Bancontact: คู่มือเชิงลึก

Payments
Payments

รับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกด้วยโซลูชันการชำระเงินที่สร้างมาสำหรับธุรกิจทุกขนาด ตั้งแต่ธุรกิจสตาร์ทอัพไปจนถึงองค์กรใหญ่ระดับโลก

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. มีการใช้งาน Bancontact ในพื้นที่ใดบ้าง
    1. ประเทศเบลเยียม
    2. ยุโรป
    3. แนวโน้มตลาด
    4. บริบททางกฎหมาย
    5. มองอนาคต
    6. ประเด็นสำคัญ
  3. ใครบ้างที่ใช้ Bancontact
    1. ประเภทธุรกิจที่ใช้ Bancontact
    2. กลุ่มลูกค้าที่ต้องการใช้ Bancontact
    3. กรณีการใช้งานทั่วไปสําหรับ Bancontact
  4. วิธีการทํางานของ Bancontact
    1. จากมุมมองของลูกค้า
    2. จากมุมมองของธุรกิจ
    3. ประเด็นสำคัญ
  5. ประโยชน์ของการยอมรับ Bancontact
    1. ยอดขายและรายรับเพิ่มขึ้น
    2. ความพึงพอใจและความภักดีของลูกค้าเพิ่มขึ้น
    3. ประสิทธิภาพในการดําเนินงานและการประหยัดต้นทุน
  6. มาตรการรักษาความปลอดภัยของ Bancontact
  7. ข้อกําหนดสําหรับธุรกิจเพื่อเริ่มรับชําระเงินผ่าน Bancontact
    1. สําหรับธุรกิจที่ตั้งอยู่ในเบลเยียม
    2. สําหรับธุรกิจในต่างประเทศ
    3. ข้อควรพิจารณาสําหรับธุรกิจที่ใช้ Stripe
  8. ตัวเลือกอื่นๆ นอกเหนือจาก Bancontact
    1. ประเทศเบลเยียม
    2. เนเธอร์แลนด์
    3. ลักเซมเบิร์ก
    4. การขยายตลาด

Bancontact เป็นธุรกิจในเบลเยียมที่มีชื่อเสียงในเรื่องบริการประมวลผลการชําระเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และเป็นวิธีการชําระเงินหลักแบบใช้บัตรในเบลเยียม ซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่ออํานวยความสะดวกให้ธุรกรรมทางการเงินดำเนินไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย

ธุรกิจก่อตั้งในปี 1989 ภายใต้ชื่อ Bancontact/Mister Cash ก่อนจะกลายเป็นบริการบัตรเดบิตยอดนิยมในเบลเยียม โดยนําเสนอวิธีการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่น่าเชื่อถือและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง Bancontact ควบรวมกิจการกับบริการชําระเงิน Payconiq Belgium ในปี 2018 และก่อตั้ง Bancontact Payconiq Company โดยรวบรวมแอปพลิเคชันการชําระเงินของตนไว้ในผลิตภัณฑ์เดียวเรียกว่า Payconiq by Bancontact ซึ่งเป็นแอปที่ช่วยให้ผู้ใช้ชําระเงินผ่านสมาร์ทโฟนได้โดยใช้รหัส QR เพื่อประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น

Bancontact ดำเนินธุรกิจอย่างแข็งแกร่งในประเทศและครองตลาดเบลเยียม นอกจากนี้ยังร่วมมือกับเครือข่ายการชําระเงินระหว่างประเทศ ช่วยให้ผู้ใช้ในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวต่างประเทศสามารถใช้บัตรและบริการของตนได้กว้างขึ้น

ในแง่ของโครงสร้างพื้นฐานทางเทคนิค Bancontact มีเครือข่ายที่รองรับการประมวลผลธุรกรรมแบบเรียลไทม์เพื่อการชําระเงินที่รวดเร็วและเชื่อถือได้ ระบบนี้ออกแบบมาเพื่อจัดการธุรกรรมจํานวนมาก แสดงให้เห็นว่ามีการใช้บริการ Bancontact อย่างแพร่หลายทั้งในเบลเยียมและประเทศใกล้เคียง

ต่อไปนี้เราจะพูดถึงข้อเสนอของ Bancontact สำหรับธุรกิจและลูกค้า รวมถึงสิ่งที่ธุรกิจต่างๆ จำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการยอมรับ Bancontact เป็นวิธีการชําระเงิน

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

  • มีการใช้งาน Bancontact ในพื้นที่ใดบ้าง
  • ใครบ้างที่ใช้ Bancontact
  • วิธีการทํางานของ Bancontact
  • ประโยชน์ของการยอมรับ Bancontact
  • มาตรการรักษาความปลอดภัยของ Bancontact
  • ข้อกําหนดสําหรับธุรกิจเพื่อเริ่มรับชําระเงินผ่าน Bancontact
  • ตัวเลือกอื่นๆ นอกเหนือจาก Bancontact

มีการใช้งาน Bancontact ในพื้นที่ใดบ้าง

Bancontact เป็นวิธีการชําระเงินอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ในเบลเยียมและดำเนินธุรกิจครอบคลุมกว้างขวาง แม้ว่า Bancontact จะนิยมใช้ในประเทศบ้านเกิดเป็นหลัก แต่ก็ขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศด้วยเช่นกัน แสดงให้เห็นว่าบริษัทกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ และปรับตัวเข้ากับสภาพตลาดและแนวโน้มต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ต่อไปนี้คือรายละเอียดเกี่ยวกับพื้นที่ดำเนินธุรกิจและแรงขับเคลื่อนตลาดของ Bancontact ในปัจจุบัน

ประเทศเบลเยียม

Bancontact เป็นเจ้าตลาดในเบลเยียม เห็นได้จากจำนวนบัตรหมุนเวียนกว่า 17 ล้านใบ (ในขณะที่ประชากรของประเทศมีเพียงประมาณ 12 ล้านคน) จึงกล่าวได้ว่า Bancontact เป็นวิธีการชําระเงินที่ลูกค้าเลือกทั้งในการซื้อทางออนไลน์และออฟไลน์ ความนิยมอย่างแพร่หลายเช่นนี้เกิดจากหลายปัจจัย ได้แก่

  • เครือข่ายธนาคารที่กว้างขวาง: Bancontact จับมือเป็นพาร์ทเนอร์กับธนาคารเกือบทุกแห่งในเบลเยียม ทําให้เข้าถึงกลุ่มประชากรส่วนใหญ่ได้

  • ผสานการทํางานง่าย: Bancontact ผสานการทํางานกับโครงสร้างพื้นฐานด้านการธนาคารได้อย่างง่ายดาย ทําให้เป็นตัวเลือกที่ลูกค้าคุ้นเคยและสะดวก

  • การันตีการชําระเงิน: ธุรกรรมจะได้รับการยืนยันทันที ช่วยให้ธุรกิจรู้สึกวางใจ อีกทั้งยังกำจัดความเสี่ยงในการฉ้อโกงและการดึงเงินคืน

ยุโรป

แม้ว่าเบลเยียมจะยังคงเป็นตลาดหลัก แต่ Bancontact ก็ขยายธุรกิจไปยังประเทศอื่นๆ ในยุโรปอย่างแข็งขัน แสดงให้เห็นว่าความต้องการโซลูชันที่ปลอดภัยและใช้งานง่ายกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ

  • เนเธอร์แลนด์: Bancontact มีชื่อเสียงอย่างมากในเนเธอร์แลนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ธุรกิจออนไลน์ เนเธอร์แลนด์มีความผูกพันทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจกับเบลเยียมทำให้ Bancontact เป็นที่คุ้นเคยในหมู่ผู้ใช้งาน ซึ่งช่วยสนับสนุนการเติบโตได้เป็นอย่างดี

  • ลักเซมเบิร์ก: Bancontact เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในลักเซมเบิร์ก สาเหตุหลักเป็นเพราะมีชาวเบลเยียมและแรงงานข้ามชาติอาศัยอยู่ในประเทศนี้จํานวนมาก

  • ฝรั่งเศส: Bancontact กําลังบุกตลาดฝรั่งเศส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแคว้นที่ติดกับพรมแดน การผสานการทํางานกับแพลตฟอร์มการชําระเงินที่ได้รับความนิยมในฝรั่งเศสทำให้ Bancontact ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว

แนวโน้มตลาด

การขยายกิจการของ Bancontact สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มที่กำลังเติบโตในอุตสาหกรรมการชําระเงิน

  • การเติบโตของอีคอมเมิร์ซ: การช็อปปิ้งออนไลน์ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และช่วยกระตุ้นให้เกิดความต้องการใช้วิธีการชําระเงินออนไลน์ที่สะดวกและปลอดภัย อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและการผสานการทํางานกับแพลตฟอร์มออนไลน์หลักๆ ช่วยให้ Bancontact ตอบโจทย์ความต้องการในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี

  • การค้าข้ามพรมแดนขยายตัว: การช็อปปิ้งข้ามพรมแดนในยุโรปกำลังเติบโต และเปิดโอกาสให้กับโซลูชันการชําระเงินที่ทํางานได้อย่างราบรื่นข้ามพรมแดน ซึ่ง Bancontact ขยายธุรกิจไปยังประเทศเพื่อนบ้านเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เหล่านี้

  • ลูกค้าเลือกโซลูชันที่ตัวเองคุ้นเคย: ลูกค้ามักต้องการวิธีการชําระเงินที่ตนรู้สึกว่าสะดวกสบายและคุ้นเคย Bancontact เน้นไปที่ความเป็นมิตรต่อผู้ใช้และความใกล้ชิดกับระบบธนาคาร ทำให้ได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้ามากขึ้น

บริบททางกฎหมาย

การเติบโตของ Bancontact ยังเป็นผลมาจากการพัฒนาด้านกฎหมายดังต่อไปนี้

  • คําสั่งว่าด้วยบริการชําระเงินฉบับปรับปรุงของสหภาพยุโรป (PSD2): PSD2 ส่งเสริมการแข่งขันและนวัตกรรมในอุตสาหกรรมการชําระเงิน ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ธุรกิจต่างๆ เช่น Bancontact เพิ่มส่วนแบ่งตลาด

  • โครงการริเริ่มด้านการธนาคารแบบ Open Banking: การธนาคารแบบเปิด ช่วยให้ธนาคารแชร์ข้อมูลกับผู้ให้บริการบุคคลที่สามได้อย่างปลอดภัย Bancontact จึงสามารถนําเสนอบริการที่เป็นนวัตกรรมและเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มจํานวนมากได้

มองอนาคต

Bancontact มีความพร้อมสําหรับการเติบโตในอนาคตเนื่องจากมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งในเบลเยียม ดำเนินกลยุทธ์ขยายธุรกิจไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และสามารถปรับตัวตามพฤติกรรมของลูกค้าและระเบียบข้อบังคับในท้องถิ่นที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย ฟีเจอร์การรักษาความปลอดภัยที่รัดกุม และการผสานการทํางานกับแพลตฟอร์มการชําระเงินชั้นนํา ทําให้ Bancontact กลายเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในอุตสาหกรรมการชําระเงินของยุโรป

ประเด็นสำคัญ

  • Bancontact เป็นวิธีการชําระเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ครองตลาดหลักในเบลเยียมและเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยประมวลผลการชําระเงินถึง 2.3 พันล้านรายการในปี 2022 ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 55% ใน 10 ปี

  • ปัจจุบันบริษัทยังขยายธุรกิจไปยังประเทศอื่นๆ ในยุโรปอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเนเธอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก และฝรั่งเศส

  • ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซ รวมถึงการค้าข้ามพรมแดน และความต้องการวิธีการชําระเงินที่ลูกค้าคุ้นเคย

  • พัฒนาการทางกฎหมายอย่างเช่น PSD2 และโครงการริเริ่มด้านการธนาคารแบบ Open Banking ก็ช่วยส่งเสริมการเติบโตของ Bancontact เช่นกัน

ใครบ้างที่ใช้ Bancontact

แม้ว่าการใช้งานจะกระจุกตัวในเบลเยียม แต่ฐานผู้ใช้ของ Bancontact ขยายธุรกิจออกไปนอกประเทศ รวมทั้งรองรับธุรกิจที่หลากหลายและรองรับกลุ่มลูกค้าเฉพาะทาง ต่อไปนี้คือข้อมูลสรุปเกี่ยวกับผู้ใช้ Bancontact และวิธีใช้ Bancontact

ประเภทธุรกิจที่ใช้ Bancontact

  • ผู้ค้าปลีก: เครือบริษัทขนาดใหญ่และร้านค้าอิสระขนาดเล็กในหลายภาคธุรกิจต่างก็พึ่งพา Bancontact ในการธุรกรรมทางออนไลน์และที่หน้าร้าน มาตรการรักษาความปลอดภัยและความรวดเร็วนี้เหมาะสําหรับธุรกรรมที่มีปริมาณมาก ในขณะเดียวกันก็เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ลูกค้าชาวเบลเยียม จึงช่วยเพิ่มความไว้วางใจและความพึงพอใจได้อีกทางหนึ่ง ตัวอย่างเช่น ร้านค้าปลีกรายใหญ่อย่าง Carrefour (มีร้านค้ากว่า 700 สาขาในเบลเยียม) และ Colruyt (มีร้านค้ากว่า 200 สาขา) ได้ผสานการทํางาน Bancontact เป็นทางเลือกในการชําระเงิน

  • แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ: ผู้ค้าปลีกออนไลน์รายใหญ่อย่าง Bol.com ซึ่งเป็นผู้ค้าปลีกออนไลน์รายใหญ่ที่สุดในเนเธอร์แลนด์ และ Coolblue ต่างก็ยอมรับ Bancontact เป็นหนึ่งในวิธีการชําระเงิน Bol.com ได้รับความนิยมอย่างมากในเบลเยียม จึงยิ่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับ Bancontact เราตอบสนองความต้องการช็อปปิ้งออนไลน์ที่กำลังเติบโตและมอบวิธีการชําระเงินที่สะดวกและคุ้นเคยให้แก่ลูกค้า

  • บริการแบบชำระเงินตามรอบบิล ฟังก์ชันการชําระเงินตามแบบแผนล่วงหน้าของ Bancontact มีประโยชน์อย่างมากสำหรับธุรกิจที่มีการชำระเงินตามรอบบิล เช่น บริการสตรีมมิงและสาธารณูปโภค Payconiq by Bancontact เป็นโซลูชันการชําระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ช่วยให้การชําระเงินตามแบบแผนล่วงหน้าและการจัดการใบเรียกเก็บเงินสะดวกยิ่งขึ้น ช่วยให้มั่นใจว่าการชําระเงินจะเกิดขึ้นตรงเวลา รวมทั้งลดภาระในการบริหารจัดการทั้งสําหรับธุรกิจและลูกค้า

  • บริการสาธารณะ: เทศบาลและหน่วยงานของรัฐหันมาใช้ Bancontact กันมากขึ้น เช่น การชําระเงินภาษี ค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ทางออนไลน์ การเปลี่ยนไปใช้ระบบการชําระเงินแบบดิจิทัลช่วยส่งเสริมความโปร่งใส ประสิทธิภาพ และความสะดวกสบายของประชาชน ซึ่งลดภาระในการชําระเงินด้วยตัวเองหรือที่จุดขาย

  • องค์กรไม่แสวงผลกําไรและองค์กรการกุศล: องค์กรต่างๆ ที่รับบริจาคใช้ Bancontact เป็นช่องทางบริจาคเงินทางออนไลน์ที่ทั้งปลอดภัยและสะดวก ช่วยให้ขั้นตอนการบริจาคสําหรับบุคคลทั่วไปง่ายขึ้นและเพิ่มโอกาสในการบริจาคเงินจนเสร็จสมบูรณ์ ไม่ล้มเลิกกลางคัน นอกจากนี้ การผสานการทํางาน Bancontact เข้ากับแพลตฟอร์มการบริจาคออนไลน์ยอดนิยมในเบลเยียมก็ยังทําให้การบริจาคเงินเพื่อการกุศลเป็นเรื่องเข้าถึงง่ายและมีประสิทธิภาพ

กลุ่มลูกค้าที่ต้องการใช้ Bancontact

  • ผู้ใหญ่วัยหนุ่มสาว: ยุคแห่งเทคโนโลยีนี้ให้ความสำคัญกับการทำธุรกรรมออนไลน์ และส่งผลดีต่อวิธีการชําระเงินที่ใช้งานง่ายและเป็นที่คุ้นเคยของผู้ใช้ ซึ่งแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ของ Bancontact และการผสานการทํางานกับแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างก็ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ที่เน้นระบบดิจิทัลเป็นอันดับแรก

  • ครอบครัว: ผู้ปกครองชอบระบบรักษาความปลอดภัยและความสะดวกสบายของ Bancontact โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการซื้อออนไลน์และการชําระเงินตามใบเรียกเก็บเงิน เพราะช่วยให้พวกเขาจัดการการเงินของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ผลการสํารวจของ Bancontact เผยว่า 84% ของผู้ปกครองต่างรู้สึกปลอดภัยมากกว่าเมื่อใช้ Bancontact ในการซื้อสินค้าออนไลน์ เมื่อเทียบกับวิธีการชําระเงินอื่นๆ

  • ผู้ที่ต่อต้านเทคโนโลยี: สําหรับผู้ที่ไม่ชื่นชอบเทคโนโลยี Bancontact ก็มอบประสบการณ์การชําระเงินที่คุ้นเคยและตรงไปตรงมา บัตรเดบิตที่น่าเชื่อถือและการผสานการทํางานกับระบบธนาคารช่วยให้ Bancontact ใช้งานได้สะดวกและง่ายดาย โดยทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมให้กับผู้ที่ไม่อยากใช้ธนาคารออนไลน์

  • ผู้ซื้อสินค้าข้ามพรมแดน: ผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศใกล้เคียงเช่นเนเธอร์แลนด์และลักเซมเบิร์ก (สหภาพเศรษฐกิจเบเนลักซ์เมื่อรวมกับเบลเยียม) มักใช้ Bancontact ในการซื้อออนไลน์จากธุรกิจต่างๆ ในเบลเยียม ซึ่งการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนอย่างง่ายดายด้วยวิธีการชําระเงินในประเทศที่ลูกค้าชื่นชอบ จะช่วยเพิ่มความสะดวกและความยืดหยุ่นได้เป็นอย่างดี

กรณีการใช้งานทั่วไปสําหรับ Bancontact

  • การช็อปปิ้งออนไลน์: Bancontact ช่วยให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การช็อปปิ้งออนไลน์ที่ราบรื่นและปลอดภัย ตั้งแต่การซื้อเสื้อผ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงการจองการเดินทางและการสั่งซื้ออาหาร

  • การชําระเงินภายในร้าน: ไม่ว่าคุณกําลังซื้อของชํา จ่ายค่าน้ำมันรถ หรือซื้อกาแฟ Bancontact เป็นวิธีที่สะดวกและไร้สัมผัสในการชําระเงินภายในร้านค้า ในปี 2022 มีการชําระเงินแบบไร้สัมผัสกว่า 1.1 พันล้านรายการผ่าน Bancontact สะท้อนให้เห็นว่าธุรกรรมในร้านได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

  • การชําระเงินตามใบเรียกเก็บเงิน: การชําระค่าสาธารณูปโภค การชําระเงินตามรอบบิล และการชำระเงินตามใบเรียกเก็บเงินอื่นๆ ทางออนไลน์จะทำได้ง่ายดายด้วยฟีเจอร์การชําระเงินตามแบบแผนล่วงหน้าของ Bancontact วิธีนี้ไม่จําเป็นต้องใช้ใบเรียกเก็บเงินแบบกระดาษและไม่มีการชำระเงินล่าช้าอีกต่อไป

  • การโอนเงิน: การส่งและรับเงินระหว่างบุคคลทั่วไปกลายเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วด้วยแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ Payconiq by Bancontact ซึ่งช่วยลดความยุ่งยากให้กับการชําระเงินแบบบุคคลถึงบุคคลและการจัดการด้านการเงินส่วนบุคคล ในปี 2022 มีการชําระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่กว่า 275 ล้านรายการ โดยใช้แอปนี้ เพิ่มขึ้นจาก 34 ล้านคนในปี 2018 แสดงให้เห็นว่ามีการเติบโตขึ้นอย่างมาก

  • การบริจาคเงิน: การผสานการทํางาน Bancontact กับแพลตฟอร์มบริจาคเงินออนไลน์ช่วยให้การบริจาคเงินแก่องค์กรการกุศลและการสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคมกลายเป็นเรื่องสะดวกง่ายดายยิ่งกว่าเดิม นี่เป็นการส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งการให้ อีกทั้งยังลดความซับซ้อนให้กับขั้นตอนของบุคคลทั่วไป

วิธีการทํางานของ Bancontact

Bancontact มีบทบาทอย่างมากต่อกิจกรรมทางการเงินแต่ละวันของผู้คนในเบลเยียม และผสานรวมเป็นส่วนหนึ่งของลูกค้าและธุรกิจจำนวนมากที่ต้องจัดการด้านการเงินเป็นประจำ ดูหลักการทำงานของ Bancontact อย่างละเอียดดังต่อไปนี้

จากมุมมองของลูกค้า

การชําระเงิน

  • ธุรกรรมออนไลน์: ลูกค้าเลือก Bancontact ในขั้นตอนการชําระเงิน จากนั้นระบบจะนำทางลูกค้าไปยังแพลตฟอร์มการธนาคารออนไลน์ที่ปลอดภัยของธนาคาร ซึ่งลูกค้าจะต้องเข้าสู่ระบบและอนุมัติการชําระเงินโดยใช้ PIN ลายนิ้วมือ หรือการจดจําใบหน้า หลังจากอนุมัติการชําระเงินสําเร็จ ระบบจะนําลูกค้าไปที่เว็บไซต์ของธุรกิจ ธุรกิจจะได้รับการยืนยันการชําระเงินแบบเรียลไทม์และประมวลผลธุรกรรม

  • การชําระเงินภายในร้าน: ลูกค้าใช้บัตรแบบไร้สัมผัสหรือแอป Bancontact บนสมาร์ทโฟนที่เทอร์มินัลการชําระเงิน ซึ่งจะส่งคําขอการชำระเงินไปยังธนาคาร หลังจากที่ธนาคารยืนยันธุรกรรมแล้ว เทอร์มินัลจะแสดงข้อความว่าธุรกรรมสําเร็จแล้ว

  • การใช้งานแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่: แอป Payconiq by Bancontact อํานวยความสะดวกให้กับการชําระเงินภายในร้านแบบไร้สัมผัส การซื้อออนไลน์ การโอนเงิน และการตั้งค่าการชําระเงินตามใบเรียกเก็บเงินตามแบบแผนล่วงหน้า

การทํางานเบื้องหลัง

  • การประมวลผลออนไลน์: ธุรกิจต่างๆ ใช้เกตเวย์การชําระเงินที่ Bancontact จัดหาให้หรือผู้ให้บริการชําระเงิน (PSP) อื่นๆ โดยเกตเวย์จะส่งการชําระเงินไปยังธนาคารอย่างปลอดภัย ธนาคารจะใช้ 3D Secure (3DS) ในการยืนยันตัวตนและการอนุมัติ หลังจากนั้น ระบบการหักยอดและการชําระเงินหรือที่เรียกว่า STET จะประมวลผลการชําระเงิน

  • การประมวลผลภายในร้าน: เทอร์มินัลการชําระเงินแบบไร้สัมผัสใช้เทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูลระยะใกล้ (NFC) เพื่อโต้ตอบกับบัตรแบบไร้สัมผัสหรือสมาร์ทโฟน เทอร์มินัลเหล่านี้จะส่งต่อคําขอการชําระเงินไปยังธนาคารอย่างปลอดภัย เมื่อธนาคารยืนยันและอนุมัติวงเงินแล้ว เทอร์มินัลจะทำธุรกรรมให้เสร็จสมบูรณ์และหักเงินจากบัญชีของลูกค้า

จากมุมมองของธุรกิจ

การรับชําระเงิน

  • ออนไลน์: ธุรกิจต่างๆ ผสานการทํางานเกตเวย์การชําระเงินกับร้านค้าออนไลน์ของตนเอง โดยเกตเวย์ดังกล่าวทำหน้าที่จัดการการสื่อสารกับ Bancontact และธนาคาร ธุรกิจจะได้รับการยืนยันการชําระเงินแบบเรียลไทม์ พร้อมกับสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลธุรกรรมสําหรับการรายงานและการกระทบยอด

  • ในร้านค้า: ธุรกิจต่างๆ ใช้เทอร์มินัลระบบบันทึกการขาย (POS) แบบไร้สัมผัสเชื่อมต่อกับเครือข่ายของ Bancontact เพื่อช่วยให้ลูกค้าชําระเงินแบบไร้สัมผัสได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่ธุรกิจเองก็สามารถดูรายงานธุรกรรมรายวันได้ ไม่เพียงเท่านั้นยังเรียกดูข้อมูลแบบละเอียดผ่านพอร์ทัลออนไลน์ของ Bancontact ได้ด้วย

  • โครงสร้างพื้นฐานทางเทคนิค: Bancontact ทํางานบนเครือข่ายอันซับซ้อนที่ประกอบไปด้วยเซิร์ฟเวอร์ ฐานข้อมูล และช่องทางการสื่อสารที่ปลอดภัย ซึ่งช่วยให้ธุรกิจ ธนาคาร และลูกค้าโต้ตอบกันได้อย่างน่าเชื่อถือและปลอดภัย นอกจากนี้ยังใช้มาตรการรักษาความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัส ไฟร์วอลล์ และระบบตรวจจับการบุกรุก มาปกป้องข้อมูลของลูกค้าด้วย

ประเด็นสำคัญ

  • เครือข่ายของ Bancontact ช่วยให้ประมวลผลการชําระเงินได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสําหรับการทำธุรกรรมหลากหลายรูปแบบ

  • ลูกค้าจะชําระเงินผ่านช่องทางต่างๆ ได้ทั้งช่องทางออนไลน์ ร้านค้า และผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ โดยแต่ละช่องทางจะมอบวิธีที่ปลอดภัยและสะดวกสบายในการจัดการธุรกรรมทางการเงิน

  • ธุรกิจได้ประโยชน์จากการรับชําระเงินทางออนไลน์และในร้านค้า รวมทั้งผสาน Bancontact เข้ากับระบบการชําระเงินของตนได้อย่างง่ายดาย ซึ่งจะช่วยยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าและรวมกระบวนการประมวลผลธุรกรรมให้เป็นหนึ่งเดียวกัน

ประโยชน์ของการยอมรับ Bancontact

ยอดขายและรายรับเพิ่มขึ้น

  • อัตราการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชําระเงินสูงขึ้น: ความนิยมอย่างแพร่หลายในเบลเยียมและความง่ายในการใช้งานของ Bancontact ทำให้อัตราการชำระเงินสำเร็จระหว่างการชําระเงินทางออนไลน์และที่หน้าร้านเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยในปี 2021 วิธีการชําระเงินของ Bancontact มีส่วนแบ่งตลาดถึง 80% ในประเทศ ทำให้บริษัทกลายเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซของประเทศ

  • การละทิ้งรถเข็นลดลง: การประมวลผลการชําระเงินอย่างรวดเร็วด้วย Bancontact ทำให้อัตราการละทิ้งรถเข็นลดลง ลูกค้าจึงซื้อสินค้าและบริการได้อย่างราบรื่นไม่ติดขัด

  • มูลค่าคําสั่งซื้อเฉลี่ยเพิ่มขึ้น: Bancontact ไม่เพียงอํานวยความสะดวก แต่ยังมอบความปลอดภัย ส่งผลให้ลูกค้าใช้จ่ายมากขึ้น มูลค่าคําสั่งซื้อเฉลี่ยจึงเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

ความพึงพอใจและความภักดีของลูกค้าเพิ่มขึ้น

  • ปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า: ความคุ้นเคย ความสะดวกในการใช้งาน และการรักษาความปลอดภัยของ Bancontact ช่วยมอบประสบการณ์ที่ราบรื่นและดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า เพิ่มความภักดี และทำให้ลูกค้ากลับมาใช้ซ้ำเรื่อยๆ

  • ขั้นตอนการชําระเงินคล่องตัว: การประมวลผลธุรกรรมแบบเรียลไทม์ของ Bancontact จะยืนยันและดำเนินการชําระเงินทันที จึงช่วยลดความล่าช้าและความไม่พอใจของลูกค้าได้

  • ลดภาระในการตอบคำถามของฝ่ายสนับสนุนลูกค้า: ความใช้งานง่ายของ Bancontact ลดความจำเป็นในการขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับปัญหาการชําระเงิน ทําให้ธุรกิจสามารถทุ่มทรัพยากรที่มีไปกับสิ่งที่สำคัญแทน

ประสิทธิภาพในการดําเนินงานและการประหยัดต้นทุน

  • ภาระด้านการบริหารลดลง: การประมวลผลการชําระเงินอัตโนมัติของ Bancontact ช่วยให้ธุรกิจไม่ต้องกระทบยอดด้วยตนเอง จึงประหยัดทั้งเวลาและทรัพยากรที่มีค่า

  • ค่าธรรมเนียมธุรกรรมถูกลง: Bancontact มีค่าธรรมเนียมธุรกรรมที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับวิธีการชําระเงินอื่นๆ ดังนั้นธุรกิจจะประหยัดต้นทุนได้อีกทางหนึ่ง จากการศึกษาของ Statista ซึ่งเป็นธุรกิจวิเคราะห์ข้อมูล ค่าธรรมเนียมธุรกรรมเฉลี่ยของ Bancontact ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมสำหรับการประมวลผลบัตรเครดิตถึง 15%

  • ปรับปรุงการจัดการกระแสเงินสด: การประมวลผลการชําระเงินแบบเรียลไทม์ด้วย Bancontact ช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงเงินทุนได้ทันที ทำให้จัดการกระแสเงินสดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

  • ข้อมูลเชิงลึกขั้นสูง: Bancontact มอบข้อมูลธุรกรรมให้กับธุรกิจอย่างละเอียด ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าได้ดีขึ้น รวมทั้งปรับปรุงกลยุทธ์ด้านการตลาดและการขายได้

  • ยกระดับการรักษาความปลอดภัยและการป้องกันการฉ้อโกง: Bancontact ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูง เช่น การตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2 ปัจจัย (2FA) และระบบตรวจจับการฉ้อโกง ซึ่งจะช่วยปกป้องธุรกิจจากการสูญเสียทางการเงินที่เกิดจากธุรกรรมฉ้อโกง

  • เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย: ธุรกิจที่ใช้ Bancontact สามารถเข้าถึงฐานผู้ใช้ Bancontact ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่วัยหนุ่มสาวที่มีความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยี ครอบครัว และลูกค้ากลุ่มอื่นๆ อีกทั้งยังขยายการเข้าถึงลูกค้าและเพิ่มส่วนแบ่งตลาดได้ด้วย

  • ขยายธุรกิจข้ามพรมแดน: การร่วมมือกับ Payconiq ช่วยให้ธุรกิจในประเทศใกล้เคียง เช่น เนเธอร์แลนด์และลักเซมเบิร์กรับการชําระเงินผ่าน Bancontact ได้ จึงช่วยอํานวยความสะดวกในการขยายธุรกิจข้ามพรมแดนและเพิ่มรายรับ

มาตรการรักษาความปลอดภัยของ Bancontact

ฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยของ Bancontact เทียบได้กับระบบและผลิตภัณฑ์การชําระเงินที่ทันสมัยที่สุดส่วนใหญ่ ฟีเจอร์เหล่านี้ประกอบด้วย

  • การตรวจสอบสิทธิ์ด้วย PIN: ธุรกรรมผ่านบัตร Bancontact ทุกรายการไม่ว่าจะทางออนไลน์หรือที่ร้านค้าจะต้องป้อน PIN เพื่ออนุมัติธุรกรรม นี่เป็นการรักษาความปลอดภัยระดับพื้นฐานเพราะมีแต่เจ้าของบัตรเท่านั้นที่มี PIN และหากป้อน PIN ไม่ถูกต้องครบจำนวนครั้งที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ระบบจะล็อกบัตรทันทีเพื่อป้องกันการใช้งานที่ไม่ได้รับอนุญาต

  • 3D Secure (3DS) สําหรับธุรกรรมออนไลน์: Bancontact นำใช้เทคโนโลยี 3DS มาใช้กับการชําระเงินออนไลน์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มการรักษาความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่งด้วยการกําหนดให้มีการตรวจสอบสิทธิ์เพิ่มเติมนอกเหนือจากการใช้รายละเอียดของบัตร โดยอาจจะใช้รหัสผ่าน การส่งรหัสทาง SMS หรือการยืนยันด้วยข้อมูลไบโอเมตริก เช่น ลายนิ้วมือหรือการจดจําใบหน้า

  • การเข้ารหัส: ระบบจะเข้ารหัสข้อมูลที่ส่งระหว่างทำธุรกรรม Bancontact ซึ่งหมายความว่าข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น หมายเลขบัตรและรายละเอียดส่วนบุคคลจะถูกแปลงเป็นรหัสที่ปลอดภัย ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการดักข้อมูลหรือการฉ้อโกง ทั้งนี้ มาตรฐานการเข้ารหัสของธุรกิจเป็นไปตามระเบียบการรักษาความปลอดภัยทางการเงินทั่วโลก

  • การปฏิบัติตามข้อกําหนดของ PCI DSS: Bancontact ปฏิบัติตามมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยข้อมูลสําหรับอุตสาหกรรมบัตรชําระเงิน (PCI DSS) ซึ่งเป็นชุดมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยระดับโลกที่ออกแบบมาเพื่อรับรองว่าธุรกิจทุกแห่งจะยอมรับ ประมวลผล จัดเก็บ หรือส่งข้อมูลบัตรเครดิตอย่างปลอดภัย นอกจากนี้ การตรวจสอบเป็นประจําและการตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อกําหนดจะช่วยให้ Bancontact ดำเนินงานสอดคล้องกับมาตรการควบคุมเพื่อการรักษาความปลอดภัยเหล่านี้อยู่เสมอ

  • การติดตามตรวจสอบการฉ้อโกงแบบเรียลไทม์: ระบบของ Bancontact ตรวจสอบธุรกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อหากิจกรรมที่น่าสงสัย การตรวจสอบแบบเรียลไทม์นี้จะช่วยระบุและป้องกันธุรกรรมที่อาจเป็นการฉ้อโกงได้อย่างรวดเร็ว เมื่อพบสิ่งผิดปกติ เช่น รูปแบบการใช้จ่ายหรือตําแหน่งที่ตั้งผิดปกติ ระบบจะแจ้งเตือนให้ระงับธุรกรรมนั้นไว้ก่อนเพื่อทําการยืนยันเพิ่มเติม

  • วงเงินธุรกรรมแบบไร้สัมผัส: Bancontact จํากัดวงเงินสำหรับการทำธุรกรรมแบบไร้สัมผัสแบบไม่ป้อน PIN ไว้ที่ 25 ยูโร หากจํานวนเงินสูงกว่าเกณฑ์ดังกล่าว ระบบจะกําหนดให้ป้อน PIN หรือยืนยันในรูปแบบอื่น ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในกรณีที่บัตรถูกโจรกรรมหรือสูญหายได้

  • แอปบนมือถือที่ปลอดภัย: แอป Payconiq by Bancontact มีฟีเจอร์การรักษาความปลอดภัย เช่น PIN เฉพาะสำหรับแอปและการตรวจสอบสิทธิ์ด้วยข้อมูลไบโอเมตริก นอกจากนี้ แอปยังช่วยผู้ใช้ติดตามธุรกรรม จึงมอบความโปร่งใส ทั้งยังสามารถตรวจสอบการใช้งานที่ไม่ได้รับอนุญาตเพิ่มเติมได้ด้วย

  • การทํางานร่วมกันกับธนาคารและสถาบันการเงิน: Bancontact ทํางานร่วมกับธนาคารและสถาบันการเงินอย่างใกล้ชิดเพื่อดำเนินงานตามมาตรการและระเบียบการรักษาความปลอดภัยขององค์กรเหล่านี้ การทํางานร่วมกันนี้ก่อให้เกิดการรวมพลังเป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อต่อสู้กับภัยคุกคามด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นในบริบทของการชําระเงิน

ข้อกําหนดสําหรับธุรกิจเพื่อเริ่มรับชําระเงินผ่าน Bancontact

หากต้องการรับชําระเงินด้วย Bancontact ธุรกิจจะต้องทําตามขั้นตอนบางอย่าง ไม่ว่าจะก่อตั้งอยู่ในเบลเยียมหรือต่างประเทศก็ตาม ขั้นตอนเหล่านี้จะแตกต่างกันไปเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับตําแหน่งที่ตั้งและระบบประมวลผลการชําระเงินที่ใช้ ต่อไปนี้คือรายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนที่จำเป็น

สําหรับธุรกิจที่ตั้งอยู่ในเบลเยียม

  • การสร้างบัญชีผู้ค้า: ธุรกิจต่างๆ ต้องมีบัญชีผู้ค้า รวมทั้งธนาคารหรือ PSP ที่รองรับธุรกรรม Bancontact

  • การผสานการทํางานเทอร์มินัลการชําระเงินหรือ POS: สําหรับร้านค้าจริง ธุรกิจจําเป็นต้องผสานการทํางาน Bancontact กับระบบ POS ที่มีอยู่หรือเทอร์มินัลการชําระเงินที่รองรับ Bancontact เทอร์มินัลเหล่านี้ควรรองรับธุรกรรมที่ใช้ชิปและ PIN รวมถึงธุรกรรมแบบไร้สัมผัสได้

  • การผสานการทํางานระบบอีคอมเมิร์ซ: ธุรกิจออนไลน์ต้องผสานการทํางาน Bancontact เข้ากับเกตเวย์การชําระเงินของเว็บไซต์ ซึ่งสามารถทําได้ผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ หรือผ่าน PSP ที่รองรับ Bancontact เป็นตัวเลือกการชําระเงิน

  • การปฏิบัติตามข้อกําหนดและการรักษาความปลอดภัย: ธุรกิจจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ปฏิบัติตามข้อกําหนดของ PCI DSS และมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง

สําหรับธุรกิจในต่างประเทศ

  • เป็นพาร์ทเนอร์กับ PSP: ธุรกิจต่างชาติควรจับมือเป็นพาร์ทเนอร์กับ PSP ที่ทํางานร่วมกับ Bancontact และจัดการธุรกรรมข้ามพรมแดนได้ โดย PSP นี้ควรอำนวยความสะดวกในการแปลงสกุลเงินและช่วยให้ธุรกิจปฏิบัติตามข้อบังคับด้านการชําระเงินของเบลเยียมได้

  • การผสานการทํางานระบบอีคอมเมิร์ซ: ผู้ค้าปลีกออนไลน์ต่างชาติจะต้องผสานการทํางาน Bancontact เข้ากับระบบการชําระเงินเช่นเดียวกับธุรกิจในเบลเยียม โดยมักจะต้องทํางานกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซหรือ PSP ที่รองรับการทำธุรกรรมระหว่างประเทศด้วย Bancontact

ข้อควรพิจารณาสําหรับธุรกิจที่ใช้ Stripe

  • การผสานการทํางาน Stripe: ธุรกิจที่ร่วมงานกับ Stripe จะเพิ่ม Bancontact เป็นวิธีการชําระเงินได้อย่างง่ายดาย Stripe รองรับ Bancontact ทั้งการชําระเงินแบบครั้งเดียวและการชำระเงินตามแบบแผนล่วงหน้า ขั้นตอนการผสานการทํางานจะประกอบด้วยการเพิ่ม Bancontact ไปยังรายการวิธีการชําระเงินในแดชบอร์ด Stripe หรือผสานการทํางานส่วนต่อประสานโปรแกรมประยุกต์ (API)

  • การจัดการการชําระเงิน: เมื่อผสานการทํางานแล้ว Stripe จะทำหน้าที่จัดการการประมวลผลธุรกรรม และช่วยให้ธนาคารของลูกค้าและบัญชีของธุรกิจรับส่งรายละเอียดการชําระเงินและเงินทุนได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ Stripe ยังมีเครื่องมือสําหรับจัดการธุรกรรม การคืนเงิน และการโต้แย้งการชําระเงินด้วย

  • ค่าธรรมเนียมและค่าบริการ: ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลการชําระเงินด้วย Bancontact ผ่าน Stripe นั้นจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ปริมาณธุรกรรมและตําแหน่งที่ตั้ง Stripe เสนอโมเดลค่าบริการที่โปร่งใส ซึ่งธุรกิจควรตรวจสอบข้อมูลเหล่านี้เพื่อทําความเข้าใจค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง ต่อไปนี้คือรายละเอียดค่าธรรมเนียมหลักๆ ที่เกี่ยวข้อง

    • ค่าธรรมเนียมธุรกรรม
    • ค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงิน
      ธุรกิจสามารถเลือกจัดการการแปลงสกุลเงินด้วยตัวเองได้ วิธีนี้อาจเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่าสำหรับธุรกิจที่มีธุรกรรมปริมาณมาก ยิ่งไปกว่านั้น Stripe ยังมีแพ็กเกจพิเศษสําหรับโมเดลธุรกิจที่มีธุรกรรมปริมาณมากหรือมีลักษณะเฉพาะด้วย

ค่าธรรมเนียมอื่นๆ ที่อาจเรียกเก็บ

  • ค่าธรรมเนียมการโต้แย้งการชําระเงิน: หากมีการโต้แย้งการชําระเงินเกี่ยวกับธุรกรรม Stripe อาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบ

  • ค่าธรรมเนียมการปฏิบัติตามข้อกําหนดของ PCI: ธุรกิจอาจจะต้องชำระค่าธรรมเนียมการปฏิบัติตามข้อกําหนดของ PCI เพิ่มเติม หากการดำเนินงานไม่สอดคล้องกับมาตรฐานเหล่านี้

ตัวเลือกอื่นๆ นอกเหนือจาก Bancontact

แม้จะมีสถานะแข็งแกร่งในอุตสาหกรรมการชําระเงินของเบลเยียม แต่ Bancontact ก็ต้องเผชิญกับการแข่งขันจากผู้ให้บริการรายอื่นในตลาดหลักแต่ละแห่ง ต่อไปนี้คือตัวอย่างตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด:

ประเทศเบลเยียม

  • บัตรเครดิต: Visa และ Mastercard ยังคงเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในเบลเยียม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสําหรับการซื้อที่มีมูลค่าสูงและการทำธุรกรรมออนไลน์

  • บัตรเดบิต: Maestro และ V PAY ซึ่งเชื่อมโยงกับบัญชีธนาคาร มีฟังก์ชันคล้ายกันกับ Bancontact แต่อาจมีค่าธรรมเนียมและฟีเจอร์การรักษาความปลอดภัยที่แตกต่างกัน

  • กระเป๋าเงินดิจิทัล: Apple Pay และ Google Pay มีตัวเลือกการชําระเงินแบบไร้สัมผัสผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่

  • วิธีการชําระเงินออนไลน์อื่นๆ: นอกจากนี้ PayPal, Klarna และแพลตฟอร์มการชําระเงินออนไลน์ของธนาคารท้องถิ่นก็มอบตัวเลือกอื่นๆ ในการซื้อสินค้าและบริการทางออนไลน์ด้วยเช่นกัน

เนเธอร์แลนด์

  • iDEAL: ระบบการชําระเงินออนไลน์นี้ได้รับความนิยมอย่างมากและเป็นเจ้าตลาดในเนเธอร์แลนด์ โดยมีส่วนแบ่งตลาดถึง 70%

  • บัตรเครดิต: Visa และ Mastercard ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางสำหรับการซื้อสินค้าและบริการทางออนไลน์และที่จุดขาย

  • บัตรเดบิต: Maestro และ V PAY ก็เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์เช่นกัน โดยเฉพาะสําหรับการทำธุรกรรมภายในร้าน

  • กระเป๋าเงินดิจิทัล: Apple Pay, Google Pay และ Samsung Pay เป็นวิธีการชําระเงินแบบไร้สัมผัสที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบัน

ลักเซมเบิร์ก

  • Carte Bleue: ระบบบัตรเดบิตนี้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั่วทั้งลักเซมเบิร์กและแบรนด์เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย

  • บัตรเครดิต: Visa และ Mastercard พร้อมให้บริการทันที และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ทั้งในการทำธุรกรรมออนไลน์และออฟไลน์

  • กระเป๋าเงินดิจิทัล: Apple Pay และ Google Pay เป็นวิธีชําระเงินแบบไร้สัมผัสที่มีผู้ใช้งานมากขึ้นเรื่อยๆ

การขยายตลาด

  • Payconiq: เนื่องจาก Bancontact ขยายธุรกิจไปยังประเทศใกล้เคียง การเป็นพาร์ทเนอร์กับ Payconiq จึงช่วยให้ชําระเงินข้ามพรมแดนในเบลเยียม เนเธอร์แลนด์ และลักเซมเบิร์กได้อย่างง่ายดาย

  • ระบบการชําระเงินอื่นๆ ในภูมิภาค: ในขณะที่ Bancontact ขยายธุรกิจเพิ่มเติม บริษัทจะต้องแข่งขันกับระบบการชําระเงินที่ได้รับความนิยมในภูมิภาค เช่น EPS ในออสเตรียและ Giropay ในเยอรมนี

เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Payments

Payments

รับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกด้วยโซลูชันการชำระเงินที่สร้างมาสำหรับธุรกิจทุกขนาด

Stripe Docs เกี่ยวกับ Payments

ค้นหาคู่มือเกี่ยวกับการเชื่อมต่อ Payments API ของ Stripe