การสร้างระบบการเรียกเก็บเงินแบบอัตโนมัติที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญลำดับต้นๆ สำหรับหลายธุรกิจ กระบวนการเรียกเก็บเงินแบบแมนนวลมักใช้เวลาและทรัพยากรมากกว่า อีกทั้งยังอาจก่อให้เกิดข้อผิดพลาดได้ การปรับปรุงกระบวนการเรียกเก็บเงินให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นจะช่วยให้ธุรกิจสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่แข็งแกร่ง โดดเด่นเหนือคู่แข่ง และมอบประสบการณ์ที่ราบรื่นให้แก่ลูกค้า

ด้านล่างนี้ เราจะอธิบายเกี่ยวกับระบบการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติ ได้แก่ องค์ประกอบหลักของระบบ ประโยชน์ที่ได้รับ และวิธีตั้งค่าระบบใบแจ้งหนี้ตามแบบแผนล่วงหน้าให้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ

เนื้อหาหลักในบทความ

• ใบแจ้งหนี้ตามแบบแผนล่วงหน้าคืออะไร
  
• ใบแจ้งหนี้ตามแบบแผนล่วงหน้าใช้เพื่อจุดประสงค์ใด
  
• ประโยชน์ของการใช้ใบแจ้งหนี้ตามแบบแผนล่วงหน้า
  
• วิธีตั้งค่าใบแจ้งหนี้ตามแบบแผนล่วงหน้าด้วย Stripe
  
• Stripe Billing จะช่วยคุณได้อย่างไรบ้าง
  

ใบแจ้งหนี้ตามแบบแผนล่วงหน้าคืออะไร

ใบแจ้งหนี้ตามแบบแผนล่วงหน้าคือใบแจ้งหนี้ที่ธุรกิจสร้างขึ้นและส่งให้ลูกค้าโดยอัตโนมัติตามรอบเวลาที่สม่ำเสมอ เช่น รายสัปดาห์ รายเดือน หรือรายปี

ใบแจ้งหนี้ตามแบบแผนล่วงหน้าใช้เพื่อจุดประสงค์ใด

ใบแจ้งหนี้ตามแบบแผนล่วงหน้าใช้เมื่อธุรกิจต้องเรียกเก็บเงินจากลูกค้าจำนวนเท่าเดิมในรอบระยะเวลาที่กำหนดและเป็นประจำ ใบแจ้งหนี้ลักษณะนี้ช่วยให้กระบวนการเรียกเก็บเงินมีความต่อเนื่องและลดเวลาที่ใช้ในการเรียกเก็บเงินจากลูกค้าสำหรับบริการหรือจำนวนเงินที่เหมือนเดิม โดยเป็นเครื่องมือที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในหลายกรณีทางธุรกิจ เช่น

• บริการที่มีการเรียกเก็บเงินตามรอบบิล
  หากธุรกิจเสนอสินค้าหรือบริการในรูปแบบการเรียกเก็บเงินตามรอบบิล (ซึ่งมักเรียกเก็บเงินเป็นรายเดือนหรือรายปี) ธุรกิจจะตั้งค่าการชำระเงินตามแบบแผนล่วงหน้าพร้อมใบแจ้งหนี้ตามแบบแผนล่วงหน้าเพื่อเรียกเก็บเงินจากลูกค้า ตัวอย่างเช่น การสมัครใช้งานซอฟต์แวร์ การสมัครสมาชิกนิตยสาร หรือการสมัครสมาชิกฟิตเนส

• การเช่าและข้อตกลงการเช่า
  เจ้าของบ้านหรือผู้จัดการอสังหาริมทรัพย์อาจใช้ใบแจ้งหนี้ตามแบบแผนล่วงหน้าเพื่อเก็บค่าเช่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์เชิงพาณิชย์ที่ผู้เช่าเป็นธุรกิจที่เช่าพื้นที่สำนักงาน

• สัญญาการจ้างงาน
  ผู้เชี่ยวชาญ เช่น ทนายความ ที่ปรึกษา หรือนักออกแบบ อาจมีข้อตกลงการจ้างงานกับลูกค้า โดยที่ผู้เชี่ยวชาญจะให้บริการต่อเนื่องด้วยค่าธรรมเนียมคงที่ และจะใช้ใบแจ้งหนี้ตามแผนแบบล่วงหน้าเพื่อเรียกเก็บเงินจากลูกค้า

• บริการจัดหาเงินทุนหรือผ่อนชำระ
  หากลูกค้าซื้อสินค้าที่มีค่าใช้จ่ายสูงและทำการผ่อนชำระ ธุรกิจอาจใช้ใบแจ้งหนี้ตามแบบแผนล่วงหน้าเพื่อแจ้งเตือนลูกค้าเกี่ยวกับการชำระเงินแต่ละรายการ

• บริการเว็บโฮสติ้งและโดเมน
  บริษัทที่ให้บริการเว็บโฮสติ้ง การจดทะเบียนโดเมน หรือบริการออนไลน์อื่นๆ มักจะเรียกเก็บเงินจากลูกค้าเป็นรายเดือนหรือรายปีโดยใช้ใบแจ้งหนี้ตามแบบแผนล่วงหน้า

• สาธารณูปโภค
  แม้ว่าบริษัทสาธารณูปโภคส่วนใหญ่จะไม่ได้ส่งใบแจ้งหนี้ในทางเทคนิค แต่โครงสร้างการเรียกเก็บเงินจะคล้ายกับใบแจ้งหนี้ที่เรียกเก็บเงินตามแบบแผนล่วงหน้า ลูกค้าจะได้รับใบเรียกเก็บเงินเป็นประจำสำหรับบริการต่างๆ เช่น น้ำ ไฟฟ้า และอินเทอร์เน็ต

• สัญญาบำรุงรักษาและการสนับสนุน
  ธุรกิจที่ให้บริการบำรุงรักษาหรือการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องอาจสร้างใบแจ้งหนี้ตามแบบแผนล่วงหน้าเพื่อเรียกเก็บเงินจากลูกค้าของตน

ประโยชน์ของการใช้ใบแจ้งหนี้ตามแบบแผนล่วงหน้า

การใช้ใบแจ้งหนี้ตามแบบแผนล่วงหน้าสามารถทำให้ออกใบแจ้งหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใสมากขึ้นสำหรับธุรกิจ โดยข้อดีของการเรียกเก็บเงินประเภทนี้ ได้แก่

• ประสิทธิภาพด้านเวลา
  การสร้างขั้นตอนการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติจะช่วยให้ธุรกิจประหยัดเวลาได้มหาศาลในแต่ละปี และนำเวลานี้ไปใช้กับงานสำคัญอื่นๆ ได้ตามต้องการ เช่น การวางแผนและการมีส่วนร่วมกับลูกค้า

• ความมั่นคงทางการเงิน
  ใบแจ้งหนี้แบบตามแบบแผนล่วงหน้าจะช่วยให้คาดการณ์กระแสรายรับได้ ธุรกิจจะเข้าใจกระแสเงินสดขาเข้าของตนได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ด้วยรอบการเรียกเก็บเงินที่สม่ำเสมอ และสามารถนำข้อมูลนี้ไปใช้ในการปรับปรุงการจัดทำงบประมาณ จัดสรรทรัพยากร และวางแผนการลงทุนได้

• ชื่อเสียงระดับมืออาชีพ
  การเรียกเก็บเงินที่สม่ำเสมอและตรงต่อเวลาแสดงถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจที่มีวินัย โดยจะสื่อถึงความน่าเชื่อถือและสามารถสร้างความภักดีของลูกค้าได้

• ปรับปรุงความแม่นยำ
  การสร้างระบบการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติจะช่วยลดข้อผิดพลาดของมนุษย์ให้เหลือน้อยที่สุด ความแม่นยำนี้จะช่วยรักษาความถูกต้องของบันทึกทางการเงินซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการตรวจสอบ การรายงานทางการเงิน และการสร้างความไว้วางใจให้กับผู้มีส่วนร่วม

• ความสัมพันธ์กับลูกค้า
  โครงสร้างการเรียกเก็บเงินที่คาดเดาได้จะขจัดค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดสำหรับลูกค้า กำหนดความคาดหวังที่ชัดเจน และลดการโต้แย้งการชำระเงิน ความชัดเจนนี้สามารถส่งเสริมความภักดีและเพิ่มอัตราการรักษาลูกค้า

• __ประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ
  การเปลี่ยนจากการเรียกเก็บเงินด้วยตนเองมาเป็นแบบดิจิทัลจะช่วยลดต้นทุนที่จับต้องได้ เช่น กระดาษและค่าไปรษณีย์ และลดต้นทุนทางอ้อมที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลด้วยตนเอง การจัดเก็บ และการแก้ไขข้อผิดพลาด

• ฟีเจอร์ที่ครอบคลุม
  แพลตฟอร์มการออกใบแจ้งหนี้ที่ทันสมัยมีฟังก์ชันมากมายนอกเหนือจากการออกใบเรียกเก็บเงิน โดยสามารถติดตามการชำระเงิน สร้างข้อมูลสรุปทางการเงิน และให้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อประเมินผลการดำเนินงานของธุรกิจและพฤติกรรมของลูกค้าได้

• ระบบที่ปรับได้
  ธุรกิจที่กำลังเติบโตต้องอาศัยเครื่องมือที่ปรับตัวได้ ระบบการเรียกเก็บเงินตามแบบแผนล่วงหน้าโดยทั่วไปมีพารามิเตอร์ที่ปรับเปลี่ยนได้ เพื่อให้แน่ใจว่ากระบวนการเรียกเก็บเงินยังคงสอดคล้องกับความต้องการทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป

• การรักษาความปลอดภัยข้อมูล
  โดยทั่วไปแล้ว ระบบการออกใบแจ้งหนี้มีระเบียบการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดและครอบคลุมซึ่งปกป้องข้อมูลทางการเงินและข้อมูลที่ละเอียดอ่อน ซึ่งช่วยให้ธุรกิจและลูกค้าหลีกเลี่ยงการละเมิดข้อมูลและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องได้

• การสื่อสารที่โปร่งใส
  การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญเพื่อความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ การออกใบแจ้งหนี้อย่างสม่ำเสมอเป็นการแสดงความมุ่งมั่น กำหนดความคาดหวังที่ชัดเจน และป้องกันการเข้าใจผิด

วิธีตั้งค่าใบแจ้งหนี้ตามแบบแผนล่วงหน้าด้วย Stripe

ธุรกิจต่างๆ ใช้เครื่องมือดิจิทัลมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อปรับปรุงการดำเนินการเรียกเก็บเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับฟังก์ชันที่ต้องใช้ตรรกะที่ซับซ้อน เช่น การออกใบแจ้งหนี้ตามแบบแผนล่วงหน้า ต่อไปนี้คือขั้นตอนในการตั้งค่าใบแจ้งหนี้ตามแบบแผนล่วงหน้าผ่านการเรียกเก็บเงินตามรอบบิลด้วย Stripe Billing

การตั้งค่าเริ่มต้นและการสร้างบัญชี

• หากคุณเพิ่งใช้ Stripe ให้เริ่มต้นด้วยการสร้างบัญชี ส่วนผู้ใช้ปัจจุบัน สามารถเข้าสู่ระบบได้เลย
  
• ตรวจสอบว่าคุณระบุรายละเอียดธุรกิจ ข้อมูลธนาคาร และข้อมูลประจำตัวที่สำคัญอื่นๆ อย่างถูกต้อง
  

ไปยังส่วนการออกใบแจ้งหนี้

• เมื่อเข้าสู่ระบบเรียบร้อยแล้ว ให้ไปที่แดชบอร์ด
  
• ที่แผงด้านซ้าย ให้คลิก "การเรียกเก็บเงิน"
  

สร้างการเรียกเก็บเงินตามรอบบิล
- ในส่วน "ใบแจ้งหนี้" ให้คลิก "สร้าง" ที่มุมขวาบน
- เลือก "สร้างการเรียกเก็บเงินตามรอบบิล"
- กรอกรายละเอียดของลูกค้าหรือเลือกจากรายการที่มีอยู่หากคุณเคยเรียกเก็บเงินลูกค้ามาก่อน
- คุณสามารถระบุวิธีการชำระเงิน เช่น บัตรเครดิต หรือ การหักบัญชีอัตโนมัติสำหรับการชำระเงินอัตโนมัติ

รายละเอียดของสินค้าหรือบริการ

• เพิ่มผลิตภัณฑ์หรือบริการที่คุณเรียกเก็บเงิน Stripe อนุญาตให้คุณเลือกจากรายการที่มีอยู่แล้วหรือเพิ่มรายการใหม่ได้
  
• ตรวจสอบว่าคุณป้อนราคาและจำนวนที่ถูกต้อง
  

กำหนดการตั้งค่าเพิ่มเติม

• Stripe ให้บริการการตั้งค่าเพิ่มเติม ได้แก่ วันครบกำหนด อัตราภาษี ส่วนลดเพื่อส่งเสริมการขาย และหมายเหตุที่กำหนดเอง
  
• คุณสามารถเพิ่มการสร้างแบรนด์ของคุณเองหรือสร้างเทมเพลตใบแจ้งหนี้ที่แตกต่างกันได้
  
• ประเมินความต้องการด้านการเรียกเก็บเงินของคุณ และกำหนดค่าการตั้งค่าเหล่านี้ให้สอดคล้องกัน
  

ดูตัวอย่างและสรุป

• ก่อนส่งหรือกำหนดเวลาใบแจ้งหนี้ โปรดใช้ฟีเจอร์ "ดูตัวอย่าง" เสมอเพื่อตรวจสอบว่ารายละเอียดทั้งหมดถูกต้อง
  
• เมื่อพอใจแล้ว คุณสามารถส่งใบแจ้งหนี้ได้ทันทีหรือกำหนดเวลา
  

ตรวจสอบและจัดการ

• แดชบอร์ดของ Stripe จะอัปเดตสถานะใบแจ้งหนี้จาก "ส่งแล้ว" เป็น "ชำระเงินแล้ว" หรือ "เลยกำหนดชำระ"
  
• ใช้แดชบอร์ดเพื่อติดตามหรือส่งใบแจ้งหนี้หนี้อีกครั้ง หากจำเป็น และจัดการข้อมูลที่คลาดเคลื่อนหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
  

ประเมินและทำซ้ำ

• ตรวจสอบประสิทธิภาพของและอัตราการตอบกลับของใบแจ้งหนี้ตามแบบแผนล่วงหน้าเป็นระยะ
  
• Stripe ช่วยให้ธุรกิจมีเครื่องมือวิเคราะห์ที่ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับลำดับเวลาการชำระเงิน ธุรกรรมที่สำเร็จ และส่วนที่อาจต้องมีการปรับปรุง
  

การใช้งานการออกใบแจ้งหนี้ตามแบบแผนล่วงหน้าผ่าน Stripe จะทำให้กระบวนการเรียกเก็บเงินเป็นมาตรฐานและเป็นอัตโนมัติ เพื่อให้ธุรกิจสามารถจัดการธุรกรรมทางการเงินได้อย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพ

Stripe Billing จะช่วยคุณได้อย่างไรบ้าง

Stripe Billing ช่วยให้คุณเรียกเก็บเงินและจัดการลูกค้าได้ตามที่คุณต้องการ ตั้งแต่การเรียกเก็บเงินตามแบบแผนล่วงหน้าง่ายๆ ไปจนถึงการเรียกเก็บเงินตามการใช้งานและสัญญาที่ตกลงกันทางการขาย เริ่มรับชำระเงินแบบตามแผนล่วงหน้าจากทั่วโลกได้ภายในไม่กี่นาที โดยไม่ต้องเขียนโค้ด หรือใช้วิธีสร้างการผสานการทำงานแบบกำหนดเองโดยใช้ API

Stripe Billing สามารถช่วยคุณทำสิ่งต่อไปนี้

• เสนอราคาที่ยืดหยุ่น: ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้เร็วขึ้นด้วยโมเดลการตั้งราคาที่ยืดหยุ่น เช่น การคิดค่าบริการตามการใช้งาน แบ่งระดับ ค่าธรรมเนียมคงที่บวกการใช้งานเกิน และอีกมากมาย ระบบยังรองรับการใช้คูปอง การทดลองใช้ฟรี การแบ่งชำระตามสัดส่วน และส่วนเสริมที่ติดตั้งมาในตัว
  
• ขยายไปทั่วโลก: เพิ่มอัตราการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชำระเงินด้วยการเสนอวิธีการชำระเงินที่ลูกค้าต้องการ นอกจากนี้ Stripe ยังรองรับวิธีการชำระเงินในแต่ละประเทศมากกว่า 125 วิธีและกว่า 130 สกุลเงิน
  
• เพิ่มรายรับและลดอัตราการเลิกใช้บริการ: เพิ่มการเก็บรายรับและลดอัตราการเลิกใช้บริการโดยไม่ได้ตั้งใจด้วย Smart Retries และระบบอัตโนมัติสำหรับกระบวนการกู้คืน เครื่องมือการกู้คืนของ Stripe ช่วยให้ผู้ใช้งานกู้คืนรายรับได้กว่า 6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024
  
• เพิ่มประสิทธิภาพ: ใช้เครื่องมือภาษีแบบโมดูลาร์ รายงานรายรับ และเครื่องมือข้อมูลของ Stripe เพื่อรวมระบบรายรับหลายระบบให้เป็นหนึ่งเดียว พร้อมผสานการทำงานกับซอฟต์แวร์ของบริษัทอื่นได้อย่างง่ายดาย
  

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Stripe Billing หรือเริ่มใช้งานเลยวันนี้