตรวจสอบได้ว่าระบบจะแสดง QR Code ในรูปแบบที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการปลอมแปลงหรือแก้ไขโดยไม่ได้รับอนุญาต
- ค่าธรรมเนียมเหมาะสม ผู้ประกอบการควรเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมการใช้บริการระหว่างผู้ให้บริการหลายเจ้า เพื่อเลือกบริการที่คุ้มค่าและเหมาะกับปริมาณของธุรกรรม
- ตัวเลือกช่องทางการชำระเงิน สามารถเชื่อมกับธนาคารและกระเป๋าเงินดิจิทัลที่หลากหลาย เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้เลือกชำระเงินตามช่องทางที่ต้องการ
- การเชื่อมต่อกับอีคอมเมิร์ซ มี API และปลั๊กอินสำหรับเว็บไซต์และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ทำให้สามารถติดตั้ง QR Code ได้ง่ายไม่ซับซ้อน
เมื่อเลือกผู้ให้บริการได้แล้วก็ควรดำเนินการลงทะเบียนใช้บริการสร้าง QR Code ซึ่งขั้นตอนพื้นฐานมักจะมีการกรอกข้อมูลธุรกิจหรือข้อมูลส่วนตัว ตามด้วยการยืนยันตัวตนและผูกบัญชีกับธนาคารเพื่อรับเงิน
วิธีสร้าง QR Code เพื่อรับเงินกับ Stripe
ขั้นตอนในการสร้าง QR Code อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละผู้ให้บริการ ซึ่ง Stripe ได้มีการขยายบริการเพื่อรองรับการสร้าง QR Code พร้อมด้วย API และปลั๊กอินสำหรับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ช่วยให้การติดตั้งรหัส QR ทำได้ง่าย ไม่ซับซ้อน สามารถดำเนินการได้ตามขั้นตอน (หลังลงทะเบียน ID ผู้ค้า) ดังนี้
- กรอกรายละเอียดการชําระเงิน ประกอบด้วย ID ผู้ค้า จำนวนเงินธุรกรรม และรายละเอียดสำหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการนั้นๆ
- สร้าง QR Code คลิกที่ปุ่ม "สร้าง" จากนั้นรหัส QR เฉพาะจะถูกสร้างขึ้น ซึ่งจะเชื่อมโยงกับข้อมูลการชําระเงินที่ได้กรอกไว้
- ทดสอบ QR Code ก่อนนำรหัส QR ไปใช้ ควรทดสอบด้วยการสแกนเองดูก่อน เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของบัญชีผู้รับเงินและรายละเอียดการชําระเงิน
- พร้อมใช้ สามารถนำ QR Code ไปติดหน้าร้าน บนเว็บไซต์ ใบเสร็จรับเงิน โบรชัวร์ หรือตามโซเชียลมีเดีย เพื่อให้ลูกค้าสแกนจ่ายได้เลย
หลังจากสร้าง QR Code กับ Stripe ตามขั้นตอนที่ได้กล่าวมานี้ ลูกค้าจะสามารถสแกนจ่ายผ่านช่องทางชำระเงินที่ต้องการได้ทันที และมั่นใจได้ว่ารหัส QR นี้จะอยู่ในรูปแบบที่ปลอดภัย ลดความเสี่ยงต่อการปลอมแปลงหรือแก้ไขโดยไม่ได้รับอนุญาต
เพิ่มยอดขายได้ง่ายๆ ด้วย QR Code
ธุรกิจทุกขนาดตั้งแต่ร้านค้ารายย่อยไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ สามารถใช้ประโยชน์จาก QR Code ในการเพิ่มยอดขายได้จริง เพราะเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น และเพิ่มโอกาสในการกลับมาซื้อซ้ำ นอกจากนี้ การพิจารณาเลือกผู้ให้บริการที่มีความน่าเชื่อถือ มีค่าธรรมเนียมที่เหมาะสม และรองรับช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย จะยิ่งช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างมั่นคง
การใช้ QR Code ในประเทศไทยนั้น ไม่ได้เป็นเพียงช่องทางชำระเงินทางเลือกอีกต่อไป แต่ได้ก้าวขึ้นมาเป็นวิธีชำระเงินลำดับต้นๆ เป็นเครื่องมือให้ธุรกิจสามารถเพิ่มยอดขาย สร้างฐานลูกค้าประจำ และปรับตัวเข้าสู่สังคมไร้เงินสดได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และไม่ว่าคุณจะสร้างรหัส QR ผ่านธนาคารในประเทศ หรือใช้แพลตฟอร์มระดับโลกอย่าง Stripe คุณก็สามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ยกระดับภาพลักษณ์ธุรกิจ และเพิ่มยอดขายได้ง่ายๆ ด้วย QR Code
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ