กลยุทธ์สําหรับการเพิ่มช่องทางสร้างรายรับใหม่ๆ สําหรับธุรกิจระดับองค์กร

Payments
Payments

รับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกด้วยโซลูชันการชำระเงินที่สร้างมาสำหรับธุรกิจทุกขนาด ตั้งแต่ธุรกิจสตาร์ทอัพไปจนถึงองค์กรใหญ่ระดับโลก

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. ช่องทางสร้างรายรับคืออะไร
  3. เหตุใดช่องทางสร้างรายรับใหม่ๆ จึงเป็นประโยชน์
  4. วิธีพิจารณาช่องทางสร้างรายรับใหม่ๆ
  5. กลยุทธ์ในการสร้างช่องทางสร้างรายรับใหม่ๆ
    1. บริการทางการเงินแบบผสานรวม
    2. สํารวจโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ที่น่าจะนำมาใช้ได้
    3. สร้างกลยุทธ์การเรียกเก็บเงินเพื่อสนับสนุนช่องทางสร้างรายรับใหม่ๆ
    4. พิจารณาว่าจะเป็นมาร์เก็ตเพลสหรือแพลตฟอร์ม
    5. พิจารณาขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ
    6. วางระบบการรับชําระเงินทั่วโลก
  6. Stripe Atlas จะช่วยคุณได้อย่างไร
    1. การสมัครใช้งาน Atlas
    2. การรับชำระเงินและการธนาคารก่อนที่จะได้รับ EIN ของคุณ
    3. การซื้อหุ้นของผู้ก่อตั้งแบบไร้เงินสด
    4. การยื่นเอกสารการเลือกสถานะภาษี 83(b) อัตโนมัติ
    5. เอกสารทางกฎหมายของบริษัทระดับโลก
    6. Stripe Payments ฟรีหนึ่งปี พร้อมเครดิตและส่วนลดสำหรับพาร์ทเนอร์มูลค่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ

สําหรับผู้นําที่ต้องการขยายธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจที่อยู่ในระดับองค์กรหรือใกล้จะกลายเป็นธุรกิจระดับองค์กร การพัฒนาและเพิ่มช่องทางสร้างรายรับใหม่ๆ จะกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจมีความคล่องตัวและแข่งขันในตลาดได้ หลังจากคุณพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการหลักให้ติดตลาดได้แล้ว เป้าหมายด้านการเติบโตของคุณจะแบ่งออกเป็นสองทิศทางซึ่งต้องดำเนินการควบคู่กันไป ได้แก่ การปรับปรุงและขยายธุรกิจของคุณให้เติบโตโดยอาศัยผลิตภัณฑ์และบริการเดิม และการมองหาโอกาสดีๆ เพื่อเปิดตัวธุรกิจและบริการใหม่ๆ

การพัฒนาธุรกิจในด้านนี้จำเป็นต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ เพราะการสร้างช่องทางสร้างรายรับใหม่ๆ จำเป็นต้องพิจารณาทิศทางการเติบโตหลายๆ แบบสำหรับธุรกิจ วิเคราะห์ว่าทิศทางใดเหมาะกับความต้องการเฉพาะของบริษัทคุณมากที่สุดในเชิงกลยุทธ์ รวมทั้งทดสอบสมมติฐานและการตัดสินใจเหล่านั้นอย่างต่อเนื่อง ในบทความนี้ คุณจะได้เห็นภาพรวมของแนวทางเชิงกลยุทธ์ในการสร้างช่องทางสร้างรายรับสำหรับธุรกิจระดับองค์กร รวมถึงไอเดียในการสร้างช่องทางสร้างรายรับและกลยุทธ์ที่หลากหลาย ซึ่งจะช่วยคุณระบุและลงทุนในช่องทางสร้างรายรับที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณมากที่สุด

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

  • ช่องทางสร้างรายรับคืออะไร
  • เหตุใดช่องทางสร้างรายรับใหม่ๆ จึงเป็นประโยชน์
  • วิธีพิจารณาช่องทางสร้างรายรับใหม่ๆ
  • กลยุทธ์ในการสร้างช่องทางสร้างรายรับใหม่ๆ
    • บริการทางการเงินแบบผสานรวม
    • สํารวจโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ที่น่าจะนำมาใช้ได้
    • สร้างกลยุทธ์การเรียกเก็บเงินเพื่อสนับสนุนช่องทางสร้างรายรับใหม่ๆ
    • พิจารณาว่าจะเป็นมาร์เก็ตเพลสหรือแพลตฟอร์ม
    • พิจารณาขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ
    • วางระบบการรับชําระเงินทั่วโลก

ช่องทางสร้างรายรับคืออะไร

สําหรับธุรกิจบางประเภท สินทรัพย์แต่ละรายการที่ขายจะสร้างช่องทางรายรับเพียงช่องทางเดียว แต่ก็ไม่ได้เป็นเช่นนี้เสมอไป เพราะธุรกิจสามารถใช้สินทรัพย์หนึ่งรายการมาสร้างช่องทางสร้างรายรับได้หลายช่องทาง ตัวอย่างเช่น หากบริษัทของคุณจําหน่ายซอฟต์แวร์ คุณอาจขายซอฟต์แวร์ให้แก่ผู้บริโภคแต่ละรายโดยตรงและขายเวอร์ชันไวท์เลเบิลให้บริษัทต่างๆ นำไปใส่แบรนด์ของตัวเอง ช่องทางการสร้างรายรับไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ที่ธุรกิจของคุณขาย แต่เป็นวิธีสร้างรายได้ ธุรกิจของคุณจะมีช่องทางสร้างรายรับได้เท่าไหร่ก็ได้ และการหาวิธีเพิ่มช่องทางรายรับก็เป็นสิ่งที่สําคัญที่สุดสําหรับธุรกิจหลายๆ แห่งเนื่องจากธุรกิจเหล่านี้ต่างก็ต้องการเติบโต

เหตุใดช่องทางสร้างรายรับใหม่ๆ จึงเป็นประโยชน์

กลยุทธ์สําหรับช่องทางสร้างรายรับของธุรกิจนั้นไม่ใช่แค่ต้องเน้นการสร้างหรือเพิ่มรายรับ แต่เป็นเรื่องของความเสี่ยง การจะประสบความสำเร็จด้วยช่องทางสร้างรายรับเพียงช่องทางเดียวไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด แต่เมื่อเวลาผ่านไป การพึ่งพาช่องทางสร้างรายรับเพียงช่องทางเดียวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงได้ เพราะหากธุรกิจที่เป็นช่องทางสร้างรายรับเพียงช่องทางเดียวนั้นไม่ประสบความสำเร็จอีกต่อไป คุณก็จะไม่มีแผนสำรอง ลองคิดในมุมมองของการลงทุน โดยทั่วไปแล้ว การกระจายความเสี่ยงถือว่าปลอดภัยและยั่งยืนกว่าการลงทุนในหุ้นเพียงตัวเดียว

ดังนั้น เมื่อจัดทําแผนขยายธุรกิจ เราควรคิดหาวิธีเพิ่มความหลากหลายให้กับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทด้วย เมื่อคุณมีผลิตภัณฑ์และบริการที่ติดตลาดและสร้างช่องทางสร้างรายรับจากผลิตภัณฑ์และบริการดังกล่าว คุณก็จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนได้หลายทาง แม้ในกรณีที่ช่องทางสร้างรายรับช่องทางหนึ่งประสบปัญหาหรือให้ผลตอบแทนน้อยลง ช่องทางสร้างรายรับที่หลากหลายจะช่วยปกป้องธุรกิจของคุณจากความไม่แน่นอนในยามที่เศรษฐกิจถดถอย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ช่องทางสร้างรายรับช่องทางหนึ่งมีลักษณะสวนทางกับวัฎจักรเศรษฐกิจ

วิธีพิจารณาช่องทางสร้างรายรับใหม่ๆ

ในการพิจารณาช่องทางสร้างรายรับใหม่ๆ นั้น คุณต้องถอยหลังออกมาสังเกตการดําเนินงานในแต่ละวันและสํารวจธุรกิจของคุณจากมุมมองที่มองเห็นได้ชัดเจน แนะนำให้เริ่มจากการระดมสมอง โดยไม่ตั้งข้อจํากัดมากเกินไปว่าสิ่งใดเป็นไปได้หรือเป็นไปไม่ได้ ตอนแรกให้ตั้งเป้าหมายว่าจะพิจารณาตัวเลือกต่างๆ สําหรับธุรกิจของคุณ

ผู้มีอํานาจตัดสินใจในองค์กรควรใช้มุมมองแบบเดียวกับธุรกิจขนาดเล็ก กล่าวคือให้มองในระดับพื้นฐานและพิจารณาว่าหากฉันจะเริ่มทําธุรกิจวันนี้ ฉันจะคว้าโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ แบบไหนได้บ้างเมื่อพิจารณาจากขนาดของตลาดและการตอบโจทย์ความต้องการของตลาด สํานักงานธุรกิจขนาดเล็กแห่งสหรัฐอเมริกา (SBA) มีแหล่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากมายเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ รวมถึงคําถามแนะนำที่ควรพิจารณาเมื่อต้องประเมินและทําความเข้าใจตลาดของคุณ ซึ่งใช้ได้กับประเทศอื่นๆ ด้วย ไม่ใช่เฉพาะในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แม้ว่าคําถามเหล่านี้จะมาจาก SBA ซึ่งเน้นให้บริการธุรกิจขนาดเล็ก แต่แบบฝึกหัดชวนคิดเกี่ยวกับช่องทางสร้างรายได้ใหม่ๆ ก็เป็นโอกาสดีให้ธุรกิจระดับองค์กร "กลับไปมองสิ่งต่างๆ ในระดับพื้นฐาน" คําถามเหล่านี้เป็นวิธีที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณศึกษาตลาดของธุรกิจอย่างจริงจัง และพิจารณาว่าช่องทางสร้างรายรับช่องทางใดเหมาะสมที่สุดที่จะนำมาดำเนินการ ตัวอย่างคําถามที่จำเป็น ได้แก่

  • อุปสงค์: มีความต้องการผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณหรือไม่
  • ขนาดตลาด: จำนวนผู้ที่น่าจะสนใจผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณคือเท่าไหร่
  • ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ: ช่วงรายได้และอัตราการจ้างงานอยู่ในระดับใด
  • สถานที่: ลูกค้าของคุณอาศัยอยู่ที่ไหน และธุรกิจของคุณจะเข้าถึงลูกค้าได้ที่ไหน
  • ความอิ่มตัวของตลาด: ผู้บริโภคมีตัวเลือกคล้ายกันกี่ตัวเลือก
  • ราคาและค่าบริการ: ว่าที่ลูกค้าชําระเงินให้กับทางเลือกเหล่านี้เท่าใดบ้าง

คําถามแบบนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมากในการประเมินตลาด รวมถึงความสามารถอยู่รอดของช่องทางสร้างรายรับของบริษัท

สิ่งที่สําคัญไม่แพ้การประเมินสิ่งที่สามารถสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจได้ก็คือ การศึกษาทําความเข้าใจตัวเลือกที่คุณมีอยู่แล้วจากสินทรัพย์ที่คุณครอบครองอยู่ในปัจจุบัน มีช่องทางสร้างรายรับหลายแบบที่คุณสามารถนำไปพิจารณา ไม่ว่าจะเป็นการชำระเงินตามรอบบิล การออกใบอนุญาต การขายผลิตภัณฑ์ บริการหรือการให้คําปรึกษา ค่าธรรมเนียมนายหน้า ค่าธรรมเนียมการใช้งาน การโฆษณา และการเช่า

กลยุทธ์ในการสร้างช่องทางสร้างรายรับใหม่ๆ

ต่อไปนี้คือกลยุทธ์ที่คุณสามารถนำไปพิจารณาเมื่อต้องการสร้างช่องทางสร้างรายรับใหม่ๆ เพื่อขยายธุรกิจ

บริการทางการเงินแบบผสานรวม

หนึ่งในบริการที่นิยมนำมาใช้สร้างช่องทางสร้างรายรับใหม่ๆ ก็คือการเงินแบบผสานรวม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การเติบโตของเครื่องมือที่ให้บริการด้านธนาคาร (BaaS) ทําให้บริษัททุกประเภทสามารถเสนอบริการที่ธนาคารนําเสนอได้ เช่น การออกบัตร การเปิดบัญชีการเงิน หรือการอนุมัติเงินกู้โดยตรง บริการเหล่านี้ไม่เพียงเป็นวิธีขยายธุรกิจโดยมีค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานเพียงเล็กน้อย แต่ยังเปิดโอกาสให้ธุรกิจสร้างรายได้จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจบนแพลตฟอร์มของคุณด้วย

มีบริการทางการเงินหลายแบบที่คุณสามารถนําเสนอได้ ตัวอย่างเช่นการออกบัตร เมื่อใช้โซลูชันอย่าง Stripe Issuing ธุรกิจของคุณจะเปิดตัวและจัดการโปรแกรมบัตรเพื่อธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว ทุกครั้งที่เจ้าของบัตรทําการซื้อด้วยบัตรที่ออกผ่านโปรแกรมบัตรของคุณ คุณจะสามารถสร้างรายได้จากการหักรับรายรับส่วนหนึ่งจากการทำธุรกรรมผ่านบัตรระหว่างธนาคาร (ค่าใช้จ่ายที่มาพร้อมธุรกรรมบัตรทุกรายการ) คู่มือนี้จะอธิบายอย่างละเอียดว่าการออกบัตรสร้างรายรับให้กับธุรกิจได้อย่างไร

ในทำนองเดียวกันกับการเสนอเงินกู้ ธุรกิจจำนวนมากต้องการความช่วยเหลือด้านการเงิน ดังนั้นหากคุณสามารถให้เงินกู้ด้วยข้อเสนอที่น่าสนใจกว่าคู่แข่งก็จะช่วยให้ธุรกิจของคุณมีฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ เครื่องมืออย่าง Stripe Capital ช่วยให้คุณดําเนินการต่างๆ ได้ง่ายดายด้วยการมอบโปรแกรมเงินกู้ยืมแบบครบวงจรผ่านการผสานการทํางานเพียงครั้งเดียว สําหรับมาร์เก็ตเพลสหรือแพลตฟอร์ม API ของ Stripe Treasury ช่วยให้คุณผสานบริการทางการเงินได้อย่างง่ายดายด้วยการผสานการทํางานเพียงครั้งเดียว

เมื่อเครื่องมือ BaaS พัฒนามากขึ้น คุณควรพิจารณาว่าเครื่องมือใดบ้างที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ นี่เป็นวิธีที่จะช่วยคุณติดตามช่องทางสร้างรายรับแบบใหม่ๆ ให้กับบริษัท การสนับสนุนที่ปรับแต่งให้เหมาะกับคุณโดยเฉพาะจากชุดโซลูชันระดับองค์กรของ Stripe สามารถช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้เข้าถึงและเพิ่มประสิทธิภาพช่องทางสร้างรายได้ทั้งหมดที่มี และกระตุ้นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่นี่

สํารวจโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ที่น่าจะนำมาใช้ได้

องค์ประกอบหลักอย่างหนึ่งที่ควรพิจารณาเมื่อต้องการสร้างช่องทางสร้างรายรับใหม่ๆ คือโมเดลธุรกิจของคุณ คําถามที่จำเป็น

  • ปัจจุบันโมเดลธุรกิจหลักของคุณเป็นอย่างไร
  • โมเดลธุรกิจแบบอื่นที่น่าสนใจได้แก่โมเดลแบบใดบ้าง
  • โมเดลธุรกิจใหม่นี้จะใช้แทนที่โมเดลที่มีอยู่หรือนำเข้ามาเสริม

นอกเหนือจากการจําหน่ายผลิตภัณฑ์แล้ว ยังมีโมเดลธุรกิจอีกมากมายที่สามารถตอบสนองความต้องการของคุณ ตัวอย่างเช่น การชําระเงินตามรอบบิล ซึ่งได้รับความนิยมจากธุรกิจทุกขนาดในการเพิ่มประสิทธิภาพรายรับและขยายสิ่งที่เป็นไปได้สําหรับการดําเนินงาน โมเดลนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะกับธุรกิจให้บริการซอฟต์แวร์ (SaaS) ซึ่งอาศัยการชําระเงินตามรอบบิลเป็นหนึ่งในแหล่งรายได้หลัก แต่ไม่ใช่แค่ธุรกิจ SaaS เท่านั้นที่นิยมใช้ประโยชน์จากโมเดลแบบการชําระเงินตามรอบบิล การชำระเงินตามรอบบิลเป็นธุรกิจที่น่าติดใจและช่วยให้ธุรกิจคาดการณ์กระแสเงินสดได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นข้อดีในทางเศรษฐศาสตร์ที่ทำให้ธุรกิจต่างๆ ในทุกอุตสาหกรรมพากันสำรวจว่าโมเดลแบบการชําระเงินตามรอบบิลที่ได้ผลดีควรจะมีลักษณะเป็นอย่างไร

โมเดลธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่

  • การส่งตรงถึงผู้บริโภค
  • มาร์เก็ตเพลส
  • แพลตฟอร์ม
  • พันธมิตรช่วยขาย

แน่นอนว่า ไม่ใช่ธุรกิจทุกรายที่จะขยายการเติบโตด้วยโมเดลธุรกิจทุกประเภทได้อย่างง่ายดาย แต่เราแนะนำให้คุณนำโมเดลธุรกิจทุกแบบมาพิจารณาในแบบฝึกหัดนี้ชวนคิดนี้ เริ่มต้นด้วยการพิจารณาผลิตภัณฑ์และบริการหลักที่คุณจําหน่าย จากนั้นลองนึกภาพว่าการปรับบริบทผลิตภัณฑ์และบริการเหล่านั้นให้เข้ากับโมเดลธุรกิจแบบต่างๆ จะเป็นอย่างไร แบบไหนที่ใช้ได้ผลและแบบไหนที่เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ผล แบบไหนที่ช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มตลาดใหม่ๆ ได้ การเปิดรับโมเดลธุรกิจแบบใหม่ ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่าย แต่สําหรับธุรกิจระดับองค์กรที่ต้องการสร้างช่องทางสร้างรายรับใหม่ๆ แล้ว นี่คือวิธีที่มีประสิทธิภาพอย่างมากในการสร้างผลกําไรด้วยทิศทางใหม่

สร้างกลยุทธ์การเรียกเก็บเงินเพื่อสนับสนุนช่องทางสร้างรายรับใหม่ๆ

หากคุณตัดสินใจว่าการขยายธุรกิจด้วยโมเดลธุรกิจแบบอื่นเป็นแนวทางที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ ก็มีเครื่องมือมากมายที่จะช่วยให้การเปลี่ยนผ่านนี้เป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ตัวอย่างเช่น ซอฟต์แวร์ Billing จะช่วยทําให้การตั้งค่า การดําเนินการ และการบํารุงรักษาระบบการชําระเงินตามรอบบิลในระยะยาวเป็นเรื่องง่าย Stripe Billing คือโซลูชันแบบครบวงจรที่ใช้ API เพื่อผสานการทํางานกับเว็บไซต์ แอป และระบบ CRM ซึ่งช่วยให้ธุรกิจตั้งค่าระบบการชําระเงินตามรอบบิลได้ภายในไม่กี่นาที แม้จะมีความต้องการที่ซับซ้อนซึ่งมาพร้อมกับการเป็นองค์กรที่ดําเนินงานทั่วโลก

ซอฟต์แวร์การเรียกเก็บเงินของ Stripe มาพร้อมกับชุดผลิตภัณฑ์อื่นๆ ด้วย ตั้งแต่การออกใบแจ้งหนี้ ลิงก์ชําระเงิน ไปจนถึงรายงานรายรับ ผลิตภัณฑ์นี้นำแนวทางแบบองค์รวมมาใช้กับการชำระเงินตามรอบบิล ซึ่งช่วยบริษัทคุณประหยัดค่าใช้จ่ายด้านวิศวกรรมและการดำเนินงานในการผสานการทํางานและการดูแลระบบและเครื่องมือที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

พิจารณาว่าจะเป็นมาร์เก็ตเพลสหรือแพลตฟอร์ม

มีเครื่องมือมากมายที่รองรับระบบการรับชําระเงินที่ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น Stripe Connect ซึ่งเป็นระบบการรับส่งเงินที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณจัดการกระบวนการเริ่มต้นใช้งานของผู้ใช้และขั้นตอนการโอนเงินที่ซับซ้อนได้ Connect ออกแบบมาให้ผสานการทํางานการชําระเงินเข้ากับแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับธุรกิจระดับองค์กร นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณใช้โมเดลธุรกิจแบบมาร์เก็ตเพลสได้ หากคุณตัดสินใจที่จะอํานวยความสะดวกให้กับการทําธุรกรรมระหว่างธุรกิจหรือผู้ให้บริการกับลูกค้า

พิจารณาขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ

บางครั้งการสร้างช่องทางสร้างรายรับใหม่ๆ สําหรับธุรกิจระดับองค์กรอาจไม่ได้หมายถึงการทําสิ่งใหม่ๆ แต่เป็นการทําสิ่งที่คุณทำได้ดีอยู่แล้วในสถานที่ใหม่ ดังนั้น การขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ จึงเป็นโอกาสน่าตื่นเต้นซึ่งมาพร้อมกับความท้าทายและโอกาสที่มีลักษณะเฉพาะ และเป็นสิ่งที่คุณควรพิจารณาเมื่อต้องการเพิ่มช่องทางสร้างรายรับ ตัวอย่างคำถามตั้งต้น ได้แก่

  • ปัจจุบันคุณดําเนินธุรกิจที่ไหน คุณเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใดบ้างที่นั่น
  • คุณยังไม่ได้เจาะกลุ่มลูกค้าใดบ้าง มีกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการและกรณีการใช้งานที่คล้ายคลึงกับกลุ่มลูกค้าที่คุณให้บริการอยู่ในขณะนี้หรือไม่ ปัจจุบันมีสิ่งใดขัดขวางไม่ให้คุณเข้าถึงกลุ่มคนเหล่านี้
  • ธุรกิจของคุณน่าจะขยายธุรกิจไปยังพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ใดบ้าง อุปสรรคใดบ้าง (เช่น ลอจิสติกส์หรือที่เกี่ยวข้องกับจุดยืน) ขัดขวางคุณไม่ให้ทําธุรกิจที่นั่น
  • พื้นที่ไหนที่มีการแข่งขันโดยตรงมากที่สุด พื้นที่ไหนที่น้อยที่สุด สถานที่ใดที่คุณยังไม่ได้เข้าไปทําธุรกิจในปัจจุบัน แต่ว่าสามารถมอบโซลูชันที่มีความแตกต่างอย่างชัดเจนเพื่อตอบสนองความต้องการที่มีอยู่ได้

หลังจากตอบคําถามทั้งหมดนี้แล้ว ให้ดำเนินการต่อด้วยคําถามต่อไปนี้

  • พื้นที่ใดบ้างที่คุณมีความสามารถและสนใจที่จะขยายธุรกิจเข้าไป
  • แผนการดำเนินงานในระยะใกล้และระยะกลางสําหรับการขยายธุรกิจดังกล่าวมีลักษณะเป็นอย่างไร

วางระบบการรับชําระเงินทั่วโลก

ปัจจัยหนึ่งที่สร้างผลกระทบได้อย่างมาก รวมทั้งสามารถอำนวยความสะดวกหรือปิดกั้นการเข้าถึงตลาดหนึ่งๆ ได้เลยก็คือวิธีการชําระเงิน ไม่ว่าคุณจะกังวลเกี่ยวกับสกุลเงิน บัตรเครดิต หรือตัวเลือกการจัดหาเงินทุน การนําเสนอวิธีการชําระเงินที่มีประสิทธิภาพเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่สุดที่ธุรกิจสามารถนำมาใช้เพิ่มรายรับ

การผสานรวมความต้องการเฉพาะของผู้บริโภคเข้าด้วยกันผ่านวิธีการชําระเงินที่หลากหลายอาจช่วยให้คุณพบเจอตลาดที่อาจไม่เคยตระหนักมาก่อนว่าหลงลืมไปจากทั่วทุกมุมโลก ตัวอย่างเช่น จากข้อมูลการวิจัย ของ Stripe พบว่า ผู้บริโภค 50% ในสหราชอาณาจักรนิยมใช้บัตร ในขณะที่ 47% ของชาวมาเลเซียชอบชำระเงินด้วยการหักบัญชีและการโอนเงินผ่านธนาคาร โดยมีเพียง 25% ที่เลือกใช้บัตร การทําความเข้าใจความต้องการเหล่านี้อย่างรอบด้าน รวมทั้งออกแบบธุรกิจให้สอดคล้องกัน จะช่วยให้คุณสามารถเจาะตลาดที่ก่อนหน้านี้ไม่สามารถเข้าถึงได้

แม้ว่าการยอมรับวิธีการชําระเงินหลายแบบนั้นมีประโยชน์ แต่ที่สําคัญกว่านั้นคือคุณต้องแน่ใจว่าคุณยอมรับวิธีการชําระเงินทั้งหมดที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดหลัก คุณอาจไม่ต้องยอมรับการชําระเงินทุกรูปแบบ แต่คุณควรเข้าใจว่ากลุ่มลูกค้าหลักต้องการชําระเงินอย่างไร และตรวจสอบว่าคุณยอมรับวิธีการชําระเงินเหล่านั้นได้

Stripe นําเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายที่สามารถช่วยได้ในเรื่องนี้ เมื่อใช้เครื่องมือที่เพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์การชําระเงินและช่วยธุรกิจของคุณมอบตัวเลือกการชําระเงิน ตลอดจนสกุลเงิน บัตร หรือตัวเลือกด้านธนาคารหลากหลายรูปแบบ ธุรกิจของคุณจะสามารถขยายตลาดทั้งหมดที่สามารถระบุได้ รวมทั้งเข้าถึงช่องทางสร้างรายรับใหม่ๆ ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมหาศาลไปกับการดําเนินงาน หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวเลือกเหล่านี้ โปรดไปที่นี่

Stripe Atlas จะช่วยคุณได้อย่างไร

Stripe Atlas สร้างรากฐานด้านกฎหมายของบริษัทเพื่อให้คุณสามารถระดมทุน เปิดบัญชีธนาคาร และรับชำระเงินได้ภายใน 2 วันทำการจากทุกที่ทั่วโลก

เข้าร่วมกับบริษัทกว่า 75,000 แห่งที่จัดตั้งขึ้นโดยใช้ Atlas ซึ่งรวมถึงสตาร์ทอัพที่ได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนชั้นนำ เช่น Y Combinator, a16z และ General Catalyst

การสมัครใช้งาน Atlas

การสมัครเพื่อจัดตั้งบริษัทกับ Atlas ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที คุณจะเลือกโครงสร้างบริษัทของคุณ จากนั้นจะยืนยันได้ทันทีว่าชื่อบริษัทของคุณใช้งานได้หรือไม่ และเพิ่มผู้ร่วมก่อตั้งได้ไม่เกิน 4 คน นอกจากนี้ คุณยังตัดสินใจได้ว่าจะแบ่งหุ้นอย่างไร สำรองหุ้นบางส่วนไว้สำหรับนักลงทุนและพนักงานในอนาคต แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ และลงนามเอกสารทั้งหมดแบบอิเล็กทรอนิกส์ จากนั้นผู้ร่วมก่อตั้งจะได้รับอีเมลเชิญให้ลงนามในเอกสารทางอิเล็กทรอนิกส์ด้วยเช่นกัน

การรับชำระเงินและการธนาคารก่อนที่จะได้รับ EIN ของคุณ

หลังจากจัดตั้งบริษัทแล้ว Atlas จะยื่นเอกสาร EIN ให้คุณ ผู้ก่อตั้งที่มีหมายเลขประกันสังคมของสหรัฐอเมริกา ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์มือถือจะมีสิทธิ์รับการประมวลผลแบบเร่งด่วนของ IRS ขณะที่ผู้ก่อตั้งรายอื่นๆ จะได้รับการประมวลผลแบบมาตรฐาน ซึ่งอาจใช้เวลานานขึ้นอีกเล็กน้อย นอกจากนี้ Atlas ยังเปิดใช้การชำระเงินและการธนาคารก่อนที่จะได้รับ EIN เพื่อให้คุณสามารถเริ่มรับชำระเงินและทำธุรกรรมก่อนที่จะได้รับ EIN ได้

การซื้อหุ้นของผู้ก่อตั้งแบบไร้เงินสด

ผู้ก่อตั้งสามารถซื้อหุ้นเริ่มต้นโดยใช้ทรัพย์สินทางปัญญา (เช่น ลิขสิทธิ์หรือสิทธิบัตร) แทนเงินสดได้ โดยมีหลักฐานการซื้อที่จัดเก็บไว้ในแดชบอร์ด Atlas คุณต้องมีทรัพย์สินทางปัญญามูลค่าไม่เกิน 100 ดอลลาร์สหรัฐจึงจะใช้ฟีเจอร์นี้ได้ หากคุณมีทรัพย์สินทางปัญญาที่มีมูลค่าสูงกว่านั้น โปรดปรึกษาทนายความก่อนที่จะดำเนินการต่อ

การยื่นเอกสารการเลือกสถานะภาษี 83(b) อัตโนมัติ

ผู้ก่อตั้งสามารถยื่นเอกสารการเลือกสถานะภาษี 83(b) เพื่อลดหย่อนภาษีเงินได้ส่วนบุคคลได้ โดย Atlas จะยื่นเอกสารให้คุณ ไม่ว่าจะเป็นผู้ก่อตั้งในสหรัฐอเมริกาหรือนอกสหรัฐอเมริกา โดยใช้จดหมายรับรองจากสถาบันคุ้มครองเงินฝากสหรัฐฯ (USPS Certified Mail) และติดตามข้อมูล คุณจะได้รับเอกสารการเลือกสถานะภาษี 83(b) ที่ลงนามและหลักฐานการ การยื่นเอกสารโดยตรงในแดชบอร์ด Stripe

เอกสารทางกฎหมายของบริษัทระดับโลก

Atlas ให้บริการเอกสารทางกฎหมายทั้งหมดที่คุณจำเป็นต้องใช้ในการเริ่มดำเนินธุรกิจบริษัทของคุณ โดยเอกสารของบริษัทประเภท C ของ Atlas ได้รับการสร้างขึ้นโดยร่วมงานกับ Cooley ซึ่งเป็นหนึ่งในสำนักงานกฎหมายการร่วมลงทุนชั้นนำของโลก โดยเอกสารเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณระดมทุนได้ทันทีและช่วยให้มั่นใจว่าบริษัทของคุณจะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย โดยครอบคลุมถึงแง่มุมต่างๆ เช่น โครงสร้างกรรมสิทธิ์ การแจกจ่ายหุ้น และการ ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านภาษี

Stripe Payments ฟรีหนึ่งปี พร้อมเครดิตและส่วนลดสำหรับพาร์ทเนอร์มูลค่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ

Atlas ร่วมงานกับพาร์ทเนอร์ระดับแนวหน้าเพื่อมอบส่วนลดและเครดิตสุดพิเศษกับผู้ก่อตั้ง รวมถึงส่วนลดสำหรับเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการทำงานด้านวิศวกรรม ภาษี การเงิน การปฏิบัติตามข้อกำหนด และการปฏิบัติงานจากผู้นำอุตสาหกรรมอย่าง AWS, Carta และ Perplexity เรายังมอบตัวแทนที่จดทะเบียนในรัฐเดลาแวร์ให้คุณโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในปีแรกด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ในฐานะผู้ใช้ Atlas คุณยังได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมจาก Stripe รวมถึงการประมวลผลการชำระเงินแบบไม่เสียค่าใช้จ่ายสูงสุด 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Atlas ช่วยคุณจัดตั้งธุรกิจใหม่ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย และเริ่มใช้งานได้เลยวันนี้

เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Payments

Payments

รับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกด้วยโซลูชันการชำระเงินที่สร้างมาสำหรับธุรกิจทุกขนาด

Stripe Docs เกี่ยวกับ Payments

ค้นหาคู่มือเกี่ยวกับการเชื่อมต่อ Payments API ของ Stripe