การชำระเงินในลักเซมเบิร์ก: คู่มือเชิงลึก

Payments
Payments

รับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกด้วยโซลูชันการชำระเงินที่สร้างมาสำหรับธุรกิจทุกขนาด ตั้งแต่ธุรกิจสตาร์ทอัพไปจนถึงองค์กรใหญ่ระดับโลก

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. สถานะของตลาด
  3. วิธีการชำระเงิน
    1. การใช้งาน
    2. แนวโน้ม
  4. ความง่ายดายและความยุ่งยากในการเข้าสู่ตลาด
    1. ภาษี
    2. การดึงเงินคืนและการโต้แย้งการชำระเงิน
    3. การชำระเงินระหว่างประเทศ
    4. ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
  5. ปัจจัยหลักที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จ
  6. ประเด็นสำคัญ
    1. รองรับความต้องการของคนในประเทศนี้
    2. จัดทำแผนงานในการปฏิบัติตามกฎที่ซับซ้อน
    3. มุ่งเน้นที่การรักษาความปลอดภัยที่เหนือระดับ

ลักเซมเบิร์ก (ซึ่งบางครั้งเรียกว่า "หัวใจของยุโรป" เนื่องจากตั้งอยู่ใจกลางยุโรป) มีระบบการชำระเงินที่แสดงให้เห็นถึงลักษณะเฉพาะตัวของประเทศนี้ในเศรษฐกิจโลก ประเทศเล็กๆ แห่งนี้มีภาคบริการทางการเงินที่เฟื่องฟู ทำให้ประเทศนี้กลายเป็นผู้เล่นรายสำคัญในตลาดการชำระเงินทั่วโลก ลักเซมเบิร์กใช้การเงินแบบดิจิทัล โดยมีประชากร 72% ใช้บริการธนาคารออนไลน์ในปี 2021 และคาดการณ์ว่ารายรับจากอีคอมเมิร์ซของลักเซมเบิร์กจะสูงถึง 1.16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2025

ในฐานะศูนย์กลางทางการเงินระดับโลก ลักเซมเบิร์กเปรียบเหมือนประตูสู่การค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ ซึ่งส่งผลให้มีการชำระเงินข้ามพรมแดนเป็นปริมาณมาก ตำแหน่งที่ตั้งของลักเซมเบิร์กในสหภาพยุโรปยังทำให้ประเทศนี้เป็นศูนย์กลางของ Single Euro Payments Area (SEPA) อีกด้วย ซึ่งช่วยให้การทำธุรกรรมระหว่างประเทศในสกุลเงินยูโรเป็นไปโดยสะดวก ภาคการชำระเงินของลักเซมเบิร์กให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวดของสหภาพยุโรป เช่น คำสั่งว่าด้วยบริการชำระเงินฉบับแก้ไข (Revised Payment Services Directive หรือ PSD2) และข้อบังคับทั่วไปด้านการคุ้มครองข้อมูล (GDPR)

ระบบการชำระเงินของลักเซมเบิร์กใช้วิธีการชำระเงินแบบดั้งเดิมร่วมกับวิธีใหม่ๆ เช่น การโอนเงินผ่านธนาคารแบบดั้งเดิม การชำระเงินด้วยบัตร กระเป๋าเงินดิจิทัล และการชำระเงินแบบไร้สัมผัส ลักเซมเบิร์กแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยีดิจิทัลด้วยโปรแกรมต่างๆ เช่น Innovative Initiatives ที่ส่งเสริมการเปลี่ยนไปสู่ระบบดิจิทัลในทุกภาคส่วน ซึ่งรวมถึงการชำระเงินด้วย

ในระบบการเงินที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเช่นนี้ ลักเซมเบิร์กช่วยแสดงให้เห็นได้เป็นอย่างดีว่าการชำระเงินนั้นเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ด้านล่างนี้ เราจะพาไปดูวิธีการทำงานของการชำระเงินแบบต่างๆ ในลักเซมเบิร์กและวิธีจัดการกับการชำระเงินเหล่านั้น ได้แก่

  • การรองรับความต้องการของคนในประเทศนี้
  • การปฏิบัติตามกฎของสหภาพยุโรปและกฎในประเทศ
  • การให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูลในระดับที่สูงขึ้น

สถานะของตลาด

ลักเซมเบิร์กเป็นที่ตั้งของธนาคารและสถาบันการเงินรายใหญ่หลายแห่ง โดยเฉพาะธนาคารเอกชนและผู้จัดการสินทรัพย์ต่างๆ โดยมีรายสำคัญคือ BGL BNP Paribas ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ BNP Paribas ที่เป็นผู้ให้บริการธนาคารรายใหญ่ระดับโลก บริษัทนี้มีบทบาทสำคัญในภาคการเงินของลักเซมเบิร์ก บริษัทชั้นนำต่างๆ เช่น Société Générale, ING Luxembourg และ Banque Internationale à Luxembourg (BIL) ก็ให้บริการหลายอย่าง เช่น การบริหารจัดการความมั่งคั่งส่วนบุคคลและการธนาคารสำหรับองค์กร เพื่อรองรับลูกค้าที่หลากหลายในลักเซมเบิร์ก

ลักเซมเบิร์กมีกฎระเบียบที่เข้มงวดเพื่อรักษาชื่อเสียงของประเทศในด้านเสถียรภาพทางการเงิน โดยมี Commission de Surveillance du Secteur Financier (CSSF) เป็นหน่วยงานกำกับดูแลหลักที่คอยดูแลให้ภาคการเงินปฏิบัติตามมาตรฐานต่างๆ ของยุโรปและระหว่างประเทศ กระทรวงการคลังของลักเซมเบิร์กทำงานร่วมกับ CSSF เพื่อกำหนดนโยบายทางการเงินที่สอดคล้องกับกฎระเบียบของสหภาพยุโรปในวงกว้าง โดยเฉพาะในด้านต่างๆ เช่น การต่อต้านการฟอกเงิน (AML) และการคุ้มครองข้อมูล แนวทางด้านกฎระเบียบในเชิงรุกของรัฐบาลและความมุ่งมั่นในการให้ความร่วมมือระหว่างประเทศทำให้ลักเซมเบิร์กกลายเป็นจุดหมายที่น่าสนใจสำหรับสถาบันการเงินต่างๆ ที่ต้องการระบบที่ปลอดภัยและเป็นไปตามข้อกำหนด

วิธีการชำระเงิน

ภาคการเงินที่แข็งแกร่ง การกำกับดูแลอย่างเข้มงวด และการใช้โซลูชันการชำระเงินแบบดิจิทัลกันมากขึ้นเรื่อยๆ คือลักษณะเด่นของตลาดการชำระเงินในลักเซมเบิร์ก โดยวิธีการชำระเงินซึ่งเป็นที่นิยมในลักเซมเบิร์กมีดังนี้

การใช้งาน

ระบบการชำระเงินของลักเซมเบิร์กก็มีแนวโน้มไปในทิศทางเดียวกับคนทั่วโลกที่หันมาใช้ระบบดิจิทัลกันมากขึ้น แม้ว่าวิธีการชำระเงินแบบดั้งเดิม เช่น บัตรเครดิตและบัตรเดบิต จะมีคนใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่ผู้คนก็เริ่มใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลและการชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่กันมากขึ้นเรื่อยๆ ตัวอย่างเช่น บริการต่างๆ เช่น Apple Pay และ Google Pay ก็ได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่ลูกค้าชาวลักเซมเบิร์ก เพราะเป็นการทำธุรกรรมแบบดิจิทัลที่สะดวกและปลอดภัย การที่ลักเซมเบิร์กเข้าร่วม SEPA ยังช่วยให้การทำธุรกรรมข้ามพรมแดนภายในสหภาพยุโรปสะดวกขึ้นด้วย โดยช่วยให้ตลาดต่างๆ ในยุโรปเชื่อมโยงถึงกัน

กฎระเบียบต่างๆ ของลักเซมเบิร์กมาจากการเป็นสมาชิกในสหภาพยุโรป ซึ่งทำให้จำเป็นต้องปฏิบัติตามคำสั่งและข้อบังคับต่างๆ ของสหภาพยุโรป โดย PSD2 ได้ยกระดับการคุ้มครองผู้บริโภค ความปลอดภัย และการปรับปรุงในภาคการชำระเงิน ลักเซมเบิร์กยังปฏิบัติตาม GDPR อีกด้วย เพื่อให้มั่นใจได้ถึงมาตรการด้านความเป็นส่วนตัวและการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่เข้มงวดเมื่อจัดการกับข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลการชำระเงิน

ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีส่งผลต่อการชำระเงินด้วยเงินสดในลักเซมเบิร์กเป็นอย่างมาก ครั้งหนึ่งการทำธุรกรรมด้วยเงินสดเคยเป็นที่นิยมอย่างมาก แต่ในปี 2022 ข้อมูลจากธนาคารกลางยุโรป (European Central Bank หรือ ECB) ระบุว่า 52% ของการชำระเงินผ่านระบบบันทึกการขาย (POS) ในลักเซมเบิร์กเป็นการชำระเงินด้วยบัตร การชำระเงินแบบไร้สัมผัส การสแกนรหัส QR และกระเป๋าเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ช่วยให้การทำธุรกรรมแบบดิจิทัลสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น จึงทำให้ลูกค้าใช้เงินสดกันน้อยลง การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ช่วยเน้นย้ำให้เห็นว่า ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในการกำหนดวิธีการชำระเงินที่ชาวลักเซมเบิร์กชอบใช้

ผู้คนในลักเซมเบิร์กใช้บัตรเครดิตกันอย่างแพร่หลาย เช่น ที่คาเฟ่ในท้องถิ่น ร้านขายของชำ ร้านค้าปลีกออนไลน์ และอื่นๆ ตัวอย่างเช่น ลูกค้าชาวลักเซมเบิร์กทำธุรกรรมผ่านบัตรเครดิตประมาณ 100 ล้านรายการใน 2020 อัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในระดับสูง (เกือบ 99% ของครัวเรือนในลักเซมเบิร์กมีอินเทอร์เน็ตใช้ในช่วงต้นปี 2023) ช่วยส่งเสริมให้มีการช้อปปิ้งออนไลน์และการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตทางออนไลน์

ผู้คนในลักเซมเบิร์กใช้การชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่กันมากขึ้น โดยเฉพาะในหมู่คนหนุ่มสาว เช่น การชำระเงินด้วยเงินอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นจากประมาณ 1.5 พันล้านในปี 2014 เป็นมากกว่า 5 พันล้านในปี 2024 การชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ (เช่น กระเป๋าเงินดิจิทัลและแอปชำระเงินโดยเฉพาะ) มีสัดส่วนมากกว่า 5% ของธุรกรรมผ่าน POS ใน 2022 ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นนี้สะท้อนให้เห็นว่า ลูกค้าเริ่มใช้การชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่กันมากขึ้น และมีความเชื่อมั่นมากขึ้นต่อความปลอดภัยของตัวเลือกการชำระเงินแบบดิจิทัลเหล่านี้

วิธีการชำระเงินแบบ B2C ซึ่งเป็นที่นิยมในลักเซมเบิร์ก

  • บัตรเครดิต
  • บัตรเดบิต (เช่น Bancomat)
  • การหักบัญชีอัตโนมัติแบบ SEPA

วิธีการชำระเงินแบบ B2B ซึ่งเป็นที่นิยมในลักเซมเบิร์ก

  • การหักบัญชีอัตโนมัติแบบ SEPA
  • การโอนเงินผ่านธนาคารแบบ SEPA
  • บัตรเครดิต

แนวโน้ม

ลักเซมเบิร์กกำลังนำโซลูชันเทคโนโลยีทางการเงินแบบต่างๆ เข้ามาใช้อย่างจริงจังเช่นเดียวกับสิงคโปร์และสหราชอาณาจักร รัฐบาลและสถาบันการเงินของลักเซมเบิร์กตั้งเป้าที่จะผสานการทำงานเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ากับบริการทางการเงินต่างๆ

การชำระเงินด้วยเงินสดในลักเซมเบิร์กกำลังเปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากการพัฒนาเทคโนโลยี ความชื่นชอบของผู้บริโภค และการดำเนินการกำกับดูแล แม้ว่าผู้คนจะยังคงใช้เงินสดกันอยู่ แต่ก็เป็นที่นิยมน้อยลงเพราะคนหันไปใช้วิธีการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

กฎระเบียบของรัฐบาลมีบทบาทสำคัญต่อภาคการชำระเงินของลักเซมเบิร์ก โดยส่งเสริมให้มีการทำธุรกรรมแบบอิเล็กทรอนิกส์และจัดการกับข้อกังวลใจด้านความปลอดภัยและความสมบูรณ์ทางการเงินไปพร้อมๆ กัน มาตรการกำกับดูแลต่างๆ ช่วยส่งเสริมการชำระเงินด้วยบัตรเพื่อเพิ่มความโปร่งใสและรับมือกับการฉ้อโกงทางการเงิน ถึงจะยังไม่มีการจำกัดจำนวนเงินที่ชำระเป็นเงินสดได้ แต่ก็อาจเปลี่ยนแปลงได้หากสหภาพยุโรปใช้ข้อเสนอในการจำกัดการชำระเงินด้วยเงินสดให้ไม่เกิน 10,000 ยูโรสำหรับทุกประเทศที่เป็นสมาชิก หน่วยงานด้านภาษีได้ส่งเสริมการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ด้วยสิ่งจูงใจด้านภาษี ซึ่งช่วยตอกย้ำความมุ่งมั่นของรัฐบาลที่ตั้งใจจะลดการใช้เงินสดและยกระดับความมั่นคงทางการเงิน

ความง่ายดายและความยุ่งยากในการเข้าสู่ตลาด

ลักเซมเบิร์กเป็นศูนย์กลางทางการเงินของสหภาพยุโรปและตลาดการชำระเงินทั่วโลก และมีโปรโตคอลที่รัดกุมในการเก็บภาษี การดึงเงินคืน และการโต้แย้งการชำระเงิน

ภาษี

อัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในลักเซมเบิร์กอยู่ที่ 17% สำหรับสินค้าและบริการส่วนใหญ่ โดยลูกค้าจะจ่ายภาษีรวมอยู่ในราคาสินค้า ส่วนธุรกิจก็จะเก็บและนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับรัฐบาล การปฏิบัติตามกฎระเบียบว่าด้วยภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเรื่องสำคัญ เพราะหากไม่ปฏิบัติตาม ก็อาจส่งผลให้มีค่าปรับ การตรวจสอบ และผลทางกฎหมายตามมาได้ ภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นภาษี ค่าใช้จ่าย และค่าธรรมเนียมรูปแบบหนึ่งในหลายๆ แบบ ซึ่งอาจส่งผลต่อการเงินของลูกค้าและธุรกิจได้ ทั้งยังมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางของระบบการเงินในประเทศนี้อีกด้วย

การดึงเงินคืนและการโต้แย้งการชำระเงิน

แนวทางที่ลักเซมเบิร์กใช้ในเรื่องการดึงเงินคืนและการโต้แย้งการชำระเงินช่วยตอกย้ำว่าลักเซมเบิร์กมุ่งมั่นที่จะคุ้มครองผู้บริโภค ระบบของลักเซมเบิร์กกำหนดให้ธุรกิจต้องรับผิดชอบในการตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรม ซึ่งได้รับอิทธิพลจากกฎหมายภายในประเทศและมาตรการต่างๆ ของสหภาพยุโรป เช่น PSD2 และ SEPA การให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความเป็นธรรมทำให้ลูกค้าในลักเซมเบิร์กมั่นใจได้ว่าตนจะใช้มาตรการต่างๆ ที่มีอยู่เพื่อแก้ไขปัญหาด้านการชำระเงินได้ ด้วยเหตุนี้ ธุรกิจต่างๆ จึงต้องใช้แนวทางการตรวจสอบและการจัดทำเอกสารเกี่ยวกับธุรกรรมที่รัดกุมเพื่อลดผลกระทบทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นจากการโต้แย้งการชำระเงิน

ลักเซมเบิร์กให้ความสำคัญกับการคุ้มครองผู้บริโภคเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ในยุโรป กฎหมายว่าด้วยผู้บริโภค (Consumer Code) ในลักเซมเบิร์กเป็นกรอบการทำงานที่ครอบคลุมซึ่งส่งผลให้ธุรกิจต่างๆ มีหน้าที่รับผิดชอบในการพิสูจน์ความถูกต้องของธุรกรรม โดยผู้คนมักใช้กฎหมายนี้ในกรณีที่มีการทำธุรกรรมที่ไม่ได้รับอนุญาต กฎระเบียบต่างๆ ของลักเซมเบิร์กจะเน้นไปทางการปกป้องสิทธิของลูกค้า

การชำระเงินระหว่างประเทศ

ตลาดการชำระเงินของลักเซมเบิร์กทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมโยงระดับโลก โดยมีคุณลักษณะและความร่วมมือต่างๆ ที่เชื่อมโยงกับตลาดต่างประเทศหลายๆ แห่ง วิธีที่ลักเซมเบิร์กใช้จัดการกับการชำระเงินระหว่างประเทศมีดังนี้

  • การแลกเปลี่ยนสกุลเงิน: สำหรับนักท่องเที่ยวจากประเทศนอกเขตพื้นที่ที่ใช้สกุลเงินยูโรซึ่งเดินทางเข้ามาในลักเซมเบิร์ก การแลกเปลี่ยนสกุลเงินจะเกิดขึ้นที่สถาบันการเงินและศูนย์แลกเปลี่ยนสกุลเงินโดยเฉพาะเป็นหลัก การเพิ่มราคาอัตราแลกเปลี่ยนมักจะอยู่ในช่วงตั้งแต่ 1% ถึง 3% โดยธนาคารบางแห่งอาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมคงที่สำหรับการแปลงสกุลเงิน ซึ่งโดยปกติจะอยู่ที่ 5 ถึง 10 ยูโร นักท่องเที่ยวสามารถถอนเงินเป็นยูโรจากตู้เอทีเอ็มด้วยบัตรต่างประเทศได้ โดยมีค่าบริการเพิ่มเติมตั้งแต่ 2 ถึง 5 ยูโรต่อธุรกรรม

  • เครือข่ายบัตรในประเทศและต่างประเทศ: ในลักเซมเบิร์ก ความชื่นชอบของผู้บริโภคจะสอดคล้องกับแนวโน้มที่พบในตลาดต่างๆ เช่น แคนาดา แม้ว่าชาวลักเซมเบิร์กจะชอบใช้เครือข่ายบัตรในประเทศ เช่น Carte Bleue แต่ก็ใช้บริการจากเครือข่ายรายใหญ่ระดับนานาชาติอย่าง Visa และ Mastercard เช่นกัน ความชื่นชอบที่หลากหลายนี้แสดงให้เห็นว่าประเทศนี้เปิดรับโซลูชันการชำระเงินทั้งในประเทศและระดับโลก

  • คู่ค้าหลัก: ลักเซมเบิร์กซื้อขายกับประเทศต่างๆ อย่างกว้างขวาง เช่น ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่เหนียวแน่นกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เบลเยียม เยอรมนี และฝรั่งเศส ช่วยส่งเสริมความร่วมมือทางการเงิน ลักเซมเบิร์กเปรียบเป็นประตูเปิดทางให้ธุรกิจต่างๆ สามารถเข้าสู่ตลาดยุโรปในวงกว้างได้และทำการค้าระหว่างประเทศได้กว้างขวางมากขึ้น

ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว

ความมุ่งมั่นที่ลักเซมเบิร์กมีต่อความปลอดภัยในการชำระเงิน การปฏิบัติตามข้อกำหนด และกฎระเบียบเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ลักเซมเบิร์กคงสถานะศูนย์กลางทางการเงินระดับโลกเอาไว้ได้ วิธีที่ลักเซมเบิร์กใช้จัดการในเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวมีดังนี้

  • กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูล: ลักเซมเบิร์กปฏิบัติตาม GDPR อย่างใกล้ชิด กฎระเบียบนี้กำหนดมาตรฐานที่เข้มงวดในการปกป้องข้อมูลของลูกค้า กฎระเบียบนี้ยังกำหนดให้ต้องได้รับความยินยอมอย่างชัดแจ้งในการเก็บรวบรวมข้อมูล และให้ลูกค้ามีสิทธิ์ขอให้ลบข้อมูลส่วนตัวของตน ซึ่งเรียกกันโดยทั่วไปว่า "สิทธิที่จะถูกลืม"

  • การกำกับดูแลในประเทศ: CSSF เป็นหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินของลักเซมเบิร์ก หน่วยงานนี้จะคอยตรวจสอบและบังคับให้มีการปฏิบัติตามกฎระเบียบทางการเงินต่างๆ รวมถึงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงิน โดยการกำกับดูแลของ CSSF จะช่วยรับรองว่าสถาบันการเงินและผู้ให้บริการชำระเงินต่างๆ ปฏิบัติตามมาตรฐานสูงสุดด้านความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกำหนด

  • กฎหมาย AML: ลักเซมเบิร์กปฏิบัติตามคำสั่งต่างๆ ของสหภาพยุโรปเกี่ยวกับ AML และการต่อต้านการให้เงินทุนแก่ผู้ก่อการร้าย (Counter-Terrorist Financing หรือ CTF) อย่างเคร่งครัด สถาบันการเงินที่ดำเนินงานในลักเซมเบิร์กจึงต้องทำระบบ AML ที่มีประสิทธิภาพในการติดตามและรายงานกิจกรรมที่อาจดูน่าสงสัยต่างๆ และหากไม่ปฏิบัติตาม ก็อาจมีบทลงโทษที่รุนแรงได้

  • หน่วยข่าวกรองทางการเงิน (Financial Intelligence Unit): Cellule de renseignement financier (CRF) ซึ่งเป็นหน่วยข่าวกรองทางการเงินของลักเซมเบิร์ก มีหน้าที่รับมือกับการฟอกเงินและการให้เงินทุนในการก่อการร้าย การเฝ้าระวังของ CRF ช่วยให้ภาคการเงินมีการรักษาความปลอดภัยเพิ่มขึ้นอีกชั้น

ปัจจัยหลักที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จ

เมื่อมีการวางแผน ผู้ที่มีความสามารถเหมาะสมอยู่ในทีม และความเข้าใจตลาด ธุรกิจของคุณก็ย่อมประสบความสำเร็จในลักเซมเบิร์กได้ ปัจจัยบางประการที่สามารถช่วยในเรื่องนี้ได้มีดังนี้

  • คอยระวังอัตราการใช้ฟินเทคที่ช้ากว่า: แม้ว่าลักเซมเบิร์กจะเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่คึกคัก แต่ก็นำเทคโนโลยีการชำระเงินใหม่ๆ มาใช้กันช้า โดยในปี 2022 ตัวเลือกการชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่คิดเป็นเพียง 5% ของธุรกรรมผ่าน POS ในลักเซมเบิร์ก อัตราการนำมาใช้ที่ค่อนข้างต่ำนี้ทำให้ธุรกิจที่ดำเนินงานในประเทศนี้ต้องเผชิญการตัดสินใจที่ยากลำบาก เพราะหากจะรองรับฐานลูกค้าที่หลากหลาย ธุรกิจก็มักจะต้องรองรับระบบการชำระเงินหลายๆ แบบ ซึ่งก็จะทำให้ระบบซับซ้อนขึ้นและอาจเกิดปัญหาในการออกแบบประสบการณ์ของผู้ใช้ได้

  • วางแผนรับมือกับอุปสรรคด้านกฎระเบียบ: GDPR ส่งผลให้ธุรกิจต่างๆ ในลักเซมเบิร์กต้องมีการปฏิบัติตามข้อกำหนดที่มากขึ้น และหากไม่ปฏิบัติตาม ก็อาจส่งผลให้มีบทลงโทษที่รุนแรงได้ ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 20 ล้านยูโรหรือ 4% ของรายรับรวมประจำปีของธุรกิจนั้นๆ จากทั่วโลก บทลงโทษเหล่านี้อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบการชำระเงิน ซึ่งมักจัดการกับข้อมูลและธุรกรรมที่ละเอียดอ่อน ธุรกิจจึงต้องลงทุนจำนวนมากไปกับระบบการกำกับดูแลข้อมูล เพื่อให้มั่นใจได้ถึงการปฏิบัติตามข้อกำหนด โดยจัดการกับข้อกังวลใจเกี่ยวกับความละเอียดอ่อนของข้อมูลและความถี่ในการแลกเปลี่ยนข้อมูล

  • เรียนรู้วิธีจัดการกับความซับซ้อนในการชำระเงินระหว่างประเทศ: ธุรกรรมระหว่างประเทศมีความซับซ้อนมากขึ้น แม้ว่ากฎ SEPA จะทำให้การชำระเงินในสกุลเงินยูโรง่ายขึ้นในยุโรป แต่ธุรกรรมที่อยู่นอก SEPA ก็ยังคงเป็นปัญหาอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนหรือกฎระเบียบต่างๆ

  • วางกลยุทธ์เพื่อจัดการการฉ้อโกง: แม้การโต้แย้งการชำระเงินด้วยบัตรจะเกิดขึ้นค่อนข้างยาก แต่ก็ยังเป็นปัญหาของธุรกิจต่างๆ ในลักเซมเบิร์กอยู่ ข้อมูลจาก ECB ระบุว่า ประมาณ 0.01% ของปริมาณการทำธุรกรรมผ่านบัตรในลักเซมเบิร์กเป็นการฉ้อโกงในปี 2019 ถึงเปอร์เซ็นต์นี้จะดูเหมือนน้อย แต่ก็นับว่าเกิดขึ้นบ่อยครึ่งเมื่อดูจากปริมาณธุรกรรมที่มีจำนวนมาก ธุรกิจต่างๆ ต้องลงทุนไปกับระบบที่เหนือชั้นและความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายเพื่อจัดการและแก้ไขการโต้แย้งการชำระเงินอย่างมีประสิทธิภาพ

ประเด็นสำคัญ

แม้การเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ จะมีความเสี่ยงและอาจให้ผลลัพธ์ที่ดี แต่ตลาดการชำระเงินของลักเซมเบิร์กอาจซับซ้อนเป็นพิเศษ ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการชำระเงินในลักเซมเบิร์กมีดังนี้

รองรับความต้องการของคนในประเทศนี้

  • ลองผสานการทำงานกับบัตรเดบิตระดับประเทศของลักเซมเบิร์ก: ลักเซมเบิร์กก็เหมือนกับประเทศเพื่อนบ้านต่างๆ ตรงที่ชอบใช้วิธีการชำระเงินในประเทศ แม้ว่าบัตรชำระเงินระหว่างประเทศ เช่น Visa และ Mastercard จะมีคนใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่การนำเสนอตัวเลือกการชำระเงินในประเทศ เช่น บัตรเดบิตภายในประเทศของลักเซมเบิร์กอย่าง Bancomat ก็อาจแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะรองรับความต้องการในท้องถิ่นและส่งเสริมให้เกิดการทำธุรกิจมากขึ้น

  • ใช้ประโยชน์จากการหักบัญชีอัตโนมัติแบบ SEPA: SEPA มีบทบาทสำคัญในระบบการชำระเงินของลักเซมเบิร์ก ธุรกิจและลูกค้าจำนวนมากใช้การหักบัญชีอัตโนมัติแบบ SEPA ในการชำระเงินตามแบบแผนล่วงหน้า ด้วยเหตุนี้ ธุรกิจจึงควรใช้เกตเวย์การชำระเงินที่เป็นไปตาม SEPA วิธีนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับธุรกิจที่มีโมเดลแบบใช้การชำระเงินตามรอบบิลหรือรายรับที่เข้ามาซ้ำๆ

  • เสนอตัวเลือกแบบหลายสกุลเงิน: เนื่องจากลักเซมเบิร์กเป็นศูนย์กลางทางการเงินระดับโลก จึงดึงดูดฐานลูกค้าได้หลากหลาย เช่น นักท่องเที่ยวต่างชาติและชาวต่างชาติ การเปิดให้ชำระเงินได้หลายสกุลเงินจะช่วยเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้อย่างมาก ลูกค้าจะประทับใจเมื่อชำระเงินเป็นสกุลเงินที่ต้องการได้โดยสะดวกเพื่อให้การทำธุรกรรมเป็นไปอย่างง่ายดายและโปร่งใส

จัดทำแผนงานในการปฏิบัติตามกฎที่ซับซ้อน

  • ทำความเข้าใจระบบราชการที่ทับซ้อนกัน: ลักเซมเบิร์กเป็นที่ตั้งของธนาคารระหว่างประเทศ เงินทุนเพื่อการลงทุน และบริษัทประกันภัยหลายแห่ง ส่งผลให้จำเป็นต้องมีกรอบการกำกับดูแลที่รัดกุมเพื่อรักษาความสมบูรณ์ของระบบการเงินในประเทศเอาไว้

  • รู้ถึงผลที่เกิดจาก PSD2: ในฐานะสมาชิกของสหภาพยุโรป ลักเซมเบิร์กจะปฏิบัติตาม PSD2 โดยคำสั่งนี้กำหนดให้ต้องมีการตรวจสอบสิทธิ์ลูกค้าแบบรัดกุม (SCA) สำหรับการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งรวมถึงธุรกรรมผ่านบัตร การตรวจสอบสิทธิ์ลูกค้าแบบรัดกุม (SCA) กำหนดให้ต้องมีการตรวจสอบสิทธิ์อย่างน้อย 2 รูปแบบเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ระดับการตรวจสอบยืนยันระหว่างธุรกรรมการชำระเงินมักมีบทบาทสำคัญในการหาข้อยุติเกี่ยวกับการดึงเงินคืนและการโต้แย้งการชำระเงิน

  • ปฏิบัติตาม SEPA: ลักเซมเบิร์ก (ซึ่งอยู่ใน SEPA) ปฏิบัติตามกฎต่างๆ ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับการดึงเงินคืนที่เกี่ยวข้องกับการหักบัญชีอัตโนมัติ กฎระเบียบของ SEPA ช่วยให้มั่นใจว่าลูกค้าจะมีสิทธิ์ขอเงินคืนสำหรับธุรกรรมแบบหักบัญชีอัตโนมัติภายใน 8 สัปดาห์ (ไม่ว่าจะมีเหตุผลเช่นไรก็ตาม) กรอบเวลานี้มีไว้เพื่อช่วยเหลือลูกค้าและทำให้ลูกค้าได้รับการคุ้มครองเพิ่มขึ้นอีกขั้น

มุ่งเน้นที่การรักษาความปลอดภัยที่เหนือระดับ

  • คำนึงถึงการคุ้มครองข้อมูลเป็นสำคัญ: ในฐานะสมาชิกของสหภาพยุโรป ลักเซมเบิร์กปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านการคุ้มครองข้อมูลที่เข้มงวด ซึ่งรวมถึง GDPR ธุรกิจต่างๆ จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยความเป็นส่วนตัวของข้อมูลในประเทศและที่ครอบคลุมทั่วสหภาพยุโรป การสร้างความไว้วางใจในหมู่ลูกค้าโดยการปกป้องข้อมูลเป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การชำระเงินที่ดี

  • ปฏิบัติตามข้อกำหนดของ SCA: PSD2 มีบทบาทสำคัญในระบบการชำระเงินของลักเซมเบิร์ก โดยกฎระเบียบของ PSD2 กำหนดว่า ผู้ให้บริการชำระเงินจะต้องใช้การตรวจสอบสิทธิ์ลูกค้าแบบรัดกุม (SCA) ของยุโรป ซึ่งมักจะอยู่ในรูปแบบการตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2 ปัจจัยสำหรับธุรกรรมและข้อกำหนดอื่นๆ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและคุ้มครองลูกค้า

  • ใช้รหัสความปลอดภัยแบบไดนามิกและตัวเลือกอื่นๆ: ในยุคที่มีภัยคุกคามทางไซเบอร์เพิ่มมากขึ้นเช่นนี้ ลักเซมเบิร์กใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ทันสมัยเพื่อปกป้องธุรกรรมทางการเงิน โดยเครือข่ายต่างๆ ในประเทศ เช่น Bancomat ก็ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรกรรมผ่านรหัสความปลอดภัยแบบไดนามิกและมาตรการอื่นๆ เช่นกัน

เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Payments

Payments

รับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกด้วยโซลูชันการชำระเงินที่สร้างมาสำหรับธุรกิจทุกขนาด

Stripe Docs เกี่ยวกับ Payments

ค้นหาคู่มือเกี่ยวกับการเชื่อมต่อ Payments API ของ Stripe