ประสบการณ์การชําระเงินที่มีแบรนด์จะช่วยธุรกิจในการเพิ่มรายรับได้อย่างไร

Checkout
Checkout

Stripe Checkout เป็นแบบฟอร์มการชำระเงินสำเร็จรูปที่คุณสามารถปรับแต่งให้เหมาะสำหรับเพิ่มยอดขาย นอกจากนี้คุณยังผสานรวม Checkout เข้ากับเว็บไซต์โดยตรงหรือนำลูกค้าไปยังหน้าเว็บที่จัดการโดย Stripe ได้อย่างง่ายดาย รวมถึงยังรับการชำระเงินแบบครั้งเดียวหรือการชำระเงินตามรอบบิลได้อีกด้วย

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. การชําระเงินที่มีแบรนด์คืออะไร
  3. ขั้นตอนการชําระเงินที่มีแบรนด์มีหลักการทำงานอย่างไร
  4. ประโยชน์ของการมีการชําระเงินที่มีแบรนด์
  5. แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสําหรับการชําระเงินที่มีแบรนด์สําหรับการขายสินค้าออนไลน์
  6. วิธีที่ Stripe Checkout ขับเคลื่อนหน้าการชําระเงินที่มีแบรนด์

เนื่องจากมีธุรกรรมประเภทต่างๆ มากขึ้นที่เปลี่ยนไปเป็นระบบออนไลน์ วิธีการชำระเงินของลูกค้าจึงเปลี่ยนไป รวมถึงวิธีการสร้างความสัมพันธ์กับแบรนด์ก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน จุดติดต่อสุดท้ายในเส้นทางของลูกค้า ซึ่งก็คือกระบวนการชําระเงินมีความสําคัญอย่างยิ่งสําหรับธุรกิจในการเสริมความแข็งแกร่งให้กับทั้งการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชําระเงินและการจดจำแบรนด์ ขั้นตอนการชำระเงินเป็นจุดที่ต้องให้ความสำคัญ เนื่องจากเป็นจุดที่ความพยายามในการแปลงการขายเป็นการขายที่ประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว ในบรรดากลวิธีการชำระเงินที่ธุรกิจต่างๆ ใช้ ประสบการณ์การชำระเงินที่มีแบรนด์กำลังกลายเป็นสิ่งสำคัญมากขึ้น

ขั้นตอนการชำระเงินที่มีแบรนด์ ซึ่งมีจุดติดต่อที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ใช้แนวคิดที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในระยะยาวว่าความสม่ำเสมอในการสร้างแบรนด์ แม้แต่ในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่น หน้าการชำระเงิน เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการสร้างความสัมพันธ์และรักษาลูกค้าไว้ ต่อไปนี้คือสิ่งที่ธุรกิจต้องรู้เกี่ยวกับคุณค่าของการชําระเงินที่มีแบรนด์ที่มีประสิทธิภาพสูง รวมถึงสิ่งที่จําเป็นสําหรับการสร้างและดูแลรักษา

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

  • การชําระเงินที่มีแบรนด์คืออะไร
  • ขั้นตอนการชําระเงินที่มีแบรนด์มีหลักการทำงานอย่างไร
  • ประโยชน์ของการมีการชําระเงินที่มีแบรนด์
  • แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสําหรับการชําระเงินที่มีแบรนด์สําหรับการขายสินค้าออนไลน์
  • วิธีที่ Stripe Checkout ขับเคลื่อนหน้าการชําระเงินที่มีแบรนด์

การชําระเงินที่มีแบรนด์คืออะไร

การชําระเงินที่มีแบรนด์หมายถึงขั้นตอนการชําระเงินบนเว็บไซต์ที่ปรับแต่งให้แสดงองค์ประกอบของแบรนด์ธุรกิจ ซึ่งรวมถึงองค์ประกอบด้านภาพ เช่น โลโก้ สีแบรนด์ และการออกแบบตัวอักษร รวมถึงรูปลักษณ์โดยรวมและความรู้สึกที่สอดคล้องกับอัตลักษณ์ของแบรนด์ แทนที่จะใช้กระบวนการชำระเงินทั่วไปหรือแบบเริ่มต้น ธุรกิจต่างๆ เลือกที่จะสร้างแบรนด์ในขั้นตอนนี้เพื่อรักษาความสม่ำเสมอของแบรนด์ตลอดประสบการณ์การช้ชอปปิงออนไลน์ของลูกค้า

ขั้นตอนการชําระเงินที่มีแบรนด์มีหลักการทำงานอย่างไร

แบรนด์ยอดนิยมหลายแห่งมักใช้สี เลย์เอาต์ และบรรยากาศบางอย่างเพื่อสร้างความรู้สึกคุ้นเคยเมื่อลูกค้าก้าวเข้าสู่ร้านค้าที่มีหน้าร้าน การแปลความรู้สึกนั้นให้อยู่ในพื้นที่ออนไลน์ โดยเฉพาะในกระบวนการชําระเงิน คือเป้าหมายของการชําระเงินที่มีแบรนด์

ส่วนต่างๆ ของการชําระเงินที่มีแบรนด์ได้แก่

  • องค์ประกอบการออกแบบที่กําหนดเอง: Checkout จะผสานรวมองค์ประกอบการออกแบบ เช่น สีของแบรนด์ โลโก้ และการพิมพ์
  • การสื่อสารข้อความที่สอดคล้องกัน: ภาษาและน้ำเสียงที่ใช้ในระหว่างการชำระเงินสอดคล้องกับกลยุทธ์การส่งข้อความโดยรวมของแบรนด์
  • การแสดงถึงความใส่ใจส่วนบุคคล: การชำระเงินที่มีแบรนด์บางรายให้บริการข้อความที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคลหรือการแนะนำผลิตภัณฑ์โดยอิงตามพฤติกรรมของลูกค้า
  • ระบบการให้ข้อเสนอแนะ: ธุรกิจบางแห่งเสนอตัวเลือกแบบสํารวจหรือแสดงความคิดเห็นสั้นๆ เมื่อสิ้นสุดขั้นตอนการชําระเงิน เพื่อวัดความเชื่อมั่นของลูกค้าและปรับปรุง

การชําระเงินที่มีมีแบรนด์ตระหนักดีว่าหน้าชำระเงินให้โอกาสในการทำสิ่งต่างๆ มากกว่าแค่การทำธุรกรรมให้เสร็จสิ้นเท่านั้น การชำระเงินที่มีแบรนด์เป็นจุดสูงสุดของประสบการณ์การชอปปิงที่สอดประสานกัน ซึ่งยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของแบรนด์ ความเอาใจใส่ต่อรายละเอียดดังกล่าวอาจทำให้ลูกค้ารู้สึกได้รับการยอมรับและมีคุณค่า ซึ่งส่งผลให้เพิ่มอัตราการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชําระเงิน รวมถึงประโยชน์อื่นๆ ที่เราจะกล่าวถึงด้านล่าง

ประโยชน์ของการมีการชําระเงินที่มีแบรนด์

ลองนึกภาพว่าคุณได้เดินเข้าไปในร้านค้าแบบดั้งเดิมที่ซึ่งมีการจัดแสดงสินค้าทุกชิ้นที่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นส่วนขยายของเอกลักษณ์ของแบรนด์ ส่วนขั้นตอนการชําระเงินที่มีแบรนด์มีจุดมุ่งหมายเพื่อเลียนแบบความรู้สึกนี้ในพื้นที่ดิจิทัล ประโยชน์หลักๆ จากการมีหน้าชําระเงินที่มีแบรนด์มีดังนี้

  • การรับรู้แบรนด์
    ขั้นตอนการชําระเงินที่มีแบรนด์ถือเป็นการเตือนความจําอยู่เสมอเกี่ยวกับอัตลักษณ์ของแบรนด์ ทุกครั้งที่ลูกค้าโต้ตอบกับการชำระเงิน การได้เห็นการออกแบบและข้อความของแบรนด์ซ้ำๆ จะช่วยเสริมสร้างความทรงจำเกี่ยวกับแบรนด์ของพวกเขา เมื่อเวลาผ่านไป การเล่าเรื่องด้วยภาพที่สอดคล้องกันนี้สามารถเสริมสร้างการจดจำแบรนด์ได้ โดยช่วยให้ลูกค้าเชื่อมโยงสี การออกแบบ หรือประสบการณ์ที่เจาะจงกับแบรนด์หนึ่งๆ

  • การสร้างความเชื่อมั่น
    ผู้ซื้อออนไลน์จํานวนมาก ประมาณ 70% ละทิ้งรถเข็นก่อนดําเนินการซื้อให้เสร็จสมบูรณ์ มีสาเหตุหลายประการที่ทำให้เป็นเช่นนี้ แต่สาเหตุหลักๆ ก็คือ หากลูกค้าไม่ไว้วางใจให้เว็บไซต์เก็บรวบรวมข้อมูลบัตรเครดิตของพวกเขา: ผู้เข้าร่วม 25% ที่ตอบแบบสํารวจบอกว่านี่เป็นเหตุผลว่าทําไมพวกเขาถึงเลือกละทิ้งรถเข็น เมื่อลูกค้าพบหน้าชำระเงินที่สะท้อนถึงการออกแบบและจริยธรรมของเว็บไซต์หลัก ก็จะช่วยบรรเทาข้อกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยและความถูกต้อง ประสบการณ์การชำระเงินที่ไม่ต่อเนื่องอาจทำให้เกิดความสงสัยและนำไปสู่การคิดทบทวน แต่การชำระเงินที่มีแบรนด์จะนำเสนอรูปลักษณ์ที่เป็นหนึ่งเดียวและสบายใจ ทําให้มั่นใจว่าลูกค้ายังอยู่ในสภาพแวดล้อมที่น่าเชื่อถือของแบรนด์ และกระตุ้นให้ลูกค้าเข้าใกล้การเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชําระเงินมากขึ้นไปอีกขั้นตอนหนึ่ง

  • การละทิ้งรถเข็นลดลง
    การสร้างความเชื่อมั่นที่การชำระเงินด้วยแบรนด์ช่วยสร้างขึ้นได้นั้นสามารถส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อการละทิ้รถเข็นสินค้า เมื่อมีการเปลี่ยนผ่านจากชอปปิงมาเป็นการชําระเงินอย่างราบรื่นและสอดคล้องกัน ลูกค้าก็จะได้รับประสบการณ์การซื้อสินค้าที่มีขั้นตอนชี้แนะแบบต่อเนื่อง ซึ่งช่วยลดอุปสรรคทางจิตและความลังเลใจที่มักจะทำให้เกิดการละทิ้งรถเข็นก่อนหน้านี้ ซึ่งหมายความว่าธุรกิจสามารถให้บริการเส้นทางที่คาดเดาได้และต่อเนื่องตั้งแต่ต้นจนจบได้

  • การเชื่อมโยงส่วนบุคคล
    การชําระเงินที่มีแบรนด์แสดงให้เห็นว่าประสบการณ์การชอปปิงของลูกค้าเป็นสิ่งสําคัญต่อแบรนด์ การแสดงความสนใจส่วนบุคคล เช่น ข้อความที่ปรับแต่งตามความต้องการหรือข้อเสนอแนะผลิตภัณฑ์ ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าตนเองได้รับการมองเห็นและมีคุณค่า โดยจะเปลี่ยนจากธุรกรรมทั่วไปไปเป็นประสบการณ์ที่สะท้อนถึงระดับส่วนตัว นี่อาจหมายถึงความแตกต่างระหว่างผู้ซื้อแบบครั้งเดียวกับลูกค้าที่ภักดี

  • โอกาสในการแสดงข้อเสนอแนะ
    การชําระเงินที่มีแบรนด์ไม่ใช่เพียงจุดสิ้นสุด แต่ยังเป็นเป็นถนนสองทางด้วย เมื่อผสานการทํางานระบบแสดงข้อเสนอแนะหรือองค์ประกอบแบบอินเทอร์แอกทีฟไว้ในสภาพแวดล้อมที่มีแบรนด์ ธุรกิจต่างๆ ก็สามารถสร้างโอกาสเพื่อให้เกิดการสนทนาได้ ลูกค้ามีแนวโน้มที่จะมีส่วนร่วมและแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกของพวกเขามากขึ้นเมื่อพวกเขาอยู่ในพื้นที่ที่ข้อมูลของพวกเขามีความสำคัญ การโต้ตอบเหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจมีข้อมูลและข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่า เพื่อปรับกลยุทธ์และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า

การนําเสนอขั้นตอนการชําระเงินที่มีแบรนด์ให้แก่ลูกค้าสื่อถึงการใส่ใจในรายละเอียด การดูแลลูกค้า และความรู้สึกถึงเอกลักษณ์ที่ชัดเจน ธุรกิจที่ใช้กลยุทธ์นี้คาดหวังได้ว่าแบรนด์จะมีความแข็งแกร่งขึ้นและมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น แม้ว่าหน้าชำระเงินที่มีแบรนด์จะไม่สามารถเปลี่ยนยอดขายได้เพียงลำพัง แต่สามารถทำงานร่วมกับความพยายามอื่นๆ ได้

แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสําหรับการชําระเงินที่มีแบรนด์สําหรับการขายสินค้าออนไลน์

ในการชำระเงินแบบมีแบรนด์ มีแนวทางปฏิบัติที่ดีมากมายที่ธุรกิจควรพิจารณาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของตนให้สูงสุด ต่อไปนี้คือภาพรวมโดยย่อเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดเหล่านั้น

  • รักษาความสอดคล้องกัน
    ความสอดคล้องไม่ใช่แค่การใช้สีและโลโก้เดียวกัน ทุกองค์ประกอบ ตั้งแต่ขนาดของแบบอักษรไปจนถึงรูปทรงปุ่ม ควรแสดงแนวทางการสร้างแบรนด์ สิ่งนี้สร้างประสบการณ์ที่สม่ำเสมอซึ่งทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าพวกเขากำลังชอปปิงกับแบรนด์ที่เชื่อถือได้เท่านั้น

  • ทําให้เป็นเรื่องง่าย
    ขั้นตอนการชําระเงินจะต้องเข้าใจง่าย หลีกเลี่ยงการทำให้ผู้ซื้อสับสนด้วยช่องข้อความหรือขั้นตอนที่มากเกินไป จุดมุ่งหมายควรเป็นการนำผู้ซื้อไปยังเส้นชัยโดยมีอุปสรรคน้อยที่สุด กระบวนการที่ตรงไปตรงมาสามารถลดโอกาสการละทิ้งรถเข็นได้อย่างมาก

  • จัดลําดับความสําคัญการออกแบบที่ตอบสนองต่ออุปกรณ์หลายแบบ
    ลูกค้าในปัจจุบันอาจเริ่มต้นชอปปิงบนแล็ปท็อป ชอปปิงต่อบนโทรศัพท์มือถือระหว่างเดินทาง และชำระเงินบนแท็บเล็ตที่บ้าน การทำให้แน่ใจว่าการชำระเงินมีลักษณะและการทำงานอย่างเหมาะสมในทุกอุปกรณ์ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่สามารถต่อรองได้ สิ่งนี้ต้องผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวดบนอุปกรณ์หลายประเภทเพื่อยืนยันถึงความสม่ำเสมอ

  • สื่อสารในเชิงรุกผ่านการออกแบบอัจฉริยะ
    การสื่อสารอย่างกระตือรือร้นสามารถขจัดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้หลายประการ ตัวอย่างเช่น หากผู้ซื้อป้อนอีเมลของตนในรูปแบบที่ไม่ถูกต้องการตอบกลับอย่างรวดเร็วสามารถแนะนําพวกเขาให้แก้ไขได้ ในทํานองเดียวกัน การมีส่วนที่ให้ลูกค้าแบ่งปันประสบการณ์ในระหว่างการชําระเงินสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อการปรับปรุง

  • โปร่งใส
    นาทีสุดท้ายทําให้ลูกค้ารู้สึกประหลาดใจเมื่อซื้อสินค้าออนไลน์อาจส่งผลเสียต่อประสบการณ์ของลูกค้าได้ ธุรกิจควรแสดงค่าใช้จ่ายทั้งหมดล่วงหน้า รวมถึงค่าจัดส่ง ภาษี และค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมต่างๆ การแจกแจงยอดรวมอย่างชัดเจนจะช่วยรักษาความเชื่อมั่นและลดการทิ้งรถเข็นในนาทีสุดท้าย

  • ผสานรวมความใส่ใจส่วนบุคคล
    การปรับแต่งให้เหมาะกับแต่ละบุคคลเป็นสิ่งที่มีประสิทธิภาพ การจดจำลูกค้าที่กลับมาซื้อซ้ำและให้คำแนะนำตามการซื้อในอดีตสามารถยกระดับประสบการณ์การชอปปิง ทำให้ลูกค้ารู้สึกได้รับการยอมรับและมีคุณค่า

  • ทดสอบและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
    การชําระเงินออนไลน์มีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา ธุรกิจควรประเมินขั้นตอนการชําระเงินเป็นระยะโดยอิงตามรูปแบบพฤติกรรมลูกค้าที่อัปเดตแล้ว ส่วนนี้สามารถระบุส่วนต่างๆ เพื่อการปรับปรุงประสิทธิภาพและตรวจสอบว่าขั้นตอนการชําระเงินยังคงเป็นเครื่องมือที่ทรงประสิทธิภาพและเกี่ยวข้องมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

การสร้างระบบชำระเงินที่มีแบรนด์ที่มีประสิทธิภาพต้องอาศัยทั้งความเฉียบแหลมในการออกแบบ การคิดที่เน้นลูกค้า และการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เมื่อดำเนินการด้วยความแม่นยำ จะไม่เพียงแต่ช่วยอำนวยความสะดวกในการขายเท่านั้น แต่ยังทำให้ลูกค้ามีความประทับใจในแบรนด์อีกด้วย

วิธีที่ Stripe Checkout ขับเคลื่อนหน้าการชําระเงินที่มีแบรนด์

หน้าชําระเงินที่ปรับแต่งได้ของ Stripe จะเปลี่ยนจุดสิ้นสุดธุรกรรมให้เป็นส่วนขยายของแบรนด์ของคุณ ด้วยการใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์การปรับแต่งของ Stripe คุณสามารถมอบประสบการณ์ของแบรนด์แบบเต็มรูปแบบได้จนถึงธุรกรรมสุดท้าย วิธีการทํางานของ Stripe Checkout มีดังนี้

  • อินเทอร์เฟซลูกค้าที่ปรับแต่งได้
    Stripe Checkout มีตัวเลือกการปรับแต่งตั้งแต่สีไปจนถึงโลโก้ ช่วยให้คุณสร้างแบรนด์สอดคล้องกันได้ตลอดกระบวนการชําระเงิน เมื่อหน้าชำระเงินของคุณรักษาความต่อเนื่องทางภาพกับส่วนอื่นๆ ของเว็บไซต์ ก็จะช่วยคลายความลังเลของลูกค้าและสร้างความมั่นใจ ซึ่งอาจเป็นประโยชน์อย่างยิ่งโดยเฉพาะในขั้นตอนสุดท้ายของการซื้อ

  • ช่องที่กรอกข้อมูลล่วงหน้าและรายละเอียดการชําระเงินที่บันทึกไว้
    การปรับแต่งไม่ได้จํากัดอยู่เฉพาะองค์ประกอบทางภาพเท่านั้น API ของ Stripe ช่วยให้คุณกรอกข้อมูลลูกค้าไว้ล่วงหน้าได้หากพวกเขาเคยซื้อสินค้ากับคุณมาก่อน ซึ่งจะเพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้น การแสดงความใส่ใจที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคลเช่นนี้จะสะท้อนถึงลูกค้า แสดงให้พวกเขาเห็นว่าเวลาของพวกเขามีค่า และลดความยุ่งยากที่ไม่จำเป็นในกระบวนการเปลี่ยนเป็นลูกค้าแบบชำระเงิน ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์ของลูกค้า Stripe จึงสามารถมอบช่องทางให้ธุรกิจต่างๆ สร้างและรักษาความภักดีของลูกค้าได้ ทำให้ลูกค้ามีแนวโน้มที่จะตัดสินใจซื้อสินค้าและกลับมาซื้อซ้ำมากขึ้น

  • ความสามารถในการปรับตัวด้านภาษา
    Stripe Checkout ตรวจจับตำแหน่งของลูกค้าและแสดงหน้าเพจที่แปลเป็นภาษาของท้องถิ่น และสามารถแก้ไขตำแหน่งของเบราว์เซอร์ได้หากคุณต้องการให้หน้าเพจชำระเงินของคุณยังคงอยู่ในภาษาใดภาษาหนึ่ง หน้าชําระเงินนี้ไม่เพียงใช้เกตเวย์การชําระเงินเท่านั้น แต่ยังใช้กระบวนการที่ออกแบบมาอย่างมีกลยุทธ์เพื่อกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะอีกด้วย

  • ความไว้วางใจเพิ่มขึ้นผ่านการสร้างแบรนด์
    การจัดแสดงองค์ประกอบการสร้างแบรนด์ที่คุ้นเคยในหน้าการชําระเงินจะช่วยยกระดับความเชื่อมั่นของลูกค้าได้ ซึ่งเป็นปัจจัยสําคัญอย่างยิ่งต่อธุรกรรมที่มีมูลค่าสูง จากรายงานพิเศษของ Edelman Trust Barometer ประจําปี 2023 71% ของผู้ตอบแบบสํารวจระบุว่าต้องไว้วางใจแบรนด์ก่อนจึงจะซื้อสินค้าจากแบรนด์เหล่านั้นได้ เนื่องจากการสร้างสภาพแวดล้อมของแบรนด์ที่น่าเชื่อถือและเป็นที่รู้จักจะช่วยสร้างความเชื่อมั่น ทําให้ความสามารถในการรวมองค์ประกอบต่างๆ ของแบรนด์เข้ากับกระบวนการชําระเงินผ่าน Stripe Checkout อาจส่งผลต่อยอดขายได้โดยตรง

  • การวิเคราะห์ที่ครอบคลุมสําหรับหน้าที่มีแบรนด์
    Stripe นําเสนอการวิเคราะห์ที่นอกเหนือไปจากธุรกรรม เพื่อครอบคลุมพฤติกรรมลูกค้าในหน้าการชําระเงินที่มีแบรนด์ของคุณ ข้อมูลเหล่านี้สามารถแสดงประสิทธิภาพองค์ประกอบการสร้างแบรนด์ของคุณ ช่วยให้สามารถตัดสินใจอย่างรอบรู้เกี่ยวกับการออกแบบและการปรับแต่งข้อความ

หากต้องการศึกษาวิธีที่ Stripe เปิดใช้การชําระเงินที่มีประสิทธิภาพ และประสบการณ์การชําระเงินที่มีแบรนด์สำหรับธุรกิจ โปรดดูที่หน้าการปรับแต่ง Checkout

เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Checkout

Checkout

ผสานรวม Checkout เข้ากับเว็บไซต์โดยตรงหรือนำลูกค้าไปยังหน้าเว็บที่จัดการโดย Stripe เพื่อให้รับการชำระเงินแบบครั้งเดียวหรือการชำระเงินตามรอบบิลได้อย่างปลอดภัยและง่ายดาย

Stripe Docs เกี่ยวกับ Checkout

สร้างแบบฟอร์มการชำระเงินที่เขียนโค้ดเพียงเล็กน้อยและผสานรวมกับเว็บไซต์ของคุณหรือโฮสต์ไว้ในระบบของ Stripe