การชำระเงินในมอลตา: คำแนะนำเชิงลึก

Payments
Payments

รับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกด้วยโซลูชันการชำระเงินที่สร้างมาสำหรับธุรกิจทุกขนาด ตั้งแต่ธุรกิจสตาร์ทอัพไปจนถึงองค์กรใหญ่ระดับโลก

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. สถานะของตลาด
  3. วิธีการชำระเงิน
    1. การใช้งานปัจจุบัน
    2. แนวโน้มที่กำลังเกิดขึ้น
  4. ความง่ายและความยากในการเข้าสู่ตลาด
    1. ภาษี
    2. การดึงเงินคืนและการโต้แย้งการชำระเงิน
    3. การชำระเงินระหว่างประเทศ
    4. การรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
  5. ปัจจัยหลักที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จ
  6. ประเด็นสำคัญ
    1. เปิดรับความต้องการของลูกค้าในท้องถิ่น
    2. ปฏิบัติตามมาตรฐานด้านการกำกับดูแล
    3. ดูแลโครงสร้างพื้นฐานด้านการรักษาความปลอดภัยให้รัดกุม

แม้จะเป็นประเทศที่มีลักษณะเป็นเกาะขนาดเล็กและมีประชากรเพียงกว่า 574,000 คน แต่มอลตาก็เป็นศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญ และเป็นที่ตั้งของธนาคารขนาดใหญ่หลายแห่งและสถาบันการเงินอื่นๆ มอลตามีระบบการรับชำระเงินที่พัฒนามาเป็นอย่างดี และมีวิธีการชำระเงินที่หลากหลายสำหรับทั้งลูกค้าและธุรกิจ

ภาคการชำระเงินของมอลตามีการกำกับดูแลที่เข้มงวด และธุรกิจจำเป็นต้องใช้การตรวจสอบสิทธิ์ลูกค้าแบบรัดกุม (SCA) ในฐานะที่มอลตาเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป จึงต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของบริการชำระเงิน (PSD2) ฉบับแก้ไข ซึ่งเป็นกรอบที่กำหนดการดำเนินงานของผู้ให้บริการการชำระเงิน สถาบันการเงิน และธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

บริการทางการเงินในมอลตาครอบคลุมทั้งสถาบันการเงินแบบดั้งเดิมและฟินเทคเฉพาะทาง ส่งผลให้เกิดอุตสาหกรรมที่มีความแข็งแกร่ง โดยมีกรอบกำกับดูแลที่ส่งเสริมการพัฒนาและการรักษาความปลอดภัย

ด้านล่างนี้ เราจะอธิบายข้อควรพิจารณาสำหรับธุรกิจที่วางแผนจะเข้าสู่ตลาดการชำระเงินของมอลตา โดยมีหัวข้อต่างๆ ดังนี้

  • เปิดรับความต้องการของลูกค้าในท้องถิ่น
  • ปฏิบัติตามมาตรฐานด้านการกำกับดูแล
  • ดูแลโครงสร้างพื้นฐานด้านการรักษาความปลอดภัยให้รัดกุม

สถานะของตลาด

วิธีการชำระเงินที่ใช้กันมากที่สุดในมอลตาคือเงินสด อย่างไรก็ตาม การใช้การชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีวิธีการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์หลายรูปแบบที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย บัตรเครดิตเป็นวิธีการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในมอลตา และธุรกิจส่วนใหญ่ยอมรับบัตรเครดิตหลักทุกแบรนด์ รวมถึง Visa, Mastercard, American Express และ Diners Club

บัตรเดบิตก็ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในมอลตา เช่นเดียวกับบัตรเติมเงิน ซึ่งสามารถใช้ซื้อสินค้าและบริการได้ในทุกธุรกิจที่รับชำระด้วยบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต

การใช้การชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่มีการเติบโตในมอลตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ที่คุ้นเคยกับเทคโนโลยี ผลการสำรวจของ Central Bank of Malta ในปี 2018 พบว่าการชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่เป็นวิธีการชำระเงินที่ถูกกล่าวถึงมากเป็นอันดับสองสำหรับสินค้าอุปโภคบริโภค และเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งสำหรับสินค้าที่ไม่ใช่สินค้าอุปโภคบริโภค มูลค่าธุรกรรมของตลาดการชำระเงินผ่านระบบบันทึกการขาย (POS) ทางอุปกรณ์เคลื่อนที่ในมอลตาคาดว่าจะอยู่ที่ 1.11 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2025 ซึ่งสะท้อนถึงการยอมรับที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้า ตลอดจนความเชื่อมั่นที่มากขึ้นในด้านการรักษาความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของตัวเลือกการชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่

กฎระเบียบของรัฐบาลมีบทบาทสำคัญต่อการใช้เงินสดในเศรษฐกิจของมอลตา มาตรการด้านกฎระเบียบมุ่งสนับสนุนการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเพิ่มความโปร่งใสและต่อสู้กับการฉ้อโกงทางการเงิน หน่วยงานด้านภาษีได้เสนอสิ่งจูงใจสำหรับการชำระเงินด้วยบัตรเพื่อส่งเสริมการใช้งาน มอลตายังได้กำหนดข้อจำกัดการชำระเงินด้วยเงินสดสำหรับธุรกรรมบางประเภทเพื่อลดความเสี่ยงในการฟอกเงิน และห้ามการชำระเงินสดที่มูลค่าเกินกว่า 10,000 ยูโร กฎระเบียบเหล่านี้สอดคล้องกับข้อกำหนดของสหภาพยุโรป และสะท้อนถึงความพยายามร่วมกันในการส่งเสริมการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์

วิธีการชำระเงิน

แม้ว่าเงินสดยังคงเป็นวิธีการชำระเงินที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในมอลตา แต่ลูกค้าก็ใช้วิธีการชำระเงินที่หลากหลาย ภาพรวมมีดังต่อไปนี้

การใช้งานปัจจุบัน

ในปี 2022 เงินสดมีสัดส่วนคิดเป็น 77% ของธุรกรรมผ่าน POS ในมอลตา ซึ่งเป็นสัดส่วนสูงที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศในยุโรปที่รวมอยู่ในรายงานของ European Central Bank อย่างไรก็ตาม กระเป๋าเงินดิจิทัล และการชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดยประมาณหนึ่งในสี่ของการชำระเงินแบบ peer-to-peer เกิดขึ้นผ่านโทรศัพท์มือถือ การแพร่หลายของการชำระเงินแบบไร้สัมผัสและเทคโนโลยีรหัส QR ได้ช่วยอำนวยความสะดวกให้การเปลี่ยนผ่านจากการใช้เงินสดเป็นไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น

บัตรเครดิตได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั่วทั้งมอลตา ทั้งในเขตเมืองและชนบท โดยเมื่อรวมบัตรเครดิตและบัตรเดบิตเข้าด้วยกัน คิดเป็น 26% ของมูลค่าธุรกรรมผ่าน POS ในปี 2022 นอกจากนี้ อัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่สูงในมอลตา โดยกว่า 95% ของครัวเรือนในเขตชานเมืองมอลตาสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ในปี 2024 ซึ่งสอดคล้องกับการแพร่หลายในการซื้อสินค้าออนไลน์และการชำระเงินด้วยบัตรออนไลน์

การชำระเงินแบบไร้สัมผัสในมอลตายังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นแนวโน้มที่เร็วขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามข้อมูลจาก European Central Bank สัดส่วนของธุรกรรมแบบไร้สัมผัสในการชำระเงินด้วยบัตรผ่าน POS ทั้งหมดเพิ่มขึ้นจาก 39% ในปี 2019 เป็น 74% ในปี 2022

วิธีการชำระเงินแบบ B2C ที่ได้รับความนิยมในมาเลเซีย

วิธีการชำระเงินแบบ B2B ที่ได้รับความนิยมในมาเลเซีย

  • บัตรเครดิต
  • การโอนเงินผ่านธนาคาร

แนวโน้มที่กำลังเกิดขึ้น

แนวทางเชิงรุกของมอลตาในการนำโซลูชันเทคโนโลยีทางการเงินมาใช้ รวมถึงบล็อกเชน มีความคล้ายคลึงกับตลาดที่พัฒนาแล้ว เช่น สิงคโปร์และสหราชอาณาจักร

ความง่ายและความยากในการเข้าสู่ตลาด

นอกเหนือจากธนาคารแบบดั้งเดิมแล้ว มอลตายังเป็นที่ตั้งของผู้ให้บริการทางการเงินที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง ต่อไปนี้คือแนวทางการดำเนินงานในตลาดนี้

ภาษี

ในมอลตา ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) อยู่ที่ 18% สำหรับสินค้าและบริการส่วนใหญ่ แม้ว่าจะมีอัตราที่ลดลงสำหรับบางหมวดหมู่ และสินค้าจำเป็น เช่น อาหาร จะไม่มีการเรียกเก็บ VAT แม้ว่าลูกค้าจะเป็นผู้รับภาระ VAT โดยตรงเมื่อซื้อสินค้าหรือบริการ แต่ธุรกิจเป็นผู้มีหน้าที่จัดเก็บและนำส่ง VAT ให้แก่รัฐบาล การปฏิบัติตามกฎระเบียบ VAT อย่างถูกต้องเป็นสิ่งจำเป็น และหากมีการนำส่งล่าช้าหรือไม่ถูกต้อง อาจส่งผลให้ถูกปรับสูงและอาจถูกตรวจสอบบัญชีได้

การดึงเงินคืนและการโต้แย้งการชำระเงิน

ท่าทีของมอลตาเกี่ยวกับการดึงเงินคืนและการโต้แย้งการชำระเงินนั้นให้ความสำคัญกับการคุ้มครองผู้บริโภค โดยได้รับอิทธิพลจากทั้งกฎระเบียบของสหภาพยุโรปและกฎหมายภายในประเทศ ซึ่งกำหนดให้ธุรกิจต้องพิสูจน์ความถูกต้องชอบธรรมของธุรกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของธุรกรรมที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งการพิสูจน์ความแท้จริงของธุรกรรมอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย ธุรกิจจึงจำเป็นต้องตรวจสอบธุรกรรมและเก็บรักษาเอกสารหลักฐานอย่างครบถ้วนเพื่อลดผลกระทบทางการเงินจากการโต้แย้งการชำระเงิน

มอลตาปฏิบัติตาม PSD2 ซึ่งบังคับใช้การตรวจสอบสิทธิ์ลูกค้าแบบรัดกุม (SCA) โดย SCA สามารถมีอิทธิพลต่อผลลัพธ์ของข้อโต้แย้งเกี่ยวกับการดึงเงินคืน เนื่องจากระดับการตรวจสอบยืนยันในขณะที่ทำธุรกรรมสามารถนำมาอ้างอิงเป็นหลักฐานในการตัดสินได้

นอกจากนี้ มอลตายังปฏิบัติตามข้อกำหนดของพื้นที่การชำระเงินยูโรเดียว (Single Euro Payments Area: SEPA) ซึ่งกำหนดให้ลูกค้ามีสิทธิ์ได้รับเงินคืนจากธุรกรรมการหักบัญชีอัตโนมัติ หากมีการร้องขอภายในระยะเวลา 8 สัปดาห์

การชำระเงินระหว่างประเทศ

ตลาดการชำระเงินของมอลตาดำเนินงานเชื่อมโยงกับตลาดโลกในหลายลักษณะ สะท้อนถึงทั้งความชอบของผู้บริโภคที่เหมือนกันและกรอบกฎระเบียบที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งมีรายละเอียดกันดังนี้

  • การแปลงสกุลเงิน
    นักท่องเที่ยวจากประเทศนอกเขตยูโรโซนมักแปลงสกุลเงินของตนที่สถาบันการเงินหรือศูนย์แลกเปลี่ยนเงินตราเฉพาะทาง โดยหน่วยงานเหล่านี้มักบวกอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มเติมอยู่ในช่วง 1%–3% บางธนาคารอาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมแบบเหมาจ่ายสำหรับการแปลงสกุลเงิน ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่ระหว่าง 2–10 ยูโร เครื่องถอนเงินสดอัตโนมัติ (ATM) ในมอลตาอาจเสนอทางเลือกให้เจ้าของบัตรสามารถถอนเงินสดเป็นสกุลเงินต่างประเทศได้ โดยมีค่าธรรมเนียมการให้บริการต่อธุรกรรมอยู่ระหว่าง 2–5 ยูโร

  • ** บทบาทของมอลตาในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่ง SEPA**
    SEPA ช่วยทำให้การโอนเงินผ่านธนาคารที่เป็นสกุลยูโรมีความสะดวกและเอื้อต่อการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนภายในยูโรโซน ทำให้ลูกค้าและธุรกิจในมอลตาสามารถติดต่อและทำธุรกรรมกับคู่ค้าในยุโรปได้ง่ายขึ้น

  • ความร่วมมือทางการค้า
    นอกเหนือจากความสัมพันธ์ที่สำคัญที่สุดกับประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป มอลตายังมีความสัมพันธ์ทางการค้าสำคัญกับสหราชอาณาจักร ซึ่งครอบคลุมถึงบริการทางการเงินและธุรกรรมอีคอมเมิร์ซ และกับอิตาลีซึ่งมีหลายด้านที่เกี่ยวเนื่องกันอย่างใกล้ชิดกับบริการทางการเงินของมอลตา

การรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว

มอลตาให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัย การปฏิบัติตามข้อกำหนด และปัจจัยด้านกฎระเบียบในภาคการชำระเงินเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางและข้อกำหนดของสหภาพยุโรป ต่อไปนี้คือสิ่งที่คาดว่าจะได้พบ

  • กฎหมายคุ้มครองข้อมูล
    มอลตาปฏิบัติตามกฎระเบียบว่าด้วยการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคล (GDPR) ซึ่งเป็นกฎระเบียบที่ใช้ทั่วสหภาพยุโรปที่กำหนดมาตรฐานที่เข้มงวดในการคุ้มครองข้อมูลลูกค้า GDPR กำหนดให้หน่วยงานต้องได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งในการเก็บข้อมูล และให้สิทธิ์แก่ลูกค้าในการร้องขอให้ลบข้อมูลของตน ซึ่งรู้จักกันในชื่อ “สิทธิ์ที่จะถูกลืม” (Right to be Forgotten)

  • การกำกับดูแลของ Malta Financial Services Authority (MFSA)
    MFSA เป็นหน่วยงานกำกับหลักที่ดูแลบริการทางการเงิน รวมถึงสถาบันการชำระเงินและสถาบันเงินอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีหน้าที่บังคับใช้การปฏิบัติตามกฎระเบียบของสหภาพยุโรปและกำกับดูแลให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด

  • Financial Intelligence Analysis Unit (FIAU)
    FIAU เป็นหน่วยงานกลางของมอลตาที่รับผิดชอบในการป้องกันอาชญากรรมทางการเงิน รวมถึงการฟอกเงินและการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย โดยทำหน้าที่ติดตาม ตรวจสอบ และเผยแพร่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมที่น่าสงสัย

  • การต่อต้านการฟอกเงิน (AML) และการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย (CFT)
    มอลตาปฏิบัติตามคำสั่ง AML และ CFT ของสหภาพยุโรป โดยสถาบันการเงินต้องจัดให้มีระบบเพื่อติดตามและรายงานกิจกรรมที่อาจน่าสงสัย พร้อมทั้งมีบทลงโทษที่เข้มงวดสำหรับการไม่ปฏิบัติตาม

ปัจจัยหลักที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จ

ระบบการชำระเงินของมอลตามีอุปสรรคบางอย่างในการเข้าสู่ตลาด เช่น ความล่าช้าในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี ข้อกำหนดในการปฏิบัติตามกฎระเบียบ และความซับซ้อนของธุรกรรมระหว่างประเทศที่อยู่นอกสหภาพยุโรป ธุรกิจควรเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับปัจจัยเหล่านี้ไว้ล่วงหน้า

  • ความล่าช้าในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่เกิดใหม่
    ความท้าทายที่สำคัญประการหนึ่งของมอลตาคือความล่าช้าในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่เกิดใหม่ แม้ว่าการชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่จะได้รับความนิยมมากขึ้นทั่วโลก แต่มีลูกค้าเพียงส่วนน้อยในมอลตาที่ใช้วิธีการชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ ในปี 2022 การชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่มีสัดส่วนเพียงประมาณ 3% ของธุรกรรม POS ทั้งหมด ซึ่งถือเป็นปัญหาสำหรับธุรกิจที่จำเป็นต้องรองรับวิธีการชำระเงินที่หลากหลาย

  • กฎระเบียบเกี่ยวกับการจัดการข้อมูล
    GDPR ได้เพิ่มความจำเป็นในการปฏิบัติตามข้อกำหนดสำหรับธุรกิจที่ดำเนินงานในมอลตา การไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดอาจส่งผลให้ถูกปรับจำนวนมหาศาล สูงสุดถึง 20 ล้านยูโร หรือ 4% ของรายได้ทั่วโลกต่อปีของบริษัท ข้อกำหนดเหล่านี้ทำให้ธุรกิจต้องลงทุนในการกำกับดูแลข้อมูล โดยเฉพาะในระบบการชำระเงินซึ่งมีเรื่องความละเอียดอ่อนของข้อมูลและความถี่ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลเป็นประเด็นสำคัญ

  • ความซับซ้อนในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ
    การจัดการธุรกรรมระหว่างประเทศที่อยู่นอก SEPA ซึ่งระบบการชำระเงินที่เรียบง่ายของ SEPA ไม่ครอบคลุมนั้นอาจมีความซับซ้อน ธุรกิจที่ดำเนินงานระหว่างประเทศต้องเผชิญกับความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ความหลากหลายของกรอบกฎระเบียบ และความแตกต่างด้านพฤติกรรมผู้บริโภค ธุรกิจจึงจำเป็นต้องรับมือกับประเด็นเหล่านี้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานและผลลัพธ์ทางการเงินของบริษัท

  • การโต้แย้งในเรื่องการชำระเงินด้วยบัตร
    การจัดการการชำระเงินด้วยบัตรที่มีข้อโต้แย้งถือเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งในมอลตา เช่นเดียวกับในตลาดอื่นๆ อีกหลายแห่ง ในการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ธุรกิจจำเป็นต้องอาศัยการลงทุนในระบบการแก้ไขข้อพิพาทที่ซับซ้อนและต้องมีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ซึ่งอาจใช้ทรัพยากรจำนวนมาก

ประเด็นสำคัญ

ทำเลที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของมอลตาและความมุ่งมั่นในการพัฒนาทางการเงิน ทำให้มอลตาเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจ ต่อไปนี้คือสรุปประเด็นสำคัญสำหรับการเข้าสู่ตลาดการชำระเงินของมอลตา

เปิดรับความต้องการของลูกค้าในท้องถิ่น

  • ใช้การหักบัญชีอัตโนมัติแบบ SEPA
    ระบบ SEPA มีอิทธิพลอย่างมากในมอลตา และธุรกิจและลูกค้าจำนวนมากพึ่งพาการหักบัญชีอัตโนมัติแบบ SEPA สำหรับการชำระเงินตามแบบแผนล่วงหน้า ในปี 2022 มีการส่งการชำระเงินผ่าน SEPA มากกว่า 18 ล้านรายการจากมอลตา การใช้เกตเวย์การชำระเงินที่สอดคล้องกับ SEPA สามารถเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพสำหรับธุรกิจที่ดำเนินงานในรูปแบบการชำระเงินตามรอบบิลหรือโมเดลรายรับตามแบบแผนล่วงหน้า

  • ใช้ตัวเลือกที่มีหลายสกุลเงิน
    มอลตาเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวยอดนิยม และการนำเสนอทางเลือกการชำระเงินด้วยหลายสกุลเงินสามารถช่วยเพิ่มประสบการณ์การชำระเงินของลูกค้าได้ ลูกค้าชื่นชอบความสะดวกในการชำระเงินด้วยสกุลเงินที่ตนเองต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเดินทางมาจากต่างประเทศ ดังนั้นควรมั่นใจว่าระบบชำระเงินของคุณรองรับหลายสกุลเงินเพื่อตอบสนองฐานลูกค้าที่หลากหลาย

  • รับเงินสด
    ในปี 2021 มอลตามีสัดส่วนการใช้เงินสดเทียบกับการทำธุรกรรมแบบไม่ใช้เงินสดสูงที่สุดในกลุ่มประเทศในยูโรโซน ซึ่งหมายความว่าธุรกิจยังคงต้องให้ความสำคัญกับการรองรับลูกค้าที่ต้องการชำระด้วยเงินสดต่อไป

ปฏิบัติตามมาตรฐานด้านการกำกับดูแล

  • ปฏิบัติตามกฎ GDPR
    มอลตามีกฎระเบียบเฉพาะเกี่ยวกับการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวและการคุ้มครองผู้บริโภค รวมถึงการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลการชำระเงิน การปฏิบัติตามกฎหมายในพื้นที่ เช่น GDPR และข้อแก้ไขเพิ่มเติมเฉพาะของมอลตา เป็นสิ่งจำเป็นในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าและหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้น

  • ทราบบทบาทของหน่วยงานกำกับดูแลในพื้นที่
    MFSA ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกำกับหลักที่ดูแลบริการทางการเงินในมอลตา กรอบการกำกับดูแลของ MFSA สอดคล้องกับข้อกำหนดของสหภาพยุโรป โดยคุ้มครองผลประโยชน์ของลูกค้าและรักษาความมั่นคงของภาคการเงิน

  • ทำความเข้าใจความสำคัญของ PSD2
    การที่ประเทศปฏิบัติตามกฎระเบียบของสหภาพยุโรป รวมถึง PSD2 จะช่วยอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนและเสริมสร้างความเชื่อมั่นในภาคการชำระเงินภายในประเทศ

ดูแลโครงสร้างพื้นฐานด้านการรักษาความปลอดภัยให้รัดกุม

  • พิจารณาใช้ผู้ประมวลผลการชำระเงิน
    ผู้ให้บริการชำระเงินในมอลตาปฏิบัติตามกฎระเบียบภายในประเทศ และหลายรายได้นำเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น อัลกอริทึมแมชชีนเลิร์นนิง มาใช้ในการตรวจจับและป้องกันการฉ้อโกง พร้อมทั้งคุ้มครองข้อมูลของลูกค้า

  • __ ปฏิบัติตาม PSD2__
    ภายใต้กฎระเบียบ PSD2 ผู้ให้บริการชำระเงินในมอลตาจะต้องใช้การตรวจสอบสิทธิ์ลูกค้าแบบรัดกุม (SCA) ซึ่งจำเป็นต้องใช้การตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2 ปัจจัยสำหรับธุรกรรมจำนวนมาก

  • ใช้เทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยขั้นสูง
    ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยต่างๆ เช่น การตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2 ปัจจัย และการเข้ารหัสระดับสูง เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในการชำระเงิน

เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Payments

Payments

รับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกด้วยโซลูชันการชำระเงินที่สร้างมาสำหรับธุรกิจทุกขนาด

Stripe Docs เกี่ยวกับ Payments

ค้นหาคู่มือเกี่ยวกับการเชื่อมต่อ Payments API ของ Stripe