การชำระเงินในฮ่องกง: คู่มือเชิงลึก

Payments
Payments

รับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกด้วยโซลูชันการชำระเงินที่สร้างมาสำหรับธุรกิจทุกขนาด ตั้งแต่ธุรกิจสตาร์ทอัพไปจนถึงองค์กรใหญ่ระดับโลก

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. สถานะของตลาด
  3. วิธีการชำระเงิน
    1. การใช้งานในปัจจุบัน
    2. แนวโน้มที่กำลังเกิดขึ้น
  4. ความง่ายและความยากในการเข้าสู่ตลาด
    1. ภาษี
    2. การดึงเงินคืนและการโต้แย้งการชำระเงิน
    3. การชำระเงินระหว่างประเทศ
    4. ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
  5. ปัจจัยหลักที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จ
  6. ประเด็นสำคัญ
    1. ให้บริการวิธีการชำระเงินในท้องถิ่น
    2. รองรับธุรกรรมข้ามพรมแดน
    3. ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและการคุ้มครองข้อมูล

การชำระเงินในฮ่องกงมีการผสมผสานระหว่างทางเลือกการชำระเงินในท้องถิ่น จีนแผ่นดินใหญ่ และตะวันตก ด้วยความที่ฮ่องกงตั้งอยู่ใกล้กับจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกงจึงได้รับโซลูชันการชำระเงินจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น Alipay และ WeChat Pay ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการให้บริการนักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่ รวมถึงคนในท้องถิ่นที่ดำเนินธุรกรรมข้ามพรมแดน

ด้านล่างนี้ เราจะอธิบายถึงแง่มุมต่างๆ ของระบบการเงินของฮ่องกง และวิธีที่ธุรกิจสามารถเข้าสู่พื้นที่การชำระเงินนี้ได้อย่างมีกลยุทธ์ ซึ่งรวมถึง

  • การเสนอวิธีการชำระเงินในท้องถิ่น
  • การยอมรับการชำระเงินข้ามพรมแดน
  • การให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและการคุ้มครองข้อมูล

สถานะของตลาด

การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการชำระเงินผ่านแอปพลิเคชันบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ เช่น Octopus, Alipay และ WeChat Pay ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในฮ่องกง โดยคาดการณ์ว่ามูลค่าธุรกรรมรวมของตลาดการชำระเงินดิจิทัลจะสูงกว่า 111 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2025 อย่างไรก็ตาม วิธีการชำระเงินแบบดั้งเดิม อย่างเช่น บัตรเครดิตและบัตรเดบิตยังคงเป็นที่นิยม รวมถึง Visa และ Mastercard ที่ยังได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง

การใช้การชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะวิธีต่างๆ เช่น O! ePay ของ Octopus, AlipayHK และ WeChat Pay HK โดยกระเป๋าเงินดิจิทัลคิดเป็น 27% ของมูลค่าธุรกรรมของระบบบันทึกการขาย (POS) ในปี 2022

แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วเงินสดจะถูกใช้ในการทำธุรกรรมในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในตลาดท้องถิ่นและในกลุ่มคนรุ่นเก่า แต่ก็มีการเปลี่ยนมาใช้โซลูชันการชำระเงินแบบดิจิทัลมากขึ้น โดยในปี 2022 การชำระเงินด้วยเงินสดคิดเป็นสัดส่วนเพียง 10% ของมูลค่าธุรกรรม POS แต่ยังคงเป็นที่นิยมสำหรับการทำธุรกรรมในตลาดและกับผู้ขายบนถนน

รัฐบาลฮ่องกงร่วมกับหน่วยงานการเงินของฮ่องกง (HKMA) สนับสนุนการพัฒนาและการนำการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ โดยมีโครงการริเริ่มต่างๆ เช่น ระบบ การชำระเงินที่รวดเร็วขึ้น (Faster Payment System, FPS) ที่เปิดตัวขึ้นในปี 2018 โดยให้บริการการโอนเงินระหว่างธนาคารแบบเรียลไทม์ โดยมีเป้าหมายเพื่อปรับการชำระเงินให้ทันสมัยและง่ายขึ้นทั่วทั้งฮ่องกง โดยมีกรอบการกำกับดูแลเพื่อดูแลความมั่นคงปลอดภัยของการชำระเงินเหล่านี้ โดยมีแนวทางปฏิบัติสำหรับระบบการชำระเงินที่มีมูลค่าที่จัดเก็บไว้และระบบการชำระเงินแบบค้าปลีก

วิธีการชำระเงิน

ฟีเจอร์การชำระเงินของฮ่องกงมีทั้งวิธีการชำระเงินแบบดิจิทัลและแบบดั้งเดิม ต่อไปนี้คือรายละเอียดวิธีการชำระเงินยอดนิยมในฮ่องกง

การใช้งานในปัจจุบัน

บัตรเครดิตใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับการชำระเงินที่จุดขายและการชำระเงินออนไลน์ในฮ่องกง โดยบัญชีเครดิตมีสัดส่วน 52% ของธุรกรรม POS และ 41% ของธุรกรรมอีคอมเมิร์ซ

ความหลงใหลในเทคโนโลยีของฮ่องกงและวิถีชีวิตที่เร่งรีบมีส่วนทำให้ระบบการชำระเงินแบบไร้สัมผัสได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยในปี 2023 ผู้พำนักอาศัยในฮ่องกง 67% ใช้บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตแบบไร้สัมผัส และอย่างน้อย 55% ของชาวฮ่องกงใช้การชำระเงินผ่านรหัส QR และผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่แบบไร้สัมผัส โดยปัจจัยต่างๆ เช่น ความสะดวกในการใช้งาน การชำระเงินที่รวดเร็วขึ้น และความกังวลด้านสุขภาพทั่วโลกที่ยังคงดำเนินอยู่ ล้วนมีส่วนทำให้ระบบนี้ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงนี้เห็นได้อย่างชัดเจนทั้งในร้านค้าปลีกและภาคการขนส่ง โดยมีระบบบัตร Octopus เป็นผู้บุกเบิกระบบการชำระเงินแบบไร้สัมผัส และยังคงเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้า ด้วยการเติบโตของกระเป๋าเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่และแอปพลิเคชันอย่าง Apple Pay, Google Pay และ Samsung Pay ผู้ใช้จึงพึ่งพาสมาร์ทโฟนและสมาร์ทวอทช์ในการทำธุรกรรมต่างๆ ประจำวัน โดยการเปลี่ยนแปลงนี้สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนอย่างยิ่งกับธุรกรรมขนาดเล็ก เช่น ในร้านสะดวกซื้อหรือร้านกาแฟ

การชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ในฮ่องกงสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างไม่ลดละของฮ่องกงในเรื่องของการพัฒนาและความสะดวกสบาย ผู้พำนักอาศัยต่างก็ยอมรับถึงประโยชน์ของการชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ อย่างเช่น การชำระเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลมีสัดส่วน 32% ของธุรกรรมอีคอมเมิร์ซ และ 27% ของธุรกรรม POS ในปี 2023

วิธีการชำระเงินแบบ B2C ที่ได้รับความนิยมในฮ่องกง

  • บัตรเครดิต
  • การชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ (เช่น O! ePay, AliPayHK, WeChat Pay HK)
  • กระเป๋าเงินดิจิทัล (เช่น FPS)

วิธีการชำระเงินแบบ B2B ที่ได้รับความนิยมในฮ่องกง

  • การโอนเงินผ่านธนาคาร
  • บัตรเครดิต
  • บัตรเดบิต

แนวโน้มที่กำลังเกิดขึ้น

ในฮ่องกง เทคโนโลยียังคงเปลี่ยนแปลงรูปแบบการชำระเงินอย่างต่อเนื่อง อย่างเช่น บัตร Octopus ที่เปิดตัวครั้งแรกในระบบขนส่งสาธารณะของเมืองในปี 1997 ในปัจจุบันก็สามารถนำไปใช้ในร้านค้าปลีกในหลายๆ แห่งได้

ฮ่องกงให้ความสำคัญกับความปลอดภัยอย่างจริงจัง โดยมีการชำระเงินแบบไร้สัมผัส รหัส QR และแม้แต่โซลูชันไบโอเมตริกที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและการยืนยันตัวตน ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการนำระบบการชำระเงินดิจิทัลมาใช้

ความง่ายและความยากในการเข้าสู่ตลาด

เมื่อคุณพัฒนากลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อเข้าสู่ตลาดการชำระเงินของฮ่องกง มีหลายสิ่งที่ต้องพิจารณา

ภาษี

ฮ่องกงเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องระบบภาษีที่เรียบง่าย ไม่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) หรือภาษีสินค้าและบริการ (GST) แต่ลูกค้าและธุรกิจจะต้องจ่ายภาษีกำไรและเงินเดือน บริษัทจะต้องรายงานผลกำไรของตนและจ่ายภาษีผลกำไรจำนวน 16.5% จากรายได้สุทธิในฮ่องกง แม้ว่าลูกค้าจะไม่ถูกเรียกเก็บภาษีจากการชำระเงินโดยตรง แต่ก็รู้สึกถึงผลกระทบของภาษีเงินได้นิติบุคคลที่รวมอยู่ในค่าใช้จ่ายของสินค้าและบริการ ให้ติดตามการปรับปรุงกฎระเบียบและการปฏิรูปภาษีที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่าได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบและตามการวางแผนทางการเงินในระดับสูงสุด

การดึงเงินคืนและการโต้แย้งการชำระเงิน

แนวทางการจัดการการดึงเงินคืนและการโต้แย้งการชำระเงินของฮ่องกงช่วยสร้างสมดุลระหว่างการคุ้มครองผู้บริโภคกับสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรกับธุรกิจ โดยทั่วไปธุรกิจต่างๆ จะมีกรอบเวลาในการตอบกลับการดึงเงินคืน เช่นเดียวกับในเขตอำนาจศาลอื่นๆ แต่ฮ่องกงจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับเอกสารประกอบ ธุรกิจต่างมักต้องเก็บบันทึกรายละเอียดต่างๆ ซึ่งอาจครอบคลุมตั้งแต่บันทึกธุรกรรมไปจนถึงการสื่อสาร ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถช่วยได้ในกรณีที่เกิดการโต้แย้งการชำระเงิน

เมื่อพิจารณาถึงสถานะระหว่างประเทศของฮ่องกง ธุรกรรมจำนวนมากเป็นธุรกรรมข้ามพรมแดน ซึ่งทำให้การดึงเงินคืนและการโต้แย้งการชำระเงินมีความซับซ้อนขึ้นอีกชั้นหนึ่ง ธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับธนาคารต่างประเทศหรือเกตเวย์การชำระเงินมักจะต้องปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของทั้งของฮ่องกงและของหน่วยงานต่างประเทศ การโต้แย้งการชำระเงินมักเกิดขึ้นกับหลายฝ่ายในเขตอำนาจศาลที่แตกต่างกัน ซึ่งแต่ละฝ่ายต่างก็มีกฎระเบียบและข้อกำหนดเฉพาะของตนเอง

HKMA เป็นหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินหลักของฮ่องกง มีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแลการดึงเงินคืนและโต้แย้งการชำระเงิน แนวปฏิบัติที่กำหนดโดย HKMAโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการชำระเงินดิจิทัลจะช่วยปกป้องธุรกิจและลูกค้า ในกรณีที่ธุรกรรมที่ไม่ได้รับอนุญาต ภาระผูกพันมักเป็นหน้าที่ของบริษัทในการพิสูจน์ว่าธุรกรรมนั้นถูกต้องตามกฎหมาย สภาผู้บริโภคซึ่งเป็นหน่วยงานทางกฎหมายอิสระจะเป็นผู้สนับสนุนสิทธิ์ของผู้บริโภคในฮ่องกง

การชำระเงินระหว่างประเทศ

ฮ่องกงมีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับจีน สหรัฐอเมริกา และประเทศอื่นๆ อีกมากมาย ดังนั้นคุณควรเข้าใจว่าการเป็นพาร์ทเนอร์ทางการค้าเหล่านี้และการแปลงสกุลเงินเงินอาจส่งผลต่อธุรกิจของคุณอย่างไร ต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณควรทราบเกี่ยวกับการรับชำระเงินจากต่างประเทศ

  • การแปลงสกุลเงิน
    การแปลงสกุลเงินเป็นส่วนสำคัญของภาคการเงินของฮ่องกง โดยกระบวนการ สถาบัน และกฎระเบียบต่างๆ เกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนสกุลเงินของเมืองได้รับการปรับปรุงเพื่อประสิทธิภาพ ความโปร่งใส และการคุ้มครองผู้บริโภค บริการต่างๆ เช่น Wise (เดิมชื่อ TransferWise) และ Revolut กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในฮ่องกง โดยให้บริการอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินพร้อมโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่โปร่งใสและใกล้เคียงกับเวลาจริง ความต้องการในการแปลงสกุลเงินในฮ่องกงมาจากนักท่องเที่ยวและธุรกิจต่างๆ รวมถึงผู้พำนักอาศัยจำนวนมากที่มีความสัมพันธ์ทางครอบครัวหรือธุรกิจในต่างประเทศ ซึ่งทำให้มีความต้องการในการแปลงสกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกง (HKD) เป็นสกุลเงินหลักอื่นๆ (และในทางกลับกัน) อยู่เป็นประจำ ชื่อเสียงของฮ่องกงในฐานะแหล่งช้อปปิ้งยังทำให้นักท่องเที่ยวมักแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ธุรกิจในย่านท่องเที่ยวบางแห่งต่างรับเงินดอลลาร์สหรัฐ ยูโร หรือหยวนจีน (CNY)

  • ความสัมพันธ์ระหว่างฮ่องกงกับจีน
    ฮ่องกงมีความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์และเศรษฐกิจอันเป็นเอกลักษณ์กับจีนแผ่นดินใหญ่มาโดยตลอด การนำระบบการชำระเงินอย่าง Alipay และ WeChat Pay จากจีนแผ่นดินใหญ่มาสู่ฮ่องกงได้ปฏิวัติวงการการชำระเงินในท้องถิ่น แพลตฟอร์มเหล่านี้ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวจีนแผ่นดินใหญ่ และกำลังได้รับการนำไปใช้อย่างแพร่หลายในหมู่คนท้องถิ่น

  • พาร์ทเนอร์การค้าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
    ทำเลที่ตั้งของฮ่องกงที่มีนัยสำคัญทำให้ฮ่องกงเป็นพาร์ทเนอร์ทางการค้าที่โดดเด่นสำหรับหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ ดังนั้น วิธีการชำระเงินที่ได้รับความนิยมในประเทศเหล่านี้ (เช่น บัตร JCB ของญี่ปุ่น, NETS ของสิงคโปร์) จึงเริ่มแพร่หลายในฮ่องกง

ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว

สถานะของฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางด้านการเงินระหว่างประเทศ หมายความว่ากระบวนการต่างๆ สำหรับการรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน การปฏิบัติตามข้อกำหนด และระเบียบข้อบังคับมีความเข้มงวดและครอบคลุม ต่อไปนี้คือสิ่งที่ควรทราบเกี่ยวกับแนวทางของฮ่องกงในการคุ้มครองผู้บริโภคและการชำระเงิน

  • กฎหมายคุ้มครองข้อมูล
    กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (ความเป็นส่วนตัว) (PDPO) เป็นกฎหมายหลักในการคุ้มครองข้อมูลในฮ่องกง อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกำหนดให้มีการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลด้วยความระมัดระวังและใช้งานเฉพาะตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมเท่านั้น ธุรกิจต่างๆ ต้องได้รับความยินยอมอย่างชัดแจ้งจากลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถ่ายโอนข้อมูลนอกฮ่องกง ผู้ให้บริการบัตรส่วนใหญ่ในฮ่องกงได้นำมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงมาใช้ เช่น ระบบชิปและรหัสประจำตัว (PIN) ของ Europay Mastercard และ Visa (EMV) ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการทำธุรกรรมฉ้อโกง โดยกำหนดให้ต้องมีบัตรและรหัส PIN ที่ถูกต้องเพื่อดำเนินการธุรกรรมให้เสร็จสมบูรณ์ กฎหมายว่าด้วยระบบการชำระเงินและสิ่งอำนวยความสะดวกในการจัดเก็บของมีมูลค่าจะควบคุมสิ่งอำนวยความสะดวกที่จัดเก็บไว้ (เช่น บัตรเติมเงิน กระเป๋าเงินดิจิทัลบางประเภท) โดยผู้ให้บริการระบบเหล่านี้ต้องรักษามาตรฐานเฉพาะสำหรับการจัดการเงินทุนและความเสี่ยงด้วย

  • การป้องกันการฉ้อโกง
    ฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางการเงินระดับโลกทำให้ฮ่องกงกลายเป็นเป้าหมายหลักของอาชญากรรมทางการเงิน รวมถึงการฟอกเงิน ตามข้อมูลของ HKMA จำนวนรายงานธุรกรรมที่ต้องสงสัยจากธนาคารเพิ่มขึ้น 319% ในช่วงปี 2021-2022 ซึ่งหมายความว่า ผู้ประมวลผลการชำระเงินและสถาบันการเงินต้องเฝ้าระวังการฉ้อโกงอย่างต่อเนื่อง และใช้โซลูชันทางเทคโนโลยีขั้นสูง รวมถึงการตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเข้มงวดตามความเหมาะสม

  • ** บทบาทของ HKMA**
    HKMA กำกับดูแลระบบการชำระเงินเพื่อให้มั่นใจว่าระบบมีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับสถานะผู้นำทางการเงินระดับโลกของฮ่องกง โดย HKMA มีแนวปฏิบัติสำหรับผู้ให้บริการชำระเงิน โดยเฉพาะผู้ให้บริการที่มีปริมาณธุรกรรมสูง นอกจากนี้ HKMA ยังรับผิดชอบการกำกับดูแลในการแปลงสกุลเงินอีกด้วย

  • การต่อต้านการฟอกเงิน (AML) และการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย (CFT)
    ระเบียบข้อบังคับ AML และ CFT ของฮ่องกงจะตรวจจับและจำกัดเงินทุนหรือกิจกรรมที่ผิดกฎหมายอย่างทันท่วงทีตามมาตรฐานสากล สถาบันการเงินต้องทำการตรวจสอบข้อมูล รายงานธุรกรรมที่น่าสงสัย และเก็บบันทึกข้อมูล โดยหน่วยงานข่าวกรองทางการเงินร่วม ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานตำรวจฮ่องกงกับกรมศุลกากรและกรมสรรพสามิตจะรับผิดชอบด้านการสืบสวนสอบสวนในการบังคับใช้กฎหมาย

ปัจจัยหลักที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จ

ฮ่องกงมีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการชำระเงินและการดำเนินงานทางการเงิน แต่ก็ต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ต่อไปนี้คือปัจจัยบางประการที่ธุรกิจต้องเผชิญเมื่อเข้าสู่ตลาดการชำระเงินของฮ่องกง

  • การรักษาสมดุลในการปรับปรุงด้วยการรักษาความปลอดภัย
    ความมุ่งมั่นของฮ่องกงในการรักษาระบบการเงินที่มั่นคงและปลอดภัยอาจสร้างความท้าทายให้กับโซลูชันฟินเทคต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้น โดย HKMA นั้นขึ้นชื่อเรื่องการกำกับดูแลที่เข้มงวดที่ช่วยเสริมสร้างเสถียรภาพ แต่ก็อาจทำให้การเปิดตัวโซลูชันการชำระเงินใหม่ๆ ล่าช้าออกไปได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น ในขณะที่ธนาคารดิจิทัลกำลังได้รับความนิยมในฮ่องกง แต่ธนาคารเหล่านี้จะต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนที่จะได้รับใบอนุญาต

  • การปิดช่องว่างทางดิจิทัล
    แม้ว่าฮ่องกงจะมีโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่แข็งแกร่ง แต่ยังคงมีช่องว่างในการนำการชำระเงินดิจิทัลมาใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ผู้สูงอายุ ตามข้อมูลของกรมสรรพากรและหน่วยงานสถิติระบุว่า ในขณะที่ประมาณ 84% ของชาวฮ่องกงที่มีอายุ 25-34 ปีเคยใช้การชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ในปี 2024 แต่มีเพียงประมาณ 38% ของคนอายุ 55-64 ปีเท่านั้นที่ทำเช่นนั้น ความแตกต่างนี้เป็นอุปสรรคและโอกาสสำหรับธุรกิจต่างๆ ในการกำหนดกลุ่มเป้าหมายอายุที่หลากหลายในภูมิภาค

  • การติดตามมาตรฐานระดับโลก
    การเปลี่ยนแปลงของมาตรฐานทางการเงินระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับ AML และ CFT ส่งผลให้ธุรกิจในฮ่องกงต้องอัปเดตแนวปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จำเป็นต้องมีการอัปเดตระบบอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดต้นทุนที่สูงสำหรับธุรกิจ

ประเด็นสำคัญ

ตลาดการชำระเงินของฮ่องกงผสมผสานระหว่างลักษณะเฉพาะของท้องถิ่นและอิทธิพลจากต่างประเทศ กลยุทธ์การเข้าสู่ตลาดที่คำนึงถึงวิธีการชำระเงินในท้องถิ่น รองรับความแตกต่างของธุรกรรมข้ามพรมแดน และรวมถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ ต่อไปนี้คือปัจจัยสำคัญที่ควรคำนึงถึงเมื่อคุณวางแผนที่จะเข้าสู่ตลาดการชำระเงินของฮ่องกง

ให้บริการวิธีการชำระเงินในท้องถิ่น

  • ค้นคว้าวิธีการชำระเงินยอดนิยมในท้องถิ่น
    บัตร Octopus เป็นวิธีการชำระเงินที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในหลายภาคส่วนในฮ่องกง ลูกค้าท้องถิ่นต่างชื่นชอบความสะดวกสบายและอาจชื่นชอบธุรกิจที่รับบัตร Octopus เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ การผสานการทำงานรวมกับกระเป๋าเงินดิจิทัลอย่าง AlipayHK และ WeChat Pay HK ซึ่งมีฐานผู้ใช้จำนวนมาก ก็จะสามารถช่วยยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าได้อีกด้วย

  • ให้บริการอินเทอร์เฟซการชำระเงินหลายภาษา
    แม้ว่าภาษาอังกฤษจะเป็นที่นิยมใช้กันทั่วไปในแวดวงธุรกิจ แต่ภาษาจีนกวางตุ้งก็ยังคงเป็นภาษาที่ใช้ในชีวิตประจำวัน การนำเสนอเกตเวย์การชำระเงินทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีนตัวเต็มจะช่วยให้ลูกค้าในท้องถิ่นรู้สึกสะดวกสบายมากขึ้น การใช้คำศัพท์เฉพาะและการอ้างอิงทางวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับท้องถิ่นจะช่วยให้กระบวนการชำระเงินมีความคุ้นเคยและน่าเชื่อถือมากขึ้นเช่นกัน

  • พิจารณาการผสานการทำงานกับ FPS
    คนฮ่องกงให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพ วิธีการชำระเงินแบบทันที เช่น FPS ของ HKMA ที่รองรับการโอนเงินแบบเรียลไทม์ ข้ามธนาคาร และกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง

รองรับธุรกรรมข้ามพรมแดน

  • รวมวิธีการชำระเงินที่ได้รับความนิยมของจีนแผ่นดินใหญ่
    การรองรับวิธีการชำระเงินที่ได้รับความนิยมในจีนแผ่นดินใหญ่ เช่น Alipay และ WeChat Pay จะช่วยให้ธุรกิจสามารถรองรับผู้พำนักอาศัยในท้องถิ่นที่มีการเชื่อมต่อข้ามพรมแดน รวมถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ได้

  • รับหลายสกุลเงิน
    ธุรกิจจะได้รับประโยชน์จากการยอมรับหลายสกุลเงิน รวมถึง HKD และ CNY เพื่อรองรับความต้องการการชำระเงินที่หลากหลายของคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว

  • ตระหนักถึงความซับซ้อนของสกุลเงิน
    แม้จะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่ แต่การชำระเงินข้ามพรมแดนก็ยังคงมีอุปสรรคอยู่บ้าง การแปลงสกุลเงินระหว่าง HKD และ CNY อาจมีความซับซ้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงสถานะที่โดดเด่นของ CNY ในฐานะสกุลเงินที่ต้องได้รับการจัดการ ระบบการชำระเงินดิจิทัลที่มีฟังก์ชันข้ามพรมแดนก็อาจเผชิญกับปัญหาด้านกฎระเบียบและการดำเนินงาน

ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและการคุ้มครองข้อมูล

  • ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลเป็นอันดับแรก
    ในฮ่องกง กฎหมาย PDPO กำหนดให้ธุรกิจต้องจัดการข้อมูลส่วนบุคคลอย่างระมัดระวังและจำกัดการใช้ข้อมูล โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการได้รับความยินยอมอย่างชัดแจ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการโอนข้อมูลออกนอกฮ่องกง

  • ใช้การเข้ารหัสขั้นสูง
    การเข้ารหัสขั้นสูงควรเป็นมาตรฐานความปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีการชำระเงินทันที

  • รับทราบบทบาทของ HKMA
    HKMA มีบทบาทเชิงรุกในการกำหนดแนวปฏิบัติและข้อบังคับสำหรับระบบการธนาคารแบบไร้สัมผัส บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ และบริการทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ เพื่อให้แน่ใจว่าระบบเหล่านี้มีความมั่นคงและปลอดภัย

เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Payments

Payments

รับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกด้วยโซลูชันการชำระเงินที่สร้างมาสำหรับธุรกิจทุกขนาด

Stripe Docs เกี่ยวกับ Payments

ค้นหาคู่มือเกี่ยวกับการเชื่อมต่อ Payments API ของ Stripe