วิธีเปิดตัวผลิตภัณฑ์การออกบัตร สิ่งที่ต้องใช้ในการสร้างโปรแกรมบัตร

Issuing
Issuing

Stripe Issuing เป็นผู้มอบระบบการให้บริการธนาคารสำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพรูปแบบใหม่ แพลตฟอร์มที่ล้ำนวัตกรรม และองค์กรที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมีบัตรกว่า 200 ล้านใบที่สร้างขึ้นในระบบ

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. ผู้เล่นหลักที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรมบัตร
    1. บริษัทผู้ออกบัตร
    2. สถาบันผู้รับบัตร
    3. เครือข่ายการชําระเงิน
    4. ผู้ประมวลผลการชําระเงิน
  3. ประเภทของผลิตภัณฑ์การออกบัตร
    1. บัตรเครดิต
    2. บัตรเดบิต
    3. บัตรเติมเงิน
    4. บัตรชาร์จการ์ด
    5. บัตรดิจิทัล
  4. ประเภทของธุรกิจที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์การออกบัตร
    1. สถาบันการเงินแบบดั้งเดิม
    2. ฟินเทค
    3. ผู้ค้าปลีกและแบรนด์
    4. ธุรกิจอื่นๆ
  5. ข้อดีของการเปิดตัวผลิตภัณฑ์การออกบัตร
    1. การเชื่อมโยงลูกค้าที่ดีกว่า
    2. กระแสรายรับใหม่และลดค่าใช้จ่าย
    3. ความยืดหยุ่นและการควบคุมที่มากขึ้น
    4. ข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน
    5. ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์และการพัฒนาระบบนิเวศ
  6. ความท้าทายในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์การออกบัตร
  7. วิธีเปิดตัวผลิตภัณฑ์การออกบัตร
    1. กําหนดกลยุทธ์ของคุณ
    2. ศึกษาวิจัยตลาด
    3. เลือกผลิตภัณฑ์และฟีเจอร์ที่เหมาะสม
    4. สร้างความร่วมมือที่แข็งแกร่ง
    5. สร้างระบบเทคโนโลยีของคุณ
    6. ปกป้องผลิตภัณฑ์ของคุณจากความเสี่ยงและการไม่เป็นไปตามข้อกําหนด
    7. มุ่งเน้นที่ประสบการณ์ของผู้ใช้
    8. ทดสอบและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของคุณ
    9. คอยตรวจสอบและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ของคุณ

ผลิตภัณฑ์การออกบัตรช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างและเปิดตัวผลิตภัณฑ์บัตรของตนเอง (เช่น บัตรเดบิตและบัตรเครดิต) ที่เข้ากับแบรนด์ของตนและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ธุรกิจที่ออกบัตรเองสามารถสร้างกระแสรายรับใหม่และเพิ่มฟีเจอร์ที่ไม่เหมือนใคร เช่น โปรแกรมรางวัลที่ออกแบบเอง และการควบคุมการใช้จ่าย เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ผู้ใช้และการผสานแบรนด์ ผลิตภัณฑ์การออกบัตรยังเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสําหรับบริษัทที่ต้องการเพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้าและตัวเลือกการชําระเงินโดยไม่ต้องพึ่งพาธนาคารแบบดั้ั้งเดิมอีกด้วย

ความต้องการใช้บริการออกบัตรกำลังเพิ่มขึ้นและคาดว่าตลาดแพลตฟอร์มการออกบัตรทั่วโลกจะเติบโตขึ้นจากมูลค่าธุรกรรม 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024 เป็น 2.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2029 ด้านล่างเราจะอธิบายสิ่งที่ธุรกิจต้องรู้เกี่ยวกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์การออกบัตรของตนเอง รวมถึงประเภทผลิตภัณฑ์ที่มี วิธีการที่ธุรกิจประเภทต่างๆ ใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ตลอดจนข้อดีและความท้าทายที่เกี่ยวข้อง

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

  • ผู้เล่นหลักที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรมบัตร
  • ประเภทของผลิตภัณฑ์การออกบัตร
  • ประเภทธุรกิจที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์การออกบัตร
  • ข้อดีของการเปิดตัวผลิตภัณฑ์การออกบัตร
  • ความท้าทายในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์การออกบัตร
  • วิธีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์การออกบัตร

ผู้เล่นหลักที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรมบัตร

ต่อไปนี้คือผู้เล่นหลักที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโปรแกรมบัตรชําระเงิน

บริษัทผู้ออกบัตร

ผู้ออกบัตรคือสถาบันการเงินที่ให้บริการบัตรชําระเงิน และเป็นผู้รับผิดชอบในการขยายวงเงินบัตรเครดิต การจัดการเงินฝากสําหรับบัตรเดบิต และการตั้งข้อกําหนดและเงื่อนไข รวมถึงค่าธรรมเนียม อัตราดอกเบี้ย และวงเงินเครดิต นอกจากนี้ยังรับผิดชอบในการตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อกําหนดทางกฎหมาย การอนุมัติธุรกรรม การจัดการบัญชีลูกค้า และการจัดการกระบวนการประเมินและควบคุมความเสี่ยงด้วย ตัวอย่างเช่น ธนาคารรายใหญ่อย่าง Chase หรือ Bank of America รวมถึงฟินเทคที่มีบริการบัตร

สถาบันผู้รับบัตร

สถาบันผู้รับบัตรคือสถาบันการเงินที่ดําเนินการธุรกรรมบัตรเครดิตและเดบิตในนามของธุรกิจ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าสถาบันผู้รับบัตรของผู้ค้าหรือธนาคารผู้รับบัตร สถาบันผู้รับบัตรช่วยอํานวยความสะดวกในการยอมรับบัตร อนุมัติธุรกรรม ชําระเงินของธุรกรรม และช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ได้รับการชําระเงินสําหรับการซื้อผ่านบัตร ตัวอย่างเช่น บริษัทอย่าง Worldpay หรือ First Data

เครือข่ายการชําระเงิน

เครือข่ายการชําระเงินอํานวยความสะดวกในการชําระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์โดยการเชื่อมต่อผู้ออกบัตรและสถาบันผู้รับบัตร ตลอดจนการอนุมัติและชําระเงินสำหรับธุรกรรม เครือข่ายมีหน้าที่กําหนดค่าธรรมเนียมธุรกรรมผ่านบัตรระหว่างธนาคาร กําหนดกฎและมาตรฐานสําหรับการประมวลผลธุรกรรม และดูแลการดําเนินงานด้านการชําระเงินให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพทั่วทั้งเครือข่าย ตัวอย่างเช่น เครือข่ายบัตรอย่าง Visa, Mastercard, American Express และ Discover รวมถึงระบบการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์

ผู้ประมวลผลการชําระเงิน

ผู้ประมวลผลการชําระเงินจัดการแง่มุมทางเทคนิคในการยอมรับและการประมวลผลธุรกรรมบัตรสําหรับธุรกิจ ผู้ประมวลผลจะหักยอดและส่งรายละเอียดธุรกรรมผ่านบัตรจากธุรกิจไปยังผู้รับบัตรและเครือข่ายการชําระเงินเพื่อทําการอนุมัติและชําระเงิน ตัวอย่างเช่น บริษัทอย่าง Stripe ที่ประมวลผลการชําระเงินและจัดการด้านต่างๆ ของการจัดการธุรกรรม

ประเภทของผลิตภัณฑ์การออกบัตร

สําหรับธุรกิจที่ต้องการเปิดตัวผลิตภัณฑ์การออกบัตร คุณควรพิจารณาว่าบัตรประเภทใดเหมาะกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด นี่คือผลิตภัณฑ์การออกบัตรประเภทต่าง ๆ ที่อาจพิจารณา

บัตรเครดิต

บัตรเครดิตช่วยให้เจ้าของบัตรยืมวงเงินที่กําหนดไว้ล่วงหน้า ทยอยจ่ายยอดคงเหลือเดือนต่อเดือน และชําระเงินขั้นต่ําไปพร้อมๆ กับการชําระดอกเบี้ยของยอดคงเหลือ

ประเภท

  • บัตรสะสมคะแนน: บัตรเหล่านี้มอบคะแนน ไมล์ หรือเงินคืนในการซื้อสินค้า

  • บัตรสําหรับการเดินทาง: บัตรเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่ผู้ที่เดินทางบ่อย และมักนําเสนอสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง

  • บัตรเงินคืน: บัตรเหล่านี้มอบเงินคืนเป็นเปอร์เซ็นต์ของการใช้จ่าย

  • บัตรโอนยอดคงเหลือ: บัตรเหล่านี้มีอัตราเปอร์เซ็นต์ต่อปี (APR) ช่วงแนะนําที่ 0% หรืออัตราที่ต่ำสําหรับการโอนยอดคงเหลือ

  • บัตรที่มีหลักประกัน: ออกแบบมาสําหรับผู้ที่มีประวัติเครดิตจํากัด บัตรเหล่านี้ต้องมีเงินฝากค้ำประกัน

  • บัตรของร้านค้า: บัตรเหล่านี้มอบส่วนลดหรือรางวัลสำหรับการซื้อจากผู้ค้าปลีกที่กำหนด

บัตรเดบิต

บัตรเดบิตช่วยให้ลูกค้าใช้จ่ายได้โดยตรงจากยอดคงเหลือของบัญชีกระแสรายวันที่เชื่อมโยงไว้

ประเภท

  • บัตรเดบิตแบบดั้งเดิม: นี่คือบัตรพื้นฐานที่มีฟีเจอร์มาตรฐาน

  • บัตรเดบิตแบบเติมเงิน: ผู้ใช้สามารถเติมเงินจำนวนเฉพาะลงในบัตรเหล่าและใช้ได้เช่นเดียวกับบัตรเดบิตปกติ

  • บัตรเดบิตดิจิทัล: นี่คือบัตรดิจิทัลที่ใช้สําหรับการซื้อออนไลน์

บัตรเติมเงิน

บัตรเติมเงินมีฟังก์ชันเหมือนบัตรเดบิต แต่มีการใส่เงินไว้ล่วงหน้าแทนที่จะเชื่อมโยงกับบัญชีธนาคาร

ประเภท

  • บัตรของขวัญ: ผู้ใช้สามารถเติมเงินจำนวนที่ต้องการลงในบัตรเหล่านี้แล้วมอบเป็นของขวัญให้ผู้อื่นได้

  • บัตรบัญชีเงินเดือน: นายจ้างใช้บัตรเหล่านี้เพื่อชําระเงินให้แก่พนักงาน โดยเฉพาะพนักงานที่ไม่มีบัญชีธนาคาร

  • บัตรสําหรับการเดินทาง: บัตรเหล่านี้มาพร้อมกับสกุลเงินต่างประเทศที่ตั้งไว้ล่วงหน้า ปกติแล้วเจ้าของบัตรจะใช้ในการชำระค่าใช้จ่ายในการเดินทาง

  • บัตรที่เติมซ้ําได้สําหรับวัตถุประสงค์ทั่วไป: ผู้ใช้สามารถเติมเงินในบัตรเหล่านี้และใช้เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ได้

บัตรชาร์จการ์ด

บัตรชาร์จการ์ดไม่มีวงเงินใช้จ่ายที่กําหนดไว้ล่วงหน้า แต่ผู้ใช้ต้องชําระยอดคงเหลือเต็มจํานวนในแต่ละเดือน

ประเภท

  • บัตรชาร์จการ์ดสำหรับธุรกิจ: บัตรเหล่านี้มักเสนอสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมซึ่งออกแบบมาเพื่อให้คุณใช้จ่ายทางธุรกิจเป็นหลัก

  • บัตรชาร์จการ์ดพรีเมียม: บัตรเหล่านี้มีสิทธิพิเศษและสิทธิประโยชน์แบบพิเศษ และมีค่าธรรมเนียมรายปีที่สูงขึ้น

บัตรดิจิทัล

บัตรดิจิทัลเป็นบัตรที่ใช้แบบดิจิทัลเท่านั้นสําหรับการชําระเงินออนไลน์หรือการชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่

ประเภท

  • บัตรดิจิทัลแบบใช้ครั้งเดียว: ผู้ใช้สร้างบัตรเหล่านี้สําหรับธุรกรรมรายการเดียว จึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น

  • บัตรดิจิทัลสําหรับการจัดการการชําระเงินตามรอบบิล: บัตรเหล่านี้ช่วยจัดการการชําระเงินตามแบบแผนล่วงหน้าและทำให้คุณยกเลิกการชําระเงินตามรอบบิลได้ง่ายขึ้น

  • บัตรดิจิทัลสําหรับค่าใช้จ่ายพนักงาน: พนักงานจะได้รับบัตรเหล่านี้สำหรับค่าใช้จ่ายทางธุรกิจ ช่วยให้ธุรกิจติดตามการใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น

ประเภทของธุรกิจที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์การออกบัตร

โดยทั่วไปธุรกิจหลากหลายประเภทสามารถเปิดตัวผลิตภัณฑ์การออกบัตร เราลองมาดูธุรกิจบางประเภทกันอย่างละเอียด

สถาบันการเงินแบบดั้งเดิม

  • ธนาคาร: ธนาคารรายย่อย ธนาคารพาณิชย์ และสหภาพเครดิตเป็นบริษัทผู้ออกบัตรเครดิตและบัตรเดบิตที่พบบ่อยที่สุด สถาบันเหล่านี้มีโครงสร้างพื้นฐานฐาน ลูกค้า และประสบการณ์กับการปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับที่จําเป็นสําหรับการจัดการโปรแกรมบัตร

  • บริษัทบัตรเครดิต: บริษัทอย่าง American Express และ Discover มีความเชี่ยวชาญด้านการออกบัตรเครดิต และมีผลิตภัณฑ์บัตรที่หลากหลายสําหรับลูกค้าและธุรกิจ

ฟินเทค

  • ธนาคารยุคใหม่: ธนาคารแบบดิจิทัลเท่านั้นที่ให้บริการด้านธนาคาร รวมถึงบัตรเดบิตและบัตรเติมเงิน มักจะมุ่งเป้าหมายไปที่กลุ่มประชากรที่เฉพาะเจาะจงหรือมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่มีนวัตกรรม

  • บริษัทด้านการชําระเงิน: บริษัทด้านการชําระเงินบางแห่ง เช่น Stripe ออกบัตรดิจิทัลหรือบัตรจริงสําหรับการซื้อทางออนไลน์และที่ร้านค้า

  • แพลตฟอร์มการให้กู้ยืม: แพลตฟอร์มบริการเงินกู้ยืมแบบเพียร์ทูเพียร์บางแพลตฟอร์มหรือผู้ให้กู้ออนไลน์จะออกบัตรเครดิตหรือบัตรเครดิต

  • ผู้ให้บริการซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง (BNPL): บริษัท NBL บางแห่งให้บริการผ่อนชําระด้วยบัตรดิจิทัลหรือบัตรจริง

ผู้ค้าปลีกและแบรนด์

  • ผู้ค้าปลีก: เชนค้าปลีกขนาดใหญ่จํานวนมากออกบัตรเครดิตที่มีแบรนด์ของร้านค้าพร้อมมอบสิทธิประโยชน์สุดพิเศษเพื่อกระตุ้นความภักดีของลูกค้า

  • แบรนด์: บริษัทที่มีการรับรู้แบรนด์อันแข็งแกร่งอาจจับมือเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัทผู้ออกบัตรเพื่อออกบัตรเครดิตแบบร่วมแบรนด์

ธุรกิจอื่นๆ

  • สายการบินและบริษัทด้านการท่องเที่ยว: สายการบินและบริษัทด้านการท่องเที่ยวบางแห่งมีบัตรเครดิตแบบร่วมแบรนด์พร้อมรางวัลและสิทธิประโยชน์สําหรับนักเดินทางที่เดินทางบ่อย

  • บริษัทด้านเทคโนโลยี: บริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งยังออกบัตรดิจิทัลหรือบัตรจริงสําหรับกรณีการใช้งานเฉพาะด้วย เช่น บริการจัดการค่าใช้จ่ายและบริการสมัครสมาชิก

  • แพลตฟอร์มเศรษฐกิจแบบตลาดแรงงานเสรี: บางแพลตฟอร์มสําหรับคนทำงานอิสระเสนอบัตรเติมเงินหรือบัตรเดบิตเพื่อการชําระเงินที่ง่ายขึ้นและการจัดการค่าใช้จ่าย

ข้อดีของการเปิดตัวผลิตภัณฑ์การออกบัตร

การเปิดตัวผลิตภัณฑ์การออกบัตรสามารถให้ประโยชน์มากมาย ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างข้อดีที่เป็นไปได้

การเชื่อมโยงลูกค้าที่ดีกว่า

  • ตัวตนที่ลูกค้าจำได้ในด้านการใช้จ่าย: การออกบัตรของตัวเองจะช่วยให้ธุรกิจทำให้ลูกค้าจดจำและนึกถึงแบรนด์ของตนทุกครั้งที่ซื้อของ การนำเสนอตัวตนอย่างสม่ำเสมอนี้จะช่วยกระชับความสัมพันธ์กับลูกค้าให้แน่นแฟ้นขึ้นและกระตุ้นให้เกิดลูกค้าประจำ

  • ข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล: เมื่อใช้ข้อมูลธุรกรรมจากบัตรที่ออก ธุรกิจจะเข้าใจพฤติกรรม ความต้องการ และรูปแบบการใช้จ่ายของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น การวิเคราะห์เหล่านี้สามารถแจ้งให้ข้อมูลเพื่อการดําเนินการด้านการตลาดและข้อเสนอส่วนบุคคล และอาจเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าได้

กระแสรายรับใหม่และลดค่าใช้จ่าย

  • ค่าธรรมเนียมธุรกรรมผ่านบัตรระหว่างธนาคาร: ธุรกิจจะได้รับเปอร์เซ็นต์ตามมูลค่าธุรกรรมเป็นค่าธรรมเนียมธุรกรรมผ่านบัตรระหว่างธนาคารทุกครั้งที่ลูกค้าใช้บัตรของตน ซึ่งอาจเป็นแหล่งรายรับจำนวนมาก โดยเฉพาะถ้าสามารถขยายฐานผู้ถือบัตรได้

  • รายรับจากดอกเบี้ย: การออกบัตรเครดิตสามารถสร้างรายได้ให้กับธุรกิจโดยมาจากดอกเบี้ยของยอดคงเหลือที่ค้างชําระ

  • ค่าใช้จ่ายในการประมวลผลที่ลดลง: ธุรกิจอาจสามารถเจรจาขออัตราค่าประมวลผลและโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่ดีขึ้นได้ด้วยการออกบัตรของตัวเอง ซึ่งจะช่วยประหยัดได้มากเมื่อเวลาผ่านไป

ความยืดหยุ่นและการควบคุมที่มากขึ้น

  • การปรับแต่งผลิตภัณฑ์: ธุรกิจสามารถควบคุมการออกแบบ ฟีเจอร์ และสิทธิประโยชน์ของโปรแกรมบัตรได้อย่างเต็มที่ โดยสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับแบรนด์และกลุ่มเป้าหมายของตนได้อย่างสมบูรณ์แบบ

  • ประสบการณ์ของลูกค้า: ธุรกิจสามารถกําหนดเส้นทางการใช้บัตรของลูกค้าได้ตั้งแต่ขั้นตอนการสมัครไปจนถึงกระบวนการเริ่มต้นใช้งานและการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง

  • โอกาสในการปรับปรุง: ธุรกิจสามารถทดลองเทคโนโลยีและฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การชําระเงินแบบไร้สัมผัส กระเป๋าเงินดิจิทัล และการให้รางวัลแบบเรียลไทม์

ข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน

  • การสร้างความแตกต่าง: โปรแกรมบัตรที่มีเอกลักษณ์และน่าสนใจสามารถช่วยให้ธุรกิจแตกต่างจากคู่แข่งได้ วิธีนี้สามารถดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ ที่ให้ความสําคัญกับสิทธิประโยชน์และรางวัลที่เจาะจงของโปรแกรม

  • การขยายตลาด: ธุรกิจสามารถออกแบบโปรแกรมบัตรเพื่อตอบสนองความต้องการและความชอบของลูกค้าที่เจาะจงเพื่อเข้าถึงตลาดหรือกลุ่มประชากรใหม่ๆ ได้

ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์และการพัฒนาระบบนิเวศ

  • โอกาสในการร่วมสร้างแบรนด์: ธุรกิจสามารถร่วมมือกับแบรนด์หรือบริษัทอื่นเพื่อสร้างบัตรแบบร่วมแบรนด์ที่ได้ประโยชน์ร่วมกัน โดยทั้งสองฝ่ายสามารถขยายไปสู่ลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ได้

  • บริการที่เพิ่มคุณค่า: ธุรกิจสามารถผสานโปรแกรมบัตรของตนเข้ากับผลิตภัณฑ์หรือบริการอื่นๆ เพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับลูกค้าและกระตุ้นการมีส่วนร่วม

ความท้าทายในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์การออกบัตร

การเปิดตัวผลิตภัณฑ์การออกบัตรมีความท้าทายบางอย่าง นี่คืออุปสรรคที่เป็นไปได้

  • การผสานการทํางานกับเครือข่ายการชําระเงิน: ธุรกิจจะต้องผสานการทํางานของผลิตภัณฑ์ของตนกับเครือข่ายการชําระเงินที่มีชื่อเสียงเช่น Visa, Mastercard และ American Express โดยจะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานทางเทคนิคที่รัดกุม ผ่านขั้นตอนการทดสอบที่เข้มงวด และอาจต้องผ่านกระบวนการรับรองที่ใช้เวลานานและมีค่าใช้จ่ายสูง

  • การปรับแต่งระบบป้องกันการฉ้อโกง: ในการเปิดตัวโปรแกรมบัตร ธุรกิจต้องลงทุนกับระบบป้องกันการฉ้อโกงที่เหมาะกับโปรแกรมและโปรไฟล์ความเสี่ยงของตน ตัวอย่างเช่น บัตรองค์กรอาจต้องใช้การควบคุมและการตรวจสอบที่แตกต่างออกไปเมื่อเทียบกับบัตรเดบิตสำหรับผู้บริโภค

  • ความเสี่ยงด้านเครดิตในตลาดใหม่: ธุรกิจที่กําหนดเป้าหมายไปยังประชากรที่ไม่ได้รับบริการเท่าที่ควรหรือไม่ได้ใช้ธนาคารซึ่งไม่มีประวัติสินเชื่อแบบดั้งเดิม จะต้องพัฒนาโมเดลการให้คะแนนทางเลือกโดยอิงตามจุดข้อมูลอื่นๆ โดยจะต้องใช้ฟังก์ชันการวิเคราะห์ที่ซับซ้อน ซึ่งอาจสร้างและดูแลรักษาได้ยาก

  • การอนุมัติตามระเบียบข้อบังคับ: ในการที่จะประสบความสําเร็จ ธุรกิจต้องคอยติดตามกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอในหลายเขตอํานาจศาล และจะต้องปรับตัวไปพร้อมกับที่กฎหมายกํากับดูแลการคุ้มครองผู้บริโภค ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล และธุรกรรมข้ามพรมแดนมีการเปลี่ยนแปลง

  • โครงสร้างพื้นฐานด้านการสนับสนุนลูกค้า: การสนับสนุนลูกค้าที่เชื่อถือได้และสม่ำเสมอนั้นเป็นสิ่งสําคัญ เนื่องจากการใช้บัตรที่เพิ่มขึ้นอาจทําให้มีปริมาณการสอบถามข้อมูลและธุรกรรมสูงขึ้น ธุรกิจต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถขยายไปพร้อมกับการรักษามาตรฐานบริการระดับสูง

  • ประสบการณ์ของผู้ใช้: ธุรกิจควรออกแบบผลิตภัณฑ์บัตรที่ตรงตามมาตรฐานด้านการกํากับดูแลและความปลอดภัย และมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้แก่ผู้ใช้ จะต้องหาจุดลงตัวระหว่างการผสานฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การผสานการทํางานกับอุปกรณ์เคลื่อนที่ การแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ และตัวเลือกในการเติมเงิน กับการทำให้ใช้งานได้อย่างสะดวกและง่ายดาย

  • การจัดการต้นทุน: สำหรับผลิตภัณฑ์บัตรใดๆ ก็ตาม ธุรกิจจะต้องหาจุดสมดุลระหว่างการจัดการค่าใช้จ่าย การรักษาความสามารถในการทํากําไร และการเสนอราคาและสิทธิประโยชน์ที่แข่งขันได้ให้กับลูกค้า บริษัทจะต้องตัดสินใจว่าจะลงทุนมากน้อยแค่ไหนในด้านเทคโนโลยี การรักษาความปลอดภัย และการหาลูกค้าใหม่ พร้อมทั้งทําให้ผลิตภัณฑ์มีประสิทธิภาพทางการเงิน

  • ความสัมพันธ์ด้านการสร้างแบรนด์: หากผลิตภัณฑ์บัตรเป็นส่วนหนึ่งของโครงการร่วมแบรนด์ ผลิตภัณฑ์จะต้องสอดคล้องกับอัตลักษณ์และความคาดหวังของทั้งสองแบรนด์ โดยทั้งสองจะต้องเจรจาเกี่ยวกับข้อกําหนดที่ยอมรับร่วมกัน ทําแคมเปญการตลาดให้ตรงกัน และใช้การสร้างแบรนด์ที่สอดคล้องกัน

  • การดูแลด้านเทคโนโลยี: ธุรกิจจะต้องคอยอัปเดตผลิตภัณฑ์ให้ทันสมัยในแง่ของเทคโนโลยีและปกป้องจากภัยคุกคามล่าสุดไปพร้อมๆ กับการคิดค้นนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจําเป็นต้องมีความพยายามและการลงทุนอย่างต่อเนื่อง

  • ธุรกรรมทั่วโลก: ธุรกิจที่จัดการธุรกรรมในหลายๆ สกุลเงินและสภาพแวดล้อมทางระเบียบข้อบังคับจะต้องปฏิบัติตามข้อกําหนด ในขณะเดียวกันก็ต้องดําเนินงานอย่างโปร่งใสและมอบอัตราค่าบริการที่แข่งขันได้ให้แก่ลูกค้า

วิธีเปิดตัวผลิตภัณฑ์การออกบัตร

การเปิดตัวผลิตภัณฑ์การออกบัตรเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนซึ่งต้องใช้ความระมัดระวังในการวางแผนและมีข้อควรพิจารณาหลายข้อ ต่อไปนี้คือคําแนะนําแบบทีละขั้นตอนเพื่อช่วยคุณในการเริ่มต้น

กําหนดกลยุทธ์ของคุณ

  • ระบุวัตถุประสงค์เฉพาะที่คุณต้องการบรรลุด้วยผลิตภัณฑ์การออกบัตรของคุณ วัตถุประสงค์เหล่านี้อาจรวมถึงการเพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้า การสร้างกระแสรายรับใหม่ หรือการขยายไปสู่ตลาดใหม่ๆ

  • ระบุโปรไฟล์ลูกค้าในอุดมคติของคุณ ทําความเข้าใจข้อมูลประชากร ความต้องการด้านการเงิน พฤติกรรมการใช้จ่าย และความท้าทาย

ศึกษาวิจัยตลาด

  • วิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่เพื่อระบุช่องว่างและโอกาสในตลาด คู่แข่งของคุณทําอะไรได้ดี พวกเขายังตกหล่นที่จุดไหน

เลือกผลิตภัณฑ์และฟีเจอร์ที่เหมาะสม

  • เลือกประเภทผลิตภัณฑ์การออกบัตร (เช่น บัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรเติมเงิน) ที่เหมาะกับเป้าหมายและกลุ่มเป้าหมายของคุณมากที่สุด กําหนดฟีเจอร์และสิทธิประโยชน์ให้สอดคล้องกัน

  • นำเสนอจุดขายที่ไม่ซ้ําซึ่งจะสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์ของคุณจากคู่แข่งและดึงดูดลูกค้าเป้าหมาย พิจารณาการใช้โปรแกรมรางวัล ข้อเสนอเงินคืน สิทธิพิเศษ หรือฟีเจอร์ที่มีนวัตกรรม

สร้างความร่วมมือที่แข็งแกร่ง

  • ร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับเครือข่ายบัตร ผู้ให้บริการเทคโนโลยี หรือฟินเทค เลือกพาร์ทเนอร์ที่มาพร้อมโซลูชันที่ยืดหยุ่นซึ่งช่วยส่งเสริมคุณค่าของธุรกิจคุณ

  • เป็นพาร์ทเนอร์กับผู้ประมวลผลที่มีชื่อเสียงซึ่งมีเทคโนโลยี ความเชี่ยวชาญ และการสนับสนุนที่จําเป็นต่อความสําเร็จ

สร้างระบบเทคโนโลยีของคุณ

  • พัฒนาหรือซื้อเทคโนโลยีมาสนับสนุนผลิตภัณฑ์การออกบัตรของคุณ ซึ่งอาจรวมถึงระบบการจัดการบัตร เครื่องมือการบริการลูกค้า กลไกการป้องกันการฉ้อโกง หรือโปรโตคอลรักษาความปลอดภัย

  • ให้ความสําคัญกับเทคโนโลยีที่สามารถปรับขยายและปรับตัวให้เข้ากับความต้องการและภัยคุกคามที่เปลี่ยนแปลงไป พิจารณาโซลูชันบนระบบคลาวด์เพื่อความยืดหยุ่นและลดต้นทุน

ปกป้องผลิตภัณฑ์ของคุณจากความเสี่ยงและการไม่เป็นไปตามข้อกําหนด

  • ปรึกษากับที่ปรึกษาทางกฎหมายหรือผู้เชี่ยวชาญด้านการปฏิบัติตามข้อกําหนดเพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ของคุณเป็นไปตามข้อกําหนดทางกฎหมายและมาตรฐานอุตสาหกรรมทั้งหมด ปฏิบัติตามกฎระเบียบว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลและการต่อต้านการฟอกเงิน (AML) และข้อบังคับ "รู้จักลูกค้าของคุณ" (KYC) อย่างใกล้ชิด

  • พัฒนานโยบายและขั้นตอนปฏิบัติในการจัดการความเสี่ยงเพื่อลดความเสี่ยงด้านเครดิต (หากมี) ความเสี่ยงด้านการฉ้อโกง และความเสี่ยงด้านการปฏิบัติงาน

มุ่งเน้นที่ประสบการณ์ของผู้ใช้

  • สร้างประสบการณ์ผู้ใช้ที่เรียบง่ายและใช้งานง่ายในทุกจุดสัมผัส ตั้งแต่ขั้นตอนการสมัครใช้งานไปจนถึงการจัดการบัญชีและการสนับสนุนลูกค้า

  • พัฒนากลยุทธ์การตลาดและอัตลักษณ์แบรนด์ที่เข้มแข็งซึ่งสื่อสารคุณค่าของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย

ทดสอบและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของคุณ

  • ทําการทดสอบที่กว้างขวางก่อนจะออกสู่ตลาด ทําการทดสอบตัวอย่างกับกลุ่มผู้ใช้แบบปิดเพื่อรวบรวมความคิดเห็นแบบเรียลไทม์และปรับเปลี่ยนตามความจําเป็น

  • พัฒนากลยุทธ์การเข้าสู่ตลาดที่ครอบคลุมซึ่งระบุช่องทางเป้าหมาย การสื่อสาร และกลยุทธ์ส่งเสริมการขายของคุณ ใช้ช่องทางต่างๆ เช่น การตลาดดิจิทัล โซเชียลมีเดีย การเป็นพาร์ทเนอร์ และโปรแกรมแนะนําธุรกิจเพื่อหาลูกค้าใหม่ๆ

  • พิจารณากลยุทธ์การเปิดตัวแบบเป็นระยะเพื่อจัดการความเสี่ยงและรวบรวมข้อมูลเชิงลึกก่อนที่จะเปิดตัวโซลูชันในวงกว้าง

คอยตรวจสอบและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ของคุณ

  • ติดตามตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและกระตุ้นการเติบโต

  • รวบรวมความคิดเห็นจากลูกค้า ใช้ความคิดเห็นนี้เพื่อปรับฟีเจอร์ของผลิตภัณฑ์ แนวทางการบริการลูกค้า และกลยุทธ์การตลาดได้อย่างรวดเร็ว

  • เมื่อผลิตภัณฑ์ของคุณเป็นที่รู้จักและทํางานได้ดี จึงค่อยขยายธุรกิจโดยการขยายตลาดเป้าหมาย การเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ หรือการสํารวจภูมิภาคทางภูมิศาสตร์ใหม่ๆ

เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Issuing

Issuing

ระบบการให้บริการธนาคารสำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพรูปแบบใหม่ แพลตฟอร์มที่ล้ำนวัตกรรม และองค์กรที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง

Stripe Docs เกี่ยวกับ Issuing

ดูวิธีใช้ Stripe Issuing API สร้าง จัดการ และแจกจ่ายบัตรชำระเงินสำหรับธุรกิจของคุณ