ซื้อก่อน, จ่ายทีหลัง: ดีลง่ายสบายกระเป๋า

Payments
Payments

รับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกด้วยโซลูชันการชำระเงินที่สร้างมาสำหรับธุรกิจทุกขนาด ตั้งแต่ธุรกิจสตาร์ทอัพไปจนถึงองค์กรใหญ่ระดับโลก

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. ทำความรู้จัก ’ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง’ ในประเทศไทย
    1. ’ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง’ มีผลต่อคะแนนเครดิตบูโร (Credit Score) หรือไม่
    2. ’ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง’ แตกต่างกับการผ่อนจ่ายผ่านบัตรเครดิตอย่างไร
  3. ประโยชน์ของบริการ ’ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง’
    1. ประโยชน์สำหรับลูกค้า
    2. ประโยชน์สำหรับผู้ค้า
  4. แนวโน้มการเติบโตของบริการ BNPL
    1. เพิ่มยอดขายในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาด้วย Affirm กับ Stripe
  5. ’ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง’ ดีลง่ายสบายกระเป๋า

บริการ “ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง” หรือ “Buy Now, Pay Later” (BNPL) เป็นเทรนด์ชำระเงินดิจิทัลรูปแบบใหม่ที่กำลังมาแรงในประเทศไทย โดย BNPL นั้นเกิดจากการขยายตัวอันรวดเร็วของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย จุดเด่นของบริการนี้คือการให้ผู้ซื้อสามารถเป็นเจ้าของสินค้าได้ทันที แล้วค่อยทยอยจ่ายชำระภายหลังเป็นงวดๆ ตามกำหนด ซึ่งช่วยแบ่งเบาภาระการชำระเงินก้อนใหญ่ในคราวเดียว มาพร้อมเงื่อนไขการแบ่งจ่ายที่หลากหลายตามข้อตกลงของแต่ละแพลตฟอร์ม

“ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง” ไม่เพียงตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคเท่านั้น แต่ผู้ประกอบการเองก็ได้ประโยชน์จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน เพราะช่วยส่งเสริมให้ร้านค้าออนไลน์สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ได้ด้วยวิธีการชำระเงินในรูปแบบที่ยืดหยุ่น ปิดดีลได้ง่าย แถมสบายกระเป๋า ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับบริการ “ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง” ในบริบทของประเทศไทย ประโยชน์ที่ผู้ค้าและผู้บริโภคจะได้รับ ไปจนถึงเทรนด์การเติบโตออนไลน์ของบริการ BNPL

เนื้อหาหลักในบทความ

  • ทำความรู้จัก "ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง" ในประเทศไทย
  • ประโยชน์ของบริการ "ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง"
  • แนวโน้มการเติบโตของบริการ BNPL
  • "ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง" ดีลง่ายสบายกระเป๋า

ทำความรู้จัก "ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง" ในประเทศไทย

"ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง" หรือ “Buy Now, Pay Later” (BNPL) เป็นช่องทางชำระเงินรูปแบบใหม่ โดยมีแนวคิดพื้นฐานมาจากระบบผ่อน 0% ของบัตรเครดิต มีการพัฒนาขึ้นจากการเติบโตอันรวดเร็วของตลาดอีคอมเมิร์ซ โดยเฉพาะในช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้แพลตฟอร์มช็อปปิ้งออนไลน์ในประเทศไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดด บริการ BNPL ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถสั่งซื้อสินค้าและรับสินค้าได้ทันที โดยทยอยจ่ายชำระเงินได้เป็นงวดๆ แบ่งชำระได้ตั้งแต่ 3 ถึง 12 เดือน (ขึ้นอยู่กับข้อตกลงและผู้ให้บริการ) หากชำระตรงตามกำหนดมักจะไม่มีดอกเบี้ยหรือมีดอกเบี้ยต่ำ เป็นทางเลือกที่ช่วยลดภาระการใช้จ่ายในทันทีและเพิ่มความสะดวกในการจับจ่ายในชีวิตประจำวัน ทำให้บริการนี้กลายเป็นตัวเลือกที่กำลังมาแรงในหมู่นักช็อปออนไลน์ที่ไม่มีเงินก้อนหรือไม่สะดวกที่จะชำระเงินแบบเต็มจำนวน โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่อยู่ในช่วงอายุก่อนวัยทำงานหรือไม่มีบัตรเครดิต

เริ่มมีแพลตฟอร์ม "ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง" หลากหลายรายมากขึ้น และต่างก็ออกโปรโมชันที่ดึงดูด ทั้งลดดอกเบี้ย ผ่อน 0% หรือเงื่อนไขผ่อนชำระที่ยืดหยุ่นเพื่อกระตุ้นยอดซื้อและจูงใจให้ผู้บริโภคกล้าเปิดใจลองใช้บริการมากขึ้น ซึ่งผู้ให้บริการ BNPL หลักๆ ในประเทศไทย โดยส่วนใหญ่จะผูกติดกับแพลตฟอร์มช็อปปิ้งออนไลน์ เช่น Atome, Lazada PayLater, K PAY LATER ของ KBank, Pay Next ของ True Money Wallet, PayLater by Grab และ SPaylater ของ Shopee

"ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง" มีผลต่อคะแนนเครดิตบูโร (Credit Score) หรือไม่

การใช้บริการ "ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง" ไม่ได้มีผลโดยตรงต่อเครดิตบูโรในทันทีเหมือนกับการใช้บัตรเครดิตหรือสินเชื่อบุคคลทั่วไป เนื่องจากผู้ให้บริการ BNPL บางรายไม่ได้รายงานข้อมูลโดยตรงกับเครดิตบูโร อย่างไรก็ดี การผิดนัดชำระหรือมีประวัติชำระล่าช้า อาจส่งผลต่อการใช้บริการและวงเงินที่จะได้การรับอนุมัติในอนาคต และถึงแม้ผู้ให้บริการ BNPL จะไม่รายงานข้อมูลต่อเครดิตบูโร แต่ก็อาจมีการส่งต่อหนี้ให้บริษัทติดตามหนี้ ซึ่งภายหลังอาจมีการแชร์ข้อมูลไปยังเครดิตบูโรได้

ไม่ว่าจะเป็น "ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง" หรือสินเชื่อประเภทอื่นๆ การชำระเงินตรงเวลาเป็นสิ่งที่ควรกระทำ เพราะเป็นการสร้างพฤติกรรมและประวัติการเงินที่ดี ลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาหนี้ค้าง อีกทั้งส่งผลบวกต่อคะแนนเครดิตบูโรของคุณได้

"ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง" แตกต่างกับการผ่อนจ่ายผ่านบัตรเครดิตอย่างไร

หลายคนอาจสงสัยว่า "ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง" แตกต่างกับการผ่อนจ่ายผ่านบัตรเครดิตอย่างไร ข้อแตกต่างที่โดดเด่นที่สุดคือ BNPL เปิดให้สมัครใช้งานง่ายกว่าบัตรเครดิตและใช้หลักฐานทางการเงินน้อยกว่า การอนุมัติวงเงินทำได้ง่ายกว่าและค่อนข้างรวดเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องมีการตรวจสอบประวัติเครดิต ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีหรือเรียกเก็บเพิ่มเติม จึงทำให้ผู้บริโภคมีโอกาสใช้ช่องทาง BNPL ได้ง่ายและเป็นไปได้อย่างทั่วถึงมากกว่า

แม้ว่า "ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง" จะเป็นช่องทางชำระเงินที่มีความยืดหยุ่นมากกว่าการผ่อนจ่ายผ่านบัตรเครดิต แต่การใช้บัตรเนั้นช่วยสร้างประวัติเครดิตได้ ในขณะเดียวกัน ถึงแม้คุณมีพฤติกรรมผ่อนจ่ายบริการ BNPL ที่ตรงเวลา แต่ข้อมูลนั้นอาจไม่ก่อเกิดผลบวกใดๆ ต่อเครดิตบูโร นอกจากนี้การผ่อนจ่ายด้วยบัตรเครดิตอาจมีสิทธิประโยชน์อื่นๆ เช่น คะแนนสะสม ซึ่งสามารถนำไปแลกของรางวัลหรือเป็นส่วนลดคืนเงินได้ ซึ่งเป็นประโยชน์กว่าต่อสภาวะทางการเงินในระยะยาว

ประโยชน์ของบริการ "ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง"

บริการ "ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง" สามารถตอบโจทย์ความต้องการของทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภค โดยมอบความยืดหยุ่นของวิธีชำระเงินที่ไม่ต้องจ่ายเงินเต็มจำนวนในทันที ซึ่งส่งผลดีต่อทั้งผู้ค้าและลูกค้าได้ดังนี้

ประโยชน์สำหรับลูกค้า

  • ลดภาระการใช้เงินก้อน: ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าที่ต้องการได้ทันทีและผ่อนชำระตามงวดที่ตกลงไว้ ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่ในครั้งเดียว ซึ่งดีต่อสภาพคล่องและช่วยให้มีเงินสำรองไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉินหรือสำหรับรายจ่ายอื่นๆ
  • ดอกเบี้ย 0% หรือดอกเบี้ยต่ำ: ฟีเจอร์หลักที่ดึงดูดลูกค้าให้ใช้บริการ ทำให้การผ่อนชำระกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้น มีค่าใช้จ่ายเป็นงวดๆ ในจำนวนที่ชัดเจน
  • เพิ่มกำลังซื้อและจัดการงบประมาณ: ความสามารถในการผ่อนชำระเป็นงวดๆ ช่วยให้ผู้บริโภคมีอิสระในการจับจ่ายใช้สอยได้มากขึ้น สามารถวางแผนค่าใช้จ่ายและจัดการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินไม่พอใช้
  • อนุมัติได้รวดเร็ว: การสมัครใช้บริการ "ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง" มักทำได้ทันทีบนหน้าเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของผู้ค้า ไม่จำเป็นต้องผ่านขั้นตอนขออนุมัติที่ยุ่งยากเหมือนบัตรเครดิต

ประโยชน์สำหรับผู้ค้า

  • เพิ่มยอดขายและกระตุ้นการซื้อ: เมื่อลูกค้าเห็นว่าสามารถแบ่งจ่ายเป็นงวดได้โดยไม่ต้องจ่ายก้อนใหญ่ในครั้งเดียว ก็จะตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น ทำให้ร้านค้าขายสินค้าหรือบริการได้มากขึ้น และสามารถเพิ่มมูลค่าเฉลี่ยสำหรับแต่ละคำสั่งซื้อ
  • ขยายฐานลูกค้า: เมื่อผู้ค้ารองรับบริการ BNPL จะช่วยให้เข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ ได้ โดยเฉพาะในกลุ่มนักศึกษาหรือคนเพิ่งเริ่มทำงานที่อาจไม่มีบัตรเครดิต เพราะช่วยให้คนเหล่านี้ซื้อสินค้าที่ต้องการได้ง่ายขึ้น
  • ลดอัตราการละทิ้งตะกร้าสินค้า: การรองรับบริการผ่อนชำระที่ยืดหยุ่น ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกว่ามีทางเลือกในการชำระเงินที่แบ่งเบาภาระได้ทันที ช่วยให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นและลดโอกาสการละทิ้งตะกร้าสินค้ากลางคัน
  • เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน: ในตลาดปัจจุบันที่มีการแข่งขันสูงและตัวเลือกมากมาย ร้านค้าที่รองรับการชำระเงินแบบ BNPL จะได้เปรียบร้านค้าอื่นๆ ที่ไม่มีช่องทางชำระเงินนี้ ช่วยดึงดูดลูกค้าได้มากกว่า และมีโอกาสสูงขึ้นที่ลูกค้าจะกลับมาซื้อซ้ำ
  • มีความน่าเชื่อถือ: ผู้ให้บริการ BNPL มักมีการประเมินความเสี่ยงและมีระบบรักษาความปลอดภัย ทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นในการทำธุรกรรม และยกระดับภาพลักษณ์ของแบรนด์ในสายตาผู้บริโภค
  • ร้านค้ารับเงินได้ทันที: โดยทั่วไปแล้ว ผู้ให้บริการ BNPL จะเป็นผู้รับความเสี่ยงและเป็นฝ่ายเรียกเก็บเงินจากลูกค้า ร้านค้าจะได้รับเงินเต็มจำนวนหรือตามจำนวนที่ตกลงกันได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ร้านค้าไม่ต้องกังวลเรื่องการติดตามเงินผ่อนโดยตรง

ด้วยประโยชน์มากมายของบริการ "ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง" จึงทำให้ช่องทางชำระเงินนี้กำลังเป็นที่นิยมมากในหมู่ร้านค้าออนไลน์และผู้ให้บริการแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ๆ ในประเทศไทย

แนวโน้มการเติบโตของบริการ BNPL

"ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง" เป็นช่องทางการชำระเงินที่มีความยืดหยุ่นและกำลังเป็นที่นิยมในหลายประเทศทั่วโลก ตลาด “ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง” ในต่างประเทศนั้นก็มีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามความสำเร็จของธุรกิจอีคอมเมิร์ซเช่นกัน เมื่อการแข่งขันในตลาดสูงขึ้น ผู้ให้บริการจึงต้องปรับกลยุทธ์ด้านโปรโมชัน อัตราดอกเบี้ย และเพิ่มเครือข่ายพันธมิตรกับแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งคาดว่าบริการ BNPL จะยังคงเติบโตตามการขยายตัวของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โดยเฉพาะการซื้อขายออนไลน์ระหว่างประเทศ โดยข้อมูลจาก Research and Markets ระบุและคาดการณ์ว่าปริมาณการใช้งานบริการ BNPL ในไทยมีแนวโน้มการเติบโตต่อปีแบบทบต้นด้วยอัตราที่ 10.9% จาก 4.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 146 พันล้านบาทในปี 2024 เป็น 7.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 239 พันล้านบาทในปี 2029
การแข่งขันระหว่างผู้ให้บริการ BNPL ช่วยผลักดันให้มีโปรโมชันหรือฟีเจอร์พิเศษต่างๆ เพื่อดึงดูดให้ผู้บริโภคมาเริ่มใช้บริการ "ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง" เช่น โปรโมชันดอกเบี้ย 0% การสะสมคะแนน หรือมาตรการรับประกันความปลอดภัยในการชำระเงิน ในประเทศไทยเองก็มีแคมเปญการตลาดมากมายที่ตามมากับกระแส "ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง" เช่น "สวยก่อน จ่ายทีหลัง," "พักก่อน จ่ายทีหลัง," หรือ "กินก่อน จ่ายทีหลัง" นอกจากนี้ การรวบรวมข้อมูลของผู้บริโภคและการพัฒนาของระบบ AI ได้มีการนำมาใช้เพื่อปรับปรุงการตรวจสอบเครดิต ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดหนี้เสีย และทำให้การอนุมัติเป็นไปได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

ในภาพรวม ตลาด "ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง" ยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องจากเศรษฐกิจดิจิทัลที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วทั่วโลก ถือเป็นโอกาสดีที่ทั้งผู้ค้าและลูกค้าในประเทศไทยจะได้ใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมทางการเงินนี้ และประสบการณ์การช็อปปิ้งออนไลน์ที่ยืดหยุ่นคล่องตัว ซึ่งเป็นเรื่องดีกับทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภค

เพิ่มยอดขายในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาด้วย Affirm กับ Stripe

ด้วยแนวโน้มการเติบโตของตลาด "ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง" ในประเทศไทยและทั่วโลก หากคุณมีกลุ่มลูกค้าในสหรัฐและแคนาดา หากเป็นธุรกิจที่มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนด ก็ไม่จำเป็นต้องส่งเอกสารเพิ่มเติมและสามารถเริ่มต้นใช้งาน Affirm กับ Stripe ได้เลยภายในไม่กี่นาที ด้วยตัวเลือก User Interface ที่ยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ ช่วยให้คุณเปิดใช้ Affirm และวิธีการชำระเงินอื่นๆ จากแดชบอร์ดของ Stripe ได้อย่างง่ายดาย

"ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง" ดีลง่ายสบายกระเป๋า

บริการ "ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง" หรือ BNPL ถือเป็นทางเลือกชำระเงินใหม่ที่ตอบโจทย์ทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภคยุคดิจิทัล ซึ่งสำหรับผู้ค้า ช่องทาง BNPL จะช่วยเพิ่มยอดขาย ขยายฐานลูกค้า และยกระดับความน่าเชื่อถือของธุรกิจ ส่วนลูกค้าก็ได้รับประโยชน์ด้านสภาพคล่องทางการเงิน มีตัวเลือกผ่อนชำระที่สะดวก ไม่จำเป็นต้องมีเงินก้อน และไม่ต้องผูกมัดกับบัตรเครดิต เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกับสภาพคล่องทางการเงินของคนไทยโดยส่วนใหญ่

"ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง" ได้กลายเป็นช่องทางชำระเงินที่หลายคนพูดถึงในฐานะเครื่องมือเร่งยอดขาย กระตุ้นอัตราการตัดสินใจซื้อ อีกทั้งยังมอบความสะดวกให้ผู้บริโภคสามารถใช้จ่ายได้อย่างคล่องตัวยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดี ก่อนตัดสินใจใช้บริการ "ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง" ควรคำนึงถึงเงื่อนไขการผ่อนชำระและวงเงินที่สอดคล้องกับความสามารถในการผ่อนจ่ายของตนเอง เพื่อให้ได้ทั้งความปลอดภัย ความสะดวกง่ายดาย และคุ้มค่าในการชำระเงินผ่านบริการ BNPL โดยที่ไม่กลายเป็นการก่อหนี้โดยไม่จำเป็น

เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Payments

Payments

รับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกด้วยโซลูชันการชำระเงินที่สร้างมาสำหรับธุรกิจทุกขนาด

Stripe Docs เกี่ยวกับ Payments

ค้นหาคู่มือเกี่ยวกับการเชื่อมต่อ Payments API ของ Stripe