ระบบนิเวศการชำระเงินของตุรกีตั้งอยู่ในจุดที่การค้าแบบดั้งเดิมและนวัตกรรมฟินเทคใหม่ๆ มาบรรจบกัน ขณะที่ลูกค้าจำนวนมากในตุรกียังคงชอบใช้เงินสด แต่วิธีการชำระเงินแบบดิจิทัลก็กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในปี 2023 ธุรกรรมผ่านระบบบันทึกการขาย (POS) มากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นดำเนินการโดยใช้บัตร
เมื่อความรู้ความเข้าใจด้านดิจิทัลเพิ่มมากขึ้นในตุรกี การใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลและโซลูชันการชำระเงินที่ปรับให้เข้ากับท้องถิ่นก็เพิ่มขึ้นด้วย เช่น BKM Express ซึ่งเป็นบริการกระเป๋าเงินดิจิทัลจาก Interbank Card Center (BKM) แนวโน้มนี้สอดคล้องกับการเติบโตของอีคอมเมิร์ซ โดยที่รายรับจากอีคอมเมิร์ซของตุรกีคาดว่าจะสูงถึง 31.28 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2025
สถาปัตยกรรมทางการเงินของตุรกีประกอบไปด้วยทั้งสถาบันธนาคารที่จัดตั้งมายาวนานและสตาร์ทอัพฟินเทคที่มีความคล่องตัว ระบบนิเวศการชำระเงินได้รับการสนับสนุนจากระเบียบข้อบังคับที่ปรับตัวตามตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปของตุรกีแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจทั่วโลก
ด้านล่างนี้ เราจะอธิบายข้อควรพิจารณาสำหรับธุรกิจที่วางแผนขยับขยายกิจการไปยังตุรกี ดังนี้
- การเอื้ออำนวยความสะดวกตามวิธีการชำระเงินที่นิยมในแต่ละพื้นที่
- การติดตามความผันผวนของสกุลเงินและการเปลี่ยนแปลงของระเบียบข้อบังคับ
- การใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยทางดิจิทัลที่รัดกุม
สถานะของตลาด
ขณะที่เงินสดยังคงเป็นส่วนสำคัญในแวดวงการชำระเงินที่ซับซ้อนของตุรกี แต่เทคโนโลยี ความต้องการของผู้บริโภค และความพยายามด้านการกำกับดูแลกำลังสร้างอนาคตทางการเงินที่ใช้ระบบดิจิทัลมากขึ้น แนวโน้มเหล่านี้ให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าเกี่ยวกับพฤติกรรมด้านการชำระเงินของตุรกีที่เปลี่ยนแปลงไป
ระบบการเงินและการชำระเงินของตุรกีอยู่ภายใต้การกำกับดูแลอย่างเข้มงวด โดยเน้นไปที่การคุ้มครองผู้บริโภค ความโปร่งใส และเสถียรภาพ ระเบียบข้อบังคับหลักอย่างหนึ่งคือกฎหมาย เลขที่ 6493, กฎหมายเกี่ยวกับระบบการชำระเงินและการชำระเงินหลักทรัพย์ บริการชำระเงิน และสถาบันเงินอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีผลบังคับใช้ในปี 2013 กฎหมายนี้ยังกำหนดโครงสร้างที่ครอบคลุมสำหรับสถาบันเงินอิเล็กทรอนิกส์ สถาบันการชำระเงิน รวมถึงระบบการชำระเงินและการชำระเงินหลักทรัพย์ ซึ่งช่วยให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดระดับสากล นอกจากนี้ ภาครัฐก็มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมให้ทุกคนเข้าถึงบริการทางการเงินได้ ซึ่งเป็นการลดเศรษฐกิจการลักลอบดำเนินการ (กล่าวคือ การดำเนินงานที่ไม่มีการบันทึกข้อมูลและไม่มีการกำกับดูแล) และต่อสู้กับการรับส่งเงินโดยผิดกฎหมายผ่านการดำเนินการกำกับดูแล ตัวอย่างหนึ่งคือการผลักดันให้ใช้เครื่อง POS แบบลงทะเบียน ซึ่งช่วยให้หน่วยงานมีอำนาจสามารถติดตามธุรกรรมและลดความเสี่ยงที่จะมีการเลี่ยงภาษีได้
ธนาคารกลางของสาธารณรัฐตุรกี (CBRT)นำดำเนินการด้านนโยบายการเงินของตุรกี ด้วยทุนสำรองระหว่างประเทศที่มีการรายงานว่ามีมากกว่า 90.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2025 ทาง CBRT จึงมีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายและกำกับดูแลภาคส่วนการธนาคาร โดยหน่วยงานควบคุมและกำกับดูแลการธนาคาร (BRSA) เป็นอีกหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญและมุ่งเน้นไปที่เสถียรภาพและความน่าเชื่อถือของระบบทางการเงิน หน่วยงานเหล่านี้ ร่วมกับกระทรวงธนารักษ์และการคลัง สร้างสภาพแวดล้อมที่ให้การสนับสนุนการดำเนินงานทางการเงินในประเทศและต่างประเทศ
ในปี 2021 BRSA ได้เริ่มใช้ระเบียบข้อบังคับใหม่สำหรับสถาบันการชำระเงินและเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่มีโครงสร้างและปลอดภัยมากขึ้นสำหรับเงินอิเล็กทรอนิกส์และบริการชำระเงิน ระเบียบข้อบังคับเหล่านี้ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นของลูกค้าและธุรกิจในการชำระเงินดิจิทัล
วิธีการชำระเงิน
ลูกค้าในตุรกีใช้วิธีการชำระเงินหลายวิธีที่มีการใช้งานกันทั่วโลก ต่อไปนี้คือรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการชำระเงินที่ได้รับความนิยมในประเทศ
การใช้งานในปัจจุบัน
ระบบนิเวศการชำระเงินของตุรกีประกอบไปด้วยทั้งวิธีการแบบดั้งเดิมและวิธีการสมัยใหม่ผสมผสานกันไป บัตรเครดิตได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในห้างสรรพสินค้าในเมืองที่พลุกพล่าน ตลาดในท้องถิ่น และมาร์เก็ตเพลสออนไลน์ของตุรกี ตามข้อมูลของ CBRT ลูกค้าชาวตุรกีใช้จ่าย 420 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024 โดยใช้บัตร ซึ่งเพิ่มขึ้น 86% โดยเทียบแบบปีต่อปี การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้อย่างกว้างขวางขับเคลื่อนให้มีการช้อปปิ้งออนไลน์และการชำระเงินด้วยบัตรทางออนไลน์พุ่งสูงขึ้น ซึ่งในปี 2023 เกือบ 65% ของประชากรได้ใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการ
แม้ว่าบัตรเครดิตจะยังคงเป็นที่นิยมสำหรับทั้งการทำธุรกรรมภายในร้านค้าและธุรกรรมออนไลน์ แต่กระเป๋าเงินดิจิทัลและการชำระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ก็กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น ตัวอย่างเช่น แบบสำรวจในปี 2019 พบว่า 65% ของผู้ตอบแบบสำรวจจากตุรกีใช้การชำระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงไปใช้แนวทางการชำระเงินสมัยใหม่อย่างชัดเจน
การชำระเงินแบบไร้สัมผัสก็ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในประเทศตุรกีเช่นกัน ตามข้อมูลของ CBRT ในปี 2015 มีการทำธุรกรรมแบบไร้สัมผัสเพียง 2 ล้านรายการต่อเดือน แต่ในปี 2024 จำนวนธุรกรรมดังกล่าวมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 1 พันล้านรายการ วิธีการชำระเงินแบบไร้สัมผัสบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้รับความนิยมอย่างหนึ่งคือ TROY ซึ่งเป็นโปรแกรมในประเทศที่ดำเนินการโดย BKM ซึ่งออกบัตรกว่า 2 ล้านใบในปีแรก
การเติบโตของการชำระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ในตุรกีเป็นผลมาจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและความนิยมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น การใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลเพิ่มขึ้นจากน้อยกว่า 5% ในปี 2017 เป็นมากกว่า 10% ในปี 2023 กฎหมายว่าด้วยการธนาคารของตุรกีไม่อนุญาตให้กระเป๋าเงินดิจิทัลระดับสากลที่ได้รับความนิยม เช่น PayPal, Apple Pay หรือ Google Pay ให้การบริการในประเทศ แต่ประชาชนจะใช้โซลูชันที่สร้างขึ้นเองในประเทศ เช่น Paycell และ BKM Express ซึ่งผสานการทำงานกับธนาคารรายใหญ่หลายแห่ง
วิธีการชำระเงินแบบ B2C ที่ได้รับความนิยมในตุรกี
- บัตรเครดิต
- บัตรเดบิต
- เงินสด
วิธีการชำระเงินแบบ B2B ที่ได้รับความนิยมในตุรกี
- บัตรเครดิต
- การชำระเงินแบบไร้สัมผัส (เช่น TROY)
- การโอนเงินผ่านธนาคาร
แนวโน้มที่กำลังเกิดขึ้น
กรอบการกำกับดูแลของตุรกีมีการปรับตัวตามวิธีการชำระเงินและความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป โดย BRSA ได้ปรับใช้ระเบียบข้อบังคับหลายประการในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ระบบการชำระเงินดิจิทัล เงินอิเล็กทรอนิกส์ และสถาบันการชำระเงิน แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะส่งผลให้เกิดระบบที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ธุรกิจต่างๆ มักจะต้องปรับโครงสร้างพื้นฐานด้านการชำระเงินของตนอย่างรวดเร็วเมื่อระเบียบข้อบังคับใหม่เริ่มมีผลบังคับใช้
ขณะที่คนในตุรกีหันมาใช้เทคโนโลยีด้านการเงินมากขึ้น ประเทศจึงเปลี่ยนผ่านจากการใช้ระบบการชำระเงินด้วยเงินสดไปสู่ระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ ตัวอย่างเช่น การใช้เทอร์มินัล POS มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยที่มีการใช้เทอร์มินัล POS มากกว่า 3 ล้านเครื่องในตุรกีในปี 2023 ซึ่งชี้ให้เห็นว่าโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์เจาะตลาดได้อย่างแท้จริง
การธนาคารและการชำระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ก็เติบโตขึ้นมากเช่นกัน โดยคาดว่ามูลค่าธุรกรรมทั้งหมดสำหรับตลาดการชำระเงินดิจิทัลจะสูงกว่า 20 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2025 แนวโน้มนี้เป็นผลมาจากทั้งการเข้าถึงสมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้นและการผลักดันโซลูชันดิจิทัลอย่างแข็งขันของภาคส่วนธนาคาร การชำระเงินด้วยรหัส QR ที่ได้รับการยอมรับมากขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ช่วยให้ลูกค้าใช้เงินสดน้อยลงด้วย
ความง่ายและความยากในการเข้าสู่ตลาด
การเข้าสู่ตลาดการชำระเงินของตุรกีต้องอาศัยความเข้าใจทางวัฒนธรรมและการผสานการทำงานทางเทคโนโลยี ต่อไปนี้คือข้อมูลที่ธุรกิจควรทราบ
ภาษี
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)ส่งผลกระทบต่อลูกค้าและธุรกิจในตุรกี อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มมาตรฐานที่ 20% มีผลกับสินค้าและบริการส่วนใหญ่ แต่มีอัตราภาษีที่ลดลง 10% และ 1% สำหรับสินค้าและหมวดหมู่บางรายการ เช่น อาหารและยา ทั้งนี้แม้ว่าลูกค้าจะเป็นผู้รับผิดชอบด้านภาษีมูลค่าเพิ่มในสินค้าที่ตนซื้อโดยตรง แต่ธุรกิจเป็นผู้รับผิดชอบในการเรียกเก็บและนำส่งภาษีนี้ให้แก่รัฐบาล ธุรกิจต่างๆ จึงอาจเผชิญกับบทลงโทษที่เข้มงวดหากไม่ปฏิบัติตามการเรียกเก็บหรือการนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม
การดึงเงินคืนและการโต้แย้งการชำระเงิน
ขั้นตอนการดึงเงินคืนและการโต้แย้งการชำระเงินของตุรกีสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการคุ้มครองผู้บริโภคและความต้องการดำเนินการให้สอดคล้องกับมาตรฐานของยุโรป สำหรับธุรกิจ สภาพแวดล้อมเช่นนี้ทำให้มีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องใช้มาตรการเชิงรุกเพื่อลดการโต้แย้งการชำระเงินที่อาจเกิดขึ้นและรักษาความถูกต้องสมบูรณ์ของธุรกรรม ตุรกีมีกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคที่เน้นการปกป้องสิทธิ์ของลูกค้า ธุรกิจจึงต้องมีความคุ้นเคยเกี่ยวกับกฎหมายและข้อบังคับว่าด้วยการดึงเงินคืนและการโต้แย้งการชำระเงิน
BKM มีบทบาทสำคัญในกระบวนการจัดการการดึงเงินคืนของตุรกี บริษัทนี้ก่อตั้งขึ้นผ่านการร่วมมือกับธนาคารในตุรกี โดยกำหนดมาตรฐานสำหรับการชำระเงินด้วยบัตร และใช้ระบบการดึงเงินคืนแบบรวมศูนย์เพื่อเพิ่มความคล่องตัวให้กับกระบวนการโต้แย้งการชำระเงิน จึงทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับธุรกิจและลูกค้า
แม้ว่าตุรกีจะไม่ได้เป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป (EU) แต่กฎหมายและระเบียบข้อบังคับของประเทศตรงตามมาตรฐานของสหภาพยุโรปในหลายๆ ด้าน รวมถึงวิธีการจัดการการดึงเงินคืนและการโต้แย้งการชำระเงิน เช่นเดียวกับระเบียบข้อบังคับของยุโรป ระเบียบข้อบังคับของตุรกีจะเอื้อต่อลูกค้ามากกว่า และธุรกิจจะเป็นผู้รับผิดชอบในการพิสูจน์ความถูกต้องของธุรกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกรรมที่ไม่ได้รับอนุญาต ธุรกิจในตุรกีมักจะมีหน้าที่ในการตรวจสอบสิทธิ์ของธุรกรรมและเก็บรักษาบันทึกข้อมูลที่เกี่ยวข้องมากกว่าธุรกิจในสหรัฐอเมริกา
การชำระเงินระหว่างประเทศ
ตลาดการชำระเงินของตุรกีสะท้อนให้เห็นถึงตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ ความสัมพันธ์ทางการค้าที่คึกคัก และความสนใจด้านเทคโนโลยีของประเทศ ต่อไปนี้คือปัจจัยขับเคลื่อนบางส่วนที่เป็นตัวกำหนดการชำระเงินระหว่างประเทศในธุรกิจ
- การแปลงสกุลเงิน
ด้วยเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตและระบบดิจิทัลที่กำลังขยายตัว ตุรกียังคงปรับบริการแปลงสกุลเงินของประเทศโดยมีเป้าหมายเพื่อตอบสนองความต้องการในท้องถิ่นและทั่วโลก นักเดินทางจำนวนมากในตุรกีเลือกแปลงสกุลเงินประเทศของตนเป็นลีราตุรกี (TRY) โดยปกติอัตราแลกเปลี่ยนจะอยู่ระหว่าง 1% ถึง 3% สูงกว่าอัตราระหว่างธนาคาร ลูกค้ายังอาจต้องจ่ายค่าธรรมเนียมคงที่ ซึ่งมักจะอยู่ที่ระหว่าง 10 ถึง 30 TRY ด้วย ตู้เอทีเอ็มบางแห่งในตุรกีเป็นตัวเลือกให้ผู้ใช้ถอนเงินในสกุลเงินต่างประเทศได้ แต่มักจะมีการคิดอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่ม รวมทั้งยังมีโซลูชันการแปลงสกุลเงินของบุคคลที่สาม รวมถึง iPara และ PayU Turkey - ฟีเจอร์หลายสกุลเงินสำหรับธุรกิจ
สำหรับธุรกิจที่มุ่งตอบสนองกลุ่มเป้าหมายนานาชาติ ฟีเจอร์หลายสกุลเงินเป็นเครื่องมือที่สำคัญ ปกติแล้วอัตราการแปลงสกุลเงินจะมีการกำหนดที่ POS ผ่านบัญชีธนาคารของธุรกิจ และค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับบริการนี้ก็มักจะอยู่ระหว่าง 1% ถึง 3% ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความต้องการของธุรกิจ ค่าธรรมเนียมนี้อาจเป็นความรับผิดชอบของธุรกิจหรือจะส่งต่อให้ลูกค้ารับผิดชอบก็ได้ - บทบาทของธนาคารกลาง
CBRT เป็นหน่วยงานกำกับดูแลหลักที่ควบคุมการดำเนินงานเกี่ยวกับสกุลเงิน นโยบายและการดำเนินการของหน่วยงานนี้อาจส่งผลกระทบต่ออัตราและแนวทางการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน ตุรกีได้ใช้ระเบียบข้อบังคับที่ส่งเสริมให้มีความโปร่งใสด้านอัตราและค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน สถาบันทางการเงิน เช่น ธนาคารและผู้ให้บริการชำระเงิน ต้องเปิดเผยข้อมูลค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการแปลงสกุลเงิน รวมถึงค่าธรรมเนียมบริการและการเพิ่มค่าธรรมเนียมจากอัตราระหว่างธนาคารใดๆ ก็ตาม
การรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
แนวทางการรักษาความปลอดภัยของการชำระเงิน การปฏิบัติตามข้อกำหนด และระเบียบข้อบังคับของตุรกีสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างอุตสาหกรรมทางการเงินที่มั่นคงและปลอดภัย ต่อไปนี้คือรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยและข้อกำหนดด้านความเป็นส่วนตัวในตุรกี
- กฎหมายคุ้มครองข้อมูล
กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในตุรกีคล้ายกับ GDPR ในสหภาพยุโรป ซึ่งกำกับดูแลการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและรับรองว่าธุรกิจต่างๆ จะได้รับความยินยอมจากบุคคลหนึ่งๆ ก่อนที่จะเก็บรวบรวมหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลนั้น หน่วยงานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (KVKK) จะกำกับดูแลและบังคับใช้ระเบียบข้อบังคับนี้ โดยจะดำเนินการให้องค์กรต่างๆ ต้องรับผิดชอบหากละเมิดและไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด - กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (AML) และป้องกันการสนับสนุนการก่อการร้าย (CTF)
ตุรกีปฏิบัติตามมาตรฐานระหว่างประเทศเกี่ยวกับระเบียบข้อบังคับว่าด้วย AML และ CTF โดยมีคณะกรรมการสืบสวนอาชญากรรมทางการเงิน (MASAK) เป็นผู้รับผิดชอบในการบังคับใช้มาตรฐานเหล่านี้ สถาบันการเงินมีภาระผูกพันในการรายงานธุรกรรมที่น่าสงสัยไปยัง MASAK ซึ่งจะดำเนินการสืบสวนเพื่อป้องกันกิจกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมาย - กฎหมายว่าด้วยการระงับข้อพิพาทด้านการระบบการชำระเงินและการรักษาความปลอดภัย
กฎหมายนี้กำหนดหลักการและขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับระบบ การชำระเงินและการรักษาความปลอดภัย บริการชำระเงิน และสถาบันการเงินอิเล็กทรอนิกส์ในตุรกี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความโปร่งใสและปกป้องสิทธิ์และผลประโยชน์ของฝ่ายต่างๆ ในบริการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ - การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ในภาคส่วนการธนาคาร
ขณะที่การเปลี่ยนไปสู่ระบบดิจิทัลของตุรกีได้รับความสนใจมากขึ้น การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ก็ยังคงเป็นข้อกังวลสำคัญของภาคส่วนการธนาคาร หน่วยงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICTA) กำหนดมาตรฐานด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ และธนาคารและผู้ให้บริการชำระเงินจะใช้มาตรการ การเข้ารหัสและการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงเพื่อป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์
ปัจจัยหลักที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จ
ตลาดการชำระเงินของตุรกีเปิดโอกาสหลายด้านให้ธุรกิจเข้ามาดำเนินงานในประเทศได้ โดยมีปัจจัยบางประการที่ควรพิจารณา เพื่อให้เข้าสู่ตลาดได้อย่างประสบความสำเร็จสูงสุด ดังนี้
- สร้างความเชื่อมั่นในการชำระเงินดิจิทัล
แม้ทั่วโลกจะเปลี่ยนไปใช้การชำระเงินดิจิทัล แต่ลูกค้าจำนวนมากในตุรกียังคงต้องนิยมใช้เงินสดอยู่ แบบสำรวจบันทึกการชำระเงินในปี 2021 ที่ดำเนินการโดย CBRT พบว่าผู้เข้าร่วมใช้เงินสดทำธุรกรรมในแต่ละวันถึง 89% ในช่วงที่สังเกตการณ์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความท้าทายสำหรับธุรกิจที่ต้องการส่งเสริมธุรกรรมดิจิทัล เนื่องจากเป็นการบังคับให้ธุรกิจต้องรองรับและคงไว้ซึ่งทั้งวิธีการชำระเงินแบบดั้งเดิมและวิธีการชำระเงินสมัยใหม่ - เข้าใจความซับซ้อนของธุรกรรมข้ามพรมแดน
ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์และความสัมพันธ์ทางการค้าที่หลากหลายของตุรกีหมายความว่าตุรกีมีปริมาณธุรกรรมข้ามพรมแดนสูง ขณะที่ปริมาณการค้ากับประเทศต่างๆ เช่น เยอรมนีและรัสเซียเพิ่มขึ้น ความซับซ้อนก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน สถาบันการเงินและธุรกิจต่างๆ ต้องปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับ ภาษี และข้อตกลงทางการค้าที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่ส่งผลต่อวิธีการจัดการธุรกรรมการชำระเงิน - ลงทุนกับมาตรการรักษาความปลอดภัยที่รัดกุม
ปัญหาด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นข้อกังวลอย่างหนึ่งสำหรับตุรกี ตามรายงานจากศูนย์ความเป็นเลิศด้านความร่วมมือในการป้องกันไซเบอร์ของ NATO ในปี 2021 มีการโจมตีทางไซเบอร์ประมาณ 136,000 ครั้งในตุรกี ในปี 2019 ซึ่งทำให้สถาบันการเงินของตุรกีต้องคอยระมัดระวังเนื่องจากภาคส่วนการชำระเงินมักจะตกเป็นเป้าการโจมตีอยู่บ่อยๆ - ศึกษาสภาพแวดล้อม
ระบบการชำระเงินของตุรกีกำลังเปลี่ยนไปสู่ระบบดิจิทัล โดยที่การธนาคารบนอุปกรณ์เคลื่อนที่และกระเป๋าเงินดิจิทัลเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในขณะนี้ ตัวเลือกดิจิทัลหลายรายการ เช่น BKM Express มาพร้อมกับฟีเจอร์สำหรับการแปลงสกุลเงิน การพัฒนานี้ช่วยให้ลูกค้าและธุรกิจสามารถจัดการสกุลเงินหลายสกุลได้ง่ายขึ้น จึงเป็นการนำพาตุรกีเข้าสู่ระบบการเงินระดับสากลไปอีกก้าว
ประเด็นสำคัญ
แม้ว่าตุรกีจะเติบโตขึ้นมากเรื่อยๆ ในฐานะศูนย์กลางทางการเงิน แต่ธุรกิจต่างๆ ยังคงเผชิญกับความท้าทายในตลาดการชำระเงินของประเทศ ต่อไปนี้คือกลยุทธ์ที่ธุรกิจสามารถปฏิบัติตามเมื่อเข้าสู่ตลาด การชำระเงินของตุรกี
ให้บริการวิธีการชำระเงินในท้องถิ่น
- พิจารณาให้บริการตัวเลือกการชำระเงินที่หลากหลายมากขึ้น
การเติบโตของกระเป๋าเงินดิจิทัลและโซลูชันการชำระเงินในท้องถิ่นแสดงให้เห็นถึงระบบนิเวศการชำระเงินที่หลากหลาย การนำตัวเลือกการชำระเงินเหล่านี้มาใช้สามารถตอบโจทย์ฐานลูกค้าที่กว้างขึ้น โดยเฉพาะลูกค้าอายุน้อยที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี - รองรับทั้งบัตรเครดิตและเงินสด
ลูกค้าส่วนใหญ่ในตุรกียังคงใช้เงินสดร่วมกับบัตรเครดิต ซึ่ง 50% ของการชำระเงินในตุรกีในปี 2024 เป็นการดำเนินการด้วยบัตร ในขณะที่ 30% ดำเนินการด้วยเงินสด ด้วยเหตุนี้ ธุรกิจจึงควร ผสานการทำงานระบบที่รวมทั้งวิธีการชำระเงินดิจิทัลและวิธีการชำระเงินแบบดั้งเดิม - แปลภาษาอินเทอร์เฟซการชำระเงินของคุณ
การแปลอินเทอร์เฟซการชำระเงินให้มีภาษาตุรกีจะช่วยยกระดับ ประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้และสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าได้
วางแผนรับมือกับความผันผวนของสกุลเงินเงินและการเปลี่ยนแปลงของระเบียบข้อบังคับ
- ผสานการทำงานระบบการแปลงสกุลเงินแบบไดนามิก (DCC)
ความผันผวนของลีราตุรกีเป็นข้อกังวลมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในการแก้ไขปัญหานี้ ธุรกิจสามารถผสานการทำงานระบบ DCC ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถดูราคาทั้งในลีราตุรกีและสกุลเงินต่างประเทศ อีกทั้งยังช่วยให้ทราบอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินได้อย่างชัดเจนแบบเรียลไทม์ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติ - ติดตามการเปลี่ยนแปลงด้านการกำกับดูแล
ธุรกิจในตุรกีต้องติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการปรับปรุงแก้ไขระเบียบข้อบังคับของ BRSA การปฏิบัติตามข้อกำหนดอยู่เสมอจะช่วยให้ดำเนินงานได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น รวมทั้งยังเป็นการส่งสัญญาณให้ลูกค้าทราบว่าธุรกรรมได้รับการสนับสนุนจากมาตรฐานที่เป็นปัจจุบัน - ทราบผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากความผันผวนของสกุลเงิน
ตุรกีเผชิญกับความผันผวนอย่างรุนแรงในสกุลเงินเงินท้องถิ่น ซึ่งก็คือลีราตุรกี การเปลี่ยนแปลงที่คาดการณ์ไม่ได้เหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อธุรกรรมในประเทศและธุรกรรมข้ามพรมแดน โดยในกรณีที่รุนแรงเมื่อเดือนมีนาคม 2025 ลีราตุรกีลดลงต่ำสุดประวัติการณ์หลังจากเกิดเหตุการณ์อื้อฉาวทางการเมือง จนสุดท้ายแล้วปิดตัวที่ 37.665 ต่อดอลลาร์สหรัฐ ความผันผวนนี้ทำให้ธุรกิจต่างๆ จำเป็นต้องวางแผนและติดตามการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ เพิ่มเติมอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างประเทศ
ความปลอดภัยต้องมาก่อน
- การชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่
การชำระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ในตุรกีใช้เทคโนโลยีการสื่อสารสนามใกล้ (NFC) และรหัส QR เป็นหลัก โดยมักกำหนดให้ต้องใช้การตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2 ปัจจัย (2FA) ผ่านการสแกนไบโอเมตริกหรือต้องป้อน PIN เพื่อรักษาความปลอดภัย - ระบบการโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์และการชำระเงินด้วยบัตร
CBRT กำกับดูแลและควบคุมโครงสร้างพื้นฐานของการ การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ โดย BKM กำหนดมาตรฐานสำหรับการชำระเงินด้วยบัตร ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มการรักษาความปลอดภัยของ บัตรและส่งเสริมการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศ - ผู้ให้บริการชำระเงิน
ผู้ให้บริการชำระเงินบุคคลที่สามมีจำนวนเพิ่มขึ้นในตุรกี บริษัทต่างๆ เช่น iyzico และ PayU ให้บริการโซลูชันการชำระเงินนวัตกรรมใหม่แก่กับธุรกิจและลูกค้าในตุรกี และดำเนินงานภายใต้ระเบียบข้อบังคับที่กำหนดโดย BRSA และ ICTA เพื่อรักษามาตรฐานการรักษาความปลอดภัยในระดับสูงและคุ้มครองข้อมูลผู้ใช้
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ