Payments in Italy: An in-depth guide

Payments
Payments

รับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกด้วยโซลูชันการชำระเงินที่สร้างมาสำหรับธุรกิจทุกขนาด ตั้งแต่ธุรกิจสตาร์ทอัพไปจนถึงองค์กรใหญ่ระดับโลก

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. สถานะของตลาด
  3. วิธีการชําระเงิน
    1. การใช้งานในปัจจุบัน
    2. วิธีการชําระเงินแบบ B2C ที่ได้รับความนิยมในอิตาลี
    3. วิธีการชําระเงินแบบ B2B ที่ได้รับความนิยมในอิตาลี
    4. แนวโน้มที่กําลังเกิดขึ้น
  4. ความง่ายและความยากในการเข้าสู่ตลาด
    1. ภาษี
    2. การดึงเงินคืนและการโต้แย้งการชําระเงิน
    3. การชําระเงินระหว่างประเทศ
    4. การรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
  5. ปัจจัยหลักที่ช่วยให้ประสบความสําเร็จ
  6. ประเด็นสำคัญ
    1. ให้ความสําคัญกับความยืดหยุ่น
    2. เปิดรับนวัตกรรมดิจิทัล
    3. เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย

การขยายธุรกิจเพื่อรับการชําระเงินจากลูกค้าในอิตาลีจะเปิดโอกาสให้คุณเข้าถึงตลาดที่กว้างขวางได้ อิตาลีมีฐานลูกค้าอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป โดยมีลูกค้าออนไลน์ประมาณ 40 ล้านราย อย่างไรก็ตาม หากต้องการเข้าถึงฐานลูกค้ารายดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิผล ธุรกิจต่างๆ จำเป็นต้องเข้าใจว่าลูกค้าในอิตาลีนิยมใช้วิธีการชำระเงินแบบใด รวมทั้งทำความเข้าใจวิธีการปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับการชำระเงินในท้องถิ่น

ด้านล่างนี้เราจะอธิบายวิธีสร้างกลยุทธ์การรับชําระเงินจากลูกค้าในอิตาลีให้ประสบความสําเร็จ

  • ให้ความสําคัญกับความยืดหยุ่น
  • เปิดรับนวัตกรรมดิจิทัล
  • เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย

สถานะของตลาด

ในบริบทของการชําระเงินทั่วโลก อิตาลีมีจุดเชื่อมต่อระหว่างวัฒนธรรมและนวัตกรรมที่น่าสนใจ แม้คนอิตาลีในอดีตมักจะนิยมใช้เงินสด แต่ประเทศแห่งนี้ก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปมานิยมวิธีแบบดิจิทัล ผู้คนส่วนใหญ่ใช้บริการการชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่และกระเป๋าเงินดิจิทัลมากขึ้น และในปี 2022 ชาวอิตาลีมากกว่า 48% ได้เลือกใช้บริการธนาคารออนไลน์ นอกจากนี้ การออกใบแจ้งหนี้ทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-invoicing) ยังถือเป็นข้อบังคับสำหรับธุรกรรมแบบธุรกิจต่อธุรกิจ (B2B) ซึ่งเป็นระบบที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงเศรษฐกิจและการคลังและหน่วยงานด้านรายรับ

ธนาคารกลางของอิตาลี ซึ่งก็คือ Banca d’Italia มีหน้าที่รักษาเสถียรภาพทางการเงินและปกป้องความสมบูรณ์ของระบบสกุลเงินและการชำระเงิน ผู้เล่นหลักอีกรายหนึ่งคือ Commissione Nazionale per le Società e la Borsa (CONSOB) ซึ่งจะค่อยกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ของอิตาลี ส่งเสริมความพยายามด้านความโปร่งใส และให้การคุ้มครองนักลงทุน ในระดับที่กว้างขึ้น อิตาลีมีส่วนร่วมในกรอบการทำงานของสหภาพยุโรป ซึ่งรวมถึง Single Euro Payments Area (SEPA) และข้อบังคับทั่วไปเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูล (GDPR)] เพื่อให้แน่ใจว่าการดำเนินการทางการเงินของประเทศสะท้อนถึงมาตรฐานและแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในระดับสหภาพยุโรป

วิธีการชําระเงิน

ผู้คนในอิตาลีใช้วิธีการชําระเงินที่หลากหลาย ตั้งแต่แบบดั้งเดิมไปจนถึงสมัยใหม่ ต่อไปนี้เป็นภาพรวมเกี่ยวกับวิธีการชําระเงินที่สําคัญที่ใช้ในอิตาลี

การใช้งานในปัจจุบัน

แม้ว่าประเทศนี้จะยังคงเป็นหนึ่งในประเทศผู้ใช้เงินสดรายใหญ่ที่สุดในยุโรป แต่นวัตกรรมใหม่ๆ ก็ได้ท้าทายสถานะเดิมนี้ รายงานของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปี 2022 พบว่าบัตรคิดเป็น 26%ของการชำระเงินที่จุดขาย และ 50% ของการชำระเงินออนไลน์ในอิตาลี ในขณะเดียวกัน 58% ของธุรกรรมบัตรที่จุดขายในอิตาลีเป็นแบบไร้สัมผัสในปี 2022 ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 54% ในปี 2019

การใช้ระบบชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน โดยบริการเช่น Satispay ได้รับความนิยมในหมู่คนอิตาลีรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบความสะดวกและความรวดเร็วของการโอนเงินผ่านธนาคารแบบเพียร์ทูเพียร์ จากรายงานในปี 2022 ชาวอิตาลี 42% เผยว่าตนเองใช้กระเป๋าเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ในการชำระเงินสำหรับการซื้อของออนไลน์ครั้งล่าสุด ในขณะที่ 20% รายงานเช่นเดียวกันสำหรับการซื้อของในร้านค้าครั้งล่าสุด ข้อมูลเหล่านี้แสดงถึงความมั่นใจในความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของการชําระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่

วิธีการชําระเงินแบบ B2C ที่ได้รับความนิยมในอิตาลี

วิธีการชําระเงินแบบ B2B ที่ได้รับความนิยมในอิตาลี

  • บัตรเครดิต
  • การโอนเงินผ่านธนาคาร (เช่น SEPA)
  • การโอนเงินระหว่างธนาคาร

แนวโน้มที่กําลังเกิดขึ้น

ในอิตาลี การชำระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ส่วนใหญ่ใช้เทคโนโลยีการสื่อสารแบบระยะใกล้ (NFC) แต่รหัส QR กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น โดยบริการไปรษณีย์ของอิตาลีได้เปิดตัววิธีใหม่สำหรับการชำระเงินด้วยรหัส QR ในปี 2020 สําหรับการชําระเงินประเภทนี้ ลูกค้าเพียงแค่สแกนรหัส QR เพื่อชําระเงินด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัล เช่น Apple Pay หรือ Google Pay บัตรเติมเงิน หรือการโอนเงินผ่านธนาคาร การชําระเงินด้วยรหัส QR มักจะผสานการทํางานวิธีการตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2 ปัจจัย เช่น ไบโอเมตริกหรือ PIN เพื่อเพิ่มความปลอดภัย

ความง่ายและความยากในการเข้าสู่ตลาด

การเข้าสู่ตลาดอิตาลีนำมาซึ่งความท้าทายที่เกี่ยวข้องกับภาษีการขาย การเรียกเก็บเงินคืนและการโต้แย้งการชำระเงิน การชำระเงินข้ามพรมแดน ความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัย ต่อไปนี้คือปัจจัยบางประการที่ควรพิจารณา

ภาษี

ในอิตาลี ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) มีอัตรามาตรฐานอยู่ที่ 22% และมีผลต่อราคาของสินค้าและบริการส่วนใหญ่ ในขณะที่ลูกค้าชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม ธุรกิจที่ทำการเรียกเก็บเงินจะมีหน้าที่ในการบันทึก จัดเก็บ และโอนยอดภาษีมูลค่าเพิ่มที่ถูกต้องไปยังหน่วยงานด้านรายรับของอิตาลี ซึ่งก็คือ Agenzia delle Entrate

การดึงเงินคืนและการโต้แย้งการชําระเงิน

ในอิตาลี ประมวลกฎหมายผู้บริโภคเป็นชุดกฎเกณฑ์ที่ครอบคลุมซึ่งปกป้องผู้บริโภคโดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของธุรกรรมทางการเงิน เมื่อลูกค้าอ้างว่าธุรกรรมนั้นไม่ได้รับอนุญาต ธุรกิจจะต้องพิสูจน์ว่าเป็นธุรกรรมที่ถูกต้องตามกฎหมาย ด้วยเหตุนี้ ประมวลกฎหมายผู้บริโภคจึงมักให้ความสำคัญกับลูกค้าในการโต้แย้งเหล่านี้ เนื่องจากธุรกิจจะต้องจัดเตรียมหลักฐานที่รัดกุม

ในฐานะส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป อิตาลีปฏิบัติตาม Payment Services Directive (PSD2) ฉบับปรับปรุงใหม่ ซึ่งส่งผลต่อผลลัพธ์ของการดึงเงินคืนและการโต้แย้งการชำระเงิน PSD2 เน้นการตรวจสอบสิทธิ์ลูกค้าแบบรัดกุม (SCA) โดยกำหนดเกณฑ์ที่สูงสําหรับการยืนยันธุรกรรม และส่งผลต่อวิธีประเมินและแก้ไขปัญหาการโต้แย้งการชําระเงิน หากธุรกิจพิสูจน์ได้ว่าธุรกิจมีมาตรการตรวจสอบสิทธิ์ที่เข้มงวด ข้อมูลดังกล่าวอาจส่งผลต่อผลลัพธ์ของการอ้างสิทธิ์ดึงเงินคืน

การชําระเงินระหว่างประเทศ

ธุรกิจที่จัดการการชําระเงินระหว่างประเทศในอิตาลีจะต้องรับมือกับการแปลงสกุลเงินและอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน ซึ่งเพิ่มความซับซ้อนมากขึ้น ด้านล่างนี้คือแง่มุมที่สําคัญบางประการของการชําระเงินจากต่างประเทศ

  • การแปลงสกุลเงิน
    สําหรับธุรกรรมข้ามพรมแดน เช่น การโอนเงินระหว่างธนาคารหรือบัตรเครดิตและบัตรเดบิต การแปลงสกุลเงินมักจะเป็นสิ่งจําเป็น ทั้งในฝั่งลูกค้าหรือฝั่งธุรกิจ เมื่อประมวลผลธุรกรรม ระบบจะกําหนดอัตราการแปลงสกุลเงิน และคิดค่าธรรมเนียมระหว่าง 1% ถึง 3% ธุรกิจอาจเลือกที่จะส่งต่อภาระด้านค่าธรรมเนียมนี้ให้ลูกค้าหรือรับภาระเอง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของธุรกิจ

  • การโอนเงินแบบ SEPA
    อิตาลีเป็นส่วนหนึ่งในโซน SEPA ซึ่งช่วยให้โอนเงินระหว่างประเทศสมาชิก 36 ประเทศได้อย่างรวดเร็วและมีค่าใช้จ่ายไม่สูง การโอนเงินผ่านธนาคารแบบ SEPA เป็นการโอนเงินแบบครั้งเดียวที่นิยมใช้ในหมู่ลูกค้าและการซื้อทางธุรกิจในโซน SEPA

  • วิธีการชําระเงินจากตลาดใกล้เคียง
    นักท่องเที่ยวจากประเทศในยุโรปโดยรอบมักจะเดินทางมาเที่ยวที่อิตาลี การรับวิธีการชําระเงินในท้องถิ่น เช่น บัตร Cartes Bancaires ของฝรั่งเศสจะช่วยให้ธุรกิจต่างๆ เพิ่มยอดขายจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศได้

การรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว

ความมุ่งมั่นของอิตาลีต่อความปลอดภัยทางการเงิน การปฏิบัติตามข้อกําหนด และระเบียบข้อบังคับสะท้อนถึงจุดยืนของประเทศนี้ภายในยุโรป เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดและมาตรฐานของสหภาพยุโรป อิตาลีได้นำระบบที่เน้นย้ำถึงการคุ้มครองผู้บริโภคและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลมาใช้ ก่อนที่จะรับชําระเงินในอิตาลี สิ่งสําคัญคือต้องทําความเข้าใจโครงสร้างพื้นฐานด้านการกํากับดูแลของประเทศแห่งนี้เสียก่อน

  • กฎหมายคุ้มครองข้อมูล
    อิตาลีนำ GDPR ของสหภาพยุโรปมาใช้อย่างเคร่งครัด ระเบียบข้อบังคับนี้จะปกป้องข้อมูลผู้บริโภค ทําให้ธุรกิจต่างๆ ต้องได้รับความยินยอมอย่างชัดแจ้งก่อนจะเก็บรวบรวมหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

  • ข้อบังคับด้านบริการชําระเงิน
    ภายใต้ PSD2 ผู้ให้บริการชำระเงินทั้งหมด รวมถึงธนาคาร จะต้องใช้การยืนยันตัวตนลูกค้าที่เข้มงวด ซึ่งโดยทั่วไปจะเป็นรูปแบบหนึ่งของการพิสูจน์ตัวตนแบบสองปัจจัยสำหรับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ วิธีนี้ส่งผลให้การรักษาความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทั่วทั้งอิตาลีเพิ่มขึ้น

  • โครงการริเริ่มด้านการต่อต้านการฟอกเงิน (AML)
    อิตาลีได้ใช้การควบคุมที่เข้มงวดเพื่อปราบปรามการฟอกเงินและการสนับสนุนการก่อการร้าย ซึ่งสอดคล้องกับคำสั่งป้องกันการฟอกเงินของสหภาพยุโรป หน่วยงานทางการเงินจะต้องดำเนินการตรวจสอบความระมัดระวังอย่างเหมาะสมและรายงานกิจกรรมที่น่าสงสัยใดๆ

  • การกํากับดูแลของรัฐบาล
    Unità di Informazione Finanziaria (UIF) เป็นองค์กรที่ดูแลและตรวจสอบสถาบันทางการเงินเพื่อให้มั่นใจว่าหน่วยงานต่างๆ ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับด้านการต่อต้านการฟอกเงิน นิติบุคคลนี้ปฏิบัติงานภายใต้ธนาคารแห่งอิตาลี โดยมอบการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมอีกชั้นด้วยการระบุและตรวจสอบกิจกรรมที่น่าสงสัย

ปัจจัยหลักที่ช่วยให้ประสบความสําเร็จ

ระบบการชําระเงินของอิตาลี แม้ว่าจะปรับให้ทันสมัยอย่างรวดเร็ว แต่ยังคงเผชิญกับความท้าทายหลายอย่าง อุปสรรคเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อทั้งธุรกิจและผู้บริโภค ทั้งยังมีอิทธิพลต่อธุรกรรมและการแลกเปลี่ยนทางการเงินในประเทศ

  • การใช้งานธุรกรรมเงินสดและธุรกรรมดิจิทัลร่วมกัน
    ในอดีต อิตาลีเป็นประเทศที่มีเงินสดเป็นศูนย์กลาง ตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา ธุรกรรมเงินสดในอิตาลีคิดเป็น 70%ของการชําระเงินที่จุดขายทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ธุรกิจควรให้การสนับสนุนธุรกรรมทั้งแบบเงินสดและธุรกรรมดิจิทัลเพื่อสนับสนุนกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น แม้บัตรต่างประเทศอย่าง Visa และ Mastercard จะได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง แต่ลูกค้าต่างก็ชอบใช้เครือข่ายบัตรในประเทศอย่าง Bancomat และ Nexi มากกว่า การนําเสนอตัวเลือกเหล่านี้สามารถสร้างสภาพแวดล้อมการชําระเงินที่ครอบคลุมมากขึ้นสําหรับลูกค้าในอิตาลี

  • ความไว้วางใจของผู้บริโภคและความรู้ทางการเงิน
    แม้ว่าลูกค้าในอิตาลีจะเลือกใช้ธุรกรรมออนไลน์ทั้งทางดิจิทัลและออนไลน์มากขึ้น แต่ก็ยังมีความจําเป็นที่จะต้องรักษาความไว้วางใจในแพลตฟอร์มเหล่านี้ รัฐบาลเริ่มเจรจาเพื่อลดค่าธรรมเนียมธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถรับชำระเงินดิจิทัลได้ง่ายขึ้น และยังได้ดำเนินการริเริ่มด้านความรู้ทางการเงินอีกด้วย

  • การลดการฉ้อโกงในอีคอมเมิร์ซ
    เมื่ออีคอมเมิร์ซเติบโตขึ้นในอิตาลี ความเสี่ยงต่อการฉ้อโกงที่เกี่ยวข้องจึงเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ในปี 2019 การฉ้อโกงบัตร 75% ในอิตาลีเป็นการฉ้อโกงแบบไม่แสดงบัตร เมื่อเทียบกับการฉ้อโกงเพียง 20% ที่เกิดขึ้นระหว่างธุรกรรมที่จุดขาย การเลือกเกตเวย์การชําระเงินที่ปลอดภัยและการตรวจสอบความปลอดภัยเป็นประจําจะช่วยปกป้องธุรกิจและลูกค้าของคุณได้

  • ธุรกรรมระหว่างประเทศที่ดำเนินการง่าย
    การกำหนดเขต SEPA ทำให้ชําระเงินข้ามพรมแดนทั่วยุโรปมีความง่ายดาย แม้ธุรกรรมระหว่างประเทศจากภูมิภาคอื่นๆ จะยังคงมีความท้าทายอยู่ ทว่าความรวดเร็วและคุ้มค่าของการโอนเงินแบบ SEPA จะช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายให้กับธุรกิจของคุณได้

ประเด็นสำคัญ

ตลาดการชําระเงินของอิตาลีมอบโอกาสที่ไม่เหมือนใครให้กับธุรกิจ การยอมรับและดำเนินการตามโอกาสเหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับปรุงประสบการณ์การชำระเงินของลูกค้าได้อย่างมีนัยสำคัญ

ให้ความสําคัญกับความยืดหยุ่น

  • มองไปไกลกว่าการชําระเงินด้วยเงินสดและบัตรแบบเดิมๆ
    แม้ว่าเงินสดและบัตรจะเป็นช่องทางที่ใช้กันทั่วไป แต่ก็มีทางเลือกอื่นๆ เช่น การชำระเงินแบบไร้สัมผัส และกระเป๋าเงินดิจิทัลมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กระบวนการทำธุรกรรม คุณควรร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับผู้ประมวลผลการชําระเงินที่เกี่ยวข้องเพื่อผสานการทํางานกระเป๋าเงินดิจิทัลยอดนิยม เช่น PayPal, Apple Pay และ Google Pay

  • รองรับความต้องการใช้บัตรในท้องถิ่น
    รองรับเครือข่ายบัตรในประเทศ เช่น Bancomat และ CartaSi ไปพร้อมๆ กับเครือข่ายบัตรต่างประเทศเพื่อสภาพแวดล้อมการชําระเงินที่ครอบคลุมมากขึ้น

  • รับมือกับความแตกต่างด้านภาษา
    แม้ว่าประเทศอิตาลีจะมีผู้ใช้ภาษาอิตาลีเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็มีบางภูมิภาคที่มีภาษาเฉพาะของตนเอง เช่น ภูมิภาคไทโรลใต้ซึ่งมีคนพูดภาษาเยอรมันกันอย่างแพร่หลาย สร้างอินเทอร์เฟซการชําระเงินในภาษาระดับภูมิภาคเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้แก่ลูกค้าและเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน

เปิดรับนวัตกรรมดิจิทัล

  • ปรับปรุงอินเทอร์เฟซการชําระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
    สร้างอินเทอร์เฟซบนอุปกรณ์เคลื่อนที่และกระบวนการชําระเงินที่ใช้งานง่าย เช่น การชําระเงินในคลิกเดียว เพื่ออํานวยความสะดวกในการการซื้อสินค้าทางอีคอมเมิร์ซผ่านสมาร์ทโฟน

  • ใช้การออกใบแจ้งหนี้ทางอิเล็กทรอนิกส์สําหรับธุรกรรม B2B
    การออกใบแจ้งหนี้แบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-invoicing) สำหรับธุรกรรม B2B นั้นถือเป็นข้อบังคับ ดังนั้นให้นำระบบการออกใบแจ้งหนี้ทางอิเล็กทรอนิกส์ที่มีประสิทธิภาพมาใช้งานเพื่อตอบสนองข้อกำหนดด้านกฎระเบียบและปรับปรุงกระบวนการชำระเงินให้มีประสิทธิภาพ

  • ให้ความรู้ลูกค้าเกี่ยวกับการชําระเงินแบบดิจิทัล
    เนื่องจากรัฐบาลพยายามผลักดันให้การชำระเงินดิจิทัลสามารถเข้าถึงได้มากขึ้น ธุรกิจจึงจำเป็นที่จะต้องให้ความรู้ลูกค้าเกี่ยวกับประโยชน์และความปลอดภัยของการชำระเงินดิจิทัล คุณควรจัดเซสชันเพื่อให้ข้อมูลและมอบแหล่งข้อมูลดิจิทัลที่เข้าใจง่าย

เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย

  • ปกป้องข้อมูลลูกค้าในเชิงรุก
    ลงทุนกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูล มอบความโปร่งใสเกี่ยวกับแนวทางการเก็บรวบรวมข้อมูล และสื่อสารมาตรการรักษาความปลอดภัยให้ลูกค้าทราบอย่างชัดเจนเพื่อสร้างความเชื่อมั่น

  • ลดความเสี่ยงด้านการฉ้อโกง
    ใช้เครื่องมือตรวจจับการฉ้อโกง เช่น การยืนยันตัวตนแบบ 3D Secure และอัลกอริทึมของแมชชีนเลิร์นนิง รวมทั้งระบุช่องทางที่ชัดเจนสำหรับการรายงานกิจกรรมที่น่าสงสัย

  • คอยติดตามข่าวสารล่าสุดด้านระเบียบบังคับที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
    ติดตามการเปลี่ยนแปลงระเบียบข้อบังคับด้านการรักษาความปลอดภัยของการชําระเงิน เพื่อให้มั่นใจถึงการปฏิบัติตามข้อกําหนดและการสร้างกระบวนการชําระเงินที่ราบรื่น

เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Payments

Payments

รับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกด้วยโซลูชันการชำระเงินที่สร้างมาสำหรับธุรกิจทุกขนาด

Stripe Docs เกี่ยวกับ Payments

ค้นหาคู่มือเกี่ยวกับการเชื่อมต่อ Payments API ของ Stripe