How to reduce cart abandonment: 11 tactics businesses should know

Checkout
Checkout

Stripe Checkout เป็นแบบฟอร์มการชำระเงินสำเร็จรูปที่คุณสามารถปรับแต่งให้เหมาะสำหรับเพิ่มยอดขาย นอกจากนี้คุณยังผสานรวม Checkout เข้ากับเว็บไซต์โดยตรงหรือนำลูกค้าไปยังหน้าเว็บที่จัดการโดย Stripe ได้อย่างง่ายดาย รวมถึงยังรับการชำระเงินแบบครั้งเดียวหรือการชำระเงินตามรอบบิลได้อีกด้วย

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. การละทิ้งรถเข็นคืออะไร
  3. ทําไมการละทิ้งรถเข็นจึงเกิดขึ้น
  4. วิธีลดการละทิ้งรถเข็น: กลยุทธ์ 11 ข้อที่ต้องรู้
    1. 1. ค่าบริการที่โปร่งใส
    2. 2. การชําระเงินที่เรียบง่าย
    3. 3. ตัวเลือกการชําระเงินที่ยืดหยุ่น
    4. 4. มาตรการด้านการสร้างความมั่น
    5. 5. เว็บไซต์ที่เพิ่มประสิทธิภาพ
    6. 6. นโยบายการคืนสินค้า การคืนเงิน และการยกเลิกที่ชัดเจน
    7. 7. การจัดการสินค้าคงคลัง
    8. 8. กลยุทธ์การกําหนดเป้าหมายใหม่
    9. 9. ประสบการณ์ของผู้ใช้ที่ดึงดูด
    10. 10. การจัดการการช็อปปิ้งเพื่อเปรียบเทียบ
    11. 11. ลดสิ่งรบกวน
  5. Stripe จะช่วยได้อย่างไร

การละทิ้งรถเข็นเป็นปัญหาที่ซับซ้อนและเกิดขึ้นทุกปีสำหรับธุรกิจใดๆ ที่ดำเนินการธุรกรรมกับลูกค้าทางออนไลน์ โดยมีผลกระทบต่อการดำเนินงาน การขาย และการจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า รถเข็นสินค้าออนไลน์มากกว่า 70% ถูกละทิ้ง ก่อนที่จะทำการซื้อเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งอาจส่งผลให้ธุรกิจสูญเสียรายได้และโอกาสต่างๆ แม้ปัจจัยหลายประการจะส่งผลต่อการตัดสินใจของลูกค้าในการละทิ้งรถเข็นสินค้า แต่ส่วนใหญ่ เหตุผลมักจะอยู่ในระดับการควบคุมของธุรกิจ

ด้วยการทําความเข้าใจสาเหตุของการละทิ้งรถเข็น และนํามาตรการเชิงรุกมาใช้ ธุรกิจต่างๆ จะสามารถปรับปรุงกระบวนการขายออนไลน์ของตนได้ บทความนี้จะอธิบายเกี่ยวกับการละทิ้งรถเข็น สาเหตุเบื้องหลัง ข้อมูลเชิงลึกที่สามารถให้ได้เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจ และแนวทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมเพื่อลดการเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

  • การละทิ้งรถเข็นคืออะไร
  • ทําไมการละทิ้งรถเข็นจึงเกิดขึ้น
  • วิธีลดการละทิ้งรถเข็น: กลยุทธ์ 11 ข้อที่ต้องรู้
  • Stripe ช่วยอะไรได้บ้าง

การละทิ้งรถเข็นคืออะไร

การละทิ้งรถเข็น คือเมื่อผู้ซื้อของออนไลน์เพิ่มสินค้าลงในรถเข็นช็อปปิ้งเสมือนของพวกเขา แต่ออกจากเว็บไซต์หรือแอปโดยไม่ทำการสั่งซื้อให้เสร็จสิ้น ธุรกิจอีคอมเมิร์ซมักจะตรวจสอบติดตามการละทิ้งรถเข็นในฐานะตัวบ่งชี้ว่าอาจมีปัญหาเกิดขึ้นในกระบวนการซื้อ ตั้งแต่ฟังก์ชันการใช้งานเว็บไซต์ ไปจนถึงความลังเลของลูกค้า หรืออุปสรรคในการตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม การละทิ้งรถเข็นไม่ใช่ปัญหาที่เกิดขึ้นเฉพาะกับธุรกิจอีคอมเมิร์ซเท่านั้น หากธุรกิจของคุณต้องอาศัยการดึงดูดลูกค้าและทำธุรกรรมออนไลน์ให้เสร็จสมบูรณ์ การละทิ้งตะกร้าสินค้าก็อาจเป็นข้อกังวลอันดับต้นๆ ของคุณ

ทําไมการละทิ้งรถเข็นจึงเกิดขึ้น

การละทิ้งรถเข็นเกี่ยวพันกับองค์ประกอบเฉพาะในเส้นทางการช็อปปิ้งออนไลน์ ธุรกิจจะต้องเข้าใจสาเหตุพื้นฐานเหล่านี้ก่อนเพื่อลดอัตราการละทิ้งอย่างมีประสิทธิผล ต่อไปนี้เป็นรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่อาจนำไปสู่การละทิ้งรถเข็น

  • ค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด
    นักช็อปมักจะละทิ้งตะกร้าสินค้าเมื่อพบค่าธรรมเนียมที่ไม่คาดคิดในการชำระเงิน โดยรวมถึงค่าธรรมเนียมการจัดส่ง ภาษี และค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพิ่มเติม ธุรกิจสามารถรับมือกับปัญหานี้ได้โดยการกําหนดราคาที่โปร่งใสในช่วงต้นของกระบวนการซื้อสินค้า หรือเสนอโปรโมชันที่หักลบค่าธรรมเนียมเหล่านี้

  • ขั้นตอนการชําระเงินที่ยุ่งยาก
    การชําระเงินที่มีหลายขั้นตอนหรือช่องข้อมูลที่ไม่จําเป็นอาจทําให้ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าเปลี่ยนใจ การปรับปรุงกระบวนการนี้ ซึ่งอาจทำได้โดยการเพิ่มตัวเลือกการชำระเงินแบบไม่ต้องเข้าสู่ระบบหรือกรอกแบบฟอร์มให้น้อยลง จะช่วยลดความยุ่งยากได้

  • ข้อกําหนดการสร้างบัญชี
    ผู้ซื้อบางรายไม่ต้องการสร้างบัญชีเพื่อการซื้อเพียงครั้งเดียว การนําเสนอทางเลือกในการชําระเงินของผู้ใช้ที่ไม่ได้เข้าสู่ระบบบัญชีหรือทําให้กระบวนการลงทะเบียนง่ายขึ้นจะช่วยรักษาลูกค้าในเส้นทางการซื้อ

  • ข้อกังวลด้านความปลอดภัย
    บางครั้งผู้ซื้อจะละทิ้งรถเข็น หากพวกเขาไม่เชื่อถือกระบวนการชําระเงินอย่างเต็มที่ การใช้เกตเวย์การชําระเงิน การแสดงป้ายความปลอดภัย และให้ข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการคุ้มครองข้อมูลจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นได้

  • ข้อผิดพลาดบนเว็บไซต์หรือใช้เวลาโหลดช้า
    ปัญหาทางเทคนิคอาจส่งผลต่อการซื้อ การติดตามตรวจสอบประสิทธิภาพของเว็บไซต์เป็นประจํา และจัดการกับข้อบกพร่องอย่างรวดเร็วเป็นกุญแจสําคัญในการสร้างประสบการณ์ที่ราบรื่นของลูกค้า

  • นโยบายการคืนสินค้าที่ไม่ชัดเจน
    นโยบายการคืนสินค้าหรือการคืนเงินที่ไม่ชัดเจนอาจทําให้ลูกค้าลังเล การสร้างนโยบายการคืนสินค้าที่ชัดเจนและน่าพึงพอใจ ซึ่งแสดงไว้อย่างโดดเด่นอาจสร้างความมั่นใจให้ผู้ที่ตั้งใจจะซื้อสินค้าได้

  • สินค้าหมด
    การค้นพบว่าสินค้าไม่พร้อมจำหน่ายในขั้นตอนสุดท้ายของการชําระเงิน อาจทําให้ลูกค้ารู้สึกไม่พอใจ การติดตามสต็อกสินค้าอย่างแม่นยำและการอัปเดตความพร้อมจำหน่ายของผลิตภัณฑ์อย่างทันท่วงทีสามารถลดการเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ได้

  • ช็อปปิ้งเพื่อเปรียบเทียบ
    ลูกค้าบางรายอาจเพิ่มสินค้าลงในรถเข็นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการค้นคว้าหรือการเปรียบเทียบสินค้าและอาจไม่มีจุดประสงค์ที่จะซื้อทันที การปรับกลยุทธ์การกําหนดเป้าหมาย ซึ่งรวมถึงการแจ้งเตือนทางอีเมลหรือข้อเสนอที่ปรับตามบุคคลจะช่วยกู้คืนกลุ่มเป้าหมายนี้ได้

  • สิ่งรบกวน
    ผู้ซื้อออนไลน์ต้องเผชิญกับสิ่งรบกวนมากมาย จากอุปกรณ์อื่นๆ ไปจนถึงความขัดข้องในการใช้งานจริง การใช้งานอีเมลแจ้งเตือนหรือการแจ้งเตือนแบบพุชในเชิงรุกอาจทําให้ลูกค้ากลับมาทําการซื้อให้เสร็จได้

วิธีลดการละทิ้งรถเข็น: กลยุทธ์ 11 ข้อที่ต้องรู้

การทําความเข้าใจเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการละทิ้งรถเข็นจะทําให้ธุรกิจมีโอกาสปรับปรุงประสบการณ์การช็อปปิ้งออนไลน์ และแก้ไขอุปสรรคที่ลูกค้าประสบได้โดยตรงในเส้นทางการซื้อ การจัดการกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นแต่ละอย่างอย่างเป็นระบบสามารถนำไปสู่อัตราการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชําระเงินที่สูงขึ้น และยอดขายที่เพิ่มขึ้น นี่คือกลยุทธ์ 11 ข้อที่ช่วยสร้างความแตกต่าง

1. ค่าบริการที่โปร่งใส

การกำหนดราคาที่โปร่งใสถือเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความไว้วางใจแก่ผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้า ความไม่พอใจทั่วไปประการหนึ่งที่ลูกค้าประสบคือการพบกับค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดในขั้นตอนสุดท้ายของการชำระเงิน ในการแก้ไขปัญหานี้ ธุรกิจควรพยายามแสดงค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดตั้งแต่เนิ่นๆ ในกระบวนการซื้อสินค้า ซึ่งไม่ได้รวมถึงแต่ราคาผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังรวมค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าขนส่ง ภาษี และค่าธรรมเนียมอื่นๆ อีกด้วย นอกจากนี้ การผสานรวมเครื่องมือต่างๆ เช่น เครื่องมือคำนวณค่าจัดส่งโดยตรงบนหน้าผลิตภัณฑ์หรือภายในรถเข็นสินค้า สามารถช่วยให้ความชัดเจนและป้องกันความประหลาดใจที่อาจเกิดขึ้นในภายหลังในกระบวนการสั่งซื้อได้

วิธีการที่นําไปปฏิบัติได้จริง:

  • แสดงค่าใช้จ่ายทั้งหมดในกระบวนการช็อปปิ้งตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อหลีกเลี่ยงความประหลาดใจในขั้นสุดท้าย
  • แจกแจงค่าใช้จ่ายสําหรับลูกค้า รายละเอียดราคาผลิตภัณฑ์ การจัดส่ง ภาษี และค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมต่างๆ
  • พิจารณาการใช้เครื่องมือคํานวณค่าจัดส่งบนหน้าผลิตภัณฑ์หรือในรถเข็น

2. การชําระเงินที่เรียบง่าย

ขั้นตอนการชำระเงินที่ซับซ้อนหรือยาวนานเกินไป อาจเป็นอุปสรรคสำหรับแม้แต่ผู้ซื้อที่มุ่งมั่นที่สุดก็ตาม ธุรกิจต่างๆ สามารถสร้างประสบการณ์ราบรื่นและเป็นมิตรต่อผู้ใช้มากยิ่งขึ้นได้ โดยการลดความซับซ้อนของขั้นตอนการชำระเงินและลดจำนวนขั้นตอนที่จำเป็น เทคนิคต่างๆ เช่น การเสนอตัวเลือกกรอกข้อมูลอัตโนมัติสามารถลดความยุ่งยากลงได้ โดยลดจำนวนขั้นตอนที่ผู้ซื้อจะต้องทำเพื่อซื้อสินค้า นอกจากนี้ การทดสอบ A/B อย่างสม่ำเสมอในกระบวนการชำระเงินต่างๆ จะช่วยให้ธุรกิจเข้าใจและสามารถนำกระบวนการที่มอบอัตราการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชำระเงินได้สูงสุดไปใช้งาน

วิธีการที่นําไปปฏิบัติได้จริง:

  • ลดจํานวนขั้นตอนในขั้นตอนการชําระเงิน
  • เสนอตัวเลือกการป้อนข้อมูลอัตโนมัติหากเป็นไปได้ เพื่อลดจํานวนข้อมูลที่ลูกค้าต้องป้อนด้วยตนเอง
  • เพื่อตรวจสอบว่ากระบวนการใดให้ผลลัพธ์ในการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชำระเงินสูงสุด ให้ทำการทดสอบ A/B แก่ขั้นตอนการชำระเงินเป็นประจำ

3. ตัวเลือกการชําระเงินที่ยืดหยุ่น

ตัวเลือกการชําระเงินที่ยืดหยุ่นเริ่มมีความสําคัญมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้ซื้อ ธุรกิจต่างๆ ควรพยายามยอมรับวิธีการชำระเงินที่หลากหลาย ตั้งแต่ตัวเลือกมาตรฐาน เช่น บัตรเครดิตและเดบิต ไปจนถึงทางเลือกที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เช่น กระเป๋าเงินดิจิทัล การนําเสนอแพ็กเกจการชําระเงินหรือตัวเลือกการจัดหาเงินทุนจะช่วยให้การซื้อมีประสิทธิภาพมากขึ้นและมีความเสี่ยงต่อลูกค้าน้อยลง จึงส่งผลให้การละทิ้งรถเข็นลดลงตามไปด้วย

วิธีการที่นําไปปฏิบัติได้จริง:

  • ยอมรับวิธีการชําระเงินที่หลากหลาย
  • เสนอแพ็กเกจการชําระเงินหรือตัวเลือกการจัดหาเงินทุนสําหรับสินค้าที่มีราคาสูงขึ้น

4. มาตรการด้านการสร้างความมั่น

สิ่งสําคัญคือต้องสร้างและรักษาความไว้วางใจตลอดเส้นทางของลูกค้า มาตรการสร้างความไว้วางใจ เช่น การแสดงตราสัญลักษณ์และใบรับรองความปลอดภัยอย่างโดดเด่น สามารถสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลและทางการเงินของพวกเขาจะปลอดภัย เพื่อสร้างความไว้วางใจให้มากยิ่งขึ้น ธุรกิจต่างๆ ควรผสานรวมรีวิว การให้คะแนน และคำรับรองจากลูกค้าสำหรับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและคุณภาพของข้อเสนอต่างๆ

วิธีการที่นําไปปฏิบัติได้จริง:

  • แสดงป้ายหรือการรับรองความปลอดภัยที่ชัดเจนเพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าข้อมูลของตนจะปลอดภัย
  • รวมรีวิวจากลูกค้า การให้คะแนน และคํารับรองสําหรับผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการตัดสินใจซื้อ

5. เว็บไซต์ที่เพิ่มประสิทธิภาพ

ความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทําให้เว็บไซต์ที่ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพกลายเป็นสิ่งจำเป็น เวลาในการโหลดที่ช้าหรือข้อผิดพลาดอาจทำให้ผู้ที่สนใจซื้อเปลี่ยนใจได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นธุรกิจต่างๆ จะต้องตรวจสอบและเพิ่มประสิทธิภาพอินเทอร์เฟซทั้งบนอุปกรณ์เคลื่อนที่และเดสก์ท็อปเป็นประจำ เนื่องจากลูกค้าจำนวนมากสลับใช้อุปกรณ์ต่างๆ ในขณะซื้อของ ธุรกิจต่างๆ จึงต้องมั่นใจว่ามีประสบการณ์ที่ตอบสนองและสอดคล้องกันในทุกแพลตฟอร์ม

วิธีการที่นําไปปฏิบัติได้จริง:

  • ตรวจสอบความเร็วของเว็บไซต์และเพิ่มประสิทธิภาพสําหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่และเดสก์ท็อปเป็นประจํา
  • ตรวจสอบว่าเว็บไซต์ตอบสนองกับอุปกรณ์ทุกเครื่อง พร้อมทั้งจําได้ว่าลูกค้าอาจเปลี่ยนจากอุปกรณ์หนึ่งไปยังอุปกรณ์อีกเครื่องในระหว่างประสบการณ์การซื้อสินค้า

6. นโยบายการคืนสินค้า การคืนเงิน และการยกเลิกที่ชัดเจน

นโยบายการคืนสินค้า การคืนเงิน และการยกเลิกที่ชัดเจนมีวัตถุประสงค์ 2 ประการ ได้แก่ การปลูกฝังความมั่นใจให้ผู้ที่มีโอกาสเป็นผู้ซื้อ และระบุขั้นตอนที่ลูกค้าควรดําเนินการหากไม่พอใจกับสิ่งที่ซื้อหรือบริการ การแสดงนโยบายเหล่านี้อย่างโดดเด่นโดยเฉพาะระหว่างการชําระเงิน จะช่วยธุรกิจบรรเทาข้อกังวลที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกเสียใจหลังการซื้อ กลยุทธ์ต่างๆ เช่น การเสนอฉลากการส่งคืนแบบชำระเงินล่วงหน้าหรือการส่งเสริมการส่งคืนฟรีสามารถปรับปรุงการดำเนินการซื้อสินค้าให้เสร็จสมบูรณ์ได้ดียิ่งขึ้น

สําหรับธุรกิจหรือมาร์เก็ตเพลสและแพลตฟอร์มแบบชำระเงินตามรอบบิล นั่นหมายถึงการสร้างวิธีง่ายๆ สําหรับลูกค้าเพื่อเปลี่ยนประเภทการสมัครใช้บริการที่ตนมี หรือระงับ หรือยกเลิกการชําระเงินตามรอบบิล แม้ว่าการลดอัตราการละทิ้งรถเข็นโดยทำให้ลูกค้าในปัจจุบันสามารถเลิกใช้บริการได้ง่ายขึ้นอาจดูขัดแย้งกับสัญชาตญาณ แต่การพยายามหยุดลูกค้าไม่ให้ยุติความสัมพันธ์กับแบรนด์ของคุณจะนำไปสู่การบอกต่อแบบปากต่อปากในเชิงลบและความเสียหายต่อแบรนด์โดยรวม และอาจจะไม่ได้หยุดพวกเขาจากการใช้บริการเสมอไป

วิธีการที่นําไปปฏิบัติได้จริง:

  • แสดงนโยบายอย่างโดดเด่น โดยใช้ลิงก์ด่วนระหว่างขั้นตอนการชําระเงิน
  • เสนอฉลากส่งคืนสินค้าแบบชำระเงินล่วงหน้าหรือการส่งคืนฟรีเป็นแรงจูงใจเพิ่มเติม
  • ช่วยให้ลูกค้าเปลี่ยนระดับการสมัครใช้บริการหรือยกเลิกได้ง่าย โดยใช้พอร์ทัลแบบสําเร็จรูป

7. การจัดการสินค้าคงคลัง

การจัดการสินค้าคงคลังที่มีประสิทธิภาพเป็นปัจจัยเบื้องหลังที่จะส่งผลต่ออัตราการละทิ้งรถเข็นเป็นอย่างมาก เป็นเรื่องหงุดหงิดใจสำหรับนักช็อปที่ต้องเสียเวลาไปกับการเลือกซื้อสินค้า แต่กลับต้องมาพบในนาทีสุดท้ายว่าสินค้าหมดสต็อก ระบบติดตามสินค้าคงคลังแบบเรียลไทม์สามารถลดปัญหาดังกล่าวได้ ยิ่งไปกว่านั้น การแจ้งเตือนเมื่อมีสินค้าในสต็อกอีกครั้งยังสามารถรักษาผู้ที่สนใจไว้ได้ โดยส่งสัญญาณให้พวกเขาทราบเมื่อสินค้าที่ต้องการกลับมาพร้อมจำหน่าย

วิธีการที่นําไปปฏิบัติได้จริง:

  • นำการติดตามสินค้าคงคลังแบบเรียลไทม์มาใช้เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ลูกค้าทราบว่าสินค้าที่ต้องการหมดสต็อกในขั้นตอนหลังๆ ของกระบวนการชำระเงินเท่านั้น
  • พิจารณาการเสนอการแจ้งเตือนเมื่อมีสินค้าในสต็อกอีกครั้งสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีจำหน่ายในปัจจุบัน

8. กลยุทธ์การกําหนดเป้าหมายใหม่

กลยุทธ์การกําหนดเป้าหมายใหม่เป็นวิธีดึงดูดผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าอีกครั้งซึ่งเคยละทิ้งรถเข็นของตน แคมเปญอีเมล โดยเฉพาะการกำหนดเป้าหมายผู้ที่ลืมสินค้าไว้ในรถเข็น อาจเป็นการช่วยเตือนที่มีประสิทธิผล นอกจากนี้ โฆษณาแบบไดนามิกบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่แสดงผลิตภัณฑ์และบริการที่ลูกค้าเพิ่มลงในรถเข็น ยังอาจกระตุ้นความสนใจและกระตุ้นการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชำระเงินอีกครั้งได้

วิธีการที่นําไปปฏิบัติได้จริง:

  • นำแคมเปญอีเมลไปใช้งานโดยกำหนดเป้าหมายไปที่ลูกค้าที่ได้ละทิ้งรถเข็นสินค้า โดยแจ้งเกี่ยวกับตัวเลือกของพวกเขา
  • ใช้โฆษณาแบบไดนามิกบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเพื่อแสดงผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้ามีในรถเข็น

9. ประสบการณ์ของผู้ใช้ที่ดึงดูด

ประสบการณ์ของผู้ใช้ที่ดึงดูดนั้นเป็นเรื่องที่มากกว่าแค่ความสวยงาม แม้ว่าภาพที่สะดุดตาและคำอธิบายผลิตภัณฑ์โดยละเอียดจะมีบทบาทสำคัญ แต่องค์ประกอบแบบอินเทอร์แอกทีฟ เช่น มุมมองผลิตภัณฑ์แบบ 360 องศา ก็สามารถสร้างการมีส่วนร่วมที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นได้ การเสนอบริการสนับสนุนแบบแชทสดในระหว่างเวลาทำการยังช่วยสร้างความแตกต่างได้ด้วยการมอบโซลูชันแบบเรียลไทม์ให้กับลูกค้า เพื่อตอบคำถามหรือข้อกังวลที่อาจนำไปสู่การละทิ้ง

วิธีการที่นําไปปฏิบัติได้จริง:

  • เสนอการสนับสนุนทางแชทสดระหว่างเวลาทําการเพื่อตอบข้อสงสัยหรือข้อกังวลใดๆ ที่เกิดขึ้นทันที
  • ใช้ภาพที่น่าสนใจ คำอธิบายผลิตภัณฑ์แบบละเอียด และองค์ประกอบแบบอินเทอร์แอกทีฟ เช่น มุมมองผลิตภัณฑ์แบบ 360 องศา เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า

10. การจัดการการช็อปปิ้งเพื่อเปรียบเทียบ

การช็อปปิ้งเพื่อเปรียบเทียบเป็นความท้าทายที่สังเกตได้ยาก เมื่อลูกค้ามีความรอบรู้มากขึ้น การสร้างความแตกต่างให้แบรนด์ของคุณจะกลายเป็นสิ่งที่สําคัญ สิ่งนี้ไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับการจัดแสดงข้อเสนอการขายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการดำเนินการที่เป็นรูปธรรม เช่น การให้การรับประกันการปรับราคาหรือโปรแกรมสะสมคะแนนเพื่อเป็นการตอบแทนลูกค้าที่กลับมาซื้อซ้ำ

วิธีการที่นําไปปฏิบัติได้จริง:

  • วางจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ให้โดดเด่น โดยเน้นที่สิ่งที่ทำให้ธุรกิจแตกต่างจากคู่แข่ง
  • เสนอการรับประกันการปรับราคาหรือโปรแกรมสะสมคะแนนสําหรับลูกค้าที่กลับมาซื้อซ้ํา

11. ลดสิ่งรบกวน

ขั้นตอนการชำระเงินที่มุ่งเน้นและคล่องตัว พร้อมลดสิ่งรบกวนให้น้อยที่สุดสามารถลดการละทิ้งได้ด้วยการจำกัดจุดที่อาจทำให้เกิดการออกจากหน้านั้นๆ แม้ว่ารหัสโปรโมชันจะเป็นวิธีที่ดึงดูด แต่ธุรกิจควรนําเสนอรหัสเหล่านั้นอย่างรอบคอบ ส่วนสำหรับการใส่รหัสที่โดดเด่นอาจทำให้ลูกค้าออกจากเว็บไซต์เพื่อค้นหาส่วนลด ทำให้เกิดความเสี่ยงที่พวกเขาจะไม่กลับมาซื้อสินค้าอีก

วิธีการที่นําไปปฏิบัติได้จริง:

  • ออกแบบขั้นตอนการชําระเงินให้ปราศจากความยุ่งยากให้มากที่สุด โดยลดจุดที่ทำให้เกิดการออกจากหน้านั้น
  • หากมีการเสนอรหัสส่งเสริมการขาย โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าจุดป้อนรหัสนั้นไม่เด่นชัดเกิดนไป เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกค้าออกจากเว็บไซต์เพื่อค้นหาส่วนลด

การนํากลยุทธ์เหล่านี้ไปใช้งานจะต้องมีการวิเคราะห์และการดําเนินการซ้ําอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจควรเก็บรวบรวมข้อมูลอย่างต่อเนื่อง เปิดรับความคิดเห็นจากลูกค้า และปรับเปลี่ยนตามรูปแบบพฤติกรรมที่พบเห็นและสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป การแก้ไขปัญหาการละทิ้งรถเข็นเป็นความพยายามอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยแนวทางที่ทุ่มเท ธุรกิจต่างๆ จะสามารถปรับปรุงอัตราการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชำระเงินได้อย่างมาก

Stripe จะช่วยได้อย่างไร

Stripe นำเสนอโซลูชันที่ตอบโจทย์สาเหตุหลักบางประการของการละทิ้งรถเข็นโดยตรง ซึ่งช่วยให้ประสบการณ์การชำระเงินราบรื่นยิ่งขึ้นสำหรับลูกค้า และอาจช่วยเพิ่มอัตราการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชำระเงินสำหรับธุรกิจต่างๆ ได้ ต่อไปนี้คือตัวอย่างวิธีการที่ Stripe จะช่วยให้ธุรกิจลดความเสี่ยงในการละทิ้งรถเข็น

  • จัดการกับค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด
    เหตุผลหลักที่ผู้คนละทิ้งรถเข็นอาจเป็นเพราะค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดที่เพิ่มขึ้นในระหว่างกระบวนการชําระเงิน Stripe อนุญาตให้ธุรกิจแสดงต้นทุนทั้งหมดได้อย่างชัดเจน รวมทั้งค่าจัดส่งและภาษีตั้งแต่เริ่มต้น ธุรกิจต่างๆ ยังสามารถรวมโปรโมชันหรือรหัสส่วนลดไว้ในอินเทอร์เฟซ Stripe Checkout ได้โดยตรง เพื่อให้ลูกค้าทราบได้ชัดเจนว่าตนกำลังจ่ายเงินเท่าไร จึงไม่ต้องพบกับความประหลาดใจที่อาจนำไปสู่การละทิ้งรถเข็น

  • ทําให้กระบวนการชําระเงินง่ายขึ้น
    ขั้นตอนการชําระเงินที่ยุ่งยากอาจทําให้ลูกค้าไม่สามารถทําการซื้อได้ Stripe Checkout ทําให้กระบวนการนี้ง่ายขึ้นด้วยการให้บริการอินเทอร์เฟซแบบหน้าเดียวที่เรียบง่ายและขอเฉพาะข้อมูลที่จําเป็น วิธีนี้จะช่วยลดจํานวนขั้นตอนสําหรับลูกค้า ทําให้มีแนวโน้มในการละทิ้งรถเข็นลดลง

  • การชําระเงินของผู้ใช้ที่ไม่ได้เข้าสู่ระบบบัญชีและการสร้างบัญชี
    สําหรับลูกค้าที่ไม่ต้องการสร้างบัญชี Stripe มีตัวเลือกสําหรับการชําระเงินแบบไม่เข้าสู่ระบบ ฟีเจอร์นี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสําหรับลูกค้าที่ต้องการซื้อสินค้าเพียงครั้งเดียว สำหรับผู้ที่เลือกสร้างบัญชี Stripe เสนอความสามารถในการบันทึกรายละเอียดของพวกเขาเพื่อการซื้อในอนาคตที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ซื้ออำนวยความสะดวกมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

  • มาตรการรักษาความปลอดภัย
    ความเชื่อมั่นมีบทบาทสําคัญในธุรกรรมออนไลน์ Stripe มีโปรโตคอลการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงการปฏิบัติตามข้อกําหนดของ PCI และการเข้ารหัส ธุรกิจต่างๆ ยังสามารถแสดงตราสัญลักษณ์ด้านความปลอดภัยอันโด่งดังของ Stripe ในระหว่างการชำระเงิน เพื่อบรรเทาความกังวลของลูกค้าเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูล ซึ่งจะช่วยลดโอกาสที่ลูกค้าจะละทิ้งตะกร้าสินค้าเนื่องจากปัญหาความปลอดภัย

  • ประสิทธิภาพของเว็บไซต์
    แม้ว่า Stripe จะไม่สามารถควบคุมความเร็วหรืออัตราข้อผิดพลาดของเว็บไซต์ได้โดยตรง แต่ Stripe API ได้รับการออกแบบมาเพื่อการโหลดที่รวดเร็วและความล่าช้าต่ํา นอกจากนี้ ยังมีการติดตามตรวจสอบประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยลดการหยุดชะงักระหว่างขั้นตอนการชําระเงิน ที่อาจส่งผลไม่ให้ลูกค้าทําการซื้อจนเสร็จสมบูรณ์ได้

  • นโยบายการคืนสินค้าที่โปร่งใส
    แม้ว่า Stripe จะไม่จัดการกับนโยบายการคืนสินค้าสำหรับธุรกิจต่างๆ แต่อินเทอร์เฟซการชำระเงินแบบปรับแต่งได้นั้นมอบตัวเลือกในการรวมลิงก์ไปยังนโยบายการคืนสินค้าไว้ในส่วนการชำระเงิน วิธีนี้ทำให้ลูกค้าสามารถดูนโยบายการคืนสินค้าได้อย่างง่ายดายก่อนจะซื้อสินค้า ซึ่งอาจช่วยแก้ไขข้อกังวลต่างๆ ที่อาจนำไปสู่การละทิ้งรถเข็นได้

  • การอัปเดตสินค้าคงคลัง
    Stripe สามารถผสานรวมเข้ากับระบบการจัดการสินค้าคงคลังเพื่อสะท้อนความพร้อมจำหน่ายของผลิตภัณฑ์แบบเรียลไทม์ วิธีนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าจะไม่ต้องไปถึงขั้นตอนการชำระเงินครั้งสุดท้ายเพื่อพบว่าสินค้าบางชิ้นไม่มีจำหน่ายอีกต่อไป

  • การกําหนดเป้าหมายใหม่และการแจ้งเตือน
    Stripe สามารถทํางานร่วมกับโซลูชันการตลาดอื่นๆ เพื่ออํานวยความสะดวกด้านกลยุทธ์การกําหนดเป้าหมายใหม่ เช่น อีเมลเตือนหรือข้อเสนอส่วนบุคคล ซึ่งอาจมีประสิทธิภาพเป็นพิเศษสําหรับลูกค้าที่ใช้รถเข็นเพื่อการค้นคว้าหรือเปรียบเทียบข้อมูล

  • ลดสิ่งรบกวน
    แม้จะไม่มีสิ่งใดที่ช่วยขจัดปัญหาสิ่งรบกวนได้ แต่ฟีเจอร์การชําระเงินที่รวดเร็วของ Stripe จะช่วยให้ลูกค้าที่กลับมาใช้บริการสามารถข้ามขั้นตอนการชําระเงินส่วนใหญ่ จึงซื้อสินค้าหรือบริการได้ง่ายยิ่งขึ้น แม้ว่าจะเจอสิ่งรบกวนบางส่วน

ชุดฟีเจอร์ที่ครอบคลุมของ Stripe จะช่วยแก้ไขปัญหาพื้นฐานหลายประการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการละทิ้งรถเข็น การนําโซลูชันการชําระเงินของ Stripe ไปใช้งานหมายความว่าธุรกิจจะสามารถสร้างประสบการณ์การชําระเงินที่ราบรื่นและดึงดูด จึงกระตุ้นให้เกิดการซื้อที่เสร็จสมบูรณ์มากขึ้น

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้างการชําระเงินที่เพิ่มประสิทธิภาพและวิธีที่ Stripe ช่วยให้ธุรกิจต่อสู้กับการละทิ้งรถเข็น โปรดดูที่นี่

เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Checkout

Checkout

ผสานรวม Checkout เข้ากับเว็บไซต์โดยตรงหรือนำลูกค้าไปยังหน้าเว็บที่จัดการโดย Stripe เพื่อให้รับการชำระเงินแบบครั้งเดียวหรือการชำระเงินตามรอบบิลได้อย่างปลอดภัยและง่ายดาย

Stripe Docs เกี่ยวกับ Checkout

สร้างแบบฟอร์มการชำระเงินที่เขียนโค้ดเพียงเล็กน้อยและผสานรวมกับเว็บไซต์ของคุณหรือโฮสต์ไว้ในระบบของ Stripe