การเรียกเก็บเงินคือหนึ่งในส่วนสําคัญที่สุดของการให้บริการมือถือ รายรับในตลาดโทรคมนาคมทั่วโลกอยู่ที่ 1.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023 และทุกเดือนลูกค้าคาดหวังว่าจะได้รับรายละเอียดการเรียกเก็บเงินแยกเป็นรายการ ซึ่งรวมถึงจํานวนเงินที่ต้องชําระ บริการโทรศัพท์ที่ใช้ไป และกําหนดชําระเงิน การส่งข้อมูลดังกล่าวให้ลูกค้าอาจสร้างหรือทําลายประสบการณ์ของลูกค้าได้
การสร้างใบเรียกเก็บเงินออนไลน์เป็นระเบียบมากกว่าการสร้างใบเรียกเก็บเงินแบบกระดาษและช่วยให้ลูกค้าดูใบเรียกเก็บเงินบนอุปกรณ์ใดและจากที่ใดก็ได้ การสร้างระบบที่ยืดหยุ่นและเชื่อถือได้ในการสร้างใบเรียกเก็บเงินค่ามือถือออนไลน์ต้องมีการวางแผนอย่างถี่ถ้วนและต้องเข้าใจความต้องการของลูกค้าและหน่วยงานกำกับดูแล แต่ละส่วนมีความสําคัญ ตั้งแต่การจัดรูปแบบใบเรียกเก็บเงินด้วยรายละเอียดที่ถูกต้องไปจนถึงการจัดการข้อมูลการใช้งานอย่างรอบคอบและการส่งข้อมูลอย่างปลอดภัย ต่อไปนี้เราจะอธิบายวิธีการดําเนินการนี้อย่างมีประสิทธิภาพ
บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง
- ใบเรียกเก็บเงินค่ามือถือคืออะไรและทำไมการสร้างเอกสารทางออนไลน์จึงสำคัญ
- ใบเรียกเก็บเงินค่ามือถือของผู้ให้บริการมีหลักการทำงานอย่างไร
- ใบเรียกเก็บเงินค่ามือถือควรมีข้อมูลใดบ้าง
- วิธีสร้างใบเรียกเก็บเงินค่ามือถือทางออนไลน์
ใบเรียกเก็บเงินค่ามือถือคืออะไรและทำไมการสร้างเอกสารทางออนไลน์จึงสำคัญ
ใบเรียกเก็บเงินค่ามือถือมีข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานโทรศัพท์ของลูกค้าในช่วงเวลาหนึ่งซึ่งปกติแล้วจะเป็นรายเดือน ซึ่งมีข้อมูลที่ตอบคำถามต่อไปนี้
มีการใช้ข้อมูลเท่าใด
มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่าโรมมิงหรือการใช้งานเกินหรือไม่
ยอดรวมที่ต้องชำระเป็นเท่าใดและครบกําหนดชําระเงินเมื่อใด
ใบเรียกเก็บเงินที่ออกแบบมาอย่างดีช่วยให้ลูกค้าเข้าใจสิ่งที่ตนชําระ และช่วยให้ธุรกิจมีวิธีติดตามและเก็บรายรับที่น่าเชื่อถือ ต่อไปนี้คือเหตุผลว่าทําไมการสร้างใบเรียกเก็บเงินออนไลน์จึงสําคัญ
ความเร็วและความสะดวก
การออกใบเรียกเก็บเงินออนไลน์ทำให้มีใบเรียกเก็บเงินพร้อมใช้ทันทีที่ระบบประมวลผลข้อมูล ลูกค้าจะเห็นข้อมูลและทําการการชําระเงินได้ทันทีในไม่กี่คลิก
ความยืดหยุ่นแบบเรียลไทม์
ข้อผิดพลาดในการเรียกเก็บเงินเกิดขึ้นได้ บางครั้งก็มีคนที่ถูกเรียกเก็บเงินผิดพลาดโดยมีการเก็บค่าใช้งานเกินหรือไม่ได้คิดส่วนลดโปรโมชันให้ การแก้ไขข้อผิดพลาดในระบบแบบกระดาษอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ ระบบการเรียกเก็บเงินออนไลน์สามารถปรับยอดค่าใช้จ่ายเรียกเก็บได้ทันทีเพื่อให้กระบวนการดําเนินไปอย่างโปร่งใสและปราศจากความยุ่งยากต่อลูกค้า
ประหยัดต้นทุน
ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์และส่งไปรษณีย์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยุคออนไลน์ทำให้ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ลดลง รวมทั้งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อามที่เกิดจากการส่งใบเรียกเก็บเงินและซองจดหมายจำนวนมากในแต่ละเดือน
การรับรู้แบรนด์
ลูกค้าใช้โทรศัพท์ทํากิจกรรมมากมาย ตั้งแต่การสตรีมภาพยนตร์ ไปจนถึงการสั่งของชําและการจัดการการเงินด้วยแอปธนาคาร และตั้งความคาดหวังด้านความสะดวกจากบริการเหล่านี้ไว้สูง หากระบบของคุณไม่สะดวกและล้าสมัย ก็จะไม่เป็นผลดีต่อแบรนด์ของคุณ
การบันทึกที่ง่ายขึ้น
ลูกค้าพึงพอใจกับการเข้าถึงพอร์ทัลออนไลน์ที่เก็บใบแสดงรายการที่ผ่านมาไว้ถาวร หากต้องการตรวจสอบการใช้งานเมื่อ 3 เดือนก่อนหรือต้องการยืนยันว่าชําระเงินแล้ว ลูกค้าสามารถเข้าสู่ระบบได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม
ความยืดหยุ่นด้านวิธีการชําระเงิน
ระบบการเรียกเก็บเงินออนไลน์จํานวนมากช่วยให้ลูกค้าชําระเงินด้วยบัตรเครดิต กระเป๋าเงินดิจิทัล หรือการโอนเงินผ่านธนาคารได้ และบางระบบยังชำระเงินตามแบบแผนล่วงหน้าอัตโนมัติได้ ความยืดหยุ่นนี้มักจะนําไปสู่การชําระเงินที่ตรงเวลามากขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มกระแสเงินสดของผู้ให้บริการ ลูกค้าสามารถเลือกวันที่หรือวิธีการที่เหมาะกับตนที่สุดซึ่งจะช่วยสร้างความรู้สึกที่ดีได้
การจัดการข้อมูลที่ปลอดภัย
เมื่อดําเนินการอย่างถูกต้อง การเรียกเก็บเงินออนไลน์ก็ปลอดภัย แพลตฟอร์มสร้างใบเรียกเก็บเงินออนไลน์ที่ออกแบบมาเป็นอย่างดีจะใช้การเข้ารหัส การแปลงเป็นโทเค็น และเทคนิคความปลอดภัยแบบอื่นๆ เพื่อปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อน และยังมีวิธีการง่ายๆ หลายวิธีเพื่อยืนยันว่าผู้ใช้คือผู้ที่อ้างว่าตนเป็นบุคคลนั้นจริงก่อนที่จะแสดงข้อมูลการเรียกเก็บเงิน นอกจากนี้ระบบอาจใช้การตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2 ปัจจัย การยืนยันข้อความบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ หรือการเข้าสู่ระบบด้วยไบโอเมตริกได้ด้วย
โอกาสในการปรับแต่งเฉพาะบุคคล
ระบบการเรียกเก็บเงินออนไลน์สามารถแสดงคําแนะนําหรือข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการใช้งานที่ปรับแต่งเฉพาะบุคคลเมื่อลูกค้าเข้าสู่ระบบ ตัวอย่างเช่น หากการใช้งานข้อมูลถึงจุดสูงสุด ระบบสามารถแสดงข้อมูลนั้นให้เห็นภาพและแนะนำแพ็กเกจบริการที่เหมาะสมกว่าให้ได้ แม้ว่าลูกค้าจะไม่เปลี่ยนแพ็กเกจ แต่หลายคนจะประทับใจกับสรุปภาพรวมการใช้งานข้อมูลของตน การปรับแต่งเฉพาะบุคคลช่วยเพิ่มความมั่นใจและความพึงพอใจ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ให้บริการโดดเด่นในตลาด
ใบเรียกเก็บค่ามือถือของผู้ให้บริการมีหลักการทำงานอย่างไร
เมื่อผู้ใช้มือถือโทรศัพท์ สตรีมวิดีโอ หรือส่งข้อความ กิจกรรมนั้นจะส่งผ่านระบบของผู้ให้บริการมือถือ ทุกกิจกรรมจะมีการบันทึกเพื่อระบุว่าใครใช้บริการใด เป็นเวลานานเท่าใด และข้อมูลที่ใช้มีปริมาณเท่าใด บันทึกเหล่านี้คือข้อมูลดิบสําหรับสร้างบันทึกการใช้งานแบบแจกแจงรายการ โดยปกติลําดับการทํางานมีดังนี้
การติดตามการใช้งาน
ระบบจะสร้างบันทึกการโทรด้วยเสียง เซสชันข้อมูล หรือข้อความ SMS ทุกครั้งเมื่อมีการใช้งาน
ข้อมูลเมตานี้อาจรวมถึงหมายเลขที่เรียก ช่วงเวลาของวัน ปริมาณข้อมูล และระยะเวลา
การประมวลผลระบบการเรียกเก็บเงิน
บันทึกรายการเหล่านี้จะรวมเข้าด้วยกันไว้ในระบบการเรียกเก็บเงินส่วนกลางตามช่วงเวลาที่กําหนด ซึ่งมักจะเป็นรายวันหรือรายเดือน
ระบบนี้จะนํารายละเอียดแพ็กเกจของผู้ใช้ไปคำนวณ เช่น นาทีการพูดคุย ปริมาณข้อมูลที่กำหนด กฎการใช้งานเกิน และอัตราการใช้งานโรมมิง
การสร้างใบเรียกเก็บเงิน
เมื่อรอบการเรียกเก็บเงินสิ้นสุด ระบบจะคํานวณจํานวนนาทีหรือกิกะไบต์ที่ใช้
หากผู้ใช้ใช้งานเกินวงเงินของแพ็กเกจ อาจมีการเรียกเก็บเงินเพิ่มเติม หากอยู่ภายในปริมาณที่กำหนด ระบบจะไม่แสดงการเรียกเก็บเงินค่าใช้งานเกิน
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลภาษี ค่าธรรมเนียม ส่วนลด และค่าผ่อนชำระอุปกรณ์เคลื่อนที่ด้วย
การจัดรูปแบบใบเรียกเก็บเงิน
ข้อมูลสุดท้ายจะจัดรูปแบบในลักษณะเอกสารที่อ่านได้เช่น PDF, ใบแสดงรายการในรูปแบบ HTML บนพอร์ทัลลูกค้า หรือทั้งสองอย่าง
ในบางกรณี อาจมีการแบ่งส่วนแสดงข้อมูลการใช้งานโดยสรุป รายละเอียดที่แยกเป็นรายการ ภาษี และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
การจัดส่งเอกสารให้ลูกค้า
ผู้ให้บริการมือถือบางรายจะส่งการแจ้งเตือนแบบพุชเมื่อออกใบเรียกเก็บเงินแล้ว จากนั้นลูกค้าจะดูใบแสดงรายการได้ในพอร์ทัลหรือแอปออนไลน์
หรือผู้ให้บริการอาจส่งลิงก์ทางอีเมลเพื่อให้ดูใบเรียกเก็บเงินอย่างปลอดภัย
หากผู้ให้บริการยังคงรองรับใบเรียกเก็บเงินฉบับกระดาษอยู่ อาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมหรือขั้นตอนให้เลือกใช้ตัวเลือกดังกล่าว
ขั้นตอนทั้งหมดเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นเบื้องหลัง โดยมีการทำงานด้วยคนน้อยที่สุด ระบบการเรียกเก็บเงินที่มีประสิทธิภาพจะรวมข้อมูลจากหลายๆ แหล่งมาไว้ในใบรายการเพียงใบเดียว เช่น บันทึกการใช้งาน ฐานข้อมูลการสมัครใช้บริการ ตารางภาษี และสินเชื่อสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ ความถูกต้องและทันการณ์เป็นสิ่งสําคัญ เพราะความผิดพลาดหรือความล่าช้าอาจทําให้ลูกค้าไม่พอใจ ทำให้เกิดการโต้แย้งการชําระเงิน หรือสร้างปัญหาด้านการปฏิบัติตามข้อกําหนดได้ ด้วยเหตุนี้ผู้ให้บริการจึงลงทุนกับระบบที่คํานวณในปริมาณมากได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และเสมอต้นเสมอปลาย
ใบเรียกเก็บเงินค่ามือถือควรมีข้อมูลใดบ้าง
แม้ว่าประเภทของข้อมูลที่อยู่ในใบเรียกเก็บเงินของแต่ละบริษัทอาจจะแตกต่างกัน แต่อย่างน้อยทุกใบควรมีข้อมูลพื้นฐานแบบเดียวกัน ซึ่งจะทำให้ใบเรียกเก็บเงินเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สําหรับผู้สมัครใช้บริการ และเป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมาย ต่อไปนี้คือรายการที่ควรมีในใบเรียกเก็บเงินค่ามือถือ
รายละเอียดผู้สมัครใช้บริการ
ชื่อของลูกค้า หมายเลขบัญชี และที่อยู่ในการเรียกเก็บเงิน
ข้อมูลติดต่อของลูกค้า
วันที่ของรอบการเรียกเก็บเงิน
วันที่เริ่มต้นและสิ้นสุดรอบการเรียกเก็บเงิน
วันที่ืที่คิดค่าบริการแบ่งตามสัดส่วนหากบริการเริ่มต้นหรือสิ้นสุดกลางรอบ
แพ็กเกจและสรุปข้อมูลการใช้งาน
ชื่อของแพ็กเกจ (เช่น "พูดคุยและส่งข้อความไม่จํากัดพร้อมข้อมูล 10 GB")
จำนวนนาที ข้อความ หรือกิกะไบต์ของแพ็กเกจ
ยอดรวมการใช้งานของรอบบิล (เช่น นาทีที่ใช้ จำนวนข้อความที่ส่ง)
การใช้งานแยกเป็นรายการ
รายการที่แยกเป็นรายการซึ่งแสดงการโทรหรือเซสชันข้อมูล หากลูกค้าขอรายการข้อมูลแบบละเอียด
วันที่ เวลา หมายเลขโทรศัพท์ปลายทาง ระยะเวลา และค่าใช้จ่ายต่อเซสชัน หากต้องการ
ค่าใช้จ่ายเรียกเก็บและค่าธรรมเนียม
- ระบุค่าใช้จ่ายเรียกเก็บเพิ่มเติม เช่น ค่าใช้จ่ายรายเดือนตามแพ็กเกจ ค่าผ่อนชำระอุปกรณ์ บริการเสริม ภาษี และค่าธรรมเนียมของรัฐบาล
เครดิต ส่วนลด หรือการปรับยอด
เครดิตส่งเสริมการขาย เครดิตสำหรับเดือนที่ใช้งานไม่เต็ม หรือส่วนลดสำหรับลูกค้าประจํา
การปรับยอดเนื่องจากบริการขัดข้องหรือข้อผิดพลาดในการเรียกเก็บเงิน
ขั้นตอนการชําระเงิน
ยอดรวมที่ครบกําหนดชําระ พร้อมวันครบกําหนดชําระ
วิธีการชําระเงินที่รับ เช่น บัตรเครดิต การโอนเงินผ่านธนาคาร และการหักบัญชีอัตโนมัติ
นโยบายค่าธรรมเนียมการชำระเงินล่าช้าที่ลูกค้าควรทราบ
ข้อมูลติดต่อและข้อมูลการรับบริการสนับสนุน
ข้อมูลว่าลูกค้าสามารถเข้าสู่ระบบเพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือโต้แย้งการเรียกเก็บเงินได้ที่ใด
อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ หรือลิงก์แชตเพื่อรับบริการสนับสนุน
วิธีสร้างใบเรียกเก็บเงินค่ามือถือทางออนไลน์
Stripe Billing ช่วยให้ธุรกิจจัดการการออกใบแจ้งหนี้และการชําระเงินตามรอบบิลได้โดยอัตโนมัติ ทําให้เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสําหรับการสร้างใบเรียกเก็บเงินค่ามือถือทางออนไลน์ ต่อไปนี้คือวิธีการจัดเตรียมการเรียกเก็บเงินค่ามือถือของคุณ
ตั้งค่าบัญชี Stripe ของคุณ
ก่อนที่จะเริ่มสร้างใบเรียกเก็บเงิน โปรดตรวจสอบว่าบัญชี Stripe ได้รับการกําหนดค่าอย่างถูกต้อง
ลงทะเบียนหรือเข้าสู่ระบบ: ไปที่Stripeแล้วสร้างบัญชี หากคุณยังไม่มีบัญชี
รายละเอียดของธุรกิจ: เพิ่มชื่อบริษัท ที่อยู่ และบัญชีธนาคารสําหรับการเบิกจ่าย เพื่อรับชำระเงินเมื่อมีการออกใบเรียกเก็บเงิน
เปิดใช้การเรียกเก็บเงิน: เปิดใช้ฟีเจอร์การเรียกเก็บเงินจากแดชบอร์ด Stripe หากยังไม่ได้เปิดใช้
สร้างผลิตภัณฑ์และค่าบริการ
Stripe Billing ช่วยให้คุณสร้างผลิตภัณฑ์ที่คิดค่าบริการตามแบบแผนล่วงหน้าหรือการเรียกเก็บเงินตามการใช้งานได้ ซึ่งเหมาะสําหรับบริการมือถือที่มีแพ็กเกจแบบแปรผัน บริการเสริม และการใช้งานเกิน
แพ็กเกจการสมัครใช้บริการ
หากลูกค้าของคุณมีแพ็กเกจรายเดือนในจํานวนคงที่ (เช่น 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือนสําหรับการพูดคุยและส่งข้อความแบบไม่จํากัด) โปรดทําสิ่งต่อไปนี้
ไปที่ส่วนผลิตภัณฑ์ในแดชบอร์ด
คลิก "เพิ่มผลิตภัณฑ์" และตั้งชื่อผลิตภัณฑ์ (เช่น "แพ็กเกจไม่จํากัด")
ตั้งค่าโมเดลค่าบริการเป็นตามแบบแผนล่วงหน้าและเลือกรอบการเรียกเก็บเงิน (รายเดือนหรือรายปี)
บันทึกผลิตภัณฑ์
การเรียกเก็บเงินตามการใช้งาน
ในกรณีค่าใช้จ่ายเรียกเก็บ เช่น ค่าใช้จ่ายการใช้งานเกินและฟีเจอร์จ่ายตามการใช้งาน ให้ทําดังต่อไปนี้
สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่เหมือนด้านบน
เลือก "การเรียกเก็บเงินตามการใช้งาน" ภายใต้ตัวเลือกค่าบริการ
กําหนดราคาต่อหน่วย (เช่น 10 ดอลลาร์สหรัฐต่อกิกะไบต์ที่เกินกำหนด)
เพิ่มลูกค้าลงในระบบของคุณ
คุณต้องตั้งค่าลูกค้าแต่ละรายใน Stripe เพื่อให้เรียกเก็บเงินได้ วิธีเพิ่มลูกค้ามีดังนี้
ไปที่ส่วนลูกค้าในแดชบอร์ด
คลิก "เพิ่มลูกค้า" แล้วป้อนชื่อ อีเมล และวิธีการชําระเงินของลูกค้า
บันทึกโปรไฟล์ของลูกค้า
หากคุณมีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ คุณสามารถดําเนินขั้นตอนนี้แบบอัตโนมัติได้โดยการเชื่อมต่อ Stripe กับระบบการจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) หรือแพลตฟอร์มการจัดการบัญชีบนมือถือ
สร้างการชําระเงินตามรอบบิลหรือใบแจ้งหนี้
เมื่อสร้างผลิตภัณฑ์และลูกค้าใน Stripe เสร็จ คุณก็พร้อมที่จะสร้างใบเรียกเก็บเงินค่ามือถือทางออนไลน์แล้ว ต่อไปนี้เป็นวิธีสร้างใบเรียกเก็บเงินเหล่านี้
การเรียกเก็บเงินตามแบบแผนล่วงหน้า (การชําระเงินตามรอบบิล)
ไปที่ส่วนการชําระเงินตามรอบบิลใน Stripe
คลิก "สร้างการชำระเงินตามรอบบิล" แล้วเลือกลูกค้า
เพิ่มผลิตภัณฑ์ให้ถูกต้อง (เช่น "แพ็กเกจไม่จํากัด")
ใส่ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม (เช่น บริการเสริมหรือค่าธรรมเนียมตามสัดส่วน)
บันทึกและเริ่มการชำระเงินตามรอบบิล Stripe จะจัดการการเรียกเก็บเงินตามแบบแผนล่วงหน้าโดยอัตโนมัติตามการตั้งค่าของคุณ
ใบเรียกเก็บเงินแบบครั้งเดียว
ไปที่ส่วนใบแจ้งหนี้ในแดชบอร์ด
คลิก "สร้างใบแจ้งหนี้" แล้วเลือกลูกค้า
เพิ่มบรรทัดรายการสําหรับการเรียกเก็บเงินใดๆ (เช่น ค่าธรรมเนียมรายเดือน การใช้งานเกินจํานวน บริการเสริมแบบครั้งเดียว)
ตรวจสอบรายละเอียดและคลิก "ส่งใบแจ้งหนี้" ลูกค้าจะได้รับอีเมลพร้อมลิงก์สําหรับดูใบแจ้งหนี้และชําระเงินทางออนไลน์
การติดตามการใช้งานแบบอัตโนมัติ
ถ้าคุณต้องการติดตามและเรียกเก็บเงินสำหรับข้อมูลหรือการใช้งานเกินโดยอัตโนมัติ ให้ทําดังต่อไปนี้
ใช้ฟีเจอร์การเรียกเก็บเงินตามการใช้งานของ Stripe เพื่อบันทึกการใช้งาน
ทำระบบการรายงานอัตโนมัติเพื่อให้ระบบเรียกเก็บเงินเฉพาะสิ่งที่ลูกค้าใช้เมื่อสิ้นสุดแต่ละรอบ
Stripe บริการการผสานการทํางานกับเครื่องมืออย่าง Zapier เพื่อซิงก์ข้อมูลการใช้งานจากแพลตฟอร์มบริการมือถือของคุณ
ปรับแต่งประสบการณ์การเรียกเก็บเงิน
ลองพิจารณาเพิ่มเติมสิ่งเหล่านี้เพื่อสร้างประสบการณ์การเรียกเก็บเงินที่ไม่ซับซ้อนและเข้าใจง่าย
ใบแจ้งหนี้ติดแบรนด์: เพิ่มโลโก้และสีของบริษัทในการตั้งค่าการสร้างแบรนด์ในแดชบอร์ด
พอร์ทัลลูกค้า: ลูกค้าสามารถดูใบเรียกเก็บเงิน อัปเดตวิธีการชําระเงิน และจัดการการชําระเงินตามรอบบิลได้ด้วยพอร์ทัลของ Stripe
การแจ้งเตือน: นําการแจ้งเตือนทางอีเมลอัตโนมัติมาใช้กับการเรียกเก็บเงิน การชําระเงินที่ไม่สําเร็จ และการต่ออายุบริการ
ติดตามการชําระเงินและกระทบยอดบัญชี
Stripe จะติดตามการชําระเงินของใบเรียกเก็บเงินที่คุณออกให้โดยอัตโนมัติ คุณสามารถดําเนินการต่อไปนี้ได้จากแดชบอร์ด
ดูว่าใครชําระเงินแล้ว ใครที่เลยกําหนดชําระ และใครที่มีค่าใช้จ่ายรอการเรียกเก็บ
กระทบยอดการชําระเงินกับบันทึกของคุณ
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ