การประเมินหาวิธีการที่มีประสิทธิภาพและได้ผลมากที่สุดในเชิงกลยุทธ์เพื่อเพิ่มรายรับเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อสิ่งที่เคยได้ผลครั้งหนึ่งอาจจะมีประสิทธิผลน้อยลงในครั้งต่อๆ มา เนื่องจากรายรับของธุรกิจขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของตลาดและความต้องการสินค้าที่ไม่แน่นอน การหาวิธีใหม่ๆ มาช่วยดึงดูดและรักษาลูกค้าจึงเป็นเรื่องที่ซับซ้อน สําหรับธุรกิจระดับองค์กรแล้ว นี่อาจหมายถึงการสร้างและรักษาจุดยืนในตลาดที่แตกต่างจากคู่แข่ง แต่ก็ต้องชัดเจน คล่องตัว และปรับตัวได้ดี
กลยุทธ์ส่งเสริมการเติบโตแบบเดิมๆ ได้แก่ การเพิ่มราคา การอัดฉีดใช้จ่ายด้านการตลาด การขยายทีมขาย และการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ซึ่งนอกจากตัวเลือกเหล่านี้ที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้ว ยังมีเครื่องมือที่มีประโยชน์อีกมากมายที่อาจส่งผลต่อรายรับได้เช่นกัน หนึ่งในวิธีเพิ่มรายรับของธุรกิจระดับองค์กรแต่ยังไม่ค่อยนิยมนำมาใช้กันก็คือการปรับปรุงประสบการณ์ด้านการค้าให้มีความเหมาะสม ประสบการณ์การซื้อไม่เพียงช่วยยกระดับความพึงพอใจโดยรวมของลูกค้าต่อแบรนด์ของคุณเท่านั้น แต่ยังช่วยขยายนวัตกรรมในตลาด เพิ่มการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และเพิ่มอัตราการเปลี่ยนเป็นลูกค้าด้วย
การทําความเข้าใจประสบการณ์การซื้ออย่างรอบด้าน รวมถึงแพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินที่บริษัทของคุณใช้มอบประสบการณ์ดังกล่าว จะช่วยคุณสร้างเส้นทางเพิ่มรายรับที่ไม่เหมือนใครและมีประสิทธิภาพ ต่อไปนี้คือข้อมูลโดยย่อเกี่ยวกับกลยุทธ์และเครื่องมือที่เกี่ยวข้องซึ่งควรนํามาพิจารณาเมื่อคุณวางแผนจะเพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์การซื้อและเพิ่มรายรับ
บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง
- อะไรเป็นตัวกําหนดประสบการณ์การซื้อ
- เหตุใดต้องเน้นที่ประสบการณ์การซื้อ
- กลยุทธ์เพิ่มรายรับและปรับปรุงประสบการณ์การซื้อ
- เพิ่มประสิทธิภาพให้ขั้นตอนการชําระเงิน
- เพิ่มวิธีการชําระเงินที่ยอมรับ
- ให้บริการการจัดหาเงินทุนที่ยืดหยุ่นด้วยวิธีซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง
- ลดปัญหาการฉ้อโกงและปัญหาการชําระเงินที่เกี่ยวข้อง
- เพิ่มประสิทธิภาพการอนุมัติ
- เพิ่มประสิทธิภาพให้ขั้นตอนการชําระเงิน
อะไรเป็นตัวกําหนดประสบการณ์การซื้อ
ในการทําความเข้าใจประสบการณ์การซื้อนั้น คุณจะต้องรู้จักกลไกโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับระบบการชําระเงินของคุณอย่างถ่องแท้ รวมถึงวิธีที่ลูกค้าจะโต้ตอบกับทุกรายละเอียดภายนอกที่ระบบรองรับ เราแนะนำให้คุณพิจารณาขั้นตอนการเปลี่ยนเป็นลูกค้า หรือขั้นตอนที่ลูกค้าจะดําเนินการก่อนถึงขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งก็คือขั้นตอนการซื้อผลิตภัณฑ์ที่ธุรกิจต้องการ เช่น เมื่อลูกค้าของคุณเข้าใกล้หรือมาถึงขั้นตอนการซื้อแล้ว อุปสรรคที่ลูกค้าอาจพบเจอมีอะไรบ้าง โอกาสที่ลูกค้าจะทําการซื้อได้อย่างรวดเร็วและราบรื่นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้อยู่ตรงไหนบ้าง
การออกแบบประสบการณ์การซื้อที่รวดเร็วและราบรื่นมีประโยชน์ที่เป็นรูปธรรม เมื่อดูข้อมูลสถิติที่บอกว่าผู้ซื้อออนไลน์ประมาณ 70%จะหยิบสินค้าใส่รถเข็นของคุณแล้วละทิ้งในเวลาต่อมา แสดงให้เห็นว่าเราจะต้องความเข้าใจและหาวิธีลดความซับซ้อนของขั้นตอนนี้ให้กับลูกค้า การพิจารณาขั้นตอนและตัวเลือกต่างๆ ที่นำเสนอแก่ลูกค้า ตั้งแต่วิธีการชําระเงินไปจนถึงขั้นตอนการชําระเงินสำหรับผู้ใช้ที่ไม่ได้เข้าสู่ระบบบัญชี จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของประสบการณ์การซื้อได้อย่างละเอียดยิ่งขึ้น
เหตุใดต้องเน้นที่ประสบการณ์การซื้อ
การปรับปรุงประสบการณ์การซื้อให้ประโยชน์ที่สําคัญมากมาย ตั้งแต่การเพิ่มอัตราการเปลี่ยนเป็นลูกค้า ไปจนถึงการเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าและสร้างความภักดีต่อแบรนด์ เมื่อผู้บริหารประเมินความเป็นไปได้ในการขยายธุรกิจ ประสบการณ์ในการซื้อมักจะเป็นเรื่องที่ถูกมองข้าม แต่ในความเป็นจริงแล้ว เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดชนิดหนึ่งที่สามารถเพิ่มรายรับให้กับธุรกิจได้อย่างมีกลยุทธ์และครอบคลุม
กลยุทธ์เพิ่มรายรับและปรับปรุงประสบการณ์การซื้อ
คุณอาจสงสัยว่าการสร้างประสบการณ์การค้าที่ได้รับการปรับให้เหมาะสมเพื่อเพิ่มรายรับให้กับธุรกิจระดับองค์กรต้องทำอย่างไรในทางปฏิบัติ หากมองในระดับสูง กระบวนการนี้ต้องอาศัยการสร้างระบบนิเวศการชําระเงินและประสบการณ์การชําระเงินที่ช่วยให้ลูกค้าชําระเงินค่าซื้อสินค้าและบริการด้วยวิธีการ ระยะเวลา และสถานที่ที่ลูกค้าต้องการ
ต่อไปนี้คือตัวอย่างวิธีการหลักๆ ที่ควรพิจารณา
เพิ่มประสิทธิภาพการชําระเงิน
เมื่อตัดสินใจว่าจะปรับกระบวนการชําระเงินของธุรกิจ คุณควรคํานึงถึงสิ่งที่ลูกค้าให้ความสำคัญมากที่สุด ได้แก่ ความเร็ว ความสะดวกในการใช้งาน และการรักษาความปลอดภัย ไม่ว่าคุณจะรับชําระเงินที่จุดขายหรือทางออนไลน์ กระบวนการชําระเงินที่ยุ่งยากจะทำให้ลูกค้าหงุดหงิด ตัดสินใจไม่กลับมาซื้อซ้ำหรือแม้กระทั่งออกจากขั้นตอนการซื้อก่อนจะทำรายการเสร็จสมบูรณ์
สําหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ การขจัดอุปสรรคออกจากขั้นตอนการชําระเงินบนเว็บไซต์ของคุณอาจทำได้โดยการเพิ่มตัวเลือกให้ลูกค้าชําระเงินโดยไม่ต้องเข้าสู่ระบบบัญชี หรือการกรอกข้อมูลให้ลูกค้าล่วงหน้า Stripe นําเสนอโซลูชันหลากหลายรูปแบบที่จะช่วยเร่งขั้นตอนการชําระเงินให้รวดเร็วยิ่งขึ้น เช่น Link โดย Stripe ซึ่งช่วยให้ลูกค้าซื้อสินค้าและบริการได้โดยการคลิกเพียงครั้งเดียว หรือStripe Elements ที่ช่วยให้ธุรกิจใช้ประโยชน์จากการกรอกข้อมูลอัตโนมัติ ข้อความแสดงข้อผิดพลาด การปิดบังข้อมูล และการออกแบบให้เหมาะกับสไตล์ CSS ในปัจจุบันของคุณ ฟีเจอร์ทั้งหมดเหล่านี้ช่วยเพิ่มอัตราการเปลี่ยนเป็นลูกค้า โดย Stripe Terminal จะช่วยให้คุณใช้หลักการเหล่านี้หลายอย่างกับการชําระเงินที่จุดขาย
ประโยชน์ของการเพิ่มประสิทธิภาพขั้นตอนการชําระเงินไม่ได้มีแค่ความพึงพอใจของลูกค้าเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มจํานวนลูกค้าที่ธุรกิจของคุณสามารถให้บริการภายในระยะเวลาหนึ่งๆ ด้วย นอกจากนี้ หากลูกค้าได้รับประสบการณ์การซื้อสินค้าที่ราบรื่นจากแบรนด์ของคุณ ลูกค้าก็มีแนวโน้มที่จะกลับมาซื้ออีกครั้ง ประโยชน์ของการเพิ่มอัตราการเปลี่ยนเป็นลูกค้าและการทําให้ลูกค้ามีความสุขมากขึ้นในระหว่างนั้นจนมีแนวโน้มที่จะกลับมาซื้อซ้ำ จะส่งผลกระทบต่อรายรับของคุณในระยะยาว
เพิ่มวิธีการชําระเงินที่ยอมรับ
เมื่อตัดสินใจเลือกวิธีการชําระเงินที่จะยอมรับ ควรพิจารณาทั้งในระดับโลกและระดับท้องถิ่น การรองรับวิธีการชําระเงินที่ลูกค้าต้องการ ไม่ว่าลูกค้าจะอยู่ที่ไหนในโลก จะสร้างความเชื่อมั่นและความสะดวกสบายที่จําเป็นต่อการเปลี่ยนเป็นลูกค้า นอกจากนี้ เนื่องจากธุรกิจอีคอมเมิร์ซกว่า 70% ขายสินค้าและบริการทั่วโลก การนําเสนอตัวเลือกการชําระเงินเพียงไม่กี่วิธีจึงไม่สมเหตุสมผล
การทําความเข้าใจประโยชน์ของการยอมรับวิธีการชําระเงินที่หลากหลาย รวมถึงโอกาสเฉพาะสำหรับธุรกิจ เพื่อเพิ่มตัวเลือกการชําระเงินในบางภูมิภาค อาจช่วยให้คุณเพิ่มจํานวนธุรกรรมที่ธุรกิจของคุณประมวลผล และเปิดโอกาสให้เข้าถึงตลาดใหม่ๆ ได้ ตัวอย่างเช่น ในจีน 54% ของธุรกรรมออนไลน์ดำเนินการผ่าน WeChat Pay หรือ Alipay ในขณะที่ 20% ใช้ China UnionPay ซึ่งเป็นเครือข่ายบัตรในประเทศ การไม่เสนอตัวเลือกการชําระเงินเหล่านี้หมายความว่าธุรกิจจะสูญเสียลูกค้าชาวจีนจำนวนมากไป
โซลูชันอย่าง Stripe Payments ช่วยให้ธุรกิจระดับองค์กรเสนอตัวเลือกการชําระเงินที่จําเป็นเพื่อให้แข่งขันกับกลยุทธ์การขายระดับโลกได้ และด้วยสกุลเงินกว่า 135 สกุลและวิธีการชําระเงินที่รองรับกว่า 50 วิธี Stripe Payments จะช่วยธุรกิจเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายรับ โดยทำทั้งหมดนี้ได้ด้วยการเชื่อมต่อการทํางานเพียงครั้งเดียวเท่านั้น วิธีนี้ช่วยให้บริษัทของคุณเพิ่มรายรับในตลาดหลักๆ ได้อย่างง่ายดายและราบรื่นด้วยการมอบวิธีการชําระเงินที่เหมาะสม ซึ่งส่งผลให้คุณเข้าถึงลูกค้าและตลาดต่างๆ ที่อาจจะสูญเสียไปหากไม่ใช้วิธีนี้
ให้บริการการจัดหาเงินทุนที่ยืดหยุ่นด้วยวิธีซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง
อีกวิธีหนึ่งในการดึงดูดลูกค้าให้ได้มากขึ้นก็คือการนําเสนอบริการจัดหาเงินทุนแบบยืดหยุ่น งานวิจัยแสดงให้เห็นว่า 50% ของผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาใช้บริการซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง (BNPL) และการเสนอบริการดังกล่าวช่วยเพิ่มอัตราการเปลี่ยนเป็นลูกค้าและมูลค่าธุรกรรมเฉลี่ย
วิธีการชําระเงินแบบ BNPL ไม่เพียงมอบความยืดหยุ่นและความสะดวกสบายที่จะช่วยเพิ่มจํานวนผู้ที่เปลี่ยนมาเป็นลูกค้าในขั้นตอนการชำระเงินได้มากที่สุดเท่านั้น แต่ยังลดอัตราการฉ้อโกงและเพิ่มความเร็วให้กับธุรกรรมอีกด้วย เนื่องจากช่วยให้ผู้ค้าปลีกเข้าถึงผู้ซื้อที่ต้องการผ่อนชําระเงินในระยะเวลาที่นานขึ้น BNPL ช่วยให้ผู้ซื้อปรับแต่งระยะเวลาการชําระเงินของตัวเองและแบ่งการซื้อออกเป็นงวดๆ ธุรกิจของคุณจะได้รับเงินเต็มจํานวนทันที ในขณะที่ลูกค้าสามารถเลือกชําระเงินส่วนหนึ่งของค่าใช้จ่ายทั้งหมดหรือยังไม่ต้องชำระในขั้นตอนการชําระเงิน
การให้บริการ BNPL แก่ลูกค้าจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจดังต่อไปนี้
- เพิ่มมูลค่าคําสั่งซื้อเฉลี่ย
- เพิ่มอัตราการเปลี่ยนเป็นลูกค้าในขั้นตอนการชำระเงิน
- เข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้างขึ้น
ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปตามอุตสาหกรรมและตําแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ แต่ธุรกิจที่ให้บริการวิธีการชําระเงินแบบ BNPL ผ่าน Stripe มีมูลค่าคําสั่งซื้อเฉลี่ยเพิ่มขึ้นถึง 14.5%
ประโยชน์ของ BNPL ต่อทั้งธุรกิจและผู้บริโภคมีหลายประการ ไม่ว่าลูกค้าจะเลือกตัวเลือกแบบใดของ BNPL คุณจะได้รับยอดซื้อทั้งหมดทันทีเต็มจํานวน และเนื่องจากผู้ให้บริการ BNPL จะเป็นฝ่ายประเมินและควบคุมความเสี่ยงลูกค้า รวมถึงจัดการและเรียกเก็บเงินเอง คุณจึงไม่จำเป็นต้องจัดสรรทรัพยากรจำนวนมากในการนําเสนอวิธีการชําระเงินเหล่านี้ นอกจากนี้ BNPL ยังมอบความปลอดภัยและสร้างความสบายใจให้กับธุรกิจในระดับหนึ่ง เพราะหากลูกค้าโต้แย้งการชําระเงินที่เกี่ยวกับการฉ้อโกง ผู้ให้บริการ BNPL จะเป็นผู้รับความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง
ลดปัญหาการฉ้อโกงและปัญหาการชําระเงินที่เกี่ยวข้อง
เมื่อพิจารณาประสบการณ์การซื้อที่เกี่ยวข้องกับรายรับของคุณ ปัญหาการฉ้อโกงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ การฉ้อโกงทางออนไลน์เพิ่มขึ้นทั่วโลก จากการสํารวจความคิดเห็นของผู้นําธุรกิจ 2,500 คน Stripe พบว่า 64% ระบุว่าการฉ้อโกงจะรับมือได้ยากขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่การระบาดของโรคโควิดเป็นต้นมา การต่อสู้กับการฉ้อโกงมีค่าใช้จ่ายมหาศาล เพราะไม่เพียงต้องเสียค่าใช้จ่ายไปกับการจัดการกับธุรกรรมที่เป็นการฉ้อโกง ยังต้องเสียเวลาและเปลืองแรงไปกับการป้องกันด้วย ค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานนั้นก็สูงเช่นกัน การสํารวจความคิดเห็นครั้งเดียวกันแสดงให้เห็นว่า 72% ของผู้นําธุรกิจตอบว่าพวกเขาต้องจัดสรรทรัพยากรบางส่วนมารับมือกับการฉ้อโกง ในขณะที่กว่าครึ่งหนึ่งบอกว่าพวกเขาต้องล้มเลิกแผนการขยายกิจการหรือการลงทุนเพื่อจัดการกับการฉ้อโกง
แน่นอนว่าลูกค้าของคุณมีค่าใช้จ่ายเช่นกัน แม้ธุรกิจจะรับมือกับภัยคุกคามด้านการฉ้อโกงที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ได้ด้วยการทุ่มทรัพยากรมาต่อสู้ แต่ปัญหานี้มักนําไปสู่ปัญหาที่เกี่ยวข้อง นั่นคือการบล็อกการเรียกเก็บเงินที่ดําเนินการอย่างถูกต้องอย่างรวดเร็วเกินไป การปฏิเสธการชำระเงินด้วยความผิดพลาดอาจส่งผลเสียต่อรายรับและชื่อเสียงของคุณ เมื่อมาถึงระดับหนึ่ง การปฏิเสธการชำระเงินด้วยความผิดพลาดจะทําให้กระบวนการชําระเงินช้าลง สร้างความยุ่งยาก และโอกาสที่ลูกค้าจะทำธุรกรรมจนเสร็จสิ้นมีน้อยลง อย่างไรก็ตามงานวิจัยชี้ว่าการปฏิเสธการชำระเงินด้วยความผิดพลาดไม่ใช่แค่สร้างความไม่สะดวกให้กับลูกค้าด้วยการบล็อกการซื้อแบบครั้งเดียวเท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบตลอดอายุการใช้งาน เพราะจะทำให้ลูกค้าไม่อยากกลับมาใช้บริการอีกในอนาคต
บริษัทสามารถป้องกันและจัดการกับการฉ้อโกงและปัญหาต่างๆ ที่พบเจอได้หลายวิธี บางปัญหาจัดการได้ง่าย ตัวอย่างเช่น เมื่อจัดการกับการชําระเงินออนไลน์ คุณสามารถลองใช้เครื่องมือที่ช่วยเชื่อมโยงบัญชีการเงินของลูกค้าโดยตรงเพื่อให้ส่งเงินได้อย่างง่ายดายและปลอดภัยยิ่งขึ้น ผลิตภัณฑ์อย่าง Financial Connections จะตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ด้วยข้อมูลบัญชีธนาคารอย่างรวดเร็ว ช่วยให้คุณปรับปรุงประสบการณ์ในการซื้อ ทำให้ลูกค้ากลับมาอีกครั้งและทําการซื้ออีกครั้งได้อย่างง่ายดายในอนาคต
เพิ่มประสิทธิภาพการอนุมัติ
ยังมีกลยุทธ์อื่นๆ ที่คุณสามารถใช้ปรับปรุงอัตราการอนุมัติ เมื่อใช้ Stripe Payments คุณจะเข้าถึงการอนุมัติที่ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพโดยบริษัทผู้ออกบัตรและขับเคลื่อนโดยแมชชีนเลิร์นนิง (ML) ไม่เพียงเท่านั้น คุณยังสามารถกู้คืนการปฏิเสธการชำระเงินที่เกิดจากความผิดพลาดได้ด้วย ตัวอย่างเช่น Adaptive Acceptance จะใช้แมชชีนเลิร์นนิงเพื่อลองเรียกเก็บเงินบางรายการซ้ำทันทีก่อนที่ลูกค้าจะได้รับแจ้งการปฏิเสธ และในเวลาเพียงไม่นาน ระบบจะสามารถพิจารณาใช้การส่งข้อความและเส้นทางการลองเรียกเก็บเงินซ้ำที่เหมาะสมที่สุด และทําการทดลองหลายรูปแบบเพื่อค้นหาว่ารายการใดบ้างที่จะส่งผลให้การเรียกเก็บเงินสําเร็จ เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้ลูกค้าพึงพอใจมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทําธุรกรรมสําเร็จ และยังช่วยให้คุณกู้คืนรายรับที่สูญเสียไปจากการปฏิเสธการชำระเงินด้วยความผิดพลาดด้วย
นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อตรวจจับและจัดการฉ้อโกง ตัวอย่างเช่น Stripe Radar ที่ได้รับการฝึกฝนโดยใช้จุดข้อมูลหลายพันล้านจุดจากบริษัททุกขนาดทั่วโลก Radar ใช้ข้อมูลการชําระเงินและข้อมูลเครือข่ายบัตรมาประเมินความเสี่ยงอย่างถูกต้อง จากนั้นจึงตรวจจับและบล็อกการฉ้อโกงได้อย่างแม่นยําโดยไม่ขัดขวางลูกค้าตัวจริง เครื่องมือและกลยุทธ์ทั้งหมดนี้จะช่วยคุณตรวจจับและป้องกันการฉ้อโกงและจำกัดขอบเขตความเสียหายที่อาจเป็นผลมาจากการฉ้อโกง ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียรายรับ การสูญเสียลูกค้า ไปจนถึงการก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายการดําเนินงานจำนวนมหาศาล จึงเป็นสิ่งสําคัญสําหรับธุรกิจที่ดําเนินธุรกิจทางออนไลน์ในปัจจุบัน แม้ว่าจะทำธุรกิจทางออนไลน์แค่บางส่วนก็ตาม
หากต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชุดโซลูชันของ Stripe ที่มีการปรับให้เหมาะกับธุรกิจระดับองค์กร โปรดติดต่อฝ่ายขายที่นี่
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ