หลายทศวรรษที่ผ่านมา วิธีการชำระเงินท้องถิ่นของแต่ละประเทศในยุโรปใช้งานได้ดีในประเทศของตน แต่ติดขัดเมื่อใช้กับที่อื่น Wero เป็นกระเป๋าเงินดิจิทัลที่มุ่งแก้ไขปัญหานั้น Wero ใช้เครือข่ายธนาคารของยุโรปเพื่อสร้างวิธีการชำระเงินที่รวดเร็ว ทำงานร่วมกันได้ และเป็นของยุโรป
ด้านล่างนี้ เราจะอธิบายวิธีการทำงานของ Wero พื้นที่ที่มีให้บริการ และเหตุผลว่าทำไมการเปิดตัวของ Wero จึงอาจเป็นการกำหนดนิยามใหม่ของการเคลื่อนย้ายเงินภายในสหภาพยุโรป
เนื้อหาหลักในบทความ
- Wero คืออะไร และทำงานอย่างไร
- เหตุใด Wero จึงมีความสำคัญต่อตลาดการชำระเงินของยุโรป
- ใครสามารถใช้ Wero ได้บ้าง และมีให้บริการที่ไหนบ้าง
- Wero แตกต่างจากการชำระเงินด้วยบัตรอย่างไร
- Wero มีประโยชน์ต่อธุรกิจและลูกค้าอย่างไรบ้าง
- Wero จะส่งผลต่ออย่างไรต่อการชำระเงินข้ามพรมแดนในสหภาพยุโรป
- สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปสำหรับการเปิดให้บริการ Wero และฟีเจอร์ในอนาคต
- Stripe Payments ช่วยอะไรได้บ้าง
Wero คืออะไร และทำงานอย่างไร
Wero คือกระเป๋าเงินดิจิทัลและระบบการชำระเงินที่ครอบคลุมทั่วยุโรปที่เปิดตัวในปี 2024 โดย European Payments Initiative (EPI) ซึ่งเป็นสมาคมที่ประกอบด้วยธนาคารและผู้ให้บริการชำระเงินรายใหญ่หลายแห่ง Wero ได้รับการออกแบบมาเพื่อแทนที่ระบบการชำระเงินท้องถิ่นที่กระจัดกระจาย ด้วยเครือข่ายเดียวที่รองรับการชำระเงินแบบบัญชีต่อบัญชีทันทีทั่วยุโรป
เมื่อคุณสมัครใช้งาน Wero ระบบจะเชื่อมต่อกับบัญชีธนาคารและตรวจสอบสิทธิ์ผ่านธนาคารของคุณ Wero จะโอนเงินโดยตรงระหว่างบัญชีธนาคารภายในไม่กี่วินาที คำขอชำระเงินแต่ละรายการจะถูกส่งไปยังธนาคารของคุณอย่างปลอดภัยเพื่อขออนุมัติแบบเรียลไทม์ ซึ่งมักจะใช้การยืนยันด้วยไบโอเมตริกหรือแอป และดำเนินการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง Wero มีอินเทอร์เฟซมือถือที่สามารถใช้งานข้ามประเทศและธนาคาร ทำให้การส่งการชำระเงินเป็นเรื่องง่ายเหมือนการส่งข้อความ แต่ยังคงความปลอดภัยในระดับโครงสร้างพื้นฐานของธนาคาร
Wero ช่วยให้คุณสามารถดำเนินการต่อไปนี้
โอนเงินระหว่างบุคคล: ส่งเงินให้ผู้อื่นภายในไม่กี่วินาที เพียงใช้หมายเลขโทรศัพท์หรือสแกนรหัส QR
ชำระเงินออนไลน์: เลือก Wero เมื่อชำระเงิน และยืนยันในแอป Wero หรือแอปธนาคารของคุณ
ส่งคำขอให้ชำระเงิน: ขอรับชำระเงินจากผู้อื่น และได้รับเงินทันทีเมื่ออีกฝ่ายอนุมัติ
เหตุใด Wero จึงมีความสำคัญต่อตลาดการชำระเงินของยุโรป
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แต่ละประเทศในยุโรปได้กำหนดวิธีการชำระเงินที่ตนนิยมใช้ขึ้นมา เช่น เนเธอร์แลนด์นิยมใช้ iDEAL สำหรับการชำระเงินออนไลน์ เยอรมนีนิยมใช้บัตรเดบิตในประเทศ เบลเยียมนิยมใช้ Bancontact และ Payconiq
ความแตกต่างเหล่านี้ส่งผลให้เกิดต้นทุนที่แท้จริง ธุรกิจที่ขายสินค้าข้ามพรมแดนมักต้องผสานรวมวิธีการชำระเงินหลายวิธีเพื่อไม่ให้สูญเสียยอดขาย ขณะเดียวกัน ธุรกิจและลูกค้าก็ต้องพึ่งพาเครือข่ายบัตรระดับโลกและกระเป๋าเงินดิจิทัลมากขึ้น เมื่อวิธีการชำระเงินในท้องถิ่นไม่สามารถใช้ชำระเงินระหว่างประเทศได้
แม้ว่าวิธีการชำระเงินทั่วโลกที่ไม่ใช่ของยุโรปจะใช้งานได้ดี แต่ทุกธุรกรรมจะต้องผ่านโครงสร้างพื้นฐานภายนอก ซึ่งหมายความว่าค่าธรรมเนียมและข้อมูลจะไหลออกนอกภูมิภาค และเนื่องจากวิธีการเหล่านี้ไม่ใช่ของยุโรปหรือได้รับการกำกับดูแลในยุโรป จึงเป็นการจำกัดความสามารถของยุโรปในการกำหนดทิศทางนวัตกรรมด้านการชำระเงินของตนเอง
Wero เข้ามาแก้ปัญหานี้ เนื่องจาก Wero ถูกสร้างและดำเนินการโดยธนาคารและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในยุโรป การตัดสินใจทั้งหมดจึงเกิดขึ้นภายในภูมิภาค นวัตกรรมสามารถกำหนดให้สอดคล้องกับลำดับความสำคัญด้านข้อบังคับ มาตรฐานความเป็นส่วนตัว และความต้องการของตลาดในยุโรปได้โดยตรง อีกทั้งเครือข่ายนี้ไม่ต้องพึ่งพากลยุทธ์ขององค์กรภายนอกหรือข้อบังคับของต่างประเทศ
ด้วยการเสนอวิธีการชำระเงินเดียวที่ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารในตลาดต่างๆ Wero จึงเข้ามาแทนที่ระบบภายในประเทศที่มีอยู่หลายรูปแบบ ธุรกิจสามารถผสานการทำงานเพียงครั้งเดียวและเข้าถึงลูกค้าในหลายประเทศโดยไม่ต้องเชื่อมโยงโซลูชันในท้องถิ่นเข้าด้วยกัน ธุรกิจขนาดเล็กสามารถขายสินค้าไปยังประเทศอื่นๆ ในสหภาพยุโรปได้โดยไม่ต้องนำวิธีการชำระเงินที่ไม่คุ้นเคยมาใช้ และลูกค้าสามารถซื้อสินค้าข้ามพรมแดนได้โดยไม่ต้องกังวลว่าตัวเลือกการชำระเงินในท้องถิ่นของตนจะใช้ได้หรือไม่
Wero ตัดตัวกลางของเครือข่ายบัตรออก ลดต้นทุนการทำธุรกรรม และปลดล็อกการลงทุนของยุโรปเพื่อปรับปรุงเครือข่ายรวมที่เป็นหนึ่งเดียว แทนที่จะต้องดูแลหลายระบบคู่ขนาน ผู้สร้าง Wero หวังว่าบริการนี้จะกลายเป็นมาตรฐานกลางที่ช่วยเสริมสร้างบูรณาการทางเศรษฐกิจของยุโรป และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับโลก
ใครสามารถใช้ Wero ได้บ้าง และมีให้บริการที่ไหนบ้าง
จากข้อมูลถึงกลางปี 2025 Wero เปิดให้บริการสำหรับการชำระเงินระหว่างบุคคล (P2P) ในประเทศต่อไปนี้
เบลเยียม: ธนาคารที่อยู่ในเครือข่าย Wero เช่น KBC, Belfius, BNP Paribas Fortis และ ING Belgium
ฝรั่งเศส: ธนาคารเพื่อรายย่อยรายใหญ่ ได้แก่ BNP Paribas, Crédit Agricole, Crédit Mutuel และ Monabanq รองรับ Wero
เยอรมนี ธนาคารในเครือข่าย Wero ได้แก่ กลุ่มธนาคารออมทรัพย์ (Sparkassen) ธนาคารสหกรณ์ (Volksbanken und Raiffeisenbanken) รวมถึง Postbank และธนาคารอื่นๆ
หากคุณเป็นลูกค้าของธนาคารเหล่านี้ คุณสามารถใช้ Wero ได้ทันที หรือจะได้รับแจ้งให้เปิดใช้งานในเร็วๆ นี้ เราคาดว่า Wero จะเปิดให้บริการในเนเธอร์แลนด์และลักเซมเบิร์กในระยะถัดไป เป้าหมายระยะยาวคือการขยายให้ครอบคลุมทั่วยุโรป
คุณสามารถเข้าใช้งาน Wero ได้โดยดาวน์โหลดแอป Wero หรือค้นหา Wero ในแอปธนาคารของคุณ ซึ่งอาจปรากฏตัวเลือก "Send money with Wero" (ส่งเงินด้วย Wero) หรือตัวเลือกอื่นที่คล้ายกัน ทั้งสองเส้นทางเชื่อมต่อกับเครือข่ายเดียวกัน ดังนั้นลูกค้าชาวฝรั่งเศสที่ใช้แอปของธนาคารสามารถส่งเงินให้เพื่อนชาวเยอรมันที่ใช้แอป Wero โดยตรงได้ โดยไม่ต้องตั้งค่าเพิ่มเติมและไม่มีปัญหาเรื่องความเข้ากันได้
ในส่วนของธุรกิจ การใช้งานกำลังขยายตัวไปพร้อมกัน ธุรกิจออนไลน์ในเยอรมนีจะสามารถเพิ่ม Wero ผ่านผู้ประมวลผลการชำระเงินได้ก่อน จากนั้นเบลเยียมและฝรั่งเศสจะเป็นกลุ่มถัดไปที่รองรับการเปิดให้ใช้งานสำหรับอีคอมเมิร์ซ และในระยะต่อไปจะมีการเปิดให้ใช้งานสำหรับการชำระเงินในร้านค้า
หากคุณเป็นลูกค้า ความพร้อมให้บริการของ Wero จะขึ้นอยู่กับว่าธนาคารของคุณเข้าร่วมเครือข่ายแล้วหรือไม่ หากคุณเป็นธุรกิจ ความพร้อมจะขึ้นอยู่กับว่าผู้ให้บริการชำระเงินของคุณรองรับ Wero หรือไม่ ทั้งนี้ การขยายตัวกำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในทั้งสองกรณี
Wero แตกต่างจากการชำระเงินด้วยบัตรอย่างไร
Wero ทำงานในรูปแบบที่แตกต่างจากการชำระเงินด้วยบัตรแบบเดิม
ความเร็วและการชำระเงิน
การโอนเงินผ่าน Wero จะเกิดขึ้นทันทีและเสร็จสมบูรณ์ในตัว โดยผู้รับจะได้รับเงินเข้าบัญชีภายในไม่กี่วินาทีตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์
การชำระเงินด้วยบัตรมักใช้เวลาดำเนินการ 1-3 วัน
ตัวกลาง
การชำระเงินผ่าน Wero จะเคลื่อนย้ายเงินระหว่างบัญชีธนาคารโดยตรง
การชำระเงินด้วยบัตรจะผ่านตัวกลางหลายราย ได้แก่ ธนาคารที่รับการชำระเงิน เครือข่ายบัตร และธนาคารผู้ออกบัตร
โครงสร้างค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย
Wero มีค่าใช้จ่ายถูกกว่ากันมากสำหรับธุรกิจในการรับชำระ และโดยทั่วไปลูกค้าจะไม่เสียค่าธรรมเนียม อีกทั้งไม่มีค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินสำหรับธุรกรรมในสกุลเงินยูโร
การชำระเงินด้วยบัตรมีค่าธรรมเนียมธุรกรรมผ่านบัตรระหว่างธนาคารและค่าธรรมเนียมเครือข่ายบัตร
การป้องกันการฉ้อโกงและการรักษาความปลอดภัย
การชำระเงินผ่าน Wero จะได้รับการตรวจสอบสิทธิ์จากธนาคารทุกครั้ง คุณจะต้องอนุมัติการโอนเงินแต่ละครั้งผ่านแอปที่ปลอดภัยของธนาคารหรืออินเทอร์เฟซของ Wero ซึ่งมักใช้การยืนยันตัวตนด้วยข้อมูลไบโอเมตริก
บัตรเครดิตมีความเสี่ยงที่ผู้ฉ้อโกงจะคัดลอกหมายเลขบัตร วันหมดอายุ หรือค่าการยืนยันบัตร (CVV) สำหรับการซื้อออนไลน์
การเข้าถึงเงินทุน
การชำระเงินด้วย Wero จะหักเงินจากยอดเงินที่ใช้ได้โดยตรง คล้ายกับบัตรเดบิตหรือเงินสด
บัตรเครดิตเป็นตัวเลือกที่มีประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการวงเงินเครดิตหรือสิทธิประโยชน์จากบัตรเครดิต
Wero มีประโยชน์ต่อธุรกิจและลูกค้าอย่างไรบ้าง
คุณค่าของ Wero มาจากการผสมผสานระหว่างความรวดเร็ว การเข้าถึง ความคุ้มค่า และความปลอดภัย สิ่งที่ Wero มอบให้กับธุรกิจและลูกค้ามีดังนี้
ประโยชน์ต่อลูกค้า
กระเป๋าเงินเดียวสำหรับกรณีการใช้งานที่หลากหลาย: ผู้คนมักต้องใช้เครื่องมือการชำระเงินสลับไปมา เช่น ต้องใช้แอปหนึ่งสำหรับแยกบิล ใช้อีกแอปสำหรับการชำระเงินออนไลน์ และอีกแอปสำหรับธุรกรรมในร้านค้า Wero รวมเครื่องมือเหล่านี้ไว้ในระบบเดียว
การชำระเงินทันที: การชำระเงินจะสำเร็จทันที โดยไม่มีสถานะรอดำเนินการหรือต้องรอประมวลผลรอบสิ้นวัน การโอนเงินระหว่างบุคคล (P2P) จะเข้าบัญชีในทันที และธุรกิจจะเห็นการชำระเงินของลูกค้าแบบเรียลไทม์
การมอบเห็นและควบคุมการใช้จ่าย: Wero เชื่อมต่อกับบัญชีธนาคารของคุณ คุณจึงเห็นยอดคงเหลือที่อัปเดตที่อัปเดตแบบเรียลไทม์ขณะใช้จ่าย ประวัติการทำธุรกรรมช่วยให้ติดตามเส้นทางเงินของคุณได้ง่ายขึ้นด้วย
ความปลอดภัยที่มากขึ้น: การชำระเงินแต่ละครั้งจะได้รับอนุมัติผ่านธนาคารของคุณ ซึ่งโดยปกติจะใช้การยืนยันด้วยข้อมูลไบโอเมตริกหรือแอปที่ปลอดภัย Wero สร้างระบบคุ้มครองลูกค้าและกลไกการโต้แย้งการชำระเงินในตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่การโอนเงินผ่านธนาคารแบบเดิมไม่มี
ประโยชน์ต่อธุรกิจ
การเข้าถึงข้ามพรมแดน: การผสานการทำงานเพียงครั้งเดียวช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงลูกค้า Wero ในหลายประเทศในยุโรปได้ เช่น ธุรกิจในเบลเยียมสามารถขายสินค้าให้กับลูกค้าในเยอรมนีโดยใช้ Wero โดยไม่ต้องเพิ่มวิธีการชำระเงินท้องถิ่นแยกสำหรับแต่ละตลาด
ต้นทุนการรับชำระที่ต่ำกว่า: แม้ราคาที่ผู้ให้บริการชำระเงิน (PSP) เรียกเก็บอาจแตกต่างกันไป แต่ Wero ไม่คิดค่าธรรมเนียมธุรกรรมผ่านบัตรระหว่างธนาคารหรือค่าธรรมเนียมเครือข่ายบัตร
การป้องกันการฉ้อโกงที่มีประสิทธิภาพกว่าและมีการดึงเงินคืนน้อยครั้ง: เนื่องจากการชำระเงินต้องได้รับการตรวจสอบสิทธิ์จากธนาคารของลูกค้า การทำธุรกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาตจึงเกิดขึ้นได้น้อย กระบวนการโต้แย้งการชำระเงินได้รับการออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาโดยไม่ทำให้ธุรกิจต้องเผชิญกับการดึงเงินคืนในอัตราที่สูง
สภาพคล่องที่รวดเร็ว: เงินจะถูกชำระทันทีแม้จะอยู่นอกเวลาทำการของธนาคาร ซึ่งจะช่วยปรับปรุงกระแสเงินสดและลดการพึ่งพากันชนเงินทุนหมุนเวียน โดยเฉพาะสำหรับธุรกิจที่มีรอบการชำระเงินสั้น
ความสอดคล้องในหลายช่องทาง: เมื่อเปิดให้รองรับการชำระเงินในร้านค้า ธุรกิจสามารถเสนอวิธีการชำระเงินแบบเดียวกันทั้งทางออนไลน์ ในแอป และที่จุดขายในร้าน ความสอดคล้องนี้ช่วยลดความยุ่งยากในการกระทบยอด การรายงาน และการสื่อสารกับลูกค้า
Wero จะส่งผลต่ออย่างไรต่อการชำระเงินข้ามพรมแดนในสหภาพยุโรป
การซื้อสินค้าจากประเทศอื่นในสหภาพยุโรปมักหมายถึงการใช้บัตรเครดิต หรือต้องจัดการกับระบบของท้องถิ่นที่ไม่คุ้นเคย ตัวอย่างเช่น นักช้อปชาวอิตาลีที่ช้อปบนเว็บไซต์ของเนเธอร์แลนด์อาจพบว่า iDEAL เป็นตัวเลือกการชำระเงินเพียงตัวเลือกเดียวที่มี หรือหากใช้บัตรเครดิตก็อาจต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ซึ่ง Wero ช่วยขจัดอุปสรรคเหล่านี้ได้
หากลูกค้าและธุรกิจอยู่ในเครือข่ายเดียวกัน กระบวนการนี้จะอนุญาตให้มีการโอนเงินทันทีภายในแอปโดยไม่ต้องตั้งค่าเพิ่มเติม เช่นเดียวกับการโอนเงินแบบ P2P เนื่องจาก Wero ถูกสร้างมาเพื่อการชำระเงินในสกุลเงินยูโร จึงช่วยขจัดขั้นตอนการแปลงสกุลเงินและค่าธรรมเนียมจากการใช้บัตรข้ามพรมแดน ธุรกิจสามารถกำหนดราคาสำหรับลูกค้าทั่วยุโรปได้โดยไม่ต้องบวกเพิ่มเพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายจากการชำระเงิน อีกทั้งการโอนเงินสำหรับอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนหรือการโอนเงินแบบ P2P ก็อาจมีค่าใช้จ่ายต่ำพอๆ กับการโอนเงินในประเทศ
Wero ยังสร้างภาษากลางในการชำระเงินสำหรับประเทศที่เข้าร่วม ซึ่งช่วยขจัดอุปสรรคทางวัฒนธรรม มาตรฐานเดียวกันนี้ช่วยให้ลูกค้าเต็มใจที่จะซื้อสินค้าจากต่างประเทศมากขึ้น และช่วยให้ธุรกิจมั่นใจที่จะให้บริการข้ามพรมแดนมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องตรวจสอบว่าบัตรสามารถใช้ได้ในประเทศนั้นๆ หรือไม่ ไม่มีความเสี่ยงเรื่องค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมต่างประเทศสำหรับการชำระเงินสกุลยูโร และไม่มีข้อกำหนดให้ตั้งค่าใดๆ เพิ่มเติมนอกเหนือจากโทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต และบัญชีธนาคาร สำหรับนักเดินทางในสหภาพยุโรป Wero ทำให้การจ่ายเงินในต่างประเทศง่ายเหมือนชำระเงินในประเทศของตน
สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปสำหรับการเปิดให้บริการ Wero และฟีเจอร์ในอนาคต
Wero มีแผนงานที่ทะเยอทะยาน โดยเปิดให้บริการสำหรับการชำระเงินแบบ P2P ในเบลเยียม ฝรั่งเศส และเยอรมนีแล้ว ส่วนเนเธอร์แลนด์และลักเซมเบิร์กคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2026 การชำระเงินสำหรับอีคอมเมิร์ซในบางประเทศจะเริ่มให้บริการในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 ผ่านการผสานการทำงานกับ PSP และมีแผนว่าจะเปิดให้บริการชำระเงินในร้านค้าตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป เมื่อเปิดให้บริการแล้ว Wero จะครอบคลุมการชำระเงินทุกรูปแบบ (P2P ออนไลน์ และที่จุดขาย) ผ่านวิธีการชำระเงินเดียว
ฟังก์ชันเพิ่มเติมที่มีแผนจะเปิดให้บริการ ได้แก่
การจัดการการชำระเงินตามรอบบิล: ดู หยุดชั่วคราว หรือยกเลิกการชำระเงินตามแบบแผนล่วงหน้าได้ในที่เดียว
การผสานการทำงานระบบสะสมคะแนน: เชื่อมโยงบัตรสะสมคะแนนดิจิทัลโดยอัตโนมัติ ใช้รางวัลสะสม หรือเปิดใช้งานข้อเสนอเมื่อคุณชำระเงิน
หากธนาคารกลางยุโรปเปิดตัวเงินยูโรดิจิทัล Wero ก็พร้อมที่จะรองรับได้โดยตรง ผู้ใช้จะสามารถถือและใช้จ่ายเงินยูโรดิจิทัลควบคู่กับเงินในบัญชีธนาคารในแอปเดียวกัน ซึ่งจะทำให้ Wero กลายเป็นช่องทางหลักในการกระจายเงินสกุลดิจิทัลของธนาคารกลางยุโรป
การเติบโตจะขึ้นอยู่กับการยอมรับของลูกค้าและการสนับสนุนจากอุตสาหกรรม ยิ่งมีธนาคารเข้าร่วมมากเท่าใด การเข้าถึงเครือข่ายก็จะขยายตัวมากขึ้นเท่านั้น และทุกครั้งที่มี PSP รายใหม่ผสานการทำงานกับ Wero ธุรกิจก็จะเปิดใช้งานได้ง่ายขึ้น ผู้ใช้กลุ่มแรกจะได้รับประโยชน์จากฟีเจอร์ใหม่และความคุ้นเคยของลูกค้าในขณะที่ Wero เติบโตขึ้น เป้าหมายของ Wero คือการเป็นมาตรฐานการชำระเงินหลักของยุโรป
Stripe Payments ช่วยอะไรได้บ้าง
Stripe Payments มอบโซลูชันการชำระเงินระดับโลกแบบครบวงจรที่ช่วยให้ธุรกิจทุกขนาด ตั้งแต่สตาร์ทอัพที่กำลังเติบโตไปจนถึงองค์กรระดับโลกรับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกได้
Stripe Payments สามารถช่วยคุณทำสิ่งต่อไปนี้
- เพิ่มประสิทธิภาพให้ประสบการณ์การชำระเงินของคุณ: สร้างประสบการณ์ที่ราบรื่นให้กับลูกค้าและประหยัดเวลาในการทำงานวิศวกรรมได้หลายพันชั่วโมงด้วยอินเตอร์เฟซผู้ใช้ (UI) การชำระเงินที่สร้างไว้ให้แล้ว, สิทธิ์เข้าถึงวิธีการชำระเงินมากกว่า 125 วิธี และ Link ซึ่งเป็นกระเป๋าเงินที่สร้างโดย Stripe
- ขยายไปสู่ตลาดใหม่ๆ ได้เร็วขึ้น: เข้าถึงลูกค้าทั่วโลกรวมทั้งลดความซับซ้อนและค่าใช้จ่ายในการจัดการหลายสกุลเงินด้วยตัวเลือกการชำระเงินข้ามพรมแดนที่มีให้บริการใน 195 ประเทศและกว่า 135 สกุลเงิน
- รวมการชำระเงินที่จุดขายและทางออนไลน์ไว้ด้วยกัน: สร้างประสบการณ์การค้าแบบแพลตฟอร์มรวมในช่องทางออนไลน์และที่จุดขายเพื่อปรับแต่งการโต้ตอบ ตอบแทนความภักดี และเพิ่มรายได้
- ปรับปรุงประสิทธิภาพการชำระเงิน: เพิ่มรายรับด้วยเครื่องมือการชำระเงินที่กำหนดเองได้และปรับแต่งได้ง่ายๆ ซึ่งรวมถึงระบบป้องกันการฉ้อโกงแบบไม่ต้องเขียนโค้ดและความสามารถขั้นสูงเพื่อเพิ่มอัตราการอนุมัติ
- เดินหน้าได้เร็วขึ้นด้วยแพลตฟอร์มที่ยืดหยุ่นและเชื่อถือได้เพื่อการเติบโต: สร้างบนแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อขยับขยายไปพร้อมกับคุณ โดยมีระยะเวลาให้บริการ 99.999% โดยแทบจะไม่หยุดทำงานเลย และมีความน่าเชื่อถือระดับแนวหน้าของวงการ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมว่า Stripe Payments ช่วยให้คุณสามารถรับการชำระเงินออนไลน์และการชำระเงินที่จุดขายได้อย่างไร หรือเริ่มใช้งานเลยวันนี้
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ