เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาธุรกิจแบบชำระเงินตามรอบบิลเติบโตขึ้นในหลากหลายภาคธุรกิจ มีการคาดการณ์ว่ายอดขายอีคอมเมิร์ซแบบชำระเงินตามรอบบิลจะสร้างรายรับมากกว่า 3.8 หมื่นล้านดอลลาร์ ณ สิ้นปี 2023 ซึ่งมากกว่ายอดขายในปี 2019 ถึงสองเท่า ธุรกิจต่างๆ ที่อาจไม่เคยพิจารณาใช้รูปแบบชำระเงินตามรอบบิลมาก่อน ได้พบเหตุผลในการผสานรวมโมเดลนี้ ซึ่งสร้างประโยชน์มากมายหลายประการ
โมเดลการชําระเงินตามรอบบิลทําให้ธุรกิจมีกระแสรายรับที่มั่นคง โดยเปลี่ยนธุรกรรมแบบครั้งเดียวให้เป็นรายรับตามแบบแผนล่วงหน้า ความสม่ําเสมอนี้ช่วยให้การคาดการณ์และการกําหนดงบประมาณมีความแม่นยํามากขึ้น ซึ่งนําไปสู่การจัดสรรทรัพยากรที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น โมเดลเหล่านี้ยังช่วยส่งเสริมความภักดีของลูกค้า เนื่องจากผู้สมัครใช้บริการมีแนวโน้มที่จะคุ้นเคยกับแบรนด์และอุดหนุนธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลที่รวบรวมจากผู้สมัครใช้บริการจะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้า ซึ่งช่วยสร้างกลยุทธ์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการตลาด นอกจากนี้ โมเดลเหล่านี้ยังทําให้การตัดสินใจของลูกค้าง่ายขึ้น โดยช่วยลดภาระในการทำการซื้อซ้ําๆ และอาจลดอัตราการเลิกใช้บริการได้
แม้ว่าโมเดลเหล่านี้จะมีข้อดีต่อธุรกิจมากเพียงใด แต่การตัดสินใจว่าควรใช้โมเดลการชำระเงินตามรอบบิลแบบใด รวมถึงวิธีปรับแต่งให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะเจาะจงนั้นอาจเป็นเรื่องที่ซับซ้อน การเลือกโมเดลการชําระเงินตามรอบบิลที่เหมาะสมส่งผลต่อความสามารถของธุรกิจในการสร้างความสัมพันธ์อันยาวนานกับลูกค้าและรักษากระแสรายรับที่มั่นคง ดังนั้น คุณจึงต้องมีความรู้อย่างถี่ถ้วนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ฐานลูกค้า และความต้องการเฉพาะเจาะจงของตลาด ด้านล่างเราจะอธิบายสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับโมเดลการชำระเงินตามรอบบิลประเภทต่างๆ ธุรกิจแต่ละประเภทใดมีความเหมาะสมที่สุด และวิธีเลือกโมเดลที่เหมาะสม
บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง
- โมเดลธุรกิจแบบชําระเงินตามรอบบิลทํางานอย่างไร
- ประเภทของโมเดลธุรกิจแบบชําระเงินตามรอบบิล
- ธุรกิจประเภทใดบ้างที่ใช้โมเดลธุรกิจแบบชําระเงินตามรอบบิล
- ข้อดีข้อเสียของโมเดลธุรกิจแบบชําระเงินตามรอบบิลแต่ละประเภท
- ประโยชน์ของการใช้โมเดลธุรกิจแบบชําระเงินตามรอบบิล
- วิธีเลือกโมเดลธุรกิจแบบชําระเงินตามรอบบิลที่เหมาะสม
โมเดลธุรกิจแบบชําระเงินตามรอบบิลทํางานอย่างไร
แม้โมเดลการชําระเงินตามรอบบิลจะมีการใช้งานที่หลากหลาย แต่มีลักษณะการทำงานที่เหมือนกัน ซึ่งทำให้โมเดลนี้เป็นแหล่งรายรับที่เชื่อถือได้ และเป็นวิธีการรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า ลองมาดูวิธีทํางานของโมเดลนี้กัน
การชําระเงินตามแบบแผนล่วงหน้า: หัวใจหลักของโมเดลการชำระเงินตามรอบบิลคือแนวคิดในการชําระเงินเป็นประจํา ลูกค้าชําระเงินซ้ําตามรอบเวลาที่กําหนด เพื่อให้เข้าถึงผลิตภัณฑ์หรือบริการต่อไปได้ ซึ่งอาจเป็นรายสัปดาห์ รายเดือน หรือรายปี ทำให้ธุรกิจที่มีรายรับที่คาดการณ์ได้
การเรียกเก็บเงินอัตโนมัติ: ธุรกิจมักจะสร้างระบบการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติ เพื่อจัดการการชําระเงินที่ดําเนินอยู่เหล่านี้ วิธีนี้ช่วยให้แน่ใจว่าค่าใช้จ่ายจะถูกเรียกเก็บจากวิธีการชำระเงินของลูกค้า โดยไม่ต้องป้อนข้อมูลด้วยตนเองในแต่ละรอบ จึงช่วยประหยัดเวลาและลดข้อผิดพลาด
บัญชีลูกค้า: ผู้สมัครใช้บริการมักจะมีบัญชีส่วนตัวที่สามารถจัดการการชําระเงินตามรอบบิลของตัวเอง ขั้นตอนนี้อาจรวมถึงการอัปเดตข้อมูลการชําระเงิน การระงับหรือยกเลิกการสมัครใช้บริการ หรือการเปลี่ยนระดับการสมัครใช้บริการ
การเข้าถึงแบบแบ่งระดับ: บริการแบบชำระเงินตามรอบบิลหลายอย่างใช้โครงสร้างแบบแบ่งระดับ ซึ่งการลงทุนในระดับต่างๆ จะให้สิทธิ์เข้าถึงหรือฟีเจอร์ในระดับที่แตกต่างกัน วิธีนี้ช่วยให้ลูกค้าเลือกได้ว่าจะลงทุนมากเพียงใด โดยพิจารณาจากความต้องการและงบประมาณของตนเอง
การทดลองใช้ฟรีและการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชําระเงิน: การเสนอการทดลองใช้ฟรีเป็นกลยุทธ์ที่พบบ่อยในการดึงดูดผู้สมัครใช้บริการ เป้าหมายคือการแสดงคุณค่าของบริการ เพื่อให้ผู้ใช้ยินดีที่จะชําระเงินเมื่อการทดลองใช้สิ้นสุดลง
การอัปเดตผลิตภัณฑ์และเนื้อหา: ธุรกิจต่างๆ จะต้องอัปเดตผลิตภัณฑ์หรือเนื้อหาของตนอย่างต่อเนื่องหากต้องการคงความสนใจของผู้สมัครใช้บริการต่อไป ซึ่งอาจหมายถึงการเพิ่มฟีเจอร์ เนื้อหา หรือผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในบริการ เพื่อสนับสนุนการใช้งานอย่างต่อเนื่องและลดการเลิกใช้บริการ
ฝ่ายบริการลูกค้า: การชําระเงินตามรอบบิลไม่ใช่แค่ธุรกรรม แต่เป็นการแสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจกับลูกค้า ดังนั้นการบริการลูกค้าที่รวดเร็วจึงเป็นสิ่งสําคัญสําหรับการจัดการปัญหา คําถาม และความคิดเห็นที่เกิดขึ้น
เมตริกและการวิเคราะห์: เมตริกการติดตามตรวจสอบ เช่น อัตราการเลิกใช้บริการ อัตราการเติบโต และมูลค่าตลอดอายุการใช้งานของลูกค้า คือสิ่งสำคัญในการวัดประสิทธิภาพ ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจปรับกลยุทธ์และปรับปรุงบริการของตัวเองได้
กฎหมายและการปฏิบัติตามข้อกําหนด การปฏิบัติตามมาตรฐานทางกฎหมายสำหรับบริการแบบชำระเงินตามรอบบิล เช่น เงื่อนไขการบริการที่โปร่งใส และนโยบายการยกเลิกที่ง่าย ถือเป็นแนวทางปฏิบัติที่ดี และมักเป็นสิ่งที่กฎหมายกำหนดไว้
กลยุทธ์ด้านการตลาดและการรักษาลูกค้า: การรักษาผู้สมัครใช้บริการมีความสําคัญเท่ากับการหาผู้สมัครใช้บริการใหม่ การทำการตลาดที่มีประสิทธิภาพกับลูกค้าปัจจุบันอาจรวมถึงข้อเสนอเฉพาะบุคคล รางวัลสำหรับสมาชิก หรือการสื่อสารเป็นประจําเกี่ยวกับฟีเจอร์และสิทธิประโยชน์ใหม่ๆ
ความเข้าใจในเชิงลึกเกี่ยวกับการทำงานของโมเดลการชำระเงินตามรอบบิลช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถขยายบริการ ไปพร้อมกับการมอบประสบการณ์ที่เชื่อถือได้และน่าพอใจให้กับลูกค้า
ประเภทของโมเดลธุรกิจแบบชําระเงินตามรอบบิล
บริการแบบชำระเงินตามรอบบิลได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจําวันสําหรับผู้คนจํานวนมาก โดยชาวอเมริกันใช้จ่ายโดยเฉลี่ย $219 ต่อเดือนไปกับการสมัครใช้บริการ ต่อไปนี้คือภาพรวมของโมเดลการชําระเงินตามรอบบิล
บริการแบบสมัครสมาชิก: โมเดลนี้ให้สิทธิ์เข้าถึงบริการหรือผลิตภัณฑ์โดยคิดค่าธรรมเนียมปกติ ลองนึกถึงการเป็นสมาชิกยิมหรือคลับออนไลน์ที่ให้คุณเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มคนที่ได้รับสิทธิพิเศษบางอย่าง เช่น เนื้อหาหรือบริการพิเศษที่ไม่มีให้บริการสำหรับผู้ที่ไม่ใช่สมาชิก
การให้บริการระบบซอฟต์แวร์ (SaaS): แทนที่จะซื้อซอฟต์แวร์โดยตรง ผู้ใช้โมเดลนี้จะจ่ายเงินเพื่อเข้าใช้งานโดยชำระเงินตามรอบบิล ซึ่งทําให้พวกเขาสามารถเข้าถึงซอฟต์แวร์ที่เป็นปัจจุบันอยู่เสมอโดยที่ผู้ให้บริการจัดการกับการบํารุงรักษาและการอัปเดตทั้งหมด
การสมัครรับกล่องสินค้า: ลูกค้าจะได้รับกล่องสินค้าตามกําหนดเวลาเป็นประจํา ตัวอย่างเช่น อาหาร ผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม หรือหนังสือ จุดดึงดูดของโมเดลนี้มาจากองค์ประกอบที่น่าประหลาดใจและประสบการณ์ที่คัดสรรมา รวมถึงความสะดวกในการจัดส่งถึงบ้าน
การสมัครรับเนื้อหา: โมเดลนี้แพร่หลายในแพลตฟอร์มสื่อดิจิทัล โดยผู้ใช้จ่ายเงินเพื่อเข้าถึงเนื้อหา เช่น ข่าว วิดีโอ หรือเพลงอย่างต่อเนื่อง บริการต่างๆ เช่น แพลตฟอร์มสตรีมมิงจะอยู่ภายใต้โมเดลนี้ โดยนําเสนอคลังเนื้อหาเพื่อแลกกับค่าธรรมเนียมการสมัครใช้บริการ
การชําระเงินตามรอบบิลตามการใช้งาน: ใบเรียกเก็บเงินค่าไฟฟ้าเป็นตัวอย่างแบบคลาสสิค ซึ่งค่าธรรมเนียมจะขึ้นอยู่กับปริมาณของบริการที่ใช้ โมเดลนี้กําลังได้รับการปรับปรุงในยุคดิจิทัล โดยใช้บริการคลาวด์ซึ่งคุณจ่ายค่าพื้นที่จัดเก็บข้อมูลหรือแบนด์วิดท์ที่คุณใช้
การสมัครใช้บริการแบบฟรีเมียม: ธุรกิจจะให้บริการแบบพื้นฐานโดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่จะคิดค่าใช้จ่ายสําหรับฟีเจอร์ขั้นสูง โมเดลเป็นเรื่องปกติสำหรับแอปและบริการออนไลน์ โดยเวอร์ชันฟรีอาจมาพร้อมกับโฆษณาหรือความสามารถที่จำกัด ในขณะที่เวอร์ชันที่ต้องชำระเงินจะปลดล็อกทุกอย่าง
การสมัครเข้าร่วมชุมชน: โมเดลนี้ซึ่งมุ่งเน้นในการสร้างเครือข่ายหรือชุมชนเกี่ยวกับบริการหรือผลิตภัณฑ์ มักจะผสมผสานกับโมเดลการเป็นสมาชิก โดยที่มูลค่าจะอยู่ที่การเชื่อมต่อและผลประโยชน์ของเครือข่ายที่เสนอให้กับผู้สมัครเข้าร่วม
ธุรกิจต่างมองหาวิธีใหม่ๆ ในการรักษาลูกค้าไว้และปรับปรุงยอดขายให้สม่ำเสมอ กลยุทธ์ใหม่เหล่านี้กําลังพลิกโฉมอุตสาหกรรมทั้งหมดโดยเปลี่ยนวิธีที่ผู้คนได้รับและใช้ผลิตภัณฑ์และบริการ การเปลี่ยนแปลงนี้ยังส่งผลให้ธุรกิจคำนึงถึงความสําเร็จและความมั่นคงในระยะยาวด้วยเช่นกัน
ธุรกิจประเภทใดบ้างที่ใช้โมเดลธุรกิจแบบชําระเงินตามรอบบิล
เราได้อธิบายถึงแนวโน้มของธุรกิจประเภทต่างๆ ที่นำระบบสมัครสมาชิกมาใช้มากขึ้น เนื่องจากสามารถปรับแต่งให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าและธุรกิจได้ มาดูกันว่าธุรกิจประเภทใดบ้างที่มักจะเลือกใช้กลยุทธ์นี้
สื่อและความบันเทิง: ธุรกิจที่ให้บริการสตรีมมิงภาพยนตร์ เพลง และสิ่งพิมพ์ดิจิทัล มักจะใช้การสมัครสมาชิกแบบรายเดือนหรือรายปี ธุรกิจเหล่านี้ต้องอัปเดตคลังเนื้อหาอย่างต่อเนื่องและเปิดตัวเนื้อหาสุดพิเศษเพื่อดึงดูดและรักษาผู้สมัครใช้บริการ
ซอฟต์แวร์และเทคโนโลยี: ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์หลายรายเปลี่ยนจากการซื้อแบบครั้งเดียวมาเป็นโมเดลการชําระเงินตามรอบบิล โดยมอบสิทธิ์ให้ผู้ใช้เข้าถึงแอปพลิเคชันเมื่อชำระค่าธรรมเนียมตามแบบแผนล่วงหน้า ซึ่งรวมถึงเครื่องมือเพิ่มผลผลิตและซอฟต์แวร์การออกแบบ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มักจะได้รับการอัปเดตด้วยฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดโดยไม่จำเป็นต้องซื้อใหม่
ร้านค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซ: ผู้ค้าปลีกบางรายจัดให้บริการกล่องสินค้าซึ่งลูกค้าจะได้รับสินค้าต่างๆ เป็นประจำ ซึ่งอาจเป็นอาหาร เสื้อผ้า หรือผลิตภัณฑ์ความงาม โดยมักคัดสรรตามรสนิยมและความชอบของลูกค้า
สุขภาพและการออกกําลังกาย: โรงยิมและบริการเพื่อสุขภาพส่วนบุคคลจะให้สิทธิ์ในการเข้าใช้สิ่งอำนวยความสะดวกหรือแพลตฟอร์มรายเดือน พวกเขายังอาจขายการสมัครใช้บริการเพื่อซื้อวิตามินและอาหารเสริม โดยอิงจากความสนใจตามธรรมชาติของลูกค้าในผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ
แพลตฟอร์มการศึกษาและการเรียนรู้: หลักสูตรออนไลน์และแพลตฟอร์มการศึกษาต่างๆ มักดำเนินการในโมเดลการชำระเงินตามรอบบิล ซึ่งทำให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงหลักสูตรและสื่อการเรียนรู้ต่างๆ ได้โดยเสียค่าธรรมเนียมเป็นประจำ การทำเช่นนี้จะทําให้การศึกษาเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นและช่วยมอบการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
อาหารและชุดทำอาหาร: ธุรกิจหลายแห่งส่งอาหาร ขนมขบเคี้ยว หรือชุดทำอาหารที่มีสูตรอาหารและส่วนผสมที่ผ่านการชั่งตวงมาแล้ว เมื่อผสมผสานความสะดวกสบายเข้ากับความสุขในการทำอาหาร ทำให้ผู้คนเพลิดเพลินกับมื้ออาหารปรุงเองที่บ้านได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องปวดหัวกับการซื้อจ่ายตลาด
การดูแลและสุขอนามัยส่วนบุคคล: ธุรกิจต่างๆ จะจัดส่งสินค้าที่เป็นของใช้ส่วนตัวให้แก่ลูกค้าเป็นประจำ รวมถึงมีดโกนหนวดและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัย บริการเหล่านี้ช่วยให้ลูกค้ามีสิ่งของจำเป็นพื้นฐานเพียงพอ และสามารถยกเลิกหรือหยุดการสมัครใช้บริการได้ตามความจำเป็น
การดูแลสัตว์เลี้ยง: เจ้าของสัตว์เลี้ยงสามารถสมัครรับอาหารของสัตว์เลี้ยง ของเล่น และขนมเป็นประจำได้ บริการเป็นประโยชน์สำหรับการเตรียมผลิตภัณฑ์ดูแลสัตว์เลี้ยงไว้ให้พร้อมเสมอ และสามารถปรับให้เหมาะกับขนาด สายพันธุ์ หรือข้อจำกัดด้านอาหารของสัตว์เลี้ยงได้
บริการด้านการคมนาคมและการเดินทาง: บริษัทผู้ผลิตรถยนต์และโปรแกรมแชร์จักรยานบางแห่งมีบริการแบบชำระเงินตามรอบบิลสําหรับการใช้ยานพาหนะของพวกเขา แทนที่จะเป็นซื้อรถยนต์หรือจักรยานเป็นของตัวเอง ลูกค้าสามารถจ่ายค่าบริการตามความจำเป็น ซึ่งมักจะรวมค่าประกันและค่าบำรุงรักษาด้วย
บริการเฉพาะทาง: บริการนี้รวมถึงตลาดเฉพาะกลุ่ม เช่น การเข้าถึงรายงานการวิจัยระดับพรีเมียม ฐานข้อมูลเฉพาะทาง หรือเครื่องมือและทรัพยากรเฉพาะอุตสาหกรรม โดยจะมอบคุณค่าด้วยการให้บริการเนื้อหาเฉพาะทางที่มีการอัปเดตและดูแลรักษาอยู่เป็นประจํา
ธุรกิจเหล่านี้ใช้การชําระเงินตามรอบบิลเพื่อส่งมอบสิ่งที่ลูกค้าต้องการอย่างสม่ําเสมอ ทําให้ทุกอย่างสะดวกขึ้น และมักจะเพิ่มบริการแบบส่วนบุคคลเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีขึ้น ความยืดหยุ่นนี้ทำให้ธุรกิจเกือบทุกประเภทสามารถใช้โมเดลเหล่านี้เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับลูกค้าและสร้างยอดขายที่มั่นคงได้
ข้อดีข้อเสียของโมเดลธุรกิจแบบชําระเงินตามรอบบิลแต่ละประเภท
การชําระเงินตามรอบบิลแต่ละประเภทมาพร้อมกับสิทธิประโยชน์และความท้าทาย มาลองสํารวจข้อดีและข้อเสียกัน:
การสมัครเป็นสมาชิก
ข้อดี: โมเดลนี้สร้างบรรยากาศของคลับสุดลับที่ทำให้สมาชิกรู้สึกพิเศษ ซึ่งช่วยในการรักษาสมาชิกเอาไว้ได้ โดยสามารถจับคู่กับบริการหรือผลิตภัณฑ์หลายประเภท ทำให้ปรับเปลี่ยนได้ง่าย
ข้อเสีย: ความท้าทายอยู่ที่การรักษาคุณค่าให้เหมาะสมกับค่าสมาชิกในระยะยาว หากคุณค่าที่รับรู้ลดลง จำนวนสมาชิกก็ลดลงตามไปด้วย
SaaS
ข้อดี: สําหรับธุรกิจ รายรับตามแบบแผนล่วงหน้าเป็นสิ่งที่ให้ผลดีต่อความมั่นคง นอกจากนี้ ลูกค้ายังได้รับการอัปเดตและการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องซึ่งหมายความว่าซอฟต์แวร์จะปรับปรุงเมื่อเวลาผ่านไปโดยไม่ต้องทำการซื้อเพิ่มเติม
ข้อเสีย: ภาระตกอยู่ที่ผู้ให้บริการในการส่งมอบการปรับปรุงและการอัปเดตด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมาก นอกจากนี้ ผู้ใช้บางคนอาจไม่ชอบที่จะต้องจ่ายเงินเพื่อซอฟต์แวร์อย่างไม่มีกำหนด
การสมัครรับกล่องสินค้า
ข้อดี: ลูกค้าชอบความสะดวกสบายและองค์ประกอบที่น่าประหลาดใจของการสมัครใช้บริการเหล่านี้ ธุรกิจสามารถปรับแต่งบริการให้เหมาะกับลูกค้า ซึ่งจะทําให้ลูกค้ารู้สึกถึงคุณค่าและเพิ่มความภักดี
ข้อเสีย: ความท้าทายด้านโลจิสติกส์ เช่น การจัดส่งและการจัดการอาจมีความซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายสูง การสร้างกล่องที่น่าดึงดูดใจอย่างต่อเนื่องอาจเป็นเรื่องยาก ซึ่งทำให้ลูกค้าหมดความสนใจในการสมัครใช้บริการ
การสมัครรับเนื้อหา
ข้อดี: วิธีนี้ช่วยให้ผู้สร้างเนื้อหาสามารถสร้างรายได้จากผลงานของพวกเขา และทำให้ผู้สมัครรับเนื้อหาสามารถเข้าถึงเนื้อหาที่หลากหลาย นอกจากนี้ยังเป็นวิธีการรวมเนื้อหาและให้บริการแบบครบวงจรสําหรับลูกค้า
ข้อเสีย: เนื้อหาที่เผยแพร่ฟรีมากมายทําให้การดึงดูดลูกค้าให้ชําระเงินเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย เนื้อหาต้องได้รับการเพิ่มใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อดึงดูดผู้สมัครใช้บริการ ซึ่งต้องใช้ทั้งแรงงานและทรัพยากร
การชําระเงินตามรอบบิลตามการใช้งาน
ข้อดี: โมเดลนี้เชื่อมโยงค่าใช้จ่ายเข้ากับการใช้งาน ซึ่งมีความยุติธรรมกว่าจากมุมมองของลูกค้า และสามารถขยายธุรกิจไปพร้อมกับการเติบโตของลูกค้าได้
ข้อเสีย: ค่าใช้จ่ายที่คาดการณ์ไม่ได้อาจเป็นข้อเสียสําหรับลูกค้า และธุรกิจต่างๆ อาจคาดการณ์รายรับได้ยากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับโมเดลแบบอัตราคงที่
การสมัครใช้บริการแบบฟรีเมียม
ข้อดี: โมเดลเป็นวิธีที่ดีในการดึงดูดผู้ใช้เพื่อทดลองใช้บริการโดยไม่มีข้อผูกมัด ซึ่งอาจนําไปสู่การอัปเกรดเป็นแบบชําระเงินหากลูกค้าค้นพบคุณค่าในบริการนี้
ข้อเสีย: การเปลี่ยนผู้ใช้ฟรีเป็นผู้สมัครใช้บริการแบบชําระเงินเป็นเรื่องที่ท้าทาย และจะต้องมีความสมดุลอยู่เสมอระหว่างการให้คุณค่าเพียงพอสำหรับบริการแบบฟรีและการกันสิทธิประโยชน์ไว้สำหรับบริการแบบชำระเงิน
การสมัครเข้าร่วมชุมชน
ข้อดี: การสร้างชุมชนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการจะช่วยเพิ่มความภักดีและมอบแพลตฟอร์มสําหรับแสดงความคิดเห็นและพัฒนา
ข้อเสีย: ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการส่งเสริมและรักษาชุมชนที่มีอยู่และผู้สมัครใช้บริการอาจไม่เห็นคุณค่า หากพวกเขาไม่รู้สึกถึงการมีส่วนร่วมที่เหมาะสม
ประโยชน์ของการใช้โมเดลธุรกิจแบบชําระเงินตามรอบบิล
การผสานกลยุทธ์แบบชำระเงินตามรอบบิลสามารถมอบเครื่องมือให้ธุรกิจต่างๆ ขยายและพัฒนากิจการได้ โมเดลการชําระเงินตามรอบบิลช่วยให้คุณมีกระแสรายรับที่คาดการณ์ได้ การมีส่วนร่วมของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น และสิทธิประโยชน์อื่นๆ
ด้านล่างนี้เป็นภาพรวมเกี่ยวกับประโยชน์ที่สําคัญๆ แต่ละประการ
รายรับที่คาดการณ์ได้: โมเดลการชําระเงินตามรอบบิลจะสร้างกระแสรายรับเป็นประจํา จึงช่วยให้ธุรกิจสามารถทำการคาดการณ์ได้แม่นยำยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยในการตัดสินใจเกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณ การลงทุนเพื่อการเติบโต และการจัดสรรทรัพยากรได้อย่างมีข้อมูลครบถ้วนมากขึ้น
การรักษาลูกค้า: การล็อกลูกค้าไว้เป็นระยะเวลาหนึ่งๆ ช่วยให้ธุรกิจเปลี่ยนการเน้นจากการทำธุรกรรมในระยะสั้นไปสู่การสร้างความสัมพันธ์ในระยะยาวได้ ซึ่งจะนําไปสู่การลดค่าใช้จ่ายด้านการตลาดและฐานลูกค้าที่มั่นคงขึ้น
ข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล: การโต้ตอบกับลูกค้าบ่อยจะให้ข้อมูลมากมายเกี่ยวกับความชอบและพฤติกรรมของลูกค้า ข้อมูลนี้เป็นประโยชน์ต่อการปรับการดําเนินงานด้านการตลาด การปรับปรุงผลิตภัณฑ์ และการปรับแต่งประสบการณ์ของผู้ใช้ ในความเป็นจริง การศึกษาแสดงให้เห็นว่าองค์กรที่สร้างข้อมูลเชิงลึกจากข้อมูลลูกค้าจะมีประสิทธิภาพเหนือกว่าองค์กรอื่นๆ ในกลุ่มเดียวกันในด้านการเติบโตของยอดขายสูงถึง 85%
ความสามารถในการปรับขนาด โมเดลการชําระเงินตามรอบบิลสามารถปรับขนาดได้ง่ายดายกว่าโมเดลธุรกิจแบบเดิมๆ เมื่อฐานผู้ใช้บริการเติบโตขึ้น โครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับลูกค้ามากขึ้นก็มักจะเติบโตแบบเป็นเส้นตรงมากขึ้น จึงลดความจำเป็นในการใช้จ่ายเงินทุนจำนวนมาก
มูลค่าตลอดอายุการใช้งานของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น: ด้วยโอกาสในการขายซ้ำๆ ให้กับลูกค้ารายเดียวกัน มูลค่าตลอดอายุการใช้งานของลูกค้าในโมเดลการชำระเงินตามรอบบิลจึงสูงกว่ามูลค่าของธุรกรรมแบบครั้งเดียวมาก
ความยืดหยุ่นในการให้บริการ: การชําระเงินตามรอบบิลช่วยให้สามารถทดสอบและพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ๆ โดยรับความคิดเห็นจากลูกค้าได้ทันที ความคล่องตัวนี้ช่วยให้ธุรกิจปรับตัวและพัฒนาได้ โดยไม่ต้องปรับปรุงครั้งใหญ่หรือลงทุนจํานวนมาก
โอกาสในการขายต่อเนื่อง: การศึกษาแสดงให้เห็นว่า ลูกค้า 71% คาดหวังว่าธุรกิจจะทำการสื่อสารแบบเฉพาะบุคคล โดยอาจหมายถึงการเสนอโปรโมชันที่กำหนดเป้าหมายหรือคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหมายความว่าผู้สมัครใช้บริการที่มีความสัมพันธ์ระยะยาวจะยอมรับการอัปเกรดและส่วนเสริมเพิ่มเติมมากขึ้น ส่งผลให้รายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
การสร้างชุมชน: นอกจากการสมัครใช้บริการแต่ละรายการแล้ว ธุรกิจต่างๆ ยังอาจสร้างชุมชนเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการที่จําหน่าย ซึ่งจะนําไปสู่ความภักดีต่อแบรนด์ที่มากขึ้นและสภาพแวดล้อมที่ยั่งยืนในตัวเองที่จะมอบความคิดเห็นอันมีคุณค่าและกระตุ้นการเติบโตตามธรรมชาติผ่านการบอกต่อ
การลดความไม่แน่นอน: การลงทุนในการชําระเงินตามรอบบิลจะช่วยลดความไม่แน่นอนในอุปสงค์และช่วยให้มีการจัดการสินค้าคงคลัง การว่าจ้าง และการวางแผนทรัพยากรที่ดีขึ้น
วิธีเลือกโมเดลธุรกิจแบบชําระเงินตามรอบบิลที่เหมาะสม
โมเดลธุรกิจแบบชําระเงินตามรอบบิลได้กลายเป็นรูปแบบหลักในตลาดส่วนใหญ่ เพราะความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับอุตสาหกรรมต่างๆ และความต้องการของลูกค้า ความยืดหยุ่นของเทคโนโลยีการชำระเงิน ผนวกกับพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไป ทำให้มีกลยุทธ์การชำระเงินตามรอบบิลที่มีประสิทธิภาพสำหรับธุรกิจต่างๆ มากมายกว่าแต่ก่อน
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าทุกโมเดลจะเหมาะสําหรับธุรกิจทุกราย แต่ละประเภทจะปรับให้เข้ากับความต้องการเฉพาะของตลาดและความชอบของลูกค้า รวมทั้งสร้างรายรับตามแบบแผนล่วงหน้าและรากฐานที่มั่นคงสำหรับการเติบโต ด้านล่างนี้เป็นกระบวนการในการค้นหาว่าโมเดลใดเหมาะสมที่สุดสําหรับธุรกิจของคุณ:
ประเมินผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ: ตรวจดูผลิตภัณฑ์ที่คุณนําเสนออย่างใกล้ชิด เป็นผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้ซึ่งผู้คนต้องการเป็นประจํา เช่น เครื่องใช้ในห้องน้ําหรืออาหารใช่หรือไม่ หรือเป็นบริการที่มอบคุณค่าอย่างต่อเนื่อง เช่น ซอฟต์แวร์หรือความบันเทิงใช่หรือไม่ ลักษณะผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณมักจะช่วยบ่งชี้ประเภทโมเดลการชําระเงินตามรอบบิลที่สามารถทํางานได้ดีที่สุด
ทําความเข้าใจลูกค้า พวกเขาเป็นใครและให้คุณค่ากับอะไร พวกเขาต้องการความสะดวก อภิสิทธิ์ หรือความยืดหยุ่น ยิ่งรู้จักลูกค้ามากเท่าไหร่ คุณก็ปรับแต่งโมเดลการชำระเงินตามรอบบิลให้เหมาะกับพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้นเท่านั้น
วิเคราะห์ตลาดของคุณ: คู่แข่งของคุณทําอะไรและแนวโน้มของตลาดคืออะไร ตลาดที่มีความอิ่มตัวอาจต้องการรูปแบบการชำระเงินตามรอบบิลที่โดดเด่น ขณะที่ตลาดที่มีการแข่งขันน้อยกว่าอาจทำให้คุณมีพื้นที่ในการทดลองใช้รูปแบบอื่นๆ มากขึ้น
โมเดลทางการเงิน: จับคู่โครงสร้างการชําระเงินตามรอบบิลแบบต่างๆ และคาดการณ์ผลลัพธ์ทางการเงินของการชําระเงินตามรอบบิล พิจารณาจุดราคา ต้นทุนสินค้าที่ขาย ต้นทุนการได้มาซึ่งลูกค้า และมูลค่าตลอดอายุการใช้งานของลูกค้า วิธีนี้จะช่วยให้คุณได้เรียนรู้เกี่ยวกับความยั่งยืนทางการเงินของแต่ละโมเดล
ทดสอบและเรียนรู้: ก่อนเปิดตัวโมเดลการชําระเงินตามรอบบิลอย่างสมบูรณ์ ให้ทําการทดสอบนําร่องก่อน นําการชําระเงินตามรอบบิลของคุณไปใช้กับลูกค้ากลุ่มเล็กๆ แล้วรวบรวมความคิดเห็น ช่วงการทดสอบนี้อาจเผยให้เห็นความท้าทายในการปฏิบัติงานและความต้องการของลูกค้า
ความสามารถในการปรับขนาดและลอจิสติกส์: การดําเนินงานปัจจุบันของคุณรองรับโมเดลการชําระเงินตามรอบบิลได้หรือไม่ หากเป็นการสมัครรับกล่องสินค้า คุณมีวิธีที่จะจัดการบรรจุภัณฑ์และจัดส่งผลิตภัณฑ์เป็นประจําหรือไม่ กระบวนการด้านลอจิสติกส์ของโมเดลธุรกิจจะต้องสามารถขยายไปพร้อมๆ กับฐานลูกค้าได้
การปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับ: การชําระเงินตามรอบบิลมักจะอยู่ภายใต้ข้อบังคับเฉพาะเจาะจง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการคุ้มครองข้อมูลลูกค้าและนโยบายการต่ออายุอัตโนมัติ ตรวจสอบว่าโมเดลของคุณปฏิบัติตามกฎหมายทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง
โครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี: คุณมีเทคโนโลยีที่เหมาะสมซึ่งจะรองรับโมเดลการชําระเงินตามรอบบิลหรือไม่ โดยอาจรวมถึงระบบการจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า การเรียกเก็บเงิน และการประมวลผลการชําระเงิน และเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล
การสนับสนุนลูกค้า: ผู้สมัครใช้บริการคาดหวังถึงบริการในระดับที่สูงขึ้น คุณต้องมีระบบสนับสนุนลูกค้าที่มีความสามารในการจัดการข้อสอบถาม การเปลี่ยนแปลงรายละเอียดการชําระเงินตามรอบบิล และการแก้ไขปัญหาต่างๆ
วงจรคําติชม: เมื่อโมเดลการชําระเงินตามรอบบิลของคุณพร้อมใช้งานแล้ว ให้สร้างวงจรคําติชมเพื่อการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง รวบรวมและวิเคราะห์ความคิดเห็นของลูกค้า แล้วตรวจสอบตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพที่สําคัญเพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์ของคุณ
วางแผนเพื่อการพัฒนา: ตลาดจะเปลี่ยนแปลงและโมเดลการชําระเงินตามรอบบิลของคุณก็ควรยืดหยุ่นพอที่จะปรับตัวได้ คอยติดตามความต้องการของลูกค้า และพร้อมที่จะพัฒนาโมเดลของคุณไปพร้อมๆ กับการเปลี่ยนแปลงที่จําเป็น
การเลือกโมเดลการชําระเงินตามรอบบิลที่เหมาะสมไม่ใช่แค่การเลือกเพียงครั้งเดียว เนื่องจากธุรกิจของคุณมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นจึงควรที่จะทบทวนโมเดลธุรกิจของคุณเป็นประจําเพื่อให้มั่นใจว่าจะยังคงเหมาะสมอยู่ ขั้นตอนนี้เกี่ยวข้องกับการรักษาสมดุลระหว่างสิ่งที่ได้ผลและสิ่งที่น่าจะได้ผลดีกว่า ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์รวบรวมคําติชมจากลูกค้า และปรับตามแนวโน้มของอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง เมื่อใช้โมเดลการชําระเงินตามรอบบิลที่เหมาะสม ธุรกิจต่างๆ จะสามารถสร้างรากฐานที่มั่นคงสําหรับการเติบโตและฐานลูกค้าที่ภักดีซึ่งพร้อมที่จะมีส่วนร่วมในระยะยาว
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ