การหักบัญชีอัตโนมัติคือวิธีการชําระเงินอัตโนมัติที่ช่วยให้ธุรกิจเรียกเก็บเงินจากบัญชีธนาคารของลูกค้าได้โดยตรง ซึ่งมีการใช้งานอย่างกว้างขวางในสหราชอาณาจักรสำหรับการชําระเงินตามแบบแผนล่วงหน้า เช่น บริการแบบสมัครสมาชิก ค่าสมาชิก ค่าสาธารณูปโภค และแพ็กเกจผ่อนชําระ โดยเป็นหนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดในการรับชําระเงินของธุรกิจ ในปี 2023 ระบบหักบัญชีอัตโนมัติในสหราชอาณาจักรได้ดำเนินการหักบัญชีอัตโนมัติกว่า 1.8 พันล้านรายการสําหรับบิลค่าสาธารณูปโภคและค่าใช้จ่ายในบ้านเพียงอย่างเดียว
โดยธุรกิจเป็นผู้ตั้งค่าการหักบัญชีอัตโนมัติ ซึ่งแตกต่างจากการโอนเงินประจำตามคำสั่ง การดำเนินการลักษณะนี้มีประโยชน์โดยเฉพาะกับการชําระเงินที่ยอดเงินไม่คงที่ เช่น ค่าพลังงานที่แตกต่างกันไปในแต่ละเดือน และการสมัครใช้บริการที่ลูกค้าอาจเปลี่ยนแปลงแพ็กเกจ ด้านล่างนี้ เราจะอธิบายถึงข้อดีและข้อเสียของวิธีการชำระเงินนี้สําหรับธุรกิจในสหราชอาณาจักร ธุรกิจใดได้รับประโยชน์มากที่สุด และความแตกต่างจากทางเลือกการชำระเงินแบบอื่น รวมทั้งวิธีลดความเสี่ยงที่พบได้บ่อย
มีอะไรในบทความนี้บ้าง
- ข้อดีข้อเสียของการหักบัญชีอัตโนมัติมีอะไรบ้าง
- การเปรียบเทียบการหักบัญชีอัตโนมัติกับวิธีการชำระเงินอื่นๆ
- ธุรกิจประเภทใดบ้างที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการหักบัญชีอัตโนมัติ
- ธุรกิจจะลดความเสี่ยงเกี่ยวกับการหักบัญชีอัตโนมัติได้อย่างไร
ข้อดีข้อเสียของการหักบัญชีอัตโนมัติมีอะไรบ้าง
เช่นเดียวกับวิธีการชําระเงินอื่นๆ การหักบัญชีอัตโนมัติมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีหลักๆ ของการหักบัญชีอัตโนมัติมีดังนี้
ความแน่นอน: เมื่อลูกค้าอนุมัติการตั้งค่าแล้ว ระบบจะเรียกเก็บเงินโดยอัตโนมัติในวันที่ที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้า ทําให้ธุรกิจของคุณมีกระแสรายรับที่แน่นอนและวางแผนค่าใช้จ่าย เช่น บัญชีเงินเดือนและการชําระเงินให้กับคู่ค้าได้ง่ายขึ้น
ความสะดวก: สําหรับธุรกิจ การหักบัญชีอัตโนมัติทำให้ไม่ต้องออกใบแจ้งหนี้ แจ้งเตือน หรือติดตามการชําระเงินที่ล่าช้าด้วยตนเอง สําหรับลูกค้า การหักบัญชีอัตโนมัติช่วยให้ไม่ต้องชำระเงินแบบครั้งเดียวหลายครั้ง
ความยืดหยุ่น: การหักบัญชีอัตโนมัติช่วยให้คุณแก้ไขจํานวนเงินที่เรียกเก็บได้ในกรณีที่จำเป็น ซึ่งมีประโยชน์ต่อธุรกิจที่มีค่าบริการแบบแปรผัน เช่น บริษัทสาธารณูปโภคและบริการสมัครสมาชิกแบบแบ่งระดับ
ค่าธรรมเนียมต่ำ: ปกติแล้วการหักบัญชีอัตโนมัติจะมีค่าธรรมเนียมธุรกรรมต่ำกว่าการชําระเงินด้วยบัตรเครดิต ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้ธุรกิจได้
การคุ้มครองผู้บริโภค: หากเกิดข้อผิดพลาดขึ้น เช่น การเรียกเก็บในจำนวนที่ไม่ถูกต้องหรือหักเงินผิดวัน ลูกค้ามีสิทธิ์ที่จะขอเงินคืนจากธนาคารของตนได้ทันทีตามการรับประกันการหักบัญชีอัตโนมัติ การรับประกันนี้ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกสบายใจที่จะตกลงใช้วิธีหักบัญชีอัตโนมัติมากขึ้น
ความสามารถในการขยาย: การหักบัญชีอัตโนมัติสามารถปรับขยายได้ ไม่ว่าคุณจะมีลูกค้า 10 รายหรือ 10,000 ราย กระบวนการหักบัญชีอัตโนมัติจะไม่เปลี่ยนแปลงหรือซับซ้อนยิ่งขึ้นเมื่อธุรกิจของคุณขยาย
ข้อเสียของการหักบัญชีอัตโนมัติมีดังนี้
การตั้งค่า: การเริ่มใช้งานการหักบัญชีอัตโนมัติอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย หากต้องการจัดการด้วยตนเอง คุณจะต้องปฏิบัติตามข้อกําหนดที่เข้มงวดของธนาคารคุณ ธุรกิจขนาดเล็กส่วนใหญ่มักอาศัยผู้ให้บริการบุคคลที่สาม เช่น Stripe เพื่อจัดการการหักบัญชีอัตโนมัติ
ความเร็ว: การชําระเงินด้วยการหักบัญชีอัตโนมัติใช้เวลาประมาณ 3 วันทําการในการดําเนินการผ่าน Bacs ซึ่งเป็นระบบหักบัญชีอัตโนมัติในสหราชอาณาจักร ความล่าช้านี้ทำให้วิธีนี้ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดหากคุณต้องการเงินทุนพร้อมใช้ทันทีเช่น เพื่อนำไปใช้จ่ายเร่งด่วน
โอกาสที่จะชําระเงินไม่สําเร็จ: หากลูกค้ามีเงินในบัญชีไม่เพียงพอ การหักบัญชีอัตโนมัติจะดําเนินการไม่สําเร็จ คุณต้องมีระบบจัดการการหักบัญชีซ้ำหรือต้องติดต่อลูกค้าเพื่อแก้ไขปัญหา
การต่อต้านจากลูกค้า: ลูกค้าบางรายก็ลังเลที่จะมอบอำนาจการควบคุมการชำระเงินให้กับคุณ แม้จะมีการรับประกันการหักบัญชีอัตโนมัติเพื่อรองรับความปลอดภัยก็ตาม ลูกค้าอาจต้องการวิธีอื่นที่ตนมีอำนาจควบคุมได้ทันที เช่น การชําระเงินทีละรายการด้วยบัตร
ไม่มีประสิทธิภาพ: การหักบัญชีอัตโนมัติออกแบบมาเพื่อการชําระเงินตามแบบแผนล่วงหน้า ไม่ใช่ธุรกรรมแบบครั้งเดียว หากคุณจําเป็นต้องเรียกชำระเงินแบบครั้งเดียวเป็นครั้งคราว วิธีนี้จะช้ากว่าตัวเลือกอื่นๆ เช่น การโอนผ่านธนาคารและบัตรเครดิต
การเปรียบเทียบการหักบัญชีอัตโนมัติกับวิธีการชำระเงินอื่นๆ
การหักบัญชีอัตโนมัติโดดเด่นกว่าวิธีการชําระเงินอื่นๆ เนื่องจากเป็นระบบอัตโนมัติ มีความน่าเชื่อถือ และเหมาะกับการชําระเงินตามแบบแผนล่วงหน้า แต่วิธีนี้ไม่เหมาะกับทุกสถานการณ์ ต่อไปนี้คือการเปรียบเทียบกับวิธีการชําระเงินอื่นๆ ที่ใช้กันทั่วไป
การหักบัญชีอัตโนมัติ
การหักบัญชีอัตโนมัติเหมาะสําหรับการชําระเงินตามแบบแผนล่วงหน้าเช่น บริการแบบสมัครสมาชิกและค่าสาธารณูปโภค และเหมาะกับการเรียกเก็บเงินที่มีค่าบริการไม่แน่นอน (เช่น สาธารณูปโภค การสมัครใช้บริการแบบแบ่งระดับ) วิธีนี้เป็นระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบซึ่งจัดการโดยธุรกิจ โดยที่ลูกค้าหรือธุรกิจมีภาระบริหารจัดการเพียงเล็กน้อย นั่นหมายความว่าคุณสามารถปรับจํานวนเงินหรือกําหนดเวลาการชําระเงินได้ตามต้องการ การหักบัญชีอัตโนมัติมีต้นทุนธุรกรรมต่ํากว่าเมื่อเทียบกับการชําระเงินด้วยบัตรและวิธีการชําระเงินอื่นๆ
ต่อไปนี้คือข้อเสียของการหักบัญชีอัตโนมัติ
การหักบัญชีอัตโนมัติลูกค้าต้องวางใจว่าธุรกิจจะจัดการการถอนเงินได้อย่างถูกต้อง ซึ่งต้องมีความรู้เกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัย เช่น การรับประกันการหักบัญชีอัตโนมัติ
ธุรกิจจําเป็นต้องได้รับความยินยอมจากลูกค้า ซึ่งอาจทําให้กระบวนการล่าช้าในตอนแรก
การหักบัญชีอัตโนมัติไม่เหมาะกับการชําระเงินแบบครั้งเดียวหรือการชําระเงินเร่งด่วนเนื่องจากใช้เวลาในการดำเนินการนาน (การชําระเงินส่วนใหญ่อาจใช้เวลาดําเนินการผ่าน Bacs สูงสุด 3 วัน)
ลูกค้าต้องแจ้งรายละเอียดธนาคารซึ่งบางรายอาจลังเลที่จะทำ
การชําระเงินด้วยบัตร
การชําระเงินด้วยบัตรเครดิตมีการอนุมัติแทบจะทันที และได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายและเป็นวิธีที่ลูกค้าคุ้นเคย วิธีนี้สะดวกสําหรับทั้งการชําระเงินออนไลน์และแบบครั้งเดียว แต่ก็มีค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้น การชําระเงินด้วยบัตรเครดิตอาจไม่สําเร็จเนื่องจากบัตรหมดอายุ วงเงินบัตรไม่พอ หรือสงสัยว่าเป็นการฉ้อโกง ลูกค้าจึงต้องอัปเดตรายละเอียดของบัตรด้วยตัวเองเมื่อเกิดกรณีนี้ขึ้นซึ่งอาจทําให้เกิดการติดขัดได้
การโอนเงินประจำตามคำสั่ง
การโอนเงินประจำตามคำสั่งเป็นวิธีที่ลูกค้าทำได้ง่ายผ่านธนาคารของตนเองและปกติมักไม่มีค่าธรรมเนียมธุรกรรม แต่คำสั่งประเภทนี้เป็นวิธีการชำระเงินที่ยืดหยุ่นน้อยกว่า เพราะลูกค้าต้องยกเลิกคำสั่งเดิมและสร้างคำสั่งใหม่กรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงยอดโอนจากที่กำหนดไว้ กาโอนเงินประจำตามคำสั่งจัดการโดยลูกค้าเต็มรูปแบบ ธูรกิจจึงไม่มีสิทธิ์ควบคุมหากไม่มีการชำระเงินตามกำหนด
การโอนเงินผ่านธนาคาร
การโอนเงินผ่านธนาคารเป็นตัวเลือกที่รวดเร็วสําหรับการชําระเงินแบบครั้งเดียว ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเงินจะเข้าบัญชีแทบจะทันที แต่ลูกค้าต้องเริ่มการชําระเงินแต่ละรายการ ซึ่งไม่สะดวกกับการชำระเงินตามใบเรียกเก็บเงินซ้ำเป็นประจำ การโอนเงินด้วยตนเองอาจทําให้การชําระเงินล่าช้าหรือขาดชําระซึ่งทำให้กระแสรายรับของคุณติดขัดได้
กระเป๋าเงินดิจิทัล
กระเป๋าเงินดิจิทัลเป็นวิธีที่ใช้งานง่ายสำหรับลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสําหรับธุรกรรมออนไลน์ โดยมีระบบรักษาความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่ง เนื่องจากลูกค้าไม่จําเป็นต้องแจ้งรายละเอียดธนาคารกับธุรกิจโดยตรง แต่ก็มีค่าธรรมเนียมธุรกรรมที่สูงขึ้น (มักคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของธุรกรรมบวกค่าธรรมเนียมคงที่) ซึ่งเหมาะกับการชําระเงินตามแบบแผนล่วงหน้าน้อยกว่า เนื่องจากลูกค้าจะต้องจัดการการชําระเงินตามรอบบิลด้วยตนเอง
ตัวเลือกซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง (BNPL)
ตัวเลือก BNPL จะแยกการชําระเงินเป็นงวดโดยอัตโนมัติตามระยะเวลา ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าที่มีมูลค่าสูงได้ และเป็นตัวเลือกการชำระเงินที่ยืดหยุ่น ณ เวลาที่ทำการขาย แต่ตัวเลือกนี้ก็มีค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้นสําหรับธุรกิจ
ธุรกิจประเภทใดบ้างที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการหักบัญชีอัตโนมัติ
การหักบัญชีอัตโนมัติเป็นตัวเลือกที่ดีสําหรับธุรกิจที่ต้องการการชําระเงินตามแบบแผนล่วงหน้าที่แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นแบบคงที่หรือแบบแปรผัน การหักบัญชีอัตโนมัติมีประโยชน์อย่างยิ่งในการลดงานด้านธุรการ ป้องกันการชําระเงินล่าช้า และรักษารายรับที่มั่นคงและคาดการณ์ได้ ต่อไปนี้คือผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุดและเหตุผล
ธุรกิจการสมัครใช้บริการ
หากคุณเป็นธุรกิจการสมัครใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นบริการสตรีมมิง กล่องสินค้า หรือซอฟต์แวร์ การหักบัญชีอัตโนมัติถือเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะลูกค้าจะได้รับความสะดวก ส่วนคุณก็จะได้ประโยชน์ที่ได้ทราบว่าการชําระเงินจะส่งถึงคุณโดยอัตโนมัติ
องค์กรสมาชิก
การหักบัญชีอัตโนมัติเหมาะกับยิม สโมสร และสมาคมต่างๆ โดยสามารถเรียกเก็บค่าสมาชิกได้ง่ายเมื่อครบกำหนดในแต่ละเดือน สมาชิกได้ความพึงพอใจจากการชําระเงินอัตโนมัติที่เรียบง่าย ส่วนคุณก็ไม่ต้องมีบทสนทนาที่น่าอึดอัดเกี่ยวกับการชำระเงินล่าช้า
บริษัทสาธารณูปโภคและโทรคมนาคม
การหักบัญชีอัตโนมัติเป็นวิธีที่ดีในการจัดการใบเรียกเก็บเงินค่าสาธารณูปโภคและบริการโทรคมนาคมที่มียอดไม่คงที่ ความยืดหยุ่นในการปรับจํานวนเงินที่ต้องชําระช่วยให้คุณจัดการการเรียกเก็บเงินที่มียอดแปรผันได้ง่ายขึ้น
การศึกษาและผู้ให้บริการดูแลเด็ก
การหักบัญชีอัตโนมัติยังเหมาะกับโรงเรียน สถานรับเลี้ยงเด็ก และบริการติวที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมเป็นรายเดือนหรือเป็นเทอม ผู้ปกครองไม่ต้องคอยจำว่าต้องชำระเงินในแต่ละเดือนหรือแต่ละช่วง ส่วนธุรกิจของคุณก็จะได้รับการชำระเงินที่สม่ำเสมอโดยไม่ต้องมีอุปสรรคในการคอยส่งการแจ้งเตือนเป็นประจำ
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการเช่า
การหักบัญชีอัตโนมัติช่วยให้การเก็บค่าเช่าง่ายขึ้นสําหรับเจ้าของบ้านและบริษัทจัดการอสังหาริมทรัพย์ การชําระเงินรายเดือนจะเป็นไปตามกําหนดเวลา โดยที่ผู้เช่าไม่ต้องดําเนินการใดๆ หลังจากการดำเนินการครั้งแรก ซึ่งช่วยลดความตึงเครียดของทั้งสองฝ่ายได้
บริการด้านสุขภาพและสุขภาวะ
การหักบัญชีอัตโนมัติเป็นทางเลือกที่ดีสําหรับคลินิกส่วนตัว บริการด้านการบำบัด สตูดิโอโยคะ และแอปเพื่อสุขภาวะ โดยเฉพาะในกรณีที่มีแพ็กเกจการชําระเงินหรือการสมัครใช้บริการแบบต่อเนื่อง
องค์กรการกุศลและองค์กรไม่แสวงผลกําไร
การหักบัญชีอัตโนมัติช่วยให้ผู้สนับสนุนบริจาคเพื่อการกุศลได้อย่างง่ายดาย ผู้บริจาคชอบขั้นตอนที่ปราศจากความยุ่งยาก ส่วนองค์กรของคุณก็มีเวลาให้กับภารกิจมากขึ้นแทนที่จะเสียเวลาไปกับการจัดการเงินบริจาค
บริการด้านการเงิน
แผนการชำระเงินกู้และโครงการฝากเงินก็มักใช้การหักบัญชีอัตโนมัติ วิธีนี้ช่วยให้มั่นใจว่าการชําระเงินตรงเวลาตามงวด ซึ่งช่วยให้ลูกค้าจัดการการเงินได้ตามแผนในขณะที่ธุรกิจของคุณก็สามารถคาดการณ์รายรับได้
ผู้ให้บริการด้านการประกันภัย
เบี้ยประกันภัยเหมาะกับการหักบัญชีอัตโนมัติอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นประกันภัยรถยนต์ ประกันสุขภาพ หรือความคุ้มครองชีวิต การหักบัญชีอัตโนมัติเป็นวิธีการเรียกรับชำระเงินตามแบบแผนล่วงหน้าที่ตรงไปตรงมา และลดโอกาสที่จะเกิดปัญหากรมธรรม์ขาดช่วงเนื่องจากการขาดชําระ
ผู้ค้าปลีกที่ให้บริการแผนผ่อนชําระ
สําหรับธุรกิจที่ขายสินค้ามูลค่าสูง เช่น เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ไฟฟ้า การหักบัญชีอัตโนมัติเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการจัดการแผนการชำระเงิน ลูกค้าสามารถแบ่งจ่ายตามระยะเวลาได้ ส่วนคุณก็ไม่ต้องกังวลกับการจัดการการชําระเงินแบบครั้งเดียวหรือธุรกรรมล่าช้าในแต่ละรอบ
บริการแบบ B2B
การหักบัญชีอัตโนมัติเป็นวิธีการดำเนินการเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมบริการวิชาชีพที่เป็นบริการต่อเนื่องเป็นประจำ เช่น ค่าบริการด้านการตลาด ไอที และการให้คําปรึกษา
ผู้ให้บริการการจัดการ
การหักบัญชีอัตโนมัติเป็นวิธีที่มีประโยชน์ในจ่ายเงินตามสัญญาบริการสนับสนุนด้านไอที บริการคลาวด์ และการเฝ้าระวังความปลอดภัย วิธีการชําระเงินนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งในกรณีที่คุณต้องจัดการลูกค้าหลายรายที่มีกำหนดการชำระเงินที่แตกต่างกัน
ธุรกิจจะลดความเสี่ยงเกี่ยวกับการหักบัญชีอัตโนมัติได้อย่างไร
การหักบัญชีอัตโนมัติเป็นวิธีการเรียกเก็บเงินที่น่าเชื่อถือและมีประสิทธิภาพ แต่ระบบนี้ก็มีความเสี่ยงเช่นเดียวกับระบบอื่นๆ ซึ่งมีได้ตั้งแต่การชำระเงินไม่สำเร็จไปจนถึงการโต้แย้งการชําระเงินของลูกค้า ความเสี่ยงเหล่านี้ส่วนใหญ่สามารถจัดการได้ด้วยยุทธวิธีและกระบวนการที่เหมาะสม ต่อไปนี้คือวิธีที่ธุรกิจสามารถลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและใช้ประโยชน์จากการหักบัญชีอัตโนมัติให้ได้มากที่สุด
กําหนดความคาดหวังให้ชัดเจนตั้งแต่แรก
เมื่อคุณตั้งค่าการหักบัญชีอัตโนมัติ ให้อธิบายการทำงานกับลูกค้าอย่างชัดเจน ให้แน่ใจว่าลูกค้าเข้าใจสิ่งต่อไปนี้
เป็นการชำระเงินค่าอะไร
ระบบจะหักเงินจากบัญชีเท่าใด (หรือยอดเงินอาจไม่คงที่ หากเป็นเช่นนั้น)
เวลาที่จะเรียกเก็บเงิน
ลูกค้าจะได้รับแจ้งล่วงหน้านานเท่าใดก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลง
ความโปร่งใสจะช่วยคุณลดความสับสนและเสริมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า และจะทำให้ลูกค้าตั้งคำถามหรือโต้แย้งการชำระเงินภายหลังน้อยลง
แจ้งให้ลูกค้าทราบเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง
หากจํานวนเงินที่ชําระมีการเปลี่ยนแปลงหรือกําลังจะมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ ให้แจ้งลูกค้าล่วงหน้าแต่เนิ่นๆ การรับประกันการหักบัญชีอัตโนมัติกําหนดให้คุณทำเช่นนั้น แต่นอกจากจะเป็นการปฏิบัติตามข้อกําหนดแล้วสิ่งนี้ยังเป็นแนวทางปฏิบัติที่ดีด้วย อีเมลหรือจดหมายสั้นๆ เพื่ออธิบายการเปลี่ยนแปลงสามารถลดความเข้าใจผิดและทำให้รู้สึกว่าอำนาจควบคุมยังอยู่กับตนเอง
ตรวจสอบการชําระเงินที่ไม่สําเร็จ
การชําระเงินทุกรายการใช่ว่าจะสำเร็จทั้งหมด ให้ใช้ระบบติดตามการชําระเงินที่ไม่สําเร็จและติดต่อลูกค้าเพื่อแก้ไขปัญหานี้ ยิ่งจัดการการชําระเงินที่ไม่สําเร็จได้รวดเร็ว โอกาสที่ปัญหาจะใหญ่ขึ้นก็ลดน้อยลง
ลงทุนกับผู้ให้บริการชําระเงินที่เชื่อถือได้
หากคุณไม่ได้จัดการการหักบัญชีอัตโนมัติเองภายใน ให้เลือกผู้ให้บริการชําระเงินอย่างระมัดระวัง มองหาพันธมิตรธุรกิจที่มีระเบียบการรักษาความปลอดภัยที่รัดกุม ระบบที่เชื่อถือได้ และการสนับสนุนลูกค้าที่ยอดเยี่ยม ผู้ประมวลผลการชําระเงินอย่าง Stripe รับชำระเงินด้วยการหักบัญชีอัตโนมัติ และช่วยรับภาระงานและความเสี่ยงให้คุณได้มาก
ปฏิบัติตามกฎระเบียบของ Bacs อยู่เสมอ
การหักบัญชีอัตโนมัติในสหราชอาณาจักรดําเนินการผ่าน Bacs ซึ่งมีมาตรฐานการปฏิบัติตามข้อกําหนดที่เข้มงวด ไม่ว่าคุณจะจัดการการตั้งค่าการหักบัญชีอัตโนมัติเองหรือใช้บริการบุคคลที่สาม คุณจะต้องรับผิดชอบต่อการปฏิบัติตามกฎเหล่านี้ การตรวจสอบเป็นประจํา การจัดการข้อมูลอย่างปลอดภัย และแนวทางการแจ้งเตือนที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณปฏิบัติตามข้อกําหนดและลดความเสี่ยงต่อการโต้แย้งการชําระเงินหรือบทลงโทษได้
ปกป้องข้อมูลลูกค้า
ใช้การเข้ารหัส การจัดเก็บที่ปลอดภัย และการควบคุมการเข้าถึงเพื่อรักษาความปลอดภัยให้ข้อมูลลูกค้า มาตรการเหล่านี้ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้าและช่วยลดความเสี่ยงจากการฉ้อโกงได้
จัดให้มีขั้นตอนการคืนเงินและการโต้แย้งการชําระเงิน
ภายใต้การรับประกันการหักบัญชีอัตโนมัติ ลูกค้าสามารถขอเงินคืนได้หากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น แม้วิธีนี้จะทําให้ลูกค้ารู้สึกปลอดภัยมากขึ้น แต่ก็อาจทําให้ธุรกิจของคุณถูกโต้แย้งการชําระเงินได้เช่นกัน เตรียมความพร้อมด้วยการจัดเก็บบันทึกข้อตกลงและข้อมูลการสื่อสารไว้อย่างชัดเจน จัดทำระบบการยืนยันการเคลมและการคืนเงินที่รวดเร็วเมื่อจำเป็น และให้ความรู้กับทีมเกี่ยวกับวิธีจัดการกับการโต้แย้งการชําระเงินอย่างมืออาชีพและรวดเร็ว
สื่อสารอย่างชัดเจนและในเชิงรุก
ความเข้าใจผิดมักเป็นสาเหตุให้เกิดการโต้แย้งการชําระเงิน เปิดช่องทางการติดต่อสื่อสารและสื่อสารเชิงรุกอยู่เสมอด้วยการส่งการแจ้งเตือนก่อนที่จะหักยอดชำระเงิน ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าติดต่อคุณได้ง่ายหากมีข้อสงสัย และควรใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายและเป็นมิตรกับลูกค้าในทุกอีเมลและการแจ้ง ซึ่งเป็นการแสดงให้ลูกค้าเห็นว่าคุณมีความรับผิดชอบและเชื่อถือได้
ยืดหยุ่นกับลูกค้า
มีความยืดหยุ่นเมื่อเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น (เช่น เมื่อลูกค้ามีแรงกดดันทางการเงินที่ไม่คาดคิด หรือลืมอัปเดตรายละเอียดหลังจากเปลี่ยนธนาคาร) อนุญาตให้ลูกค้าเปลี่ยนวันที่ชําระเงินได้หากจำเป็น อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าอัปเดตข้อมูลธนาคารได้ง่าย และผ่อนผันกำหนดเวลาหรือจัดเตรียมทางเลือกอื่นๆ ในกรณีพิเศษ วิธีนี้จะช่วยลดความยุ่งยากและกระชับความสัมพันธ์กับลูกค้าได้ ทำให้โอกาสที่ลูกค้าจะยกเลิกข้อตกลงน้อยลง
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ