โมเดลรายรับจากการชําระเงินตามรอบบิลมีประโยชน์ต่อธุรกิจได้หลายวิธี โดยสามารถเปลี่ยนยอดขายที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราวให้กลายเป็นรายรับประจำเดือนที่สม่ำเสมอ ช่วยให้ธุรกิจสร้างความสัมพันธ์อันยาวนานกับลูกค้า และช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ปรับแต่งบริการให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น นอกจากนี้ ผู้สมัครใช้บริการที่เรียกเก็บเงินตามแบบแผนล่วงหน้ายังช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถดําเนินงานแบบอัตโนมัติ รวมทั้งสํารวจโอกาสในการปรับแต่งผลิตภัณฑ์และประสบการณ์โดยอิงตามข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า

แต่ก่อนอื่นธุรกิจต้องตัดสินใจว่าจะใช้โมเดลรายรับจากการชําระเงินตามรอบบิลรูปแบบใด เศรษฐกิจแบบชําระเงินตามรอบบิลเติบโตขึ้นกว่า 435% ในทศวรรษที่ผ่านมาในทุกอุตสาหกรรม และก็มีโมเดลต่างๆ เกิดขึ้นมากมายเพื่อตอบโจทย์กรณีการใช้งานของลูกค้าที่หลากหลาย

ด้านล่างนี้ เราจะอธิบายสิ่งที่คุณต้องรู้เพื่อประกอบกระบวนการตัดสินใจ ซึ่งจะรวมถึงการอธิบายโมเดลรายรับจากการชําระเงินตามรอบบิลประเภทต่างๆ ความแตกต่าง และวิธีเลือกโมเดลที่เหมาะกับความต้องการของคุณ

บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง

• โมเดลรายรับจากการชําระเงินตามรอบบิลทํางานอย่างไร
  
• ประเภทของโมเดลรายรับจากการชําระเงินตามรอบบิล
  
• ธุรกิจประเภทใดบ้างใช้โมเดลรายรับจากการชําระเงินตามรอบบิล
  
• ข้อดีและข้อเสียของโมเดลรายรับจากการชําระเงินตามรอบบิลแต่ละแบบ
  
• ประโยชน์ของการใช้โมเดลรายรับจากการชําระเงินตามรอบบิล
  
• วิธีเลือกโมเดลรายรับจากการชําระเงินตามรอบบิลที่เหมาะสม
  

โมเดลรายรับจากการชําระเงินตามรอบบิลทํางานอย่างไร

โมเดลรายรับจากการชําระเงินตามรอบบิลสร้างกระแสรายรับที่มั่นคงด้วยการมอบบริการหรือผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหนึ่ง ต่อไปนี้คือวิธีการทำงานของโมเดลต่างๆ

• การชําระเงินตามแบบแผนล่วงหน้า
  ผู้สมัครใช้บริการยินยอมที่จะชำระค่าผลิตภัณฑ์หรือบริการในลักษณะตามแบบแผนล่วงหน้า เช่น รายเดือน รายปี หรือรอบเวลาอื่นๆ ซึ่งเหมือนกับการเป็นสมาชิกยิมที่ต่ออายุอัตโนมัติในแต่ละเดือนจนกว่าคุณจะยกเลิก โมเดลนี้ช่วยให้บริษัทต่างๆ มีแหล่งที่มาของรายรับที่คาดการณ์ได้ ทำให้วางแผนและจัดทํางบประมาณได้ดีขึ้น

• การเรียกเก็บเงินอัตโนมัติ
  เพื่อรักษาความต่อเนื่องและลดงานด้านการบริหาร การชำระเงินตามรอบบิลมักใช้ระบบอัตโนมัติในการเรียกเก็บเงินจากลูกค้า ใบเรียกเก็บเงินจะได้รับการชำระตรงเวลาโดยที่ลูกค้าไม่ต้องดําเนินการใดๆ

• สิทธิ์ในการมีกรรมสิทธิ์ครอบครอง
  ลูกค้าจ่ายเงินเพื่อรับสิทธิ์เข้าถึงผลิตภัณฑ์หรือบริการแทนที่จะเป็นเจ้าของเอง เมื่อเช่าภาพยนตร์ออนไลน์ คุณสามารถดูได้บ่อยเท่าที่คุณต้องการภายในระยะเวลาการเช่า

• ความสัมพันธ์กับลูกค้า
  โมเดลการชําระเงินตามรอบบิลต้องอาศัยการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาว การสร้างคุณค่าอย่างต่อเนื่องหมายความว่าบริษัทต้องคงการมีส่วนร่วมของลูกค้าและดึงดูดให้สมัครใช้บริการอยู่เสมอ

• บริการที่ปรับแต่งได้
  บริษัทสามารถปรับเปลี่ยนบริการได้ตามความคิดเห็นและรูปแบบการใช้งานของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อจัดการกับความต้องการและความชอบของลูกค้า

• เมตริกและการวิเคราะห์
  การติดตามตรวจสอบพฤติกรรมของผู้สมัครใช้บริการอย่างต่อเนื่องจะให้ข้อมูลเชิงลึกสําหรับการปรับปรุง และบริษัทต่างๆ จะปรับเปลี่ยนบริการได้ตามข้อมูลที่เก็บรวบรวม

• บริการและการสนับสนุนลูกค้า
  การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องช่วยให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุดจากการสมัครใช้บริการ ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ

การมุ่งเน้นไปที่องค์ประกอบเหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจสามารถขยายฐานผู้สมัครใช้บริการ สร้างรายรับที่สม่ำเสมอ และลงทุนในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์หรือบริการเมื่อเวลาผ่านไป

ประเภทของโมเดลรายรับจากการชําระเงินตามรอบบิล

ธุรกิจต่างๆ ใช้โมเดลรายรับจากการชําระเงินตามรอบบิลที่หลากหลายเพื่อสร้างรายรับตามแบบแผนล่วงหน้าจากลูกค้าเพื่อแลกกับการเข้าถึงผลิตภัณฑ์หรือบริการอย่างต่อเนื่อง ต่อไปนี้คือโมเดลประเภทต่างๆ

• อัตราคงที่: โมเดลนี้เป็นเรื่องของความเรียบง่าย บริษัทต่างๆ เรียกเก็บค่าธรรมเนียมคงที่ราคาเดียวสําหรับการเข้าถึงผลิตภัณฑ์หรือบริการในช่วงเวลาที่กําหนด ไม่สําคัญว่าลูกค้าจะใช้บริการหรือผลิตภัณฑ์มากแค่ไหน ทุกคนจะถูกเรียกเก็บเงินในอัตราเดียวกัน

• การใช้งานแบบแบ่งระดับ: ในโมเดลนี้ มีบริการหรือผลิตภัณฑ์ในระดับต่างๆ ซึ่งแต่ละระดับจะมีราคาแตกต่างกัน ลองนึกถึงการสั่งอาหารเรียกน้ำย่อย อาหารจานหลัก หรือมื้ออาหารแบบฟูลคอร์ส ยิ่งคุณสั่งมากเท่าไร ก็ยิ่งต้องจ่ายมากเท่านั้น

• ต่อผู้ใช้: ผู้ใช้แต่ละรายต้องจ่ายค่าธรรมเนียมแยกกันในโมเดลนี้ และราคาจะเพิ่มขึ้นตามจํานวนบัญชี นอกเหนือจากจํานวนบัญชีแล้ว ปริมาณการใช้แง่ของแต่ละบุคคลจะไม่ส่งผลกระทบต่อราคา โมเดลนี้มักจะถูกใช้โดยบริษัทให้บริการระบบซอฟต์แวร์ (SaaS)

• ฟรีเมียม: ในโมเดลนี้บริการพื้นฐานจะไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ธุรกิจต่างๆ จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับการใช้งานระดับพรีเมียมหรือการอัปเกรดบริการ ซึ่งคล้ายกับแอปฟรีบนโทรศัพท์ของคุณที่ต้องซื้อเพื่อปลดล็อกฟีเจอร์หรือลบโฆษณา

• ตามการใช้งาน: โมเดลนี้เรียกเก็บเงินตามปริมาณการใช้ ลองนึกถึงบิลค่าไฟฟ้าของคุณ ยิ่งคุณใช้มากเท่าไหร่ คุณก็ต้องจ่ายมากขึ้นเท่านั้น โมเดลนี้พบบ่อยในบริการคลาวด์ ซึ่งค่าธรรมเนียมจะอิงตามพื้นที่เก็บข้อมูลหรือแบนด์วิดท์ที่ใช้

• ใบอนุญาต: บริษัทซอฟต์แวร์ที่มักใช้โมเดลนี้ โดยให้สิทธิ์การใช้งานแก่ลูกค้าตามระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งคล้ายกับการเช่ารถที่คุณชําระเงินเพื่อใช้เป็นเวลา 1-2 ปี จากนั้นคุณจะสามารถเลือกต่ออายุหรืออัปเกรด

โมเดลแต่ละแบบมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันและตอบสนองความต้องการและความชอบของลูกค้าที่แตกต่างกัน ธุรกิจมักจะเลือกโมเดลแบบใดแบบหนึ่งหรือหลายโมเดลผสมกัน โดยอิงตามลักษณะของผลิตภัณฑ์หรือบริการ ความต้องการของตลาด และรูปแบบพฤติกรรมของลูกค้า

ธุรกิจประเภทใดบ้างที่ใช้โมเดลรายรับจากการชําระเงินตามรอบบิล

ธุรกิจในภาคส่วนต่างๆ ต่างนำรูปแบบการชำระเงินตามรอบบิลมาใช้กันอย่างแพร่หลายเนื่องจากความสามารถในการสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ลองมาดูประเภทของธุรกิจที่มักจะใช้โมเดลเหล่านี้กัน

• การให้บริการระบบซอฟต์แวร์ (SaaS)
  บริษัทที่ให้บริการซอฟต์แวร์แบบชำระเงินตามรอบบิลอนุญาตให้ผู้ใช้จ่ายเงินสําหรับสิทธิ์เข้าถึง แทนที่จะซื้อซอฟต์แวร์ทั้งหมด โมเดลนี้เป็นส่วนหลักในภาคเทคโนโลยี ซึ่งธุรกิจให้บริการทุกอย่าง ตั้งแต่เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพไปจนถึงโซลูชันระดับองค์กรที่ซับซ้อน

• สื่อและความบันเทิง
  บริการสตรีมสําหรับเพลง ภาพยนตร์ และรายการโทรทัศน์เป็นตัวอย่างที่สําคัญของโมเดลการชำระเงินตามรอบบิล ซึ่งได้เปลี่ยนแปลงวิธีการบริโภคสื่อของเรา โดยเปลี่ยนจากผลิตภัณฑ์ทางกายภาพหรือดิจิทัลที่ซื้อแยกรายการมาเป็นรูปแบบการเข้าถึงอย่างต่อเนื่อง

• กล่องรับสินค้า
  นี่คือแนวคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ในแวดวงอีคอมเมิร์ซ โดยบริษัทเหล่านี้จะคัดเลือกและส่งมอบสินค้าต่างๆ ให้กับผู้สมัครใช้บริการเป็นประจำ ตั้งแต่อาหารรสเลิศไปจนถึงเครื่องสำอาง องค์ประกอบเซอร์ไพรส์ในกล่องรับสินค้าจะช่วยดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้

• สิ่งพิมพ์
  สำนักพิมพ์หลายแห่งเปลี่ยนจากการสิ่งพิมพ์ขายแบบฉบับเดียวมาเป็นรูปแบบการชำระเงินตามรอบบิล ซึ่งทำให้ผู้อ่านสามารถเข้าถึงเนื้อหาดิจิทัลและการสมัครสมาชิกสิ่งพิมพ์แบบดั้งเดิมได้อย่างต่อเนื่อง

• ฟิตเนสและสุขภาพ
  ยิมและโปรแกรมสุขภาพส่วนบุคคลมักจะใช้โมเดลการชำระเงินตามรอบบิล เพื่อให้สิทธิ์สมาชิกเข้าถึงสิ่งอํานวยความสะดวกแผนสุขภาพส่วนบุคคลหรือการฝึกสอน

• การศึกษาและการอบรม
  แพลตฟอร์มหลักสูตรออนไลน์และแพลตฟอร์มการพัฒนาเสนอบริการแบบชำระเงินตามรอบบิลเพื่อโอกาสในการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นไปยังบุคคลที่ต้องการเพิ่มทักษะและบริษัทที่ต้องการลงทุนในการพัฒนาพนักงาน

นี่เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนของการนำโมเดลการชำระเงินตามรอบบิลไปใช้ในวงกว้าง โมเดลแบบชําระเงินตามรอบบิลนี้เหมาะกับเศรษฐกิจดิจิทัลและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่ต้องการความยืดหยุ่นและคุณค่าที่ต่อเนื่อง

ข้อดีและข้อเสียของโมเดลรายรับจากการชําระเงินตามรอบบิลแต่ละแบบ

โมเดลรายรับจากการชําระเงินตามรอบบิลได้พลิกโฉมวิธีที่ธุรกิจสร้างรายรับและโต้ตอบกับลูกค้า โดยแต่ละโมเดลก็มีข้อดีและความท้าทายที่ไม่เหมือนใคร:

อัตราคงที่

• ข้อดี: โมเดลนี้เข้าใจได้ง่าย โดยถือเป็นจุดดึงดูดอันทรงพลังสำหรับลูกค้าที่กำลังมองหาโซลูชันที่ตรงไปตรงมา และสามารถสร้างความภักดีต่อแบรนด์ที่แข็งแกร่งได้เมื่อจับคู่กับคุณค่าที่สม่ำเสมอ

• ข้อเสีย: การขาดความยืดหยุ่นอาจทำให้ลูกค้าเลิกใช้บริการ นอกจากนี้ ธุรกิจยังเสี่ยงที่จะสูญเสียรายรับจากผู้ใช้ที่มีกำลังซื้อสูงที่เต็มใจจ่ายเงินเพื่อใช้ฟีเจอร์หรือบริการเพิ่มเติม

การใช้งานแบบแบ่งระดับ

• ข้อดี: โมเดลแบบแบ่งระดับตอบโจทย์ตลาดในวงกว้าง ตั้งแต่บุคคลที่มีคำนึงถึงงบประมาณ ไปจนถึงองค์กรที่ใช้ทรัพยากรมาก โมเดลนี้ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารุแบ่งกลุ่มตลาดและปรับแต่งบริการให้ตรงกับความต้องการที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งสามารถเพิ่มรายรับสูงสุดจากกลุ่มลูกค้าแต่ละกลุ่ม

• ข้อเสีย: การออกแบบระดับที่มีความแตกต่างในแง่ของคุณค่าและป้องกันไม่ให้มีตัวเลือกที่มากเกินไปอาจเป็นเรื่องท้าทาย ธุรกิจต่างๆ จะต้องพยายามลดการแข่งขันราคากันเองให้เหลือน้อยที่สุด เนื่องจากธุรกิจในระดับล่างจะลดผลกำไรของธุรกิจในระดับที่สูงกว่า

ต่อผู้ใช้

• ข้อดี: โมเดลนี้เชื่อมโยงค่าใช้จ่ายกับจํานวนบัญชีผู้ใช้โดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมสําหรับธุรกิจกับธุรกิจ (B2B) ซึ่งช่วยให้คุณเพิ่มประสิทธิภาพค่าใช้จ่ายได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังสามารถกระตุ้นการเติบโตตามธรรมชาติภายในองค์กรของลูกค้าเมื่อฐานผู้ใช้ขยายตัว

• ข้อเสีย: อาจจำกัดการเติบโตโดยไม่เจตนา หากลูกค้าคิดการเพิ่มว่าลูกค้ารายใหม่มีราคาสูงเกินไป

ฟรีเมียม

• ข้อดี: โมเดลฟรีเมียมช่วยลดอุปสรรคในการเข้าสู่ตลาดและช่วยให้ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าได้สัมผัสกับคุณค่าหลักที่เสนอ โดยไม่ต้องลงทุนทางการเงิน

• ข้อเสีย: การเปลี่ยนลูกค้าเป็นผู้ใช้แบบชําระเงินถือเป็นเรื่องที่ท้าทาย และโมเดลนี้ต้องอาศัยการสร้างสมดุลทางเศรษฐกิจอย่างระมัดระวังเพื่อให้มั่นใจว่าต้นทุนในการให้บริการผู้ใช้ฟรีจะไม่มากเกินกว่ารายรับจากยอดขาย

ตามการใช้งาน

• ข้อดี: โมเดลนี้ให้ความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับขนาด ซึ่งอาจดึงดูดความสนใจเป็นพิเศษในอุตสาหกรรมซึ่งคาดการณ์การใช้งานได้ยาก

• ข้อเสีย: ธุรกิจต้องเผชิญกับความท้าทายด้านความสามารถในการคาดการณ์รายรับ และต้องให้ความรู้แก่ลูกค้าเกี่ยวกับการแปลการใช้งานเป็นการเรียกเก็บเงิน

ใบอนุญาต

• ข้อดี: การออกใบอนุญาตมักประกอบด้วยการชําระเงินล่วงหน้าที่สูงขึ้น ซึ่งจะช่วยสนับสนุนช่วงการเติบโตของธุรกิจในระยะแรกได้ วิธีนี้ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าจะไม่ต้องเผชิญกับการขึ้นราคาอย่างกะทันหัน และสามารถวางงบประมาณในระยะยาวได้

• ข้อเสีย: ตลาดกําลังปรับตัวไปใช้โมเดลที่ยืดหยุ่นมากขึ้น และใบอนุญาตอาจถูกมองว่าไม่ยืดหยุ่น นอกจากนี้ ธุรกิจยังต้องดำเนินการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อดึงดูดให้เกิดการต่ออายุ

ประโยชน์ของการใช้โมเดลรายรับจากการชําระเงินตามรอบบิล

เราได้กล่าวถึงประโยชน์ทางธุรกิจบางประการจากการใช้รูปแบบรายรับจากการชำระเงินตามรอบบิลไปแล้ว ซึ่งรวมถึงข้อได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ที่มากกว่ากระแสรายได้ตามปกติ รายละเอียดมีดังนี้

• ความสามารถในการคาดการณ์รายรับด้วยการวิเคราะห์ขั้นสูง
  โมเดลการชําระเงินตามรอบบิลมีกระแสรายรับที่สม่ำเสมอ แต่ประโยชน์ที่แท้จริงมาจากการวิเคราะห์ต่อยอดแบบเป็นชั้นโดยใช้ข้อมูลของผู้สมัครใช้บริการ ธุรกิจสามารถสร้างโมเดลรายรับในอนาคตได้ด้วยอัลกอริทึมที่ซับซ้อน โดยพิจารณาจากปัจจัยทางบัญชีต่างๆ เช่น อัตราการต่ออายุ แนวโน้มการเลิกใช้บริการ และโอกาสในการขายต่อยอดที่อาจเกิดขึ้น วิธีการที่อิงจากข้อมูลนี้ช่วยให้ทำการปรับแต่งราคา บรรจุภัณฑ์ และกลยุทธ์การมีส่วนร่วมของลูกค้าได้ในลักษณะที่การคาดการณ์ยอดขายแบบปกติทำไม่ได้

• การเพิ่มประสิทธิภาพมูลค่าตลอดอายุการใช้งานของลูกค้า
  การชําระเงินตามรอบบิลจะช่วยเพิ่มมูลค่าตลอดอายุการใช้งานของลูกค้า ธุรกิจต่างๆ สามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้โดยใช้ข้อมูลเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับประสบการณ์ของลูกค้าและระบุจุดติดต่อที่นําไปสู่การขายต่อยอด การขายต่อเนื่อง และความภักดี การติดตามปฏิสัมพันธ์และคําติชมจากลูกค้าจะช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นในเชิงรุก ลดอัตราการเลิกใช้บริการ/ซื้อสินค้าก่อนที่จะเกิดขึ้น รวมทั้งปรับแต่งประสบการณ์เพื่อเพิ่มความพึงพอใจและใช้จ่ายเมื่อเวลาผ่านไป

• โครงสร้างค่าบริการแบบไดนามิก
  โมเดลการชําระเงินตามรอบบิลช่วยให้มีกลยุทธ์ค่าบริการที่สามารถปรับให้เข้ากับเงื่อนไขของตลาด แนวโน้มการใช้งาน และมูลค่าของลูกค้าแต่ละราย ซึ่งอาจหมายถึงการปรับราคาสําหรับกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน โดยมอบส่วนลดที่ปรับให้เหมาะกับบุคคลเพื่อเพิ่มอัตราการรักษาลูกค้า หรือการเพิ่มระดับพรีเมียมสําหรับลูกค้าที่มีมูลค่าสูง เป้าหมายคือการหาโครงสร้างค่าบริการที่เหมาะสมที่สุดที่ช่วยเพิ่มรายรับโดยไม่กระทบต่อการเติบโตหรือความพึงพอใจของลูกค้า

• ประสิทธิผลทางต้นทุนผ่านการจัดการซัพพลายเชนแบบคาดการณ์
  ด้วยสัญญาณความต้องการอันคงที่จากสมาชิก บริษัทต่างๆ จะสามารถใช้การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานเชิงคาดการณ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสินค้าคงคลัง ลดของเสีย และเจรจาเงื่อนไขที่ดีกว่ากับซัพพลายเออร์ ขั้นตอนนี้ครอบคลุมทุกด้านของห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงโลจิสติกส์ คลังสินค้า และการวางแผนแรงงาน

• การหาลูกค้าใหม่เชิงกลยุทธ์
  มูลค่าตลอดอายุการใช้งานที่โมเดลการชําระเงินตามรอบบิลมอบให้ช่วยให้ธุรกิจมีกลยุทธ์ในการหาลูกค้าใหม่มากขึ้น ธุรกิจสามารถลงทุนเพิ่มในการดึงดูดลูกค้าที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป โดยมุ่งเป้าไปที่ลูกค้าที่มีคุณภาพสูงซึ่งมีแนวโน้มที่จะมีส่วนร่วมในระยะยาว กลยุทธ์การหาลูกค้าใหม่นี้มีความยั่งยืนกว่า และสามารถสร้างฐานลูกค้าที่มีคุณภาพสูงขึ้นได้

• วงจรความคิดเห็นเกี่ยวกับนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการ
  ความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องกับลูกค้าทำให้เกิดวงจรความคิดอย่างต่อเนื่องซึ่งมีค่าอย่างยิ่งต่อการสร้างนวัตกรรม บริษัทต่างๆ สามารถทดสอบฟีเจอร์หรือผลิตภัณฑ์ใหม่กับกลุ่มฐานผู้ใช้บริการก่อนเปิดตัว ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงและดูแลให้แน่ใจว่าความพยายามในการพัฒนาตรงกับความต้องการของลูกค้า

• กระแสเงินสดสําหรับการลงทุนที่ยั่งยืน
  ธุรกิจต่างๆ สามารถใช้รายได้จากการชําระเงินตามรอบบิลที่คาดการณ์ได้เพื่อสร้างนวัตกรรมที่ยั่งยืน รวมทั้งใช้ภาพรวมในระยะยาวของแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ โดยลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาเพื่อมั่นใจว่าจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากผู้ใช้บริการ

• ระบบนิเวศของแบรนด์
  โมเดลการชําระเงินตามรอบบิลสามารถเปลี่ยนฐานลูกค้าให้เป็นระบบนิเวศของแบรนด์ได้ โดยจะมอบรากฐานสำหรับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเกิดจากความไว้วางใจและความภักดีที่ได้จากความสัมพันธ์แบบชำระเงินตามรอบบิล จากนั้นธุรกิจจะสามารถมอบจุดติดต่อหลายจุดสําหรับการมีส่วนร่วมและการใช้จ่ายซึ่งจะช่วยขยายการดําเนินธุรกิจของแบรนด์ได้

วิธีเลือกโมเดลรายรับจากการชําระเงินตามรอบบิลที่เหมาะสม

การเลือกโมเดลรายรับจากการชําระเงินตามรอบบิลที่เหมาะสมเป็นการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่ขึ้นอยู่กับความรู้อย่างละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ตลาด และลูกค้าของคุณ ต่อไปนี้คือภาพรวมของกระบวนการเลือกโมเดลการชําระเงินตามรอบบิลที่เหมาะสมที่สุดสําหรับธุรกิจของคุณ

• เรียนรู้รูปแบบและค่ากําหนดการใช้งานของลูกค้า
  วิเคราะห์วิธีที่ลูกค้าใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ การใช้งานบ่อยครั้งและสม่ำเสมอเหมาะกับรูปแบบอัตราคงที่ ในขณะที่โครงสร้างแบบจ่ายตามการใช้งานอาจเหมาะกับการใช้งานที่แปรผัน

• ประเมินความซับซ้อนของผลิตภัณฑ์หรือบริการ
  ประเมินความซับซ้อนของสิ่งที่คุณให้บริการ ผลิตภัณฑ์ที่เรียบง่ายและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสามารถสร้างรายรับผ่านโมเดลอัตราคงที่ได้อย่างมีประสิทธิผล ในขณะที่บริการอันซับซ้อนที่มีฟีเจอร์มากมายอาจจำเป็นต้องใช้กลยุทธ์แบบแบ่งระดับที่อนุญาตให้ลูกค้าเลือกระดับที่เหมาะกับความต้องการของตนที่สุด

• พิจารณาจุดยืนในตลาดและการรับรู้แบรนด์
  พิจารณาจุดยืนของคุณในตลาดและแนวทางการรับรู้ถึงแบรนด์ของคุณ หากคุณถูกมองว่าเป็นผู้ให้บริการระดับพรีเมียม โมเดลแบบแบ่งระดับที่มีตัวเลือกราคาสูงและมีค่าใช้จ่ายสูงจะได้ประโยชน์จากการรับรู้นี้ หากคุณตั้งเป้าที่จะพลิกโฉมตลาดด้วยทางเลือกที่มีค่าใช้จ่ายต่ํา รูปแบบฟรีเมียมหรือแบบอัตราคงที่ที่ต่ําอาจเป็นวิธีที่ดีที่สุด

• ประเมินค่าใช้จ่ายในการหาลูกค้าใหม่และการรักษาลูกค้า
  พิจารณาค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการหาลูกค้าใหม่และการรักษาลูกค้า หากการหาลูกค้าใหม่มีค่าใช้จ่ายสูง การใช้รูปแบบที่เน้นการรักษาลูกค้าในระยะยาว เช่น ใบอนุญาตหรือการสมัครใช้บริการในระดับสูงกว่า อาจประหยัดกว่า และมอบเวลาในการถอนทุนคืนได้นานขึ้น

• วิเคราะห์เป้าหมายทางการเงินและการจัดหาเงินทุน
  โมเดลที่คุณเลือกจะต้องตรงกับเป้าหมายทางการเงินและลักษณะการจัดหาเงินทุนของคุณ โมเดลการชําระเงินตามรอบบิลที่สร้างรายรับตามแบบแผนล่วงหน้าที่คาดการณ์ได้อาจเป็นจุดดึงดูดสำหรับนักลงทุนและสนับสนุนแผนการเติบโตที่ยิ่งใหญ่

• ทดสอบและทำซ้ำ
  เมื่อคุณได้ทำการเลือกเบื้องต้นแล้ว ให้ทดสอบโมเดลของคุณกับกลุ่มย่อยในตลาดของคุณ ใช้ข้อมูลคำติชมและการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชำระเงินจากลูกค้าจริงเพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์ของคุณอย่างต่อเนื่องและติดตามความต้องการของลูกค้าและสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป

• ดําเนินการตามข้อกําหนดและข้อพิจารณาทางกฎหมาย
  ตรวจสอบให้โมเดลการสมัครใช้บริการของคุณเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับระดับภูมิภาคและระดับสากล รวมถึงส่วนที่เกี่ยวข้องกับสิทธิ์ผู้บริโภคและการคุ้มครองข้อมูล โมเดลที่ยืดหยุ่นพอที่จะปรับตัวให้เข้ากับข้อกําหนดทางกฎหมายต่างๆ ในตลาดอาจเป็นข้อได้เปรียบเชิงกลยุทธ์

การออกแบบโมเดลการชำระเงินตามรอบบิลของคุณมักจะต้องใช้กลยุทธ์แบบทำซ้ำที่ตรวจสอบแผนของคุณอีกครั้งเมื่อธุรกิจเติบโต ตลาดผันผวน และความคาดหวังของลูกค้าเปลี่ยนแปลงไป การนําโมเดลการชําระเงินตามรอบบิลมาใช้งานจะต้องมีการวางแผนเชิงกลยุทธ์และการปรับตัวตามการปฏิบัติงาน เพื่อจับคู่เป้าหมายทางธุรกิจกับสิ่งที่ลูกค้าต้องการจริงๆ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Stripe รองรับโมเดลการสมัครใช้บริการแบบต่างๆสําหรับธุรกิจ