ผู้บริโภคในนิวซีแลนด์ใช้จ่ายเกือบ 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ในปี 2023 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเท่าที่เคยมีมา อิงตามข้อมูลจาก Trading Economics ทำให้มีโอกาสสูงสำหรับธุรกิจที่กําลังพิจารณาขยายกิจการเข้าสู่ประเทศนี้ การเริ่มดําเนินธุรกิจในนิวซีแลนด์มาพร้อมกับความท้าทายมากมายเช่นเดียวกับตลาดแห่งใหม่อื่นๆ ตั้งแต่อุปสรรคด้านระเบียบข้อบังคับ ไปจนถึงความต้องการด้านการชําระเงินที่เฉพาะตัวของลูกค้าในท้องถิ่น
เราได้สรุปว่าธุรกิจต่างประเทศที่กําลังพิจารณาขยายธุรกิจไปยังนิวซีแลนด์ต้องพิจารณาปัจจัยสําคัญในตลาดนิวซีแลนด์ด้านในบ้าง ดังนี้
- การตระหนักถึงระบบการกํากับดูแลในท้องถิ่น
- การผสมผสานวิธีการชําระเงินแบบดั้งเดิมและสมัยใหม่
- การปรับแผนดำเนินการให้เหมาะกับลูกค้าในนิวซีแลนด์
สถานการณ์ในตลาด
การผสมผสานวิธีการชําระเงินแบบไดนามิกช่วยกำหนดทิศทางของกลุ่มธุรกิจการชําระเงินในนิวซีแลนด์ และวิธีการชำระเงินเหล่านี้ยังคงเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องเมื่อมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามา แม้วิธีการชําระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ใหม่กว่า เช่น การชําระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ กําลังได้รับความนิยมมากขึ้น แต่บัตรเครดิตและบัตรเดบิต ยังคงเป็นวิธีหลักที่ชาวนิวซีแลนด์ใช้ชําระเงิน สกุลเงินทางการของนิวซีแลนด์คือดอลลาร์นิวซีแลนด์ มักใช้ตัวย่อเป็น NZD หรือสัญลักษณ์ NZ$
ที่ตั้งของนิวซีแลนด์ซึ่งอยู่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) ช่วยให้ทําการค้ากับประเทศใน APAC อื่นๆ เช่น ออสเตรเลีย และจีนได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ธุรกิจที่ดําเนินการในนิวซีแลนด์จึงต้องพิจารณาใช้การชําระเงินข้ามพรมแดน และการแปลงสกุลเงิน กรอบการกํากับดูแลและแนวทางอุตสาหกรรมของประเทศมีข้อกําหนดที่เข้มงวดสําหรับความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภคและระเบียบการด้านการชําระเงินที่ธุรกิจต้องพิจารณาด้วย
ธนาคารแห่งชาติคือธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) ซึ่งรักษาเสถียรภาพทางการเงิน ควบคุมและดูแลระบบการเงิน และออกสกุลเงินของนิวซีแลนด์ โดย RBNZ ทํางานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับ Financial Markets Authority (FMA) ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2011 เพื่อดูแลบริษัทด้านบริการทางการเงินในนิวซีแลนด์ และ Commerce Commission ที่จะติดตามตรวจสอบระบบการชําระเงินของธุรกิจค้าปลีก
วิธีการชําระเงิน
นิวซีแลนด์มีตัวเลือกการชําระเงินที่หลากหลาย แต่มีแนวโน้มที่ชัดเจนซึ่งเป็นตัวกำหนดทิศทางของตลาด
การใช้งานในปัจจุบัน
ผู้บริโภคใช้บัตรเครดิตกันอย่างแพร่หลายทั่วนิวซีแลนด์ ตั้งแต่เมืองที่มีประชากรเยอะไปจนถึงเมืองแถบชนบท จากแบบสํารวจปี 2022 ชาวนิวซีแลนด์กว่า 77% เลือกใช้บัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตเพื่อใช้จ่ายในแต่ละวัน แม้ว่าความนิยมนี้จะเปลี่ยนไปแล้วก็ตาม
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การชําระเงินแบบไร้สัมผัสได้รับความนิยมมากขึ้นในนิวซีแลนด์ และมีการใช้มากขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อผู้บริโภคเลือกวิธีการชําระเงินที่ลดการสัมผัสทางกายภาพ โดยในปี 2022 คนในประเทศกว่า 84% ใช้วิธีการชําระเงินแบบไร้สัมผัส และกว่าครึ่งในนั้นใช้วิธีนี้อย่างต่อเนื่อง
การชําระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนได้รับความนิยมในหมู่ชาวนิวซีแลนด์เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มคนที่อายุน้อยซึ่งเกิดมาในยุคดิจิทัล ข้อมูลจากแบบสํารวจปี 2022 ระบุว่าชาวนิวซีแลนด์ 10% เลือกชําระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่สําหรับธุรกรรมทั่วไป แต่อัตรานี้จะเพิ่มเป็น 20% สำหรับกลุ่มคนที่อายุไม่เกิน 34 ปี ข้อมูลนี้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของความต้องการด้านการชําระเงิน โดยมีแรงเสริมจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคด้านความปลอดภัยในการธุรกรรมผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่
แม้ว่ารูปแบบการชําระเงินที่ใหม่กว่าจะทยอยเข้าสู่กระแสหลัก แต่วิธีการแบบดั้งเดิมอย่างการโอนเงินผ่านธนาคาร ก็ยังคงมีการใช้งานเป็นจำนวนมากอยู่ ผู้บริโภคชาวนิวซีแลนด์ชื่นชอบแพลตฟอร์มอย่าง POLi ซึ่งเป็นวิธีการชําระเงินอิเล็กทรอนิกส์สําหรับบริการธนาคารออนไลน์ในประเทศนิวซีแลนด์และออสเตรเลีย
วิธีการชําระเงินแบบ B2C ที่ได้รับความนิยมในนิวซีแลนด์
- บัตรเครดิตและบัตรเดบิต
- กระเป๋าเงินดิจิทัล (เช่น Apple Pay และ Google Pay)
- การโอนเงินผ่านธนาคาร (เช่น POLi)
- การชําระเงินแบบ "ซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง" (BNPL) (เช่น Zip และ Afterpay)
วิธีการชําระเงินแบบ B2B ที่ได้รับความนิยมในนิวซีแลนด์
- บัตรเครดิต
- การโอนเงินผ่านธนาคาร
- การหักบัญชีอัตโนมัติ
แนวโน้มใหม่
นิวซีแลนด์มีชื่อเสียงในด้านระบบการเงินที่ก้าวหน้าขึ้น เรื่อยๆ และสินทรัพย์ดิจิทัลก็เริ่มได้รับความนิยม อย่างไรก็ตาม การใช้คริปโตเคอร์เรนซียังถือว่าไม่แพร่หลาย ดัชนีการใช้คริปโตเคอร์เรนซีของ Finder ระบุว่า ชาวนิวซีแลนด์เกือบ 7% เป็นเจ้าของคริปโตเคอร์เรนซี ในปี 2022 การแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซีในท้องถิ่น เช่น Easy Crypto และแพลตฟอร์มระดับโลก เช่น Coinbase ก็ได้ให้ความสำคัญกับสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้น และช่วยให้ชาวนิวซีแลนด์เข้าร่วมเศรษฐกิจดิจิทัลได้
ความง่ายและความยากในการเข้าสู่ตลาด
การรับชําระเงินในนิวซีแลนด์ต้องใช้กลยุทธ์ที่ครอบคลุมในหลายๆ ด้านสำหรับการดําเนินงานทางธุรกิจที่หลากหลาย ตั้งแต่การเรียกเก็บภาษีไปจนถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยด้านการชําระเงิน คุณควรคำนึงถึงปัจจัยดังต่อไปนี้
ภาษี
ภาษีสินค้าและบริการ (GST) ของนิวซีแลนด์จะเรียกเก็บจากทั้งผู้บริโภคและธุรกิจ GST มาตรฐานคือ 15% และบังคับใช้ GST กับสินค้าและบริการส่วนใหญ่ โดยผู้บริโภคจะจ่ายภาษีนี้โดยตรงเมื่อซื้อสินค้าและบริการ ส่วนธุรกิจจะเรียกเก็บและนำส่งภาษีนี้ให้กับรัฐบาลในภายหลัง การจัดการ GST ที่ไม่มีประสิทธิภาพ เช่น การชําระล่าช้าหรือข้อผิดพลาดในการคํานวณ อาจนำไปสู่บทลงโทษได้ ธุรกิจจึงต้องทราบเกี่ยวกับการตีความของ GST
การดึงเงินคืนและการโต้แย้งการชําระเงิน
กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค ฉบับปี 1993 (CGA) คือกฎหมายหลักที่ควบคุมกระบวนการดึงเงินคืนของนิวซีแลนด์ กฎหมายนี้ระบุว่าลูกค้าได้รับการรับประกันว่าสินค้าและบริการจะตรงกับคําอธิบาย มีคุณภาพที่ยอมรับได้ และให้บริการตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้ เมื่อผู้บริโภคเชื่อว่าสินค้าหรือบริการที่ได้รับไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่ระบุไว้ใน CGA ผู้บริโภคจะสามารถเริ่มดึงเงินคืนจากบริษัทที่ออกบัตรเครดิตหรือธนาคารได้
ผู้บริโภคมีเวลาสูงสุด 120 วัน นับจากวันที่ทําธุรกรรมในการขอยื่นการดึงเงินคืน โดยทั่วไปแล้ว ธุรกิจจะมีกรอบเวลาในการตอบกลับที่สั้นลง ซึ่งรวมถึงการรวบรวมและส่งหลักฐานคัดค้านการขอรับสิทธิ์
การชําระเงินระหว่างประเทศ
ยอดขายอีคอมเมิร์ซกําลังเติบโตขึ้นทั่วโลก รวมถึงการช็อปปิ้งข้ามพรมแดน เมื่อลูกค้าซื้อสินค้าจากเว็บไซต์ต่างประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ ความต้องการใช้เกตเวย์การชําระเงินสำหรับหลายสกุลเงินและโซลูชันที่รองรับธุรกรรมทั่วโลกก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ประเด็นสําคัญที่ควรพิจารณาเกี่ยวกับการรับชําระเงินระหว่างประเทศในนิวซีแลนด์มีดังนี้
Closer Economic Relations (CER)
ออสเตรเลียเป็นคู่ค้าอันดับต้นๆ ของนิวซีแลนด์ ทั้งสองประเทศร่วมมือกันในข้อตกลงการค้า Closer Economic Relations (CER) ที่ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนสินค้า บริการ และการลงทุนอย่างราบรื่น การเป็นคู่ค้านี้ช่วยลดค่าใช้จ่ายทางธุรกิจให้กับบริษัทที่ดํางานในทั้งสองประเทศ และช่วยให้คุณรับการชําระเงินแบบข้ามพรมแดนและธุรกิจกับธุรกิจ (B2B) ได้ง่ายขึ้นการแปลงสกุลเงิน
ธุรกิจที่รองรับลูกค้าต่างประเทศควรมีฟังก์ชันการทํางานในหลายสกุลเงินเป็นมาตรฐาน ซึ่งจะมีการกําหนดอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินระหว่างที่ทำธุรกรรม โดยจะมีค่าธรรมเนียมทั่วไปตั้งแต่ 1% ถึง 3% ปัจจัยกำหนดการแปลงสกุลเงินคืออัตราระหว่างธนาคาร ซึ่งเป็นอัตราที่ธนาคารใช้แลกเปลี่ยนเงินซึ่งกันและกัน แม้ธนาคารและบริการแลกเปลี่ยนสกุลเงินมักจะคิดส่วนเพิ่มจากอัตราค่าธรรมเนียมระหว่างธนาคารเมื่อแสดงอัตราการแปลงสกุลเงินก็ตาม ธุรกิจสามารถเลือกที่จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายนี้ให้ลูกค้ารับผิดชอบก็ได้ ระบบทางการเงินของนิวซีแลนด์ได้รับประโยชน์จากการมีธนาคารหลายแห่งและแพลตฟอร์มของบริษัทภายนอกที่ช่วยลดความซับซ้อนในการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน รวมถึงการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของ ASB, XE, OFX และ ANZแพลตฟอร์มจากตลาดเกิดใหม่
เนื่องจากนิวซีแลนด์อยู่ใกล้ทวีปเอเชีย ธุรกิจต่างๆ จึงควรพิจารณาการสนับสนุนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่มีความต้องการด้านการชําระเงินที่หลากหลาย การรับวิธีการชําระเงินที่ได้รับความนิยมของจีน เช่น Alipay จะมีประโยชน์ในการทําให้ขั้นตอนการชําระเงินง่ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
ในระบบการชําระเงินของนิวซีแลนด์ มาตรการรักษาความปลอดภัย การปฏิบัติตามข้อกําหนด และระเบียบข้อบังคับของนิวซีแลนด์ก็มีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อรับมือกับความท้าทายและโอกาสใหม่ๆ ระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ได้แก่
กฎหมายคุ้มครองข้อมูล
กฎหมายความเป็นส่วนตัว ฉบับปี 2020 คือบทสําคัญของกฎหมายซึ่งกําหนดวิธีการรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลขององค์กร ซึ่งเน้นความโปร่งใสด้วยการจัดเตรียมข้อมูลที่สำคัญ รวมถึงการกำหนดให้ทำรายงานการละเมิดข้อมูล การกําหนดขั้นตอนสำหรับข้อมูลระหว่างประเทศ และบทลงโทษสําหรับการไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดระเบียบข้อบังคับด้านการป้องกันและป้องกันการฟอกเงิน
กฎหมายป้องกันการฟอกเงินและต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย (AML/CFT) ฉบับปี 2009 กำหนดให้สถาบันทางการเงินใช้มาตรการป้องกันการฟอกเงินและการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบข้อมูล การติดตามธุรกรรม และการรายงานกิจกรรมที่น่าสงสัยต่อหน่วยข้อมูลข่าวกรองด้านการเงิน (FIU) ของสำนักงานตํารวจนิวซีแลนด์กฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
กฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ฉบับปี 2002 ระบุถึงความถูกต้องของสัญญาอิเล็กทรอนิกส์ ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ และการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ วิธีนี้ช่วยส่งเสริมการเติบโตของช่องทางการชำระเงินของอีคอมเมิร์ซและแบบดิจิทัลในนิวซีแลนด์การคุ้มครองผู้บริโภค
แนวทางที่ชัดเจนสําหรับผู้ให้บริการทางการเงิน ที่เกี่ยวข้องกับการจัดเตรียมข้อมูล การแสดงค่าธรรมเนียมอย่างโปร่งใส และกระบวนการแก้ไขการโต้แย้งการชําระเงินจะช่วยปกป้องผู้บริโภคได้ Financial Markets Authority (FMA) มีหน้าที่ดูแลให้ตลาดการเงินมีความยุติธรรม มีประสิทธิภาพ และโปร่งใสการจดทะเบียนบริการทางการเงิน
นิติบุคคลที่ดําเนินธุรกิจในภาคการเงินจะต้องจดทะเบียนกับสำนักทะเบียนผู้ให้บริการทางการเงิน (FSPR) เพื่อให้แน่ใจว่าบริการมีความน่าเชื่อถือและเป็นไปตามข้อกําหนด การจดทะเบียนนี้เป็นรูปแบบหนึ่งของการรับประกันคุณภาพที่ช่วยเสริมสร้างความไว้วางใจจากผู้บริโภคและธุรกิจ
ปัจจัยหลักที่ช่วยให้ประสบความสําเร็จ
แม้นิวซีแลนด์จะเป็นแนวหน้าของนวัตกรรมการชําระเงินมากมาย แต่ก็พบกับความท้าทายมากมาย ตั้งแต่การใช้เทคโนโลยี ไปจนถึงความแตกต่างด้านระเบียบข้อบังคับ ธุรกิจจึงจําเป็นต้องแก้ไขปัญหาเหล่านี้เพื่อให้ดําเนินงานในนิวซีแลนด์อย่างยืดหยุ่นและประสบความสำเร็จ มีหลายวิธีในการรับชำระเงินในนิวซีแลนด์ ดังนี้
ตัวเลือกการชําระเงินที่หลากหลาย
มูลค่ารวมของการชําระเงินดิจิทัลในนิวซีแลนด์เพิ่มขึ้นในแต่ละปี และคาดว่าจะสูงถึง 2.33 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2028 อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนที่มีอายุมากและประชากรในพื้นที่ชนบทมีแนวโน้มใช้วิธีนี้น้อยกว่า ธุรกิจจึงควรมีวิธีการชําระเงินที่หลากหลายเพื่อรองรับความต้องการที่แตกต่างกันออกไปแผนการดำเนินงานที่เหมาะกับท้องถิ่น
การปรับข้อเสนอด้านโปรโมชันหรือการชําระเงินเพื่อให้สอดคล้องกับอีเวนต์ระดับภูมิภาค รวมถึงการตระหนักถึงวัฒนธรรมเมารีที่มีมาอย่างยาวนาน จะช่วยส่งเสริมการยอมรับความหลากหลายและเพิ่มการรับรู้ของลูกค้าเกี่ยวกับธุรกิจ KiwiSaver ซึ่งเป็นโครงการด้านเก็บออมตามความสมัครใจของนิวซีแลนด์มีบทบาทสําคัญต่อสถานะทางการเงินของชาวนิวซีแลนด์จำนวนมาก ธุรกิจที่จัดการธุรกรรมจํานวนมาก เช่น การซื้ออสังหาริมทรัพย์หรือสินค้าหรูหราสามารถเชื่อมต่อโซลูชันการชําระเงินที่รองรับการถอนเงินจาก KiwiSaver หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้องได้ระบบหลายสกุลเงินที่ใช้งานง่าย
เมื่อพิจารณาความน่าดึงดูดของนิวซีแลนด์ในฐานะจุดหมายด้านการท่องเที่ยวแล้ว การรองรับสกุลเงินของนักท่องเที่ยวอันดับต้นๆ เช่น ออสเตรเลียและจีน ก็จะช่วยปรับปรุงประสบการณ์การชําระเงินให้แก่ลูกค้าต่างประเทศได้การปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับที่เข้มงวด
การคํานึงถึงระเบียบข้อบังคับทางการเงินเฉพาะของนิวซีแลนด์ เช่น กฎหมายป้องกันการฟอกเงินและต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย ฉบับปี 2009 ถือเป็นปัจจัยสำคัญ ธุรกิจที่ปฏิบัติตามกฎระเบียบเหล่านี้แสดงออกถึงความมุ่งมั่นในการดําเนินงานที่ชอบด้วยกฎหมายและอาจช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นของลูกค้าได้แนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น
ลูกค้าให้ความสําคัญกับความปลอดภัยในการชําระเงิน ธุรกิจที่ใช้โปรโตคอลการรักษาความปลอดภัยชั้นนำ เช่น การตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2 ปัจจัยและการยืนยันตัวตนแบบ 3D Secure สามารถช่วยยืนยันถึงความปลอดภัยที่มากขึ้นแก่ลูกค้า
ประเด็นสำคัญ
การปรับปรุงประสบการณ์การชําระเงินของลูกค้าด้วยกลยุทธ์ที่รอบด้านจะช่วยให้ธุรกิจที่ดําเนินงานในนิวซีแลนด์เติบโตได้ นอกจากนี้ การปฏิบัติตามกรอบด้านกฎหมายของประเทศ การรองรับความต้องการด้านการชําระเงินที่หลากหลาย และการปรับการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับลูกค้าในท้องถิ่นก็ถือเป็นแง่มุมที่สําคัญเมื่อขยายธุรกิจไปยังนิวซีแลนด์เช่นกัน ต่อไปนี้คือเคล็ดลับที่จะช่วยให้วิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ก้าวไกลในนิวซีแลนด์
ตระหนักถึงบริบทแวดล้อมของระเบียบข้อบังคับท้องถิ่น
ทําความเข้าใจกฎหมายธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศ
อ่านกฎหมายป้องกันการฟอกเงินและต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย ฉบับปี 2009 และกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ฉบับปี 2002 เพื่อให้มั่นใจว่าธุรกิจของคุณปฏิบัติตามข้อบังคับที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามแนวทางการคุ้มครองผู้บริโภค
อ่านกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้บริโภค ฉบับปี 1993 (CGA) เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณมีคุณภาพดีพอ ซึ่งจะช่วยลดการดึงเงินคืนและการโต้แย้งการชําระเงินปกป้องข้อมูลลูกค้า
ปฏิบัติตามข้อกําหนดที่ระบุไว้ในกฎหมายความเป็นส่วนตัว ฉบับปี 2020 และข้อกําหนดของมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยข้อมูลสำหรับอุตสาหกรรมบัตรชำระเงิน (PCI DSS) เพื่อปกป้องข้อมูลของเจ้าของบัตรและป้องกันธุรกรรมที่เป็นการฉ้อโกง
ผสมผสานวิธีการชําระเงินแบบดั้งเดิมและสมัยใหม่
วางแผนสำหรับลูกค้าที่ไม่ใช้การชําระเงินแบบดิจิทัล
การชําระเงินแบบดิจิทัลกําลังเติบโตขึ้น แต่ยังไม่ใช่วิธีหลักที่ลูกค้าใช้กันทุกคน ขอแนะนำให้คุณรับเงินสดสําหรับการซื้อที่จุดขาย เพื่อหลีกเลี่ยงการไม่รองรับลูกค้าที่ยังไม่ได้ใช้วิธีการชําระเงินแบบดิจิทัล นําเสนอตัวเลือกการชําระเงินแบบดิจิทัลที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึงบัตรเครดิตและเดบิต รวมถึงกระเป๋าเงินดิจิทัล เพื่อรองรับลูกค้าทั้งที่จุดขายและทางออนไลน์จัดการประเด็นด้านความปลอดภัยของลูกค้าล่วงหน้า
แม้ชาวนิวซีแลนด์มีแนวคิดที่ก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี แต่คนกว่า 27% ให้ความสําคัญสูงสุดกับความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัยเมื่อพิจารณาใช้วิธีการชําระเงินใหม่ ใช้โปรโตคอลความปลอดภัยของธุรกิจที่โปร่งใสสําหรับการชําระเงินประเภทต่างๆดําเนินการกับข้อจํากัดด้านโครงสร้างพื้นฐาน
Open Banking นําเสนอโลกแห่งโอกาสใหม่ๆ แต่เติบโตได้ยากในนิวซีแลนด์ เนื่องจากคนกว่า 76% กล่าวว่าตนไม่คุ้นเคยกับแนวคิดนี้ อย่างไรก็ตาม ธนาคารขนาดใหญ่ที่สุด 4 แห่งของประเทศวางแผนที่จะใช้ระบบ Open Banking ในปี 2024 สําหรับการชําระเงินแบบ B2B คุณควรให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการแบบ Open Banking และเสนอวิธีการชําระเงินทางเลือกให้ลูกค้า
การปรับแผนดำเนินการให้เหมาะกับลูกค้าในนิวซีแลนด์
ใช้แพลตฟอร์มการชําระเงินในประเทศ
POLi เป็นวิธีการชําระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์สําหรับธนาคารออนไลน์ในนิวซีแลนด์และออสเตรเลียซึ่งได้รับความนิยมในหมู่คนท้องถิ่น เชื่อมต่อ POLi เป็นเกตเวย์การชําระเงินเพื่อแสดงให้ผู้บริโภคท้องถิ่นเห็นว่าธุรกิจของคุณตอบโจทย์ความต้องการได้ตระหนักถึงวัฒนธรรมเมารี
ยอมรับวัฒนธรรมและมรดกทางวัฒนธรรมของเมารีด้วยการรวมตัวเลือกภาษา Te Reo Māori หรือองค์ประกอบด้านภาพในอินเทอร์เฟซการชําระเงิน การเพิ่มรายละเอียดเช่นนี้สามารถช่วยคุณสร้างความภักดีของลูกค้าได้อย่างมากเสนอบริการระดับภูมิภาค
นิวซีแลนด์จัดงานอีเวนต์ระดับภูมิภาค อย่างการแข่งขันรักบี้ New Zealand Sevens และ The Hawke's Bay Food and Wine Classic การนำเสนอโปรโมชันหรือการชําระเงินที่สอดคล้องกับอีเวนต์เหล่านี้จะช่วยเพิ่มอัตราธุรกรรมได้
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ฝึกงานในเขตอํานาจศาลของคุณเพื่อรับคําแนะนําเกี่ยวกับสถานการณ์เฉพาะของคุณ
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ