การชําระเงินในแคนาดา: คู่มือเชิงลึก

Payments
Payments

รับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกด้วยโซลูชันการชำระเงินที่สร้างมาสำหรับธุรกิจทุกขนาด ตั้งแต่ธุรกิจสตาร์ทอัพไปจนถึงองค์กรใหญ่ระดับโลก

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. สถานการณ์ในตลาด
  3. วิธีการชําระเงิน
    1. การใช้งานในปัจจุบัน
    2. แนวโน้มที่กําลังเกิดขึ้น
  4. ความง่ายและความยุ่งยากในการเข้าสู่ตลาด
    1. ภาษี
    2. การดึงเงินคืนและการโต้แย้งการชําระเงิน
    3. การชําระเงินระหว่างประเทศ
    4. ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
  5. ปัจจัยหลักเพื่อการประสบความสําเร็จ
  6. ประเด็นสำคัญ
    1. นำการชําระเงินแบบไร้สัมผัสและบนอุปกรณ์เคลื่อนที่มาใช้เป็นกลยุทธ์หลัก
    2. ปฏิบัติตามมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยและการคุ้มครองข้อมูลของแคนาดา
    3. ปรับอินเทอร์เฟซและวิธีการชําระเงินให้เหมาะกับท้องถิ่น

แคนาดาเป็นประเทศที่มีบทบาทสําคัญในด้านการเงินทั่วโลก โดยมีความสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกาอย่างใกล้ชิด ดังนั้นการรับชําระเงินจากประเทศนี้จึงเป็นกลยุทธ์ที่สําคัญสําหรับธุรกิจในต่างประเทศจํานวนมาก

พื้นที่การชําระเงินของประเทศนี้มีการผสมผสานเทคโนโลยีทั้งแบบที่มั่นคงแล้วและแบบที่เกิดใหม่ แม้บัตรเครดิตจะได้รับความนิยม แต่ Interac e-Transfer ซึ่งเป็นระบบการโอนเงินระหว่างธนาคารกับธนาคารในแคนาดาก็ยังคงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้พำนักอาศัยยังเริ่มหันมาใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลและการชําระเงินแบบไร้สัมผัสในอัตราที่ช้ากว่าประเทศอย่างสหรัฐฯ แต่การชําระเงินด้วยเงินสดก็ยังคงมีบทบาทในชีวิตประจําวันของชาวแคนาดาอย่างต่อเนื่อง

ด้านล่างนี้ เราจะอธิบายว่าธุรกิจที่วางแผนเข้าสู่ระบบการชําระเงินในแคนาดาควรคำนึงถึงอะไรบ้าง ซึ่งรวมถึงสิ่งต่อไปนี้

  • การกำหนดจุดยืนโดยใช้การชําระเงินแบบไร้สัมผัสและอุปกรณ์เคลื่อนที่เป็นหลัก
  • การปฏิบัติตามมาตรฐานด้านการรักษาความปลอดภัยของแคนาดา
  • การปรับอินเทอร์เฟซและวิธีการชําระเงินให้เหมาะสมกับท้องถิ่น

สถานการณ์ในตลาด

ภาคการเงินของแคนาดา ซึ่งมีสกุลเงินหลักคือดอลลาร์แคนาดา (CAD) มีการผสมผสานระหว่างนิติบุคคลธนาคารแบบดั้งเดิมและธุรกิจฟินเทคที่คล่องตัว ระบบแบบเดิมๆ เช่น Interac e-Transfer ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ยังคงมีส่วนแบ่งส่วนใหญ่ในตลาด: Interac รายงานในเดือนเมษายน 2022 ว่าธุรกรรมการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์มีจำนวนเกิน 1 พันล้านรายการในระยะเวลา 12 เดือน ในขณะเดียวกัน 78% ของชาวแคนาดาต่างก็ใช้ช่องทางธนาคารดิจิทัล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนไปสู่ระบบการชําระเงินออนไลน์ ชาวแคนาดาต่างก็ใช้บัตรเดบิตและบัตรเครดิตอย่างกว้างขวาง และมีการใช้งานกระเป๋าเงินดิจิทัลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่น Apple Pay และ Google Pay

แม้ชาวแคนาดาจะเปลี่ยนมาใช้วิธีการชําระเงินแบบดิจิทัลมากขึ้น แต่เงินสดก็ยังคงเป็นส่วนสําคัญของระบบการชําระเงิน เงินสดเป็นวิธีการชําระเงินที่ลูกค้าเลือกใช้ในสถานการณ์ที่ต้องการชําระเงินอย่างรวดเร็ว เช่น การให้ทิปหรือการชําระเงินสําหรับการซื้อสินค้าและบริการในร้านค้าเล็กๆ ข้างทาง และการชำระเงินในหมู่ผู้สูงอายุ

หน่วยงานรัฐหลายแห่งควบคุมภาคการเงินของประเทศ โดยรวมถึง Bank of Canada ซึ่งเป็นธนาคารกลางของประเทศ หน่วยงานกํากับดูแลผู้บริโภคทางการเงินของแคนาดา (FCAC) และสํานักงานควบคุมดูแลสถาบันการเงิน (OSFI) หน่วยงานเหล่านี้จัดการนโยบายการเงินของแคนาดา ดูแลให้ลูกค้าทราบสิทธิ์และได้รับการคุ้มครอง รวมถึงกํากับดูแลสถาบันการเงินของรัฐบาลกลาง

วิธีการชําระเงิน

แคนาดาใช้วิธีการชําระเงินที่หลากหลาย โดยหันมาใช้วิธีการชําระเงินดิจิทัลเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ต่อไปนี้คือข้อมูลเจาะลึกของวิธีการชําระเงินที่ได้รับความนิยมในแคนาดา:

การใช้งานในปัจจุบัน

บัตรเครดิตได้รับการฝังรากลึกอยู่ในระบบการชําระเงินของแคนาดา ระบบบัตรเครดิตในแคนาดานั้นสะดวกและเป็นที่คุ้นเคยของลูกค้า ตั้งแต่มาตรการรักษาความปลอดภัยไปจนถึงโปรแกรมเครดิตสะสม Visa และ Mastercard คือผู้เล่นที่ครองอันดับต้นๆ โดยลูกค้าในแคนาดาจํานวนมากมีบัตรเหล่านี้หนึ่งแบรนด์หรือทั้งสองแบรนด์ และในขณะเดียวกัน American Express ก็มีลูกค้าเฉพาะกลุ่มมากขึ้น

การชําระเงินแบบไร้สัมผัสได้กลายเป็นตัวเลือกการชําระเงินหลักสําหรับชาวแคนาดา ซึ่งขับเคลื่อนด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ความเป็นมิตรต่อระบบดิจิทัลของประเทศนี้ยังขับเคลื่อนให้มีการใช้การชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ ซึ่งผู้ใช้เชื่อมโยงรายละเอียดธนาคารหรือบัตรเครดิตเข้ากับกระเป๋าเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ เช่น Apple Pay, Google Pay หรือ Samsung Pay แบบสํารวจปี 2021 ระบุว่า 67% ของชาวแคนาดาที่มีสมาร์ทโฟนทําการชําระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ในช่วงเวลา 6 เดือน

วิธีการชําระเงินแบบ B2C ที่ได้รับความนิยมในแคนาดา

วิธีการชําระเงินแบบ B2B ที่ได้รับความนิยมในแคนาดา

แนวโน้มที่กําลังเกิดขึ้น

ผู้บริโภคในแคนาดาเริ่มค่อยๆ หันมาใช้คริปโตเคอร์เรนซี Coinsquare และ Bitbuy ซึ่งเป็นบริการแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซีชั้นนําของแคนาดา 2 แห่งมีส่วนสำคัญในการให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์เหล่านี้แก่ชาวแคนาดา การศึกษาปี 2021 แสดงว่าชาวแคนาดา 13% เป็นเจ้าของบิทคอยน์ โดยเพิ่มขึ้นจาก 5% ในปี 2020 นอกเหนือจากบิตคอยน์ ชาวแคนาดายังหันมาใช้สินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ เช่น อีเธอเรียมและ ไลท์คอยน์ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก

Real-Time Rail (RTR) มีโอกาสที่จะช่วยพัฒนาการชําระเงินแบบ B2B โดยมอบการชําระเงินแบบทันทีอย่างมีข้อมูลครบครัน ซึ่งพร้อมให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2023 เป็นต้นไป การเปิดตัวโครงการปรับให้ทันสมัยมีความล่าช้าอีกครั้ง โดยที่ Payments Canada ระบุว่าความล่าช้านี้ "ไม่เกี่ยวข้องกับองค์ประกอบด้านเทคโนโลยีการแลกเปลี่ยน"

ความง่ายและความยุ่งยากในการเข้าสู่ตลาด

แม้การรับชําระเงินจากแคนาดาจะง่ายกว่าประเทศอื่นๆ แต่หากธุรกิจของคุณตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา ก็มีความซับซ้อนที่จะต้องพิจารณาเช่นกัน ซึ่งรวมถึงการนำส่งภาษี การจัดการการดึงเงินคืน การโต้แย้งการชําระเงิน และการปกป้องข้อมูลลูกค้า รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแง่มุมดังกล่าวมีดังนี้

ภาษี

ทั้งลูกค้าและธุรกิจต่างๆ ต้องชําระภาษีสินค้าและบริการ (GST) 5 จังหวัดต่างเรียกเก็บ Harmonized Sales Tax (HST) ซึ่งเป็นภาษีการขายของรัฐบาลกลางและระดับภูมิภาครวมกัน แม้ลูกค้าจะชําระภาษีเหล่านี้ผ่านธุรกรรมโดยตรง แต่ธุรกิจต่างๆ ก็ต้องรับผิดชอบในการเรียกเก็บและนําส่งภาษีดังกล่าว จังหวัดและเขตแดนในแคนาดาอาจเรียกเก็บภาษีการขายของจังหวัด (PST) หรือภาษีการขายขายปลีกของตนเอง ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามภูมิภาค

การดึงเงินคืนและการโต้แย้งการชําระเงิน

แคนาดาจัดการการดึงเงินคืนและการโต้แย้งการชําระเงินโดยมอบสมดุลระหว่างผลประโยชน์ของลูกค้าและธุรกิจ รวมทั้งกําหนดให้ทั้งสองฝ่ายต้องให้ข้อมูลสนับสนุนการเรียกร้องของตนในระหว่างการโต้แย้งการชําระเงิน

หลักปฏิบัติด้านบริการบัตรเดบิตสําหรับผู้บริโภคในแคนาดาจะกําหนดวิธีจัดการกับการดึงเงินคืนและการโต้แย้งการชําระเงินโดยการแจกแจงความรับผิดชอบของสถาบันทางการเงินและลูกค้าในธุรกรรมบัตรเดบิต Interac มีแนวทางสําหรับการโต้แย้งการชําระเงินของตนเอง ซึ่งมักเน้นธุรกรรมที่ไม่ได้รับอนุญาต ข้อบกพร่องทางเทคนิค และปัญหาการเรียกเก็บเงินซ้ำซ้อน 2 ครั้ง บริษัทบัตรเครดิตรายใหญ่ได้ปรับใช้นโยบายความรับผิดเป็นศูนย์ (Zero Liability Policy) ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเจ้าของบัตรจะไม่รับผิดต่อธุรกรรมที่ไม่ได้รับอนุญาต เว้นแต่จะเกิดจากความเพิกเฉย

การชําระเงินระหว่างประเทศ

ไม่ว่าธุรกิจของคุณจะรับชําระเงินจากนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันหรือธุรกิจอีคอมเมิร์ซทั่วโลก ก็มีแง่มุมสำคัญหลายประการในการรับการชําระเงินระหว่างประเทศในแคนาดา:

  • การแปลงสกุลเงิน
    นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังแคนาดามักจะแลกเปลี่ยนสกุลเงินจากประเทศของตนเองเป็นดอลลาร์แคนาดา (CAD) ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น สถาบันการเงิน สนามบิน และศูนย์รับแลกเปลี่ยนสกุลเงินโดยเฉพาะ สถาบันเหล่านี้กําหนดอัตราการเปลี่ยนสกุลเงินโดยใช้อัตราค่าธรรมเนียมระหว่างธนาคารเป็นหลัก และมักจะบวกอัตราค่าธรรมเนียมเพิ่มเมื่อให้บริการแปลงสกุลเงินแก่สาธารณะ นอกจากนี้ ตู้เอทีเอ็มในประเทศยังอนุญาตให้เจ้าของบัตรต่างประเทศถอนเงินสดในสกุลเงินดอลลาร์แคนาดาได้อีกด้วย แต่ธุรกรรมเหล่านี้มักจะมีค่าธรรมเนียมบริการ

  • ฟีเจอร์หลายสกุลเงินสําหรับธุรกิจ
    ธุรกิจในแคนาดา โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอีคอมเมิร์ซหรือธุรกิจที่ให้บริการลูกค้าต่างประเทศ มักจะใช้ฟีเจอร์หลายสกุลเงิน ซึ่งช่วยให้ลูกค้าดูราคาและชําระเงินในสกุลเงินที่ต้องการได้ ระบบจะกําหนดอัตราการแปลงสกุลเงินที่จุดขาย ซึ่งปกติลูกค้าจะจ่ายค่าธรรมเนียม 1% ถึง 3% สําหรับการแปลงสกุลเงินดังกล่าว

  • การปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับและกฎหมาย
    มาตรฐานของรัฐบาลกลางช่วยวางแนวทางให้ระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการแปลงสกุลเงินของแคนาดา ศูนย์วิเคราะห์ธุรกรรมทางการเงินและรายงานของแคนาดา (FINTRAC) เป็นผู้กํากับดูแลหลักของมาตรฐานเหล่านี้ โดยสถาบันดังกล่าวจะดูแลให้แน่ใจว่าผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนสกุลเงินทุกรายปฏิบัติตามข้อบังคับด้านการฟอกเงิน (AML) ของแคนาดา สถาบันต่างๆ มีภาระหน้าที่ในการมอบความโปร่งใสอย่างเต็มที่ในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับอัตราการแปลงสกุลเงินและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทําให้ลูกค้ามีข้อมูลประกอบการตัดสินใจ

ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว

แคนาดาให้ความสําคัญกับความถูกต้องและความปลอดภัยของระบบการเงิน โดยสะท้อนให้เห็นจากกรอบการทำงานที่มีโครงสร้างและการควบคุมดูแลความปลอดภัย การปฏิบัติตามข้อกําหนด และมาตรฐานด้านการกํากับดูแล การชําระเงินในแคนาดา ตั้งแต่ธุรกรรมระหว่างธนาคารไปจนถึงการชําระเงินของผู้บริโภค ต่างอยู่ภายใต้การกำกับดูแลอย่างถี่ถ้วน ต่อไปนี้คือข้อมูลเจาะลึกเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวเหล่านี้

  • กฎหมายคุ้มครองข้อมูล
    กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนตัวและกฎหมายว่าด้วยเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (PIPEDA) ของแคนาดาได้จัดตั้งรากฐานเพื่อการคุ้มครองข้อมูล PIPEDA มอบอํานาจให้ธุรกิจต่างๆ รักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวและกําหนดว่าลูกค้าจะต้องได้รับแจ้งและยินยอมให้เก็บรวบรวมข้อมูลใดๆ กฎหมายนี้ให้ความสําคัญกับการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนตัวของบุคคล โดยเฉพาะในธุรกรรมดิจิทัล

  • ระเบียบการรักษาความปลอดภัยของ Interac
    Interac มีระบบรักษาความปลอดภัยหลายชั้นเพื่อป้องกันการฉ้อโกง ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีชิปและ PIN สําหรับธุรกรรมการหักบัญชี และระบบ Interac e-Transfer ที่ใช้การเข้ารหัสเพื่อปกป้องรายละเอียดส่วนบุคคลระหว่างการโอนเงิน

  • บทบาทของ Payments Canada
    Payments Canada ดูแลกระบวนการชําระและอนุมัติการชําระเงิน เพื่อให้มั่นใจว่าธุรกรรมจะได้รับการดําเนินการอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย องค์กรบังคับใช้กฎและสร้างมาตรฐานให้สถาบันการเงินต้องปฏิบัติตาม โดยเป็นการสร้างกรอบการทำงานที่ส่งเสริมกระบวนการชําระเงินในแคนาดา

  • มาตรการป้องกันการฟอกเงินและต่อต้านการก่อการร้าย
    กฎหมายเกี่ยวกับรายรับจากอาชญากรรม (การฟอกเงิน) และการจัดหาเงินทุนสําหรับการก่อการร้าย (PCMLTFA) คือส่วนสําคัญของกฎหมายที่กําหนดมาตรฐานอันเข้มงวด สถาบันทางการเงินรวมถึงนิติบุคคลอื่นๆ ต้องมีขั้นตอนการระบุและรายงานกิจกรรมที่น่าสงสัย กฎหมายนี้บังคับใช้โดย FINTRAC ซึ่งรวบรวมและเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมทางการเงินที่น่าสงสัยเกี่ยวกับการฟอกเงินหรือการจัดหาเงินทุนสําหรับผู้ก่อการร้าย

ปัจจัยหลักเพื่อการประสบความสําเร็จ

การเข้าสู่ตลาดการชําระเงินในแคนาดานั้นต้องอาศัยการรับมือกับความซับซ้อนของข้อบังคับในท้องถิ่น การคุ้มครองผู้บริโภคที่มีประสิทธิภาพ และการปรับแต่งอินเทอร์เฟซการชําระเงินของคุณ การตระหนักถึงปัจจัยต่อไปนี้จะเป็นกุญแจสําคัญในความสําเร็จของธุรกิจ

  • ความต้องการด้านการชําระเงิน
    Interac e-Transfer และ Interac Debit ได้รับการใช้งานอย่างแพร่หลายในแคนาดา การอํานวยความสะดวกในการชําระเงินผ่านระบบที่คุ้นเคยเหล่านี้ช่วยตอบโจทย์ให้ลูกค้าในแคนาดา และอาจช่วยเพิ่มอัตราการทําธุรกรรมสําเร็จ

  • อินเทอร์เฟซการชําระเงินที่ปรับให้เหมาะกับท้องถิ่น
    แคนาดามีภาษาราชการ 2 ภาษา นั่นคือ อังกฤษและฝรั่งเศส การให้บริการอินเทอร์เฟซการชําระเงินในทั้งสองภาษานี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสําหรับธุรกิจที่มีลูกค้าเป็นชาวแคนาดาที่ใช้ภาษาอังกฤษและฝรั่งเศส จะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ตอบโจทย์และปรับให้เหมาะกับผู้ใช้มากขึ้น

  • ตัวเลือกหลายสกุลเงิน
    แคนาดามีความสัมพันธ์ทางการค้าที่สําคัญกับสหรัฐอเมริกา ด้วยเหตุนี้ ชาวแคนาดาจํานวนมากจึงทําธุรกรรมทั้งในสกุลเงินดอลลาร์แคนาดาและดอลลาร์สหรัฐเป็นประจำ การรวมตัวเลือกการชําระเงินหลายสกุลเงิน โดยเฉพาะดอลลาร์สหรัฐ จะสามารถตอบสนองลูกค้ากลุ่มนี้ และช่วยให้ประสบการณ์การชําระเงินของลูกค้าสะดวกยิ่งขึ้น

  • ระเบียบการรักษาความปลอดภัยที่รัดกุม
    เนื่องจากการฉ้อโกงผ่านการโอนทางอิเล็กทรอนิกส์ยังคงเป็นข้อกังวลอยู่ ผู้บริโภคจึงต้องการทางเลือกในการชําระเงินที่ปลอดภัยเพิ่มขึ้น การใช้มาตรการต่างๆ เช่น การตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2 ปัจจัยหรือการเข้ารหัสระดับสูงอาจทําให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าธุรกรรมของตนจะความปลอดภัยและรัดกุม

ประเด็นสำคัญ

การเข้าสู่โลกของการชําระเงินในแคนาดานั้นมาพร้อมความท้าทายที่เจาะจง แต่แนวทางแบบองค์รวมที่ประกอบด้วยการชําระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่และแบบไร้สัมผัส การมุ่งเน้นความปลอดภัยและการคุ้มครองผู้บริโภค รวมถึงการปรับอินเทอร์เฟซการชําระเงินให้เข้ากับความต้องการในท้องถิ่น จะช่วยเพิ่มศักยภาพสูงสุดในการบรรลุความสําเร็จ ต่อไปนี้คือภาพรวมของแง่มุมที่สําคัญหลายด้านที่คุณควรปรับใช้ในแนวทางการทำงาน

นำการชําระเงินแบบไร้สัมผัสและบนอุปกรณ์เคลื่อนที่มาใช้เป็นกลยุทธ์หลัก

  • ใช้เทคโนโลยี
    การหันมาใช้นวัตกรรมทางเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นได้พลิกโฉมภาคการชําระเงินในแคนาดา เทอร์มินัลระบบบันทึกการขาย (POS) ที่รับทั้งการชําระเงินผ่านบัตรและการชําระเงินแบบไร้สัมผัสช่วยให้ธุรกิจและลูกค้าเข้าถึงธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ได้มากขึ้น ธุรกิจต่างๆ ยังหันมาใช้รหัส QR สําหรับการชําระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ด้วย ซึ่งมอบความรวดเร็ว และหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดในการจัดการเงินสดเป็นจํานวนมาก

  • เราขอแนะนําเป็นอย่างยิ่งให้รองรับกระเป๋าเงินดิจิทัล
    การเปลี่ยนไปใช้การชําระเงินแบบไร้สัมผัสนั้นไม่ได้มีแค่การชำระเงินผ่านบัตรเท่านั้น โซลูชันการชําระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ เช่น Apple Pay และ Google Wallet ต่างมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งขับเคลื่อนจากความแพร่หลายของสมาร์ทโฟนและความสะดวกในการไม่ต้องพกกระเป๋าเงินใบจริง

  • อนุญาตให้ทำธุรกรรมด้วยเงินสด
    คุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงการชําระด้วยเงินสดในแคนาดา ลูกค้าอาจต้องการชําระด้วยเงินสดเพื่อการทําธุรกรรมที่รวดเร็วในแต่ละวัน โดยเฉพาะในหมู่ผู้สูงอายุ

ปฏิบัติตามมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยและการคุ้มครองข้อมูลของแคนาดา

  • ใช้การยืนยันตัวตนแบบหลายปัจจัยให้เป็นมาตรฐาน
    เพื่อลดความเสี่ยงต่อการฉ้อโกงด้วยการไม่ได้แสดงบัตรจริง (CNP) ธุรกิจแห่งต่างๆ ได้ปรับใช้การตรวจสอบสิทธิ์แบบสองปัจจัย เพื่อยืนยันตัวตนของผู้ใช้ โดยใช้ร่วมกับเครื่องมือตรวจจับการฉ้อโกงอื่นๆ สําหรับการซื้อด้วยบัตรแบบออนไลน์ มาตรการอย่าง SecureCode for Mastercard และ Verified by Visa ต่างกําหนดให้ผู้ใช้ป้อนรหัสที่ส่งไปยังโทรศัพท์มือถือหรือที่อยู่อีเมล เพื่อเพิ่มขั้นตอนการตรวจสอบสิทธิ์อีกชั้นหนึ่ง

  • ปกป้องและให้ความรู้แก่ลูกค้า
    กฎบัตรดิจิทัลของแคนาดาที่บังคับใช้ในปี 2020 กำหนดว่าธุรกิจจะต้องระบุวิธีใช้ข้อมูลส่วนบุคคลอย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังกําหนดว่าระบบการชําระเงินจะต้องมีความโปร่งใสในแง่ของกระบวนการจัดการข้อมูล โดยเฉพาะข้อมูลทางการเงินมีความละเอียดอ่อน

  • ส่งเสริมความโปร่งใสในด้านค่าธรรมเนียมและหลักปฏิบัติ
    แคนาดาแสดงความมุ่งมั่นในการสร้างความโปร่งใสและยุติธรรมในภาคธุรกิจการเงิน โดยมีโครงการริเริ่มอย่างหลักจรรยาบรรณสําหรับอุตสาหกรรมบัตรเครดิตและบัตรเดบิตในแคนาดา ซึ่งส่งเสริมแนวทางปฏิบัติที่ยุติธรรมสําหรับธุรกิจ นอกจากนี้ ยังมอบความคุ้มครองให้ธุรกิจ โดยการตรวจสอบให้แน่ใจว่าธุรกิจจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายสำหรับการชําระเงินแบบดิจิทัล

ปรับอินเทอร์เฟซและวิธีการชําระเงินให้เหมาะกับท้องถิ่น

  • เสนอโปรโมชันที่เหมาะกับแต่ละภูมิภาค
    การปรับโปรโมชันหรือส่วนลดให้ตรงกับการเฉลิมฉลองที่เฉพาะเจาะจงในแต่ละภูมิภาค เช่น วันแคนาดาและวันวิกตอเรีย จะช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้าและอาจส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อ

  • รองรับหลายภาษา
    ชาวแคนาดามักพูดภาษาฝรั่งเศสและภาษาอังกฤษ และนิยมใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นอย่างมากในบางพื้นที่ เช่น ควิเบก การสร้างอินเทอร์เฟซการชําระเงินและให้การสนับสนุนทั้งสองภาษาจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับกระบวนการชําระเงิน

  • ทําความเข้าใจเหตุผลที่ Interac ได้รับความนิยม
    เมื่อใช้ฟังก์ชันแบบเรียลไทม์ของ Interac e-Transfer ระบบจะหักเงินจากธุรกรรมได้ทันที การตระหนักถึงความนิยมในวิธีการชําระเงินแบบทันทีของชาวแคนาดาและการผสานการทํางานการประมวลผลแบบเรียลไทม์จะช่วยปรับปรุงประสบการณ์การชําระเงินให้ธุรกิจและลูกค้าได้

เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ฝึกงานในเขตอํานาจศาลของคุณเพื่อรับคําแนะนําเกี่ยวกับสถานการณ์เฉพาะของคุณ

เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Payments

Payments

รับชำระเงินออนไลน์ ที่จุดขาย และทั่วโลกด้วยโซลูชันการชำระเงินที่สร้างมาสำหรับธุรกิจทุกขนาด

Stripe Docs เกี่ยวกับ Payments

ค้นหาคู่มือเกี่ยวกับการเชื่อมต่อ Payments API ของ Stripe